โครทิส เวเดโน่ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทำลายไฟให้มอดโดยการยัดลงในที่เขี่ย หลังลูกน้องคนสนิทก้าวเร็วมาคำนับ รายงานเรื่องที่ไศลาจวนจะถึง
" มาถึงแล้วงั้นเหรอ? "
"อีกสิบนาทีครับนาย"
"พาเธอไปบ้านใหญ่"
"ได้ครับ"
ก่อนเวเดนจะเดินสวนไปขึ้นรถ เพื่อเร่งจัดการปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดความยุ่งเหยิงขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อไศลามาถึงหญิงสาวจะต้องอยู่ลำพัง
ร่างสูงในรถสปอร์ตสีดำสนิท นั่งเอนหลังกับพนักเบาะข้างหลัง ศีรษะแนบพิงไว้ พลางพ่นลมหายใจแรงทุกครั้งยามขยับท่า อันโค่ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ขับรถให้ในค่ำคืนนี้มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ สลับกับท้องถนน เพื่อมองพฤติกรรมของนายตัวเอง แล้วลอบยิ้ม สังเกตุดีๆ ว่านายไม่ได้หลับ
"ติดกับเข้าแล้วสินะครับ"
เวเดโน่หรี่เปลือกตาที่ปิดหวังพักผ่อนเท่านั้นขึ้น พลางพ่นหายใจไล่ความหงุดหงิด
" พูดอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ"
" ผมรู้ ประโยคธรรมดาแบบนี้ นายเข้าใจดีที่สุด"
" งั้นเรอะ แล้วออะไรล่ะวะ "
แล้วกอดอกเปลี่ยนเป็นตะแคงข้าง แสร้งปิดเปลือกตาลงใหม่ ในขณะอันโค่เลิกคิ้วสูง สมน้ำหน้าตัวเองในใจที่อยู่ดีไม่ว่าดี แต่เพราะความอยากรู้ เขาจึงเอ่ยถามตามตรง
" นายรักผู้หญิงคนนั้นแล้วใช่ไหมครับ"
" คนไหน? " ทว่าเขากลับทำเป็นไขสือ
" โธ่... นาย"
" แล้วมันเรื่องอะไรของมึง หยุดเสือกเรื่องกู แล้วดูเรดาร์ดีๆ ไอ้ห่.... ขับชิลล์ไปเถอะ ออกนอกพื้นที่แบบนี้ พ่อมึงได้ยิงระเบิดมาให้ชิม แก้เหงาเล่น..."
ก่อนจะเปลี่ยนจากท่าเอนเป็นดึงสมาร์ทโฟนขึ้นมาแทน เพราะตอนนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มันเรียกร้อง ถือว่าเป็นความโชคดีของอันโค่ ที่ไม่ต้องถูกเจ้านายเอ็ดมาก เขาทำการยักไหล่ ยิงฟันทะเล้น แล้วทำหน้าที่ขับรถต่อไปอย่างเงียบๆ
ด้านของไศลา หลังลงจาก ฮ. ต่อรถมายังที่พัก สามารถเรียกความมึนงงให้เธอได้มากมายเลยทีเดียว เมื่อคราวนี้ยานพาหนะที่มารับเธอ ต้องใช้รถถึงหกคัน และคนทั้งหมดไม่รวมเธอเป็นสิบสอง อีกทั้งทางที่ไป มันต่างกับครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ที่นี่ดูเมืองกว่า ตึกเยอะกว่า ไร้สองข้างทางป่าไม้ แถมยังไม่มีรถสวน หญิงสาวใคร่จะถามคนขับเพราะความอยากรู้ แต่ทว่า ดูท่าเขาจะถูกสั่งให้มาขับรถและดูแลเธอเพียงอย่างเดียว
" จะพาฉันไปไหนคะ? "
"........."
"นี่ไม่ใช่ทางเดิมที่ฉันเคยมานิ"
"........."
" ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือคะ? "
"......."
" โอเคค่า หวังว่าคงไม่พา... ไปตาย ชิ"
เลยทำได้แค่นั่งเฉยๆ มีอุ้มมือน้อยๆ เท่านั้นที่ผสานกันเป็นเพื่อน ก่อนจะกระชับเสื้อโค้ชตัวนอกเข้าหากัน พร้อมดึงขนมือขนสัตว์ขึ้นมาใส่ เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาของหิมะโปรยลงมาพอดี ให้ตายเถอะ ตะกี้ที่เมืองไทยร้อนจะตายชัก! เธอกลอกตาเม้มปากแน่น เตรียมตัวไม่สบายอีกระลอก
" ฟู่ว"
ร่างสูงเดินผ่านดงคนสูทดำนับสิบ ที่ยืนออกันเป็นหย่อม และพร้อมใจกันหันมามองเมื่อเขาเดินทางมาถึง ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพอให้ดูดี บ้างก็โน้มตัวเป็นการทักทาย หากเจอมาเฟียอาวุโสกว่า ก่อนจะขอตัวเข้าไปข้างในเพื่อเสวนากับเจ้าของงาน ถ้าไม่ติดว่าสิ่งที่กำลังทำ มีผลต่อสายงาน หรือสามารถใช้ในการประชุมย่อย วางแผนงานการซื้อขายที่ไม่ต้องนัดหมายกันให้เป็นเป้าสายตาเล่าก็ เขาจะไม่มีทางมาหรอก คนอย่างโครทิส เวเดโน่ ขึ้นชื่อเป็นบุคคลระวังตัวดีเป็นอันดับหนึ่ง หูตาไวยิ่งกว่าเหยี่ยวแล้ว การจะเอาตัวเองมาเสี่ยงกับอะไรแบบนี้ ท่ามกลางเส้นทางตายผ่าแปด เพราะมีศัตรูแฝงอยู่ในงานนับสิบ คงยาก
“มาแล้วงั้นเรอะ”
มาดาม อรัลเบล คลี่ยิ้มหวานทว่ามองยังไงก็เหมือนนางร้ายไปยังทางเดิน หลังลูกน้องคนสนิทวิ่งมากระซิบข้างหู นั่นเป็นสัญญาณให้เธอเตรียมตัว ต้อนรับแขกที่อุตส่าห์ทุ่มทุนเชื้อเชิญมา ยอมรับว่า กว่าจะได้จดหมายแห่งการยินยอมของเขามาได้ ทำเอาหล่อนหัวเสียหลายต่อหลายครั้งกันเลยทีเดียว
เวเดนชะงักฝีเท้าก้าวสม่ำเสมอให้ช้าลงกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อเดินเร็วมาถึงสุดเส้นทางเดิน แล้วต้องหมุนตัวเองเข้าไปยังห้องที่ลูกน้องคนเชิญเปิดรอไว้ให้ เขาถอนหายใจแรง เป็นการบอกตัวเองให้เปลี่ยนบุคคลิกประจำตัว สวมหน้ากากหนาเตอะที่ไม่สามารถมีใครหยั่งรู้เข้ามาถึงเนื้อที่แท้จริงได้ ต่อให้เบื้องหน้าจะเป็นใคร และเหนือกว่าขนาดไหนก็ตาม คนๆ นี้จะต้องยืนหยัดทำในสิ่งที่ตนสมควรจะทำ เท่านั้น!
“สวัสดีครับ มาดามอรัลเบล”
จุ๊บ...
ทว่า ใครจะเข้าใจได้อย่างแวดวงหนึ่งเดียวกัน ว่าการเดินเข้าไปอย่างเทพบุตร ทำราวกับคนตรงหน้าคือเจ้าหญิงที่สวยและสง่าที่สุดในโลก จากนั้นดึงมือขาวซีดนั้นมาอังปลายจมูก จะเป็นแค่การแสดงฉากหนึ่งเพื่อสร้างความประทับใจหวังประจบแค่นั้น
ใช่ อย่างไศลา สาวเอเชีย ที่ในหัวมีแต่วัฒนธรรมโบราณ ถูกสอนมาในรูปแบบอื่น แถมหึงมากเท่าทวีคูณสมดั่งนิสัยแก่นแก้ว ถ้าได้รักใครเข้าจริงเขาสักคน คงรับไม่ได้ต่อสิ่งนี้
และนี่คือเหตุผลหนึ่งเขาจำเป็นต้องนำเธอออกห่าง ไปอยู่ในไกลๆ ทว่าปลอดภัยที่สุด เพื่อไม่ให้เห็นอะไรทำนองนี้ จนกว่าถึงเวลาที่เธอควรจะได้หรือมีสิทธิได้ เขาจะเป็นคนประเคนให้เธอเอง มาดามอรัลเบลยิ้มเคอะเขิน ก่อนจะสลัดมือเป็นสัญญาณให้ลูกน้องทั้งหมดของเธอออกไป พลางปิดประตูล็อคอย่างแน่นหนาให้ด้วย หากมีใครคนใดคนนึงหลุดลอดเข้ามาในห้องนี้ได้ กระทั่งทำหล่อนให้กลายเป็นข่าว ความซวยเหล่านั้นจะตกเป็นของพวกเขาทันที นั่นหมายความว่าเวเดนจะไม่ทางออกไปได้ ถ้าหล่อนไม่อนุญาต
“วันนี้ไม่สายเหมือนวันก่อน”
ริมฝีปากมันวาวแต่งเติมด้วยสีแดงกลีบกุหลาบคลี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นแก้วไวน์สีเดียวกันในมือหล่อนไปให้ เวเดนก้มหน้าแทนคำขอบคุณ ในขณะดวงตาเต็มไปด้วยเสน่ห์ยังคงจ้องมองอยู่ การเสแสร้งของเขา ทำเอาดามตัณหากลับอย่างหล่อนกระชุ่มกระชวยเร้าใจ ก่อนจะชนแก้ว แล้วคล้องแขนผลัดกันดื่ม นั่นคือวัฒธรรมอันล้ำค่าในกลุ่มมาเฟีย ที่แสดงให้รู้ถึงความจริงใจ หากบริสุทธิ์จริง เขาจะต้องกล้าดื่มแก้วคนอื่นได้
เกร๊ง!
จากนั้นจึงเริ่มเปิดประเด็น นำเรื่องงานมาคุย ระหว่างรอให้แอลกอฮอล์ในแก้มสำแดงฤทธิ์
“เรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว”
“พวกเรากำลังรอช่วงเวลาลงมือ คาดว่าคงไม่นาน”
“ฉันยังสามารถเชื่อใจอัลฟาได้ใช่ไหม”
“ได้สิครับ”
“ร้อยเปอร์เซ็น”
หล่อนเลิกคิ้ว เวเดนยิ้มกว้าง ชนิดที่ว่าน้ำผึ้งก็ยังหวานสู้ไม่ได้
“มากกว่านั้นก็ได้ “ก่อนจะดึงมือหล่อนไปจับ และนวดมันเบาๆ “สำหรับมาดาม ข้ามผ่านคำนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ”
จับเพียงปลายนิ้วยกขึ้นมาครึ่งทาง อีกครึ่งทางใช้ริมฝีปากตัวเองไปจรด
“เวเดน....คนปากหวาน”
นั่นทำมาดามอรัลเบลถึงขั้นคลั่ง กลบเกลื่อนอาการเขินนั้น กับการผลักอก หล่อนหลงรักเวเดนตั้งแต่สมัยเรียน แต่ด้วยความต่ำต้อยกว่า ที่ทำให้ต้องห่างเหิน ไม่สามารถเข้าถึงได้
แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกับคนที่เขาเคยรัก ทว่านั้นยังไร้ประโยชน์ หล่อนจึงจำเป็นต้องแต่งงานกับมาเฟียรุ่นแก่คราวพ่ออย่าง โคโรธี ทอน ที่เพิ่งตายไปมาดๆ เพื่อถีบตัวเองขึ้นสูงมาเจอเขา นับว่าเป็นโอกาสของหล่อนมากึ่งหนึ่ง ที่ก่อนหน้านั้นหลายปี แฟนของเขาเพื่อนของเธอได้จากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง ร้ายแรงถึงขั้นคนมีเงินมหาศาลอย่างเวเดนยังช่วยอะไรไม่ได้ กับอีกกึ่งมาต่อกันราวกับเสร็จสมบูรณ์ คือ...ผ่านมาไม่นานนัก สามีแก่ของเธอตายตามไปด้วย และนั่นทำให้หล่อนมีอำนาจมากขึ้น แม้ไม่มากเท่ากับฝ่ายชาย แต่ด้วยสมบัติเงินตรา ที่ได้มาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งสะสมไว้โดยจำนวนมากพอที่จะสร้างฐานทัพได้ทั้งฐาน เป้าหมายตอนนี้ของอัลฟา จึงตกมาอยู่ที่หล่อนคนเดียว โดยใช้โครทิส เวเนโน่ เป็นหมากเดินเกม
ความฉลาดแกมโกง คงเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา และกลุ่มอื่นที่รู้จัก ทว่า แผนนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้เลย ถ้ามาดามอรัลเบลไม่ยอมโง่ตรมให้พวกเขานั้นหลอกด้วย!
ต่อให้ต้องสูญเสีย หรือวันนึงพ่ายแพ้สมดั่งคำที่ว่า ผู้หญิงไร้ศักยภาพในการปกครองไพร่พล เมื่อมีรัก แต่เพียงได้อยู่ใกล้ โครทิส เวเดโน่ แค่นั้น ..หล่อนก็ยินยอม
ดังนั้น การที่ไศลาจะไปอยู่ที่ที่สมควรอยู่ เพื่อรอวันพร้อม จะไม่ห่างไปจากเขา และปลอดภัยจนกว่าจะได้อยู่ด้วยกันจริงๆ นั่นเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจถูกต้องแล้ว
" นี่ฉันต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมดใช่ไหม "
ไศลาพึมพำราวกับถามตัวเอง พร้อมทำหน้าหน่าย หลังลงจากรถตัวเปล่า ส่วนกระเป๋าถูกยกไปให้ เมื่อมาถึง เธอแหงนมองตั้งแต่พื้น ยันที่สูงที่สุด ซึ่งกว่าจะกวาดไปทั่วนั้น เล่นเอาเวียนหัวกันเลยทีเดียว ก่อนจะส่ายหน้า ยอมเดินเข้าไปแต่โดยดี เพราะคิดว่าที่นี่คงไม่แตกต่างกับบ้านสวนในป่า เหมือนที่เธอมาครั้งแรกสักเท่าไหร่ แต่แล้ว... เสียงหนึ่งกลับทำเธอสะดุ้งโหยง เร่งหันขวับไปมอง ตามสัญชาตญาณ
" มาแล้วหรือ? "
ผู้หญิงวัยกลางคน ร่างท้วมแต่ดูดี ถ้าให้เดาคาดว่าน่าจะรุ่นแม่ เดินจากห้องข้างในออกมาหาเธอ พร้อมสาวใช้อีกคนตามหลัง
" สวัสดีค่ะ "
ไศลายกมือไหว้ สีหน้าบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอทำตัวไม่ถูก หล่อนยิ้มละมุน แต่สำหรับไศลา มันเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุด
" ฉันเพอรอสแม่บ้านและแม่นมของคุณเวเดโน่ "
ก่อนจะแนะนำตัว กับประโยคกลางๆ ที่ทำคนฟังน้ำลายแทบพุ่ง
" ปุ!! " ดีหน่อยที่เธอปิดปากก้มหน้าเอาไว้ทัน ไม่งั้นมีซวย " แม่นม? โตขนาดนั้น ยังมีแม่นมกับเขาอีกเหรอ " ก่อนพึมพำประโยคภาษาไทยที่คนตรงหน้าฟังไม่ออก
" เธอว่าอะไร? "
" อ้อ! เปล่าค่ะ งั้นฉัน...จะแนะนำตัวบ้างนะคะ ^^ "
" เชิญ "
" ฉันชื่อไศลาค่ะ เป็น...เอ่อ...เป็นอะไรไม่รู้ของคุณโครทิส "
เธอกลอกตาบนไปมา ก่อนจะยิ้มตาหยี หลังนึกไม่ออก
แต่แล้ว...
ท่าทางทะเล้นนั้นของเธอเหมือนไปขัดใจอะไรบางอย่างของหล่อนเข้า แม่บ้านเพอรอสจึงเปลี่ยนสีหน้าจากเดิมทันที หล่อนหุบยิ้มทันควัน จ้องมองไศลาเขม็ง
" ก็ถ้าถูกส่งมาแบบนี้ คงไม่ใช่คนใช้เหมือนนังพวกนั้นหรอก ตำแหน่งตัวเองน่ะ ช่วยรู้ให้ชัดเจนด้วย จะได้ไม่บกพร่องต่อหน้าที่ "
" อ่าว...."
" มา ตามมา ฉันจะพาไปดูห้องนอนของเธอ "
ทว่า คนอย่างเธอ หาได้เกรงกลัวไม่ ในขณะเท้าย่างตาม ปากยังจะถามต่อ
" ค่ะ งั้นหมายความว่าที่นี่จะมีตำแหน่งเหมือนฉันมาอีกหลายคนหรือคะ "
ปึก!
ซึ่งนั่นทำให้หน้าขมำชนแผ่นหลังของพอลรอสเต็มๆ แม่บ้านหันช้ามามองหน้า จ้องเธอเขม็งกว่าเก่า ถ้าเปรียบให้เหมือนครูภาษาไทย ตอนนี้คงกำลังเขย่าขาแว่น จนลูกปัดคล้องหูกระเพื่อมอยู่ นี่เธอผิดอะไรอีกล่ะ! ไศลาบีบตัวรีบ เตรียมฟัง
" ถามไม่คิด ที่นี่น่ะคฤหาสน์ใหญ่ เป็นถึงบ้านเก่าของคุณพ่อคุณแม่เขา จะเอาผู้หญิงสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามาได้ยังไงกันล่ะ "
" อ่อ.... "
ไศลาพยักหน้า ก่อนจะยกนิ้วชี้เป็นท่าประกอบในการพูด ทว่า ไม่ทันได้พูดจบกลับต้องค้างไว้กลางคัน
" แต่หนูก็เป็นผู้หญิงจำพวก...นั้น นะ คะ "
เพราะถูกหล่อนคำลามใส่ แล้วจึงพยักหน้าอีกรอบ พร้อมหัวคิ้วลดหย่อนลง สีหน้าละห้อย ทำทีสำรวม จนกระทั่งหล่อนพาเดินต่อ และไม่นานก็มาถึง
" พักห้องนี้ไปก่อนนะ ไว้คุณเวเดนเขากลับมา ค่อยย้ายไปนอนด้วยกัน "
แล้วหันมาบอกเธอ ในขณะหญิงสาวเองก็เร่งสวน ทำคนแก่ต้องนิ่วหน้า
" ไม่ย้ายไม่ได้หรือคะ?! "
" เอ๊ะ! ทำไมต้องตะโกนเล่า "
และแน่นอน เธอโดนเอ็ดอีกรอบ ทว่า กลับไร้ความรู้สึก ยังคิดจะพูดต่อ พร้อมดวงตาที่ถ่างโตเหมือนกำลังกังวลขึ้นกว่าเดิม เพอรอสจึงปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติทันที หลังเห็นท่าทางไร้เดียงสาของเธอ ที่มันช่างแตกต่างกับหญิงสาวคนอื่น หล่อนถอนหายใจรัว ส่ายหน้าเอือมระอา เพราะแบบนี้สินะ โครทิส เวเดโน่ คนที่หล่อนเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวแดงๆ ถึงได้หลงใหล เธอไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น บุคลิกที่เผยออกมา นั้นบ่งบอกถึงความจริงใจ
ใช่ หญิงสาวเอเชียคนนี้ ต้องการที่พึ่ง และเขาก็ฉลาดเป็นกรด ที่เลือกส่งเธอมาให้แม่นมอย่างหล่อนดูแลที่นี่่
" เอาล่ะ มันดึกแล้ว หากเธอต้องการจะพูดให้กรามค้าง คงต้องเป็นพรุ่งนี้แล้วล่ะ หวังว่าเธอจะรอได้ "
หล่อนเอ่ยโทนเสียงเรียบ เตรียมผงะออกมา อย่างมารดาผู้แสนดี ทว่าต้องมาถอนหายใจรัวอีกหลายๆ รอบ เพราะเสียงนี้ ที่ช่างใสกังวานเสียจนน่ารำคาญ
" เดี๋ยวค่ะป้า! "
" ฉันไม่ใช่ป้าเธอ "
ก่อนจะหันไปเอ็ด พร้อมตะลึงตาใส่
" มีอะไรอีก "
" เอ่อ...ละ แล้วคุณโครทิสละจ้ะ ไม่อยู่หรือ? "
เธอยิ้มเจื่อน ถูกมือกันไปมา แน่นอน กริยาท่าทางนั้น ทำคนแก่อย่างเพอรอสเอ็นดูอีกเท่าทวีคูณเลยทีเดียว แต่กลับต้องแสร้งทำหน้าขรึม เพื่อให้คำตอบ
" เรื่องส่วนตัวของเขา ฉันไม่รู้หรอก ไว้เขามา ถามเอาก็แล้วกัน "
แล้วจึงเดินออกมาจริงๆ โดยไม่วายจะแอบลอบยิ้ม นับแต่นี้ บั้นปลายชีวิตของหล่อน ดูท่าจะไม่สงบแล้วสิ ไม่รู้จะกระชุ่มกระชวย เพราะเห็นเจ้านายแสนรักอารมณ์ดีทั้งวัน หรือเป็นบ้าเพราะต้องคอยตอบคำถามเมียเจ้านายแทน
ในดินแดนที่ร้อนระอุและมืดมิด ราวกับเป็นห้องแคบที่ค่อยกันกินลมหายใจ เขาเห็นผู้ชายสองคนกำลังปีนกำแพง ข้ามจากฝั่งมาอีกฝั่ง เสมือนหนีอะไรบางอย่าง หนึ่งในสองนั้นคือเขา ผู้ซึ่งกำลังมองดูอยู่ ในความรู้สึก ช่างตื่นเต้น แสนระทึกใจ ผู้ชายที่ว่าโยนตัวเองลงมาก่อน แม้นบนกำแพงนั้นจะเต็มไปด้วยกับดักที่พร้อมจะทำลายร่างตลอดเวลา ทว่าเขาหามีความเกรงกลัวไม่ ในขณะที่มีเส้นทางรอดกว่านี้ หลังเท้าเหยียบสู่พื้น ถ้าไม่หันกลับมาช่วยใครอีกคน ซึ่งยังติดอยู่บนกำแพง ' ส่งมือมาไอ้หนู'มือหนาเต็มไปด้วยเลือดแห้ง เลือดสด บาดแผลฉกรรจ์นับสิบแผลยื่นขึ้นเหนือหัว เด็กผู้ชายในความทรงจำเขา มองลงมาด้วยสายตาซาบซึ้ง ก่อนจะเม้มปาก ราวกับเก็บอาการอ่อนแอของความรู้สึก ที่กำลังจะกลั่นออกมาเป็นก้อนน้ำตา' พี่จะช่วยผมหรือครับ ' เขาเอ่ยถามเสียงสั่น' เออใช่ มึงยัดมาให้กู จนกูต้องติดร่างแหไปด้วย คงไม่สมควรจะช่วยมึง 'ส่วนเขาเองก็กัดฟันตะเพิดกลับไปไม่แพ้กัน กระนั้นก็ยังยื่นมือค้างเอาไว้' แต่กูทำไม่ได้หรอกโว้ย ส่งมือมา! เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดหรอก '' พี่เป็นใครกันแน่ ''ไว้ให้พ่อมึงมาตอบล่ะกัน 'หมับเขาพูดติดตลกในคำทิ้งท้าย ก่อนใช้จังหวะ
โครทิส เวเดโน่ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทำลายไฟให้มอดโดยการยัดลงในที่เขี่ย หลังลูกน้องคนสนิทก้าวเร็วมาคำนับ รายงานเรื่องที่ไศลาจวนจะถึง" มาถึงแล้วงั้นเหรอ? ""อีกสิบนาทีครับนาย""พาเธอไปบ้านใหญ่""ได้ครับ"ก่อนเวเดนจะเดินสวนไปขึ้นรถ เพื่อเร่งจัดการปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดความยุ่งเหยิงขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อไศลามาถึงหญิงสาวจะต้องอยู่ลำพังร่างสูงในรถสปอร์ตสีดำสนิท นั่งเอนหลังกับพนักเบาะข้างหลัง ศีรษะแนบพิงไว้ พลางพ่นลมหายใจแรงทุกครั้งยามขยับท่า อันโค่ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ขับรถให้ในค่ำคืนนี้มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ สลับกับท้องถนน เพื่อมองพฤติกรรมของนายตัวเอง แล้วลอบยิ้ม สังเกตุดีๆ ว่านายไม่ได้หลับ"ติดกับเข้าแล้วสินะครับ"เวเดโน่หรี่เปลือกตาที่ปิดหวังพักผ่อนเท่านั้นขึ้น พลางพ่นหายใจไล่ความหงุดหงิด" พูดอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ"" ผมรู้ ประโยคธรรมดาแบบนี้ นายเข้าใจดีที่สุด"" งั้นเรอะ แล้วออะไรล่ะวะ "แล้วกอดอกเปลี่ยนเป็นตะแคงข้าง แสร้งปิดเปลือกตาลงใหม่ ในขณะอันโค่เลิกคิ้วสูง สมน้ำหน้าตัวเองในใจที่อยู่ดีไม่ว่าดี แต่เพราะความอยากรู้ เขาจึงเอ่ยถามตามตรง" นายรักผู
ประเทศไทยหลังไศลาเหยียบลงพื้น สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับเธอคือรอยยิ้ม หญิงสาวลืมเรื่องราวทั้งหมด ราวกับไม่เคยอยู่ในความทรงจำมาก่อน เมื่อลงจากเครื่อง ร่างบางจึงเร่งเดินทางกลับบ้าน โดยการนั่งรถแท็กซี่ เพราะโทรหาน้องชายกับแม่ไม่ติด วันนี้แหละ เธอจะเค้นถามให้หมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่แล้ว...เมื่อถึง แล้วลงจากแท็กซี่ จูงกระเป๋าลากจนเกือบจะถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่า..“ เห้ย..ไปไหนกันหมดอ่ะ “เธอพึมพำ แต่นั่นก็ไม่วายสาวเท้าต่อ เดินเร็วกว่าเก่า เร่งไปให้ถึง เพื่อจะเขย่าแม่กุญแจที่คล้องอยู่กับประตูรั้ว จากนั้นจึงทำการวางกระเป๋าลากไว้ ล้วงหาโทรศัพท์ลองโทรหาแม่สลับกับน้องชายอีกรอบ ทว่า...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้“ อะไรกันเนี่ย “ดึงลงมาบ่น ก่อนจะเอาไปแนบหูใหม่ ทว่า ก็ยังเหมือนเดิมหมายแรกที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้............หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ................พอ!“ โอ้ย! “ไศลากระทืบเท้าระบายอารมร์หงุดหงิด ก่อนจะยืนเท้าสะเอว หันหน้าไปทางบ้าน คิ้วที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความงงเป็นอย่างดี“ เอาวะ! ” พลางพ่นลมหายใจ เป็นการเตรียมพร้อมที่จะ...ปีน!“
ไศลาทำตามที่เอมิเลียว่า คือการแต่งตัวรอ และเก็บข้าวของที่จำเป็นที่สุด เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกเหนือจากการทำตัวอย่าไม่ให้มีพิรุธ เมื่อถึงเวลา...หล่อนจะโทรมาเอง ประโยคเพียงแค่นั้นก็ทำให้พอจะเดาได้แล้วว่า เอมิเลีย มาดามแห่งตระกูลเรกาโด คงใช้ช่วงเวลาการประชุมนัดพิเศษของเหล่าอัลฟาวันนี้ เปิดช่องทางให้เธอหลบหนี ใจจริงก็รู้สึกผิด ไม่ใช่ไม่ย้อนคิดหรอก หากถูกจับได้ว่างานนี้ คนที่ช่วยเธอคือผู้หญิงที่มีอำนาจใหญ่โต แล้วผลจะเป็นยังไงแต่ทว่า เธอ... การเอาตัวรอด และกลับไปในที่ที่ดีที่สุด มีแต่อิสระ รวมทั้งได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ใครล่ะจะไม่ต้องการ! หากโครทิส เวเดโน่ คือคนที่มีเมตตา รักเธอ และไม่มีความเห็นแก่ตัวจริง ย่อมเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว!ติ๊ด ติ๊ดเสียงข้อความเข้า ไศลาหันขวับ ละสายตาจากสิ่งที่ทำแทบจะตะครุบดู เมื่อเห็นว่าเป็นเอมิเลีย จึงทำการเร่งรีบ รนรานเสียจนมือสั่น เธอเผลอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกไปแต่แล้ว....“นายหญิงคะ “เดซี่กลับยืนถือถาดอยู่ตรงหน้า“.....!!!”“จะไปไหนหรือคะ เดซี่ทำของว่างมาให้ค่ะ”“เอ่อ..ฉัน...”หญิงสาวเกิดการตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เกรงกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่แต่ก่อนการ
ร่างเปลือยนอนหงาย หน้าอกกระเพื่อม บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นแสนจะเหนื่อย ไศลากรอกตาไปมา หลังเสร็จกิจ และเขาคนนั้นออกไปจากตัวเธอแล้ว ความโล่งอกไม่ใช่เป็นการได้ปลดปล่อยธาราในตัวนั่น ทว่า มันคือการที่เธอนั้นผ่านคืนนี้ไปแล้วต่างหากจะทำยังไงต่อไปดี?เธอช้อนตามองร่างใหญ่ที่นอนอยู่เคียงข้าง มีท่อนแขนรองรับศีรษะทุยไว้ ดวงตากล้ำกลอกก่อนจะมีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา จากนั้นจึงกระปริบถี่ หรี่ลงมาเหมือนเดิม จุดที่เห็นมันคือโคมไฟบนเพดานอันหรู เธอไร้คำตอบในตอนนี้ ไม่มีทางออกราวกับสมองตื้อพาลให้มืดมนไปหมด นั้นเป็นสิ่งที่กำลังร้องบอกเธอว่า...นอนเถอะ" เฮ้อ..."หญิงสาวพลิกตัวกลับไปกอดเขา คนที่หลับสนิท พลางใช้แก้มแนบแผงอกแกร่ง ที่เต็มไปด้วยไรขน ในขณะเธอเองก็สับสน' เวเดโน่... คุณกับฉัน เราช่างต่างกัน ชีวิตของฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันรู้..ฉันมาเพื่ออะไร 'ใช่ ในเมื่อรู้คำตอบแล้ว จะอยู่ต่อไปทำไมอีก?☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ฟ้าสาง เวเดนตกใจตื่น พร้อมครึ่งท่อนบนผงกขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา มองหาใครบางคน" ไศลา"ซ่า.. ซ่า...เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำจึงโล่งใจ ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเขาฝันร้าย เช้านี้ใจคอจึงไม่ค่อยดีนัก
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไศลาหลับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที เลยต้องจูลใหม่ทั้งหมด ร่างบางลืมตาตื่น ก่อนเบิกตะลึงเมื่อเห็นว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้ว" ที่นี่มัน..."ริมฝีบางเฉียบขมุบขมิบ ฝ่ามือบางตะปบแก้มเนียนใส ตีแปะๆ สองสามทีจนแดงเป็นรอย ก่อนจะเบิกตากว้างหนักกว่าเดิม แล้วรีบกระโจนลงจากเตียง ไปโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง โชคดีหน่อย ที่เวเดนไม่ได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณนั้น" ฟู่ววว"เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก หลังปิดประตูลงสนิท และคราวนี้ไม่ลืมที่จะล็อคกลอนอย่างแน่นหนาด้วย ก่อนช้อนตามองไปรอบๆ เพื่อดูเวลา" จะหมดวันแล้วหรือนี่ "เธอห่อปากจู๋พร้อมขมวดคิ้ว ดวงตาคมกลอกไปกลอกมาคิดแผนเอาตัวรอด หลังนึกไปถึงดินเนอร์มื้อเย็น เพราะเดี๋ยวเขาต้องโผล่มา ไม่ก็ให้เดซี่มาตาม" ทำไงดี ทำไงดี คิดสิๆ อ่อ! นึกออกแล้ว ต้องป่วยสินะ โอเคตามนั้น "ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวขึ้นบนเตียงทีนที ดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิด นอนตะแคงหันหลังให้ประตู โดยไม่คิดแม้จะเปิดไฟหรือแอร์" จงหลับ จงหลับ หลับต่อสิไศลา ตะกี้ยังง่วงอยู่เลย"และเพราะรู้อยู่เต็มอก ว่ามาเฟียอย่างเขาจะหลอกกันคงไม่ง่าย วิธีหลับจนเพลีย คือวิธีที่ดีที่สุด ตัวมันจะร้อนขึ้นม