“ฉันไม่เคยรักเธอตั้งแต่แรกรีบหย่าแล้วไปซะอย่าให้ฉันต้องส่งเธอไปลงนรก”ผัวสาระเลวที่คิดจะส่งเมียตัวเองไปขายชายแดนเพราะว่าต้องการเพียงแค่ใบหย่า แต่ไม่มีทางที่เธอจะยอมและจะไม่มีวันให้ผู้หญิงหน้าทั้งนั้น
View Moreบทนำ
เสียงครึกโครมของเหล็กกระทบเข้าหากันดังสนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน ดวงตาคู่น้อยหลับตาลงหลังจากที่รู้ว่าเธอนั้นขับรถชนจากนั้นภาพทุกอย่างก็ได้ตัดไป
"คุณครับคุณเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างพากันเข้ามาช่วย เมื่อได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ คนตัวเล็กถูกวางบนเตียงขึ้นรถฉุกเฉินไปที่โรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน
เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมขึ้นสัมผัสถึงความเจ็บปวดและการขยับขาไม่ไหว มือน้อยยกจับศีรษะของตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอนั้นผวาจนสะดุ้งตัวลุกขึ้นจากเตียงพยาบาลพิเศษรีบจับแขนทั้งสองข้างและประคองให้เธอนอนลงตามเดิม
"คนไข้คะอย่าลุกขึ้นเร็วขนาดนี้ คนไข้เพิ่งจะฟื้นอีกอย่างขาของคนไข้กระดูกร้าวยังไม่สามารถลงจากเตียงได้นะคะ" ความฝันที่เธอเจ็บที่ขาไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ขาของเธอถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งยังมีปูนโบกพอกเอาไว้ทั้งสองขา
ใบหน้าน้อยที่มีน้ำตาเต็มๆ เอ่อล้นจนไหลอาบแก้มจ้องมองหน้าของพยาบาลคนที่เธอจับแขนของเขาเขย่า
"คุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้าง ท่านเป็นยังไงบ้างท่านปลอดภัยดีใช่ไหม" ด้วยความกังวลและความห่วงในวันนั้นเธอตั้งใจที่จะพาพ่อของเธอไปหาหมอ แต่ดันเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ขับรถไปได้มีรถคันอื่นมาตัดหน้าทำให้เธอเสียหลักและหักหลบชนเสาไฟ
สายตาของพยาบาลที่จ้องมองหน้าของผ้าแพรสลับมองหน้ากับพยาบาลอีกหนึ่งคน น้ำเสียงติดขัดไม่กล้าที่จะตอบคำถามของคนไข้
"ตอบมาสิเธอเป็นพยาบาลไม่ใช่เหรอ ฉันถามทำไมไม่ตอบคุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้าง"
"พ่อของเธอตายแล้ว" เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหน้าประตูไม่ใช่เสียงของพยาบาลพิเศษทั้งสองคนแต่เป็นเสียงของสามีเธอเดินเข้ามาโดยการแต่งตัวใส่ชุดสีดำไว้อาลัย เธอหันไปเห็นสามีของตัวเองเพราะความหวาดกลัวยิ่งทำให้ผ้าแพรนั้นร้องไห้ มือทั้งสองข้างพยายามยื่นให้สามีตัวเองนั้นโอบกอดแต่เขากลับหยุดนิ่งในมือถือของบางอย่างเหมือนกับของชำร่วยแจกในงานศพ
"เธอเป็นคนฆ่าพ่อเธอเอง" น้ำเสียงเรียบนิ่งดั่งกับคนไร้ความเห็นใจวางของชำร่วยนั้นลงบนตัวของผ้าแพร และก้าวขาถอยหลัง
ดวงตาคู่น้อยจ้องมองไปยังของที่เขาวางไว้ให้เป็นของชำร่วยแจกในงานศพและชื่อที่ปรากฏอยู่บนแผ่นสติ๊กเกอร์นั้นคือชื่อของพ่อเธอ
"กรี๊ด! ฮื่อๆ คุณพ่อ ไม่จริงคุณพ่อ ไม่จริงใช่ไหมขุนเพลิงคุณพ่อของฉันยังไม่ตายใช่ไหม"
เสียงร้องไห้และเอ่ยถามขุนเพลิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ร้องอ้อนวอนถามสามีตัวเองแต่เขานั้นกลับหันหลังให้อย่างไร้เยื่อใย
"คุณ...ฮื่อๆ กลับมาหาฉันก่อน ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ ขอร้องกลับมาหาฉันก่อน ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไป" เมื่อขุนเพลิงนั้นเปิดประตูเตรียมที่จะออก เขาหยุดชะงักกับคำพูดของผ้าแพรอ้างว่าเขานั้นเปลี่ยนไป
"ความเจ็บปวดแบบนี้ เมื่อก่อนฉันก็เคยได้รับเช่นเดียวกัน ฉันวางใบหย่าไว้ที่หัวเตียงหลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลก็เก็บข้าวของแล้วออกไปจากบ้านซะ ส่วนลูกฉันจะดูแลเอง"
หัวใจแทบแตกสลายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นดั่งกับมีดนับร้อยเล่มทิ่มแทงเข้าหัวใจ คนที่รักกันอยู่ดีๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาต้องการให้ฉันหย่าโดยที่ไม่มีเหตุผลบอกสักคำ
"ไม่ขุนเพลิง เราต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ คุณกลับมาคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน กรี๊ด ขุนเพลิงฉันบอกให้คุณกลับมาไม่ได้ยินหรือยังไงว่าฉันอยากให้คุณกลับมา" ผ้าแพรเสียงดังโวยวายร้องตะโกนเรียกให้สามีนั้นกลับมาคุย แต่ขุนเพลิงซึ่งไม่เชื่อในคำสั่งของภรรยาอีกต่อไปได้หันหลังเดินออกมาจากห้องอย่างที่ไม่หันกลับและไม่ฟังเสียงของภรรยาอีก
ผ้าแพรกลืนความเจ็บปวดไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้เผาศพพ่อของตัวเองเพราะหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เธอนั้นได้นอนอยู่ในห้องฉุกเฉินสามคืนด้วยที่ไม่ตื่นขึ้นมาหลังจากผ่าตัดหมอวินิจฉัยว่าเป็นเอฟเฟ็กต์จากยานอนหลับแต่โชคดีที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปหนึ่งเดือน ผ้าแพรได้อยู่โรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครมารับกลับบ้านไม่มีใครมาหาโดยเฉพาะสามี ส่วนลูกสาวตัวเล็กเธอไม่ได้เจอหน้ามาเป็นเดือนในวันนี้ที่หมอถอดเฝือกออกจากขาของเธอและหัดให้เธอพยุงตัวเองเดินจนเริ่มคล่องตัวเหมือนปกติ ผ้าแพรกลับมาที่บ้านโดยรถแท็กซี่
เธอก้าวขาเข้ามาในบ้านทำไมทุกอย่างดูเปลี่ยนไป มันเงียบสงบจนน่ากลัวไม่มีพ่อของเธอแล้วทุกอย่างจะเป็นยังไงต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมีสามีที่แสนดีแต่ในตอนนี้เขานั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนไม่เคยไปดูดำดูดีเธอที่โรงพยาบาลเลยสักวัน
"กลับมาที่นี่อีกทำไม" ก้าวขาเข้ามาในบ้านหยุดชะงักอยู่ตรงโซฟาด้วยที่เสียงทุ้มของสามีตัวเองนั้นเอ่ยถาม เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้แต่เสียงที่เอ่ยถามยังดูเหมือนคนที่รำคาญและไม่อยากคุยด้วย
"ทำไมคุณถึงไม่ไปหาฉันเลย คุณยุ่งเหรอคะหรือว่าที่บริษัทของคุณพ่อมีปัญหาแล้วคุณทานข้าวหรือยัง" ผ้าแพรเลือกที่จะฝืนยิ้มและไม่เอาเรื่องที่ขุนเพลิงไม่ไปดูเธอที่โรงพยาบาลมาเป็นข้ออ้างหรือว่ามาทะเลาะกัน
จากที่เธอเดินตรงไปหาขุนเพลิงที่โซฟาหย่อนก้นเตรียมที่จะนั่งและจับแขนของเขาทันที ขุนเพลิงลุกขึ้นพรวดทำให้ผ้าแพรนั้นล้มลงไปกับพื้นในขณะที่ยังไม่ทันได้ระวังตัวแต่โชคดีที่มือพยุงค้ำไว้ได้ไม่อย่างนั้นหน้าคงกระแทกลงพื้นด้วยความแรง
"อย่ามาแตะต้องตัวฉัน เธอมันสกปรกผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับฉัน" สายตาของเขามองมาที่เธอด้วยความรังเกียจทั้งๆ ที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นเพราะอะไรทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้แม้กระทั่งคำพูดที่คอยอ่อนโยนก็ไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
"ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไป" น้ำเสียงสั่นเอ่ยถามสามีของตัวเองทั้งน้ำตาทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปจนเหมือนคนละคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าสามีของเธอนั้นหายไปไหน
"มามี๊มาแล้วเหรอ" เด็กสาวตัวเล็กอายุเพียงสองขวบเศษวิ่งมาด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าสวยเหมือนฉีกยิ้มหวานโอบกอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง ถ้อยคำพูดของเธอเริ่มชัดเจนทั้งยังมอบความอบอุ่นโดยการโอบกอดคอของผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ตรงพื้นให้ชื่นใจขึ้นมา
"มาแล้วค่ะ มามี๊ของหนูหายแล้วนะลูก มามี๊คิดถึงพะพายมากรู้ไหม" อ้อมกอดของผู้เป็นแม่โอบกอดลูกสาวตัวเล็กไว้ในอกเพียงเวลาแค่ไม่นานไม่ถึงนาที ลูกสาวตัวเล็กถูกอุ้มออกจากอกโดยที่สามีของเธอเป็นคนทำ
"เลิกเสแสร้งแสดงความรักกับลูกต่อหน้าฉันได้แล้ว พะพายไปอยู่กับพี่เลี้ยงบนห้องนะลูกให้พี่เลี้ยงพาทานขนม" เมื่อก่อนนี้ขุนเพลิงชอบให้ผ้าแพรนั้นอุ้มพะพายแต่ทำไมในตอนนี้เขากลับกระชากลูกออกจากอ้อมกอดของเธอ
"คุณเป็นอะไรอะ ขุนเพลิงทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ คุณเป็นอะไรของคุณฉันทำผิดอะไรบอกมาสิ" ผ้าแพรลุกขึ้นจากพื้นด้วยความโกรธที่สามีของเธอกระทำไม่ดีต่อความรู้สึกของเธอ เมื่อสักครู่นี้มือทั้งสองข้างผลักหน้าอกของสามีเพราะความโมโหและอารมณ์ร้อนของผ้าแพร
"อย่ามาทำร้ายฉัน เพราะว่าถ้าฉันโมโห ฉันก็ไม่รับรองความปลอดภัยและชีวิตน้อยๆ ของเธอ" ไม่เพียงแต่คำพูดขู่ที่เป็นน้ำเสียงตะคอกแต่มือหนานั้นยกขึ้นมาบีบคอของผ้าแพรด้วย
"คุณผู้ชายคะใจเย็นๆ" แม่นมที่เลี้ยงผ้าแพรมาตั้งแต่เด็กคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ขอร้องที่เห็นคุณหนูของเธอนั้นเจ็บ
"มีอะไรก็ไปทำอยากออกจากงานตอนแก่หรือยังไง ซูโจเข้ามานี่เอาคุณผู้หญิงไปที ไปที่ห้องที่ฉันให้จัดเตรียมห้องเอาไว้" ซูโจเป็นลูกน้องคนสนิทของขุนเพลิงมาสามปีได้รับคำสั่งจากเจ้านายจึงรีบพุ่งตัวเข้ามาหาผ้าแพรพร้อมทำตามคำสั่ง
"ซูโจนายไม่มีสิทธิ์มาจับตัวฉัน อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก" ซูโจทำตามคำสั่งของขุนเพลิงคนเดียวเท่านั้นทันทีคนตัวเล็กถูกผลักเข้ามาในห้องเก็บของที่ไม่ใช่สำหรับห้องนอนแม่บ้านด้วยซ้ำ ในความมืดและเหม็นกลิ่นอับมันน่ากลัวแต่แล้วทันทีประตูปิดลงผ้าแพรพยายามที่จะทุบและร้องเรียกให้เปิดแต่ก็ไม่สำเร็จ
"ฮื่อๆ ขุนเพลิงทำไมนายถึงใจร้ายกับฉัน" ผ้าแพรเธอไม่รู้เลยว่าเหตุผลอะไรทำไมขุนเพลิงถึงใจร้ายกับตัวเองได้ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าเขาได้ทุกอย่างของคุณพ่อเธอไปหรือว่าเป็นที่ตัวของเธอทำตัวไม่ดีเป็นภรรยาที่ไม่เอาไหน มันเป็นคำถามมากมายสำหรับตัวเธอเองได้เพียงแต่นั่งกอดเข่าคิดหาสาเหตุพร้อมกับความเจ็บปวด
"ฮื่อๆ เปิดประตูเถอะนะฉันกลัวแล้ว" เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่ชั่วโมงเธอกลับถูกทำร้ายจนอ่อนแรงมีแต่มือที่พยายามเอื้อมบิดลูกบิดประตูแต่ไม่สำเร็จ
📌ถูกอกถูกใจหม่ำมี๊กันไหมฝากหม่ำมี๊กดใจเรื่องนี้ให้ไรท์หน่อยนะค้าบ อ้อนๆ ช่วยไรท์ทีงับ
🔥 บอกเลยว่า อิพี่ชั่ว 100% เตรียมทิชชู่รอเลยค่าบ
บทที่ 15หน้าห้องฉุกเฉินหลังจากส่งตัวลูกสาวให้หมอดูอาการและทำการรักษาผ้าแพรและขุนเพลิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผุดลุกผุดนั่งกะวนกะวายเดินวนกันไปมาอยู่แถวนั้นยิ่งผ้าแพรเธอร้องไห้ไม่ยอมหยุดสายตาของผู้เป็นแม่พยายามชะเง้อมองผ่านกระจกบานเล็กอยู่บนหน้าประตู"ฮึ๊ก อย่าเป็นอะไรนะลูกแม่เหลือลูกอยู่แค่คนเดียวแล้วนะ" ผ้าแพรร้องไห้กุมมือเข้าหากันและพูดเพียงคนเดียวว่าเหลือแค่พะพายสิ้นสุดคำพูดขุนเพลิงหันมองหน้าภรรยาแต่ก็หันกลับโดยไม่มีคำปลอบใจเมื่อหมอเปิดประตูออกมาใบหน้าของหมอที่ดูกังวลและเครียดใช้คำพูดติดขัดยังไม่บอกอาการของพะพาย"คุณหมอคะลูกสาวของฉันเป็นยังไงบ้าง" พยายามฝืนด้วยถ้อยคำพูดที่เอ่ยถามน้ำเสียงติดขัดทั้งยังน้ำตาที่ไหลเอ่อล้นบนแก้ม"เด็กอาการแย่ด้วยที่เสียเลือดมากเป็นเวลานานเกร็ดน้ำเกลือต่ำ ถ้าเกิดเราหาเลือดได้ทันเวลาก็จะไม่เป็นอะไรด้วยที่เลือดกำลังมาแต่ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ยินดีที่จะให้เลือดน้องก็ได้ครับทางเราจะได้ไม่ต้องรอ""ฉันค่ะ...ฉันเป็นแม่ของเขาฉันเป็นแม่ของพะพายเอาเลือดของฉันไปเลย" ผ้าแพรยื่นแขนตัวเองให้กับหมอด้วยความกระวนกระวายและหวาดกลัว เธอเอ่ยบอกกับหมอให้เอาเลือดของตัวเองแต่ถูกขุนเพ
บทที่ 14 พรึ่บ เรือนร่างบางนอนอยู่บนโซฟาในขณะที่กำลังละเมออยู่ๆ น้ำเย็นสาดเข้ามาที่หน้าจนเธอสะดุ้ง ผ้าแพรรีบดีดตนเองนั้นลุกขึ้นมองคนตรงหน้าผู้เป็นสามียืนถือแก้วน้ำอยู่"คุณทำอะไรของคุณ" ใบหน้าน้อยขมวดคิ้วเพ่งเล็งไปยังหน้าของสามีตนเอง เมื่อวานนี้ก่อนจะกลับบ้านดันเกิดปัญหาและเขาก็พาตัวของเธอมาที่นี่เพื่อมาเคลียร์งาน"ก็ฉันปลุกให้ตื่น" "นี่คือการปลุกของคุณเหรอ ขุนเพลิงคุณเปลี่ยนไปมากรู้ไหม" การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ถึงแม้ว่าไม่เจ็บแต่เป็นการกระทำที่ย่ำยีหัวใจ การสาดน้ำใส่หน้าในขณะที่หลับมันดูทุเรศจนผ้าแพรนั้นโมโห"ถ้าไม่พอใจก็เซ็นใบหย่าให้กับฉันสิ" ครั้งที่ร้อยเพียงเวลาแค่ไม่กี่วันเขาพูดคำว่าหย่าจนนับไม่ถ้วนในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ท้าผ้าแพรไปหย่าแต่ยังมีเอกสารหย่าที่อยู่หน้าจอคอมนั้นตรงมาที่โซฟาแล้วโยนลงบนโต๊ะให้กับผ้าแพรด้วย"เซ็นซะใบหย่านี้" ปากกาในมือโยนลงมาทับกระดาษทั้งคำพูดในเชิงตะคอกให้รีบเซ็นใบหย่า ผ้าแพรที่มองกระดาษโกรธในการกระทำของขุนเพลิงจากกระดาษใบหย่านั้นชูขึ้นและฉีกต่อหน้าของขุนเพลิงทันที"ไม่ฉันยังไม่พร้อม ฆ่าฉันเลยสิเพราะยังไงฉันก็ไม่หย่า" ใบหน้าสวยที่เงยขึ้นเผชิญกับแววตาของขุน
บทที่ 13 ตัดมาทางด้านของนับดาวหลังจากที่เธอรู้ว่าขุนเพลิงออกไปข้างนอกเพราะว่าไปตามหาผ้าแพรภรรยาของเขา เธอโกรธมากเขวี้ยงข้าวของในห้องจนกระจายลงพื้นมีเพียงแต่แม่บ้านที่เธอเพิ่งรับเข้ามาทำงานพยายามห้ามแต่ก็ถูกตบหน้าด้วยความโมโห"ขุนเพลิง" เธอนั้นดั่งกับคนละคนที่อยู่กับขุนเพลิงอ่อนหวานและแสนดีนั้นหายไปทันที มือทั้งสองข้างที่กำหมัดเข้าหากันจนเนื้อตัวสั่นด้วยความโกรธในแววตาเเดงโดยที่เวลาผ่านไปนานขุนเพลิงยังไม่กลับเข้ามาในบ้าน"คุณนับดาวคะ รถของคุณผู้ชายกลับเข้ามาแล้ว" แม่บ้านคนสนิทของนับดาวรีบวิ่งมาที่หน้าต่างเห็นรถของขุนเพลิงกลับเข้ามาหน้าตาตื่นหันมองไปทางนับดาวและเอ่ยบอกทันที"รีบเก็บข้าวของให้เรียบร้อย" นับดาวเอ่ยสั่งให้กับแม่บ้านที่ตัวเองเพิ่งจะเขวี้ยงข้าวของนั้นเก็บของให้เรียบร้อยส่วนตัวเองรีบวิ่งลงมาจากห้องแม้ในตอนดึกมากเธอก็ยังไม่ยอมนอน นับดาวผิดหวังเมื่อลงมาถึงด้านล่างขุนเพลิงไม่ได้กลับมาที่บ้านทั้งยังผ้าแพรที่ไม่ได้กลับมาด้วยมีเพียงแต่ลูกน้องคนสนิทที่กลับมา"คุณผู้ชายทำไมถึงไม่กลับมา" ซูโจลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงและส่ายหน้าไปมา เขาไม่บอกอะไรกับนับดาวมีเพียงแต่การเดินหลีกทันทีนับ
บทที่ 12 "บอกให้ปล่อย...ฉันบอกให้ปล่อย กล้าดียังไงมาจับฉัน" ยิ่งผ้าแพรสะบัดมือของตัวเองมือที่จับเธอนั้นยิ่งบีบแน่น คนตัวเล็กถูกกระชากออกมาจากโต๊ะนั่งดื่ม"ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วยไม่อื้อ" เตโชที่กล้ามากใช้ยานอนหลับใส่กับผ้าเช็ดหน้าปิดปากให้ผ้าแพรนั้นสลบก่อนที่เขาจะอุ้มเธอออกมาจากสถานบันเทิงแห่งนี้ไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งกับเตโชสักคนปล่อยให้เขาอุ้มผู้หญิงออกไปต่อหน้าต่อตา"มันไม่สนใจเธอแล้วมาเป็นของฉันทุกอย่างก็จบ" เตโชรู้มาว่าเรื่องระหว่างผ้าแพรกับสามีของตัวเองกำลังจะหย่าจึงเข้าหาผ้าแพรอย่างไม่กลัว เขาพาผ้าแพรขับรถออกมาข้างนอกแต่รู้ตัวว่ามีรถประกบทางด้านหลังมาหลายคัน "ผัวเธอคงตามมาสินะ" ในวันนั้นเตโชถูกขุนเพลิงสามีของผ้าแพรนั้นต่อยจนล้มลงไปกับพื้นในวันนี้เขาต้องการเอาคืนเลยขับรถเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ด้วยความเร็วเลี้ยวไปเลี้ยวมาจนรถคันหลังตามมาไม่ทัน เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของผ้าแพรดังขึ้นเรื่อยๆ ช่วงจังหวะที่เตโชนั้นตบไฟยกเลี้ยวเข้าโรงแรมเล็กๆ ในซอยพอดีหลังจากที่โรงแรมปิดผ้าม่านเตโชจึงหยิบกระเป๋านั้นมาดูโทรศัพท์เป็นเบอร์ของขุนเพลิงที่โทรมาหาภรรยาจริงๆเขากดรับสายอย่างไม่กลัว
บทที่ 11 ไม่เพียงแต่ตัวเองที่ไม่ปลอดภัยแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กผู้เป็นลูกถูกกระทำจากผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นหลังจากที่ผ้าแพรรู้ว่าลูกสาวของเธอนั้นถูกหลอกให้ไปเอาของเล่นในน้ำก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากนับดาว "ต่อจากนี้ไปห้ามเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นอีกนะลูก" ผ้าแพรพยายามคิดว่าจะทำยังไงจะให้ลูกสาวของตัวเองปลอดภัยไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนแต่ถ้าจะปล่อยให้อยู่ที่นี่อีกลูกของเธอต้องเป็นอันตรายแน่ๆ "ป๊า" ถ้าแพรไม่รู้ว่าประตูลูกบิดถูกเปิดเข้ามาตอนไหน เธอนั่งอยู่ที่ห้องของตัวเองกับลูกสาวเสียงลูกสาวจึงพูดขึ้นเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อของเขาผ้าแพรจึงหันมองไปที่หน้าประตูเห็นขุนเพลิงยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อผ้าแพรกับลูกสาวรู้ตัวขุนเพลิงเดินเข้ามาด้านในก่อนที่จะปิดประตูห้องเขานั่งลงที่เตียงด้านข้างของลูกสาวลูบหัวของเด็กสาวเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน"ทีหลังอย่าลงไปเก็บของเล่นในน้ำอีกนะลูก รู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหนดีที่พี่ซูโจอยู่ไม่อย่างนั้นหนูจะต้องจมน้ำ ไม่มีใครช่วยหนูได้แม้แต่แม่ของหนูเองยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย" คำพูดประชดของสามีเอ่ยว่าให้ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นสามีที่ห่วยแตก ผ้าแพรเธอได้เพียงแต่เงียบในครั้งนี้เธอเลือกที่จะเห
บทที่ 10 ผ้าแพรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมที่จะพาลูกสาวนั้นไปเที่ยวข้างนอกพาไปโรงเรียนเด็กศูนย์ของประเทศโรงเรียนนานาชาติที่มีแต่ลูกคนรวยคนมีเงินเรียน "คุณผู้หญิงคะ...คุณผู้หญิงคุณหนูหายไปไหนไม่รู้ค่ะ" ผ้าแพรเธอเดินลงมาจากห้องยังไม่ทันก้าวขาไปไหนต้องหยุดชะงักด้วยที่พี่เลี้ยงทั้งสองคนวิ่งหน้าตาตื่นมองซ้ายและขวาตามหาพะพาย ในวินาทีที่เธอได้ยินแบบนั้นหัวใจแทบหยุดเต้นเหมือนฟ้าถล่มลงมาเพราะตั้งแต่พะพายเกิดมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย"เป็นไปได้ยังไงไปตามหาให้เจอเดี๋ยวนี้" ผ้าแพรเอ่ยร้องส่งเสียงตามหาลูกสาวตามบ้านด้วยความเป็นเด็กเขาอาจจะซุกซนอยู่มุมไหนของบ้านสักที่ ทั้งในห้องทำงานของขุนเพลิงตามห้องนั่งเล่นก็ไม่มีเสียงตอบรับของพะพายเลย"นับดาว" เมื่อผ้าแพรเอ่ยชื่อของนับดาวเสียงร้องกรี๊ดดังมาจากสระน้ำกลางบ้านผ้าแพรจึงรีบหมุนตัวก้าวฝีเท้าวิ่งตรงไปที่เสียงร้องนั้น"คุณหนู" ผ้าแพรวิ่งมาที่สระน้ำเธอตกใจที่เห็นลูกตัวเองอยู่ในน้ำกำลังสำลักน้ำซูโจกระโดดลงไปช่วยเอาไว้ได้และรีบพาตัวของพะพายนั้นขึ้นมาด้านบน ผู้เป็นแม่หัวใจแทบแตกสลายเห็นลูกสาวตัวเล็กนั้นจมน้ำมือทั้งสองข้างโอบกอดลูกลูบหัวเบาๆ"เป็นอะไรหรือ
Comments