“ฉันไม่เคยรักเธอตั้งแต่แรกรีบหย่าแล้วไปซะอย่าให้ฉันต้องส่งเธอไปลงนรก”ผัวสาระเลวที่คิดจะส่งเมียตัวเองไปขายชายแดนเพราะว่าต้องการเพียงแค่ใบหย่า แต่ไม่มีทางที่เธอจะยอมและจะไม่มีวันให้ผู้หญิงหน้าทั้งนั้น
View Moreบทนำ
เสียงครึกโครมของเหล็กกระทบเข้าหากันดังสนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน ดวงตาคู่น้อยหลับตาลงหลังจากที่รู้ว่าเธอนั้นขับรถชนจากนั้นภาพทุกอย่างก็ได้ตัดไป
"คุณครับคุณเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างพากันเข้ามาช่วย เมื่อได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ คนตัวเล็กถูกวางบนเตียงขึ้นรถฉุกเฉินไปที่โรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน
เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมขึ้นสัมผัสถึงความเจ็บปวดและการขยับขาไม่ไหว มือน้อยยกจับศีรษะของตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอนั้นผวาจนสะดุ้งตัวลุกขึ้นจากเตียงพยาบาลพิเศษรีบจับแขนทั้งสองข้างและประคองให้เธอนอนลงตามเดิม
"คนไข้คะอย่าลุกขึ้นเร็วขนาดนี้ คนไข้เพิ่งจะฟื้นอีกอย่างขาของคนไข้กระดูกร้าวยังไม่สามารถลงจากเตียงได้นะคะ" ความฝันที่เธอเจ็บที่ขาไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ขาของเธอถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งยังมีปูนโบกพอกเอาไว้ทั้งสองขา
ใบหน้าน้อยที่มีน้ำตาเต็มๆ เอ่อล้นจนไหลอาบแก้มจ้องมองหน้าของพยาบาลคนที่เธอจับแขนของเขาเขย่า
"คุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้าง ท่านเป็นยังไงบ้างท่านปลอดภัยดีใช่ไหม" ด้วยความกังวลและความห่วงในวันนั้นเธอตั้งใจที่จะพาพ่อของเธอไปหาหมอ แต่ดันเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ขับรถไปได้มีรถคันอื่นมาตัดหน้าทำให้เธอเสียหลักและหักหลบชนเสาไฟ
สายตาของพยาบาลที่จ้องมองหน้าของผ้าแพรสลับมองหน้ากับพยาบาลอีกหนึ่งคน น้ำเสียงติดขัดไม่กล้าที่จะตอบคำถามของคนไข้
"ตอบมาสิเธอเป็นพยาบาลไม่ใช่เหรอ ฉันถามทำไมไม่ตอบคุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้าง"
"พ่อของเธอตายแล้ว" เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหน้าประตูไม่ใช่เสียงของพยาบาลพิเศษทั้งสองคนแต่เป็นเสียงของสามีเธอเดินเข้ามาโดยการแต่งตัวใส่ชุดสีดำไว้อาลัย เธอหันไปเห็นสามีของตัวเองเพราะความหวาดกลัวยิ่งทำให้ผ้าแพรนั้นร้องไห้ มือทั้งสองข้างพยายามยื่นให้สามีตัวเองนั้นโอบกอดแต่เขากลับหยุดนิ่งในมือถือของบางอย่างเหมือนกับของชำร่วยแจกในงานศพ
"เธอเป็นคนฆ่าพ่อเธอเอง" น้ำเสียงเรียบนิ่งดั่งกับคนไร้ความเห็นใจวางของชำร่วยนั้นลงบนตัวของผ้าแพร และก้าวขาถอยหลัง
ดวงตาคู่น้อยจ้องมองไปยังของที่เขาวางไว้ให้เป็นของชำร่วยแจกในงานศพและชื่อที่ปรากฏอยู่บนแผ่นสติ๊กเกอร์นั้นคือชื่อของพ่อเธอ
"กรี๊ด! ฮื่อๆ คุณพ่อ ไม่จริงคุณพ่อ ไม่จริงใช่ไหมขุนเพลิงคุณพ่อของฉันยังไม่ตายใช่ไหม"
เสียงร้องไห้และเอ่ยถามขุนเพลิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ร้องอ้อนวอนถามสามีตัวเองแต่เขานั้นกลับหันหลังให้อย่างไร้เยื่อใย
"คุณ...ฮื่อๆ กลับมาหาฉันก่อน ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ ขอร้องกลับมาหาฉันก่อน ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไป" เมื่อขุนเพลิงนั้นเปิดประตูเตรียมที่จะออก เขาหยุดชะงักกับคำพูดของผ้าแพรอ้างว่าเขานั้นเปลี่ยนไป
"ความเจ็บปวดแบบนี้ เมื่อก่อนฉันก็เคยได้รับเช่นเดียวกัน ฉันวางใบหย่าไว้ที่หัวเตียงหลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลก็เก็บข้าวของแล้วออกไปจากบ้านซะ ส่วนลูกฉันจะดูแลเอง"
หัวใจแทบแตกสลายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นดั่งกับมีดนับร้อยเล่มทิ่มแทงเข้าหัวใจ คนที่รักกันอยู่ดีๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาต้องการให้ฉันหย่าโดยที่ไม่มีเหตุผลบอกสักคำ
"ไม่ขุนเพลิง เราต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ คุณกลับมาคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน กรี๊ด ขุนเพลิงฉันบอกให้คุณกลับมาไม่ได้ยินหรือยังไงว่าฉันอยากให้คุณกลับมา" ผ้าแพรเสียงดังโวยวายร้องตะโกนเรียกให้สามีนั้นกลับมาคุย แต่ขุนเพลิงซึ่งไม่เชื่อในคำสั่งของภรรยาอีกต่อไปได้หันหลังเดินออกมาจากห้องอย่างที่ไม่หันกลับและไม่ฟังเสียงของภรรยาอีก
ผ้าแพรกลืนความเจ็บปวดไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้เผาศพพ่อของตัวเองเพราะหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เธอนั้นได้นอนอยู่ในห้องฉุกเฉินสามคืนด้วยที่ไม่ตื่นขึ้นมาหลังจากผ่าตัดหมอวินิจฉัยว่าเป็นเอฟเฟ็กต์จากยานอนหลับแต่โชคดีที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปหนึ่งเดือน ผ้าแพรได้อยู่โรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครมารับกลับบ้านไม่มีใครมาหาโดยเฉพาะสามี ส่วนลูกสาวตัวเล็กเธอไม่ได้เจอหน้ามาเป็นเดือนในวันนี้ที่หมอถอดเฝือกออกจากขาของเธอและหัดให้เธอพยุงตัวเองเดินจนเริ่มคล่องตัวเหมือนปกติ ผ้าแพรกลับมาที่บ้านโดยรถแท็กซี่
เธอก้าวขาเข้ามาในบ้านทำไมทุกอย่างดูเปลี่ยนไป มันเงียบสงบจนน่ากลัวไม่มีพ่อของเธอแล้วทุกอย่างจะเป็นยังไงต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมีสามีที่แสนดีแต่ในตอนนี้เขานั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนไม่เคยไปดูดำดูดีเธอที่โรงพยาบาลเลยสักวัน
"กลับมาที่นี่อีกทำไม" ก้าวขาเข้ามาในบ้านหยุดชะงักอยู่ตรงโซฟาด้วยที่เสียงทุ้มของสามีตัวเองนั้นเอ่ยถาม เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้แต่เสียงที่เอ่ยถามยังดูเหมือนคนที่รำคาญและไม่อยากคุยด้วย
"ทำไมคุณถึงไม่ไปหาฉันเลย คุณยุ่งเหรอคะหรือว่าที่บริษัทของคุณพ่อมีปัญหาแล้วคุณทานข้าวหรือยัง" ผ้าแพรเลือกที่จะฝืนยิ้มและไม่เอาเรื่องที่ขุนเพลิงไม่ไปดูเธอที่โรงพยาบาลมาเป็นข้ออ้างหรือว่ามาทะเลาะกัน
จากที่เธอเดินตรงไปหาขุนเพลิงที่โซฟาหย่อนก้นเตรียมที่จะนั่งและจับแขนของเขาทันที ขุนเพลิงลุกขึ้นพรวดทำให้ผ้าแพรนั้นล้มลงไปกับพื้นในขณะที่ยังไม่ทันได้ระวังตัวแต่โชคดีที่มือพยุงค้ำไว้ได้ไม่อย่างนั้นหน้าคงกระแทกลงพื้นด้วยความแรง
"อย่ามาแตะต้องตัวฉัน เธอมันสกปรกผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับฉัน" สายตาของเขามองมาที่เธอด้วยความรังเกียจทั้งๆ ที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นเพราะอะไรทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้แม้กระทั่งคำพูดที่คอยอ่อนโยนก็ไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
"ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไป" น้ำเสียงสั่นเอ่ยถามสามีของตัวเองทั้งน้ำตาทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปจนเหมือนคนละคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าสามีของเธอนั้นหายไปไหน
"มามี๊มาแล้วเหรอ" เด็กสาวตัวเล็กอายุเพียงสองขวบเศษวิ่งมาด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าสวยเหมือนฉีกยิ้มหวานโอบกอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง ถ้อยคำพูดของเธอเริ่มชัดเจนทั้งยังมอบความอบอุ่นโดยการโอบกอดคอของผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ตรงพื้นให้ชื่นใจขึ้นมา
"มาแล้วค่ะ มามี๊ของหนูหายแล้วนะลูก มามี๊คิดถึงพะพายมากรู้ไหม" อ้อมกอดของผู้เป็นแม่โอบกอดลูกสาวตัวเล็กไว้ในอกเพียงเวลาแค่ไม่นานไม่ถึงนาที ลูกสาวตัวเล็กถูกอุ้มออกจากอกโดยที่สามีของเธอเป็นคนทำ
"เลิกเสแสร้งแสดงความรักกับลูกต่อหน้าฉันได้แล้ว พะพายไปอยู่กับพี่เลี้ยงบนห้องนะลูกให้พี่เลี้ยงพาทานขนม" เมื่อก่อนนี้ขุนเพลิงชอบให้ผ้าแพรนั้นอุ้มพะพายแต่ทำไมในตอนนี้เขากลับกระชากลูกออกจากอ้อมกอดของเธอ
"คุณเป็นอะไรอะ ขุนเพลิงทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ คุณเป็นอะไรของคุณฉันทำผิดอะไรบอกมาสิ" ผ้าแพรลุกขึ้นจากพื้นด้วยความโกรธที่สามีของเธอกระทำไม่ดีต่อความรู้สึกของเธอ เมื่อสักครู่นี้มือทั้งสองข้างผลักหน้าอกของสามีเพราะความโมโหและอารมณ์ร้อนของผ้าแพร
"อย่ามาทำร้ายฉัน เพราะว่าถ้าฉันโมโห ฉันก็ไม่รับรองความปลอดภัยและชีวิตน้อยๆ ของเธอ" ไม่เพียงแต่คำพูดขู่ที่เป็นน้ำเสียงตะคอกแต่มือหนานั้นยกขึ้นมาบีบคอของผ้าแพรด้วย
"คุณผู้ชายคะใจเย็นๆ" แม่นมที่เลี้ยงผ้าแพรมาตั้งแต่เด็กคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ขอร้องที่เห็นคุณหนูของเธอนั้นเจ็บ
"มีอะไรก็ไปทำอยากออกจากงานตอนแก่หรือยังไง ซูโจเข้ามานี่เอาคุณผู้หญิงไปที ไปที่ห้องที่ฉันให้จัดเตรียมห้องเอาไว้" ซูโจเป็นลูกน้องคนสนิทของขุนเพลิงมาสามปีได้รับคำสั่งจากเจ้านายจึงรีบพุ่งตัวเข้ามาหาผ้าแพรพร้อมทำตามคำสั่ง
"ซูโจนายไม่มีสิทธิ์มาจับตัวฉัน อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก" ซูโจทำตามคำสั่งของขุนเพลิงคนเดียวเท่านั้นทันทีคนตัวเล็กถูกผลักเข้ามาในห้องเก็บของที่ไม่ใช่สำหรับห้องนอนแม่บ้านด้วยซ้ำ ในความมืดและเหม็นกลิ่นอับมันน่ากลัวแต่แล้วทันทีประตูปิดลงผ้าแพรพยายามที่จะทุบและร้องเรียกให้เปิดแต่ก็ไม่สำเร็จ
"ฮื่อๆ ขุนเพลิงทำไมนายถึงใจร้ายกับฉัน" ผ้าแพรเธอไม่รู้เลยว่าเหตุผลอะไรทำไมขุนเพลิงถึงใจร้ายกับตัวเองได้ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าเขาได้ทุกอย่างของคุณพ่อเธอไปหรือว่าเป็นที่ตัวของเธอทำตัวไม่ดีเป็นภรรยาที่ไม่เอาไหน มันเป็นคำถามมากมายสำหรับตัวเธอเองได้เพียงแต่นั่งกอดเข่าคิดหาสาเหตุพร้อมกับความเจ็บปวด
"ฮื่อๆ เปิดประตูเถอะนะฉันกลัวแล้ว" เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่ชั่วโมงเธอกลับถูกทำร้ายจนอ่อนแรงมีแต่มือที่พยายามเอื้อมบิดลูกบิดประตูแต่ไม่สำเร็จ
📌ถูกอกถูกใจหม่ำมี๊กันไหมฝากหม่ำมี๊กดใจเรื่องนี้ให้ไรท์หน่อยนะค้าบ อ้อนๆ ช่วยไรท์ทีงับ
🔥 บอกเลยว่า อิพี่ชั่ว 100% เตรียมทิชชู่รอเลยค่าบ
บทที่ 4 ผ้าแพรพาลูกสาวลงมาด้านล่างเพื่อที่จะมาทานข้าวแต่เห็นสามีของตัวเองนั่งอยู่โต๊ะอาหารทานข้าวโดยที่ไม่รอเธอกับลูก เกินไปหรือเปล่าแล้วคนเป็นเมียจะต้องยอมกินของเหลือๆ จากผู้หญิงคนอื่นเหรอ เธอนั่งยองๆ เสมอกับลูกสาวทั้งยังลูบหัวของลูกเบาๆ ไม่ไกลจากโต๊ะอาหารนั้นมาก"พะพายหนูอยากทานกุ้งไหมลูก วันนี้มามี๊พาไปทานชาบูเอาไหมคะ" เด็กสาวตัวเล็กยิ้มหวานรีบพยักหน้าให้กับผู้เป็นแม่ เธอไม่เคยได้ออกไปเที่ยวข้างนอกไม่เคยได้กินชาบูถึงแม้ว่าจะอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ทุกคนนั้นทำงานคุณตาของเธอป่วยก่อนที่จะเสียไปก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย"ไปค่ะ"ผ้าแพรลุกขึ้นจับมือของลูกสาวอย่างไม่ทันได้เดินไปไหน เธอหยุดชะงักด้วยเสียงทุ้มที่พูดขึ้น"ข้าวที่บ้านกินไม่ได้เหรอต้องไปหาอย่างอื่นกินหรือว่าเธอถนัดซื้อกิน" ต่อหน้าลูกยังใช้คำดูถูกได้ขนาดนี้ขุนเพลิงไม่เคยไว้หน้าผ้าแพรเลยสักนิด"ฉันเป็นเมียไม่มีวันกินของเหลือจากชู้อยู่แล้ว คิดว่าทำถูกก็ทำไปถ้าผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านทั้งๆ ที่ฉันยังไม่ได้หย่า ถ้าฉันฟ้องคุณทั้งสองคนไม่ติดคุกแน่" ขุนเพลิงลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงเข้ามาหาผ้าแพรกับลูกสาว เขาอุ้มลูกสาวด้วยสองมือยื่นใ
บทที่ 3 สายตาคู่นั้นที่จ้องมองไปยังสามีของตัวเองนั่งอยู่ในห้องรับแขก มือที่เคยสัมผัสใบหน้าของเธอเคยอ่อนโยนในตอนนี้กลายเป็นของผู้หญิงคนอื่น ผ้าแพรได้เพียงแต่ยืนมองสามีของตัวเองอ่อนโยนต่อผู้หญิงหน้าด้านที่คิดจะแย่งสามีของเธอ มือทั้งสองข้างกำหมัดเข้าหากันแน่นไม่เคยคิดจะเป็นนางร้ายหรือตามรังควานใครแต่แน่นอนที่ของทุกอย่างรวมทั้งสามีที่เธอรักทั้งยังเป็นพ่อของลูก ผ้าแพรไม่มีวันยอมให้เป็นของคนอื่นอย่างแน่นอน"ฉันไม่มีวันยอม" สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นปาดน้ำตาของตัวเองมองจ้องไปยังแม่นมหญิงสาววัยกลางคนมองหน้าคุณหนูที่เขารักและทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็กด้วยความสงสาร เธอนั้นก้าวเดินตรงเข้ามาหาผ้าแพร"อดทนนะคะ คุณหนูความรักที่คุณหนูมีให้กับคุณผู้ชายมันมากเกินกว่าผู้หญิงคนอื่นจะเข้ามาทำลายมันได้" ผ้าแพรฝืนยิ้มและพยักหน้าให้กับแม่นมของตัวเองทั้งๆ ที่หัวใจนั้นแตกสลายแต่ยังทำท่าทีแข็งแกร่งเหมือนกับคนที่ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อผ้าแพรเดินกลับขึ้นมาบนห้องเพราะจะไปดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียง แต่เธอหยุดชะงักตรงที่ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นเดินมากขวางทางขึ้นบันได ใบหน้าที่สวยเฉิดฉายเจ้าเล่ห์ดั่งกับสุนั
บทที่ 2 มือของผู้เป็นแม่ลูบหัวของลูกสาวตัวเล็กในอ้อมกอดของตัวเองเบาๆ เด็กสาวคนนี้หลังจากลืมตาดูโลกแล้วคงรู้สึกเคว้งคว้างเมื่อก่อนนี้ผ้าแพรอาจจะละเลยความรู้สึกของลูกแต่ก็ไม่เคยละทิ้งหรือเที่ยวเตร่ดั่งกับวัยรุ่นทั่วไปเธอตั้งใจที่จะทำงานและฝึกงานในบริษัทของคุณพ่อมีบางครั้งที่สังสรรค์กับเพื่อนบ้างในบางครั้งแต่คนที่ใกล้ชิดกับลูกสาวของเธอมากที่สุดคือสุวรรณยศพ่อของเธอ "มามี๊ขอโทษนะต่อจากนี้ไปมามี๊จะดูแลหนูเองและมามี๊จะไม่มีวันให้ใครแย่งความรักของปะป๊าไปจากหนูเด็ดขาด" สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นในแววตาซ่อนความเจ็บปวด เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเขาบอกว่าได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าเราไม่ผิดก็คืออำนาจและเงินทองของพ่อเธอ ผ้าแพรยกทุกอย่างให้เขาได้แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้ พ่อของเธอตายไปได้แค่เดือนเดียวเขากลับพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในบ้านเหยียบย่ำหัวใจของพ่อเธอ "ไม่ร้องไห้นะหนูอยู่ตรงนี้" มือน้อยเช็ดน้ำบนแก้มให้กับผู้เป็นแม่ทั้งยังยิ้มให้กำลังใจ ผ้าแพรรู้สึกดีขึ้นเมื่อมีเจ้าตัวเล็กอยู่ตรงนี้ เวลาผ่านไปสักพักหลังจากที่พาลูกนอนเล่นบนเตียงพะพายลูกสาวของเธอนั้นเผลอหลับ เธอจึงให้พี่เลี้ยง
บทที่ 1 ขุนเพลิงลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อได้รับสายจากใครบางคน ใบหน้าของเขานั้นยิ้มขึ้นดั่งกับคนดีใจที่ใครจะมา เมื่อก้าวขาออกจากโซฟามาเพียงหนึ่งก้าวเขาหยุดชะงักเพราะซูโจลูกน้องคนสนิทเดินกลับเข้ามาในบ้านสายตาที่กวาดมองเปลี่ยนจากขุนเพลิงคนละคนในแววตาที่เย็นชานั้นบ่งบอกถึงความน่ากลัวและร้ายกาจ"นายจะให้ผมขังคุณผู้หญิงไว้นานแค่ไหน?"ซูโจที่ยังเอ่ยถามเจ้านายตัวเองไม่ทันสิ้นสุดประโยค ขุนเพลิงยกมือขึ้นในเชิงห้ามไม่ให้พูดต่อ"จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่าง ถ้าไม่ได้ฟังคำสั่งของฉันไม่ต้องเปิดประตู ดูแลลูกสาวกลับบ้านให้ดีอย่าให้ใครเข้ามาก้าวก่าย ฉันจะไปรับนับดาว" ซูโจก้มหน้าคำนับให้กับเจ้านายตามคำสั่ง นับดาวหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับผ้าแพรเพิ่งกลับจากเมืองนอกและในวันนี้นับดาวโทรหาขุนเพลิงให้ไปรับที่สนามบินจึงทำให้ขุนเพลิงนั้นยิ้มดั่งคนที่ดีใจมาก "ปะป๊าจะไปไหน ปะป๊าอย่าไปไหนนะ" คนตัวโตถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวตัวเล็กทันทีมือของเขาถูกจับด้วยมือนุ่มอันนิดเดียว ใบหน้าน้อยเงยขึ้นในขณะที่เขย่ามือพ่อของตนเองเอ่ยถามทั้งยังเอ่ยปากไม่ให้ไปขุนเพลิงคุกเข่าลงตรงหน้าเสมอกับเจ้าตัวเล็ก มือหนาลูบหัวของเด็
บทนำ เสียงครึกโครมของเหล็กกระทบเข้าหากันดังสนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน ดวงตาคู่น้อยหลับตาลงหลังจากที่รู้ว่าเธอนั้นขับรถชนจากนั้นภาพทุกอย่างก็ได้ตัดไป "คุณครับคุณเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างพากันเข้ามาช่วย เมื่อได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ คนตัวเล็กถูกวางบนเตียงขึ้นรถฉุกเฉินไปที่โรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมขึ้นสัมผัสถึงความเจ็บปวดและการขยับขาไม่ไหว มือน้อยยกจับศีรษะของตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอนั้นผวาจนสะดุ้งตัวลุกขึ้นจากเตียงพยาบาลพิเศษรีบจับแขนทั้งสองข้างและประคองให้เธอนอนลงตามเดิม"คนไข้คะอย่าลุกขึ้นเร็วขนาดนี้ คนไข้เพิ่งจะฟื้นอีกอย่างขาของคนไข้กระดูกร้าวยังไม่สามารถลงจากเตียงได้นะคะ" ความฝันที่เธอเจ็บที่ขาไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ขาของเธอถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งยังมีปูนโบกพอกเอาไว้ทั้งสองขา ใบหน้าน้อยที่มีน้ำตาเต็มๆ เอ่อล้นจนไหลอาบแก้มจ้องมองหน้าของพยาบาลคนที่เธอจับแขนของเขาเขย่า"คุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้าง ท่านเป็นยังไงบ้างท่านปลอดภัยดีใช่ไหม" ด้วยความกังวลและความห่วงในวันนั้นเธอตั้งใจท
Comments