LOGIN" หืม ไม่ใช่สาวยุโรปหรือ "
นิ้วใหญ่แข็งเป็นคีมเกลี่ยปอยผมออกจากแก้มมน กรอบหน้าสวยเผย ทำให้คนอื่นสนใจตามไปด้วย
เธอเบือนหน้าหลบด้วยความตกใจ แต่นั่นยังมีสติพอที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ ซันดรูโน้มหน้าลงมาบ้าง เพราะความสูงที่เยอะกว่าเธอ ขนาดนั่งบนเก้าอี้ ยังจะเป็นอุปสรรค
" มาจากไหน? "
" เอ่อ..."
ทำไงดีล่ะไศลา?? พวกนี้ดูท่าทางแล้วไม่ใช่ลูกค้าธรรมดาเลยนะ ยิ่งมาอยู่ใกล้ และถูกสัมภาษณ์ถี่ยิบอแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เธอกลัว
" น่าจะเอเชียนะ "
เรกาโดออกความเห็น เขาเป็นคนเดียวที่มีความสนใจน้อยกว่าคนอื่น แต่มีความแม่นยำกว่าคนอื่น นั่นยิ่งทำหญิงสาวต้องเม้มปากแน่น
" ว้าว ฉันชอบสาวเอเชีย เอาคนนี้ล่ะ "
หมับ
" ว้าย! "
" ซันดรูอย่าน่า! "
ไศลาทวีคูณความกลัวมากขึ้น ก็ตอนโดนหนุ่มขี้เล่น ผู้มีความทะเล้นที่สุดในกลุ่มฉุดดึง เขา จงใจลากเธอเข้าไปหาตัว ทว่า กลับถูกครูดัสห้ามเอาไว้ ทว่าไม่สามารถทำให้ความผวาในใจเธอหายไปด้วย
" ไศ..คือไศ...เพิ่งมาได้เดือนกว่าเองค่ะ "
กลายเป็นว่าสาวหัวแข็งราวกับม้าดีดกะโหลกอย่างเธอคอนโทรลตัวเองไม่อยู่ จากที่เคยไม่ยอมใครมาก่อน บัดนี้ เพียงแค่เห็นลักษณะการวางตัวของพวกเขา ก็ทำให้เธอไม่กล้าท้าชนแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอนั้นยอม แต่ความกร่างทะโมนที่เคยมีไม่สามารถใช้สุมสี่สุมห้าได้
ท่องไว้ไศลา ตีเนียนใสซื่อแล้วเธอจะรอด
" หืม คำถามนั้น.. มันเป็นคำถามแรกไม่ใช่รึ คำถามที่สองล่ะ "
" ใช่ค่ะ ไศเป็นคนไทย "
" เขาว่ากันว่าสาวไทยข้างในเด็ดจริงหรือเปล่า "
" ไอ้ซัน! "
ทว่า พวกเขากลับไม่หยุด ยิ่งเธออ่อนแอ ก็ถวายความดูถูกมาให้ แบบนี้..คงใสซื่อไม่ไหวหรอก หญิงสาวกำมือแน่น แน่นเสียจนขึ้นเส้นปูด ฟันขบริมฝีปากจิ้มลิ้มลึกจนเจ็บ เตรียมจะโวยใส่
แต่แล้ว...
เกร้ง!
บรั่นดีพร้อมมิกเซอร์ถูกยกมาโดยพนักงานชายสองคน และในมือโครทิสอีกแรงหนึ่ง เสียงก้นขวดกระทบโต๊ะนั้น สามารถขัดจังหวะ ราวกับเป็นเรือขวางคลองได้เป็นอย่างดี ทุกคนหยุดความสนใจต่อผู้หญิงร่างบางตรงหน้า ไปยังคนร่างสูงข้างหลัง
" หา ถึงกับบริการพวกกูเองเลยเรอะ"
" เป็นบุญอย่างยิ่งครับ ที่ได้กินของฟรี และเป็นเหล้าที่ท่านเวเดนประเคนให้"
ในขณะเหล่าเพื่อนเขาพากันแซว ทว่าเขาไม่คิดจะขำด้วย นอกจากปั้นหน้าขรึมแล้ว ยังยอกย้อนกลับไปอีกต่างหาก
" เฮอะ จะให้กูเอาไปกระแทกปากพวกมึงด้วยไหมล่ะ "
ส่วนสายตาหรี่ไปทางไศลา ยืนมองนิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะ..
" จะอู้งานอีกแล้วหรือ "
" คะ? "
" โต๊ะนี้เรียบร้อยแล้ว จะไม่คิดไปดูโต๊ะอื่น?"
ถามสีหน้ากวนประสาท พลางเลิกคิ้ว
" อ่อ..ค่ะ ได้ค่ะ"
ท่ามกลางการเป็นจุดเด่นต่อหน้าคนอื่น สำหรับเธอแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่หน้าอาย ทว่าเธอเลือกที่จะเก็บความรู้สึก เดินออกไป ดีกว่ายืนอยู่ตรงนั้น
" โอ้ววว เวเดโน่ ดุเธอทำไม เธอเป็นเด็กกูนะ "
" ฮ่าๆๆ "
ผ่าง!
ถาดเหล็กถูกกระแทกลงบนพื้นบาร์ ก่อนคนถือจะเดินหน้าบูดหน้าบึ้งมานั่งคู่ เธอเท้าคางแสดงออกถึงความหงุดหงิด แต่ไม่คิดที่จะบ่นออกมาสักคำ
" เป็นไรล่ะ จ๋อยมาเลยล่ะสิ ฉันเห็นแล้วล่ะว่าเธอถูกรุม "
" ชิ ไอ้พวกชอบดูถูกผู้หญิง ไหนเธอบอกว่าพวกเขาจะไม่มีทางเข้ามาในนี้ไง "
ทว่า เทเรน่าคู่หูตัวดีกลับแหย่เธอให้เปลี่ยนใจเสียนี่
" ฉันเคยพูดแบบนั้นเรอะ" หญิงสาวหันไปค้อน กัดฟันกรอด พูดเสียงออกไรฟัน
" ใช่ เธอบอกว่าพวกเขามีทางเข้าเป็นทางอื่น และจะไม่โผล่หัวมาที่นี่ "
" เหรอ ฉันบอกแบบนั้นเหรอ "
" เทเรน่า! "
เมื่อเห็นว่าการเย้าแหย่ของตัวเองไม่ได้ทำให้เพื่อนมีอารมณ์ขันตาม หล่อนจึงเปลี่ยน โดยแสร้งหน้าให้ละห้อยกว่า
" โธ่ ไศลา เขาจะทำอะไรใครจะไปเดาใจเขาได้ล่ะ ที่นี่น่ะมันถิ่นเขานะ เขาทำได้ทุกอย่างแหละ แม้แต่บาร์นี่ เก้าอี้ตัวที่เธอนั่ง ถ้าเขาต้องการ ลูกจ้างอย่างเราก็ไม่มีสิทธิ์จะพูด "
ทว่า..ไม่รู้ล่วงหน้า ว่าเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น
" รวมถึงเธอด้วย "
หลังจากเธอเตรียมจะหันไปทำสิ่งที่ค้างอยู่ และหันกลับมาชี้หน้าไศลา ซึ่งนั่นทำร่างบางถึงขั้นชะงักตกใจ
" ไม่มีทางซะหรอก! "
ส่วนหล่อนนั้นยักไหล่ไม่แยแส ไม่คิดว่าประโยคหลังจากนี้ จะสร้างความหวั่นใจให้แก่คนฟังแบบไม่มีเจตนา
" ก็แล้วแต่นะ ถ้าคิดว่าอยู่เมืองนี้แล้วจะเก๋าง่ายๆ ที่นี่น่ะพวกเขามีอำนาจ ถ้ามีคนสู้ได้ พี่ชายของเธอคงไม่ตายหรอก! "
"...."
" เอ่อ..ไศลา ..ฉัน.. "
เธอเงียบ พร้อมสีหน้าเรียบเฉย มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ส่องประกายขึ้น กับรอบๆเบ้าที่กำลังจะแดงก่ำ
" ฉันขอโทษ.."
เทเรน่ารู้ตัวก็เหมือนจะสาย หล่อนยกมือตบปากตัวเองเบาๆทีนึง ราวกับทำโทษที่พลั้งปากพูดในเรื่องไม่สมควรพูดออกไป ไศลากลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ เธอไม่ได้ต่อว่าเพื่อนสาว แต่เลือกที่จะหมุนเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่กลับไปแทน เธอทอดมองไกลไปยังกลุ่มเดิมนั้น และฉุกคิด
ใช่..ไม่ใครก็ใครในนั้นแหละ ที่รู้... คนตายทั้งคน จะไม่มีใครรู้ได้ยังไง โดยเฉพาะ...โครทิส เวเดโน่ ว่าแต่จะเริ่มยังไงดี??
ไศลารอโอกาสให้ซันดรูลุกออกไปดูดบุหรี่ โชคดีคืนนี้แขกเรื่อในร้านไม่เยอะเท่าคืนก่อนๆ อาจเป็นเพราะเห็นผู้มีอิทธิพลมานั่งดื่มร่วมด้วย
เธอจึงใช้เวลานั้นนั่งทบทวนและครุ่นคิดอยู่นาน ถึงแผนการที่จะริเริ่ม หากจะยกให้มันเป็นสงครามเย็นคงไม่ผิด เพราะเธอกำลังจะก่อความวุ่นวายโดยใช้มารยาหญิงเป็นตัวบุกเบิก คนนี้ใช่ไหม ที่สนใจในตัวเธอ? ดูท่าจะทะเล้นเอาการ
พลั่ก!
" อุ๊ย! "
" หืม.."
ไศลาแกล้งทำเป็นเดินเท้าพลิกล้มลงกับพื้นไม่ทันเห็นว่าเขานั้นยืนอยู่ เป็นจังหวะเดียวกันกับซันดรูหันมาพอดี แต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ที่ซัดเข้าไปหลายต่อหลายแก้ว ทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัวมองไม่ชัด ทว่า กลับเลือกขยี้มวนบุหรี่ แล้วเดินไปช่วยเธอแทน
เขาเข้าไปพยุงตัวเธอ แล้วพามานั่งตรงเก้าอี้ยาว ที่วางไว้ให้สำหรับลูกค้าที่ดูดบุหรี่
" ไหน ขอผมดู? "
น่าแปลก สำหรับเขา ความเมาสามารถเปลี่ยนให้เป็นคนละคนได้ ซันดรูดูราบเรียบ ไม่ขี้เล่นเหมือนแต่ก่อน ผิดกับตอนที่อยู่กันเป็นกลุ่ม หรือว่านี่...คือตัวตนที่แท้จริงของเขา ไศลาเอียงคอชักสีหน้าฉงน กว่าจะรู้ตัวเองกำลังตกอยู่ในภวังค์ก็ตอนที่ข้อเท้าเล็กโดนสัมผัส และดึงไปวางไว้บนตักผู้ชายตรงหน้า
ใช่ เขากำลังนั่งยองต่ำกว่าเธอ
" อย่าค่ะ! " เธอตกใจจริง เผลอผลักอกเขา
" หืม.."
ชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วงง แรงผลักนั้น หากออกแรงอีกนิด มันสามารถทำคนเมาอย่างเขาเซล้มได้
" ขะ ขอโทษค่ะ " ไศลาอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด
" ผมทำอะไรผิด? ทำคุณเจ็บหรือ? "
" ปะ เปล่าค่ะ คือ...ขอโทษค่ะ ไศไม่ชิน ..เอ่อให้คนอื่นมาจับเท้า "
" ไม่ชิน? " เพราะคำว่าศีลธรรมแท้ๆจึงทำให้เป็นแบบนี้ " ยังไง ผมไม่เข้าใจ? "
คราวนี้เหมือนเขาจะยิ่งสงสัยหนักขึ้น เธอผู้ที่แกล้งหกล้มในทีแรกถึงกับหน้าเหวอ ไปไม่ถูก ทำไงดี คิดสิไศลา คิด คิด
" อ่อ! คืออย่างนี้ค่ะ การที่คนแปลกน่ามาขอจับเท้า หรือเท้าไปโดนเขา มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ เอ่อ..ที่ประเทศดิฉัน เขาถือว่าไม่ให้เกียรติกันน่ะค่ะ " เธอยิ้มแฉ่ง
ส่วนเขาเปลี่ยนจากคิ้วที่ขมวด เป็นคิ้วที่เลิกขึ้น พร้อมดวงตาเป็นประกาย
" อ่อ เธอนั่นเอง " กับสรรพนามที่เปลี่ยนไป
" คะ? "
" เด็กเสิร์ฟคนนั้น "
" ใช่ค่า ^^ ฉันกำลังจะบอก แหะๆ "
ไศลารีบเอาตัวรอด ใช้โอกาสตรงนั้นแสร้งยิ้มตาหยี ทั้งที่ก่อนหน้านี้หัวใจแทบจะวาย
...แค่เขาจับเท้าเท่านั้นน่า ไศลาเธอต้องมีสติสิ...
เขาไม่ได้ยิ้มตอบ แต่กลับแค่นหัวเราะแล้วลุกขึ้นเต็มความสูงมายืนหันหลังให้เธอแทน
" เธอทำให้ฉันทิ้งบุหรี่โดยใช่เรื่อง "
เพื่อดึงบุหรี่ตัวใหม่ในซองมาจุดใหม่ หญิงสาวอ้าปากเหวอ ก่อนส่ายหน้าไม่อยากจะเชื่อ พลางกระซิบ
" ชี่...บ้าชะมัด"
แต่แล้ว...
" เธอว่าไงนะ "
" เปล่าค่ะ! "
กลับต้องเปลี่ยนโทนเสียงและสีหน้า เมื่อเขาหันมาถาม พร้อมพ่นควันใส่หัวเธอ
" ฟู่ว..."
" เอิ่ม.."
เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ เป็นเพราะคำถามจึงทำให้ควันนั้นหลุดมาด้วย จึงตัดสินใจออกความเห็นในสิ่งที่ไม่ควรทำ
" คุณ...ไม่ควรดูดมันต่อหน้าฉันนะคะ "
" อืมใช่ ..งั้นก็ไปสิ "
" แต่เท้าฉัน.."
" ก็เธอไม่ให้ฉันจับ " เขาเลิกคิ้วท้าทาย
ก่อนจะอัดควันเข้าปอดเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับโน้มหน้ามาใกล้เธอ ปลายจมูกแทบจะชนกัน ก่อนจะ...
" ฟังนะสาวน้อย เลิกหลอกฉันได้แล้ว .. ฉันรู้ความต้องการของเธอแหละน่า แกล้งสะดุดล้ม เพื่อจะยั่วฉันใช่มั้ย? ฟู่ว..."
" .....แค่กๆๆ"
ซึ่งคราวนี้ไม่รู้ว่าควัน หรือคำถามของเขากันแน่ที่ทำให้เธอสำลัก
ลำพังสงครามนอกฐานวุ่นวายมากพออยู่แล้ว เขาต้องมาจัดการกับสงครามภายในอีกหรือ เรกาโดคิดชีวิตที่ผ่านมาเป็นเช่นไรเขาย่อมรู้ดี การเป็นมาเฟียไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องมีความแกร่งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ควบคู่กับความอดทนก็จริง ทว่าไม่ได้หมายความว่าจะเพียงพอสำหรับพวกเขายังต้องรับมืออีกเยอะ กับศัตรูรอบด้าน นับร้อยนับพันเรียกได้ว่าเป็นโขยง ไหนจะความโลภ ทรยศหักหลัง และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายแต่แล้ววันนี้กลับต้องมายืนดูในขณะในใจสำเนียกรู้แน่ชัดเป็นอย่างดีว่านั่นคือสหายตนหนึ่ง เพื่อนร่วมสาบานที่ไม่ต่างกับคนอื่นๆเพียงแค่เขามีความผิด ซึ่งวัดระดับความรุนแรงไม่มีใครรู้ปริมาณเทียบเท่าด้วยซ้ำ ถ้าหากจะให้รู้เล่าก็ ที่รู้มันย่อมผ่านไปได้ทุกเมื่อหากมันไม่เหนือคำว่า..อภัยใช่แล้ว! อย่างเวเดโน่ไม่มีวันอ่อนข้อให้ใครหรอกเว้นแต่อีกฝ่ายจะยอมยกธงขาวก่อนเท่านั้นโดยเฉพาะซันดรู!ชายร่างสูงอกผายไหล่ผึ่ง ก้าวฉับๆ จากประตูทางเข้าไปยังบาร์ที่มีไว้สำหรับนักดื่มขวับ!ก่อนจะแย่งของในมือ ไปอย่างแรงจนมันปลิวเพล้ง!เสียงแตกหักจากการกระเด็นกระดอนดังตามหลังผู้คนพากันแตกตื่น บ้างก็นั่งนิ่ง บ้างก็ถอยห่าง ทว่าไม่มีใครเลยที่จะ
เตียงนอนสั่นคลอนถี่ปานแผ่นดินไหว นั่นคงเป็นเรื่องปกติของคู่อื่นทั่วไป ใช่สองคนนี้ คนเจ็บด้วยบาดแผลฉกรรจ์คนนึงซึ่งเพิ่งจะทุเลาลง กับอีกคนไม่ต่างจากหญิงชราเพราะหมดสภาพความแข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง หล่อนไม่ใช่หญิงสาวมาดมั่น คิดจะกระโดดตามอำเภอใจอย่างเมื่อก่อนได้อีกแล้ว เพราะภายใต้เนื้อหนังตรงกลางกายมีอีกหนึ่งชีวิตซ่อนอยู่ท้องที่เคยแบนราบดูสวยและเนียนขาว ตอนนี้แปรเปลี่ยนไม่เหลือโครงเดิม ทั้งตึง ทั้งขยายใหญ่โตไศลาหลับตาพริ้ม ย้อนนึกถึงความหลังในครั้งที่เจ็บปวดที่สุด ยามร่างหนาดุนดันเข้ามาแนบชิด สิ่งที่เคยโหยหาถูกแทนที่ด้วยการทับทาบ เธอใช้ฝ่ามือบางลูบไล้ถูไปทั่วแผ่นหลังเบาๆ ราวกับล่องลอยอยู่ในความฝัน กับสีหน้าไม่ต้องบอกก็รู้ จวนจะถึงจุดสูงสุดพร้อมกันทั้งคู่ไม่ต่างกับคนบนตัวหล่อน แม้จะเจ็บหนัก ยามนี้ก็ยังคงเจ็บ ทว่าเพราะความคิดถึงและแรงปราถนากลับหลอมให้เขานั้นลืมความรู้สึกอื่น ดุจคนๆ เดียวกัน เมื่อไศลาเองก็ลืมความเคืองโกรธ และเขาก็ลืมว่าเธอกำลังโกรธเสียงหอบหืดผสมอารมณ์กระสันกระหาย บ่งบอกเป็นอย่างดีถึงความสุข ทั้งคู่ไม่ได้รับมานานมากแล้ว เวลานี้จึงเป็นเวลาที่ดีของพวกเขา"รักไหม? "กับน้ำเสียง
ล้อรถบางครั้งมันก็ตามคนเดินทัน หากคนนั้นคือคนท้องสาวเจ้าน้อยใจสูงสุด ต่อการกระทำของสามี เธอกลายเป็นตัวตลกในสายตาเขา ที่คิดจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เพียงแค่รับรู้ว่าหล่อนนั้นรัก ไม่มีวันหมดแม้จะหยดสุดท้ายช่างน่าเวทนา...ท้องแก่จวนใกล้คลอด ฝ่ามือสากกร้านหนึ่งในคู่ของสามี ก็ไม่เคยจรดลงบนหนังตึงๆนูนๆนี้สักครั้งจะไม่ให้คิดมากก็คงจะไม่ใช่ ก่อนหน้าตอนคนึงหา ใช้ความหวังต่อลมหายใจ บอกตัวเองมาโดยตลอด เขานั้นยังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เหตุผลบางอย่าง ทำเขาต้องหลอกลวงเธอ ก็ว่าเจ็บปวดมากพอแล้วรองลงมา ซ้ำความระทมหนักยกกำลังสองเข้าไปอีก เมื่อรู้ว่าเขานั้นความจำเสื่อม แม้ก่อนหน้าจะมีคิดนอกกรอบไปบ้าง ว่าคนอย่าง โครทิส เวเดโน่น่ะหรือ จะใจเสาะ อ่อนแอนอนติดเตียงนานหลายเดือนปะถิโถถัง.. แท้จริง คือแผนการทั้งเพ ซึ่งจะไม่เจ็บหนักเลย หากแผนนั้นไม่มีเจตนาเอาเธอเข้าไปเป็นตัวละคร ยัดเยียดบทบาทโง่เง่าเต่าตุ่นให้ด้วย!เวรกรรมอะไรของหล่อน?ไศลาคิด ใจจุก ปากสั่นระริก เอาแต่ร้องไห้ พร้อมอุ้งมือบีบเข้าหากันแน่น เจ็บระบมไปหมด แต่นั่นคงไม่ชาเท่ากับความจริงในใจจะเป็นยังไงเธอก็ยังรักเขา..." ไศลา..."ยิ่งมีเสียงทุ้มตามห
ล้อเลื่อนเคลื่อนไปข้างหน้าของกระเป๋าไร้อุปสรรคต่างจากใจเธอ ไศลาครุ่นคิดตลอดเส้นทางที่เดินนับตั้งแต่ที่นั่นกระทั่งถึงที่หมาย แล้วจึงหยุดปลายทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ ได้แค่พร่ำปลอบใจตัวเอง ภาวนาขออย่าให้ทุกอย่างเลวร้ายไปมากกว่านี้เลยเพราะ ที่ผ่านมาเป็นทุกข์เกินพอแล้วรู้ดีเต็มอก ไม่มีวันไหนจะไม่โทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น คนตรงหน้าเป็นแบบนี้..เพราะความดื้อดึงของเธอเองหากไม่จุ้นรนหาที่ในวันนั้น วันนี้จะไม่เป็นบ่อเกิดของความทรมานเลย แม้นคนตรงหน้าจะไม่ตาย ก็ใช่ว่าเธอจะดีใจได้ถึงขีดสุด...การมีชีวิตอยู่ของเขา ที่เอาแต่นอนแน่นิ่ง ทำราวกับเธอเป็นเพียงธาตุอากาศ ความรู้สึกมันดุจมีดคมกริบกรีดอกให้เจ็บปวดเหลือเกิน!เธอจะทำยังไงดี จะทำยังไงดีมีแต่คำนี้ที่วนเวียนใกล้ทำสมองให้เป็นประสาท!" เพราะอะไร? "คำถามที่ออกมาเพียงแค่ลม ทว่าคนได้ยินอย่างเรกาโดรับรู้ดีถึงความเจ็บปวด ดังขึ้นพร้อมสีหน้าสลดไร้เครื่องปรุงแต่งปากเธอซีดเผือดพอๆกับคนบนเตียงที่เอาแต่นอนมองเพดานนิ่ง" เขาจำอะไรไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่พวกเราต้องพึ่งพาเธอ "" ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรก "ก่อนก้อนน้ำตาที่อัดอั้นอยู่นานพอควร จะ
หลายเดือนต่อมาเสียงระบบช่วยหายใจ มองเห็นเพียงสายไฟแล้วจอคอมที่มีเลเซอร์วิ่ง กระนั้นสามารถช่วยต่อชีวิตคนได้ ดังเตือนเป็นจังหวะบีบหัวใจคนฟังมาหลายต่อหลายวันแล้ววันนี้...มันได้เวลาปลุกเจ้านายบนนั้นร่างใหญ่ค่อยๆขยับแค่ปลายนิ้วก่อน จากนั้นจึงจะตามมาด้วยเปลือกตาที่หนักอึ้ง เขากระพริบตาขึ้นลงช้าๆ กระทั่งถี่และเบิกกว้างได้จึงจะสั่งหยุด" อ่า..."เสียงบ่งบอกถึงความปวดหัว กับต้องปรับตัว ปลุกคนข้างๆให้สะดุ้งตื่น เรกาโดถึงกับสร่างงัวเงียเมื่อเห็นกันเลยทีเดียว" เว้ด! ฟื้นแล้วเรอะ "แต่แล้ว..เขาคนนั้นกลับขมวดคิ้วทำหน้างง ค่อยๆหันมาทางเจ้าของเสียง" ใคร..." เอ่ยเสียงแผ่วซึ่งนั่นทำให้คนได้ยินมันอย่างครูซัสถึงกับนิ่งเงียบไปเขาอึ้ง สร่างง่วงเป็นปลิดทิ้ง" ใคร..."" กูหรือ?? ก็เพื่อนมึงไงพวก เรกาโด "" เพื่อน .." เขาทวนก่อนชี้หน้าอกตัวเองพลางเลิกคิ้ว ทำคนฟังถึงกับดีดตัวขึ้นมานั่งแบบมีสติพลางลูบหน้า ลูบเครา ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ทางด้านของไศลาช่วงเวลาเดียวกันแต่คนละขั้วโลกเพล้ง!เสียงแตกหักของจานกระเบื้องดังสะเทือนลั่นบ้าน มือสั่นเทาของหล่อนชะงัก หลังเสียงนั้นปลุกสติให้
ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่ในห้องมืด คล้ายกับห้องลับที่เคยบรรจุบุคคลสำคัญในอดีต มือคู่แข็งแลเห็นแต่เส้นเลือด ปูดขึ้นบ่งบอกให้รู้ถึงความหนักของสงครามในแต่ละครั้งที่ผ่านมา พร้อมใจกันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงในขณะใบหน้าเรียวได้รูปวางตรงเหม่อลอย สายตาพยายามเก็บกักอาการที่กำลังจะออกมาเอาไว้ พลางต่อต้านด้วยความอดทนขั้นสูงสุด ซึ่งสั่งหยุดเอาไว้ชั่วคราวไม่ให้มีโอกาสได้เปิดเผย หวังรอช่วงเวลานี้ให้ผ่านพ้นไป...ประมาณนั้น....มองตรงไปยังตำแหน่งหนึ่ง ที่ไม่ได้พิเศษอะไร หรือน่าสนใจเสียจนต้องให้ความสำคัญทว่า เพียงแค่จุดนั้นสามารถทำให้สมองเขาโลดแล่นต่อไปได้ นั่นคือความจำเป็นที่ต้องการเรกาโด ครูซัส ผู้ครองตำแหน่งคนคิดค้นหนทางการเอาตัวรอดในบางครั้งของแก็งค์รองลงมาจากใครคนหนึ่ง คนที่วิญญาณหายสาบสูญยากที่จะหวนกลับมาในตอนนี้บัดนี้...ไร้แล้วซึ่งศักยภาพตรงนั้นภาพจำวนเวียนมายังโซนสมองของเขา นั่นคือส่วนที่มีความอ่อนแอแฝงอยู่ สลับกับความแค้น และกฏเกณฑ์อีกจิปาถะ ที่รวมหัวกันสร้างขึ้นมาเองแต่แล้ววันนี้กลับต้องเอามาใช้เขาคิดไม่ถึง และถ้าหากเลือกได้...คงไม่ทำมัน!" ฟู่วว.."ในขณะเขากำลังคิด ถอนหายใจเป็นร้อยรอบ พ


![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




