LOGINหมับ!
" อยากเป็นเมียฉันหรือ? "
" ...!!! "
เสียงถามหลังควันบุหรี่หมด ช่างราบเรียบไร้ความรู้สึกใดๆ เขาคงช่ำชองและเคยชินไปแล้วกับสิ่งที่พูด ต่างกับเธอนอกจากสะดุ้งโหยง อ้าปากค้างแล้ว ยังทำตัวไม่ถูกอีก
ไอ้หมอนี่ อะไรกันเนี่ย
" คะ คือไศก็แค่..เดินมาจากทางโน้น แล้วมาสะดุดขาตัวเองตรงนี้ "
เธอชี้ไปยังทางเดินที่เธอเดินมา ยังแสร้งเล่นละครต่อ ซันดรูเลิกคิ้วขึ้นก่อนอมยิ้ม พลางโน้มหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม
" จริงหรือ..? "
" อึก จริงค่ะ "
" แล้วทำไมต้องกลืนน้ำลายด้วย "
" ก็...นี่! เอาหน้าออกไปนะ "
ตายแล้วไศลา จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย คิดผิดมหันต์เลย ที่ใช้ลูกไม้ตื้นๆมาหลอกเขา ลืมไปเสียสนิท หากผู้ชายคนนี้กระจอกไร้น้ำยา เขาคงไม่มาเป็นมาเฟียหนึ่งในแก็งค์อัลฟาหรอก
หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบ เสียงเริ่มตะกุกตะกัก หลังปลายจมูกของเขาอยู่ห่างแก้มเธอไม่ถึงคืบ พร้อมฝ่ามือบางเล็กเผลอทาบแผงอก
" ทำไมหรือ? เหม็นบุหรี่หรือ"
ใครบอกเล่า เธอกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ต่างหาก ทั้งกลิ่นน้ำหอมที่หอมสุดๆ กับแอลกอฮอลล์ และควันบุหรี่ เมื่อมาพบเจอกันแล้ว มันช่างเข้ากันดีอะไรอย่างนี้ ราวกับกิ่งทองใบหยก!
" ชะ ใช่ค่ะ " ทว่ากลับต้องโกหก ส่วนเขา..
" ฉันว่า...ไม่จริงมั้ง ลองจูบกันหน่อยไหมล่ะ"
" ....!! "
ดวงตาคมโตซึ่งกลมอยู่แล้ว ยิ่งทวีคูณความกลมเข้าไปใหญ่ เมื่อโดนถ่างออก ไศลาตกใจหนักถึงขั้นค้าง ในขณะเขากำลังโน้มหน้าเข้ามา
แต่แล้ว...
" ไศลา เธออยู่ไหนน่ะ "
เหมือนโชคช่วย พระเจ้า... ขอบคุณสวรรค์
พลั่ก!
" ฉะ ฉัน กลับบ้านก่อนนะคะ "
เธอจึงได้โอกาสตรงนั้นผลักอกเขาออก แล้วเร่งวิ่งหนี ลืมไปเสียสนิทว่าตนเองกำลังเล่นละครข้อเท้าแพลงอยู่ ปล่อยคนข้างหลังไว้ ซึ่งหากเขาไม่คิดจะปล่อยไปง่ายๆ ก็ย่อมทำได้ ทว่ากลับเลือกที่จะยืนมอง จนแผ่นหลังนั้นลับตาไป แล้วถึงจะลอบยิ้ม.. ส่วนเธอเมื่อพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น พร้อมหัวใจที่เต้นระทึก กับเสียงช่วยคาดว่าคงเป็นเทเรน่าแล้ว กลับพบเจ้าตัวยืนขวางทางเดินอยู่ หล่อนทำราวกับรอให้เธอวิ่งมาถึง พร้อมสีหน้าที่เคร่งขรึมซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน และ..
หมับ!
" เทเรน่า.." จับต้นแขนเธอบีบลงอย่างแรง..
" อย่ายุ่งกับเขา! "
" เอ๋..."
" อย่ายุ่งกับคุณซันดรู "
"....!!! "
" เข้าใจไหม "
"ทำไม? "
หญิงสาวเลิกคิ้วหน้าฉงน ทั้งที่ต้นแขนถูกบีบจนเจ็บก็ยังไม่คิดสลัดออก กลับเลือกที่จะถามก่อน เพราะความงุนงง เธอไม่เคยเห็นเทเรน่าเป็นแบบนี้ ..ท่าทางโกรธราวกับเธอไม่ใช่เพื่อน แต่แล้ว...
" เพราะว่า.... " ร่างสูงกว่าหรี่ตาลงมามอง เอ่ยเสียงแผ่ว เงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะยิ้มทะเล้น " ฉันเป็นห่วงเธองาย... ฮี่ๆ "
" ห๊า..."
" งงอะไร ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆนะ นอกเหนือจากเหตุผลนี้ มันไม่มีอะไรแล้วล่ะ ไปกันเถอะ"
หล่อนเปลี่ยนท่าทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถลาเข้ามากอดร่างบาง ก่อนจะเดินนำหน้าเธอไป ปล่อยให้ไศลายืนอึ้งไปไม่ถูก ก้มลงมองต้นแขนตัวเองที่โดนหล่อนบีบเสียจนแดงเถือก แล้วตั้งคำถามในใจ
...ใช่หรือ??
แต่ก็เลือกที่จะยักไหล่เลิกคิด ไม่แยแส หากจะให้คิด ควรเป็นเรื่องก่อนหน้า น่าจะเข้าท่ากว่า
" ฟู่ว..เกือบไปแล้ว"
ทว่า..ความว้าวุ่นในใจเหมือนยังไม่จบ หลังเดินตามเทเรน่ามาถึงเคาท์เตอร์บาร์ สิ่งที่เห็นนอกจากโซนผับถูกปิด และหมดเวลาทำงานของเธอแล้ว ยังมีกลุ่มดาร์กกลุ่มเดิมที่ยังนั่งอยู่ ดูผิวเผินพวกเขาเหมือนจะติดลม ถ้าไม่มีใครบางคนลุกขึ้นและเดินมาหา หลังเห็นเธอราวกับนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
" เกิดอะไรขึ้น? " เธอหันไปถามเพื่อน
" ฉันไปรอหน้าร้านนะ "
ทว่ากลับได้มาเพียงน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมสีหน้าละห้อย หล่อนพยักหน้าให้ครั้งเดียว ก่อนจะเดินก้มต่ำผ่านเวเดโน่ไป กลายเป็นเขาที่เดินสวนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแทน
" ฉันเป็นคนสั่งเพื่อนเธอให้ตามเธอมาเอง"
" คะ? "
" เห็นตั้งแต่เธอจงใจเดินตามไอ้ซันไป ก็ชักจะสงสัย "
เขาอยู่ในท่ามือล้วงกระเป๋ากางเกง ดวงตาสีอำพันทอดมองนิ่ง ส่วนเธอใจหายวาบ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
" ฉัน.."
" เธอไม่ได้ปวดฉี่และไม่ได้หาที่อู้ด้วย เพราะตรงนั้นไม่มี..ห้องน้ำ "
" อึก! .."
หมับ!!
มือใหญ่ผละจากการล้วงกระเป๋า ถลามาฉวยแขนเธอ ซึ่งซ้ำรอยเดิมกับเทเรน่า
" บอกมา! เธอต้องการอะไร "
" ฉันไม่ได้ต้องการอะไร ก็แค่อยากจะหาห้องน้ำที่มันปลอดผู้คนมากกว่า! "
ในขณะเธอเอาตัวรอด หวังต้องการจะหลุดพ้น ทว่า แววตานั้นกลับทำเธอประหม่าหนักยิ่งขึ้น
" หืม..." เขากัดฟันกรอด. " เลือกที่จะลุกเดิน หลังจากเพื่อนฉันเดิน ห่างกันแค่สามวิเนี่ย..น่ะนะ "
" อึก.. "
ไศลากลืนน้ำลายลงคออีกอึก ก่อนจะช้อนตาขึ้น ถ่างออกหนักกว่าเดิมด้วยความตกใจ
" หึ อยากจะขายตัวก็ต้องมาบอกฉัน เธอต้องลาออกจากแผนกนี้ก่อน ที่นี่ไม่มีนโยบายให้ควบสอง"
" ....!!! "
พร้อมกับกำปั้นคู่ที่บีบเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่หวานแดงก่ำ เคลือบไปด้วยน้ำใสๆ ที่กำลังทยอยพากันออกมา ก่อนจะ...
เพี้ยะ!!!
ตบหน้าเขา!
เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อฉาดเดียวหันข้าง นั่นไม่เจ็บแสบเท่ากับการยืนนิ่งของเขา ที่ทำคนตบถึงกับอึ้งเพิ่งนึกได้ เธออ้าปากค้าง เมื่อไร้เสียงตอบรับจากเขา เว้นแต่จะค่อยๆหันกลับมาหลังตั้งหลักได้แทน
คงจะชาไปทั้งแถบแต่ระงับไว้ด้วยความอดทน เขาใช้ดวงตาสีอำพันหรี่มองหน้าตาไม่กระพริบ ก่อนเช็ดเลือดตรงมุมปาก ราวกับฝ่ามือของเธอเป็นเพียงค้อนพลาสติกของเล่นเด็ก ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ตอนนี้ได้
หมับ!
ตึง!
" อยากตายรึไง! "
มือใหญ่เยี่ยงคีมกลับฉวยลำคอระหงผลักอย่างแรงจนแผ่นหลังชนกับขอบบาร์ ไศลาจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่ช้อนตามองการกระทำของเขา พร้อมเบ้ปากดวงตาแข็งกร้าวราวกับไฟเพลิง ความกลัวบีบให้เธอดื้อ มากกว่าอ่อนแอร้องขอความตาย คนตรงหน้ากล้าฆ่าเธอแน่หรือ นั่นคือคำถาม
"อึก! " ซึ่งคำตอบคงจะจริง หากไร้เพื่อนอีกสี่ของเขามาห้ามไว้
" เฮ้ย เวเดน หยุด! "
มาเฟียหนุ่มโกรธจัด มองกลับตามันวาว แข็งกร้าวไม่แตกต่าง ในขณะมือขวายังคงบีบลำคอขาว ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบหน้าเขาแบบนี้มาก่อน มันเหมือนหยามกันชัดๆ
แต่หารู้ไม่ ว่าเขาน่ะสมควร
" ไม่เอาน่า"
แล้วกลับต้องยอมหยุด เมื่อถูกมือของสหายเข้ามายึดไว้ แน่นอนร่างบางร่วงลงกับพื้นก้นกบแทบหัก เธอจุก แต่กระนั้นมีเพียงเสียงหายใจที่ผ่อนแรง สูดขึ้นราวกับเพิ่งโผล่พ้นน้ำ
ดวงตาแดงก่ำของเธอ ไม่ได้มาจากการถูกข่มแหง หญิงสาวรู้เขาไม่ได้ออกแรงสักเท่าไหร่ แต่มันมาจากความกลัวใต้จิตสำนึกมากกว่า ผู้ชายตรงหน้าบ้าระห่ำจนเกินจะรับไหว โมโหร้ายจนเธอกลัว นี่ใช่ไหมที่เทเรน่าพยายามห้ามปรามเธอนักหนา ค้านหัวชนฝาไม่ให้มายุ่ง เธอรู้แน่ชัดก็คราวนี้ แต่ไม่มีทางเสียหรอกที่เธอจะยอม ยิ่งโดนกระทำแบบนี้ก็ยิ่งตระหนักให้รู้ว่าเขานั้นคือหน้าตัวเมีย และมันก็ยิ่งกดดันให้เลือดนักสู้ในตัวเธอเพิ่มขึ้น
" ฉันเป็นแค่ลูกจ้างก็จริง ฮึก.. แต่ฉัน ไม่ใช่ขี้ข้า! ฉันตบหน้า เพราะคุณดูถูกฉันก่อน"
เธอแผดเสียงกร้าวระบายความเคืองโกรธ แต่กลับได้ความโกรธกลับมายิ่งกว่า เมื่อโครทิสก้มหน้าลงมากัดฟันกรอด แถมตอนนี้ไม่มีใครช่วยพยุงเธอ เพราะต่างฝ่ายต่างยืนงง ไม่ทราบที่มาว่าด้วยเรื่องอะไร
" การกระทำของเธอมันฟ้อง พนักงานหญิงจะขายตัว ต้องไปอยู่ในตู้กระจกให้เขาเลือก ไม่ใช่มาเดินเร่ขายเอาเปรียบคนอื่นแบบนี้ มันเห็นแก่ตัวจนเกินไป"
" อะ อะไรนะ... นี่คุณ... บ้าไปแล้วเหรอ! "
หญิงสาวเหลืออดกับประโยคสุดท้าย จนกู่ตัวไม่กลับ เธอหลับตาตะเพิดเหมือนคนบ้า ท่ามกลางความงงของทุกคน ก่อนจะอึ้งเข้าไปใหญ่ เมื่อเธอกล้ายืนประจันหน้ากับคนที่ขึ้นชื่อว่า... ร้ายที่สุดอย่างเขา หญิงสาวกำมัดแน่น โกรธจนคุมตัวเองไม่อยู่
" ฉันตามเพื่อนคุณไป ก็แค่อยากจะถามเขาว่า... "
แต่แล้ว...
เพล้ง!
ไม่ทันได้พูดจบ อยู่ๆ กลับมีเสียงกระเบื้องแตก ราวกับขวดเบียร์ตก ขัดจังหวะไว้เสียก่อน และแน่นอน หญิงสาวถึงกับหลับตาปี๋ก้มหน้าเม้มปากแน่น หายใจโล่งท้อง เกือบไปแล้วไงยัยไศลา เกือบเสียแผนเพราะความใจร้อนบ้าๆ ถ้าเกิดถามออกไปตอนนี้ หากมีใครสักคนที่รู้ แต่เลือกที่จะไม่ตอบ มีหวังเธอได้ถูกไล่ออกจากงานก่อนจะรู้เรื่องพี่ชายแน่ๆ
ใช่... ต้องมีสติไว้ ต้องมีความอดทนกว่านี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำให้ขวดเบียร์ล้ม อาจจะจงใจหรือไม่จงใจ เธอจะถือว่านั่นคือโชคที่เข้ามาช่วยเธอ ยังไงก็ขอขอบคุณ... ขอบคุณจริงๆ
" ใครอยู่ตรงนั่นน่ะ ไปดูสิ"
"ฟู่ว..."
ลำพังสงครามนอกฐานวุ่นวายมากพออยู่แล้ว เขาต้องมาจัดการกับสงครามภายในอีกหรือ เรกาโดคิดชีวิตที่ผ่านมาเป็นเช่นไรเขาย่อมรู้ดี การเป็นมาเฟียไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องมีความแกร่งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ควบคู่กับความอดทนก็จริง ทว่าไม่ได้หมายความว่าจะเพียงพอสำหรับพวกเขายังต้องรับมืออีกเยอะ กับศัตรูรอบด้าน นับร้อยนับพันเรียกได้ว่าเป็นโขยง ไหนจะความโลภ ทรยศหักหลัง และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายแต่แล้ววันนี้กลับต้องมายืนดูในขณะในใจสำเนียกรู้แน่ชัดเป็นอย่างดีว่านั่นคือสหายตนหนึ่ง เพื่อนร่วมสาบานที่ไม่ต่างกับคนอื่นๆเพียงแค่เขามีความผิด ซึ่งวัดระดับความรุนแรงไม่มีใครรู้ปริมาณเทียบเท่าด้วยซ้ำ ถ้าหากจะให้รู้เล่าก็ ที่รู้มันย่อมผ่านไปได้ทุกเมื่อหากมันไม่เหนือคำว่า..อภัยใช่แล้ว! อย่างเวเดโน่ไม่มีวันอ่อนข้อให้ใครหรอกเว้นแต่อีกฝ่ายจะยอมยกธงขาวก่อนเท่านั้นโดยเฉพาะซันดรู!ชายร่างสูงอกผายไหล่ผึ่ง ก้าวฉับๆ จากประตูทางเข้าไปยังบาร์ที่มีไว้สำหรับนักดื่มขวับ!ก่อนจะแย่งของในมือ ไปอย่างแรงจนมันปลิวเพล้ง!เสียงแตกหักจากการกระเด็นกระดอนดังตามหลังผู้คนพากันแตกตื่น บ้างก็นั่งนิ่ง บ้างก็ถอยห่าง ทว่าไม่มีใครเลยที่จะ
เตียงนอนสั่นคลอนถี่ปานแผ่นดินไหว นั่นคงเป็นเรื่องปกติของคู่อื่นทั่วไป ใช่สองคนนี้ คนเจ็บด้วยบาดแผลฉกรรจ์คนนึงซึ่งเพิ่งจะทุเลาลง กับอีกคนไม่ต่างจากหญิงชราเพราะหมดสภาพความแข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง หล่อนไม่ใช่หญิงสาวมาดมั่น คิดจะกระโดดตามอำเภอใจอย่างเมื่อก่อนได้อีกแล้ว เพราะภายใต้เนื้อหนังตรงกลางกายมีอีกหนึ่งชีวิตซ่อนอยู่ท้องที่เคยแบนราบดูสวยและเนียนขาว ตอนนี้แปรเปลี่ยนไม่เหลือโครงเดิม ทั้งตึง ทั้งขยายใหญ่โตไศลาหลับตาพริ้ม ย้อนนึกถึงความหลังในครั้งที่เจ็บปวดที่สุด ยามร่างหนาดุนดันเข้ามาแนบชิด สิ่งที่เคยโหยหาถูกแทนที่ด้วยการทับทาบ เธอใช้ฝ่ามือบางลูบไล้ถูไปทั่วแผ่นหลังเบาๆ ราวกับล่องลอยอยู่ในความฝัน กับสีหน้าไม่ต้องบอกก็รู้ จวนจะถึงจุดสูงสุดพร้อมกันทั้งคู่ไม่ต่างกับคนบนตัวหล่อน แม้จะเจ็บหนัก ยามนี้ก็ยังคงเจ็บ ทว่าเพราะความคิดถึงและแรงปราถนากลับหลอมให้เขานั้นลืมความรู้สึกอื่น ดุจคนๆ เดียวกัน เมื่อไศลาเองก็ลืมความเคืองโกรธ และเขาก็ลืมว่าเธอกำลังโกรธเสียงหอบหืดผสมอารมณ์กระสันกระหาย บ่งบอกเป็นอย่างดีถึงความสุข ทั้งคู่ไม่ได้รับมานานมากแล้ว เวลานี้จึงเป็นเวลาที่ดีของพวกเขา"รักไหม? "กับน้ำเสียง
ล้อรถบางครั้งมันก็ตามคนเดินทัน หากคนนั้นคือคนท้องสาวเจ้าน้อยใจสูงสุด ต่อการกระทำของสามี เธอกลายเป็นตัวตลกในสายตาเขา ที่คิดจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เพียงแค่รับรู้ว่าหล่อนนั้นรัก ไม่มีวันหมดแม้จะหยดสุดท้ายช่างน่าเวทนา...ท้องแก่จวนใกล้คลอด ฝ่ามือสากกร้านหนึ่งในคู่ของสามี ก็ไม่เคยจรดลงบนหนังตึงๆนูนๆนี้สักครั้งจะไม่ให้คิดมากก็คงจะไม่ใช่ ก่อนหน้าตอนคนึงหา ใช้ความหวังต่อลมหายใจ บอกตัวเองมาโดยตลอด เขานั้นยังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เหตุผลบางอย่าง ทำเขาต้องหลอกลวงเธอ ก็ว่าเจ็บปวดมากพอแล้วรองลงมา ซ้ำความระทมหนักยกกำลังสองเข้าไปอีก เมื่อรู้ว่าเขานั้นความจำเสื่อม แม้ก่อนหน้าจะมีคิดนอกกรอบไปบ้าง ว่าคนอย่าง โครทิส เวเดโน่น่ะหรือ จะใจเสาะ อ่อนแอนอนติดเตียงนานหลายเดือนปะถิโถถัง.. แท้จริง คือแผนการทั้งเพ ซึ่งจะไม่เจ็บหนักเลย หากแผนนั้นไม่มีเจตนาเอาเธอเข้าไปเป็นตัวละคร ยัดเยียดบทบาทโง่เง่าเต่าตุ่นให้ด้วย!เวรกรรมอะไรของหล่อน?ไศลาคิด ใจจุก ปากสั่นระริก เอาแต่ร้องไห้ พร้อมอุ้งมือบีบเข้าหากันแน่น เจ็บระบมไปหมด แต่นั่นคงไม่ชาเท่ากับความจริงในใจจะเป็นยังไงเธอก็ยังรักเขา..." ไศลา..."ยิ่งมีเสียงทุ้มตามห
ล้อเลื่อนเคลื่อนไปข้างหน้าของกระเป๋าไร้อุปสรรคต่างจากใจเธอ ไศลาครุ่นคิดตลอดเส้นทางที่เดินนับตั้งแต่ที่นั่นกระทั่งถึงที่หมาย แล้วจึงหยุดปลายทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ ได้แค่พร่ำปลอบใจตัวเอง ภาวนาขออย่าให้ทุกอย่างเลวร้ายไปมากกว่านี้เลยเพราะ ที่ผ่านมาเป็นทุกข์เกินพอแล้วรู้ดีเต็มอก ไม่มีวันไหนจะไม่โทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น คนตรงหน้าเป็นแบบนี้..เพราะความดื้อดึงของเธอเองหากไม่จุ้นรนหาที่ในวันนั้น วันนี้จะไม่เป็นบ่อเกิดของความทรมานเลย แม้นคนตรงหน้าจะไม่ตาย ก็ใช่ว่าเธอจะดีใจได้ถึงขีดสุด...การมีชีวิตอยู่ของเขา ที่เอาแต่นอนแน่นิ่ง ทำราวกับเธอเป็นเพียงธาตุอากาศ ความรู้สึกมันดุจมีดคมกริบกรีดอกให้เจ็บปวดเหลือเกิน!เธอจะทำยังไงดี จะทำยังไงดีมีแต่คำนี้ที่วนเวียนใกล้ทำสมองให้เป็นประสาท!" เพราะอะไร? "คำถามที่ออกมาเพียงแค่ลม ทว่าคนได้ยินอย่างเรกาโดรับรู้ดีถึงความเจ็บปวด ดังขึ้นพร้อมสีหน้าสลดไร้เครื่องปรุงแต่งปากเธอซีดเผือดพอๆกับคนบนเตียงที่เอาแต่นอนมองเพดานนิ่ง" เขาจำอะไรไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่พวกเราต้องพึ่งพาเธอ "" ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรก "ก่อนก้อนน้ำตาที่อัดอั้นอยู่นานพอควร จะ
หลายเดือนต่อมาเสียงระบบช่วยหายใจ มองเห็นเพียงสายไฟแล้วจอคอมที่มีเลเซอร์วิ่ง กระนั้นสามารถช่วยต่อชีวิตคนได้ ดังเตือนเป็นจังหวะบีบหัวใจคนฟังมาหลายต่อหลายวันแล้ววันนี้...มันได้เวลาปลุกเจ้านายบนนั้นร่างใหญ่ค่อยๆขยับแค่ปลายนิ้วก่อน จากนั้นจึงจะตามมาด้วยเปลือกตาที่หนักอึ้ง เขากระพริบตาขึ้นลงช้าๆ กระทั่งถี่และเบิกกว้างได้จึงจะสั่งหยุด" อ่า..."เสียงบ่งบอกถึงความปวดหัว กับต้องปรับตัว ปลุกคนข้างๆให้สะดุ้งตื่น เรกาโดถึงกับสร่างงัวเงียเมื่อเห็นกันเลยทีเดียว" เว้ด! ฟื้นแล้วเรอะ "แต่แล้ว..เขาคนนั้นกลับขมวดคิ้วทำหน้างง ค่อยๆหันมาทางเจ้าของเสียง" ใคร..." เอ่ยเสียงแผ่วซึ่งนั่นทำให้คนได้ยินมันอย่างครูซัสถึงกับนิ่งเงียบไปเขาอึ้ง สร่างง่วงเป็นปลิดทิ้ง" ใคร..."" กูหรือ?? ก็เพื่อนมึงไงพวก เรกาโด "" เพื่อน .." เขาทวนก่อนชี้หน้าอกตัวเองพลางเลิกคิ้ว ทำคนฟังถึงกับดีดตัวขึ้นมานั่งแบบมีสติพลางลูบหน้า ลูบเครา ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ทางด้านของไศลาช่วงเวลาเดียวกันแต่คนละขั้วโลกเพล้ง!เสียงแตกหักของจานกระเบื้องดังสะเทือนลั่นบ้าน มือสั่นเทาของหล่อนชะงัก หลังเสียงนั้นปลุกสติให้
ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่ในห้องมืด คล้ายกับห้องลับที่เคยบรรจุบุคคลสำคัญในอดีต มือคู่แข็งแลเห็นแต่เส้นเลือด ปูดขึ้นบ่งบอกให้รู้ถึงความหนักของสงครามในแต่ละครั้งที่ผ่านมา พร้อมใจกันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงในขณะใบหน้าเรียวได้รูปวางตรงเหม่อลอย สายตาพยายามเก็บกักอาการที่กำลังจะออกมาเอาไว้ พลางต่อต้านด้วยความอดทนขั้นสูงสุด ซึ่งสั่งหยุดเอาไว้ชั่วคราวไม่ให้มีโอกาสได้เปิดเผย หวังรอช่วงเวลานี้ให้ผ่านพ้นไป...ประมาณนั้น....มองตรงไปยังตำแหน่งหนึ่ง ที่ไม่ได้พิเศษอะไร หรือน่าสนใจเสียจนต้องให้ความสำคัญทว่า เพียงแค่จุดนั้นสามารถทำให้สมองเขาโลดแล่นต่อไปได้ นั่นคือความจำเป็นที่ต้องการเรกาโด ครูซัส ผู้ครองตำแหน่งคนคิดค้นหนทางการเอาตัวรอดในบางครั้งของแก็งค์รองลงมาจากใครคนหนึ่ง คนที่วิญญาณหายสาบสูญยากที่จะหวนกลับมาในตอนนี้บัดนี้...ไร้แล้วซึ่งศักยภาพตรงนั้นภาพจำวนเวียนมายังโซนสมองของเขา นั่นคือส่วนที่มีความอ่อนแอแฝงอยู่ สลับกับความแค้น และกฏเกณฑ์อีกจิปาถะ ที่รวมหัวกันสร้างขึ้นมาเองแต่แล้ววันนี้กลับต้องเอามาใช้เขาคิดไม่ถึง และถ้าหากเลือกได้...คงไม่ทำมัน!" ฟู่วว.."ในขณะเขากำลังคิด ถอนหายใจเป็นร้อยรอบ พ







