Share

บทที่ 182

Author: เบลล่า
ดวงตาของฉันเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่ไม่รินไหลออกมา และจะยังคงเป็นแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้ามาร์ค

การอ่อนแอต่อหน้ามาร์คกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกอย่างมีขีดจำกัด

เกิดความเงียบยาวนานหลังจากที่ฉันพูดจบ มาร์คเอื้อมมือออกไปและบีบมือฉันอย่างให้กำลังใจ ฉันซาบซึ้งในสิ่งนั้น ซาบซึ้งกับการมีเขาอยู่ในชีวิตเสมอ

“แล้ว คุณคาดหวังอะไรบ้างถ้าได้เจอเขา?”

ฉันยิ้ม ไม่รู้สึกจุกอก ไม่รู้สึกถึงแอ่งน้ำตาในดวงตาอีก ที่สำคัญที่สุด ความสั่นเครือในเสียงของฉันหายไป “ความคาดหวังสูงสุด แน่ล่ะฉันหวังว่าเราจะคืนดีกันได้ ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะกลับมาพร้อมกับลูคัส เราจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ จัดข้าวของและสะสางเรื่องต่างๆ จากนั้นเราจะพาไอเดนไปตั้งรกรากที่อิตาลีด้วยกัน”

คราวนี้ ฉันเห็นแววเจ็บปวดในดวงตาของมาร์คจริงๆ “โธ่ ซิดนีย์ โธ่”

“อะไร?” ฉันหัวเราะและยักไหล่

“พูดตามตรง ถ้าพวกคุณสองคนกลับไปคืนดีกัน ผมคงเจ็บปวดยิ่งกว่าใคร”

ฉันมองออก อยากพูดปแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป

“การคืนดีกันของพวกคุณ หมายความว่าหลังจากที่ผมผูกพันกับไอเดนแล้ว คุณจะพรากเขาไปจากผมอย่างโหดร้ายและตัดโอกาสที่เราจะกลับมาคืนดีกันอย่างสมบูรณ์ แม้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 183

    สองเดือนต่อมาณ เนเปิลส์ อิตาลีมุมมองของซิดนีย์ริมฝีปากฉันฉีกยิ้มกว้าง ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกส่วนขณะที่ฉันดูคลิปวิดีโอ หัวใจของฉันเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเจ้าลูกชายมากขึ้นตั้งแต่ฉันมาที่นี่ มาร์คและเกรซได้สร้างกลุ่มแชทขึ้นมา และพวกเขาก็ติดนิสัยชอบส่งวิดีโอสั้นๆ เกี่ยวกับการเติบโตของไอเดน รูปถ่ายของเขา รวมถึงรูปเซลฟี่ตัวเองกับเขา บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนกับพวกเขากำลังแข่งกันว่าใครได้ใช้เวลากับไอเดนมากกว่า หรือใครมีช่วงเวลาพิเศษกับเขามากกว่ามาร์คเป็นคนส่งวิดีโอที่ฉันกำลังดูอยู่ เขาใส่คำบรรยายว่า 'ป้าเกรซไม่อยู่หนึ่งสัปดาห์ ทำให้ฉันเป็นคนแรกที่ได้เห็นปาฏิหาริย์'มาร์คอยู่ที่สวนสาธารณะกับไอเดน เขาแต่งตัวให้ไอเดนด้วยชุดเอี้ยมทสีฟ้าสดใสน่ารักที่ทำให้สีตาของเขาโดดเด่น มาร์ควางไอเดนบนเสื่อปิกนิกที่เขาจัดไว้และวางของเล่นกระจัดกระจายอยู่รอบๆ ตัวเขาจากนั้นเขาก็ยกนิ้วโป้งให้กับกล้องและเดินห่างจากเขาไปประมาณหกก้าว“ไง เจ้าหนู!” เขาเรียก และฉันก็หัวเราะเบาๆ เมื่อไอเดนไม่ตอบเขา เพราะจดจ่ออยู่กับของเล่นมากเกินกว่าที่จะตอบรับ“ไอเดนที่รัก มาหาแม่สิ” เขาพูด ทันใดนั้นไอเดนก็สะบัดหัวขึ้น

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 184

    ตอนนั้นดูเหมือนง่าย ลูคัสเคยบอกว่าแหวนวงนี้เคยเป็นของแม่ของเขา ดังนั้นฉันจึงสามารถสืบหาเขาจากตรงนั้นได้ฉันเตรียมเอกสารการเดินทาง ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับโรงแรมในเนเปิลส์ จำกัดผลลัพธ์ไว้ที่สามโรงแรม จากนั้นฉันก็โทรหาแต่ละโรงแรม ในที่สุดก็จองโรงแรมที่เหมาะกับความชอบและการเข้าพักของฉันมากที่สุดฉันมาถึงเนเปิลส์และเริ่มขุดคุ้ยข้อมูล สืบถามเกี่ยวกับตระกูลเอสโปซิโตก่อน แต่ทุกคนดูเหมือนจะไม่รู้จักพวกเขา ตอนนี้ฉันยังไม่เชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง พวกเขาแกล้งทำหรือไม่รู้จักตระกูลนี้จริงๆ กันแน่ แต่ฉันเชื่อในอย่างแรกมากกว่า ฉันยังโชว์รูปของลูคัสให้ใครก็ตามที่ฉันไปสอบถาม แต่ก็เจอกับปฏิกิริยาเดียวกัน เกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้? ฉันคิดอย่างโกรธเคืองหลายครั้งอิตาลีเป็นประเทศที่สวยงาม อันที่จริง ฉันตั้งใจไว้ว่าสักวันหนึ่ง ไอเดน เกรซ และฉันจะต้องมาเที่ยวประเทศนี้ และคงจะแนะนำให้มาร์คมาด้วย แต่เขาอาจจะเคยเดินทางมายังส่วนนี้ของโลกแล้วอาหารในอิตาลีไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับที่ฉันได้ลิ้มรสอาหารส่วนใหญ่ของพวกเขาในร้านอาหารนานาชาติที่บ้านเกิด วัฒนธรรมของพวกเขาก็น่าตื่นเต้นเช่นกัน แต่สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดเกี่ย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 185

    ดังนั้นฉันจึงอยู่ต่อ ฉันไม่ได้ทิ้งไอเดนไว้นานขนาดนี้เพื่อที่จะกลับไปมือเปล่า ฉันยืนกรานในอุดมการณ์ตัวเอง แนวทางปฏิบัติถัดไปของฉันคือการโพสต์บนโซเชียลมีเดียหลายแห่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอให้ใครก็ตามที่รู้อะไรเกี่ยวกับตระกูลนี้ส่งข้อความส่วนตัวมาหาฉัน หรืออาจจะเป็นสมาชิกของตระกูลก็ได้ฉันไม่คิดว่าโพสต์นั้นจะอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียวก่อนที่มันจะถูกลบความลึกลับทั้งหมดนี้ มันบ้ามาก ถ้าฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมา มันออกจะน่ากลัวอยู่บ้าง แต่ฉันปฏิเสธที่จะถอยหลายครั้งที่ฉันคิดที่จะบอกมาร์คหรือเกรซเกี่ยวกับทุกอย่าง เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาถามว่าการค้นหาคืบหน้าไปถึงไหน แต่แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน พวกเขาเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจจะฝากลูกชายได้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำแบบนั้น จะไม่ดึงพวกเขาเข้ามาในความคลุมเครือของทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ ชีวิตของลูคัสฉันจะจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเองสองเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันพบว่าตัวเองค่อยๆ จมลงสู่ความวิตกกังวลเมื่อวันเวลาของฉันในอิตาลีเหลือน้อยลง วีซ่าของฉันกำลังจะหมดอายุ เช่นเดียวกับการจองโรงแรม ใกล้ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านแล้ว ถึงเวลากลับบ้า

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 186

    เธอส่งอิโมจิหัวเราะ กะโหลก และหัวใจแตกสลาย จากนั้นก็เริ่มพิมพ์อีกครั้งเมื่ออ่านคำตอบของเธอที่ส่งเข้ามา ฉันรู้ว่าตัวเองอยู่ห่างจากลูคัสเพียงไม่กี่ก้าว'เขาชอบไปบาร์นี้ คืนพรุ่งนี้เขาอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้นะ' เธอส่งรูปภาพบาร์ดังกล่าวหรืออาจจะเป็นคลับ พร้อมกับแนบข้อความมาด้วยจากนั้นข้อความอื่นก็ตามมา 'คุณลองไปดูที่นั่น ควักหัวใจเขาออกมาให้ได้ล่ะ'อีกข้อความส่งตามมาทันทีหลังจากนั้น 'เพื่อพวกเรา'ฉันบอกเธอว่าแทบรอไม่ไหวแล้ว และจะไปดูที่คลับนั้นแน่นอนถ้าขอเลิกงานก่อนเวลาได้ในวันรุ่งขึ้นเราใช้เวลาคุยกันมากขึ้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีจริงๆ ทันใดนั้นฉันกลับรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งทำซ้ำแบบเดียวกันกับที่ลุยจิเคยทำกับเธอแต่ฉันไม่มีทางเลือก นอกจากนี้ เนื่องจากเธอไม่เห็นรูปตัวจริงของฉัน บางทีฉันน่าจะลบบัญชีไปซะ เธอไม่มีทางรู้แน่ใช้เวลานานมากกว่าอีกวันจะมาถึง กลางคืนเวลานานยิ่งกว่า เมื่อมันมาถึงในที่สุด ฉันพบว่าตัวเองอยู่หน้าคลับที่ลักษณะภายนอกเหมือนกับรูปภาพที่ผู้หญิงคนนั้นส่งมาให้ฉัน ฉันสวมกางเกงขาสั้น เสื้อครอปคอเต่าและรองเท้าบูทที่แข็งแรงแต่สวมใส่เบาสบายเผื่อต้องวิ่ง ชุดนี้ออกแบบมาเพื่อใ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 187

    มุมมองของซิดนีย์“ลูคัส” ฉันเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ “ทำไมคุณถึงเอาปืนจ่อฉันล่ะ?” ฉันรู้ว่าฉันควรรู้สึกกลัวการถูกปืนจ่อน้อยลงเพราะลูคัสปรากฏตัวขึ้น แต่มันกลับตรงกันข้าม ฉันรู้สึกกลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นเขาดวงตาของฉันเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ขณะที่ฉันมองไปที่ชายตรงหน้าเรา เขาเป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง เขาไม่เหลือท่าทีอ่อนโยนของชายที่ฉันตกหลุมรักเลยสักนิดลูคัสไม่แม้แต่จะรับรู้การมีอยู่ของฉัน หรือทำท่าเหมือนได้ยินคำถามของฉัน เขาแค่หันไปหาลุยจิ ริมฝีปากบิดเบี้ยวอย่างไม่น่าพอใจด้วยความโกรธ ก้าวเดินอย่างน่ากลัวไปทางเขา และลุยจิก็ก้าวถอยหลังอย่างลังเล ยอมให้ปืนกดแน่นที่ต้นคอมากกว่าที่จะอยู่ใกล้ลูคัส“นายทำอะไร?!” กำปั้นที่กำแน่นของเขาสั่น ในที่สุดเขาก็ตะคอกออกมาอย่างรุนแรง เขาไม่ได้หันหน้ามาหาหรือพูดกับฉัน แต่ฉันก็สะดุ้งด้วยความตกใจ สงสัยว่าลุยจิยังคงอยู่ในสภาพเดิมได้ยังไง เขาไม่กระพริบตาด้วยซ้ำเมื่อลูคัสตะคอกใส่ เดาว่าเขาคงจะชินกับมันแล้ว ในทางกลับกัน ฉันเพิ่งค้นพบด้านนี้ของแฟนฉันและพ่อของลูก เยี่ยมไปเลย“บอสครับ ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ลุยจิพูดออกมาด้วยความนอบน้อมพลางส่ายหน้า ลุยจิอาจจะไม่แสด

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 188

    ความกลัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนจุกตื้นมาถึงลำคอ ดวงตาของฉันเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา “ลูคัส หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ฉันร้องไห้ เสียงฉันสั่นเครือเขาไม่พูดอะไร แค่มองดูด้วยสีหน้าเฉยเมยฉันกระแอมและกลืนน้ำลาย บางทีถ้าฉันบอกเขาว่าทำไมฉันถึงมาที่นี่ เขาอาจจะกลับมามีสติ“ลูคัส ฟังนะ ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาคุณ เพราะฉันต้องบอกคุณว่าฉัน...”คำอธิบายของฉันว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ในอิตาลี และข่าวที่เรามีลูกด้วยกันกลายเป็นเสียงอู้อี้ที่ไม่ปะติดปะต่อเมื่อมีมือเอื้อมมาปิดปากฉันไว้ จากนั้นฉันก็ถูกปิดปากโดยไม่มีคำเตือน จากนั้นหนึ่งในนั้นก็โยนฉันขึ้นพาดบ่าของเขาถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉันก็ยังคงดิ้นอยู่บนบ่าของพวกเขา พยายามสื่อสารกับลูคัสให้ได้ แต่ทั้งหมดเป็นคำพูดที่อู้อี้หลายครั้ง พวกเขาทั้งหมดรวมถึงลูคัสพากันหัวเราะเยากับการพยายามพูดของฉันลุยจิและฉันถูกพาไปยังรถที่จอดด้านข้าง ฉันถูกมัดไว้ที่เบาะหลัง ส่วนลุยจิยอมจำนนอยู่ข้างๆ ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุยจิถูกจับมัดไปด้วย ฉันอาจจะทำให้ลูคัสสูญเสียความไว้วางใจในตัวลุยจิเพียงเพราะเขาเจอฉันลูคัสไม่ได้ขึ้นรถคันที่เราถูกพาตัวไป ขณะที่

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 189

    มุมมองของซิดนีย์คำเหล่านั้นวิ่งวนอยู่ในหัวของฉันราวกับว่ามีค้อนปอนด์กระแทกกับกำแพงเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดในหัวโครม!เสียงดังก้องไม่หยุดหย่อน ฉันคงจะยกมือกุมหัวตัวเองไว้แล้วถ้าฉันยังไม่โดนมัดป่าตกอยู่ในความเงียบ แม้แต่เสียงเพลงก็จมหายไป ราวกับว่าพวกเขากำลังรอให้ฉันรับรู้ความจริงฉันเริ่มคิดย้อนกลับไปตอนที่คุณยายดอริสแนะนำมาร์คให้ฉันรู้จัก คุณยายดอริสรู้เรื่องนี้ด้วยไหม? ฉันเริ่มสงสัยนอกจากนี้ เป็นไปได้ยังไง? เขาจะไม่ใช่ลูคัสได้อย่างไร เขาดูเหมือนเขาทุกประการ การพูดและท่าทางเหมือนลูคัสทุกอย่าง ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาเป็นสิ่งที่ฉันจำได้ดี!ฉันหันสายตาไปที่เขา เสียงของฉันสั่นเครือขณะที่ฉันถาม “เรื่องโกหกทั้งเพ!” ฉันพูดลอดไรฟันกับพวกเขาทั้งสอง “ในเมื่อคุณไม่ได้รักฉันแล้ว ลูคัส บอกฉันตรงๆ ก็ได้ ทำไมต้องแต่งเรื่องปวดหัวแบบนี้”ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาของลุยจิที่จ้องมองมาที่ขมับฉัน และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองลูคัส เขากลับจ้องมองมาที่ฉัน มุมหนึ่งของริมฝีปากกระตุกเป็นครั้งคราว“ฟังนะ ฉันไม่เป็นไร ได้ยินไหม? ไม่เป็นไร ฉันเตรียมใจไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่ฉันมาที่นี่ว่าจะโดนคุณปฏิเสธ ดังนั้นคุณควรหย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 190

    “ดีแลนกับผมทำงานเป็นผู้ดูแลกะกลางคืนในโรงพยาบาล...”คิ้วของฉันเลิกขึ้นไปเกือบถึงไรผมโดยไม่รู้ตัว เป็นเรื่องยากที่จะนึกภาพพวกเขาคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ดูแลลูคัสถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลที่ดีแลนและลุยจิทำงานอยู่ความร่ำรวยของลูคัสเป็นที่รู้จักของทุกคนในโรงพยาบาล และสิ่งนี้ควบคู่ไปกับความจริงที่ว่าเขายังหนุ่มแน่น ทำให้พวกเขาดึงดูดความสนใจพวกเขาตั้งใจเข้าใกล้ลูคัสเพื่อหวังจะโกงเงินเขา ลูคัสป่วยและโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ผูกพันกับดีแลนและลุยจิซึ่งอายุใกล้เคียงกันอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงง่ายที่พวกเขาจะรู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับเขาหัวใจของฉันเจ็บปวดเมื่อรู้เรื่องนี้ ถ้าลูคัสมีเพื่อนมากขึ้น เขาอาจจะมีภูมิต้านทาน จับผิดได้ว่าลุยจิกับดีแลนไม่ได้สนใจที่จะผูกมิตรกับเขาจริงๆ แต่ต้องการเงินของเขา แต่ลูคัสฉลาดและคาดการณ์ได้แม่นยำ อาจเป็นเพราะเขาต้องการเพื่อนคุย แม้ว่าเขาจะไม่เคยแสดงออก เขาก็ปรารถนาที่จะมีใครสักคนคุยด้วยเสมอ“ตอนแรกเราไม่มีแผนอะไรเลย” ลุยจิพูดต่อ ยังคงปฏิเสธที่จะสบตาฉัน “เราแค่เออออไปตามน้ำ หวังว่าจะมีโอกาสบางอย่างเกิดขึ้น เช้าวันหนึ่ง หลังจากเราหมดกะ เราบอกลาลูคัสและกำลังจะกลับบ้าน ด

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status