Compartilhar

บทที่ 2

Autor: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 2

ณ บ้านตระกูลสวี

ฉินเซียวรีบก้าวเข้าไปก่อน ตรงขึ้นไปชั้นบนอย่างร้อนรน โดยทิ้งเธอไว้ข้างหลัง

มองดูแผ่นหลังที่เร่งรีบของเขา สวีเหยียนซีรู้สึกเหมือนเท้าของเธอถูกเทด้วยตะกั่ว ก้าวเดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ระหว่างทางมา เธอสังเกตเห็นแล้วว่าบนใบหน้าที่เคร่งขรึมของฉินเซียวแฝงไว้ด้วยความร้อนรนและกระวนกระวายที่ไม่อาจปกปิดได้เลย

นั่นไม่ใช่ความรู้สึกผิดหรือความประหม่า เพราะสีหน้าแบบนั้นเขาเคยแสดงออกมาตอนที่เธอถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินเพราะปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง

สามีของเธอไม่สนใจเธอ กลับเป็นห่วงผู้หญิงอีกคน

ตอนนี้ทุกคนอยู่ในห้องของสวีหว่านหนิง เท้าของเธอหยุดอยู่แค่หน้าประตู และฉากที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง!

สวีหว่านหนิงนอนร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของฉินเซียวราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ฉินเซียวทำท่าทางแบบเดียวกับที่เขาเคยทำกับเธอ เขาปลอบโยนเธออย่างอดทนและเป็นห่วง

ส่วนคนอื่น ๆ กลับไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้ผิดปกติเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น ร่างสูงใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ “ตามพี่มา”

สวีเหยียนซีถูกพี่ชายคนโตจับข้อมือและพาเข้าไปในห้องหนังสือ

ทันทีที่ประตูปิดลง สวีเหยียนเช่อบอกเธอว่า “หมอบอกว่าโรคซึมเศร้าของหนิงหนิงกำเริบอีกแล้ว”

เธอทำสีหน้าเรียบเฉย “สาเหตุคืออะไร?”

“เพราะฉินเซียว”

เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเหยียนซีก็แสยะมุมปาก เธอรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าครั้งนี้สวีหว่านหนิงโรคซึมเศร้ากำเริบจริงหรือไม่ “พี่ใหญ่คะ ฉันกับฉินเซียวเพิ่งจดทะเบียนสมรสวันนี้เอง”

สีหน้าของชายหนุ่มดูเคร่งขรึม “ก็เพราะว่าเธอกับฉินเซียวจดทะเบียนสมรสกันไงล่ะ มันเลยกระตุ้นหนิงหนิง เมื่อกี้เธอก็เห็นแล้ว หนิงหนิงผูกพันกับฉินเซียว”

มองดูพี่ชายที่รักและดูแลเธอมานานกว่ายี่สิบปี สวีเหยียนซีกลับรู้สึกแปลกหน้า เธอพูดเยาะเย้ยทั้งดวงตาแดงก่ำว่า “พี่ใหญ่หมายความว่าอยากให้ฉันยกฉินเซียวให้เธอเหรอคะ?”

“พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น”

“แล้วพี่ใหญ่หมายความว่าไงคะ?” สวีเหยียนซีฉุกคิดได้ว่า “อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว พี่หมายความว่าตอนที่สวีหว่านหนิงต้องการสามีของฉัน ฉันก็ต้องใจกว้าง ปล่อยเขาไปใช่ไหมคะ เพราะว่าฉันเป็นคนทำให้เธอเป็นแบบนี้ ฉันก็เลยมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ใช่ไหมคะ?”

สวีเหยียนเช่อจับไหล่เธอด้วยสองมือพลางพูดอย่างอดทน “ซีซี ตอนนี้หนิงหนิงอารมณ์ไม่คงที่ หมอบอกว่าตอนนี้เธอมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย และในอนาคตก็จะมีความคิดแบบนี้อีกหลายครั้ง กว่าจะตามหาหนิงหนิงกลับมาได้ เธอทนเห็นพ่อแม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวอีกครั้งได้เหรอ?”

เขาใช้วิธีนี้มาผูกมัดเธอทางศีลธรรมอีกแล้ว

ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเธอ ทำไมเธอต้องแบกรับความรู้สึกผิดด้วย

เธอผิดเองที่ใจอ่อนตอนที่ตัดสินใจจะไปจากตระกูลสวีเป็นครั้งที่สอง

เธอปัดมือของสวีเหยียนเช่อออก “ฉันพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พี่ไปถามความเห็นของฉินเซียวเองเถอะ”

สวีเหยียนเช่อตาเป็นประกาย กลับมามีแววตาเป็นมิตรและอ่อนโยนในทันที “ตราบใดที่เธอไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะไปพูดกล่อมฉินเซียวเอง”

แต่ในขณะนั้นเอง ประตูห้องหนังสือก็ถูกเปิดออกอย่างแรง

ตามมาด้วยฉินเซียวที่มีสีหน้าโกรธจัดบุกเข้ามา “ผมไม่เห็นด้วย!”

การปฏิเสธของเขาทำให้สวีเหยียนซีถึงกับตกตะลึง

ฉินเซียวก้าวพรวดพราดเข้ามาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “ผมเป็นสามีของคุณ คุณจะยกผมให้คนอื่นได้ยังไง!”

สวีเหยียนซีนิ่งงันไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เข้าใจว่าเขายังมีหน้ามาตำหนิเธออย่างมั่นอกมั่นใจในเวลานี้ได้อย่างไร

ทั้งที่เมื่อครู่นี้ เขาเองต่างหากที่รีบร้อนพุ่งเข้าไปปลอบโยนและโอบกอดสวีหว่านหนิง

เธอยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ฉินเซียวก็จับมือเธอไว้แน่นพลางพูดกับสวีเหยียนเช่ออย่างโกรธเคืองว่า “เสี่ยวซีเรียกคุณว่าพี่ใหญ่ ดังนั้นผมก็ถือว่าคุณเป็นพี่ใหญ่เหมือนกัน แต่ขอให้คุณมีเหตุผลกว่านี้หน่อย ความทุกข์ของสวีหว่านหนิงอย่าเอามาเป็นแรงกดดันให้ภรรยาผม อีกอย่าง! พี่ไม่คิดว่าการกระทำแบบนี้มันผิดศีลธรรมเหรอ?”

“วันนี้เราเพิ่งจดทะเบียนสมรสกัน พี่กลับผลักไสน้องสาวแท้ ๆ มาให้ผม พี่ชายแท้ ๆ อยากให้น้องสาวตัวเองเมียน้อยคนอื่นจนตัวสั่นขนาดนั้นเลยเหรอ?”

สวีเหยียนเช่อหน้าเขียวปั๊ด “ฉินเซียว พูดจาให้มันดี ๆ หน่อย!”

สายตาของฉินเซียวแข็งกร้าวขึ้น “ถ้าพี่ให้เกียรติภรรยาผม ผมก็จะพูดจาดี ๆ เอง มันดึกมากแล้ว ผมต้องพาภรรยากลับไปพักผ่อน ขอตัวก่อน”

หลังจากประกาศจุดยืนแล้ว ฉินเซียวก็พาสวีเหยียนซีออกไป

ปล่อยให้เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของสวีหว่านหนิงดังขึ้นในห้อง

สวีเหยียนซีนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ ฉินเซียวคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธออย่างเอาใจใส่ แล้วลูบหน้าของเธอเบา ๆ “ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ตรงนี้”

คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความพลังและความปลอดภัย เขายังคงปกป้องเธอเหมือนเดิม แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย สวีเหยียนซีรู้สึกสับสน เพราะเธอไม่สามารถเชื่อมโยงฉินเซียวในกล้องวงจรปิดกับฉินเซียวในตอนนี้เข้าด้วยกันได้เลย

ในขณะที่เธอกำลังสับสนวุ่นวายใจ จู่ ๆ ฉินเซียวก็จอดรถข้างทาง “ที่รัก มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องสารภาพกับคุณ”

เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเหยียนซีก็รู้สึกใจเต้นแรง เธอแสร้งทำเป็นใจเย็น “เรื่องอะไรเหรอ?”

“ขอโทษนะ จริง ๆ แล้วเมื่อคืนคนที่โทรมาคือสวีหว่านหนิง เธอเคยสารภาพรักกับผมเมื่อนานมาแล้ว แต่ผมก็ปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว เมื่อคืนเธอขู่ผมว่าถ้าผมไม่ยอมคบกับเธอ เธอจะฆ่าตัวตาย ผมคิดว่าเธอแค่ขู่เล่น ๆ แต่ไม่คิดว่าเธอจะเอาจริง” ฉินเซียวทำหน้าสำนึกผิด

“ที่ผมไม่บอกคุณเพราะผมไม่อยากให้คุณได้รับผลกระทบ ผมคิดว่าพอเราแต่งงานกันแล้ว เธอจะยอมแพ้ไปเอง แต่ใครจะไปคิดว่าเธอ...”

ฉินเซียวหยุดพูดแล้วกอดเธอเอาไว้ ซบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ “ครั้งนี้เธอแค่กรีดข้อมือ ครั้งหน้าไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก แบบนี้มันส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ของเราอย่างมาก”

สวีเหยียนซีโอบกอดเขาไว้หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว

เรื่องที่เธอสับสนเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนจะได้รับคำตอบแล้ว

คนที่พยายามยั่วยวนและล่อลวงฉินเซียวคือสวีหว่านหนิง เธอแค่อยากเห็นเธออับอายและพังทลาย

ฉินเซียวไม่ได้เปลี่ยนไป และเธอก็ไม่ควรตกหลุมพรางของสวีหว่านหนิงจริง ๆ

ถ้าอย่างนั้นก็ให้อภัยเขาสักครั้ง และแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอก็พูดว่า “แต่เธอเป็นโรคซึมเศร้าจริง ๆ นะ”

“งั้นพรุ่งนี้เราไปฮันนีมูนกันดีกว่า ไปเที่ยวสักสามสี่เดือนแล้วค่อยกลับมา ผมคิดว่าตอนนั้นเธอคงจะยอมแพ้และควบคุมอาการซึมเศร้าได้แล้ว คุณว่าไง?”

สวีเหยียนซีคิดว่า นี่น่าจะเป็นวิธีที่ดี

“ดีค่ะ เอาตามที่คุณว่า”

-

กลางดึกเงียบสงัด

สวีเหยียนซีตื่นขึ้นมาเพราะโทรศัพท์สั่น ซึ่งเป็นสายจากพี่ใหญ่ เธอกำลังจะหยิบโทรศัพท์และออกไปรับสาย แต่ก็พบว่าฉินเซียวไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เธอแล้ว

เธอยื่นมือเข้าไปในผ้าห่ม แล้วพบว่าตรงที่ฉินเซียวนอนนั้นเย็นเฉียบ

ด้วยความสงสัย สวีเหยียนซีจึงรับโทรศัพท์ ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากเสียงทุ้มต่ำของพี่ชายก็ดังขึ้น “รู้ไหมว่าตอนนี้ฉินเซียวอยู่ที่ไหน?”

คำถามนี้ทำให้หัวใจของสวีเหยียนซีเต้นแรงขึ้นมาทันที เธอเดินเท้าเปล่าออกจากห้องนอนเพื่อสำรวจบริเวณทางเข้า

จากนั้นก็พบว่ารองเท้าหนังของฉินเซียวหายไปแล้ว

เธอได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของพี่ชายในโทรศัพท์ “ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงของหนิงหนิง กอดหนิงหนิงเหมือนกับที่เขากอดเธอ เมื่อกี้เขาด่าพี่ต่อหน้าเธอว่าอะไรนะ? บอกว่าพี่ผลักไสน้องสาวแท้ ๆ ให้ไปเป็นเมียน้อยเขา ฮ่า ๆ ซีซี นี่คือผู้ชายที่เธอยืนกรานจะแต่งงานด้วย เธอแน่ใจเหรอว่าเธอรู้จักเขาดีพอแล้ว?”

ในขณะนั้น สวีเหยียนซียืนอยู่กับที่ราวกับเลือดในร่างกายของเธอแข็งตัวฉับพลัน

คำพูดของพี่ชายเหมือนกับการตบหน้าเธออย่างแรง

ฉินเซียวกล่อมเธอให้นอนหลับ แล้วก็รีบไปปลอบโยนสวีหว่านหนิง...

ทั้ง ๆ ที่เธอเลือกที่จะให้อภัยเขาแล้ว แต่ทำไมเขาถึง...

“รู้ไหมว่าเขาปลอบหนิงหนิงว่ายังไง?” สวีเหยียนเช่อไม่ยอมเลิกรา เขาต้องการให้เธอเห็นตัวตนที่แท้จริงของฉินเซียวอย่างหมดเปลือก “เขาบอกว่าคนที่เขารักที่สุดคือหนิงหนิง และจะตามใจเธอเหมือนกับเจ้าหญิงตัวน้อยไปตลอดชีวิต หนิงหนิงขอให้เขาหย่ากับเธอ เขาก็ลังเล”

“ซีซี พี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเธอนะ แต่เขาเองต่างหากที่มีใจให้คนอื่นอยู่แล้ว!”
Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status