Share

บทที่ 3

Aвтор: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 3

สวีเหยียนซีกำหมัดแน่นจนเล็บแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ พยายามทำให้เสียงดูสงบที่สุด “พี่ใหญ่ ขอบคุณที่บอกเรื่องพวกนี้กับฉันนะคะ”

แต่สวีเหยียนเช่อก็ยังฟังออก น้ำเสียงของเขาจึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน “ซีซี อย่าโทษพี่เลยนะ เธอเป็นน้องสาวที่โตมาด้วยกันกับพี่ พี่อยากให้เธอเจอแต่ผู้ชายดี ๆ ไม่ใช่ไอ้สารเลวที่หลายใจแบบนี้”

คำพูดนี้ทำให้สวีเหยียนซีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเสแสร้งสิ้นดี

ทั้ง ๆ ที่เขากำลังช่วยสวีหว่านหนิงแย่งฉินเซียวไปจากเธอ แต่กลับต้องพูดจาดี ๆ แบบนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นพี่ชายที่แสนดี

เธอหลับตาลงพลางหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสวีหรือฉินเซียว พวกเขาก็เหมือนขยะ

เธอไม่ต้องการขยะเหล่านี้

“ซีซี...”

“พี่ใหญ่คะ ฉันง่วงมากแล้ว เรื่องอื่นไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะค่ะ” สวีเหยียนซีพูดอย่างเย็นชาและวางสายทันที

สวีเหยียนเช่อโทรมาอีกครั้ง แต่เธอก็เลือกที่จะปฏิเสธ

เธอนั่งอยู่บนโซฟาเพื่อปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หาชื่อหนึ่งในรายชื่อในโทรศัพท์

——จ้าวจวิ้นโจว

เธอส่งข้อความไปหาเขาว่า [คุณจ้าวคะ ข้อตกลงเมื่อสามปีก่อนยังใช้ได้อยู่ไหมคะ?]

ตอนนี้เป็นเวลาตีสอง แน่นอนว่าสวีเหยียนซีไม่ได้คาดหวังว่าจ้าวจวิ้นโจวจะตอบกลับมาทันที

ขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นกลับห้องนอน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นชื่อจ้าวจวิ้นโจวบนหน้าจอโทรศัพท์ หัวใจของสวีเหยียนซีก็เต้นแรงขึ้นมาทันที

“สวัสดีค่ะ คุณจ้าว”

“ถ้าผมจำไม่ผิด วันนี้คุณกับฉินเซียวเพิ่งจดทะเบียนสมรสกัน” เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความรู้สึกสบาย ๆ และแหบแห้งเล็กน้อย

คำพูดเย้าแหย่ของเขาทำให้ใบหน้าของสวีเหยียนซีแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว

ในฐานะลูกสาวของตระกูลสวี เธอถูกกำหนดไว้ว่าไม่ต้องสร้างอาชีพใด ๆ เพียงแค่เรียนดนตรี การวาดภาพ การเขียน และการเล่นหมากรุก ให้เป็นกุลสตรีที่ดีก็พอ

ดังนั้นสวีเหยียนซีจึงถูกจัดให้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่เธอถนัดที่สุดคือการออกแบบสถาปัตยกรรม การแปลภาษาต่างประเทศ และการร้องเพลง

ความจริงแล้วตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เธอก็เริ่มวางแผนให้กับตัวเองอย่างลับ ๆ นั่นคือการเป็นครูสอนร้องเพลง และเธอก็บังเอิญพบกับจ้าวจวิ้นโจวครั้งหนึ่งในบ้านของนักเรียน

ตระกูลจ้าวเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดตั้งแต่เกิด

สวีเหยียนซีจึงพยายามหลีกเลี่ยงเขา แต่เขากลับมักปรากฏตัวต่อสายตาของเธอโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเสมอ

เธอรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้น เธอจึงปฏิเสธเขาอย่างชัดเจนและเด็ดขาด

ตอนนั้นจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้โกรธเคืองที่ถูกเธอปฏิเสธ แต่กลับยิ้มและพนันกับเธอ เขาบอกว่าเธอกับฉินเซียวจะไม่มีอนาคตที่ยั่งยืนด้วยกัน คำพูดนี้ทำให้เธอโกรธและในที่สุดเธอก็ยอมรับการเดิมพันของเขา

ภายในสามปี ถ้าเธอกับฉินเซียวไม่มีอนาคตร่วมกัน เธอจะต้องเข้าร่วมทีมสถาปนิกของเขา

ตอนกลางวัน เธอยังจงใจโพสต์รูปทะเบียนสมรสลงในไทม์ไลน์เฟสบุ๊ค และผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนแรกที่กดไลก์

ใครจะไปคิดว่าในคืนเดียวกันนั้น เธอจะถูกตบหน้าอย่างจัง

สวีเหยียนซีไม่มีทางเลือกอื่น

เธอต้องการที่จะหลุดพ้นจากตระกูลสวีอย่างสมบูรณ์ เธอต้องสร้างรากฐานที่มั่นคงในเมืองจิง และเธอต้องการคนที่แข็งแกร่งกว่ามาเป็นที่พึ่ง

“ทะเบียนสมรสก็สามารถกลายเป็นใบหย่าได้ค่ะ” สวีเหยียนซีเอ่ย

จากนั้นเสียงหัวเราะเบา ๆ ของชายหนุ่มก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ “สวีเหยียนซี การเดิมพันครั้งนี้ของคุณดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ไปหน่อยนะ”

สวีเหยียนซีเงียบไป

“คฤหาสน์จวี๋ซาน คุณมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย”

เมื่อได้ยินดังนั้น เธอก็ตกใจ “ตอนนี้เหรอคะ?”

จ้าวจวิ้นโจวตอบอืมก่อนพูดว่า “มาช้าก็ไม่รอแล้วนะ คุณสวี”

สวีเหยียนซีเม้มริมฝีปาก “ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็ขับรถมาถึงคฤหาสน์จวี๋ซาน ซึ่งเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของจ้าวจวิ้นโจวที่มีมูลค่า 2,900 ล้านบาท

ภายในคฤหาสน์สว่างไสว ทันทีที่เธอเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น

เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขก สิ่งแรกที่เธอเห็นคือชายหนุ่มที่สวมชุดนอนผ้าไหมหลวม ๆ นั่งอยู่กลางโซฟา เขามีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลามาก เส้นกรามที่คมสวยทอดยาวลงไปที่กระดูกไหปลาร้า ทำให้เขามีเสน่ห์ที่ชั่วร้ายมากขึ้น

เมื่อคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องเดินออกไป

จ้าวจวิ้นโจวยกคางขึ้น “นั่งสิ”

“ขอบคุณค่ะ” สวีเหยียนซีนั่งบนโซฟาเดี่ยว บนโต๊ะกาแฟมีเอกสารข้อตกลงฉบับหนึ่งวางอยู่

“ก่อนที่จะเซ็นสัญญา คุณซูควรจะขอโทษผมสำหรับคำพูดที่ไม่ระมัดระวังเมื่อสามปีก่อนไหม?” ดวงตาของจ้าวจวิ้นโจวที่แฝงด้วยรอยยิ้มของจ้าวจวิ้นโจวเหมือนกับเสือดำที่ซุ่มซ่อนอยู่ในยามค่ำคืน ลึกล้ำและอันตราย

“ก่อนจะขอโทษ ฉันขอถามคำถามหนึ่งได้ไหมคะ”

“เชิญ”

“เมื่อสามปีก่อน คุณจ้าวได้แอบสืบประวัติของฉินเซียวใช่ไหมคะ?”

“ตอนนี้คำถามนี้ดูเหมือนจะไม่มีความหมายแล้วมั้ง”

“มีค่ะ” สวีเหยียนซีพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

จ้าวจวิ้นโจวยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ ผมสืบมาแล้ว ทำไมเหรอ คุณจะถามหาความรับผิดชอบจากผมว่า ทำไมตอนนั้นถึงไม่บอกคุณตรง ๆ เหรอ? ผมอยากจะบอกคุณเหมือนกันนะ แต่ตอนนั้นคุณระวังตัวกับผมมากขนาดนั้น ต่อให้ผมเอาหลักฐานมาวางตรงหน้า คุณก็คงจะคิดว่าผมกุเรื่องขึ้นมาอยู่ดีใช่ไหม?”

“...” เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนั้นเธอคงคิดแบบนั้นจริง ๆ

เพราะคนที่มีฐานะอย่างจ้าวจวิ้นโจวแล้ว การทำอะไรก็ตามมันเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาไปหมด

หลังจากเงียบไปนาน เธอก็พูดสามคำออกมาอย่างจริงใจ “ขอโทษค่ะ”

คิ้วของชายหนุ่มโค้งเป็นรูปพระจันทร์ ทำให้ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเขาดีขึ้น “จะพร้อมทำงานเมื่อไหร่?”

“วันมะรืนนี้ค่ะ”

-

หลังจากเซ็นสัญญากับจ้าวจวิ้นโจวเสร็จ สวีเหยียนซีก็กลับมานอนหลับทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมของอาหาร เธอรู้สึกปวดศีรษะอย่างหนักเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอทั้งคืน

เธอเดินออกจากห้องด้วยสภาพที่ไม่สดชื่น และเห็นฉินเซียวที่สวมผ้ากันเปื้อนอยู่ในครัว กำลังทำอาหารเช้าให้เธอเหมือนปกติ

“ตื่นแล้วเหรอ ไปล้างหน้าแปรงฟันเร็วเข้า อาหารเช้ากำลังจะเสร็จแล้ว มีแต่ของที่คุณชอบทั้งนั้นเลย”

เมื่อเห็นการกระทำที่ดูอบอุ่นของผู้ชายคนนี้ สวีเหยียนซีก็ไม่ลังเลอีกต่อไป มีแต่ความรู้สึกตลกและเสแสร้งเท่านั้น

เธอได้รู้จักเขาในมุมมองใหม่

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเวลาและนักแสดงยอดเยี่ยม

หลังจากล้างหน้าเสร็จ เธอก็นั่งลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นฉินเซียวก็ตักโจ๊กและตักกับข้าวให้เธอ

“ที่รัก ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”

สวีเหยียนซียังไม่ทันได้หยิบตะเกียบขึ้นมา เธอก็เหลือบมองเห็นสีหน้าสำนึกผิดของเขา “มีอะไรเหรอ?”

ฉินเซียวเอ่ยว่า “บริษัทมีเรื่องด่วนหลายอย่างรอให้ผมเข้าไปจัดการ แผนการไปฮันนีมูนอาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน แต่ก็ต้องถามความเห็นของคุณ ถ้าคุณอยากไปจริง ๆ ผมจะให้ผู้ช่วยเตรียมเอกสารงานไปด้วย ถ้า...”

“คุณเพิ่งได้รับอำนาจมาไม่เท่าไหร่ ตอนนี้ไปฮันนีมูนก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ” เธอรู้ว่าเขากำลังหาข้ออ้างอยู่ แต่อย่างไรพวกเขาก็กำลังจะหย่ากัน การไปฮันนีมูนก็ไม่จำเป็นอยู่แล้ว

ฉินเซียวจับมือของเธอด้วยความรักอย่างลึกซึ้งและจริงใจ “ที่รัก ผมรู้ว่าคุณเข้าใจผมดีที่สุด เรื่องของสวีหว่านหนิงไม่ต้องห่วงนะ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย วันนี้ผมจะให้คนสองคนช่วยขนของของคุณไปที่เรือนหอ”

สวีเหยียนซีดึงมือกลับอย่างรังเกียจ แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาทาน “ไม่ต้อง ฉันจัดการเองได้ แต่ตอนเที่ยงฉันอยากจะ...”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ โทรศัพท์ของฉินเซียวก็ดังขึ้น

เขาหยิบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่สวีเหยียนซีก็เหลือบเห็นคำว่าหนิง

“ผู้ช่วยโทรมาน่ะ ที่รัก ทานอาหารเช้าตามสบายนะ ผมต้องไปแล้ว” ฉินเซียวอธิบายอย่างรีบร้อน ไม่กล้าแม้แต่จะมองตาของสวีเหยียนซี เขาคว้าเสื้อสูทแล้วรีบออกไปทันที

เมื่อประตูปิดลง สวีเหยียนซีก็วางตะเกียบลงเช่นกัน

เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา ซึ่งกำลังสั่นพอดี ทันทีที่เปิดดูก็เห็นรูปสวีหว่านหนิงนั่งอยู่บนกระโปรงหน้ารถ Porsche SUV ของฉินเซียว

สวีหว่านหนิงส่งข้อความมายั่วยุอีกว่า [สวีเหยียนซี เธอคงไม่ใจกว้างถึงขนาดที่จะยอมใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับฉันหรอกนะ]

น่าขยะแขยง!

สวีเหยียนซีเพิกเฉยต่อข้อความของเธอ ในขณะเดียวกันก็ส่งข้อความไปหาฉินเซียว [เที่ยงนี้กลับมาที่บ้านด้วยนะ]

ฉินเซียวตอบกลับมาทันที [ได้เลยครับ ที่รัก]
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status