ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาจะเป็นรักแรกและรักเดียวของฉัน ฉันรักเขาตั้งแต่รักเป็น 'มีน' สำหรับผมแล้วผมรู้ตัวมาตลอดว่าเธอรักผม แต่ผมมันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่พอมีใครมาให้รัก ผมก็รัก 'เต้ย' โรแมนติก แอบรัก ครอบครัว รักวัยรุ่น รักสามเส้า
ดูเพิ่มเติมร่างบางขยับอย่างเกียจคร้าน เมื่อแสงแดดเริ่มส่องแยงตา บ่งบอกว่าเวลานี้สายมากแล้ว นอกจากร่างนั้นจะไม่ลุกแล้ว ยังพยายามขยับตัวหันหน้าหนีพร้อมกับควานหาผ้าห่มผืนหนา มาคลุมหน้าเพื่อหลบแสง
เสียงประตูเปิดเบา ๆ ไม่นานมือน้อย ๆ และเสียงเล็ก ๆ ก็เริ่มก่อกวน คนที่กำลังนอนต่ออย่างสบายใจ
"มิม มิม หม่ำ หม่ำ” ร่างกลมป้อม ใบหน้าจิ้มลิ้ม กำลังพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเตียงอย่างทุลักทุเล ปากน้อย ๆ พยายามเรียกชื่อของคนที่นอนนิ่ง มือน้อยเขย่าแขนเรียวไปมา
"มิม มิม จ๋า หม่ำ หม่ำ” เด็กน้อยแก้มแดง ยังคงเรียกไม่หยุดปาก ร่างบางที่ม้วนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา เริ่มปรือตาอมยิ้ม อย่างนึกเอ็นดู มือเรียวค่อย ๆ แง้มผ้าห่ม โผล่หน้าออกมาดู
"จ๊ะเอ๋" ใบหน้าสวยใต้ผ้าห่มมองมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอหยอกล้อเด็กน้อยให้ตกใจ ร่างกลมป้อมโถมเข้าใส่ทันทีที่เห็นหน้าคนใต้ผ้าห่มชัด ๆ ทำให้ร่างบางล้มหงายลงบนที่นอน เพราะไม่ทันตั้งตัว
"เรียกชื่อมีนให้ชัดก่อน แล้วจะให้กิน"
"มิม หิว หม่ำ หม่ำ"
"หิวอีกแล้ว โอ้โฮ กินจุไปแล้วนะ ดูสิตัวอ้วนกลมเลย” มือเรียวจิ้มไปตามพุงกลม ๆ อย่างนึกมันเขี้ยว จมูกสวยพรมจูบไปตามแก้มยุ้ยและปากจิ้มลิ้ม
ร่างกลมป้อมในอ้อมแขนหัวเราะคิก มือน้อย ๆ ดึงรั้งชายเสื้อนอนตัวสวยของคนร่างบางให้พ้นทาง พร้อมกับฝังใบหน้าเข้าหาอกอวบ
เมื่อชายเสื้อนอนเลิกขึ้นเป็นอันเปิดทางสะดวกให้ปากจิ้มลิ้มปล้ำดูดเต้าสวย เพื่อดื่มกินน้ำนมจากอกมินรญานอนตะแคงข้าง เพื่อให้ร่างในอ้อมแขนนอนสบายมากขึ้น มือบางตบไปตามแผ่นหลังและก้นเล็กเบา ๆ จมูกโด่งสวยพรมจูบไปตามหน้าผากกลมมน แล้วฝังค้างไว้ที่ศีรษะทุยแบบแสนรัก
สามปีแล้วสินะถ้ารวมกับเวลาที่เธอตั้งท้องสาวน้อยคนนี้ด้วย เธอไม่นึกเสียใจเลยที่ให้เขาเกิดมา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอก็จะทำแบบนี้ เธอก็ยังเลือกที่จะมีเขา
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้น้ำตาก็พานจะไหลออกมา ดวงตากลมโตกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตา เมื่อได้ยินเสียงประตูถูกเปิดเข้ามา
"หาจนทั่วบ้านมาแอบอยู่นี่เอง” ร่างอ้วนท้วนที่เดินเข้ามาพูดทันทีที่เห็นร่างกลมป้อมนอนกินนมอย่างสบายใจ
"มีน แม่ว่า ให้มดยิ้ม เลิกกินนมได้แล้ว"
"ก็พยายามอยู่ค่ะ แต่แม่ก็เห็นนี่คะ” มินรญาเอ่ยเสียงเบา เมื่อมองดวงตากลมโตของลูกน้อย
"ใจแข็งหน่อย เดี๋ยวก็ชิน มดยิ้มจะสองขวบอยู่แล้วนะ" คนเป็นแม่ยังคงพูด
"สงสารค่ะแม่ ขอเวลาอีกนิดนะคะ” มินรญายังคงอ้อนวอน เพราะเธอสงสารลูกน้อย
"ตอนอยู่กับแม่ก็กินกล่องได้นี่ มีนนั่นแหละทำลูกเสียคน"
มินรญาได้แต่กลอกตามองบน เรื่องนี้เธอและแม่คุยกันมาแล้วหลายครั้งแล้ว แม่อยากให้เธอเลิกให้นมลูก เพราะมดยิ้มโตแล้ว แต่เมื่อมีโอกาสเธอก็ยังให้ลูกกินนมเสม
"ขออีกสักพักนะคะแม่ มีนสงสารลูก” มินรญาบอกเมื่อก้มมองใบหน้าจิ้มลิ้มของลูก
"แล้วแต่ ลูกมีนนี่” สุดท้ายแม่ก็แพ้เธอเสมอ
"อิ่มหรือยังล่ะ เดี๋ยวคุณตาจะไปทำงานแล้ว มาอาบน้ำไปส่งคุณตากันเร็ว"
"เดี๋ยวมีนทำเองค่ะแม่ วันนี้มีนหยุด" มินรญาบอก สายตาจับจ้องไปยังร่างน้อยในอ้อมแขน มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ตอนนี้ตาเริ่มปรือเหมือนจะเคลิ้มหลับอีกครั้งมือเรียวลูบไล้ไปตามใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างรักใคร่ เขี่ยแก้มยุ้ย ๆ กระตุ้นให้ลูกน้อยเร่งดูดให้อิ่มก่อนหลับ มินรญามองหน้าของลูกน้อย ไล่ไปตามหน้าผากเล็ก ๆ ที่มีช่วงคิ้วและจมูกโด่งที่ถอดแบบมาจากใครบางคน คนที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดเวลา
"เต้ย” ริมฝีปากอิ่มเอ่ยชื่อคนที่อยู่ในห้วงความคิดถึงแสนเบา
Mean Talk.
"ไก่ย่างถูกเผา เจ้าจะโดนไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริง ๆ ร้อนจริง ๆ”
"ปรี๊ดดดด!!!” เสียงนกหวีดดังลั่น
"เฮ้ย! น้อง ๆ น้องคนนั้นน่ะ! ตั้งใจเต้นหน่อยสิ ไม่เห็นเหรอว่าเพื่อน ๆ เขาต้องทนลำบากเพราะนายคนเดียวนะ!” เสียงรุ่นพี่ตะโกนลั่น แล้วทุกคนก็หันหน้าไปตามปลายนิ้วชี้ของรุ่นพี่คนนั้น สายตาทุกคนปะทะเข้ากับร่างสูง ที่ยืนแบบซังกะตายอยู่ท้ายแถว นั่นไงฉันว่าแล้ว
"ไอ้เต้ย” ฉันพึมพำเรียกชื่อมันเบา ๆ หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้มีเหงื่อไหลย้อยมาตามหน้าผากและไรผม หน้าเต้ยตอนนี้แดงแปร๊ด มันคงร้อนมากเพราะเวลานี้มันเพิ่งจะบ่ายโมง เวลาดีที่รุ่นพี่เรียกว่าฤกษ์มงคล สำหรับรับน้องใหม่อย่างพวกเรา ไม่บอกก็รู้ว่าไอ้ลูกคุณหนูนั่นมันร้อนแค่ไหน ฉันนึกสะใจ
"ออกมานี่เลย ๆ มาหน้าแถวเลยครับ!” พี่ว้ากคนหนึ่งตะโกนเรียกแล้วสั่งให้เต้ยออกไปหน้าแถว หน้าไอ้เต้ยนิ่งมาก จนฉันนึกเสียวสันหลัง มันเดินออกไปด้วยท่าทางแบบไม่สนโลก เรียกเสียงวิจารณ์จ้อกแจ้กจอแจได้ระดับหนึ่ง ก็มันหล่อ ฉันเข้าใจ
"ชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล อยู่คณะไหนรายงานตัวเลยครับ ปฏิบัติ!” รุ่นพี่สั่งเหมือนเต้ยเป็นทหารเกณฑ์ ฉันยังยืนมองมันนิ่ง ไอ้เต้ยก็ยังนิ่ง
"ภพธร รุ่งเจริญ เต้ย วิศวกรรมศาสตร์ ครับ!" ง่าย ๆ สั้น ๆ ตามแบบฉบับของมัน
"หล่อซิกซ์แพ็กดี มีชาติตระกูลแบบนี้ มีแฟนยังจ๊ะ” พี่ว้ากที่เป็นสาวประเภทสองเริ่มเปิดหัวขบวนก่อนใคร สาว ๆ เริ่มโห่ร้องตาม เต้ยไม่ตอบตามเคย สายตามันมองมาที่ฉันแว็บ ๆ เอ่อนะไม่บอกใครหรอกว่ามึงกำลังคบใครอยู่ ฉันคิดในใจ เต้ยมันคงร้อนตัว ชิ
"เอ้า! ตอบสิคะ! รุ่นพี่ถามก็ต้องตอบ"
"ยังไม่มีครับ" คำตอบของเต้ยเรียกเสียงโห่ฮิ้วได้อีกรอบ
"หล่อ ๆ แบบนี้ชอบกันใช่ไหม!” พี่ว้ากตะโกน เมื่อพวกสาว ๆ ในแถวส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด นั่นไง คงจะไปขัดขารุ่นพี่เข้าแล้ว ก็บอกแล้วว่าอย่าทำตัวหล่อเกินหน้าเกินตาใคร
"ชอบกันมากใช่ไหมครับ!" เงียบเมื่อรุ่นพี่ถามซ้ำ
"ถอดเสื้อออกครับน้อง!” พี่ว้ากคนเดิมสั่งอีกครั้ง ฉันตกตะลึงมองหน้าเต้ยแบบตกใจ สาว ๆ เริ่มกรี๊ดกันอีกรอบ
"เร็ว ๆ!"
สิ้นเสียงคำสั่งที่เด็ดขาด ร่างสูงของเต้ยก็ปลดกระดุมเสื้อนิสิตออก เริ่มจากเม็ดบนก่อน ฉันจ้องจนตาค้าง ลุ้นไปกับมัน กระดุมหลุดออกจากรังดุมไปทีละเม็ด เต้ยดึงชายเสื้อออกจากกางเกงสแลกส์ แล้วถอดออกตามคำสั่ง
โอ้แม่เจ้า! ฉันอุทานเบา ๆ
ใช่ว่าฉันจะไม่เคยเห็นมันถอดเสื้อ ฉันนะเห็นมันออกบ่อย เพราะมันเป็นนักกีฬาโรงเรียน เต้ยมักจะถอดเสื้อตอนซ้อมบอลเสมอ
ฉันกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ เมื่อมองไปที่หน้าหล่อเหลา ไล่ไปตามช่วงบ่ากว้าง ช่วงอกแกร่งที่มีกล้ามเป็นมัด ๆ หน้าท้องแน่นเป็นลอน ๆ นั่น ผิวผู้ชายจำเป็นต้องดีขนาดนี้เปล่าวะ ขาวและแน่นมาก ฉันคิดแบบนั้น
ขนาดฉันเป็นเพื่อนมันยังแอบเคลิ้ม สาว ๆ คนอื่นนี่ไม่ต้องสงสัยเลย โดยเฉพาะพี่สาวประเภทสองกลุ่มนั้นที่มองกันตาปรอยจนน้ำลายแทบหยด ถ้าเข้าไปลูบไล้ได้ ฉันคิดว่าพวกเขาคงทำ แต่อย่านะ อย่าได้คิดไปใกล้ไอ้เต้ยเชียวนะ เดี๋ยวจะหาว่า มีน ไม่เตือน
...........................................................................................................................
สวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ร้าย(รัก) เป็นนิยายชุดคนใจร้าย
ประกอบไปด้วยนิยาย 3 เรื่องดังนี้
ร้าย(รัก) (เต้ย มีน)
สายใยร้ายรัก (ธาม เนย)
เริ่ม(รัก)ร้าย (นะ อ้อม)
อ่านเรื่องไหนก่อนก็ได้ เนื้อหาไม่ต่อเนื่องกัน ตัวละครในเรื่องเป็นเพื่อน เป็นคู่หมั้นกัน ถ้าเริ่มจากร้าย(รัก) จะสนุกมาก เ้พราะอิเต้ยคือสารตั้งต้นของเรื่อง
ฝากนิยายของ มณีภัทรสร ด้วยนะคะ
“เฮ้ย!”ผมร้องเสียงดัง เมื่อสายน้ำเบ่งของเก่าออกมาทางตูด! เจ๊มดที่นั่งข้างๆวิ่งเลยครับ ไม่ได้วิ่งมาช่วยนะ นางวิ่งหนีไปหน้าประตูครัวโน้น ไหนใครบอกว่ามดยิ้มรักน้อง! “สายน้ำทำอะไรเนี่ย หึ้ย!วางระเบิดพ่อได้ไง”ผมพูดกับสายน้ำ เอาไงดีล่ะผมน่ะเลี้ยงลูกได้ แต่ตอนอึเนี่ยบอกตรงๆผมไม่ชอบเลย เด็กห้าเดือนนะ คุณคิดภาพตามดิ เหมือนซุปข้าวโพดอะ แล้วกลิ่นเนี่ยไม่ต้องพูดถึง พูดแล้วขมคอ ตอนนี้ผมมีทางเลือกสองทางคือหนึ่งโทรตามเด็กที่บ้านใหญ่ให้มาจัดการลูก และสองคือผมทำเอง . . . “มดยิ้มหยิบผ้าขนหนูน้องให้พ่อหน่อยลูก!”ครับตามที่เห็น ตอนนี้ผมจัดการกับสายน้ำแล้วครับ พามาล้างอึในห้องน้ำแล้วก็อาบน้ำให้เลยครับ “มดยิ้มลูก ได้ยินพ่อไหม”ผมตะโกนถามเจ๊มดอีกครั้ง ไม่นานก็เห็นร่างเล็กๆเดินเข้ามาในห้องน้ำ มดยิ้มถือผ้าขนหนูมาวางไว้ให้น้องด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย นางยืนกอดอกดูน้องที่เล่นน้ำในอ่างด้วยสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ออก แต่ผมจะบอกว่าโครตเหมือนมีนเลยครับ หน้าแบบนี้การกระทำแบบนี้ มันมีนชัดๆเวลาที่ผมเมาแล้วงอแง มีนก็จะมายืนทำหน้าแบบนี
“แล้วมึงกับแก้วไปถึงไหนกันแล้ววะ”ผมถามตรงๆ อยู่กันมาขนาดนี้ก็ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว สองปีแล้วที่มันวิ่งไปกลับแบบนี้ มันก็น่าจะได้อะไรกลับมาบ้างแหละ “เหมือนเดิม” “แค่เนี้ย” “อืม...”ไอ้ธามตอบก่อนจะหันไปหาลูกผมบนตักมีน เหมือนเดิมอีกแล้วเอากับมันสิ แล้วไอ้ที่ว่าเหมือนเดิมน่ะคืออะไรวะ ผมสงสัยต่ออีกนิด “เดือนหน้าเนยจะย้ายไปอยู่อังกฤษ”อยู่ๆไอ้ธามก็พูดเรื่องนี้ออกมา หลังจากที่เราย้ายกันมานั่งดื่มกันที่หน้าบ้าน “อ้าว...ไปอยู่เลยหรือแค่ไปเที่ยว”ผมถามกลับหลังจากเติมเครื่องดื่มในแก้วให้มัน วันนี้มันดื่มหนักนะผมว่า เพราะผมเติมให้มันแบบแก้วต่อแก้วเลย “ไปอยู่เลย...” “อ้าวแล้วลูกมึงล่ะ” “ก็ไปกับแม่มัน” “มึงมีอะไรจะบอกกูไหม” “ไม่มี กูแค่คิดถึงลูก”มันพูดพร้อมกับกระดกแก้วเหล้าเข้าปากอีกคำใหญ่ ผมก็พูดไม่ออกครับ ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกมัน ตั้งแต่ที่มันรู้ว่ามีลูกกับน้องเนยมันก็เสนอช่วยดูแลลูก ก็ทำแบบที่ผมทำกับมีนนี่แหละครับ แต่มันไม่ได้เอาแม่แบบผม ก็อย่างที่พวกคุณรู้ ใ
“แม่มีน ตื่นแล้วหรอคะ มดยิ้มขอโทษ มดยิ้มจะมาหาน้องค่ะ”พอได้ยินเสียงแม่แค่นั้นแหละ เจ้าตัวเล็กข้างๆผมหน้าเสียเลยครับ “มดยิ้มย่องแล้วค่ะ มดยิ้มไม่ได้ตั้งใจ”นี่คือคำพูดเด็กห้าขวบจริงๆใช่ไหม:) “ไม่เป็นไรค่ะลูก มาหาแม่มา มาให้แม่ดูสิคะว่าพ่อใส่กระโปรงถูกหรือเปล่า”มีนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วเรียกคนตัวเล็กเข้าไปหา พร้อมกับจับลูกหมุนดูนี่นั่นสำรวจไปทั่วตัวลูก ใช่ผมเคยใส่กระโปร่งให้ลูกกลับด้าน แล้วไงวะก็แค่สี่ห้าครั้งเอง:( “น้องตื่นยังคะ” “ยังเลยค่ะน้องเพิ่งหลับ เมื่อคืนน้องงอแงค่ะ แม่มีนเลยตื่นสาย”ยัยตัวเล็กถาม เพราะเมื่อคืนมดยิ้มของผมไปนอนบนตึกใหญ่มาครับ เด็กเพิ่งเอามาส่งให้เมื่อเช้านี้เอง ก็เหมือนเดิมครับ เจ้มดก็ยังต้องเดินสายนอนกับอาม่า นอนกับก๋งเหมือนเดิม ใครว่ามีลูกใหม่พวกเค้าจะเห่อมดยิ้มน้อยลง เปล่าเลยครับ นอกจากจะไม่เบื่อแล้ว แถมยังเอามดยิ้มไปนานกว่าเดิมอีก เพราะไม่อยากให้มดยิ้มมากวนแม่กับน้อง ผมว่ามันคือข้ออ้างครับ คนโตอยากได้มดยิ้มไปนอนกอดเลยเอาน้องมาอ้างมากกว่า “มดยิ้มทานข้าวยังคะ” “ทานแล้วค่ะ
“คุณพ่อไปไหนมาคะ”เจ้ามดยิ้มร้องถาม พร้อมกับวิ่งมากอดที่เอวผม ออลืมบอกไปตอนนี้มดยิ้มสูงเลยหัวเข่าผมมาแล้วครับ เด็กห้าขวบกับความสูงแค่นี้คุณว่าปกติไหม ก็อย่างว่ามีนมันเตี้ย ส่วนผมก็เสือกสูงเองลูกเลยไม่รู้ว่าอันไหนคือมาตฐาน นาทีนี้ตัดเรื่องความสูงมดยิ้มไปก่อน เมื่อผมอุ้มลูกขึ้นมาจากพื้น แล้วเดินไปหาคนที่นอนอมยิ้มบนเตียง มีนนะมีนไม่ต้องมาขำเลย ผมงอนจริงด้วยงานนี้ “มีนเป็นไงบ้าง”ผมเอ่ยถามเมื่อมายืนข้างเตียง “มีนน่ะสบายดี ห่วงตัวเองก่อนไหมตี๋ฮาๆๆ”สิ้นเสียงของคนที่ว่าแดกผม คนในห้องก็พากันขำกระจายครับ เจ็กเก้าครับเขาก็คือคู่ปรับตลอดกาลของผมเอง “มีนไม่เป็นไร เต้ยล่ะเป็นไงบ้าง”ใช่เวลาห่วงผัวไหมเมีย ยิ่งเมียถามกลับมาแบบนี้คนให้ห้องก็ยิ่งได้ใจครับ ขำกันหนักกว่าเดิมอีก “พอๆ อย่าล้ออะไรมันมากเลยแค่นี้มันก็อายจะแย่แล้ว ตี๋ป๊ากับม๊าดีใจมากที่ได้หลานชาย ขอบใจมากนะ ชอบใจมากนะมีน”ป๊าเอ่ยขัดขึ้น ก่อนจะขอบใจผมกับลูกสะใภ้อย่างสุดซึ้ง พ่อกับแม่มีนด้วยครับ ท่านทั้งสองมองมาที่ผมด้วยสายตาอ่อนโยนจนผมขนลุก ไม่บอกก็รู้ว่าท่านทั้งสองมีความสุขมากเช่น
“มีน มีน ไม่เป็นไรนะมีน ถ้ามีนเจ็บมีนปวดจนทนไม่ไหวบีบมือเต้ยนะ จะกัดเต้ยก็ได้”นี่เป็นคำพูดของผมครับ เพราะทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลหมอก็พาคนตัวเล็กเข้าห้องคลอดทันที ผมก็เข้ามาด้วยเพราะเราฝากท้องแบบพิเศษครับ พิเศษสุดๆเลยเอาแบบที่โรงพยาบาลจะจำเราได้ไปอีกนาน และอยากให้เมียผมท้องทุกปีเลยล่ะครับ ลืมบอกไปวันนี้มีนเจ็บท้องและกำลังจะคลอดครับ “เต้ยมีนไม่เป็นไร มาคลอดลูกไม่ได้เจ็บขนาดนั้น”คนตัวเล็กยังพยายามบอกให้ผมโอเค ทั้งๆที่มือเธอยังกำมือผมไว้แน่น เหงื่อก็เริ่มซึมออกมาตามหน้าผาก แถมหน้าก็ซีดลงๆ เอาจริงๆผมไม่รู้หรอกครับว่าเจ็บท้องคลอดลูกเนี่ยมันเจ็บขนาดไหน แต่สำหรับผมแค่มีดบาดก็โครตเจ็บแล้วครับ ภรรยาผมเธออดทนมากแต่ผมรู้ว่าเธอกำลังเจ็บมาก ยิ่งคิดมาถึงตรงนี้ยิ่งโมโหตัวเองครับ เพราะต่อให้มีเงินล้นฟ้าก็ช่วยให้เมียหายเจ็บไม่ได้ เพราะเมียผมเลือกจะคลอดตามธรรมชาติครับ เธอไม่ผ่าคลอดเพราะเมื่อตอนคลอดมดยิ้มเธอก็คลอดเอง แล้วไงล่ะครับทีนี้ก็เลยลำบากมายันผม ทำไมนะหรอครับก็ผมเนี่ยอยากจะเจ็บแทนเธอไง “มดลูกขยายอีกสองเซนเเล้วค่ะ คุณแม่อย่าเพิ่งเบ่งนะคะ รออีกนิด”หมอคนที่ทำหน้า
คุณญดาตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อได้เห็นลูกสมหวัง หมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะลูกท่านคิดในใจ เมื่อเอื้อมมือมาลูบหัวลูกรัก ผู้ใหญ่อวยพรให้คนทั้งสอง บ่าวสาวขอบคุณก่อนจะเดินขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ถึงแม้มินรญาจะกำชับให้จัดแค่งานเล็ก ๆ แต่ครอบครัวของภพธรเป็นครอบครัวใหญ่ เฉพาะญาติ ๆ ก็เกือบ ๆ ร้อย ไม่รวมเพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นน้องที่แห่กันมาอวยพรและแสดงความยินดีกับเธอ อธิปกับแก้วสุนีย์มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว มินรญาสังเกตอาการคนทั้งสองตามคำบอกเล่าของภพธร จะเป็นอธิปที่คอยเอาใจแก้วสุนีย์เสียส่วนใหญ่ ในขณะที่แก้วสุนีย์ยังเฉยจนดูไม่ออก งานแต่งงานที่จบไปเมื่อตอนเช้าสร้างความเมื่อยล้าให้ว่าที่คุณแม่ลูกสองไม่น้อย ใช่มินรญากำลังจะกลายเป็นคุณแม่ลูกสองอีกครั้ง เพราะตอนนี้เธอตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว หลังจากที่รู้ว่าท้องภพธรก็ไม่ให้เธอทำอะไรอีกเลย ให้เธอดูแลลูกกินแล้วก็นอน เวลาที่มดยิ้มไปโรงเรียน มินรญาก็ทำงานบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลมินรญาก็ถูกสั่งให้ย้ายมาอยู่บ้านใหญ่ทันที เพราะทุกคนต่างก็รักและเป็นห่วงเธอ แต่คืนวันเสาร์อาทิตย์ภพธรจะ
ความคิดเห็น