“ขอกอดหน่อย”หลังจากวางสายของผู้เป็นพ่อ น้ำค้างก็โผเข้าสวมกอดแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันราวกับต้องการหาที่พักพิงทางใจ เธอยังคงรู้สึกเจ็บปวดและผิดหวัง เวลาผ่านไปตั้งนานแทนที่ท่านจะถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม ต้องการความช่วยเหลือบ้างหรือเปล่า แต่ท่านกลับบอกให้เธอไปขอโทษภรรยาเธอไม่มีวันทำแบบนั้น เพราะเธอไม่ใช่คนผิด“พ่อโทรเหรอ”“ค่ะ”คำตอบสั้น ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกเศร้า ฉลามจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ ทำได้เพียงโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน มอบความอบอุ่นหวังให้เธอสบายใจ แม้เธอจะเดินออกไปคุยห่างจากที่เขานั่ง แต่ก็พอได้ยินประโยคของน้ำค้างที่ตอบผู้เป็นพ่อเมื่อครู่ ฟังดูแล้วคงยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน“ออกไปเที่ยวกันไหมคะ ไปตอนนี้เลย”“อื้ม”ทั้งสองพากันมุ่งหน้าไปยังร้านเกม VR ซึ่งเปิดอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เป็นการเล่นเกมในโลกเสมือนจริงราวกับว่าผู้เล่นได้เข้าไปอยู่ในฉากนั้น ฉลามที่ชื่นชอบความท้าทายอยู่แล้ว จึงรับคำท้าพากันเข้าไปเล่นเกมยิงปืน สร้างความรู้สึกสนุกสนานให้หญิงสาวพอลืมเรื่องทุกข์ใจไปได้บ้างหนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมจบลงทั้งสองจึงถอดอุปกรณ์ส่งคืนให้กับพนักงาน ก่อนจะพากันเข้า
น้ำค้างและฉลามได้ก้าวผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ ไปด้วยกัน เรื่องหลักก็ยังคงให้ความสำคัญกับการเรียน เวลาว่างหลังจากนั้นค่อยนัดพบกัน มีชวนกันออกไปดื่มสุดสัปดาห์กับเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อนทั้งสองยังคงแยกกันอยู่เหมือนเดิม แต่ทว่าฉลามมักจะเห็นห้องของเธอกลายเป็นห้องของเขาไปแล้วเพราะมานอนที่นี่แทบทุกคืน และที่ไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันถาวรก็เพราะว่าอีกไม่นานน้องสาวของเขาจะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เหมือนกันส่วนไอรินตอนนี้ได้ย้ายเข้าไปอยู่คอนโดของนายน์เรียบร้อยแล้วจนกระทั่งสอบเสร็จ น้ำค้างไม่ได้ติดต่อกับผู้เป็นพ่อมานานและไม่มีวี่แววว่าจะกลับเข้าบ้าน ฉลามจะกลับไปก็กลัวเธออยู่คนเดียวแล้วจะเหงา เลยเลือกอยู่เป็นเพื่อน เทอมนี้เขาและน้ำค้างจึงตัดสินใจลงทะเบียนเรียนภาคฤดูร้อนด้วยกัน*****บ้านของน้ำค้าง“นี่ก็ปิดเทอมแล้ว ทำไมน้ำค้างยังไม่ติดต่อมาอีก”ชยันต์เอ่ยปากบ่นถึงลูกสาว เขาเฝ้ารอตามคำแนะนำของภรรยาว่าถ้าหากตัดเงินในบัตรเครดิตแล้ว น้ำค้างจะต้องหมดหนทางและกลับมาซบอกของผู้เป็นพ่ออย่างแน่นอน แต่รอแล้วรอเล่าลูกสาวเพียงคนเดียวก็ไม่ติดต่อกลับมาสักที“ใจเย็นหน่อยนะคะ ก่อนหน้านั้นที่คุณให้เงินเธ
“สวัสดีค่ะพี่นายน์”น้ำค้างเอ่ยทักทายเพื่อนของฉลาม เธอยังไม่ได้บอกแฟนหนุ่มว่าไอรินตัดสินใจเลิกข้องเกี่ยวกับนายน์แล้ว ไม่คิดว่าทั้งสองจะมาด้วยกันไอรินได้ยินชื่อนี้ก็พลันเงยหน้าขึ้นมองคนที่เพิ่งมาถึง เขาส่งสายตาจ้องมองเธอแวบหนึ่งก็เดินอ้อมมาหย่อนก้นลงโซฟาตัวเดียวกัน อกข้างซ้ายของหญิงสาวสั่นระรัวและทำตัวไม่ถูก ก่อนจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เผยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเองแล้วเอ่ยทักทาย“อ้าวพี่นายน์ พี่ฉลาม บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะคะ”“อือ พี่มาหาน้ำค้างน่ะ” ฉลามเอ่ยตอบส่วนเพื่อนของเขาอีกคนเอาแต่จ้องไอรินอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะรับแก้วเหล้าที่เธอเป็นคนชงให้ยกขึ้นดื่มจนหมดแก้วนายน์รู้สึกว้าวุ่นใจตั้งแต่ช่วงกลางวัน เขาได้ส่งข้อความเพื่อชวนไอรินออกมาดื่มด้วยกันคืนนี้ แต่ทว่าข้อความนั้นดันส่งออกไปไม่ได้เหมือนกับว่าเธอได้บล็อกเขาไปแล้ว ส่วนเบอร์ที่เคยให้ไว้ก็โทรไม่ติด นายน์จึงโทรหาฉลามหวังจะขอให้ช่วยถามน้ำค้าง บังเอิญจับจังหวะที่เพื่อนกำลังจะออกไปหาแฟนสาวพอดี เขาจึงขอตามมาด้วย“ไฮ หนุ่ม ๆ”เฟญ่าเริ่มเมาได้ที่ก็ลุกออกไปเต้นกับหนุ่ม ๆ พอจบเพลงเธอก็เดินกลับมาที่โต๊ะ เห็นรุ่นพี่ทั้งสองคนจึงแปลกใจเล็กน้อย
สองร่างสะดุ้งตื่นเนื่องจากได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่น้ำค้างตั้งเอาไว้ในมือถือ เพราะว่าวันนี้เธอมีเรียนตอนเก้าโมงดวงตาคู่สวยลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากยกยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เนื่องจากเขินอายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ไออุ่นของเขาก็ยังซาบซ่านไปทั่วทั้งร่าง“มีเรียนเหรอ”“ค่ะ”“ตรงนั้นเจ็บไหม ถ้าลุกไม่ไหวบอกได้นะ เดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำ”“หือ คนเจ้าเล่ห์ รู้นะว่าแอบคิดอะไร”น้ำค้างคลี่ยิ้มเอ่ยอย่างรู้ทัน และดีที่เขาแค่เพียงลุกขึ้นนั่งแล้วหอมแก้มต้อนรับเช้าวันใหม่ จากนั้นก็ปล่อยให้เธอเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่เขาจะเข้าไปอาบต่อ ดีที่ก่อนหน้าได้ซื้อผ้าขนหนูกับแปรงฟันอันใหม่สำรองไว้ จึงนำมาให้เขาใช้ไปก่อนอาบน้ำเสร็จทั้งสองคนก็ออกไปกินข้าวที่ร้านแถวคอนโด ก่อนจะแวะซื้อยาป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากนี้ไม่อาจรับประกันได้ว่าฉลามตัวนี้จะหิวโหยบ่อยแค่ไหน อย่างน้อยป้องกันไว้มันก็ดีกว่า“ไปเรียนก่อนนะคะ”ไปถึงมหาวิทยาลัยน้ำค้างก็หันไปเอ่ยกับแฟนหนุ่ม เนื่องจากวันนี้เขามีเรียนช่วงบ่ายจึงอยากมาส่งเธอก่อน แล้วค่อยกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของเขา ตอนเย็นทั้งสองคนจะได้กลับพร้อม“เ
ฉลามปล่อยคนตัวเล็กลงยืนบนพื้น ต่างสบตากันและกันอย่างหวานซึ้ง ในขณะที่หัวใจของทั้งคู่ส่งเสียงตึกตักท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงสลัวที่สาดส่องเข้ามาทางบานกระจกสีใส พลันทำให้ชายหนุ่มไม่อยากหยุดอยู่แค่มองหน้ากันมือหนาเชยปลายคางของน้ำค้างขึ้น โน้มใบหน้าหล่อเข้าหาหญิงสาวที่คลี่ยิ้มบางเบาอย่างเขินอาย ทันใดที่ริมฝีปากของเขาทาบทับอยู่บนริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ ก็ไม่รีรอรีบส่งมือรั้งท้ายทอยของเธอเข้ามา แล้วบดจูบกันอย่างเร่าร้อน ก่อนจะแทรกลิ้นร้ายเข้าไปในโพลงปาก ดูดดื่มน้ำหวานในยามที่ลิ้นของทั้งสองคนตวัดเกี่ยวพันกันทั้งคู่จูบกันอยู่เนิ่นนาน ในขณะที่มือของชายหนุ่มเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เลื่อนเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนใต้เสื้อไหมพรมสีชมพู ถือวิสาสะปลดตะขอบราออกโดยที่เจ้าตัวยังคงเผลอไผลไปกับรสจูบกระเป๋าสะพายที่ห้อยอยู่บนบ่าของน้ำค้างร่วงลงสู่พื้น มือเล็กโอบกอดร่างของชายหนุ่ม เงยหน้ารับองศาจูบของคนตัวสูงที่ตวัดปลายลิ้นหยอกล้อเธอจนรู้สึกมวนท้องราวกับมีผีเสื้อนับพันบินวนเขาผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะอุ้มร่างของเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิงพาเข้าไปยังห้องนอน วางเธอลงบนเตียงหนานุ่ม แล้วเปิดเพียงโคมไฟส
ฉลามอึ้งไปเล็กน้อยกับถ้อยคำที่ได้ยิน ไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดคำหยาบแบบนี้ก็เป็น ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ดังมาก“พี่ผิดนัดแค่ครั้งเดียวด่าพี่เหี้ยเลยเหรอ ใจร้ายจัง”“ด่าพี่อะไรล่ะ รีบปั่นหนีเร็ว”“หนีอะไร”เขาเอ่ยถามพลันหันไปมองตามสายตาของน้ำค้าง ก่อนจะเห็นตัวเงินตัวทองกำลังคืบคลานทำท่าจะลงน้ำ จนทำให้เธอเกิดอาการผวา หลุดคำไม่น่าฟังออกมาจนเข้าใจผิดคิดว่าด่าตัวเอง“ไอ้เชี่ยเอ๊ย”ชายหนุ่มตกใจกระตุกปลายเท้าออกแรงปั่นหนีอย่างรวดเร็ว น้ำค้างเองก็ช่วยกันถีบเช่นกัน ไม่คิดว่าจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ นี่ไม่ได้เรียกว่าหนีเสือปะจระเข้แล้ว แต่เรียกว่าหนีฉลามปะตัวเหี้ยมากกว่า“หึหึ”“ฮ่าฮ่าฮ่า”ปั่นเรือหนีออกมาไกลจากสัตว์พวกนั้นได้สำเร็จ ทำให้ทั้งสองร่างหายใจเข้าออกอย่างเหนื่อยหอบ เหงื่อเปียกชุ่มเต็มกรอบของใบหน้า หันมองกันแล้วเปล่งเสียงหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ ไม่รู้ว่าต้องขอบคุณหรืออย่างไร ที่ตัวเงินตัวทองเหล่านั้นทำให้เธอและเขาหายงอนกันเร็วขึ้นหลังจากนำเรือเป็ดและเสื้อชูชีพไปส่งคืน ฉลามก็จับมือของน้ำค้างพากันเดินไปตามถนนที่ลากยาวไปถึงลานจอดรถ ก่อนจะเอ่ยถามให้มั่นใจอีกครั้ง“หายโกรธพี่แล้วใช่ไหมครับ”