เขาไม่เคยคิดจะคบใคร แต่ทว่าดันสนใจผู้หญิงปากเก่งที่เอาแต่เมินเฉย และคอยกัดกันทุกครั้งที่เจอหน้า “ฉันมีแฟนแล้ว” “หึ ก็แค่แฟน ไม่ใช่ผัวสักหน่อย” **เรื่องย่อ** เพียงเพราะความเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือคนที่มาจับก้นเพื่อนสนิท น้ำค้างจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปกระโดดถีบหน้าอกของฉลามจนล้มลงไปกองกับพื้นหวังจะเอาคืนให้เพื่อน แต่พอรู้ความจริงตอนเพื่อนเอ่ยกระซิบว่าผิดคน ทั้งสองสาวเลยพากันวิ่งหนีไป ปล่อยให้คนถูกกระทำยืนมองอย่างงุนงง ทั้งสองได้เจอกันอีกครั้งแล้วพบว่าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ฉลามจึงคิดแกล้งเข้าหาน้ำค้างเพื่อเอาคืนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เธอหงุดหงิดใจ แต่ทว่าพอพบกันบ่อยครั้ง เขาก็ดันแพ้ทางให้ผู้หญิงปากเก่ง ไม่ยอมคน และหลงรักเธอเข้าจนได้
View More“ว่ายังไงนะ แกโดนจับก้น” เสียงดุดันไม่เกรงใจใครดังขึ้นด้วยความไม่พอใจ
น้ำค้าง นักศึกษาสาวสวย สาขาการจัดการโรงแรม หลักสูตรนานาชาติ ปี 2 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงแรมชื่อดังในตัวเมือง
เธอกำลังนั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผับ ตรงที่เธอนั่งอยู่กับเพื่อนอีกสองคนเป็นแบบโล่งกว้างเหมาะสำหรับกินมื้อเย็น แต่ก็สามารถสั่งเหล้าเบียร์มานั่งกินได้ บรรยากาศดี ได้ยินเสียงเพลงคลอออกมาเบา ๆ จากอีกอาคารที่เป็นผับสำหรับนั่งดื่ม ฟังเพลงและเต้นกันในนั้น
ก่อนหน้าเพื่อนรักอย่างไอรินได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันทั้งร้านข้าวต้มและผับ ไอรินก็โดนผู้ชายคนหนึ่งฉวยโอกาสขณะเดินผ่านตอนที่เธอกำลังล้างมืออยู่หน้าห้องน้ำ ยื่นมือมาบีบก้นพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเดินหนีไป
ไอรินขมวดคิ้วทำหน้าไม่ชอบใจเอ่ยต่อว่าชายคนนั้นไปหลายประโยค ก่อนจะรีบเข้ามาหาเพื่อนที่โต๊ะแล้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทำให้น้ำค้างเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“มันอยู่ไหน” น้ำค้างเอ่ยเสียงกร้าวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับลุกออกจากเก้าอี้
“เห็นเดินไปที่ลานจอดรถ” ไอรินเอ่ยตอบพร้อมกับลุกตามกัน
“อีชะนี พวกแกจะไปไหน” เฟญ่ารีบเอ่ยเรียกเพื่อนที่นึกจะลุกก็ลุก ค่าอาหารก็ยังไม่ได้จ่าย
“จ่ายตังด้วยนะอีเฟรม เสร็จแล้วไปเจอกันที่รถ เดี๋ยวฉันโอนคืน”
“ว้ายอีดอก กูชื่อเฟญ่ายะ ตายแล้วมีใครได้ยินไหมเนี่ย”
เพื่อนสาวสองถอนหายใจด้วยใบหน้าง้ำงอสอดสายตามองไปยังโต๊ะข้าง ๆ
ชื่อเล่นที่พ่อแม่ตั้งให้คือเฟรม แต่ในวงการกะเทยที่สวยและโสด มีแต่หนุ่ม ๆ รายล้อมแบบเธอโปรดเรียกว่าเฟญ่า แต่เวลาฉุกระหุกเพื่อนสาวก็มักจะเรียกชื่อเฟรมตลอด
กระเทยเซ็ง!
น้ำค้างและไอรินช่วยกันมองหาผู้ชายโรคจิต ระหว่างทางเพื่อนก็บอกว่าผู้ชายคนนั้นใส่เสื้อสีดำ เจาะหู ห้อยสร้อยเกียร์ที่คอ คงจะเป็นนักศึกษาคณะวิศวะกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่ไหนสักแห่งในตัวเมือง
สายตาของน้ำค้างหันไปเจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่คิดว่าใช่ กำลังยืนสูบบุหรี่พิงประตูรถอย่างสบายใจ จึงปรี่ตัวเข้าไปหาโดยไม่รีรอเพื่อนรักอย่างไอรินที่เดินมาด้วยกัน
“ไอ้โรคจิต กล้าทำเพื่อนฉันเหรอฮะ”
ตุบ!
ฉลาม หนุ่มหล่อสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ปี 3 คืนนี้เพื่อนของเขานัดเจอกันที่ผับ ชายหนุ่มเพิ่งจะลงจากรถมายืนสูบบุหรี่ได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าของเธอที่ขมวดคิ้วเป็นปมทำหน้าดุดันวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว กระโดดถีบที่ช่วงอกของเขาจนล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว บุหรี่ที่คีบอยู่ในมือก็ล่วงหล่นลงไปพร้อมกัน
ฉลามรีบลุกขึ้นปัดฝุ่นกางเกงและรอยรองเท้าที่ติดอยู่บนเสื้อยืดสีดำ จ้องตาเขม็งไปยังคนแปลกหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เป็นบ้าอะไรวะ”
“นายน่ะสิไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม ชอบแต๊ะอั๋งผู้หญิง” น้ำค้างรีบเถียงกลับคนที่มีหน้ามาต่อว่าเธออีก
“ฉันไปแต๊ะอั๋งใครไม่ทราบ หรือว่าเป็นมุกอ่อยเหยื่อ”
น้ำค้างคิดจะอ้าปากเถียง อ่อยเหยื่อบ้าอะไร เธอกำลังโมโหแทนเพื่อนที่ถูกผู้ชายมักมากจับก้นอยู่ต่างหาก แต่ก็ถูกเพื่อนเลื่อนมือเข้ามาดึงแขน เอ่ยกระซิบข้างหู
“ผิดคน”
“ฮะ! ผะ ผิดคน”
น้ำค้างเอ่ยเสียงเบา ละสายตาจากเพื่อนช้อนดวงตามองไปยังคนตัวสูงที่ยืนขมวดคิ้วจ้องลงมาด้วยความโกรธ ก่อนจะหลบสายตาหันไปหาเพื่อนรักที่กำลังพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อยราวกับรู้สึกผิดอีกครั้ง แล้วทั้งสองคนก็พากันวิ่งหนีออกไปทันทีราวกับรู้กัน ปล่อยให้คนโดนกระทำมองตามแผ่นหลังของคนที่วิ่งออกไปอย่างงุนงงทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ แม่งซวยฉิบหาย ถีบเข้ามาได้ โคตรเจ็บ”
“กรี๊ด พวกแก ดูทางนั้น”“นั่นมันหนุ่มฮอตวิศวะปีสามนี่”“มาหาใครกันนะ”“วาสนาผู้ใดน้อ”“นั่นสิ อยากรู้จังว่ามาหาใคร”เสียงซุบซิบของบรรดานักศึกษาสาวดังขึ้นขณะหันมองสองหนุ่มหล่อที่สวมชุดช็อปสีแดงเลือดหมูเดินตรงเข้ามาในโรงอาหารของคณะบริหารธุรกิจ พลันทำให้กลุ่มของน้ำค้างที่เพิ่งกินข้าวไปได้เพียงไม่กี่คำ ต่างก็เงยใบหน้าขึ้นแล้วหันมองตามเสียงเล็กเสียงน้อยซึ่งดังอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ดวงตาคู่สวยของน้ำค้างจะเบิกโพลงเมื่อสองหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ทำเอาใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำราวกับทำตัวไม่ถูกแต่แล้วหนุ่มรุ่นพี่ทั้งสองคนก็เดินมือล้วงกระเป๋าเสื้อผ่านโต๊ะของพวกเธอไปราวกับไม่ได้อยู่ในสายตา“นั่นมันพี่นายน์กับพี่ฉลามนี่ เขามาหาใครอะ” เฟญ่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนรู้จักสาขาการจัดการโรงแรม เป็นหนึ่งในสาขาของคณะบริหารธุรกิจ พวกเธอมักจะมากินข้าวที่นี่ทุกวัน แต่ไม่เคยเห็นสองคนนี้มาก่อน เพราะคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็มีโรงอาหารของตัวเองเหมือนกัน“ก็คงมาหาผู้หญิงของเขาแหละมั้ง” น้ำค้างเอ่ยไม่เต็มเสียง ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อส่วนไอรินที่เป็นสาวคู่นอนของนายน์ได้มองตามแผ่นหลังของเขาพลางยิ้มเยาะให้กับตัวเอง เรื่องนี้เพื่อน
“โอ๊ะ บังเอิญจัง เจอคนรู้จัก”ฉลามเข้าไปในร้านก็สอดสายตามองหาหญิงสาวที่เข้ามาก่อนหน้า พอเห็นเธอนั่งอยู่ตรงมุมด้านข้างติดกับผนัง เลยถือวิสาสะเข้าไปนั่งเก้าอี้ว่างอีกตัว เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าระรื่นที่แห่งนี้คือคาเฟน้ำหอม ทั่วทั้งร้านถูกประดับตกแต่งด้วยตุ๊กตาหมีขนาดเล็กใหญ่คละกันไป มีแจกันดอกไม้แห้งวางอยู่ทุกโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ น้ำค้างชอบมาสั่งน้ำผลไม้และขนมเค้ก รวมทั้งอาหารก็ทำออกมาได้รสชาติดีไม่แพ้กับภัตตาคารใหญ่ เธอจึงมาฝากท้องที่ร้านนี้บ่อยครั้งและที่เธอชอบมากก็คือสไตล์การทำน้ำหอมจากดอกไม้แห้ง ที่มีกลิ่นเฉพาะและสูตรที่ปรับแต่งของร้านนี้ก็ส่งกลิ่นหอมได้ยาวนาน เธอมักจะซื้อติดมือไปวางไว้ที่คอนโด ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ได้กลิ่นแล้วก็รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกทว่าความสุนทรีที่มีก่อนหน้าก็ได้มลายหายไป คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปม พร้อมกับใบหน้าแสดงออกถึงความไม่ชอบใจจ้องไปยังคนหน้าด้านที่หย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ข้างเธอ“บังเอิญหรือตั้งใจกันแน่”“งั้นตั้งใจก็ได้ พี่ขอนั่งด้วยนะ”“มีมารยาทด้วยเหรอ ก่อนนั่งไม่เห็นจะถาม”หญิงสาวโต้กลับน้ำเสียงเรียบ ริมฝีปากสวยย
เช้าวันต่อมาชยันต์ได้โทรมาถามอาการของลูกสาว ต่อด้วยคำถามที่ว่าทำไมถึงกลับไปนอนคอนโด มันทำให้รู้ได้ทันทีว่าแม่เลี้ยงน่าจะบอกไปแบบนั้น น้ำค้างจึงจำใจต้องโกหกว่าเพื่อนเป็นห่วงจะมานอนด้วย เลยเลือกกลับไปนอนคอนโด เมื่อบอกไปดังนั้นผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อในช่วงบ่ายหมอก็ได้มาตรวจอาการ ผื่นตามตัวของเธอเริ่มบางลงกว่าเมื่อคืน อาการแน่นหน้าอกก็หายแล้ว หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ส่วนไอรินและเฟญ่าก็อยู่ดูแลเธอไม่ห่าง พอออกจากโรงพยาบาลก็พาไปส่งที่บ้านเพื่อกลับไปเอารถ เช้าวันจันทร์น้ำค้างก็ไปเรียนตามปกติหลังเลิกเรียนน้ำค้างแวะที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นตึกสามคูหาตั้งอยู่ถัดจากมหาวิทยาลัยไปเพียงไม่กี่หลัง เพื่อหาของกินไปแช่ไว้ในตู้เย็นที่คอนโดน้ำค้างส่งมอบแซนวิชให้พนักงานก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อให้เขานำไปอุ่น ระหว่างนั้นเธอก็หยิบของกินอื่น ๆ ออกวางบนเคาน์เตอร์เพื่อรอคิดเงิน แต่แล้วก็มีมือของใครบางคนยื่นผ่านหน้าไป พร้อมกับวางกล่องถุงยางอนามัยลงบนเคาน์เตอร์ก่อนหน้านี้ฉลามกำลังขับรถออกจากมหาวิทยาลัย ดวงตาคู่คมก็เหลือบไปเห็นสาวสวยกำลังเปิดประตูลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ จึงตีไฟเลี้ยวเข้าข้า
ช่อผกากลับไปถึงบ้านก็ขึ้นไปหาสามีบนห้องนอน ดูท่าเขาคงจะร้อนใจอยากรู้อาการของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ชยันต์เห็นประตูห้องเปิดเข้ามาก็ลุกออกจากเตียงเดินเข้าไปหาภรรยา“น้ำค้างล่ะ”“หนูน้ำค้างไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ หมอฉีดยาแล้วก็ให้ยาแก้แพ้กับยาทาผื่นคัน ตอนนี้กลับคอนโดไปแล้ว”“กลับคอนโด รถก็ยังอยู่ที่นี่ แล้วจะกลับยังไง”“เธอให้เพื่อนมารับน่ะค่ะ”ช่อผกาสวมกอดแขนผู้เป็นสามีพากันเข้าไปนั่งบนเตียง เงยใบหน้าอ่อนกว่าวัยแสดงสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมอง“คุณโกรธฉันไหมคะ”“ผมจะโกรธคุณเรื่องอะไร”“ก็ที่ฉันทำให้ลูกสาวคุณแพ้อาหาร ฉันขอโทษนะคะ ต่อไปจะจำให้ขึ้นใจว่าหนูน้ำค้างกินถั่วเหลืองไม่ได้”เธอว่าพลางซบใบหน้าออเซาะลงที่แผงอกของสามีเพื่อขอความเห็นใจ นับตั้งแต่คบกันจนกระทั่งแต่งงาน ชยันต์ไม่เคยหาเรื่องทะเลาะหรือมีปัญหากันเลยสักครั้ง และครั้งนี้เธอก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น“ผมจะโกรธคุณได้ยังไง ก็คุณไม่ได้ตั้งใจ อย่าคิดมากเลยนะคุณช่อ ผมรู้ว่าคุณหวังดีกับน้ำค้าง”“ค่ะ ฉันจะไม่คิดมาก ขอบคุณคุณมากนะคะที่เชื่อใจ”เอ่ยจบรอยยิ้มมุมปากของช่อผกาก็เผยขึ้นพร้อมกับดวงตาที่แข็งกระด้าง*****คอนโดของนายน์ เวลาสี่ทุ่ม“อ๊ะ อ๊ะ
ในช่วงค่ำชยันต์เดินไปเคาะประตูเพื่อเรียกลูกสาวลงไปกินข้าวด้วยกัน มื้อนี้ทั้งสี่คนอยู่กันพร้อมหน้า ช่อผกานั่งอยู่ข้างสามีของเธอ ส่วนยิปโซก็นั่งฝั่งเดียวกับน้ำค้าง อาหารบนโต๊ะมีหลากหลายเมนูที่ภรรยาของเขาตั้งใจเตรียมเอาไว้อย่างสุดฝีมือ“น้าช่อตั้งใจทำของโปรดให้ลูกเลยนะ ลองชิมดู”ชยันต์ใช้ช้อนตักแกงเผ็ดไก่ให้ลูกสาว เขาจำได้ว่าน้ำค้างชอบให้แม่ทำเมนูนี้ให้กินอยู่บ่อยครั้ง แต่พอเขาแต่งงานใหม่แล้วรับช่อผกากับยิปโซเข้ามาอยู่ในบ้าน น้ำค้างก็ไม่เคยเรียกร้องให้ทำเมนูนี้อีกเลย“ขอบคุณค่ะ”น้ำค้างจำใจตักเข้าปากเพื่อให้พ่อสบายใจ จะว่าไปรสชาติก็อร่อยดี แต่เห็นหน้าคนทำแล้วทำให้เธอหมดอารมณ์กินข้าว แต่ก็ต้องฝืนใจเพื่อไม่ให้พ่อลำบากใจที่เห็นคนในบ้านไม่ลงรอยกัน“เรื่องเรียนถ้ามีอะไรไม่เข้าใจหนูขอให้พี่น้ำค้างช่วยได้นะ ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน” ชยันต์เอ่ยกับลูกติดภรรยาใหม่“พอดีหนูมีคนช่วยติวแล้วค่ะคุณลุง”ยิปโซมักจะตั้งแง่กับน้ำค้างตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้าน แม่ของเธอมักจะพูดกรอกหูเป็นประจำว่าต้องทำตัวน่ารัก เชื่อฟัง ตั้งใจเรียน เพื่อที่จะได้รับตำแหน่งในโรงแรมที่สูงกว่าลูกสาวในไส้ของเขาแม้ว่ายิปโซจะไม
ฉลามกระตุกยิ้มจ้องมองหญิงสาวที่หลบสายตาเขาอยู่ตลอด ยกมือวนเวียนข้างพวงแก้มสีเลือดฝาด ทั้งสองยืนอยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นของลมหายใจผสมกับกลิ่นเหล้า“ทำไมถึงไม่คุยกันเลยล่ะ ทำอย่างกับไม่รู้จัก”“ก็ไม่ได้อยากรู้จัก แล้วก็ช่วยขยับออกไปด้วย” น้ำค้างเอ่ยเสียงแผ่ว หลุบตามองต่ำ“แต่เราดันรู้จักกันแล้วนี่สิ ทำไงดี”หนุ่มหล่อยกยิ้มยียวน ส่งมือหนาเชยปลายคางสาวสวยเชิดขึ้นจ้องสบตากัน จากนั้นก็ส่งมืออีกข้างรั้งท้ายทอยของเธอเข้ามาใกล้“อื้อ”น้ำค้างส่งเสียงต่อต้านในลำคอพร้อมกับมือพยายามผลักไส เพียงชั่วครู่ก็เหมือนว่าเธอจะเผลอตัวคล้อยตามความรู้สึกนุ่มหยุ่นที่ได้รับ เผยอปากเปิดรับเอาลิ้นร้ายเข้าไปในโพลงปากหวานฉลามตวัดลิ้นสากต้อนลิ้นของสาวสวยแสนเย่อหยิ่งจนจนมุม ดูดดื่มเอาน้ำหวานที่คละเคล้ากับรสเหล้าลงคอ และดูเหมือนว่าเธอจะต้านทานอารมณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่ เผลอตวัดลิ้นหยอกล้อเขาอย่างไม่ประสาส่งผลให้ชายหนุ่มลมหายใจติดขัด ตัดสินใจผละริมฝีปากออกก่อนที่จะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ กระตุกยิ้มจ้องมองคนที่หายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงและหลุบตามองต่ำ“หึ”เสียงแค่นหัวเราะของคนตรงหน้าทำให้น้ำค้างได้สติ ช้อนดวงตาที่ไหว
Comments