“นี่แกอย่าบอกนะว่า ที่แกป่วยจนปวดท้องหนักขนาดนี้ เพราะเรื่องพี่ตะวันน่ะ โอมายยย…เพื่อนสาวของฉัน”“ไอ้เนตร มึงจะพูดเสียงดังเพื่อ… รีบออกไปก่อนเถอะ ฉันจะพาไอ้ปรางกลับบ้าน”“เออ ๆ ไป”จนมาวันนี้ที่เธอฝืนไปเรียนอีกวัน และได้พบกับเขาที่คลาสเรียนของคณะ ซึ่งไม่คิดว่าพวกเขาจะต้องมาเรียนด้วยนอกห้อง“มึงไปสืบให้ทีสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นไอ้กองทัพ”“กูอีกแล้ว”“ก็มึงขี้เสือกที่สุด ตอนนี้กูถามคนป่วยไม่ได้ ต้องรอให้ดีขึ้นก่อนค่อยตะล่อมถาม”“ไอ้เวร ปกติมึงอ่อนโยนแบบนี้เลยเหรอ เชี่ยย…. ไอ้เวรตะวัน นี่มึงจริงจังเหรอวะ”“ไปสืบมาให้กูก็พออย่าพูดมาก แค่นี้นะ”ตะวันวางสายทันที เขานึกสงสัยว่าทำไมจู่ ๆ มะปรางถึงได้ป่วยขนาดนี้ อีกอย่างยังมีบางเรื่อง ที่เขายังไม่ได้คุยกับเธอ ตั้งแต่มีเรื่องที่มหาลัยและเขาเฝ้าอยู่หน้าห้องของเธอ แล้วจู่ ๆ ก็หายไปหลายวันเย็นวันนั้นมะปรางลุกขึ้นมา เธอเห็นว่าตะวันนอนอยู่ข้าง ๆ เขาหลับสนิท เธอเลยไม่ปลุก เพราะเธออยากจะไปอาบน้ำสักหน่อย อีกอย่างตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แต่เมื่ออาบน้ำออกมา ก็เห็นว่าเขานั่งรออยู่ที่เตียง“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ หิวหรือยังพี่จะสั่งข้าว หรือว่าอยากไปกินข
“ปล่อยปรางนะ”“หุบปากไปเลยปราง เก็บเอาไว้ด่าตอนมีแรงเถอะ อย่าพึ่งมาทำปากดีตอนนี้”มะปรางทั้งปวดท้อง กลัวและก็อาย เมื่อเพื่อน ๆ นักศึกษาหันมามองเธอกับตะวันเป็นตาเดียว เขาอุ้มเธอเดินออกจากห้อง และลงลิฟต์ไปที่หน้าคณะ ซึ่งมีรถของเขาจอดอยู่ตรงนั้น เมื่อเดินลงมาคนก็แตกตื่น ที่เห็นเขาอุ้มมะปรางไปที่รถ“ยืนเฉย ๆ”มะปรางอายมาก แต่ก็ต้องทำตามที่เขาพูด เมื่อตะวันเปิดประตูรถก็พาเธอเข้าไปนั่งและคาดเข็มขัดให้ ก็รีบขับรถไปที่โรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดโรงพยาบาล“อาการบิดเกร็งกล้ามเนื้อ เกิดจากภาวะความเครียด ช่วงนี้ต้องนอนพักผ่อนให้มาก ๆ ดื่มน้ำอุ่น และงดทานอาหารรสจัดนะคะ”“คุณหมอครับ แล้วแฟนผมต้องเอกซเรย์ หรือว่าตรวจภายในไหมครับ”“จะบ้าเหรอ จะตรวจภายในไปทำไม”มะปรางแทบจะมุดหน้าหนี เมื่อตะวันถามคุณหมอออกมาแบบนี้ เขาไม่ยอมให้เธออยู่ห่างตัวเลย จนกระทั่งคุณหมอหันมายิ้มให้ทั้งคู่อีกครั้ง“หมอรบกวนขอคุยกับคนไข้ ตามลำพังสักครู่นะคะ”“ผมต้องออกไปเหรอครับ”“พี่ไม่ได้ยินที่คุณหมอพูดเหรอคะ ออกไปก่อน”มะปรางไม่รู้จะพูดยังไง กับคนอย่างตะวัน เขาไม่รู้เลยเหรอว่ามันไม่ใช่เวลาจะมาเถียง คุณหมอแค่พยักหน้าและยิ้มให้เข
เมื่อทุกคนรู้ว่า ใครจะมาเรียนในคลาสนี้ด้วย ก็เริ่มตื่นเต้น บางคนเริ่มส่งข้อความหาเพื่อน ที่กำลังคิดจะโดดเรียนในวิชาที่น่าเบื่อนี้ คลาสเรียนเริ่มคึกคักและคนเยอะมากเป็นพิเศษ แต่มะปรางนั้นหลับ จนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“พะ พวกเขามาทำไมกัน ทำไมซวยแบบนี้นะ”“อันแกใจเย็น ๆ ก่อนนะ นี่แกสั่นมากเลย แกกลัวอีพี่ภาวิชญ์คนนั้นขนาดนี้เลยเหรอ”“ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย”“รีบนั่งเถอะ พวกเขาไม่ทันสังเกตพวกเราหรอก”เมื่อเนตรเห็นท่าทางของอันตรา ก็รีบพาเธอนั่ง และไม่ทำตัวเป็นที่สังเกต แต่พวกเธอไม่รู้ว่า ทั้งตะวันและภาวิชญ์ ตั้งใจมาเรียนในคลาสนี้ ซึ่งพวกเขาทิ้งไปนาน แต่ต้องมาตามเก็บเวลาเรียนครั้งนี้เพราะใคร“เสียงดังฉิบหายเลย เฮ้ย! เงียบหน่อยโว้ย ไม่เคยเห็นหรือไงกัน น่ารำคาญฉิบ!”“ไอ้ทราย! ไหนบอกว่าไม่ทำตัวเด่นไงล่ะ”“เชี่ย ลืมไปเลย... ขอโทษทีว่ะปากมันไวไปหน่อย รำคาญพวกคันทั้งหลาย เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้”แต่พวกเขาเห็นพวกเธอแล้ว โดยเฉพาะตะวันที่หันไปมองคนที่นอนฟุบไปกับโต๊ะ เขาเดินพุ่งตรงมาหากลุ่มของพวกเธอทันที คนที่อยู่ใกล้ถึงกับหันมามอง จนเขาหยุดที่หน้าทั้งสี่คน อันตราเป็นคนแรกที่ขยับหนีแต่ภาวิชญ์เลือกที่จะนั่งปร
“จริงเหรอ แต่ฉันว่าไม่น่าจะใช่นะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาจะยอมโดนตบบ่อย ๆ เหรอ จตุรเทพคณะวิศวะเคยขาดผู้หญิงที่ไหนกัน”“ช่างเถอะเลิกคุยเรื่องคนอื่นดีกว่า ว่าแต่แกเรียกฉันทำไม”“ก็เรื่องปีหน้าที่จะไปฝึกงาน แกคิดเอาไว้หรือยังว่าจะไปที่ไหน”"อะไรกันพึ่งเริ่มเทอมสองไม่กี่วันเอง เรื่องของปีสามเลยนะนั่น"“ฉันกำลังคิดว่า จะขอไปฝึกกับบริษัทบ้านไอ้อันกันดีไหม”“แต่เราก็ต้องถามอันก่อนไม่ใช่เหรอ”“ก็ใช่ แต่จะถามยังไง มันไม่มาสองวันแล้ว ตั้งแต่หายไปกับพี่คนนั้น”“จริงสิ พวกแกไม่รู้เลยเหรอว่า ทำไมไอ้อันถึงรู้จักกับพี่…”“พี่ภาวิชญ์ ฉันรู้จักพี่คนนี้ เขาเป็นลูกชายของเจ้าของโรงแรม บริษัทท่าเรือที่ระยอง รวยมากแต่ก็เจ้าชู้มาก กะล่อนกว่าพี่ตะวันของไอ้ปรางเยอะ เพราะคนนี้เจ้าชู้แบบเห็น ๆ เลยละ”เนตรเป็นคนพูดขึ้นมา เพราะเธอเหมือนเป็นแหล่งข่าวซุบซิบที่ดีของคณะเลยก็ว่าได้ แทบจะไม่มีเรื่องไหนรอดพ้นสายตาของเธอ ถ้าไม่นับเรื่องของอันตรา“แล้วไอ้อันไปรู้จักเขาได้ยังไง”“นั่นสิ ปกติอีพี่ภาวิชญ์นี่ชอบกินไม้แก่นะ”“ไม้แก่หมายถึง…”“ใช่ เขาชอบกินผู้หญิงอายุมาก ๆ แบบว่ามากประสบการณ์อะไรแบบนั้น แต่ไอ้อันของเราทั้งเงียบ เ
“หลงตัวเอง”“คนปากแข็ง”เมื่อกินเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็พากันกลับไปที่คอนโด เมื่อเดินออกมาจากลิฟต์ ก็ต้องแปลกใจเพราะหน้าห้องของเขามีคนมายืนรออยู่“พี่ตะวันกลับมาแล้วเหรอคะ”“แจง มาทำอะไรที่นี่”“คือว่า…”“เหอะ ขอตัวก่อนนะ”“เอ่อ...”เขาไม่ทันได้เรียกเธอ มะปรางเดินมาที่ห้องของตัวเอง และไขประตูเข้าไป พร้อมกับปิดโดยไม่ได้หันมามองเขาอีก ตะวันได้แต่หน้ามุ่ย เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมารออยู่หน้าห้อง“แจงมาทำอะไรที่นี่ พี่บอกว่าถ้าไม่ได้เรียกก็อย่ามาไงละ”“แจงก็แค่เหงา เลยจะมาชวนพี่ตะวันไปดื่มสักหน่อย แต่พอคิด ๆ ไปแล้ว พี่ไม่ชอบไปเที่ยวก็เลยมารอที่นี่”“ไม่มีอารมณ์ กลับไปเถอะ”“อะไรกันคะ ทำไม…”“จะเอาเท่าไหร่”“พี่ตะวันละก็”“แค่ครั้งนี้เท่านั้น ถ้าไม่เอาก็รีบกลับไปเลย พี่บอกเอาไว้เลยนะว่าจากนี้เราไม่ต้องมายุ่งกันอีก ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ไม่จบแน่”“พี่ขู่แจงขนาดนี้เลยเหรอ”“จะเอาไหม”“หนึ่งหมื่น ไม่สิ ไหน ๆ ก็ครั้งเดียวแล้ว สามหมื่น”“เหอะ คิดว่าค่าตัวเธอสูงขนาดนั้นเลยเหรอ”แต่เขาก็ยกมือถือขึ้นมา และกดโอนเงินให้เธอทันที เมื่อหันไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก็นึกดูถูกขึ้นมาทันทีผู้หญิงก็แค่นี้ เห็นแก
“ตะวัน! นี่จำพีชไม่ได้เหรอคะ”“พีช… คือว่า”เพี๊ยะ!ฝ่ามือของพีช ฟาดลงไปที่หน้าของตะวันอีกครั้ง เขาเซเล็กน้อยโดยมีมะปรางคอยประคองเอาไว้ “พี่ตะวัน”“พี่ไม่เป็นไร”ตะวันค่อย ๆ หันกลับมา และมองหน้าคนที่กล้าตบเขา รอบข้างของรุ่นพี่สาวสุดสวย ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นดาวคณะมาก่อน เริ่มหน้าซีดเพราะความกลัว“พอใจหรือยัง”“หมายความว่ายังไง”“ตบแล้วรู้สึกดีขึ้นไหม” “ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่คุณจำฉันไม่ได้ ฉันก็เลยโกรธ”“ผมจำไม่ได้ก็บอกว่าจำไม่ได้ ไม่เห็นแปลก แต่ที่คุณมาหาเรื่องปรางนี่สิที่ผมแปลกใจ”“นี่คุณจะบอกว่า คบกับเด็กนี่จริงเหรอ”“ทำไมคุณสนใจเรื่องของพวกเราจังเลย ต้องจูบให้ดูอีกรอบไหม ถึงจะเชื่อกัน”“อย่านะคะพี่ตะวัน ไม่งั้นปรางจะชกพี่อีกทีจริง ๆ ด้วย”ตะวันยิ้มและลูบหัวเธอไปนิดหน่อย ส่วนคนที่มองอยู่ทั้งโกรธและอิจฉา เธอเจอเขาที่ผับเมื่อหลายเดือนก่อน ถึงจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ แค่คืนเดียวแต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะถึงกับจำแม้แต่ชื่อของเธอไม่ได้“มะปรางฉันขอเตือนเอาไว้ ถึงวันนี้เหมือนว่าจะชนะ แต่เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ ถ้าวันไหนเขาเบื่อขึ้นมา สภาพก็ไม่ต่างกับฉันในวันนี้”ว่าแล้วพีชก็เดินไป อย่างน้อยดีกรีอดีตดาวคณ