หากนิยามคำว่า...ใครรู้สึกก่อนคนนั้นแพ้ เธอก็คงเป็นคนแพ้ตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นหน้าเขา...
view moreChapter 1 : อุบัติเหตุรัก
ภายในห้องโดยสารของสายการบินหนึ่งที่กำลังทยานสู่น่านฟ้าประเทศไทยเตรียมที่จะลงจอดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ร่างเล็กของหญิงสาวชาวไทยภายใต้แมสสีดำยังคงนั่งกระสับกระส่ายอยู่ที่นั่งชั้นธุรกิจ ดวงตากลมโตชะเง้อมองหาเพื่อนสาวคนสนิทที่ออกไปเข้าห้องน้ำร่วมสิบนาทีแล้วก็ยังคงไม่กลับมา
"ช่วยด้วย ๆ มีคนเป็นลมหมดสติ" เสียงแหลมเล็กเจือไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจเอ่ยขึ้นมาจากฝั่งห้องน้ำ ผู้คนต่างก็แตกตื่นไปตามเสียงร้องนั้น บ้างก็ลุกขึ้นยืนเพื่อมองออกไปยังที่เกิดเหตุ รวมไปถึงคนที่เฝ้ารอการกลับมาของเพื่อนร่วมทางที่หยัดกายลุกขึ้นมองเช่นกัน หัวใจของเธอกระหน่ำเต้นแรงพร้อมกับสาวเท้าเข้าไปยังบริเวณนั้นทันที
และบุคคลที่กำลังนอนแน่นิ่งหมดสติไปนั้นก็คือเพื่อนร่วมเดินทางของเธอจริง ๆ สาวหมวยลูกครึ่งไทยจีนนอนหลับตาพริ้มโดยมีแอร์โฮสเตสสาวสองคนขนาบข้าง พยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ยังไร้วี่แววของการฟื้นคืนสติ
"เธอเป็นเพื่อนของฉันค่ะ" เสียงเล็กรีบพูดขึ้นพร้อมกับนั่งยองลงข้าง ๆ มองคนคุ้นเคยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
"ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว หรือมียาที่จะต้องใช้เป็นประจำไหมคะ?" หนึ่งคนในนั้นหันกลับมาสอบถามเธอ
"ไม่มีค่ะ ปกติเธอก็แข็งแรงดี" เธอรีบตอบออกไปตามที่รับรู้มา ตลอดระยะเวลาหลายปีที่รู้จักกันมาอีกคนยังไม่เคยมีอาการป่วยหรือเจ็บออด ๆ แอด ๆ ให้เห็นเลยสักครั้ง
ในระหว่างนี้ทีมช่วยเหลือผู้ป่วยก็ยังคงทำได้เพียงใช้ยาดมในการประทังอาการ และดูเหมือนว่าจะไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย กระทั่งเสียงของสจ๊วตได้ประกาศออกลำโพงขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากทุกคนบนเครื่องบิน ตามหาคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยเหลือ
สิ้นสุดเสียงประกาศ ระหว่างที่ผู้โดยสารบนเครื่องกำลังแตกตื่น ร่วมถึงตัวของสาวไทยเองก็ใจสั่นขวัญเสียเช่นกัน ดวงตากลมโตเริ่มคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เพ่งมองใบหน้าที่ซีดเซียวของเพื่อนสนิทด้วยความกังวล
“ดิฉันเป็นพยาบาลค่ะ นี่เป็นใบประกอบวิชาชีพ ดิฉันขอดูอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาทั้งหมดที่มีตอนนี้หน่อยค่ะ” หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามานั่งยองลงข้าง ๆ ผู้ป่วย ไม่นานนักอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เธอร้องขอก็ถูกนำมาวางลงตรงหน้า สองมือรีบเปิดกระเป๋าใบนั้นและหยิบที่ตรวจฟังเสียงหัวใจ ก่อนที่คิ้วโก่งจะขมวดเข้าหากัน
“ผู้ป่วยหัวใจเต้นช้าผิดปกติ อีกนานไหมคะกว่าเครื่องจะลงจอด?” เสียงของพยาบาลที่แจ้งผลการตรวจเช็คเบื้องต้นทำเอาน้ำตาที่เอ่อนองไหลลงอาบแมสสีดำผืนนั้นทันที สองมือเล็กสั่นเทาพอ ๆ กับจิตใจของเธอในตอนนี้
“อีกหนึ่งชั่วโมงครับ” เสียงสจ๊วตตอบกลับทันที
“ความจริงยาทีมีอยู่ในตอนนี้ก็สามารถใช้ได้นะคะ แต่ต้องทำการฉีดเข้าเส้นเลือดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น” สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกดดันของพยาบาลทำเอาทุกคนในบริเวณนั้นต่างมองหน้ากันสลับไปมาอย่างทำอะไรไม่ได้
“นอกจากรออยู่เฉย ๆ เราสามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ไหมคะ?” น้ำเสียงละมุนเจือไปด้วยความหวั่นกลัวเอ่ยออกมาผ่านแมสสีดำผืนนั้น หนึ่งชั่วโมงหากเทียบกับสภาพของคนหมดสติในตอนนี้คงจะไม่ทันการ
“ทุกคนช่วยหลบไปก่อน ขอพื้นที่ให้ผมด้วยครับ” แต่แล้วก็มีเสียงทุ้มของชายหนุ่มแทรกเข้ามา ในขณะที่ทุกคนต่างก็หันไปดู ร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาคมคายสไตล์ลูกครึ่ง ผิวพรรณสะอาดสะอ้านราวกับผู้ดิบผู้ดี เดินออกมาจากทางชั้นสองด้วยความเร่งรีบ ก่อนที่หลายคนจะรีบเปิดทางให้เขารวมถึงตัวของเธอเองก็ค่อย ๆ ขยับกายออกกระทั่งมีพื้นที่สำหรับอีกคนที่จะแทรกกายเข้ามาได้
“ขอยาxxxครับ” เขาหันไปบอกกับพยาบาล ทุกคนดูจะงุนงงกับเหตุการณ์ในตอนนี้ ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังเตรียมเข็มฉีดยา เตรียมที่จะทำการฉีดให้ผู้หมดสติ
“คุณจะทำอะไร?” เสียงเล็กเอ่ยขัดขวางในทันที พร้อมกับใช้มือรั้งที่แขนของชายหนุ่มเอาไว้ ในจังหวะที่สายตาสองคู่ประสานกันเพียงเพียงเสี่ยววินาทีทำให้เธอรู้สึกราวกับหัวใจหยุดเต้น ก่อนจะดึงสติกลับมาได้เพราะเสียงของเขา
“ถอยไป ผมกำลังจะช่วยชีวิตเธอ”
“ไม่ได้ ฉันจะปล่อยให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาฉีดยาให้เพื่อนฉันได้ยังไง?” แววตามุ่งมั่นไม่ยินยอมจะให้เขาได้ทำหน้าที่ที่มีเพียงผู้เชียวชาญเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ กระทั่งคนถูกขัดขวางหยิบบางอย่างในกระเป๋าสตางค์ออกมา
“ผมเป็นหมอครับ” พูดจบศัลยแพทย์หนุ่มก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างชำนาญภายใต้การลุ้นระทึกของผู้โดยสารทุกคนบนเครื่อง ร่วมไปถึงหญิงสาวที่มองทุกการกระทำนั้นแทบไม่คาดสายตา
เครื่องตรวจฟังเสียงของหัวใจและชีพจรถูกวางลงในกระเป๋าเครื่องมือหลังจากที่แพทย์หนุ่มแจ้งว่าอาการของผู้ป่วยคงที่แล้ว รอแค่เครื่องลงจอดและให้ทำการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทันที
ทุกคนต่างแสดงสีหน้าโล่งใจออกมาตาม ๆ กัน และต่างก็แยกย้ายกันนั่งลงยังประจำที่ของตัวเองตามเดิม เหลือไว้เพียงคนตัวเล็กที่กำลังก้มลงหยิบบางอย่างที่วางอยู่ที่พื้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงใช้สายตาชะเง้อมองหาเจ้าของของมันแต่กลับไม่พบ
"นพ.คาเดล บอลลาร์ด
ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก”
ริมฝีปากเล็กกระจับขยับเบา ๆ ตามตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ในบัตรประกอบวิชาชีพใบนั้น ภายใต้แมสสีดำผืนนั้นไม่มีผู้ใดรู้ว่าเธอคือใคร และกำลังรู้สึกอะไรอยู่…
___________________
1 คอมเมนท์ = 1 กำลังใจ♥️
Thanks for following me🙏
Chapter 40 : สัญญาของเราเช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับใบหน้าสวยหวานที่ฉีกยิ้มตาหยี นอนมองแขนของคุณหมอหนุ่มที่ยังคงกอดรัดตัวเองเอาไว้ทั้งคืน จนถึงตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในอ้อมกอดนั้นเหมือนเดิม แพรชมพูเงยหน้ามองคนหล่อเหลาที่ยังหลับตาอยู่ เผลอยิ้มออกมาด้วยความสุขและความรู้สึกหลงรักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตสัมผัสเมื่อคืนที่ได้รับมันทำให้แพรชมพูมั่นใจแล้วว่าเธอรักหมอนิคจริง ๆ รักหมดทั้งใจ ไม่ใช่แค่ความหลงไหลหรือติดใจเรื่องบนเตียงอย่างที่เคยลังเล แต่รักและพร้อมจะมอบทั้งชีวิตให้เป็นของผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคำว่ารักจากปากเขาถึงแม้จะยังไม่ได้ยินแต่การกระทำของเขามันได้ตอบทุกอย่างจนกระจ่างแล้วหากไม่เป็นการคิดไปเอง หมอนิคก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน...ในระหว่างที่แอบยิ้มเงียบ ๆ อยู่คนเดียว คนถูกลอบมองก็ขยับตัวและดึงแขนออกจากร่างเล็กในท่าทีเมื่อยล้าก่อนจะลืมตามองมาหน้าเธอ"มอร์นิ่งค่ะพี่นิค" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายก่อน แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบไม่มีแม้แต่รอยยิ้มทักทายกลับ แต่จู่ ๆ เขาก็ยกหัวขึ้นมาจากหมอนหนุ่นใบใหญ่ โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากของเธอแทน"ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้ว พี่มีเรื่องสำคัญจะ
Chapter 39 : เอาทั้งคืน NC20+🔥"คืนนี้ผมจะเอาคุณทั้งคืน" คำหยาบคายถูกพ่นออกมาพลางยิ้มมุมปาก แต่กลับกระตุกหัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นโครมคราม ตื่นเต้นกับคำพูดกราวอกกราวใจขัดกับบุคคลิกอ่อนโยนเรียบร้อยแต่แฝงไปด้วยความดุดัน"....." แพรชมพูยืนนิ่งริมฝีปากสั่นระริก ช้อนสายตามองหน้าเขาเลือดลมสูบฉีดจนใบหน้าร้อนผ่าว หมอนิคไม่พูดอะไรต่อเขาเลือกที่อุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอกและตรงเข้าไปในห้องนอนทันทีหลังจากถอดชุดนอนตัวบางโยนลงไปกองอยู่ที่พื้น ความรู้สึกเย็นวาบยามแผ่นหลังสัมผัสกับผ้าปูที่นอนนุ่มเนื้อดีทำเอาขนอ่อนพร้อมใจกันตั้งฉากกับตัว พอ ๆ กับบางอย่างที่ขึงขังอยู่ใต้ผ้าขนหนูสีขาวตรงหน้า และดีดผึ่งออกมาสู้สายตาหวานล้ำจนเธอต้องหันหน้าหลบเลี่ยงความใหญ่โตของมัน"ไม่ต้องหลบหรอก อีกเดี๋ยวมันก็จะเข้าไปอยู่ในตัวคุณแล้ว" ร่างเปลือยเปล่าได้แต่ห่อไหล่ลงอย่างหวาดหวั่น สะดุ้งกับคำพูดหยาบโลนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน สีหน้าท่าทางของหมอนิคยามสละคราบศัลยแพทย์ออกนั้นกระชากความรู้สึกส่วนลึกของแพรชมพูจนกระเจิงมือเรียวใหญ่ค่อย ๆ ลูบไล้เรียวขาขาวเนียนจากข้อเท้าสู้ด้านบนเรื่อย ๆ รู้สึกคอแห้งผาดขี้นมาเพียงได้เห็นดอกไม้งามตรงหน้า
Chapter 38 : แอบหวังแพรชมพูผลักนิคออกและรีบหยัดกายลุกขึ้นยืนทันที สองขาก้าวถอยหลังห่างออกไปราวกับว่าเขาเป็นตัวอันตราย"อะไรของคุณ?" นิคเองก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ ปกติแล้วแพรชมพูไม่เคยปฏิเสธเขาเลยสักครั้ง แล้วมารู้ว่าเธอรู้สึกยังไงต่อกันยิ่งไม่มีเหตุผลให้เธอต้องทำท่ารังเกียจเขาแบบนี้"แพรง่วง ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ""เดี๋ยว คุยกันให้รู้เรื่องก่อน ปกติคุณไม่เป็นแบบนี้หนิ" คนตัวสูงนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวรีบคว้าแขนเล็กเอาไว้ อารมณ์แบบนี้หากไม่ใช่ช่วงประจำเดือนจะมาก็คงมีเรื่องไม่พอใจเขาแน่นอน"อยากคุยมากใช่ไหมคะ ได้" แพรชมพูสะบัดแขนออก ก่อนจะก้มลมเก็บเสื้อที่ล่วงหล่นอยู่ที่พื้นขึ้นมาถือเอาไว้ในมือ สายตามองไปที่รอยเปรอะเปื้อนแข็งกร้าวก่อนจะปาเสื้อในมือใส่หมอนิคด้วยแรงอารมณ์ที่ติดอยู่ภายในใจ ตั้งใจจะเดินหนีเพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของนายจ้าง แต่ในเมื่อต้องการคุยเธอก็พร้อมระเบิดมันออกมาเช่นเดียวกัน"คุณห้ามไม่ให้แพรมีใครแต่คุณกลับมีซะเอง แบบนี้มันไม่แฟร์สำหรับแพรเลยนะคะ" เธอพูดเสียงสั่นเครือ แต่ในขณะที่อีกคนกำลังจะอ้าปากอธิบายนิ้วชี้เรียวเล็กก็ชี้หน้าเขาอย่างไม่มีควา
Chapter 37 : คิดหนักความเงียบเข้ามาปกคลุมไปทั่วทั้งห้องชุดสุดหรูหราสมฐานะของนักธุรกิจหนุ่มและศัลยแพทย์ผู้มีชื่อเสียง แต่มองไปทางไหนกลับพบเพียงความเหงาและอ้างว้าง หัวใจที่เคยว่างเปล่าเต็มไปด้วยความว้าวุ่นจนเขาต้องนั่งดื่มเงียบ ๆ ริมระเบียงห้องต่อเพียงลำพังหลังจากกลับมาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย เขาก็เห็นว่าคนตัวเล็กนั้นหลับสนิทอยู่บนเตียงจึงไม่คิดจะปลุกให้เธอตื่นหนำซ้ำยังพยามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดเท่าที่คนกรึ่ม ๆ จากการดื่มไวน์มาแล้วหลายขวดจะทำได้ เพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอแปลกที่เขารู้สึกเป็นห่วง แปลกที่เขาชอบเห็นใบหน้ายิ้มแย้มนั่น และอยากจะเห็นมันตลอดเวลา..."มึงพูดออกมาแบบนี้ ถ้าเธอได้ยินคงเสียใจมากเลยว่ะ""เธอรู้ดีว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร มึงจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาคุยทำไมว่ะ ไม่สำคัญเลยสักนิด""เหอะ~ ไม่สำคัญแต่ทำคนไม่มีหัวใจอย่างมึงมีสีหน้าแบกโลกทั้งใบคงไม่ใช่ธรรมดาแล้วว่ะ มึงรู้ตัวไหมว่าตั้งแต่ที่มึงอยู่กับเด็กคนนั้นมึงยิ้มบ่อยแค่ไหน แล้วที่มึงเทโอปอก็ไม่ใช่ว่ามึงไม่ว่างจริงไหม แต่มึงไม่คิดจะมีเซ็กส์กับคนอื่นแล้วต่างหาก"กึก!ไวน์ขวดที่สองถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะหลังจากที่เขาดื่
Chapter 36 : คุณหมอผู้กลับใจแพรชมพูนั่ง ๆ นอน ๆ พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ เธอมองดูเวลาที่นาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้างเตียงทุก ๆ สิบนาทีจนกระทั่งห้าทุ่มหมอนิคก็ยังไม่กลับมา"ริสาบอกเขาว่า ความจริงแล้วแพรรักหมอนิคต่างหากถึงได้ยอมอยู่แบบนี้""เฮ้อ~" เธอดีดตัวลุกขึ้นแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอเขาแล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากเรื่องเมื่อคืนหมอนิคจะรู้สึกยังไง คนทั่วไปคงจะรู้สึกดีที่มีคนรักมากกว่าคนเกลียด แต่สำหรับคนที่มีแววตาที่ยากจะอธิบายได้อย่างเขาเธอเดาไม่ออกเลยจริง ๆ“คืนนี้คุณจะกลับห้องไหมคะ?” หญิงสาวก้าวขาเรียวยาวลงจากเตียงแล้วเดินไปหยิบมือถือที่ชาร์จแบตฯ เอาไว้เพื่อส่งข้อความหาเขา รออย่างใจจรดจ่อไม่นานนักอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา“ครับ” เธอยิ้มให้กับคำตอบสั้น ๆ ดีใจที่อีกฝ่ายตอบกลับมา"งั้นเดี๋ยวแพรจะอุ่นอาหารไว้รอคุณนะคะ""ไม่ต้อง คุณนอนเถอะดึกมากแล้ว" เขาตอบกลับอย่างไร้เยื้อใย แพรชมพูมองหน้าจอมือถือ นิ้วเรียวเล็กชะงักนิ่งในขณะที่กำลังพิมพ์ประโยคถัดไป"มีกับข้าวหลายอย่างเลยค่ะ แพรตั้งใจทำสุดฝีมือ....."เธอกดปิดหน้าจอและวางมือถือเอาไว้ที่เดิม รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องเป็นฝ่ายยอมโดยที่เรียกร้องอ
Chapter 35 : จัดการให้แสงแดดที่ลอดผ่านช่องผ้าม่านสีเทาหม่นบนตึกชั้นสามสิบด้วยการตั้งใจเปิดมันเอาไว้ของเจ้าของห้อง ก่อนที่จะต้องออกไปทำงานในเช้าของอีกวัน หวังให้คนที่กำลังหลับสนิทบนเตียงหากตื่นขึ้นมาแล้วจะได้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากที่นอนจมกองผ้าห่มมาจนถึงบ่ายโมง ดวงตาหนักอึ้งพยายามปรับโฟกัสให้เข้ากับแสงแดดจ้าที่สาดส่องเข้ามากระทบกับร่างกายจนเธอรู้สึกร้อนอบอ้าวทั้งที่เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอยู่แต่เมื่อฟื้นคืนสติแพรชมพูก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที พยายามครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และทั้งเสียงพูด ภาพ กลิ่น ก็ฉากเข้ามาในความทรงจำของเธอเป็นฉาก ๆ"โอ๊ย ทำบ้าอะไรลงไปว่ะเนี่ย" คนปกติเมาแล้วจะจำอะไรไม่แต่สำหรับแพรชมพูนั้นต้องหัวฟาดพื้นสมองกระทบกระเทือนอย่างหนักเท่านั้นถึงจะจำไม่ได้ ถึงภาพนั้นจะเลือนลางแต่ก็ยังรู้ว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรตี๊ด~ ตี๊ด~แกร๊ก~"ริสา เมื่อคืนหลังจากที่ภาพตัดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง?" คิดได้ก็รีบจัดการการกับตัวเองและลงลิฟต์ไปหาเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่จะให้คำตอบนี้แก่เธอได้ ถึงจะจำได้บ้างแต่ก็ไม่แน่ใจอยากจะฟังจากปากคนในเหต
Mga Comments