ปลายฝนนั่งเงียบไปตลอดทาง เธอไม่สนใจสิ่งที่ธามถามหรือแม้แต่พูดกับเธอ ตอนนี้เธออยากให้ถึงคอนโดเร็ว ๆ เพื่อออกห่างจากผู้ชายคนนี้ให้มากที่สุด
"เลี้ยวซ้ายจอดตรงเซเว่นนะ ฉันจะซื้อของหน่อย"ปลายฝนโกหกเรื่องจะซื้อของ เธอแค่อยากลงจากรถก่อน แต่เหมือนเจ้าของรถจะจับได้ "ไม่อยากอยู่กับฉัน ถึงขนาดหลอกว่าจะซื้อของเลยเหรอ" "นี่นาย!!!หยุดพูดมากสักที ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว" เสียงหวานตวาดเขาออกไปอย่างเหลืออด คนอะไรจะเดาใจเธอถูกไปหมดทุกอย่างขนาดนี้ ยิ่งเขาทำแบบนี้เธอจะยิ่งกลัวเขามากขึ้น "ฉันจะไปส่งให้ถึงคอนโด" "เอ๊ะ!!! บอกว่าไม่ต้อง ฉันอยากเดินออกกำลังกาย" "เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเป็นคนโกหกใครไม่เก่ง ยิ่งเธอพูด ฉันก็ยิ่งอ่านความคิดเธอได้" ปลายฝนปิดปากลงในทันที จากที่จะอ้าปากด่าเขาอีก แต่เธอกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ขับรถช้าขนาดนี้ เหมือนเขาจะแกล้งเธอมากกว่า เพราะเมื่อเธอหันไปมองก็เห็นเขาผิวปากอย่างอารมณ์ดี มันยิ่งทำให้เธอไม่พอใจเขา เมื่อรถจอดสนิทตรงหน้าคอนโดของปลายฝน ประตูรถข้างคนขับก็ถูกเปิดออกทันที แต่คนขับก็เปิดประตูเดินตามเธอลงมาด้วย“นี่นายกลับไปได้แล้ว จะเดินตามฉันเข้ามาทำไม” “ฉันก็แค่อยากส่งเธอให้ถึงหน้าลิฟท์ หรือเธออยากให้ฉันขึ้นไปส่งที่ห้อง” คนตัวเล็กหยุดเดินเมื่อถึงหน้าลิฟท์ เธอหันหน้าไปมองเขาตรง ๆ“นายไม่ต้องใจดีเกินเหตุกับฉันขนาดนี้ มันทำให้ฉันขนลุก” “เธอรู้หรือเปล่าในขณะที่เธอพูด ดวงตาที่เธอมองฉันมันไม่ได้รังเกียจเหมือนคำพูดเธอเลยนะ”ธามขยับเดินเข้าหาเธอเรื่อย ๆ จนลิฟท์เปิดออกพอดี ทำให้เธอและเขาเดินเข้าลิฟท์ไปพร้อมกัน โดยที่เธอถอยหลังจนชิดผนังลิฟท์ด้านใน “ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะน่าแกล้งขนาดนี้ อาการที่เธอเป็นอยู่เธอเป็นตอนอยู่ใกล้ฉันหรือเปล่า” ปลายฝนตาโตตกใจไม่คิดว่าเขาจะอ่านความรู้สึกเธอได้ขนาดนี้ อีกอย่างตอนนี้เราสองคนอยู่ใกล้กันมากด้วย ใกล้จนเธอได้กลิ่นตัวเขาแบบที่เธอได้กลิ่นในรถของเขา ความรู้สึกร้อนวูบวาบแล่นปราดไปทั่วร่างอีกครั้ง เธอรู้แล้วว่าเขากำลังแกล้งให้เธอเผยบางอย่างออกไป แต่เธอเองก็ควบคุมมันไม่ได้เลย ขืนให้เธออยู่แบบนี้ มีหวังเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าที่เขาพูดมานะมันคือเรื่องจริง ติ้ง! เสียงลิฟท์เปิดออกแต่ไม่ใช่ชั้นที่เธออยู่ มันคือชั้นสูงสุดของลิฟท์เพราะเธอไม่ได้กดเลขชั้นตั้งแต่แรก“ถอยไปนะ ฉันจะกดเลขชั้น” “อยู่ชั้นไหน?” “ฉันจะกดเอง”มือเล็กพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกห่างจากเธอ แต่ก็ไม่เป็นผลอีกเหมือนเดิม “บอกเลขชั้นมา ไม่งั้นเราสองคนก็อยู่กันแบบนี้แหละ” “ชั้นหก”มือหนาเอื้อมไปกด แต่ร่างกายของเขาไม่ได้ขยับออกไป คนตัวเล็กเลยจำใจต้องยืนหายใจรดต้นคอเขาอยู่แบบนี้ จนลิฟท์เปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เธออาศัยจังหวะที่เขาเผลอสะบัดตัวออกมาอย่างเร็ว และรีบเดินออกจากลิฟท์ทันที ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาลอยมาจากในลิฟท์แต่เธอไม่คิดหันไปมองอีกแล้ว รีบเดินให้ถึงห้องตัวเองเร็วที่สุด พร้อมทั้งเปิดและปิดประตูด้วยความเร็ว ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอน ทิ้งตัวลงนอนหงายทันที มือเล็กยกขึ้นมาจับตรงอกข้างซ้ายของตัวเอง ก็พบว่าใจเธอเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ และสะบัดหัวไล่ใบหน้าของธามออกไปจากหัวเธอ ทำไมเขาเอาแต่วนเวียนอยู่ในความคิดของเธอแบบนี้ เธอไม่ชอบเขาไม่ใช่เหรอ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ทำไมเธอถึงเหมือนจะรู้สึกบางอย่างกับเขา ทุกอย่างในความรู้สึกมันเหนือความควบคุมไปหมด ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของเธอดังอีกครั้ง ปลายฝนสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ เป็นแชทกลุ่มของพวกเธอสามคน เมื่อเปิดอ่านก็เป็นเพื่อนสองคนที่ส่งข้อความมาถามอาการของเธอ มิลลิ: มึงถึงคอนโดหรือยัง คาเทียร์: อาการดีขึ้นบ้างไหม เธอไม่รู้จะตอบเพื่อนไปว่าอย่างไร เพราะเอาจริง ๆ เธอไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย มันเป็นอาการที่เธอไม่สามารถบอกใครได้ เธอไม่ได้ป่วย แต่ที่ต้องกลับมาคอนโดก่อน เพราะเธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ต่างหาก ปลายฝน: กูถึงแล้ว กำลังจะนอน เมื่อพิมพ์แชทบอกเพื่อนเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ หวังให้ความเย็นของน้ำทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มของเธอสงบลงได้บ้าง “มึงไปไหนมาไอ้ธาม แม่ง!!! กลางวันมึงก็ไม่เว้นเหรอว่ะ” ธามที่กลับมาจากไปส่งปลายฝนที่คอนโด ก็ถูกปอร์เช่ซักทันที เพราะบอกเพื่อนว่าไปเข้าห้องน้ำ แต่เขากลับหายไปเป็นชั่วโมง จนเข้าเรียนสายไปเกือบครึ่งชั่วโมง “กูไม่อยากถามมึงแบบนี้นะ แต่มึงไม่ได้ตามปลายฝนออกไปใช่ไหม” เขาไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อน แต่ยิ้มออกมา พลันก็นึกถึงใบหน้าสวยของคนที่เขาเพิ่งไปส่ง ปลายฝนไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบ แต่เธอเป็นคนน่าแกล้ง ยิ่งเธอแสดงออกว่าไม่อยากเข้าใกล้เขาเท่าไหร่ เขากลับยิ่งอยากเข้าใกล้เธอมากเท่านั้น ปอร์เช่ที่นั่งจ้องหน้าเพื่อนสนิทอยู่ ถึงธามจะไม่ตอบคำถามที่เขาถาม แต่แค่ยิ้มแบบนั้นออกมา เขาก็รู้คำตอบทันที ในสายตาเขาปลายฝนเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งที่เพื่อนเขาไม่ควรไปยุ่ง เธอไม่เหมาะที่จะเป็นผู้หญิงคั่นเวลาของใคร “คืนนี้ออกไหมว่ะ พรุ่งนี้ไม่มีเรียน” ธามจงใจเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นเพื่อนนั่งจ้องหน้าเขาตาแทบไม่กระพริบ ตอนนี้เขาไม่มีคำตอบเรื่องที่กำลังทำอยู่ให้เพื่อน เขาเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าที่ตามไปส่งปลายฝนเหตุผลคืออะไร คงแค่อยากแกล้งให้เธอหน้าแดงเล่น ๆ เพราะยิ่งอยู่ใกล้เธอ เขาก็เหมือนเจอเรื่องสนุกเรื่องหนึ่ง หลังจากอาบน้ำจนความคิดฟุ้งซ่านหายไป ปลายฝนก็เอาหนังสือเรียนออกมาอ่าน การเรียนเป็นสิ่งที่เธอทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจมาตลอด เธอจะมาวอกแวกเพราะเรื่องอื่นไม่ได้ การที่เธอไม่ได้จดแลคเชอร์วิชาเรียนวันนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเหมือนเธอกำลังทำผิดกฎที่ตั้งไว้กับตัวเอง พอคิดถึงตรงนี้ หน้าคนเป็นแม่ก็ลอยมา ถึงท่านจะไม่เคยบังคับเธอไม่ว่าเรื่องอะไร แต่เธอก็รู้สึกผิดกับแม่อยู่ดี พ่อกับแม่เป็นฝ่ายซัพพอร์ตสิ่งที่ลูก ๆ ทุกคนทำเสมอ พี่น้องของเธอทุกคนล้วนได้เรียนและทำในสิ่งที่รักทั้งสิ้น รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาในครอบครัวนี้ นิ้วเรียวกดโทรออกหาคนเป็นแม่ รอไม่นานเสียงหวานของแม่ก็รับสายเธอ (ว่าไงคะ? ปลายฝนของแม่) “หนูคิดถึงแม่ค่ะ เสาร์นี้จะกลับบ้านพร้อมพี่กายนะคะ” (เรียนหนักหรือเปล่า ทำไมเสียงลูกไม่สดใสเลยคะ) “เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ ได้ยินเสียงแม่แล้วหายเลยค่ะ” (อยากให้แม่กับพ่อไปหาไหม พ่อก็บ่นอยู่นะว่าลูกไม่ค่อยกลับบ้าน ชวนแม่จะไปหาหนูอยู่เลย) ก็จริง...ที่เธอไม่ได้กลับบ้านเกือบเดือนแล้ว ทั้งที่บ้านก็ไม่ได้อยู่ไกลอะไร แต่เธอยุ่งกับทำรายงานหลายวิชาที่อาจารย์สั่งพร้อม ๆ กัน “ขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วงนะคะ ตอนนี้หนูเคลียร์งานเสร็จเกือบหมดแล้วค่ะ ต่อไปจะกลับบ้านทุกอาทิตย์เลยดีไหมคะ” (ดีค่ะ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย อย่าหักโหมอ่านหนังสือจนดึกดื่นนะ พักผ่อนเยอะ ๆ และกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย) “ค่ะ หนูจะทำตามแม่ทุกอย่าง หนูรักแม่นะคะ”ปลายฝนเดินตามร่างสูงจนถึงหน้าห้องของเขา ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดว่าหลังจากประตูเปิดออกจะเกิดอะไรขึ้น ธามเองก็สังเกตุเห็นอาการตื่นเต้น หน้าแดงของเธอ เขาเองก็ไม่ต่างจากเธอนัก ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่เขาพาผู้หญิงมากินที่คอนโด แต่ทำไมพอเป็นเธอถึงได้รู้สึกแปลก ๆ มือหนากดรหัสหน้าห้อง เมื่อประตูเปิดออกเขาก็ดึงมือเธอเข้าไปชิดติดผนังทันที เท้าหนาถีบประตูปิด ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เธอจนหน้าผากของเขาชนกับหน้าผากเธอ "จะทำเลยไหม?" ปลายฝนไม่ตอบ แต่เธอทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือประกบริมฝีปากเข้ามาจูบเขา มือเล็กยกขึ้นมาเกี่ยวรอบคอแกร่งเอาไว้ ขยับริมฝีปากอย่างเร่าร้อน เธอจูบไม่เป็นเขารู้ แต่เธอเก่งที่ทำให้เขาติดใจรสจูบนี้ได้ ลิ้นร้อนค่อย ๆ สอดลึกเข้าไปในโพลงปากนุ่มที่เผยอปากเปิดออกรอรับ "อืม"เสียงครางในลำคอดังคลอไปกับเสียงริมฝีปากที่บดจูบกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาของธามค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามสัดส่วนของคนตัวเล็ก เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่หุ่นดีมาก เขาบีบเค้นตรงสะโพกอวบของเธอ ก่อนจะขยับขึ้นมาตรงแผ่นหลังเปลือยเปล่า ลูบไล้สัมผัสไปมาจนปลายฝนรู้สึกวูบวาบ ขนกายลุกชัน ธามยกคนตัวเ
“แล้วเพื่อนเธอไปไหน ทำไมถึงทิ้งให้เธอนั่งอยู่คนเดียว ไม่รู้หรือไงผับแบบนี้ไม่ปลอดภัยที่จะนั่งคนเดียว” ปลายฝนยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง ก่อนจะหันมองหน้าเขาตรง ๆ ต้องยอมรับจากใจจริงว่าธามลุคนี้ดูหล่อมาก หล่อจนเธอไม่อยากละสายตาไปจากเขา“นายรู้หรือเปล่าว่าทำไมคาเทียร์ไม่อยู่ตรงนี้” “ทำไม?” “เพราะเพื่อนฉันทิ้งฉันให้อ่อยเหยื่อไง ไม่คิดว่าผู้ชายที่เข้ามาคุยกับฉันคนแรกเป็นนาย แบบฉันนี่พอเป็นผู้หญิงของนายได้ไหม” คงเพราะแอลกอฮอล์ลที่กินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ปลายฝนเลยพูดประโยคนั้นออกไปให้คนได้ฟังระบายยิ้มอย่างชอบใจ เขาพอมองออกว่าเธอเริ่มเมาแล้ว เขาเองก็ไม่อยากฉวยโอกาสกับคนเมา แต่เหมือนเธออยากรู้คำตอบที่ถาม เพราะยังคงจ้องหน้าเขาอย่างไม่ลดละ “ผู้หญิงของฉันที่เธอหมายถึงคือแบบไหน” เธอส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อตั้งสติ แต่ทว่าก็ยังขยับใบหน้ามาใกล้เขา ทำเอาคนที่นั่งนิ่งใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ที่ได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอ อีกทั้งหน้าอกหน้าใจของเธอก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแบบชัดเจนอีกด้วย “ผู้หญิงที่อยู่กับนายไงล่ะ”ริมฝีปากอวบอิ่มที่ทาลิปสติกสีแดงสดขยับอย่างเซ็กซี่ อ่า…ไม่ใช่แค่เธอที่เริ่มเมา เขาเองก็เริ่มรู้สึกมึนหัวเห
21.00 น. ปลายฝนนัดกับคาเทียร์ไปเที่ยวผับ พรุ่งนี้ไม่มีเรียนเธออยากไปปลดปล่อยความเครียดจากการเรียนหนักตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนมิลลิรายนั้นติดแฟนชวนออกไปไหนไม่ค่อยไป นอกจากแฟนหนุ่มจะไปด้วย วันนี้คาเทียร์อาสาเป็นสารถีขับรถเพราะเธอเป็นสายเมา ไม่เหมาะที่จะขับรถเอง "ไปผับไหนดี กูเบื่อร้านเหล้า"ปลายฝนเอาภาพจากหน้าจอโทรศัพท์ให้เพื่อนสาวดู เธอหาข้อมูลมาแล้ว ว่ามีผับเปิดใหม่ที่พวกเธอยังไม่เคยไป "สุดยอดเพื่อนกู ว่าแต่วันนี้มึงแต่งตัวโคตรเซ็กซี่เลย"สายตาของคาเทียร์มองร่างกายปลายฝนตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้เพื่อนสาวเธอใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงเพลิง ตรงช่วงอกคว้านลึกจนเห็นอกอวบอิ่มที่เบียดชิดกัน ต้องบอกก่อนว่าปลายฝนเป็นผู้หญิงตัวเล็ก แต่หน้าอกไม่ได้เล็กอย่างที่เห็นเวลาใส่เสื้อนักศึกษา การแต่งหน้าก็ดูดีมีเสน่ห์ การันตีได้ว่าผู้ชายต้องมองเพื่อนของเธอตาเป็นมันแน่วันนี้ "อิจฉาอีมิล ไม่ต้องเหงาแบบเราสองคนมีคนให้นอนกกทุกวัน" "อืม...มึงก็หาแฟนสักคนสิ ผู้ชายตามจีบมึงเยอะแยะ เลือกเอาสักคน" "กูยังไม่ถูกใจใคร กูอยากให้มึงมีแฟนก่อนกู" ปลายฝนถอนหายใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนบอก เธอเองก็อยากมีแฟนเหมือนกัน แ
ปลายฝนนั่งเงียบไปตลอดทาง เธอไม่สนใจสิ่งที่ธามถามหรือแม้แต่พูดกับเธอ ตอนนี้เธออยากให้ถึงคอนโดเร็ว ๆ เพื่อออกห่างจากผู้ชายคนนี้ให้มากที่สุด "เลี้ยวซ้ายจอดตรงเซเว่นนะ ฉันจะซื้อของหน่อย"ปลายฝนโกหกเรื่องจะซื้อของ เธอแค่อยากลงจากรถก่อน แต่เหมือนเจ้าของรถจะจับได้ "ไม่อยากอยู่กับฉัน ถึงขนาดหลอกว่าจะซื้อของเลยเหรอ" "นี่นาย!!!หยุดพูดมากสักที ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว" เสียงหวานตวาดเขาออกไปอย่างเหลืออด คนอะไรจะเดาใจเธอถูกไปหมดทุกอย่างขนาดนี้ ยิ่งเขาทำแบบนี้เธอจะยิ่งกลัวเขามากขึ้น "ฉันจะไปส่งให้ถึงคอนโด" "เอ๊ะ!!! บอกว่าไม่ต้อง ฉันอยากเดินออกกำลังกาย" "เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเป็นคนโกหกใครไม่เก่ง ยิ่งเธอพูด ฉันก็ยิ่งอ่านความคิดเธอได้" ปลายฝนปิดปากลงในทันที จากที่จะอ้าปากด่าเขาอีก แต่เธอกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ขับรถช้าขนาดนี้ เหมือนเขาจะแกล้งเธอมากกว่า เพราะเมื่อเธอหันไปมองก็เห็นเขาผิวปากอย่างอารมณ์ดี มันยิ่งทำให้เธอไม่พอใจเขา เมื่อรถจอดสนิทตรงหน้าคอนโดของปลายฝน ประตูรถข้างคนขับก็ถูกเปิดออกทันที แต่คนขับก็เปิดประตูเดินตามเธอลงมาด้วย“นี่นาย
หลังจากวิชาช่วงเช้าจบ ปลายฝนก็ชวนเพื่อนสองคนไปกินข้าวหน้ามหาลัย ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ "คนแน่นฉิบ!!!" คาเทียร์บ่นพึมพำเมื่อมาถึงร้าน นอกจากคนจะแน่นแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีโต๊ะว่างเลย "นู่นไง มีโต๊ะว่างตรงมุมเสาอ่ะ" สามสาวกำลังจะเดินไปยังโต๊ะนั้น แต่ก็ถูกปาดหน้าด้วยผู้ชายสองคนที่พวกเธอคุ้นเคยเสียก่อน "อ้าว...พวกนายมากินที่นี่ด้วยเหรอ" "พวกเธอมีที่นั่งไหม ถ้าไม่มีมานั่งด้วยกันสิ"ปอร์เช่เอ่ยอย่างใจดี "ที่จริงเราเห็นโต๊ะนี้ก่อนนะ แต่เดินช้ากว่าพวกนาย"ปลายฝนทำหน้างองุ้มไม่พอใจ จนธามหัวเราะออกมาเบา ๆ ในอาการของเธอ "แต่ฉันจองโต๊ะไว้ก่อน เธอได้จองหรือเปล่า" "หืม…นายเนี๊ยะนะจองโต๊ะ” "เอาน่า...ไหน ๆ ก็มาแล้วนั่งด้วยกันนี่แหละ" มิลลิที่กลัวจะเกิดสงครามกลางร้านตามสั่งต้องรีบสงบศึกเสียก่อน เธอเลยต้องรีบตัดบทออกไป ทำให้ปลายฝนต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นด้วยความไม่พอใจ หันมองคู่กรณีที่ยักคิ้วให้เธออย่างกวน ๆ เหมือนว่าตัวเองสะใจ “มึงเอาอะไรฝน” “คะน้าหมูกรอบ” “งั้นกูเอาเหมือนมึงดีกว่า จะได้เร็ว ๆ” คาเทียร์รับหน้าที่จดอาหารที่สั่ง เมื่อพวกเธอสามคนสั่งเสร็จก็ยื่นให้กับเด็กเสิร์ฟทันที ส่
“อื้อ อ๊าส อี๊ อ่ะ อ่ะ” เสียงครวญครางของผู้หญิงที่อยู่ในจอทีวีขนาดใหญ่พร้อมท่าทางของเธอที่ทำราวกับตัวเองจะขาดใจตาย เมื่อโดนปรนเปรอจากชายหนุ่มคู่แสดง ปลายฝนนอนดูคลิปแบบนี้ตั้งแต่กลับจากมหาลัยด้วยท่าทางปกติ เธอเป็นผู้หญิงที่ชอบดูคลิปอย่างว่า ไม่แน่ใจนักว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งเพื่อนสนิทสองคนของเธอ คือทั้งมิลลิและคาเทียร์ ภายนอกเธอดูเป็นเด็กเรียน ถึงจะไม่ได้ใส่แว่นหนาเตอะ แต่บุคลิกและท่าทางของเธอทำให้คนที่เห็นและได้สัมผัสคิดว่าเธอเป็นคนแบบนั้น แต่ทว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่มีความต้องการเรื่องแบบนี้มากกว่าปกติ เพราะเมื่อเธอดูคลิปโป๊ไปได้สักพัก เธอก็จะเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกและช่วยตัวเองทันที อย่างตอนนี้เธอเริ่มปลดชุดคลุมอาบน้ำออกจากร่างกาย อ้าขาออกกว้าง ใช้มือเล็กข้างหนึ่งบีบเค้นอกอวบใหญ่ของตัวเองอย่างแรง จนจุกยอดสีชมพูของเธอเริ่มแข็ง เพราะอารมณ์กระสันที่เริ่มพุ่งสูง ใบหน้าสวยหวานเหยเก ริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มส่งเสียงครางออกมา นิ้วเรียวเลื่อนลงไปสัมผัสตรงร่องรักที่เริ่มชื้นแฉะ ปาดขึ้นลงตรงร่องที่ปิดสนิท จนความเสียวซ่านแผ่ขยายไปทั่วทั้งร่างกา