เขาซื้อเธอ...เพราะใบหน้าคล้ายคนรักเก่า แต่ยิ่งครอบครอง เขากลับยิ่งกลัวจะสูญเสียเธอมากกว่าใคร—ทั้งที่เธอไม่เคยเป็นของเขาตั้งแต่แรกเลย
View More⚠️ คำเตือนเนื้อหา:
❗นิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงทางอารมณ์ และมีฉากความสัมพันธ์ทางกายที่เข้มข้น ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน
❗ตัวละครบางตัวมีพฤติกรรมในด้านมืดและผ่านประสบการณ์ทางจิตใจที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ความสัมพันธ์ในเรื่องไม่ได้สะท้อนแบบอย่างความรักที่เหมาะสมในชีวิตจริง
🖤 นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
🖤 เหตุการณ์ ตัวละคร สถานที่ และบุคคลใด ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง มิได้อ้างอิงหรือสะท้อนความจริง หรือเจตนาให้พาดพิงบุคคลใดในโลกแห่งความเป็นจริง
ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ และรับชมด้วยใจเปิดเสรีในโลกของจินตนาการ
ในโลกใบนี้ มีบางครั้งที่เสียงหัวเราะของเด็กคนหนึ่ง...สามารถปลุกอดีตทั้งชีวิตให้ฟื้นกลับมาได้
เสียงหัวเราะแผ่วเบาแต่ชัดเจน ลอยมากับกระแสลมแอร์เย็นเฉียบภายในโถงแผนกศัลยกรรมหัวใจ โรงพยาบาลเอกชนระดับไฮเอนด์อย่าง RAVEN
โรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อว่ามีค่าใช้จ่ายแพงที่สุดในประเทศ มีเครื่องมือการแพทย์ทันสมัยที่สุด และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขาที่คัดสรรอย่างเข้มงวด
อคิน ธาดาวรากุล — ศัลยแพทย์ระบบประสาทวัย 34 ปี หนึ่งในแพทย์ที่ใครหลายคนกล่าวขวัญถึงในฐานะ “มือมีดระดับอัจฉริยะ” ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องตรวจพิเศษ เขาสูง 188 เซนติเมตร รูปร่างสมส่วนในชุดกาวน์ขาวสะอาด ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกรมเข้มพับแขนเหนือข้อศอกเล็กน้อย
ใบหน้าของเขาคมจัดอย่างกับถูกสลักขึ้นจากหินอ่อน ผิวขาวแบบคนที่ไม่เคยโดนแดด ดวงตาสีเทาหม่นที่มักปราศจากอารมณ์ ริมฝีปากบางที่ไม่เคยมีรอยยิ้มเลยตลอดกะทำงานทั้งวัน
เขาไม่ใช่แค่หมอ เขาคือความเงียบเย็นเดินได้ เขาคือ 'คนไข้ไม่มีสิทธิถาม' และ 'เพื่อนร่วมงานไม่กล้าเข้าใกล้'
คนที่ได้ทุกอย่างจากพรสวรรค์ ฐานะ และวินัยที่โหดร้ายกับตัวเอง...ยกเว้นอย่างเดียว — ความรู้สึก
มือของเขากำลังถือแฟ้มข้อมูลคนไข้รายใหม่ ท่ามกลางการสนทนาของพยาบาลหัวหน้าและหมอร่วมทีมคนอื่น ๆ ที่กำลังเดินผ่าน
แต่แล้ว...
เสียงหัวเราะใส ๆ ของเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา — เหมือนเข็มทิ่มเข้าไปกลางใจอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เขาหยุดเดินทันที
แฟ้มในมือถูกบีบแน่น
สายตาคู่คมมองผ่านกระจกใสออกไปยังทางเดินฝั่งตรงข้าม
เธอเดินผ่านมาแล้ว...ช้า ๆ พร้อมเสียงหัวเราะของเด็กชายข้างกาย
หญิงสาวคนนั้นมีรูปร่างผอมเพรียวในเสื้อเชิ้ตสีซีดกับกระโปรงผ้าฝ้ายเก่าที่ดูซักมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง ผมยาวสีดำถูกมัดหลวม ๆ พาดไหล่ ดวงตากลมโตหันมองน้องชายอย่างห่วงใย
เธอไม่เห็นเขา ไม่แม้แต่จะรู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น
แต่เขาเห็นเธอชัดเจน…
เธอคือ ไลลา
หญิงสาววัย 26 ปี ที่โตมากับนที — น้องชายวัย 12 ปีจากสถานสงเคราะห์เดียวกัน
เด็กหญิงที่เคยเป็น “พี่เลี้ยงเด็ก” ให้กับเด็กกำพร้าทุกคน ทั้งที่ตัวเองก็ยังแบกรอยแผลในใจจากการถูกทอดทิ้งไม่ต่างกัน
“เราต้องเติบโตดีๆ ให้ได้...จะได้ดูแลทีนเอง” เธอเคยบอกกับตนเองตั้งแต่อายุแค่สิบสี่ขวบ
เธอเรียนดีพอใช้ได้ ได้ทุนเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีในสายสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง แต่ชีวิตหลังเรียนจบกลับไม่เหมือนใคร
ใบจบของเธอไม่ดึงดูดพอ ประวัติไม่มีอะไรโดดเด่น และภาระในบ้านก็ไม่เหมือนใคร
นที — เด็กชายที่หัวใจมีตำหนิมาตั้งแต่เกิด ต้องกินยาต่อเนื่อง และเข้ารพ.เป็นระยะตลอดชีวิต
ไลลาทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ ย่านสถานีรถไฟฟ้า ทุกเช้าเธอตื่นตีห้า รีบต้มข้าวต้มให้ทีนก่อนจะวิ่งไปทำงาน แล้วกลับมาสลบคาเตียงทุกคืน
แม้จะสมัครงานตามสายที่เรียนมาไม่รู้กี่ครั้ง…
แต่สัมภาษณ์ก็ถูกยกเลิกกลางคันบ้าง เพราะทีนป่วยบ้าง เพราะเธอมาสายจากนอนเฝ้าน้องที่ห้องฉุกเฉินบ้าง
โลกของไลลา คือโลกที่ความจนกัดกินความฝันอย่างช้า ๆ
และวันนี้...คือวันสำคัญ
เพราะหมอที่ รพ.เก่าแนะนำให้ย้ายมารับคำปรึกษาเคสพิเศษกับศัลยแพทย์ระดับประเทศ
เธอรวบรวมเงินเก็บแทบทั้งหมดเพื่อพาน้องชายมาโรงพยาบาล RAVEN
“อย่าวิ่งเร็วสิ ทีน หอบอีกจะทำยังไง” ไลลาก้มลงพูดกับน้องชายเบา ๆ ขณะก้าวเข้าไปในโถงกลาง
“ผมตื่นเต้นนี่นา หมอคนนี้เก่งสุดในประเทศเลยใช่มั้ย?” นทีเงยหน้าถามตาเป็นประกาย
“ก็...เขาเก่งแหละ” เธอยิ้มบาง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงไม่กล้าให้ความหวังนัก
แต่ในอีกฟากของกระจก...
ชายผู้เป็น “หมอคนนั้น” กำลังยืนนิ่ง ไม่ไหวติง
ภาพใบหน้าของเธอ
ดวงตาคู่นั้น
ท่าทางการเดิน การเอียงคอ...
ทุกอย่าง...เหมือนกับ “ภาพจำ” จากอดีตที่เขาไม่กล้าหยิบกลับมาคิดถึงเลยสักครั้งในรอบหลายปี
ไม่ใช่เพียงเพราะมันเจ็บ
แต่เพราะเขาไม่เคยเจอใครที่เหมือนขนาดนี้มาก่อน
เขาหายใจไม่ออก
มือที่บีบแฟ้มแน่นจนข้อขาวซีดสะท้อนแสงไฟเย็นจัดในโรงพยาบาล
ไม่ใช่เพราะเธอสวย
ไม่ใช่เพราะเธอมีเสน่ห์
แต่เพราะเธอทำให้เขานึกถึง ‘เธอคนนั้น’...คนที่เขาไม่เคยลืม
อคินไม่ได้เชื่อเรื่องความบังเอิญ
แต่วันนี้...เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขา ‘กำลังเห็นภาพหลอน’ หรือ ‘ถูกชะตากรรมลากกลับไปหาความทรงจำที่หลีกหนีไม่ได้’ กันแน่
เขาก้าวเท้าอย่างช้า ๆ หมายจะเดินตามไปให้ทันเธอ...
แต่ไม่ทัน
หญิงสาวกับเด็กชายเดินเลี้ยวหายเข้าไปในโซนห้องรับรอง
อคินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
เหมือนถูกตรึงไว้ด้วยมือที่มองไม่เห็น
และทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ว่า…
เธอไม่ใช่เธอ…แต่เธอได้เดินเข้ามาในชีวิตเขาแล้ว — และเขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเดินออกไปอีกครั้ง
เสียงเครื่องปรับอากาศในห้องพักแพทย์ชั้นบนสุดยังคงพ่นลมเย็นออกมาอย่างสม่ำเสมอ แสงไฟจากโคมเพดานสีขาวอมเหลืองให้ความรู้สึกคล้ายห้องทดลองมากกว่าห้องสำหรับมนุษย์พักผ่อน
อคินนั่งอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ภายในห้องส่วนตัวที่เงียบเกินไปสำหรับใครสักคนที่สมควรนอนหลับได้ง่าย
แต่เขากลับนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น…
ในมือมีแก้วกาแฟที่เย็นชืดไปนานแล้ว
และบนโต๊ะตรงหน้ามีแฟ้มประวัติผู้ป่วยที่ยังไม่ถูกเปิดออก
แค่เสี้ยววินาทีที่เขาหลับตา ภาพใบหน้าเมื่อบ่ายวันนี้ก็ลอยขึ้นมาในหัว
ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น…
หรือไม่ใช่?
หรือเป็นลลิน…
หรือเป็นความฝัน?
เขาไม่รู้แน่ชัดเลย
เขาเคยคิดว่าตัวเองเลิกฝันถึงลลินไปแล้ว
หรืออย่างน้อย… ก็เก็บเธอไว้ในกล่องลึกที่สุดของความทรงจำ
แต่วันนี้ ภาพของหญิงสาวในชุดผ้าฝ้ายราคาถูก ดวงตากลมโตที่จ้องน้องชายอย่างห่วงใย กลับชัดเจนกว่าความทรงจำที่เขาพยายามกดไว้เสียอีก
ยิ่งเขาหลับตา ภาพเหล่านั้นยิ่งชัด
ชัดจนน่ากลัว
เขาลุกขึ้น เดินช้า ๆ ไปที่กระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองหลวงยามค่ำคืน
ไฟถนนพราวระยิบ ผู้คนที่แค่จุดเท่าเม็ดทรายเคลื่อนไหวอยู่ข้างล่าง
แต่ในหัวเขา ไม่มีเสียง ไม่มีแสง ไม่มีแม้แต่ความคิด
มีแค่ภาพใบหน้าผู้หญิงคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่ใช่แค่หน้าเธอ…
แต่สีหน้าแบบเดียวกับลลินในค่ำคืนสุดท้าย
น้ำเสียงแบบเดียวกับที่ลลินเคยพูดกับเขา
“ผมต้องรู้ว่าเธอเป็นใคร...ก่อนที่ความหลอนนี้จะกลืนผมลงไปจนหาทางกลับไม่เจอ” เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ในความมืด
“ผมต้องรู้ให้ได้”
เขาไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม ไม่เชื่อว่าความบังเอิญจะพาใครบางคนที่ ‘เหมือนมากขนาดนี้’ มาอยู่ตรงหน้าเขาโดยไร้เหตุผล
ถ้าเธอเป็นภาพหลอน…
เขาต้องรักษาตัวเองให้หาย
ถ้าเธอมีตัวตนจริง…
เขาต้องรู้ว่าเธอมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
เขาเดินกลับไปหยิบแฟ้มคอมพิวเตอร์ เปิดหน้าจอเงียบ ๆ
ระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลเปิดขึ้นด้วยลายนิ้วมือ
แต่เขากลับไม่รู้ชื่อของเธอ ไม่รู้แม้กระทั่งเบาะแสเล็กที่สุด
ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ…คือช่องว่างที่เขาอยากเติมเต็ม
เขาลุกขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มสีเข้มเดินวนไปมาในห้องเหมือนสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรง
ความเงียบทำให้เสียงฝีเท้าเขาดังเกินควร
หัวใจเขาเต้นถี่เกินปกติ
เหมือนร่างกายจะจำอะไรบางอย่างได้ก่อนสมองจะยอมรับ
“เธอเหมือนมาก…เหมือนจนใจเจ็บ”
เขายืนพิงกำแพง หลับตา แล้วปล่อยให้ภาพของลลินไหลกลับมาอีกครั้ง
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวยืนยิ้มกลางห้องพักฟื้นที่เคยเป็นของพวกเขา
เสียงหัวเราะนุ่มนวล
ดวงตากลมสั่นไหว
มือที่ยื่นมาสัมผัสหน้าเขาเบา ๆ
แล้วทุกอย่างก็สลายไปในพริบตา
กลายเป็นภาพอีกใบหน้า
ในชุดเชิ้ตซีด ๆ กับดวงตาคู่เดิมที่มองเด็กชายอย่างห่วงใย
ไลลา…
เขาเบิกตาโพลง หายใจแรง มือกำแน่นอย่างควบคุมไม่ได้
ภาพหลอนเริ่มทับซ้อนกันโดยไม่ให้เวลาคัดกรอง
และนั่นคือสิ่งที่เขากลัวที่สุด
อคินไม่ใช่คนกลัวความตาย
เขาคือคนที่ใช้มีดผ่าตัดเปิดกะโหลกคนไข้มากกว่าร้อยเคสต่อปี
แต่เขากลัวสิ่งที่ไม่มีคำอธิบาย
กลัวสิ่งที่วิทยาศาสตร์ให้คำตอบไม่ได้
กลัวหัวใจตัวเอง…ที่ไม่ยอมเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นเพียง ‘ความบังเอิญ’
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์สายตรงไปยังฝ่ายเวชระเบียน
เสียงปลายสายรับด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย เพราะเป็นเวลาหลังเที่ยงคืน
“หมออคินครับ?”
“ใช่ ผมต้องการชื่อผู้ปกครองเด็กชายที่มารับคำปรึกษาหัวใจตอนบ่าย...เคสฉุกเฉิน”
มีเสียงกดแป้นพิมพ์ดังตามมาเบา ๆ
“เคสน้องนทีใช่ไหมคะ?”
“น่าจะใช่”
“ชื่อผู้ปกครองคือคุณไลลา อินทรานนท์ค่ะ อายุยี่สิบหกปี”
อคินไม่ตอบกลับทันที เขานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับต้องการแน่ใจว่าชื่อนั้นมีอยู่จริง…และไม่ใช่สิ่งที่เขาสร้างขึ้นจากจินตนาการ
“ขอบคุณ” เขาพูดเพียงแค่นั้น ก่อนวางสาย
แต่ชื่อ ‘ไลลา อินทรานนท์’ กลับยังไม่ออกจากหัวเขา...
มันก้องอยู่ในอกเหมือนเสียงสะท้อนที่ไม่มีใครได้ยิน นอกจากเขาคนเดียว
เขานิ่งงันอยู่ชั่วครู่ — แล้วหลับตาลงเบา ๆ
เพื่อเช็กให้แน่ใจ...ว่าเสียงหัวเราะของบ่ายวันนี้ ยังหลอนอยู่ในหัวเขาจริง ๆ
คืนนั้นเขาไม่หลับเลยแม้แต่นาทีเดียว
ทุกครั้งที่เขาหลับตา ภาพของเธอก็ชัดเจนขึ้น…
และทุกครั้งที่เขาลืมตา เขากลับรู้สึก ‘ว่างเปล่า’ จนเจ็บ
แต่ในความเจ็บนั้นมีความหมกมุ่นบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นช้า ๆ
และเขารู้ดีว่า...
เขาจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดไปง่าย ๆ แบบที่เคยปล่อย ‘เธอคนนั้น’ มาก่อนอีกแล้ว
เสียงหายใจของเขาหนักขึ้นในห้องที่เงียบกริบ ราวกับเครื่องช่วยหายใจที่สูบกลืนเอาออกซิเจนจากร่างทั้งสองไปจนหมดสิ้นอคินโน้มกายลง แนบริมฝีปากกับลาดไหล่ของไลลาอย่างแนบแน่น เขาไม่ได้จูบ...แต่ ‘กด’ ลงไปด้วยแรงข่มความรู้สึกบางอย่างลมหายใจของเขาร้อนผ่าว — ต่างจากมือที่ยังเย็นจัดราวเหล็กจากห้องผ่าตัดเขาเลื่อนจูบลงต่ำ ซุกไซ้แนวผิวเนื้อที่เปลือยเปล่า ราวกับต้องการ 'ยืนยัน' ว่านี่คือของจริง ไม่ใช่ภาพหลอน ไม่ใช่ลลิน...แต่ความเหมือนของใบหน้า กลิ่นผิว และดวงตาคู่นั้น กลับกระแทกจิตใจเขาจนทุกสัมผัสกลายเป็น ‘พิษ’ ที่เขาเองก็กลืนไม่ลงมือเขาสอดใต้แผ่นหลังของเธอแล้วดึงขึ้นเล็กน้อย สะโพกของเธอเบียดชิดเข้ามาโดยปริยายจากแรงโน้มของเขาไลลานอนนิ่ง...ดวงตาไร้โฟกัส มองเพดานว่างเปล่าร่างกายเธอเกร็งเล็กน้อยยามมือของเขาไล้ผ่านแนวเอว สะโพก ก่อนจะกดแนบชิดเข้าหาเธอเต็มแรงเขาไม่พูด...เธอไม่ร้องและในความเงียบนั้น เสียงครางต่ำของเขาค่อย ๆ ดังขึ้น — ไม่ใช่ด้วยความสุขสม แต่เหมือนคนที่กำลัง ‘คลั่ง’ อยู่ในความฝันที่บิดเบี้ยวเขาประกบริมฝีปากกับลำคอ
เสียงกระดาษเสียดสีกับโต๊ะไม้เรียบสนิทดังเบา ๆ ในห้องรับรอง VIP ที่เงียบสนิทเกินจะเชื่อว่าตั้งอยู่ใจกลางโรงพยาบาลที่พลุกพล่านหมออคินผลักแฟ้มเอกสารบางส่วนมาทางเธอ ก่อนจะวางปากกาแท่งเรียบหรูสีดำที่ดูแพงเกินกว่าคนธรรมดาจะกล้าใช้ลงตรงหน้าไลลานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มือบางกำชายเสื้อแน่น ดวงตาแดงก่ำจากหยาดน้ำตาที่ยังไม่ทันแห้งดี“ฉันต้องเซ็น...จริง ๆ เหรอคะ?”“ทุกคำที่อยู่ในนั้น จะคุ้มครองคุณและน้องของคุณ...ถ้าคุณทำตามทุกข้อที่ผมกำหนด”น้ำเสียงของเขายังคงเรียบ ไม่สูง ไม่ต่ำ ราบรื่นอย่างน่าขนลุกไลลาหยิบปากกาขึ้นช้า ๆ เธอไม่อ่านแม้แต่บรรทัดแรก — เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางไหนให้เลือกอีกต่อไปเสียงหมึกแตะลงบนกระดาษในวินาทีที่มือของเธอสั่นอย่างห้ามไม่ได้เธอไม่รู้ว่ากำลังเซ็นสัญญาชีวิต...หรือฆ่าความเป็นคนในตัวเองทิ้งไปพร้อมลายเซ็นนั้นเมื่อเธอเซ็นเสร็จ อคินก็หยิบเอกสารกลับมา แยกออกเป็นสองชุด ยื่นให้เธอหนึ่งฉบับ“เก็บไว้ให้ดี” เขากล่าวสั้น ๆ ก่อนจะเก็บชุดของตัวเองลงในแฟ้มและลุกขึ้น
“ขอโทษนะทีน...”เสียงไลลากระซิบแผ่วขณะก้าวลงจากรถสองแถวเก่า ๆ ที่มุ่งหน้าเข้าซอยลึกย่านชุมชนบางบัวทอง ใบหน้าเธอยังคงเปียกจากฝนปรอยๆ ที่โปรยลงมาระหว่างทาง น้ำฝนผสมเหงื่อไหลซึมตามไรผมลงสู่ปลายคางถุงผ้าที่ใส่ของใช้สำหรับน้องชายแน่นไปด้วยเสื้อยืดสีซีด ยา และเอกสารโรงพยาบาล แต่หัวใจของเธอเบากว่าเดิม — เพราะไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีอนาคตให้คาดหวังอีกแล้วเสียงหัวเราะของผู้โดยสารคนหนึ่งในรถยังดังก้องในหัวเธอ แม้มันจะแค่ชั่วครู่ แต่กลับเหมือนมีดเล่มบางกรีดผ่านใจเธอกำลังตกงานในวันที่ไม่มีแม้แต่เงินเหลือติดกระเป๋าเกินสามหลักและพรุ่งนี้...เธอควรจะซื้อยาให้นทีแต่ยาราคาเกือบพัน — ในขณะที่เธอเหลือไม่ถึงห้าร้อยเธอนั่งนิ่งอยู่ริมถนน หัวใจว่างเปล่าราวกับหล่นหายระหว่างทางฝนตก เธอไม่แม้แต่จะปาดน้ำตาที่เริ่มรินช้า ๆ จากหางตา“อย่าเพิ่งร้องไห้...เดี๋ยวทีนจะไม่มีคนดูแล” เธอบอกตัวเองในใจอย่างร้าวลึกทันใดนั้น...เสียงโทรศัพท์มือถือที่จอแตกร้าวและปุ่มกดค้างบางปุ่มก็ดังขึ้น“ฮัลโหล?” เธอรับสายด้วยเสียงเหนื่อยล้า“คุณไลลาหรือเปล่
"ชื่อเต็ม...ไลลา อินทรานนท์"อคินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานในห้องส่วนตัวของเขา ภายในออฟฟิศแพทย์ระดับบริหารชั้น 17 ที่มีเพียงไม่กี่คนในโรงพยาบาล RAVEN เท่านั้นที่มีสิทธิใช้โต๊ะไม้โอ๊คแท้ทาสีดำวาว เครื่องคอมพิวเตอร์สเปกสูง รายล้อมด้วยชั้นหนังสือและตู้เก็บประวัติคนไข้ที่ล็อกทุกช่องอย่างแน่นหนาชายหนุ่มแตะนิ้วลงบนจอแล็ปท็อป เขากำลังอ่านข้อความจากไฟล์รายงานที่เลขาฯ ส่วนตัวส่งมาให้เมื่อไม่ถึงสิบนาทีก่อนข้อมูลที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขานิ่งงันอยู่พักใหญ่— หญิงสาวอายุ 26 ปี อาศัยอยู่ในแฟลตเช่าเก่า ๆ ชุมชนแออัดย่านบางบัวทอง— อาชีพ: พนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟ / รายได้ประมาณ 10,000 – 12,000 บาทต่อเดือน— ผู้ปกครองของ ‘ด.ช. นที อินทรานนท์’ ผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิด— ประวัติเคยเป็นเด็กในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งและที่สำคัญที่สุด — หมอประจำเคส รพ.รัฐที่เธอเคยไปรักษา ส่งเธอมา ‘ขอคำปรึกษา’ กับเขา เพราะเป็นเคสซับซ้อนหายากระดับประเทศอคินพิงหลังกับพนักเก้าอี้หนัง เสียงลมหายใจของเขาสะท
⚠️ คำเตือนเนื้อหา:❗นิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงทางอารมณ์ และมีฉากความสัมพันธ์ทางกายที่เข้มข้น ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน❗ตัวละครบางตัวมีพฤติกรรมในด้านมืดและผ่านประสบการณ์ทางจิตใจที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ความสัมพันธ์ในเรื่องไม่ได้สะท้อนแบบอย่างความรักที่เหมาะสมในชีวิตจริง🖤 นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้น🖤 เหตุการณ์ ตัวละคร สถานที่ และบุคคลใด ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง มิได้อ้างอิงหรือสะท้อนความจริง หรือเจตนาให้พาดพิงบุคคลใดในโลกแห่งความเป็นจริงผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ และรับชมด้วยใจเปิดเสรีในโลกของจินตนาการในโลกใบนี้ มีบางครั้งที่เสียงหัวเราะของเด็กคนหนึ่ง...สามารถปลุกอดีตทั้งชีวิตให้ฟื้นกลับมาได้เสียงหัวเราะแผ่วเบาแต่ชัดเจน ลอยมากับกระแสลมแอร์เย็นเฉียบภายในโถงแผนกศัลยกรรมหัวใจ โรงพยาบาลเอกชนระดับไฮเอนด์อย่าง RAVENโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อว่ามีค่าใช้จ่ายแพงที่สุดในประเทศ มีเครื่องมือการแพทย์ทันสมัยที่สุด และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขาที่คัดสรรอย่างเข้มงวด
Comments