"คุณปล่อยนะ!"ร่างบางดิ้นหนี เมื่อถูกกอดรัดจากด้านหลัง มือเรียวแกะแขนเขาออกจากเอว รู้สึกโมโหและเขินอายในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้ "ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย"ลันลดาขู่ "ไม่ปล่อยครับ เฮียจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง"อาคมตอบกลับ พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น มีแรงดิ้นก็ดิ้นไปเขาจะรัดเธอไว้อย่างนี้ "คุยอะไรคะ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ปล่อย!"บอกอย่างแสนงอน เมื่ออยู่ๆก็น้อยใจเขาขึ้นมา
ดูเพิ่มเติมรถกระบะโฟร์วีลสี่ประตูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด เมื่อสายรายงานว่า ‘เหยื่อ’ มาถึงแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มก่อนจะพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพิ่งจะบ่ายสามโมงกว่า ๆ แต่บรรยากาศรอบด้านกลับดูเหมือนหกโมงเย็น คงเป็นเพราะฝนที่เพิ่งเทกระหน่ำลงมา เลยทำให้ดูมืดครึ้มไปทั่วบริเวณ
สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย
ร่างบอบบางสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เดินลงมาจากรถทัวร์เมื่อกระเป๋ารถประกาศให้ทราบว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้ว มือบางควานหามือถือที่กำลังสั่นในกระเป๋าสะพายใบเล็กเพื่อกดรับสาย เพราะเธอปล่อยให้มันสั่นมาแบบนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้ว
“ค่ะแม่ ป่านขึ้นเครื่องคืนพรุ่งนี้ค่ะ” ตอบปลายสายก่อนจะต้องรีบยกมือปิดมือถือ เมื่อมีเสียงเรียกผู้โดยสารดังแทรกเข้ามา
“เกือบไปแล้ว” ลันลดาเป่าลมออกจากปาก รู้สึกโล่งใจเมื่อปลายสายไม่สงสัยอะไร ก่อนจะคลายนิ้วที่ไขว้ไว้ด้านหลังออกจากกัน
“ขอโทษนะคะ” รู้สึกผิดที่ต้องโกหกมารดาคำโต
มือบางยกมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะพิมพ์ชื่อสถานที่ที่ต้องการไปเพื่อดูระยะทาง ‘ไร่แสงตะวัน’ คือสถานที่นั้น เพราะตอนนี้พ่อแม่และพี่สาวเธออยู่ที่นั่น
กำหนดการเดินทางมาเชียงรายของลันลดาคือวันพรุ่งนี้ แต่เพราะความซุกซน จึงทำให้เธอเก็บกระเป๋าผ้าขึ้นรถทัวร์มาตั้งแต่เมื่อคืนวาน การเดินทางยาวนานไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเพลียเลย สักนิด เพราะเธอตื่นเต้นที่จะได้ไปเซอร์ไพรส์ครอบครัว
“ต้องหารถนั่งเข้าไป” พูดกับตัวเอง ก่อนจะมองหารถรับจ้างที่จอดอยู่บริเวณนั้น
“ลุงคะ ๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ” ร้องถามเมื่อเดินมาถึงรถ คันแรก
“โอ๊ย! ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก ไปถามคันอื่นไป๊” คนขับรถปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง
“อ้าว...” ลันลดางงหนัก เมื่อถูกคนขับกระทำกิริยาแบบนั้นใส่ มันเสียมารยาทมากเลยนะลุง หญิงสาวตำหนิผู้ชายคนนั้นในใจ
“พี่คะ ๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ” ลันลดาถามรถคันที่สอง ก่อนจะต้องอึ้ง เมื่อคำตอบที่ได้เหมือนกับคันแรกไม่มีผิด ไร้มารยาทหญิงสาวสะบัดหน้า แล้วเดินไปถามรถคันถัดไป
ร่างบางยกมือขึ้นเกาหัว เมื่อถามมาตลอดทางแต่ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ไม่มีรถคันไหนไปส่งเธอสักคัน คนเหล่านั้นให้เหตุผลว่าฝนตกถนนลื่น อากาศก็มืดครึ้ม จึงไม่มีใครอยากขับรถขึ้นเขา
“ก็ไม่ได้อยู่นอกแผนที่นี่ ไปยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ”
พูดกับตัวเอง เมื่อแบกกระเป๋าเดินไปยังรถสองแถวคันที่จอดถัดมา ขอให้คันนี้ตกลงด้วยเถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงต้องค้างคืนในตัวเมืองแน่นอน
“พี่คะ ๆ พี่ช่วยไปส่งที่ไร่แสงตะวันหน่อยได้ไหมคะ” ลันลดาร้องถาม เมื่อเดินมาถึงตัวรถ
“ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก” เสียงแหบพร่าของคนขับรถที่บอกปฏิเสธ ทำให้ลันลดาหน้าเสีย เพราะตอนนี้ไม่มีรถเหลือให้ถามอีกแล้ว นี่คือคันสุดท้าย
“พี่คะ ช่วยหนูหน่อยได้ไหม พอดีหนูมีธุระต้องไปที่นั่นค่ะ”
ลันลดาลอบเบะปากให้ตัว เมื่อใช้เสียงสองอ้อนคนขับรถ คงไม่เป็นไร เขาคงไม่คิดว่าเธออ่อยมั้ง
ดวงตาคมเข้มภายใต้กรอบแว่นตาสีดำ มองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้า คุณหนูลันลดา... ลูกสาวคนเล็กของคุณประกร คนที่เคยเป็นคู่หมั้นของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มเมื่อนึกว่าโชคดีของคุณเผ่าแล้วที่ไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต เพราะรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอได้มาเจอใกล้ ๆ ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับเจ้านายของเขาจริง ๆ
“จะไปที่ไร่แสงตะวันทำไม” ถามกลับไปอย่างนั้น เพราะเขารู้คำตอบของเธออยู่แล้ว
“ไปธุระค่ะ” หญิงสาวตอบรวม ๆ จะให้เธอบอกว่าไปเที่ยวเล่น ก็ไม่ใช่ที่
“หึ!” อาคมคำรามในลำคอ ไปธุระหรือจะไปทำให้คนที่นั่นไม่สบายใจกันแน่ อย่างน้อยก็นายหญิงคนหนึ่งที่ต้องลำบากใจกับการมาของเธอ
อาคมมองหน้าหญิงสาวอีกครั้งพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง ถ้าการไปที่ไร่ของเธอทำให้นายหญิงลำบากใจ งั้นเธอก็ไม่ต้องไป
“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่งให้ก็ได้ เห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว นี่มันก็จะมืดแล้ว ถือว่าช่วยเอาบุญ”
ลันลดายิ้มหวาน เมื่อผู้ชายตรงหน้าตอบรับคำขอของเธอ
“ขอบคุณมากนะพี่ ขอบคุณจริง ๆ ถ้าไม่ได้พี่หนูต้องแย่แน่ ๆ ขอบคุณน้า” หญิงสาวร้องบอกด้วยความดีใจพร้อมกับยกมือไหว้เขา ก่อนจะสะพายเป้เดินไปด้านหลังรถ
“นั่งข้างหน้าด้วยกันก็ได้ ฝนยังลงเม็ดอยู่ นั่งข้างหลังเดี๋ยวเปียก”
น้ำเสียงที่ส่งมาด้วยความอาทร ทำให้ร่างบางหันไปยิ้มหวานให้อีกครั้ง ถึงแม้จะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด เพราะมีทั้งหมวกทั้งแว่นตา แต่ลันลดาก็รับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้าย
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ งั้นหนูเอาเป้วางไว้ข้างหลังก็ได้ เดี๋ยวมันเกะกะพี่” ลันลดาบอกก่อนจะรีบวิ่งไปหลังรถ ปลดเป้ลงจากบ่า แล้ววิ่งมานั่งหน้ารถอย่างรวดเร็วเพราะเกรงใจคนที่ติดเครื่องยนต์รออยู่ รถสองแถวเคลื่อนตัวออกไป พร้อมกับอาการมึนงงของชายฉกรรจ์ กลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
“คุณคมจะทำอะไรวะ ไหนว่าจะมาดูหน้าอย่างเดียวไง”
“คงพาไปส่งที่ไร่แสงตะวันมั้ง” ใครบางคนในกลุ่มตอบคำถามเพื่อน
“อืม... ถ้าแค่นั้นก็ดีไป”
“มึงกำลังคิดว่า...”
“กูอาจจะระแวงไปเอง”
“เราต้องโทร. บอกพ่อเลี้ยงไหมวะ”
“มึงอยากตกงานก็เอาสิ”
สิ้นสุดการสนทนา เมื่อเสียงมือถือของใครบางคนดังขึ้น
“ครับ... เข้าใจแล้วครับ” ณรงค์กดวางสาย ก่อนจะหันมาหาเพื่อน
“เรื่องนี้ห้ามให้ถึงหูพ่อเลี้ยงเด็ดขาด”
ณรงค์กำชับทุกคนอีกครั้ง คนกลุ่มนั้นพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะ แยกย้ายไปยังรถที่จอดไว้ใกล้ ๆ กับสถานีรถประจำทาง
..............................................................................................................................
สวัสดีค่ะ ฉุดลากกระชากรักเป็นนิยายในชุดหนุ่มบ้านไร่นะคะ ประกอบไปด้วย พ่ายรักเมียสวมรอย สินธรภัทรทิรา กรงรักพันธะเถื่อน ฉุดลากกระชากรัก เจ้าสาวของธาวินทร์ อ่านไล่จากพ่ายรักเมียสวมรอยมาจะฟินมาก ฝากด้วยนะคะ
สนามบินเชียงรายร่างบางลากกระเป๋าเดินทางยืนมองซ้ายมองขวา เมื่อยังไม่เห็นคนที่นัดหมายว่าจะมารับ ตามกลมโตภายใต้กรอบแว่นตาดำหยีลงเล็กน้อย เมื่อเดินออกมาเจอกับแสงแดดที่ร้อนจัดในเดือนมีนาคมมือบางหยิบหมวกในกระเป๋าขึ้นมาสวม เมื่อคิดว่าตัวเองน่าจะต้องเดินฝ่าแดดไปขึ้นรถสักคัน เพราะดูแล้วยังไร้เงาคนที่อาสามารับ มือบางกดมือถือ เมื่อไม่มีการตอบรับจึงยัดมันลงกระเป๋าตามเดิม“อยู่ไหนนะเฮีย”เหงื่อที่ไหลมาตามเนื้อตัว เริ่มทำให้หญิงสาวหงุดหงิด เพราะ ไม่ชินกับอากาศส่วนหนึ่ง อีกส่วนน่าจะมาจากความโมโหที่ค่อย ๆ ปะทุขึ้น ไหนอาคมบอกว่าจะมารอเธอ นี่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วยัง ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา “รอใครอยู่หรือเปล่าครับ”เสียงนุ่มทุ้มหูที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก สองปีแล้วที่เธอไม่ได้ยินเสียงนี้ในระยะใกล้ชิดแบบนี้ ร่างบางหันหลังกลับ ตากลมโตเบิกขึ้ เมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิวเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นการแต่งตัวของเขา อาคมยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง เมื่อถูกเธอจ้องมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด“เฮียแค่อยากเซอร์ไพรส์หนู”“ค่ะ”ลันลดารับคำอย่างมึนงง มองคนรักที่ใส่
หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ เมื่ออาคมยังยืนยันการกระทำของตัวเอง จมูกโด่งเป็นสันก้มลงมาหาแก้มนวล จูบซับความหอม ก่อนจะเลื่อนมาหาริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เขาเฝ้าฝันหาตากลมโตเบิกขึ้นเมื่อปากหยักประทับลงมาบนเรียวปากของเธอ ก่อนจะบดจูบไปจนทั่ว ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วผิวกาย แล้วไปก่อตัวอยู่ในหัวใจ หญิงสาวปล่อยใจไปกับเขา มือบางโอบรอบคอแกร่ง เมื่อจูบของอาคมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สัมผัสที่อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้ามาดูดดึงควานหาความหวานในปากอิ่ม มือหนาที่กอดรัดเอวคอดในตอนแรก ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบอบบาง ลันลดาหอมหวานจนเขาห้ามใจไม่ไหว จากที่ตั้งใจจะขอจูบเพื่อมัดจำ แต่ตอนนี้อาคมไม่แน่ใจแล้วว่า จะหยุดได้หรือไม่ เมื่อเธอหอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว กำปั้นน้อย ๆ ทุบลงบนอกกว้าง เมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ปากร้อนถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง ตาคู่คมมองลงไปในตาคู่สวย ก่อนจะจูบหนัก ๆ ลงมาบนริมฝีปากสีชมพูที่เจ่อขึ้นอีกครั้ง“เฮียขอโทษ” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู เมื่อเห็นแววตา ตื่นตกใจในดวงตาของเธอ“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับ ก่อนจะซบหน้าลงบนอกกว้าง เมื่อถูกคว
“คุณ!! ปล่อยนะ!” ร่างบางดิ้นหนี เมื่อถูกกอดรัดจากด้านหลัง มือเรียวแกะแขนเขาออกจากเอว รู้สึกโมโหและเขินอาย ในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้ “ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย” ลันลดาขู่“ไม่ปล่อยครับ เฮียจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง”อาคมตอบกลับ พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น มีแรงดิ้นก็ดิ้นไปเขาจะรัดเธอไว้อย่างนี้ “คุยอะไรคะ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ปล่อย!” บอกอย่างแสนงอนเมื่ออยู่ ๆ ก็น้อยใจเขาขึ้นมา“ป่านจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้เหรอครับ”อาคมตัดสินใจถามคำถาม แต่มันกลับให้เธอดิ้นมากขึ้น เขาไม่เคยสนใจเรื่องเธอเลยสักนิด ลันลดาคิดในใจ“ค่ะ”ลันลดาตอบกลับ เธอแน่ใจว่าพูดเรื่องนี้กับลลนาแค่คนเดียว เขารู้ได้ยังไง ความลับไม่มีในโลก คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงอาคมสูดลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของคนในอ้อมแขน เข้าจนเต็มปอด ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของเขายืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาชอบเธอไม่สิ... อันที่จริงต้องบอกว่ามากกว่าชอบ เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้ว สาเหตุที่เขาไปขโมยตัวเธอมา ส่วนหนึ่งเพื่อนายหญิง แต่อีกส่วนก็เพื่อตัวเองเขาเฝ้
เผ่าเพชรกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อต้องเอ่ยขออนุญาตบางอย่างจากภรรยา งานนี้ถ้าเขาไม่ออกหน้า คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือเขา ที่ไม่สามารถช่วยอะไรอาคมได้ “ทำไมต้องเข้าไปในห้องด้วยคะ เรียกยายป่านออกมาข้างนอก ก็น่าจะพอ”ลลนาเสียงเขียวเมื่อได้ยินสิ่งที่สามีขอร้องให้เธอช่วย ให้อาคมไปคุยกับลันลดาในห้องนอน หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอม นั่นน้องสาวเธอทั้งคน เผ่าเพชรคิดอะไรอยู่ จะให้ผู้ชายเข้าหาน้องเธอเนี่ยนะ เขาบ้าไปแล้ว“ปอจ๋า...”“ไม่ค่ะ! ปอไม่อนุญาต”คำพูดที่ค้างไว้ของเผ่าเพชรถูกกลืนลงคอ เมื่อลลนาปฏิเสธข้อเสนอของเขา “ปอจะไปเรียกยายป่านให้ก็แล้วกัน” เมื่อเห็นหน้าสามีซีดลง ลลนาก็นึกสงสาร “ขอบคุณนะครับ”อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส อันที่จริงเผ่าเพชรก็คิดเอาไว้แล้วว่าลลนาจะต้องตอบกลับมาแบบนี้ แต่เขาก็อยากเสี่ยง“พี่อยากให้เขาสองคนได้คุยกัน เราไม่รู้ว่าสองคนนั่นไปถึงไหนกันแล้ว พี่แค่มาขอโอกาสให้ไอ้คมมัน ถ้าปอไม่อนุญาต ก็ไม่เป็นไรครับ” เผ่าเพชรตอบเสียงเศร้า พยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด เผื่อลลนาจะเปลี่ยนใจ“เดี๋ยวปอตามป่านให้ค่ะ”ลลนาตัดบทก่อนจะลุกเดินออกไป เธอเข้าใจว่าเผ่าเพชรหวังดีกับอาคม แต่ลันลดาเป็
“เมื่อกี้คุณเผ่าพูดอะไรนะครับ!”อาคมถามอีกครั้ง เมื่อได้ยินไม่ถนัด“กูบอกว่า พรุ่งนี้ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว!”แทนที่เผ่าเพชรจะตอบคำถามดี ๆ แต่เขากลับตะโกนขึ้นมาสุดเสียง อาคมหน้าตึงเมื่อเจ้านายยังแกล้งไม่เลิก “กลับกรุงเทพฯ กลับยังไงครับ แล้วทำไมรีบกลับ ไหนคุณเผ่าว่าจะให้เธออยู่ก่อนไงครับ แล้ว...”คำถามที่เหลือค้างอยู่ที่ปากเมื่อเผ่าเพชรขัดขึ้น พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน ที่เล่นงานคนปากแข็งได้สำเร็จ“ไหนว่าไม่สนใจ ถามมาเป็นชุดเลยนะมึง ไม่บอกโว้ย! อยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเอาเอง” เผ่าเพชรเล่นตัว เมื่อมากระตุ้นต่อมความอยากรู้ของลูกน้องได้สำเร็จ“โธ่... คุณเผ่า ช่วยเล่าหน่อยนะครับ”อาคมแค่นเผ่าเพชร ไหน ๆ ก็เป็นคนเอาเรื่องนี้มาบอกแล้วก็ขยายความให้เขาอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป“นะครับ นะ ถือว่าเอาบุญก็ได้”“รู้ไหมว่าตอนนี้มึงทำตัวได้ทุเรศแค่ไหน ทำไมวะคม การที่มึงชอบคนคนหนึ่งแต่ไม่บอกเขานี่ มึงคิดว่าหล่อเหรอ กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ากูเป็นมึง กูจะบอกให้ป่านรู้”“คุณเผ่าก็พูดได้สิครับ ไม่ได้มาเป็นผม ไม่รู้หรอก”“นั่นไง กูถึงได้บอก ถ้ากูเป็นมึงกูจะบอกให้เขารู้”เผ่าเพชรพูดพร้อมกับจ้องหน้
“เป็นไงบ้างจ๊ะป่าน เหนื่อยไหม”ลลนาเดินมารับน้อง เมื่อรถยนต์จากโรงแรมแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เผ่าเพชรสั่งให้ลูกน้องฝีมือดีอยู่กับอาคมชุดใหญ่ เธอจึงยอมกลับมารอน้องที่ไร่ ลันลดาอยากจะกลอกตา พี่สาวของเธอก็เป็นไป กับเขาด้วยอีกคน อยากจะจับคู่ให้เธอกับอาคมอย่างนั้นเหรอ“คิดอะไรอยู่คะ ถึงอยากจับคู่ให้ป่าน” ลันลดาถามตรง ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ดูก็รู้ว่ามันคือแผน“เอ่อ...” ลลนาตอบคำถามน้องไม่ได้ เมื่อน้องถามมาตรง ๆ“คิดว่าป่านไม่รู้เหรอคะ”“พี่แค่อยากให้ป่านรู้ใจตัวเอง พวกเราคิดว่าคุณคมชอบป่าน แล้วป่านก็...”“อย่าพยายามเลยค่ะ คุณคมเขาไม่ได้ชอบป่านหรอกค่ะ”ลันลดาบอกกับพี่สาว เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ อาคมไม่ได้ชอบเธอ ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันเขาจะชอบเธอได้ยังไง“แล้วป่านล่ะ ชอบคุณคมไหม”“ป่านจะชอบเขาได้ยังไงคะ เราเพิ่งเจอกัน อะไรทำให้พี่ปอคิดแบบนั้นคะ”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เดาจากความรู้สึกของตัวเองน่ะ”“พี่ปอเดาผิดแล้วค่ะ ป่านไม่ได้คิดอะไรกับเขา ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้วไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจเอาไว้ พี่ปอกับคุณเผ่าอย่าพยายามเลยค่ะ ยังไงป่านก็ไม่เปลี่ยนใจ”“ถ้างั้นก็ตามนี้จ้ะ พี่แค่อ
ความคิดเห็น