"คุณปล่อยนะ!"ร่างบางดิ้นหนี เมื่อถูกกอดรัดจากด้านหลัง มือเรียวแกะแขนเขาออกจากเอว รู้สึกโมโหและเขินอายในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้ "ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย"ลันลดาขู่ "ไม่ปล่อยครับ เฮียจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง"อาคมตอบกลับ พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น มีแรงดิ้นก็ดิ้นไปเขาจะรัดเธอไว้อย่างนี้ "คุยอะไรคะ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ปล่อย!"บอกอย่างแสนงอน เมื่ออยู่ๆก็น้อยใจเขาขึ้นมา
View Moreรถกระบะโฟร์วีลสี่ประตูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด เมื่อสายรายงานว่า ‘เหยื่อ’ มาถึงแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มก่อนจะพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพิ่งจะบ่ายสามโมงกว่า ๆ แต่บรรยากาศรอบด้านกลับดูเหมือนหกโมงเย็น คงเป็นเพราะฝนที่เพิ่งเทกระหน่ำลงมา เลยทำให้ดูมืดครึ้มไปทั่วบริเวณ
สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย
ร่างบอบบางสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เดินลงมาจากรถทัวร์เมื่อกระเป๋ารถประกาศให้ทราบว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้ว มือบางควานหามือถือที่กำลังสั่นในกระเป๋าสะพายใบเล็กเพื่อกดรับสาย เพราะเธอปล่อยให้มันสั่นมาแบบนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้ว
“ค่ะแม่ ป่านขึ้นเครื่องคืนพรุ่งนี้ค่ะ” ตอบปลายสายก่อนจะต้องรีบยกมือปิดมือถือ เมื่อมีเสียงเรียกผู้โดยสารดังแทรกเข้ามา
“เกือบไปแล้ว” ลันลดาเป่าลมออกจากปาก รู้สึกโล่งใจเมื่อปลายสายไม่สงสัยอะไร ก่อนจะคลายนิ้วที่ไขว้ไว้ด้านหลังออกจากกัน
“ขอโทษนะคะ” รู้สึกผิดที่ต้องโกหกมารดาคำโต
มือบางยกมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะพิมพ์ชื่อสถานที่ที่ต้องการไปเพื่อดูระยะทาง ‘ไร่แสงตะวัน’ คือสถานที่นั้น เพราะตอนนี้พ่อแม่และพี่สาวเธออยู่ที่นั่น
กำหนดการเดินทางมาเชียงรายของลันลดาคือวันพรุ่งนี้ แต่เพราะความซุกซน จึงทำให้เธอเก็บกระเป๋าผ้าขึ้นรถทัวร์มาตั้งแต่เมื่อคืนวาน การเดินทางยาวนานไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเพลียเลย สักนิด เพราะเธอตื่นเต้นที่จะได้ไปเซอร์ไพรส์ครอบครัว
“ต้องหารถนั่งเข้าไป” พูดกับตัวเอง ก่อนจะมองหารถรับจ้างที่จอดอยู่บริเวณนั้น
“ลุงคะ ๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ” ร้องถามเมื่อเดินมาถึงรถ คันแรก
“โอ๊ย! ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก ไปถามคันอื่นไป๊” คนขับรถปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง
“อ้าว...” ลันลดางงหนัก เมื่อถูกคนขับกระทำกิริยาแบบนั้นใส่ มันเสียมารยาทมากเลยนะลุง หญิงสาวตำหนิผู้ชายคนนั้นในใจ
“พี่คะ ๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ” ลันลดาถามรถคันที่สอง ก่อนจะต้องอึ้ง เมื่อคำตอบที่ได้เหมือนกับคันแรกไม่มีผิด ไร้มารยาทหญิงสาวสะบัดหน้า แล้วเดินไปถามรถคันถัดไป
ร่างบางยกมือขึ้นเกาหัว เมื่อถามมาตลอดทางแต่ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ไม่มีรถคันไหนไปส่งเธอสักคัน คนเหล่านั้นให้เหตุผลว่าฝนตกถนนลื่น อากาศก็มืดครึ้ม จึงไม่มีใครอยากขับรถขึ้นเขา
“ก็ไม่ได้อยู่นอกแผนที่นี่ ไปยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ”
พูดกับตัวเอง เมื่อแบกกระเป๋าเดินไปยังรถสองแถวคันที่จอดถัดมา ขอให้คันนี้ตกลงด้วยเถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงต้องค้างคืนในตัวเมืองแน่นอน
“พี่คะ ๆ พี่ช่วยไปส่งที่ไร่แสงตะวันหน่อยได้ไหมคะ” ลันลดาร้องถาม เมื่อเดินมาถึงตัวรถ
“ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก” เสียงแหบพร่าของคนขับรถที่บอกปฏิเสธ ทำให้ลันลดาหน้าเสีย เพราะตอนนี้ไม่มีรถเหลือให้ถามอีกแล้ว นี่คือคันสุดท้าย
“พี่คะ ช่วยหนูหน่อยได้ไหม พอดีหนูมีธุระต้องไปที่นั่นค่ะ”
ลันลดาลอบเบะปากให้ตัว เมื่อใช้เสียงสองอ้อนคนขับรถ คงไม่เป็นไร เขาคงไม่คิดว่าเธออ่อยมั้ง
ดวงตาคมเข้มภายใต้กรอบแว่นตาสีดำ มองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้า คุณหนูลันลดา... ลูกสาวคนเล็กของคุณประกร คนที่เคยเป็นคู่หมั้นของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มเมื่อนึกว่าโชคดีของคุณเผ่าแล้วที่ไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต เพราะรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอได้มาเจอใกล้ ๆ ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับเจ้านายของเขาจริง ๆ
“จะไปที่ไร่แสงตะวันทำไม” ถามกลับไปอย่างนั้น เพราะเขารู้คำตอบของเธออยู่แล้ว
“ไปธุระค่ะ” หญิงสาวตอบรวม ๆ จะให้เธอบอกว่าไปเที่ยวเล่น ก็ไม่ใช่ที่
“หึ!” อาคมคำรามในลำคอ ไปธุระหรือจะไปทำให้คนที่นั่นไม่สบายใจกันแน่ อย่างน้อยก็นายหญิงคนหนึ่งที่ต้องลำบากใจกับการมาของเธอ
อาคมมองหน้าหญิงสาวอีกครั้งพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง ถ้าการไปที่ไร่ของเธอทำให้นายหญิงลำบากใจ งั้นเธอก็ไม่ต้องไป
“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่งให้ก็ได้ เห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว นี่มันก็จะมืดแล้ว ถือว่าช่วยเอาบุญ”
ลันลดายิ้มหวาน เมื่อผู้ชายตรงหน้าตอบรับคำขอของเธอ
“ขอบคุณมากนะพี่ ขอบคุณจริง ๆ ถ้าไม่ได้พี่หนูต้องแย่แน่ ๆ ขอบคุณน้า” หญิงสาวร้องบอกด้วยความดีใจพร้อมกับยกมือไหว้เขา ก่อนจะสะพายเป้เดินไปด้านหลังรถ
“นั่งข้างหน้าด้วยกันก็ได้ ฝนยังลงเม็ดอยู่ นั่งข้างหลังเดี๋ยวเปียก”
น้ำเสียงที่ส่งมาด้วยความอาทร ทำให้ร่างบางหันไปยิ้มหวานให้อีกครั้ง ถึงแม้จะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด เพราะมีทั้งหมวกทั้งแว่นตา แต่ลันลดาก็รับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้าย
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ งั้นหนูเอาเป้วางไว้ข้างหลังก็ได้ เดี๋ยวมันเกะกะพี่” ลันลดาบอกก่อนจะรีบวิ่งไปหลังรถ ปลดเป้ลงจากบ่า แล้ววิ่งมานั่งหน้ารถอย่างรวดเร็วเพราะเกรงใจคนที่ติดเครื่องยนต์รออยู่ รถสองแถวเคลื่อนตัวออกไป พร้อมกับอาการมึนงงของชายฉกรรจ์ กลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
“คุณคมจะทำอะไรวะ ไหนว่าจะมาดูหน้าอย่างเดียวไง”
“คงพาไปส่งที่ไร่แสงตะวันมั้ง” ใครบางคนในกลุ่มตอบคำถามเพื่อน
“อืม... ถ้าแค่นั้นก็ดีไป”
“มึงกำลังคิดว่า...”
“กูอาจจะระแวงไปเอง”
“เราต้องโทร. บอกพ่อเลี้ยงไหมวะ”
“มึงอยากตกงานก็เอาสิ”
สิ้นสุดการสนทนา เมื่อเสียงมือถือของใครบางคนดังขึ้น
“ครับ... เข้าใจแล้วครับ” ณรงค์กดวางสาย ก่อนจะหันมาหาเพื่อน
“เรื่องนี้ห้ามให้ถึงหูพ่อเลี้ยงเด็ดขาด”
ณรงค์กำชับทุกคนอีกครั้ง คนกลุ่มนั้นพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะ แยกย้ายไปยังรถที่จอดไว้ใกล้ ๆ กับสถานีรถประจำทาง
..............................................................................................................................
สวัสดีค่ะ ฉุดลากกระชากรักเป็นนิยายในชุดหนุ่มบ้านไร่นะคะ ประกอบไปด้วย พ่ายรักเมียสวมรอย สินธรภัทรทิรา กรงรักพันธะเถื่อน ฉุดลากกระชากรัก เจ้าสาวของธาวินทร์ อ่านไล่จากพ่ายรักเมียสวมรอยมาจะฟินมาก ฝากด้วยนะคะ
คุณประกรวางเสียมที่ขุดดินในมือลง เมื่อเผ่าเพชรเดิน มาทางเขา ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเงยขึ้นมอง เมื่อลูกเขยมายืนค้ำหัว ผู้สูงวัยยิ้มให้ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น แล้วหันมายืนเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านสองอาทิตย์แล้วที่เขากับภรรยามาอยู่ที่ไร่แสงตะวัน จากที่ตั้งใจจะมาเยี่ยมลูกสาวแล้วกลับเลย แต่ก็ต้องอยู่ยาว เมื่อลูกสาวคนโต กลายร่างเป็นเด็กน้อยขี้อ้อน อ้อนพ่ออ้อนแม่ให้อยู่กับเธอทุกวัน แถมลูกสาวคนเล็กของเขาก็เงียบหาย ทั้งที่บอกว่าจะตามมาที่ไร่แสงตะวัน ลันลดาน่าจะหนีไปเที่ยวที่อื่น เลยไม่ตามมา ลูกคนเล็กของเขาไม่ได้เป็นเด็กหัวอ่อนอย่างที่ใคร ๆ คิด พี่เป็นยังไง น้องก็เป็นอย่างนั้น แต่จะติดที่ขี้โรคไปสักหน่อย “ทำอะไรอยู่ครับ”เผ่าเพชรเอ่ยถาม เมื่อเห็นพ่อตาวางเสียมในมือลงพื้น“พรวนดินแปลงกุหลาบน่ะ เห็นมันออกดอกสวยดี” คุณประกรตอบ ก่อนจะมองไปที่กระดาษที่ลูกเขยยื่นมาให้ตรงหน้า“อะไร”“โฉนดที่ดินครับ ผมคืนให้คุณ”คำตอบของคนหนุ่มทำให้หัวคิ้วของคนสูงวัยขมวดเข้าหากัน ที่ดินที่เผ่าเพชรพูดถึง ครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นของเขา เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แต่เมื่อมันตกมาอยู่ในมือของเขา เขาก็ขายมันทิ้งอ
ภาพตรงที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ลันลดาเข้าใจทุกอย่าง นี่น่ะหรือ... ห้องพักที่ฝ่ายบุคคลเตรียมให้เธอ มีสภาพไม่ต่างจากห้องเก็บของ ทั้งรกและสกปรก แบบนี้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากถูกแกล้ง น้องหมาบางตัวยังมีที่นอนที่ดีกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ช่างเถอะ เมื่อคิดที่จะอยู่ก็ต้องอยู่ให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือความสะอาด แล้วหลังจากนั้นเธอจะไปคุยกับผู้ชายคนนั้น จะขอกระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าสตางค์ และข้าวของทุกอย่างของเธอคืนมา เพราะตอนนี้เธอ ไม่คิดหนีไปไหนแล้ว จะอยู่ที่นี่ จะทำให้คนพวกนั้นรู้ว่าเวลาที่ถูก แรงโน้มถ่วงของโลกดึงให้ตกต่ำมันเจ็บแค่ไหน“ฉันอยากได้ไม้กวาด กับอุปกรณ์ทำความสะอาด จะไปเอาจากตรงไหน”หันไปถามคนที่พาเธอมาส่ง แต่กลับได้ริมฝีปากที่บิดเบ้เป็นคำตอบ “ก็หาเอาเองสิยะ”“เธอชื่ออะไร!” ถามเสียงห้วนจัด“มีตาก็อ่านเองสิ ว่าแต่อ่านออกไหมจ๊ะ”ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่ป้ายชื่อของตัวเอง ลันลดาอ่านรวดเดียวแล้วจำได้ขึ้นใจ ‘กานดา สุดละม่อม’ แผนกทำความสะอาด เธอจะเป็นอีกคนที่ได้เดินตามผู้หญิงสามคนนั้นออกไปลันลดาคิดในใจ ก่อนจะเริ่มมองหาอุปกรณ์ทำความสะอาด เมื่อไม่มีของเก่าให้เธอใช้ก็แกะขอ
ทันทีที่เดินมาถึงห้องฝ่ายบุคคล กาญจนาก็ยื่นกระดาษ มาตรงหน้า ลันลดาปรายตามองเพราะสิ่งที่เธอสนใจ คือผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้าเธอนี่ต่างหาก“นั่งลง แล้วกรอกประวัติตามหัวข้อให้ครบ ใส่ชื่อที่อยู่เบอร์โทร. ให้ชัดเจน อ้อ... แล้วก็ชื่อคนที่เธอรู้จักในโรงแรมนี้ด้วยนะ”กาญจนาสั่ง ถึงอาคมจะแจ้งเรื่องพนักงานใหม่ให้เธอทราบแล้ว แต่เธอก็อยากเบ่ง ยิ่งเป็นคนที่อาคมพามา เธอยิ่งต้องสัมภาษณ์ให้ละเอียด ให้มันรู้บ้างว่าใครใหญ่ คิดจะอยู่ที่นี่ก็ต้องอยู่ให้เป็นลันลดาเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง ดึงกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านคร่าว ๆ ก่อนจะเขียนชื่อนามสกุลและประวัติอื่น ๆ ลงไป เธอเขียนชื่อและนามสกุลจริง เพราะคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง“คิดจะทำอะไร”คำถามที่คนฝั่งตรงข้ามส่งมา ทำให้ลันลดาเงยหน้าขึ้นจากกระดาษที่กำลังเขียนอยู่“คะ?” ขานรับเพราะไม่เข้าใจคำถาม“เข้าไปวุ่นวายเรื่องของชาวบ้าน คิดว่าตัวเองเป็นใคร”กาญจนาไม่อ้อมค้อม เพราะเธอเห็นการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ตอนที่วิ่งเข้าไปขวางคนของเธอลันลดามองหน้ากาญจนา ผู้หญิงคนนี้น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่สาวเธอ หรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะเธอเห็นริ้วรอยบริเวณหางตาที่เจ้าตัวพยายา
เมื่อคุยกันรู้เรื่องและทำความเข้าใจกันแล้ว ดวงเดือนก็จัดแจงให้หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวใหม่ โดยเธอลงมาเบิกชุดพนักงานทำความสะอาดที่แผนกขึ้นไปให้ แต่ระหว่างทางก็ถูกกาญจนาเรียกไปซักฟอกชุดใหญ่ ถึงเหตุการณ์ที่คนเอาไปพูดกัน เรื่องผู้บริหารหนุ่มกับพนักงานใหม่ดวงเดือนเองก็ยังแปลกใจไม่หาย เพราะข่าวไปเร็วกว่าที่เธอคิด แทนที่เธอจะได้เป็นคนแรกที่ได้เล่าเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะกาญจนาก็ยังให้เงินเธอ และสั่งให้พาพนักงานใหม่ลงไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคคล ต่อให้เป็นคนของอาคมก็เถอะ แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่ลันลดาก็ต้องอยู่ใต้คำสั่งกาญจนา เพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะให้ใครอยู่หรือออกก็ได้ตามอำนาจของฝ่ายบุคคล ลันลดาไม่อยากทำให้ดวงเดือนเดือดร้อน หลังจากกินข้าวเช้าในห้องอาหารของพนักงาน เธอจึงตามดวงเดือนไปพบกับฝ่ายบุคคล เพราะต้องเบิกชุดและอุปกรณ์ที่จะใช้ทำความสะอาดของตัวเองด้วยระหว่างทางเธอเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งยืนจับกลุ่มคุยกัน แต่ถ้าสังเกตดี ๆ เหมือนล้อมอะไรไว้มากกว่า หญิงสาวหยุดดู พยายามมองให้ชัด ๆ แต่ถูกดวงเดือนดึงแขนให้เดินตามไปเร็ว ๆ ดวงเดือนและคนที่ทำงานในนี้จะเห็นภาพแบบนี้จนชินตา แต่ลันลดาเพิ่งมาอ
แม้จะพยายามดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง แต่เมื่อถูกผู้ชายที่ มีกำลังมากกว่าเข้าล็อกตัว ลันลดาก็สู้ไม่ได้ อาคมมองภาพตรงหน้าด้วยความสะใจ เมื่อเห็นนางมารน้อยถูกจับมือไพล่หลัง แล้วมัดจนข้อแขนแดงช้ำ จังหวะที่ตากลมโตตวัดมามองเขา ความจุกที่ยังหลงเหลืออยู่ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้หมัดหนักไม่เบาเลยนะ ทำเขาจุกเกือบตายในขณะที่ดวงเดือนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ผู้บริหารหนุ่มรูปงาม สุภาพ และใจดี สั่งมัดผู้หญิงได้ลงคอเลยหรือ แสดงว่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องราวระหว่างกัน ไม่ได้แล้ว..... เธอต้องเหยียบเรื่องนี้ให้กระจาย สาว ๆ ทุกคนจะได้รู้กันว่าคุณคมมีผู้หญิงซ่อนอยู่ในห้องนอน โดยเฉพาะกาญจนา นางอยากให้เธอมาเห็นเหตุการณ์ตอนนี้จริง ๆ“ป้าครับ”“คะ!”ดวงเดือนสะดุ้งสุดตัวเมื่ออาคมเรียกชื่อเธอ กำลังคิดอะไร เพลิน ๆ เลยพาให้ตกใจ จังหวะที่หันกลับมาไม้ถูที่อยู่ในมือแทบจะทิ่มหน้าเขา“ไม้ถูนั่น จะยกขึ้นอีกนานไหมครับ”อาคมยังคงความสุภาพเอาไว้ แม้จะขายหน้าก็ตาม ดูเอาเถอะ ทั้งแม่บ้าน ทั้ง รปภ.ต้องมาเห็นเขาในสภาพนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เพราะยายตัวเล็กนี่คนเดียวเลย ที่ทำให้เขาเกือบเสียระบบการปกครอง“อ
ลันลดาช้อนตาขึ้นมองเขาก่อนจะยิ้มหวานเต็มหน้า ทั้งที่ใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมานอกอก เธอต้องเป็นเด็กดี รักษาคำพูด และทำให้เขาตายใจ“ขออนุญาตนะคะเฮียขา ถอดแล้วให้ป่านอาบน้ำให้ด้วยเลยไหมคะ” พูดพร้อมกับส่งมือบางที่สั่นน้อย ๆ ไปแกะกระดุมเสื้อที่เหลือออกจนหมด ตาคู่สวยมองไปตามผิวเนื้อเรียบตึง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นกล้ามเนื้อท้องเป็นลอนของเขาใจเย็น ๆ ไว้ป่าน อย่าตื่นเต้น.... แกก็เคยเห็นผู้ชายเปลือยออกบ่อยไป นี่แค่เด็ก ๆ ถ้าเทียบกับหนุ่ม ๆ ที่เธอเคยส่องดู มือบางดึงเสื้อเขาออกจากไหล่ เขย่งปลายเท้าขึ้นอีกนิด เขาสูงเกินไป ไอ้เฮีย ตกลงแกเป็นง่อยเหรอ ถอดให้จนหมดแล้ว ขยับไหล่นิดเดียวเสื้อก็หลุดพ้นตัว แต่นี่เขายังยืนนิ่งไม่หือไม่อืออะไรสักอย่างอาคมตกใจกับการกระทำของหญิงสาวไม่น้อย ที่อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาเป็นนางยั่วเสียอย่างนั้น เมื่อกี้ยังร้องกรี๊ด ๆ อยู่เลย “เฮียขาขยับแขนหน่อยค่า ป่านถอดเสื้อไม่ได้”เขย่งก็แล้ว กระโดดก็แล้ว ตกลงที่อยู่ตรงหน้าเธอคนหรือต้นตาลกันแน่ ทำไมถึงได้สูงใหญ่ขนาดนี้ อาคมขยับแขน สลัดเสื้อออกจากตัว เกือบจะถอยหนีเหมือนกัน เมื่อยายตัวดีทำเหมือนตั้งใจเอาก้อนเนื้อนุ่ม มาถูไถกั
Comments