"พ่อจ๋าข้ากลับมาแล้วจ๊ะ"ระย้าแก้วทักทายผู้เป็นพ่อที่กำลังเก็บยาที่ตากอยู่
"อ้าว..!! กลับมาแล้วรึลูก แล้วนั่นเอ็งพาใครมาด้วยเล่าลูกเต้าเหล่าใครเหตุใดจึงเดินมากับเอ็ง"พ่อหมอไทยที่เพ่งพินิจกับชายร่างสูงใหญ่ที่เดินตามหลังลูกสาวตนเองมา "ฉันไหว้จากพ่อหมอ พ่อหมอจำข้ามิได้รึ" "เอ็งลูกเต้าเหล่าใครกันวะข้าก็จำไม่ได้" "พ่อหมอไทยลองเพ่งมองหน้าฉันอีกทีได้หรือไม่ว่าหน้าของฉันนั้นเหมือนผู้ใด"พระพายยังคงหยอกเล่นกับความทรงจำของพ่อหมอไทย "ข้าแก่ปูนนี้แล้ว ข้าจักจำใครได้หนักหนา ข้าจำทางกลับบ้านได้ก็บุญโขแล้ว"พ่อหมอไทยที่พูดที่เล่นทีจริงอย่างติดตลก "ทูนหัวของบ่าวเดี๋ยวบ่าวเอาของเข้าไปเก็บในเรือนให้นะเจ้าคะ"อีแตงพูดแทรกขึ้น "ไปเถอะจ้ะพี่แตง เดี๋ยวทางนี้ข้าจัดการเอง" "ข้าพระพายลูกพ่อสมปองกับแม่รำพึงใงขอรับ พ่อหมอพอจะจำได้หรือยัง" "โอ้..!! ลูกของไอ้สมปองหรือนี่มันโตเป็นหนุ่มสง่าผ่าเผยรูปงามเสียจริง จนข้าจำหน้าตามิได้เลย"เมื่อได้บอกชื่อแซ่ของผู้เป็นบิดามารดา ทำให้พ่อหมอไทยระลึกได้ทันทีว่านี่คือพระพราย "เอ็งคงเป็นพระพายสินะ แล้วนี่พ่อแม่เอ็งสบายดีรึไม่เหตุใดเอ็งจึงเดินทางกลับมาที่นี่เล่า" "ข้ากลับมาที่นี่ เพราะมาดูเรือนหลังเก่าของพ่อกับแม่ของข้าว่าจากอยู่ที่นู่นอีกสัก 2-3 ปีก็จะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วหนา" "เออ..เข้าไปในเรือนกันก่อนเถิดแดดร่มลมตกหมดแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายกันเอา" "งั้นเดี๋ยวฉันขอไปเตรียมน้ำเตรียมท่าให้กับพี่พระพายก่อนนะจ๊ะพ่อ" "เออๆไปเถอะลูก" พระพายสอดสายตามองไปรอบๆบรรยากาศที่คุ้นเคยแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย นอกจากผู้หญิงตรงหน้าคือระย้าแก้ว ที่ความสวยเลื่องลือระบือนาม นางนั้นสวยสมคำร่ำลือเสียจริง เขาที่เจอนางครั้งแรกที่วัดก็แทบจะจำมิได้ หากบ่าวรับใช้ไม่เอ่ยชื่อขึ้นมา ก็คงนึกมิออกว่าเป็นผู้ใด "แล้วนี่แม่ศรีนวลอยู่ไหนล่ะจ๊ะพ่อครู ฉันจะได้ไปกราบแม่เสียที"พระพายเอ่ยถามผู้เป็นมารดาของระย้าแก้ว "แม่ศรีนวลอยู่ในเรือนครัว เตรียมสำหรับเย็นอยู่นั่นแหละ ประเดี๋ยวเดี๋ยวก็ขึ้นมาพร้อมกับระย้าแก้ว"พ่อหมอไทยที่นั่งเก็บยาแยกส่วนก็พูดคุยกับพระพายอย่างเป็นกันเอง ส่วนไอ้สิงห์กับไอ้ดำที่พอรู้เรื่องราวต่างๆไอ้สิงห์แกล้งทำเป็นเดินตรวจตรารอบหมู่บ้านแต่กลายเป็นว่ามันลัดเลาะน้ำตกมาจนถึงบ้านของระย้าแก้วไอ้สิงห์ที่เห็นหมอไทยที่ชานบ้านจึงแกล้งตะโกนเรียก "พ่อหมอไทย พ่อหมออยู่ไหมจ๊ะ" "ใครวะมาเอะอะ ในเวลาโพล้เพล้ขนาดนี้" "ฉันเองจากพ่อหมอ ไอ้สิงห์" "อ้าว .. ! พ่อสิงห์มีใครเป็นกระไรรึ เอ็งถึงได้มาบ้านข้า" "พอดีพ่อฉันปวดท้องนะจ๊ะ"ไปสิงห์บดคำโต "ก็เลยอยากจะมาแวะขอเจียดยาพ่อหมอไปให้พ่อเสียหน่อย" "อ้าว..! งั้นพ่อก็ขึ้นมาบนเรือนเสียก่อนเถิด มานั่งข้างบนก่อนดื่มน้ำเย็นๆเดี๋ยวนางระย้าแก้วคงเอาน้ำขึ้นมา" สิ้นคำของพ่อหมอไทยไอ้สิงห์รีบจ้ำอ่าวขึ้นเรือนทันทีโดยไม่สนใจไอ้ดำเลย ไอ้ดำที่รู้สึกสงสัยว่าพ่อของไอ้สิงห์ปวดท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ "น้ำมาแล้วจ้าพี่พระพาย"ระย้าแก้วที่ไม่ได้ทันสังเกตว่ามีคนนั่งถัดไปอีกคน อะแฮ่ม อะแฮ่ม! เสียงไอ้สิงห์กระแอมกระไอ "ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไร หรือเอ็งก็ป่วยอีกคนนึง"พอหมอไทยรีบถามทันทีด้วยความเป็นห่วง "ฉันรู้สึกคอแห้งนิดหน่อยนะจ๊ะพ่อหมอ สงสัยอากาศมันเปลี่ยน"ไอ้สิงโป้ปดไม่หยุด ระย้าแก้วที่เห็นในสิงห์ก็แอบตกใจอยู่เล็กน้อยเพราะร้อยวันพันปีไอ้สิงห์ไม่เคยมาเหยียบเรือนของตนเลยแต่ไม่รู้เหตุใดวันนี้จึงมาได้ "น้ำจ๊ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วยื่นขันน้ำให้กับไอ้สิงห์โดยที่ไอ้สิงห์จ้องตาเขม็ง เพราะเห็นในระย้าแก้วนั่งใกล้กับพระพายแทบจะนั่งตักกันอยู่แล้วในสายตาของไอ้สิงห์ที่มองเห็น "พ่อจ๋า ข้าขอตัวพี่พระพาย เข้าไปที่สวนทางหลังบ้านได้ไหมจ๊ะ เดี๋ยวให้แตงไปเป็นเพื่อน"ระย้าแก้วเอ่ยปากขออนุญาตผู้เป็นบิดา "ไปสิ ข้าจะไปว่ากะไรเอ็งเล่า" "พี่พระพาย เราไปดูสวนดอกลั่นทมของเราเถิด ข้าดูแลรดน้ำพรวนดินมันเป็นอย่างดี ตอนนี้ออกดอกสวยมาก ข้าอยากให้พี่เห็นตอนที่มันกระทบแสงอาทิตย์"ระย้าแก้วพูดด้วยใจที่บริสุทธิ์แต่ไอ้สิงห์กลับมองว่าระย้าแก้วนั้น ทำตัวระริกระรี้จนเกินงาม "ไปสิ พี่ก็อยากจะดูว่าฝีมือของระย้าแก้วพัฒนาไปถึงไหนแล้วบ้าง"พระพายลุกพรวดขึ้นทันที แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาพ้นประตูเสียงไอ้สิงห์ก็ดังแทรกขึ้น "ขอข้าตามไปชมสวนของเอ็ง ได้ด้วยหรือไม่ระย้าแก้ว" ระย้าแก้วทำสีหน้าตกใจ ที่ได้ยินว่าไอ้สิงห์อยากจะชมสวนลั่นทมของหล่อน เพราะก่อนหน้านี้หล่อนได้พูดกับเขาจนปากเปียกปากแฉะ ว่าส่วนลั่นทมของหล่อนนั้นสวยงามมากเพียงใด แต่ไอ้สิงห์กลับบอกว่าหล่อนนั้นไร้สาระพูดจาไม่รู้ความ ไม่เคยสนใจหรืออยากจะมาเชยชมเลย "เอ็งก็พาไอ้สิงห์ไปด้วยสิลูก มันก็คงไม่มีกระไรเสียหายนักหรอกไปเถิด" พ่อหมอไทยที่รู้อยู่เต็มอก ว่าลูกสาวตัวนั้นมีใจให้ ไอ้สิงห์และก็รู้เสมอมาว่าไอ้สิงห์ก็พูดจาทำร้ายจิตใจลูกสาวตนไม่น้อย แต่เพราะผู้เป็นพ่ออย่างเขาต้องปล่อยให้ลูกได้เดินและเลือกทางเดินของตัวเอง "จ้ะพ่อ"ระย้าแก้วตอบรับผู้เป็นบิดา คนทั้งสามที่พากันเดินตรงไปหลังบ้านขอระย้าแก้วที่มองลอดกอไผ่ก็จะเห็นส่วนลั่นทมที่งดงามเป็น 10 ต้นพร้อมกับศาลานั่งรับลม บรรยากาศดูน่าสบายใจ และถูกประดับประดาแซมไปด้วยไม้ดอกอื่นๆเช่นมะลิและตรงศาลานั่งเล่นก็ถูกขุดลอก เป็นบ่อน้ำมีปลาแหวกไหว้ไปมา ไอ้ดำและนางแตงที่ติดตามผู้เป็นนายก็เดินอยู่ห่างๆด้วยความรู้สึกกระอักกะอ่วนและอึดอัดอยู่ภายในใจเพราะไม่เคยเห็นไอ้สิงห์ในสิ่งใดทำอะไรแบบนี้เลย "โอ้โห..!! ที่นี่สวยจริงๆ นี่ข้าไม่เคยรู้เลยนะเดินตรวจตามหมู่บ้านมาตั้งนานว่าจะมีที่ราวกับสรวงสวรรค์เช่นนี้"ไอ้ดำเอ่ยชมกับนางแตง "ใครๆเขาก็ว่าดอกลั่นทมไม่ควรปลูกเพียงเพราะชื่อของมันแต่ความจริงมันเป็นดอกไม้ที่สวยงามชนิดหนึ่งก็เท่านั้น นายข้าค่อนข้างจะรักดอกลั่นทมมาก"นางแตงก็หันไปตอบไอ้ดำ ไอ้สิงห์ที่รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่มันได้เห็นมันสวยดั่งที่ ระย้าแก้วเคยบอกมันเสมอและพยายามชวนมันให้มาเที่ยวชมสวนลั่นทมที่มันรักนักรักหนาแต่บัดนี้ไม่ได้มีแค่มันที่ได้เชยชมสวนลั่นทมนี้เสียแล้วเพราะยังมีพระพายผู้ที่ช่วยสร้างสวนลั่นทมนี้อีกคนคำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท
"ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ
"พี่แตง ดูปิ่นปักผมอันนี้ซิ สวยเหลือเกิน ลายดอกไม้สวยตรงใจข้าเหลือเกิน" ระย้าแก้วยิ้มสดใส ในวัย 18 ปี งามใสพรั่งราวดอกไม้แรกแย้ม ความงามเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แลหัวท้ายหมู่บ้านต่างพากันอยากเยินโฉมบุษบานางฟ้าเดินดิน"สวยมากเจ้าค่ะทูนหัวของบ่าวอยากได้กระนั้นหรือเปล่าจะได้ต่อราคาพ่อค้าให้"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงรีบจัดแจงให้กับเจ้านายผู้กายของมัน"ข้าอยากได้ปิ่นปักผมอันนี้พี่แตง"ระย้าแก้วที่ยิ้มสดใสอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ"จีนซื่อ ข้าเอาปิ่นอันนี้ให้กับนายของขา""ได้ ได้"แต่ยังไม่ทันได้เอาปิ่นปักผมมาใส่ตะกร้าสานของนางแตง ก็มีเรียวกระชากปิ่นออกจากมือของจีนซื่อทันที พร้อมกับทำท่าทีโอหังหันมามองหน้าระย้าแก้วอย่างโกรธเคือง นั่นคือจันทร์แรมที่ตอนนี้อายุอานามก็ปาไป 27 ปี จนจะเป็นสาวแร้งทึ้งอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ออกเรือน ข่าวคาว ๆ ก็เล็ดรอดให้ชาวบ้านได้พูดกันไม่เว็นแต่ละวัน จนไอ้สิงห์ระอา ถึงแม้ยังไม่เคยเห็นกับตาได้ยินกับหูแต่มันก็ไม่ได้โง่ดักดาน เพียงแต่ยังไม่ทันเห็นธาติแท้ของนางจันทร์แรมกับตาก็เท่านั้น"ข้าจะเอาปิ่นอันนี้จีนซื่อ ท่านต้องขายให้ข้า"จันทร์แรมที่สแยะยิ้มอย่างผู้มีชัย"ขอโทษอาคุงหนู
ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้าวันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลังแต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง."คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ
สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ"อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้""มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ"เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด"อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที"เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับสาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุ
หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัวส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย"ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้"ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อนย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบ
"วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย""ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย"พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง"พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ""บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย"ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซนทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม"พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของ
ความหงุดหงิดหัวใจที่มิอาจดับได้ จวบจนเวลาพลบค่ำทำให้ไอ้สิงห์รู้สึกนอนไม่หลับ จนมันต้องปลุกไอ้ดำให้ไปที่เรือนของระย้าแก้วเป็นเพื่อน แม้จะไม่มีเหตุผลในการไปแต่มันก็ต้องไปเพราะความว้าวุ่นที่รบกวนจิตใจของมัน"ไอ้ดำเดี๋ยวมึงพากูไปบ้านพ่อหมอไทยที""ไปทำไมล่ะพี่สิงห์นี่ก็ค่ำแล้วหนา"ไอ้ดำที่ทำท่าทีสงสัยจึงเอ่ยถามออกไปทันที"เออน่ะ..!!เรื่องของกู กูมีเรื่องต้องไปจัดการเดี๋ยวมึงไปดูต้นทางให้กูที""ได้จ้ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วที่อยู่ในห้องนอน ยืนชมพระจันทร์ที่ส่องแสงสวยงาม แม้เธอในวัย 18 ปีจะงามสะพรั่งแต่ก็มิอาจเอาชนะใจ ไอ้สิงห์คนที่ช่วยชีวิตเธอ เธอมิอาจเอาชนะใจผู้ที่อยู่ในหัวใจของไอ้สิงห์ได้ นั่นคือจันทร์แรม"ข้าจักสู้ดวงจันทร์ที่สวยงามได้เยี่ยงไรเล่า ข้าเป็นเพียงดอกไม้ดอกหนึ่ง ที่มิคู่ควรที่จะอยู่ข้างกายของพี่สิงห์ หากเป็นเช่นนั้นข้าควรตัดใจใช่หรือไม่"ระย้าแก้วที่ยืนมองพระจันทร์ แล้วยืนตัดพ้ออยู่กับตนเองในความรักข้างเดียวของนางระย้าแก้วเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพื่อรับสายลมเย็นพร้อมกับเตรียมตัวเข้านอนหลับไหล เปลือกตาสวยคู่นั้นเริ่มหนักอึ้งและกลับลงสู่ห้วงนิทราไอ้สิงห์ที่มาถึงเรือนของพ่อหมอไทยมั
หลังจากวันนั้นที่พระพายได้กลับมา ระย้าแก้วเริ่มไปหาไอ้สิงห์น้อยลง เพราะพระพายที่มักจะพาระย้าแก้วไปเที่ยวเตร่ตามประสา เขาเองตั้งใจจะอยู่ที่นี่แรมเดือนเพื่อดูแลบ้านที่พ่อแม่มอบหมายให้กลับมาดูแล"ข้าไหว้ขอรับพ่อหมอไทย"พระพายที่หอบหิ้วเอามะพร้าวกับกล้วยที่สวนตนมาฝากบ้านระย้าแก้ว"เป็นไงมาไงละพ่อพาย""พอดีวันนี้บ่าวไพร่ ที่บ้านของหลาน มันตัดกล้วยกับมะพร้าวเยอะ เลยหิ้วมาฝากพ่อหมอไทยกับแม่ศรีนวลนะขอรับ""ขอบน้ำใจพ่อพระพาย เดี๋ยวให้บ่าวยกเข้าครัว พ่อมาเหนื่อย ๆ ขึ้นเรือนมากินน้ำกินท่าก่อนพ่อ"พระพายที่ขึ้นเรือนมา นั่งดื่มน้ำโรยดอกมะลิเย็น ๆ จนชื่นใจ ส่วนสายตาสอดส่องมองหาร่างบางของหญิงสาวสวยที่เขาหมายปอง"มองหาผู้ใดเล่าพ่อพาย"เสียงแม่ศรีนวล แม่ของระย้าแก้วที่เดินออกมาจากเรือนนอน"ข้าไหว้จ้ะ ป้าศรีนวล"พระพายยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มรับ"สบายหรือไม่ขอรับ ป้าแม่ศรีนวล""ป้าสบายดี แล้วพ่อพายเล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง""หลานสบายดีขอรับป้าศรีนวล"ขณะที่พระพายนั่งสนทนาอยู่กับแม่ของระย้าแก้วสายตาก็สอดส่องมองหาร่างบาง จนแม่ศรีนวลแม่ของระย้าแก้วอดขำไม่ได้"ถ้ามองหาระย้าแก้ว น้องอยู่ในสวนดอกลั่นทมโน่น""เอ่อคือ..ถ