"พ่อจ๋าข้ากลับมาแล้วจ๊ะ"ระย้าแก้วทักทายผู้เป็นพ่อที่กำลังเก็บยาที่ตากอยู่
"อ้าว..!! กลับมาแล้วรึลูก แล้วนั่นเอ็งพาใครมาด้วยเล่าลูกเต้าเหล่าใครเหตุใดจึงเดินมากับเอ็ง"พ่อหมอไทยที่เพ่งพินิจกับชายร่างสูงใหญ่ที่เดินตามหลังลูกสาวตนเองมา "ฉันไหว้จากพ่อหมอ พ่อหมอจำข้ามิได้รึ" "เอ็งลูกเต้าเหล่าใครกันวะข้าก็จำไม่ได้" "พ่อหมอไทยลองเพ่งมองหน้าฉันอีกทีได้หรือไม่ว่าหน้าของฉันนั้นเหมือนผู้ใด"พระพายยังคงหยอกเล่นกับความทรงจำของพ่อหมอไทย "ข้าแก่ปูนนี้แล้ว ข้าจักจำใครได้หนักหนา ข้าจำทางกลับบ้านได้ก็บุญโขแล้ว"พ่อหมอไทยที่พูดที่เล่นทีจริงอย่างติดตลก "ทูนหัวของบ่าวเดี๋ยวบ่าวเอาของเข้าไปเก็บในเรือนให้นะเจ้าคะ"อีแตงพูดแทรกขึ้น "ไปเถอะจ้ะพี่แตง เดี๋ยวทางนี้ข้าจัดการเอง" "ข้าพระพายลูกพ่อสมปองกับแม่รำพึงใงขอรับ พ่อหมอพอจะจำได้หรือยัง" "โอ้..!! ลูกของไอ้สมปองหรือนี่มันโตเป็นหนุ่มสง่าผ่าเผยรูปงามเสียจริง จนข้าจำหน้าตามิได้เลย"เมื่อได้บอกชื่อแซ่ของผู้เป็นบิดามารดา ทำให้พ่อหมอไทยระลึกได้ทันทีว่านี่คือพระพราย "เอ็งคงเป็นพระพายสินะ แล้วนี่พ่อแม่เอ็งสบายดีรึไม่เหตุใดเอ็งจึงเดินทางกลับมาที่นี่เล่า" "ข้ากลับมาที่นี่ เพราะมาดูเรือนหลังเก่าของพ่อกับแม่ของข้าว่าจากอยู่ที่นู่นอีกสัก 2-3 ปีก็จะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วหนา" "เออ..เข้าไปในเรือนกันก่อนเถิดแดดร่มลมตกหมดแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายกันเอา" "งั้นเดี๋ยวฉันขอไปเตรียมน้ำเตรียมท่าให้กับพี่พระพายก่อนนะจ๊ะพ่อ" "เออๆไปเถอะลูก" พระพายสอดสายตามองไปรอบๆบรรยากาศที่คุ้นเคยแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย นอกจากผู้หญิงตรงหน้าคือระย้าแก้ว ที่ความสวยเลื่องลือระบือนาม นางนั้นสวยสมคำร่ำลือเสียจริง เขาที่เจอนางครั้งแรกที่วัดก็แทบจะจำมิได้ หากบ่าวรับใช้ไม่เอ่ยชื่อขึ้นมา ก็คงนึกมิออกว่าเป็นผู้ใด "แล้วนี่แม่ศรีนวลอยู่ไหนล่ะจ๊ะพ่อครู ฉันจะได้ไปกราบแม่เสียที"พระพายเอ่ยถามผู้เป็นมารดาของระย้าแก้ว "แม่ศรีนวลอยู่ในเรือนครัว เตรียมสำหรับเย็นอยู่นั่นแหละ ประเดี๋ยวเดี๋ยวก็ขึ้นมาพร้อมกับระย้าแก้ว"พ่อหมอไทยที่นั่งเก็บยาแยกส่วนก็พูดคุยกับพระพายอย่างเป็นกันเอง ส่วนไอ้สิงห์กับไอ้ดำที่พอรู้เรื่องราวต่างๆไอ้สิงห์แกล้งทำเป็นเดินตรวจตรารอบหมู่บ้านแต่กลายเป็นว่ามันลัดเลาะน้ำตกมาจนถึงบ้านของระย้าแก้วไอ้สิงห์ที่เห็นหมอไทยที่ชานบ้านจึงแกล้งตะโกนเรียก "พ่อหมอไทย พ่อหมออยู่ไหมจ๊ะ" "ใครวะมาเอะอะ ในเวลาโพล้เพล้ขนาดนี้" "ฉันเองจากพ่อหมอ ไอ้สิงห์" "อ้าว .. ! พ่อสิงห์มีใครเป็นกระไรรึ เอ็งถึงได้มาบ้านข้า" "พอดีพ่อฉันปวดท้องนะจ๊ะ"ไปสิงห์บดคำโต "ก็เลยอยากจะมาแวะขอเจียดยาพ่อหมอไปให้พ่อเสียหน่อย" "อ้าว..! งั้นพ่อก็ขึ้นมาบนเรือนเสียก่อนเถิด มานั่งข้างบนก่อนดื่มน้ำเย็นๆเดี๋ยวนางระย้าแก้วคงเอาน้ำขึ้นมา" สิ้นคำของพ่อหมอไทยไอ้สิงห์รีบจ้ำอ่าวขึ้นเรือนทันทีโดยไม่สนใจไอ้ดำเลย ไอ้ดำที่รู้สึกสงสัยว่าพ่อของไอ้สิงห์ปวดท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ "น้ำมาแล้วจ้าพี่พระพาย"ระย้าแก้วที่ไม่ได้ทันสังเกตว่ามีคนนั่งถัดไปอีกคน อะแฮ่ม อะแฮ่ม! เสียงไอ้สิงห์กระแอมกระไอ "ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไร หรือเอ็งก็ป่วยอีกคนนึง"พอหมอไทยรีบถามทันทีด้วยความเป็นห่วง "ฉันรู้สึกคอแห้งนิดหน่อยนะจ๊ะพ่อหมอ สงสัยอากาศมันเปลี่ยน"ไอ้สิงโป้ปดไม่หยุด ระย้าแก้วที่เห็นในสิงห์ก็แอบตกใจอยู่เล็กน้อยเพราะร้อยวันพันปีไอ้สิงห์ไม่เคยมาเหยียบเรือนของตนเลยแต่ไม่รู้เหตุใดวันนี้จึงมาได้ "น้ำจ๊ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วยื่นขันน้ำให้กับไอ้สิงห์โดยที่ไอ้สิงห์จ้องตาเขม็ง เพราะเห็นในระย้าแก้วนั่งใกล้กับพระพายแทบจะนั่งตักกันอยู่แล้วในสายตาของไอ้สิงห์ที่มองเห็น "พ่อจ๋า ข้าขอตัวพี่พระพาย เข้าไปที่สวนทางหลังบ้านได้ไหมจ๊ะ เดี๋ยวให้แตงไปเป็นเพื่อน"ระย้าแก้วเอ่ยปากขออนุญาตผู้เป็นบิดา "ไปสิ ข้าจะไปว่ากะไรเอ็งเล่า" "พี่พระพาย เราไปดูสวนดอกลั่นทมของเราเถิด ข้าดูแลรดน้ำพรวนดินมันเป็นอย่างดี ตอนนี้ออกดอกสวยมาก ข้าอยากให้พี่เห็นตอนที่มันกระทบแสงอาทิตย์"ระย้าแก้วพูดด้วยใจที่บริสุทธิ์แต่ไอ้สิงห์กลับมองว่าระย้าแก้วนั้น ทำตัวระริกระรี้จนเกินงาม "ไปสิ พี่ก็อยากจะดูว่าฝีมือของระย้าแก้วพัฒนาไปถึงไหนแล้วบ้าง"พระพายลุกพรวดขึ้นทันที แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาพ้นประตูเสียงไอ้สิงห์ก็ดังแทรกขึ้น "ขอข้าตามไปชมสวนของเอ็ง ได้ด้วยหรือไม่ระย้าแก้ว" ระย้าแก้วทำสีหน้าตกใจ ที่ได้ยินว่าไอ้สิงห์อยากจะชมสวนลั่นทมของหล่อน เพราะก่อนหน้านี้หล่อนได้พูดกับเขาจนปากเปียกปากแฉะ ว่าส่วนลั่นทมของหล่อนนั้นสวยงามมากเพียงใด แต่ไอ้สิงห์กลับบอกว่าหล่อนนั้นไร้สาระพูดจาไม่รู้ความ ไม่เคยสนใจหรืออยากจะมาเชยชมเลย "เอ็งก็พาไอ้สิงห์ไปด้วยสิลูก มันก็คงไม่มีกระไรเสียหายนักหรอกไปเถิด" พ่อหมอไทยที่รู้อยู่เต็มอก ว่าลูกสาวตัวนั้นมีใจให้ ไอ้สิงห์และก็รู้เสมอมาว่าไอ้สิงห์ก็พูดจาทำร้ายจิตใจลูกสาวตนไม่น้อย แต่เพราะผู้เป็นพ่ออย่างเขาต้องปล่อยให้ลูกได้เดินและเลือกทางเดินของตัวเอง "จ้ะพ่อ"ระย้าแก้วตอบรับผู้เป็นบิดา คนทั้งสามที่พากันเดินตรงไปหลังบ้านขอระย้าแก้วที่มองลอดกอไผ่ก็จะเห็นส่วนลั่นทมที่งดงามเป็น 10 ต้นพร้อมกับศาลานั่งรับลม บรรยากาศดูน่าสบายใจ และถูกประดับประดาแซมไปด้วยไม้ดอกอื่นๆเช่นมะลิและตรงศาลานั่งเล่นก็ถูกขุดลอก เป็นบ่อน้ำมีปลาแหวกไหว้ไปมา ไอ้ดำและนางแตงที่ติดตามผู้เป็นนายก็เดินอยู่ห่างๆด้วยความรู้สึกกระอักกะอ่วนและอึดอัดอยู่ภายในใจเพราะไม่เคยเห็นไอ้สิงห์ในสิ่งใดทำอะไรแบบนี้เลย "โอ้โห..!! ที่นี่สวยจริงๆ นี่ข้าไม่เคยรู้เลยนะเดินตรวจตามหมู่บ้านมาตั้งนานว่าจะมีที่ราวกับสรวงสวรรค์เช่นนี้"ไอ้ดำเอ่ยชมกับนางแตง "ใครๆเขาก็ว่าดอกลั่นทมไม่ควรปลูกเพียงเพราะชื่อของมันแต่ความจริงมันเป็นดอกไม้ที่สวยงามชนิดหนึ่งก็เท่านั้น นายข้าค่อนข้างจะรักดอกลั่นทมมาก"นางแตงก็หันไปตอบไอ้ดำ ไอ้สิงห์ที่รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่มันได้เห็นมันสวยดั่งที่ ระย้าแก้วเคยบอกมันเสมอและพยายามชวนมันให้มาเที่ยวชมสวนลั่นทมที่มันรักนักรักหนาแต่บัดนี้ไม่ได้มีแค่มันที่ได้เชยชมสวนลั่นทมนี้เสียแล้วเพราะยังมีพระพายผู้ที่ช่วยสร้างสวนลั่นทมนี้อีกคนเรือสำเภาแล่นผ่านหลายคุ้งน้ำ จนตัดเข้าแม่น้ำ ท่าจีนและใกล้ถึงตัวเมืองสุพรรณอีกไม่กี่เพลาแล้ว ระย้าแก้วจักได้เหยียบบ้าน ที่ตัวเองจากมานานแสนนานเหลือเกิน นางคิดถึงพ่อและแม่เป็นที่สุด "พี่แตงดูนี่สิ ภูเขาลูกใหญ่โตเชียว น้องคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดเลย"ระย้าแก้วพูดกับอีแตงด้วยรอยยิ้ม "บ่าวก็คิดถึงเรือนที่สุพรรณเป็นที่สุดเจ้าค่ะ" "แหม สองสาวพากันคิดถึงเรือนและมิคิดถึงพี่รือ พี่ก็อยากจักไปเที่ยวเมืองสุพรรณเช่นกันหนา"พิกุลที่เดินเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่สไบมาอย่างสวยงาม "โอ้โห...พี่พิกุลแต่งตัวสวยเช่นนี้ น้องจะต้องรีบไปผัดผ้าเปลี่ยนเสียที ประเดี๋ยวจักสวยน้อยกว่าพี่พิกุล" พูดจบระย้าแก้วจึงรีบไปหยิบสไบสีชมพูสวยสดงดงามที่ได้เตรียมเอาไว้ นางจะเปลี่ยนให้สวยที่สุดเพื่อให้บิดากับมารดาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวนาง "พี่แตงเข้ามาช่วยข้าผัดผ้าหน่อยเถิด ข้าติดสไบด้านหลังมิถึง"เสียระย้าแก้วดังมาจากในห้อง "เจ้าข้า บ่าวไปเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะคุณหนู" ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยาม สองสาวก็ออกมางามพร
"ข้าไหว้จ้ะพี่สิงห์ ข้าชื่อชบาอายุ 18 ปีแล้ว บ้านอยู่ทางคุ้งน้ำเหนือ แม่ของพี่ไปทาบทามข้ามาเพื่อดูตัวกับพี่ หากเราตกลงปลงใจกันได้ก็จะได้หาฤกษ์ยามเพื่อแต่งงานกันเจ้าค่ะ"ชบาเด็กสาวบ้านที่เลยคุ้งน้ำเหนือไปเป็นเด็กที่หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก "เจ้ากลับไปเสียเถิด ข้ามิต้องการการงานแต่งงานใดๆ ทั้งสิ้น ข้าต้องขอโทษเอ็งด้วย ที่ทำให้เอ็งเสียเวลา"ไอ้สิงห์บัดนี้กลายเป็นคนสุขุมลุ่มลึก แม้คำพูดคำจาจะน้อยคำ แต่มันก็ยังคงพูดบ้าง แต่ดูเหมือนแม่สาวชบาจะแก่นแก้วไม่น้อยเดินชม้อยชม้ายชายตา ให้ท่าไอ้สิงห์เต็มที่ไอ้สิงห์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรูปงามสาว ๆ สตรีนางใดก็หมายปองแถมยังมีฐานะที่ร่ำรวยมิแพ้ชายใด ไม่ว่าการตีรำฟันดาบไอ้สิงห์ก็ไม่เคยแพ้ผู้ใดแถมยังเป็นลูกหัวหน้าหมู่บ้านมีหรือ ว่านางชบาจะปล่อยไอ้สิงห์ไปง่าย ๆ "แต่ว่าข้าอยากเป็นเมียของพี่หนา ข้าถูกใจพี่มิใช่น้อย ส่วนแม่ของเราทั้งสอง ก็ต่างคนต่างก็ถูกใจเราทั้งคู่ เหตุใดพี่จึงมิมองข้าเล่า ข้าจักทำให้พี่มีความสุข" เด็กชบาที่ดูแก่นแก้ว และแก่แดดเกินวัยเสียเหลือเกินยิ่งทำให้ไอ้สิงห์รู้สึกรังเกียจขึ
เช้าวันถัดมาเป็นวันที่ระย้าแก้ว มาหาแม่พิกุลที่เรือนเพื่อเตรียมตัวช่วยแม่พิกุล ในการออกเดินทางไปเที่ยวเมืองสุพรรณ กับตนเองและพระพราย"พี่พิกุลเจ้าขา ดูชุดที่น้องเตรียมให้พี่พิกุลสิเจ้าคะน้องเลือกเองกับมือเลยหนา สไบสีชมพูห่มกับผ้าสีน้ำตาลรากไม้ สวยงามยิ่งนักเจ้าค่ะ" ระย้าแก้วบอกกับแม่พิกุลพี่สาวสุดที่รักของตน"แม่ระย้าแก้วเป็นคนช่างเลือก พิถีพิถันเสียจริงหนาสวยสมกับที่แม่เลือกให้กับพี่""คุณที่เจ้าขา น้องเตรียมชุดสำหรับปลอมเป็นชายเอาไว้ให้เราได้ใส่เดินทาง ตอนไปสุพรรณบุรีด้วยเจ้าคะเดี๋ยวไปถึงสุพรรณ น้องจะพาคุณพี่ไปเดินชมตลาดให้ทั่วเลยเจ้าคะ""แต่น้องมิรู้ว่า ที่ตลาดจักมีอันใดเปลี่ยนไปมากเพียงใด เพราะน้องเองก็จากบ้านมาก็สี่ปีกว่าแล้ว"ระย้าแก้วพูดเป็นต่อยหอย แม่พิกุลถึงเอ็นดูระย้าแก้วเป็นนักหนา"อีแตงแล้วมึงเล่า เลือกชุดอันใดสีอันใดที่จะใส่เดินทาง"แม่พิกุลหันไปถามบ่าวคนสนิทของน้องสาวสุดที่รัก"บ่าวใส่สีอันใดก็ได้เจ้าค่ะ แล้วแต่คุณหนูระย้าแก้วจักเลือกให้บ่าวเลยเจ้าค่ะ""แหมมึงเนี่ย ตามใจนายเสียเหลือเกินหนา พี่ล่ะ
ระย้าแก้วที่มีแผนจะต้องกลับไปเยี่ยมพ่อและแม่ที่เมืองสุพรรณ จึงได้พูดคุยกับพระพรายและพิกุลรอบนี้พระพรายจะเดินทางมากับระย้าแก้วและแม่พิกุลจะตามมาเที่ยวที่เมืองสุพรรณด้วย "พี่พระพรายเจ้าขา อีกสัก 2-3 เพลาหากพี่ภูผาดีขึ้น น้องจักต้องออกเดินทาง กลับสุพรรณเสียทีหนาเจ้าคะ น้องก็จากบ้านมาหลายปี ป่านนี้มิรู้พ่อและแม่ลืมหน้าลูกสาวเช่นข้าแล้วหรือยังระยาแก้วทำพูดทีเล่นทีจริงกับพระพราย "ผู้ใดจักกล้าลืมหน้าแม่บุษบาแห่ง เมืองสุพรรณได้เล่า บัดนี้โตเป็นสาวเต็มตัวสวยสะพรั่งยิ่งกว่าอัปสราเสียอีก" "หากน้องสวยถึงเพียงนั้น ป่านนี้น้องคงมีคู่หมายแล้วแหละเจ้าค่ะ ไม่อยู่ไร้คู่อยู่เป็นเพื่อนพี่แตงเหมือนทุกวันนี้ดอก"ระย้าแก้วถึงกับหัวเราะคิกคัก "เจ้าแน่ใจรือ พี่เห็นตัวเจ้านั้นหัวกระไดมิแห้งเลยหนา ผู้ไข้แต่ละคนมาบางคนก็มิได้ไข้ แต่กลับมาจีบเจ้ามากกว่า พี่เห็นขนมจีบเต็มโรงหมอเลย" "แหม ไปแอบดูน้องทำงานมาหรือเจ้าคะ รืออยากจักมาตรวจผู้ไข้เป็นเพื่อนน้องดีล่ะเจ้าคะ" "เอาเถอะพี่ไม่เถียงเจ้าแล้ว เถียงไปพี่ก็ไม่เคยชนะเจ้าดอกแม่ระย้าแก้ว "แล้วนี่น้องจะออกเดินทางเมื่อใด พี่จักได้ไปเป็นเพื่อนน้อง แลแม่พิกุลก็จะเดินทาง
"แม่ระย้าแก้ว เจ้าเอาผู้ใดมาที่เรือนหนา น้องจักเอาผู้ไข้ทุกคน มาอยู่ที่เรือนมิได้"พระพรายหันไปเอ็ดน้องสาวคนสวย ที่ไม่ว่าผู้ไข้จะเป็นผู้ใดนางก็มักจะหิ้วเอากลับมาที่เรือนอยู่เป็นประจำ"โถ่..คุณพี่เจ้าขา พ่อภูผานั้นไม่มีที่ไปไร้ญาติขาดมิตรจักให้น้องทำเยี่ยงไรเล่าเจ้าคะ"ระย้าแก้วไปกอดแขนกอดขาผู้เป็นพี่ชายสุดที่รัก"เจ้ามิต้องมาทำหน้า ทำตาออดอ้อนออเซาะพี่ดอกคอยดูเถิด หากกลับเมืองสุพรรณ พี่จักไปฟ้องคุณลุงคุณป้า ว่าเจ้าเอาแต่ทำงานทำการเป็นว่าเล่น แลยังพาผู้ไข้มากหน้าหลายตา เข้ามาเต็มเรือนไปเสียหมด" พระพรายหันไปทำท่าทางขู่น้องสาว"พี่พระพรายสุดที่รักของน้อง หากพี่มิเมตตา น้องจะทำเช่นไรเล่าเจ้าค่ะ ดูสิผู้ไข้เดินก็แทบจะมิได้อยู่แล้ว ข้าหามลงเขามาถือว่าทำบุญใหญ่เถิดหนา"ระย้าแก้วทำน้ำเสียงออดอ้อนออเซาะอย่างสุดฤทธิ์"ก็ได้ ก็ได้แล้วแต่เจ้าเถิด พี่เคยขัดใจเจ้าได้รือ แต่หากมันหายดี น้องจักต้องให้มันไปอยู่ที่อื่นหนา" พระพรายกลับหันมายื่นข้อเสนอให้กับระย้าแก้วไอ้ภูผาที่ได้ยินเช่นนั้นจึงได้ยกมือไหว้พระพรายพร้อมกับพูดสิ่งที่ตนอยากจะบอก"ท่านพระพายขอรับ ข้านี้เป็นคนชัยนาทมีบ้านหลังนึงมิใหญ่โต
ระย้าแก้วที่เห็นอาการของภูผา ในเช้าวันถัดมาดีขึ้นเป็นกองแล้ว เริ่มขยับร่างกายได้นิดหน่อย จึงได้วางแผนจะผู้ติดตามคนใหม่เขา เพราะหากอยู่นานกว่านี้ ยาที่มีในย่ามก็จะหมด และอาจทำให้ภูผาอาการทรุดหนักได้"พี่ภูผาข้าขอเรียกพี่ว่าพี่ เถอะหากด้วยพี่อายุมากกว่าข้าหลายปีโข"ระย้าแก้วให้ความเคารพกับทุกคนทุกชนชั้น"ขอบน้ำใจที่ แม่เคารพพี่"ภูผาลุกขึ้นนั่งให้ระย้าแก้วเปลี่ยนผ้าพันแผล สายตาก็จ้องมองใบหน้าสวยมิวางตา"วันนี้พี่จักเดินลงเขากับข้าไหวรือไม่ หากใกล้ทางมิชันมาก ข้าจักให้บ่าวไพร่ผู้ชาย หามพี่ลงจากเขาหนาแผลจะได้มิฉีก""มิต้องห่วงพี่ดอกแม่ระย้าแก้ว พี่จักมิเป็นภาระให้กับแม่เป็นแน่แท้"ไอ้ภูผาพยายามอดกลั้นและเข้มแข็งเพื่อให้ระย้าแก้วได้ลงเขาได้ทันเวลาก่อนพลบค่ำ"หากพี่มิไหว พี่มิต้องฝืนร่างกายดอกหนา เดี๋ยวมันจะบวมช้ำอีกครา ข้ามิอยากนั่งเฝ้าไข้พี่อีกดอก" ระย้าแก้วแสร้งพูดแล้วหัวเราะ"ข้าสัญญา หากข้ามิไหว ข้าจักบอกเอ็งเป็นคนแรกแลมิทำตัวให้เอ็งจักต้องเป็นห่วงหน้าพะวงหลังเป็นอันขาด""ถ้าพี่รับปากข้าเช่นนี้ อีกครึ่งชั่วยามเราเก็บของเ