โชคชะตา ในชีวิตคนเราล้วนแตกต่าง เฉกเช่นลายเส้นบนมือ ที่วาดไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย ถึงแม้จะเป็นสายเลือดเดียวกันตั้งแต่วันนั้น ครอบครัวแสนอบอุ่นได้ออกเดินทางไกล ทิ้งความหวังทั้งหมดไว้ที่เด็กสาวอายุเพียงไม่กี่ปี ใครกันช่างใจร้ายเหลือเกินเมื่อสังคมบีบคั้น เด็กสาวที่ชื่อจันทร์เสี้ยว ต้องกลายเป็นจันทร์เสี้ยวผู้ที่แม้แต่เสียใจก็ร้องไห้ไม่ได้...ถึงอยากจะร้องก็ตาม...ร่างบางในชุดไทยสีชมพูอ่อนปักดิ้นทองทั้งตัว วันนี้จันทร์เสี้ยวสวยราวกับนางอัปสรเดินดินแต่ดวงตากลับว่างเปล่าราวไร้ชีวิต แทนที่นิ้วของเธอจะมีแหวนถูกสวมโดยเจ้าบ่าว แต่เปล่าเลยมีเพียงกุญแจมือจากชายผู้เป็นตำรวจจับเธอข้อหาเป็นฆาตกรฆ่าชายคนที่เธอไม่เคยพบเลยสักครั้งสองเท้าก้าวตามเจ้าหน้าที่ด้วยความหนักอึ้งไปทั้งกายใจ "ผมขอดูหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเธอคือคนฆ่าครับ"เสียงเข้มแน่นคุ้นหูดังขึ้น เขากลับมาแล้วสัมผัสจากมือหนาที่วางบนไหล่มน ดึงร่างบางไม่ยอมปล่อยให้เดินได้อีกแม้เพียงก้าว จันทร์เสี้ยวชะงักเล็กน้อย จู่ ๆ ความเข้มแข็งที่เคยมีมันพังคลื่น น้ำใส ๆ ซึมออกจากตาทั้งที่พยายามกลั้นสุดฤทธิ์"คุณมาแล้วเหรอคะ คุณกำลังโดนหลอก เธอเป็นเด็กขายตัวในเรื
ในวันพรุ่งนี้เขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อจันทร์เสี้ยวเด็กสาวบ้านนอก ไม่สวยปานนางฟ้า แต่หากครั้งใดขาดเธอทิวสนรู้สึกเงียบเหงาเดียวดาย แต่คำว่ารักไม่อาจเอื้อนเอ่ย และไม่มีวันออกจากปากของผู้ชายที่ชื่อทิวสนเด็ดขาด เพราะมันได้ทำร้ายหัวใจของเขา...จนไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยได้อีกสายตาคมมองร่างบางนอนหลับบนเตียงผู้ป่วย ลิลกินยานอนหลับเกินขนาด ในคืนที่เขากำลังจะแต่งงาน ทั้งที่ความรักทั้งหมดแม้แต่ชีวิตที่เขามีได้ทุ่มเทให้เธอไปก่อนหน้าในฐานะภรรยา แต่เป็นเธอเองลิลที่เป็นคนเหยียบย่ำมัน พอในวันที่ทิวสนจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เธอกลับทำตัวเรียกร้องความเห็นใจจากเขาหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า..เสียงมือถือดังขึ้นบนโต๊ะทำงาน ทิวสนละสายตาที่กำลังจ้องอ่านเอกสารในมือ หันมาสนใจเสียงที่กำลังดัง หน้าจอปรากฏชื่อของเธอ อดีตภรรยาลิล เขาไม่รับ พร้อมคว่ำหน้าจอไม่ให้แสงมันเข้าตา แต่ทว่าปลายสายไม่โทรกลับมาอีก มีเพียงเสียงไลน์แจ้งเตือนข้อความเข้าหนึ่งครั้ง มันได้สร้างความแปลกใจไม่น้อย เพราะลิลคือเจ้าแม่ที่เอาแต่ใจไม่มีทางที่เธอจะโทรมาเพียงสายเดียวแล้ววางเขาจึงเปิดอ่านข้อความ เป็นวิดีโอมือหนาสัมผัสให้มันเล่นเป
ภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ จันทร์เสี้ยวกำลังใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดใบหน้าให้พระจันทร์อย่างเบามือ สายตาของเธอจ้องมองร่างน้องสาวราวกับกลัวว่าน้องจะมลายหายไปได้ ส่วนทิวสนโทรสั่งให้กิตติเตรียมแฟ้มเอกสารที่ต้องเซ็นมาให้เขา และตั้งแต่ได้เอกสารกองโตมาเขาก็เปิดโน๊ตบุ๊ค ตั้งหน้าตั้งตาทำงานราวกับว่าตนเองเป็นธาตุอากาศ ไร้เสียงพูดคุยมีเพียงเสียงกระดาษเปิดไปปามาดังเบา ๆ หลังจากจัดการเช็ดตัวน้องเสร็จเธอจึงรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดที่เขาสั่งกิตติไปซื้อมาให้ เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งกับกางเกงขายาวที่ความยาวของมันมากกว่าความสูงของเธอ จนชายผ้าไปกองอยู่ที่ข้อเท้าร่างบางในชุดยักษ์เดินออกมา จากห้องน้ำ ทำเอาสายตาคมของทิวสนที่ไม่ได้ตั้งใจมองในขณะดื่มน้ำแทบสำลักน้ำในปากใบหน้าหน้าหล่อเหล่าพร้อมสายตาคมจ้องเธออยู่ครู่ใหญ่ รอยยิ้มจึงค่อย ๆ ผุดออกมา เขารู้สึกภูมิใจในตัวกิตติมากที่ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ชุดที่เขาสั่งมาให้เธอ คือมิดชิด "คุณยิ้มอะไรคะ หรือว่าจันทร์หยิบผิด แต่ไม่น่าจะผิดเสื้อผ้าคุณมีแต่สีทะมึน"มือบางเปิดดูถุงอีกสี่ห้าใบ ของเขามีแต่สีทึบ ส่วนของเธอก็สีหวานสดใส แต่ทุกตัวล้วนแต่เป็นชุดโอเวอร์ไซซ์ทั
ทิวสนเข้าไปนั่งในรถมองกระจกหลังที่สะท้อนภาพ จันทร์เสี้ยวถึงแม้เธอนั่งในร่มแต่ลมพัดเอาละอองฝนกระทบร่างบาง จันทร์เสี้ยวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความหนาวเย็นของลมพายุ แล้วยังโดนฝนสาดอีก ดวงตาหวานมองผ่านม่านน้ำฝนออกไปยังคงเห็นรถของเขาจอดอยู่ คนใจร้าย...ทันใดนั้นรถหรูคันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปทันที น้ำที่ตาเอ่อล้นออกมา จันทร์เสี้ยวยิ้มให้กับตัวเองสมเพชที่คิดว่าเขามีใจให้เธอสักนิดทันใดนั้น...รถคันสีดำ มาจอดตรงป้ายรถประจำทาง ประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออกพร้อมกับเขาชายถือร่มเดินลงมาท่ามกลางพายุ "หนาวแย่เลย ให้ผมไปส่งบ้านนะครับ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสุภาพ"ขอบคุณคุณชีวินมากเลยค่ะ แต่จันทร์เสี้ยวเกรงใจค่ะ"เสียงหวานเอ่ยขอบคุณในน้ำใจที่เขามีต่อเธอ แต่คนที่กำลังจะแต่งงานไหนเลยจะกล้าขึ้นรถไปกับชายอื่นเพียงลำพัง"ไม่ต้องเกรงใจหรอกถือซะว่า เพื่อนไปส่ง อีกอย่างคุณตากฝนนานขนาดนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ" "ถ้าอย่างนั้นจันทร์รบกวนด้วยนะคะ" ชีวินเป็นสุภาพบุรุษทั้งคำพูดและการวางตัว เขาเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับให้จันทร์เสี้ยวนั่งเรียบร้อยพร้อมปิดประตูรถให้อย่างเบามือ ก่อนตนเองเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ทุกการกระทำขอ
เสียงหวานดังกล้องสะท้อน เงาทั้งคู่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ลมหายใจเหนื่อยหอบราวกับวิ่งระยะไกล เหงื่อผุดบนเรือนร่างเปลือยเปล่าทั้งเธอและเขา บทเพลงท่วงทำนองเคล้าคลอจบลง "คุณไม่ได้ใส่....ทำไมถึงปล่อย...." "อีก 5 วันเธอต้องเป็นเมียฉัน" "ของพันธุ์นั้นยังต้องใช้อีกเหรอ" "ฉันไม่ได้พกยามาด้วย" "ห้ามกินนะ มันอันตราย" เขาห่วงฉันเหรอเนี่ย "ขอบคุณที่ห่วงจันทร์นะคะ" ไร้เสียงตอบกลับจากเขา จันทร์เสี้ยวจึงเลิกสนใจเพราะพูดไปเสียอย่างไรก็ไร้ความหมายกับคนที่พูดน้อยแต่ดื้อเช่นเขา จากเหตุการณ์เมื่อครู่เธอรู้สึกเหนี่ยวเหนอะหนะจึงผละตัวไปอาบน้ำ เสียงเปิดฝักบัวน้ำปล่อยน้ำเย็นไหลผ่านร่างเปลือยเปล่า ดึงดูดให้สายตาคมของเขาเจ้าแห่งป่า มองร่างหญิงตรงหน้าแทบอยากจะกลืนเธอลงท้องไป และยิ่งเธอขยับตัวถูไถตามร่างกายสร้างความเย้ายวนในใจไม่น้อย และมันได้ปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่พึ่งมอดไหม้ไปเพียงไม่กีนาทีให้ลุกโชนอีกครั้ง เขาเดินตรงเข้าหาร่างอรชรทางด้านหลังใช้สายตามองราวกับไม่เคยเห็นใช้นิ้วไล้แตะเคล้าคลึงเนินมนพร้อมกับกดจมูกไซ้คอเรียว จันทร์เสี้ยวสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดต้นคอเธอ ทำได้เพียงหลับตาพริ้มเผย
“แต่งสายฟ้าแลบเหรอ? ผู้หญิงอย่างจันทร์เสี้ยวเนี่ยนะ?” เสียงนินทาแว่วมาตามลมปนกลิ่นเหงื่อแดดบ่ายของตลาดบ้านนา เธอไม่ได้ใส่ใจมานานแล้ว แต่คราวนี้มันเกินทน “ยายมันขายหลานให้เศรษฐีไง ถึงได้อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้” “นั่นสิ เศรษฐีที่ไหนจะเอาเด็กกระโปโลไปทำเมีย ถ้าไม่ใช่เมียน้อย” “ฉันว่ายายคงปล่อยให้ท้องก่อนนั่นแหละ ถึงได้กล้าประกาศแต่งงาน! “แหม...เชื้อมันแรงนะ ยายดวงแขนั่นก็แย่งผัวเขามาเหมือนกัน” “ใช่ ได้ข่าวว่าเมียเก่าได้ก่อน ยายดวงแขแต่งทีหลังอีก!” เสียงหัวเราะแหลมคมประสานกันราวมีดข่วนกระจก จันทร์เสี้ยวเดินผ่านเงียบ ๆ ไม่เคยโต้ตอบ จนกระทั่ง... ผัวะ! เสียงฝ่ามือปะทะแก้มดังลั่น หัวผู้หญิงคนนั้นหันตามแรงตบก่อนชะงักด้วยความตกใจ “อีจันทร์ มึงกล้าตบกูเหรอ!” “ใช่ ถ้ายังไม่หุบปากเน่า ๆ พวกพี่นั่นแหละ” “อีจันทร! มึง...” เสียงกร้าวหักหาญ กลายเป็นตะปบรวมจากฝูงหญิงที่เคยนินทา จับแขนจันทร์เสี้ยวไว้แน่น ราวฝูงหมาเห็นเหยื่ออ่อนแรง ผัวะ! ตบสวนกลับมา หน้าของเธอสะบัดตามแรง แต่ก่อนอีกฝ่ายจะได้สะใจ ปึก! เธอถีบสวนกลางท้อง ทำให้ร่างนั้นเซล้มไป “ได้ผัวรวยหน่อย กล้าหือเห