หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว และเดินเข้าไปจับเธอไว้: “แม่ มาตะโกนอะไรตรงนี้?”จางกุ้ยหลานพูดอย่างลุกลี้ลุกลน: “ไอหยา ลูกไปไหนมาเนี่ย แม่โทรหาลูกทำไมถึงไม่รับสาย?”หลี่ฮุ่ยหรานตอบอย่างจนใจ: “หนูกำลังประชุมอยู่”“โอ๊ย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“เกิดเรื่องอะไรใหญ่โตขึ้น?” หลี่ฮุ่ยหรานนิ่งเฉยไม่ได้ตกตะลึงนิสัยตื่นตูมของแม่ตัวเองเธอเคยชินตั้งนานแล้ว“แน่นอนว่าเป็นเรื่องน้องชายลูก ไม่อย่างนั้นแม่จะร้อนใจขนาดนี้เหรอ?” จางกุ้ยหลานพูดอย่างร้อนรน“เหวินเชาทำไมอีก?” หลี่ฮุ่ยหรานตื่นตระหนกกลัวว่าน้องชายของตัวเองจะสร้างเรื่องอะไรให้เธอจางกุ้ยหลานพูดอธิบาย: “เมื่อคืนน้องชายลูกไปร้านเหล้า วันนี้เช้าไม่รู้ทำไมถึงมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่นขึ้นมา”หลี่ฮุ่ยหรานสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองมือกำแน่น น้องชายของเธอคนนี้ทำตัวดี ๆ ให้เธอหน่อยไม่ได้เหรอ?“รู้ไหมว่าใครเป็นคนตี?”“ไม่รู้ เหมือนว่าเป็นผู้หญิงบริการคนหนึ่ง”จางกุ้ยหลานพูดเร่งรัด: “โอ๊ย ลูกไม่ต้องถามแล้ว น้องชายของลูกถูกพวกเขาจับตัวเอาไว้แล้ว”“ลูกรีบไปช่วยคนเถอะ”“หนูต้องถามอยู่แล้วสิ อย่างน้อยต้องรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เป็นถิ่นของใคร”หลี่ฮุ่ยหรานกัดฟันพ
หญิงสาวพูดจบก็เปิดกล้องวงจรออกมาทุกคนเห็นหลี่เหวินเชาหลังจากดื่มเหล้าเข้าไป ก็เริ่มเมาอาละวาด และลงไม้ลงมือกับพนักงานเสิร์ฟของบาร์เมื่อถูกเธอผลักออกเขากลับมีสีหน้าเหยียดหยาม เอะอะโวยวายว่าตระกูลหลี่สุดยอดมากแค่ไหน…หลี่ฮุ่ยหรานดูกล้องวงจรเสร็จก็รู้สึกหมดคำพูดหลี่ฮุ่ยหรานถลึงตาใส่น้องชายที่สอนไม่จำจางกุ้ยหลานกลับไม่คิดแบบนี้เธอมือเท้าเอวตะโกนขึ้น: “ต่อให้ลูกชายของฉันทำอะไรกับเธอ นั่นเป็นเรื่องของลูกชายฉันกับพนักงานคนนั้น”“เกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ?”ในตอนนี้หญิงสาวลุกขึ้นช้า ๆ แล้วพูดขึ้น: “ฉันคือเถ้าแก่เนี้ยของบาร์เยว่หลาย พนักงานของฉันเกิดเรื่องขึ้น ต้องเป็นความรับผิดชอบของฉันอยู่แล้ว”คนคนนี้ก็คือพี่หงเถ้าแก่เนี้ยของบาร์เยว่หลาย“เอาล่ะ”ในตอนนี้หลี่ฮุ่ยหรานยืนออกมาแล้วพูดขึ้น: “เรื่องนี้น้องชายของฉันเป็นฝ่ายผิด”“ฉันอยู่ตรงนี้ต้องขอโทษด้วยค่ะ พวกคุณจะทำอย่างไร? พูดมาเถอะค่ะ เพียงแค่ข้อเสนอสมเหตุสมผล พวกเรารับได้หมด”“ฮุ่ยหลาน ลูกทำอะไรน่ะ?”จางกุ้ยหลานสีหน้าไม่พอใจก็แค่พนักงานคนหนึ่ง ลูกชายของตัวเองชอบเธอถือว่าเป็นบุญของเธอต่อให้เธออยากเป็นลูกสะใภ้ของตัวเอง ตัวเอ
ในตอนนี้หลี่ฮุ่ยหรานไม่รู้จะทำอย่างไรหลี่เหวินเชาดึงแขนของพี่สาวของเขา แล้วรีบพูดขึ้น “พี่รีบคิดหาวิธีสิ!”หลี่ฮุ่ยหรานโมโหจนแทบจะตาย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาก่อเรื่องที่นี่ จะเกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ไหม?“หึหึ ก็แค่เว่ยป้าวนับประสาอะไรกัน?”ในตอนนี้เสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหันคนที่พูดจาก็คือสวีเชาทุกคนที่ได้ยินคำพูดนี้ต่างตกตะลึงกันอย่างมาก ใครกันที่ใจกล้าถึงขนาดนี้ ถึงได้ไม่เห็นท่านป้าวอยู่ในสายตา?สวีเชาเดินไปข้างหน้าทั้งสามคนจางกุ้ยหลานดวงตาเป็นประกาย เหมือนกับมองเห็นผู้ช่วยชีวิตพี่หงจ้องมองชายชุดสูทที่อยู่ตรงหน้าด้วยความแปลกใจ จากนั้นถามขึ้นด้วยความสงสัย: “คุณเป็นใคร?”เธอสังเกตุดูคนคนนี้มีออร่าที่ไม่ธรรมดา คำพูดคำจามีความมั่นใจอย่างมาก หรือว่ามีความสามารถที่จะไม่เห็นท่านป้าวอยู่ในสายตาได้?“สวีเชา บริษัทเทียนฉี่”สวีเชา?พี่หงชะงักงัน สวีเชาคนนี้เธอไม่ได้รู้จักเป็นอย่างดีแต่บริษัทเทียนฉี่เธอเคยได้ยินมาบ้างได้ยินว่าเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตั้งหลักอย่างมั่นคงในเจียงโจว และเบื้องหลังเหมือนว่าจะมีคุณหนูตระกูลเซี่ยงคอยสนับสนุนอยู่บุคคลประเภทนี้ไม่ใช่ว่าเธอที่เป็น
พี่หงรีบเดินไปด้านข้างเว่ยป้าวเว่ยป้าวโอบเอวอันอ่อนช้อยของพี่หงไว้ทันทีจางกุ้ยหลานเห็นคนกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ ก็ตกใจกลัวจนไม่กล้าส่งเสียงออกมาจากนั้นก็มองไปทางสวีเชาด้วยความระมัดระวัง ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถจัดการได้หรือไม่“เมื่อกี้ใครใช้ให้ผู้หญิงของฉันขอโทษมัน?” เว่ยป้าวตะโกนอย่างโมโห“ฉัน” สวีเชายืดอก และไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่นิดสายตาของเว่ยป้าวมองไปที่ตัวสวีเชาในทันทีในตอนนี้พี่หงพูดขึ้นเสียงเบา: “คนคนนี้คือสวีเชาเจ้าของบริษัทเทียนฉี่”เว่ยป้าวหรี่ตาลงเล็กน้อย: “ที่แท้นายก็คือสวีเชา”เมื่อเห็นสายตาดุดันของเว่ยป้าว ในใจของสวีเชาก็ได้เกิดความประหม่าอย่างอดไม่ได้แผ่นหลังก็มีเหงื่อเย็นซึมออกมา และเป็นกังวลอย่างมากแต่เขาก็ยังฝืนเดินเข้าไปเขาเค้นรอยยิ้มบางออกมาแล้วพูดขึ้น: “ท่านป้าวใช่ไหม? วันนี้ผมก็ไม่ได้มีข้อเสนอพิเศษอะไร เพียงแค่แฟนของคุณขอโทษเหวินเชาก็พอแล้ว”“เรื่องนี้ ผมก็ไม่ติดใจเอาความแล้ว”เขาเพิ่งพูดจบเว่ยป้าวก็ยกมือขึ้นฟาดใบหน้าของเขาเสียงดัง “เพียะ” ก้องกังวานไปทั้งบาร์เยว่หลาย“โอ๊ย…” สวีเชาถูกตบจนหน้าตางุนงง และวิงเวียนศีรษะ“อ๊ะ…นี่…”หลี่ฮุ่ยหราน
เว่ยป้าวออกคำสั่ง: “กระทืบแขนขาของไอ้หมอนี่ให้หักซะ”หลี่ฮุ่ยหรานเห็นแบบนี้ก็กัดฟัน และรีบเข้าไปขวางตรงหน้าน้องชายของตัวเองแล้วพูดขึ้น: “ท่านป้าว พวกเราชดใช้เงิน ชดใช้เงินคงจะได้ใช่ไหม?”ตอนนี้ใช้เหตุผลคงจะไม่ได้ผลแล้ว เธอทำได้แค่เลือกเสียทรัพย์เพื่อเลี่ยงภัยพิบัติพี่หงพูดถากถาง: “เมื่อครู่ฉันให้พวกเธอชดใช้เงินพวกเธอไม่ชดใช้ ตอนนี้กลัวแล้วเหรอ? ถ้ารู้แต่แรกก็คงไม่ทำสินะ?”หลี่ฮุ่ยหรานฝืนพูดขึ้นมา: “ประเด็นคือตอนนี้ในมือของฉันไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น ฉันผ่อนจ่ายได้ไหม?”เงินของตัวเองลงทุนไปกับโครงการของซีเฉิงหมดแล้วในมือไม่มีเงินเหลือแล้วจริง ๆเว่ยป้าวหันหน้ามองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน: “เธอจะออกเงินกู้เหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบพูดอธิบาย: “แค่แบ่งจ่าย ไม่ได้ค้างชำระ เงินพวกเราจะชดใช้ให้แน่นอน”“น้องชายของฉันก็จะขอโทษพวกคุณ ทุกคนเปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นมิตรภาพจะดีกว่า พวกคุณคิดว่าอย่างไรคะ?”“เปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นมิตรภาพ?”เว่ยป้าวส่งเสียงไม่พอใจ: “เธอพูดได้ง่ายดายซะจริง วันนี้ถ้าเธอไม่มีปัญญาชดใช้เงิน พวกเธอทั้งครอบครัวก็อย่าได้คิดจะกลับไป”เว่ยป้าวพูดจบก็จับคอเสื้อของหลี่ฮุ่ยหรานเ
เว่ยป้าวถูกเตะจนเลือดออกที่มุมปาก ในใจกลับไม่ลนลานเลยสักนิด: “ไอ้หนุ่ม วันนี้แกตายแน่ ลูกน้องของฉันมีเป็นหลายร้อยคน”“ต่อให้แกฆ่าฉัน แกก็ออกไปไม่ได้” หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “เรื่องอื่นฉันไม่กล้ารับปาก แต่นายต้องตายอยู่ตรงหน้าฉันแน่นอน”เว่ยป้าวทนดูท่าทางกำเริบเสิบสานแบบนี้ของเขาไม่ได้จริง ๆ: “แม่ง แกกล้าแตะต้องฉันดูสิ”“ไม่กลัวที่จะบอกแกว่า เบื้องหลังฉันก็คือสำนักเทียนเตา แกเคยได้ยินไหม?”มาเฟียอย่างพวกเขา ไม่พึ่งพาการทำธุรกิจเพื่อล้างมลทินก็รับใช้ตระกูลหรือผู้มีกำลังอำนาจหลัวเฟยหู่พึ่งพาตระกูลเฉินเมืองจงโจว ส่วนเว่ยป้าวก็พึ่งพาสำนักเทียนเตาเมืองเจียงโจวมีการคุ้มครองจากสำนักใหญ่โต ถึงได้ทำให้เว่ยป้าวกำเริบเสิบสานแบบนี้“สำนักเทียนเตา?” จางกุ้ยหลานกับหลี่ฮุ่ยหรานสีหน้างุนงงปกติพวกเธอไม่รู้จักกองกำลังของเจียงโจวด้วยซ้ำ เพียงแค่เคยได้ยินชื่อสำนักเทียนเตา แต่กลับไม่รู้ถึงความน่าหวาดกลัวของสำนักเทียนเตามีเพียงสวีเชาที่มีสีหน้าตกตะลึงไม่แปลกใจที่เว่ยป้าวไม่กลัวตระกูลเซี่ยงด้วยซ้ำ ที่แท้เบื้องหลังก็มีการคุ้มครองจากสำนักเทียนเตา“หลินเฟิง นายรีบปล่อยท่านป้าวซะ”เขาตะโกนขึ้
เพียงแค่หลินเฟิงปล่อยเขา ลูกน้องเยอะแยะขนาดนี้คิดว่าเขาจะทำไม่สำเร็จเหรอ?”เมื่อได้ยินแบบนี้ จางกุ้ยหลานรีบถอนหายใจยาว ๆ: “หลินเฟิง นายได้ยินแล้วยัง นายยังไม่รีบปล่อยท่านป้าว แล้วหักแขนตัวเองอีก”“คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผม?” หลินเฟิงถลึงตาใส่จางกุ้ยหลานอย่างดูถูกจางกุ้ยหลานตะโกนด่าทอ: “ไอ้สกุลหลิน สามปีมานี้แกอยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลหลี่ของพวกเรา เห็นได้ชัดว่าแกช่วยฮุ่ยหรานได้แต่กลับไม่ช่วย แขนข้างเดียวของแกสำคัญกว่าชีวิตของฮุ่ยหานอีกเหรอ?”หลินเฟิงพูดอย่างไม่พอใจ: “พูดว่าคุณโง่ คุณก็ยังไม่เชื่อ ถ้าหากผมปล่อยเขาไปตอนนี้ พวกคุณก็จะต้องตาย”เว่ยป้าวรีบพูดขึ้นทันที: “ฉันเว่ยป้าวสาบานเลยว่า วันนี้เพียงแค่นายหักแขนตัวเอง ฉันไม่มีทางเรียกหาความรับผิดชอบจากใครทั้งนั้น”“ตั้งแต่นี้ไปต่างคนต่างอยู่ไม่ล้ำเส้นกัน”สวีเชาถลึงตาแล้วพูดขึ้น: “ได้ยินแล้วยัง? ท่านป้าวสาบานแล้ว คนของสังคมให้ความสำคัญกับสัจจะมากที่สุด นายรีบหักแขนตัวเองซะ”“ไอ้สกุลหลิน แกหูหนวกหรือไง?”หลี่เหวินเชาเห็นเขาไม่ขยับเขยื้อน จึงพูดด้วยความโมโห: “ตอนที่แกแต่งงานกับพี่สาวของฉันรับปากกับคุณปู่ของฉันว่าอย่างไร?”“ยังจะพูดว
เมื่อเห็นซ่งเฉียนเฉิง พวกลูกน้องรีบหลีกทางให้เขาจางกุ้ยหลานและคนอื่น ๆ จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยคนคนนี้ก็คือคนของสำนักเทียนเตา?ซ่งเฉียนเฉิงเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นหลินเฟิงที่ถูกกลุ่มคนล้อมไว้ จึงรู้สึกไม่ดีในทันทีเขามองไปทางเว่ยป้าวทันที: “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”เว่ยป้าวรีบพูดอธิบาย: “คุณซ่ง มีคนที่ไม่ดูตาม้าตาเรือมาก่อเรื่องที่นี่ คุณรอสักครู่นะครับ”“ผมจัดการไอ้หมอนี่ก่อน”ซ่งเฉียนเฉิงได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว ยังไม่รอให้เว่ยป้าวตอบสนอง เขาก็ยกมือขึ้นตบหน้าของเว่ยป้าว“อ้าก…”เว่ยป้าวร้องโอดครวญ คนทั้งคนล้มลงไปบนพื้นโดยตรงจากนั้นมองไปทางซ่งเฉียนเฉิงด้วยความงุนงง“คุณซ่ง คุณตบผมทำไมครับ?”ซ่งเฉียนเฉิงพูดด้วยความโมโห: “หุบปาก คุณหลินเป็นคนที่นายแตะต้องได้เหรอ?”เว่ยป้าวหัวใจกระตุกและรู้สึกถึงความผิดปกติซ่งเฉียนเฉิงเรียกไอ้หมอนี่ว่าคุณหลิน?“คุณซ่ง คำพูดนี้ของคุณหมายความว่าอย่างไรครับ?”ซ่งเฉียนเฉิงพูดอย่างเดือดดาล: “เบื้องหลังคุณหลินก็คือตระกูลถัง และก็เป็นผู้มีพระคุณของคุณถัง”เขารู้จักหลินเฟิงมาจากการบอกเล่าจากพี่ใหญ่ของตัวเองคิดว่ากองกำลังที่หนุนหลังหลินเฟิงก็คือตระ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ