เมื่อพ่ายแพ้ให้กับโอวหยางหมิง จุดจบนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดมากอีก“เจ้าสำนัก หากคุณเชื่อฉัน งั้นก็ควรจะเชื่อหลินเฟิง!”โอวหยางชิ่งในเวลานี้ลุกขึ้นยืนเธอมองไปที่หลินเฟิง ก่อนจะรับรองกับโอวหยางเยว่ว่า “ฉันสามารถรับรองกับคุณได้เลยว่า หลินเฟิงสามารถกวาดล้างความวุ่นวายภายในสำนักได้อย่างแน่นอน!”“เขาคนเดียวก็พอแล้ว!”เมื่อได้ยินคำรับรองของโอวหยางชิ่ง โอวหยางเยว่ก็ขมวดคิ้ว และรู้สึกสั่นไหวอยู่ในใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของหลินเฟิงอยู่ดีถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยเห็นหลินเฟิงลงมือมาก่อน“เจ้าสำนัก ผมก็สามารถรับรองได้”ในขณะนี้ ลูกศิษย์สำนักเสินฉือก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “เมื่อครู่นี้...เอ่ออ คุณหลินเฟิงต่อสู้กับหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้เสมอกัน อ่อไม่ใช่ ต่อสู้ชนะหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้”เขาพยักหน้า“ทุกคนก็เห็นกันหมดแล้วใช่ไหม?”ในขณะที่ลูกศิษย์สำนักเสินฉือคนนี้พูด ลูกศิษย์สำนักเสินฉือคนอื่น ๆก็พยักหน้าเห็นด้วย และตอบว่าใช่ครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาไม่ใช่คนของโอวหยางหมิงในเวลานี้เมื่อเห็นว่าเจ้าสำนักถูกโอวหยางหมิงทำร้าย ต่างก็รีบแสดงความจงรักภักดี และ
“โอวหยางหมิง นายได้ยินไหม?”หลินเฟิงเดินออกไปนอกศาลบรรพบุรุษ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดพึมพำเสียงเบา:“เจ้าหนี้ของนาย จะมาทวงหนี้จากนายแล้วนะ”ภายในศูนย์การแพทย์โอวหยางหมิงประคองหยินหลิงไปที่ตรงหน้าเตียง และกำลังจะลงมือต่อเธอ แต่กลับถูกหยินหลิงจับกดเอาไว้“นายน้อยโอวหยาง...คุณ...คุณจะทำอะไร...”ในตอนนี้ถึงแม้หยินหลิงจะหายใจแผ่ว ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ตาลง ร่างกายก็บิดไปบิดมาโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่เห็นได้ชัดว่าเธอยังมีสติอยู่เธอต่อต้านฤทธิ์ยาตัณหาไม่หยุด ตัวสั่นเทาและถอยหลังไปยังเตียงที่อยู่ด้านหลัง“ผู้นำหยินหลิง คุณอย่าขัดขืนเลย ผมหาวิธีแก้พิษให้คุณได้แล้ว”โอวหยางหมิงปลดกระดุมเสื้อของตัวเองไปด้วย และยิ้มเจ้าเล่ห์เดินต้อนไปทางหลินหยิง“วางใจเถอะ นี่เป็นของดีที่ผมซื้อมาจากสำนักร้อยพิษเมืองไห่หนานด้วยราคาแพง ครั้งเดียวก็ทำให้คุณจดจำไปตลอดชีวิต ตั้งใจเพลิดเพลินกับความสุขระหว่างชายหญิงสักหน่อยเถอะ”โอวหยางหมิงยิ้มชั่วร้ายแล้วพูดออกมา:“ต่อให้เป็นขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน เพียงแค่คุณยังไม่เข้าสู่แดนแปรภาพ งั้นก็ไม่สามารถต่อต้านฤทธิ์ยานี้ได้ ถึงขั้นที่ทำให
“นายมาทำอะไรที่นี่?! ไสหัวไปซะ!”โอวหยางหมิงถูกรบกวน ตะโกนเสียงดัง และก็ไม่มีความอดทนต่อหลินเฟิง จากนั้นก็ชี้ไปที่ประตูและด่าทอเสียงดัง“ทำไมนายยังไม่ไสหัวไปอีก? หรือว่านายไม่อยากได้คนรักของนายแล้ว?!”เห็นหลินเฟิงยังคงจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มบาง โอวหยางหมิงชักสีหน้าขึ้นมาฉับพลันเขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง โทรศัพท์ไปหาจงเจว๋“ฮัลโหล? นายน้อยโอวหยาง?”เพื่อให้หลินเฟิงได้ยินอย่างชัดเจน โอวหยางหมิงถึงขั้นยังเปิดลำโพงออกมา นี่ทำให้หลินเฟิงได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยของจงเจว๋“ตัดแขนของผู้หญิงหนึ่งในนั้นออกมาให้ฉันข้างหนึ่ง!”โอวหยางหมิงออกคำสั่งด้วยเสียงดุดัน“หึหึหึ…หลินเฟิง ฉันเคยเตือนนายแล้ว นายสร้างเรื่องเองนะ!”ในตอนที่โอวหยางหมิงกำลังหัวเราะอย่างพึงพอใจต่อหลินเฟิงกลับได้ยินเสียงหาวของจงเจว๋ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของโทรศัพท์: “ขอโทษด้วยนะครับนายน้อยโอวหยาง คือว่า เจ้าสำนักออกคำสั่งแล้ว ให้ผมปกป้องตัวประกันพวกนี้เอาไว้”“ผมว่านะ คุณไม่สู้ไปคุกเข่าขอความเมตตาจากเจ้าสำนักดีกว่า ไม่แน่อาจจะเก็บศพทั้งร่างไว้ให้คุณก็ได้”“อืม เอาแบบนี้แหละครับ บ๊ายบาย”“ตู๊ดตู๊ดตู๊ด…”หลังจากกา
แต่น่าเสียดายมาก ความจริงก็คือ เขาเป็นนักบู๊ของระดับเซียนเทียนในตอนที่โอวหยางหมิงกระแทกกำแพง ก็กลอกตาขาวทันที ภายใต้การปกป้องร่างกายของพลังชี่แท้ กลับเด้งกลับมาทั้งแบบนั้นหลินเฟิงพับแขนเสื้อของตัวเองช้า ๆ“คุณชายโอวหยาง”หลินเฟิงเดินเข้าไปใกล้โอวหยางหมิงช้า ๆ และยิ้มบางพูดว่า: “วันนี้ผมก็จะให้บทเรียนกับคุณหน่อย ไม่ใช่ว่ามีเบื้องหลังแล้วจะทำอะไรก็ได้”“ออกมาใช้ชีวิตก็ต้องดูกำลัง ต้องมีเบื้องหลัง แต่ต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานที่ตัวเองสามารถต่อสู้ได้!”“ไว้…ไว้ชีวิตด้วยไว้…แอ่ก!”หลินเฟิงเตะออกไปอีกครั้ง ทำให้โอวหยางหมิงชิดอยู่กับกำแพง ฟันแถวล่างของเขาทั้งแถวหลุดออกจากในปากพร้อมกับเลือดมองเห็นโอวหยางหมิงกระแทกบนกำแพงแล้วตกลงมาหลินเฟิงตบหน้าของเขาจนทำให้ฟันอีกครึ่งหนึ่งกระเด็นออกไป“คุณชายโอวหยาง เป็นอย่างไรบ้าง? แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ?”หลินเฟิงจับโอวหยางหมิงที่หน้าบวมเป่งขึ้นมา และยิ้มมองเขา“ไว้…ไว้…”ถึงแม้ปากจะมีลมรั่ว และพูดจาไม่ชัดเจน แต่โอวหยางหมิงยังคงพูดขอความเมตตาอยู่“วางใจเถอะ หนี้ของคุณผมยังทวงไม่หมดเลย!”หลินเฟิงเผยฟันขาวออกมา“อ๊าก!”“แกร่ก!”กระดูกนิ้วขอ
“พี่ชิงเสวียน…พี่ชิงเวียน…”หยินหลิงโผเข้าไปในอ้อมแขนของหลินเฟิง ความร้อนชื้นอย่างหนึ่งทำให้หลินเฟิงสมองว่างเปล่าในทันทีหลังจากตกอยู่ในความว่างเปล่า จู่ ๆ หลินเฟิงพบว่าตัวเองไม่รู้ว่าถอดเสื้อออกตั้งแต่เมื่อไหร่ และนัวเนียอยู่บนเตียงกับหยินหลิงหลินเฟิงตกตะลึงจนหน้าถอดสี และรีบลุกขึ้นแต่ทว่าหยินหลิงในตอนนี้สูญเสียสติของตัวเองไปแล้วเธอจับหลินเฟิงเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และบิดตัวออดอ้อนอยู่ในอ้อมแขนของหลินเฟิงเหมือนกับแมวที่ติดสัดเมื่อเผชิญภาพแบบนี้ คงไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถอดทนได้หลินเฟิงหายใจหอบ ในดวงตาเผยเส้นเลือดออกมาถึงแม้เขาแทบอยากจะลงมือทันที แต่สติบอกกับเขาว่า เขาจะฉวยโอกาสไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งกว่านั้นนี่คือหยินหลิงเด็กผู้หญิงคนที่แยกกับตัวเองสิบกว่าปีหลินเฟิงกัดลิ้นของตัวเองจนแตก ฝืนบังคับให้ตัวเองมีสติกลับมาจากนั้นเขาก็กดหยินหลิงไว้บนเตียง หลับตาลงและลูบคลำหาจุดฝังเข็มบนร่างกายที่ลื่นเหมือนหยกเพื่อที่จะทำให้เธอกลับมาใจเย็น“เพียะเพียะเพียะ!”หลินเฟิงกดจุดบนตัวของหยินหลิงติดต่อกัน กลับพบว่ายาพิษเข้าสู่ร่างกายแล้ว จากนั้นไหลไปตามทางเดินเลือดลมเข้าสู่กระดูกแขนขา แทบ
เมื่อออกจากสำนักเสินฉือ หลินเฟิงมุ่งตรงไปที่ตระกูลเซี่ยงตระกูลเซี่ยงลอบทำร้ายเขาหลายครั้งแล้ว ตระกูลแบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีตัวตนอยู่แล้วหลินเฟิงโทรศัพท์ไปหาจ้าวเทียนหวา เตือนเขาให้ส่งคนมาเก็บกวาดซากที่ตระกูลเซี่ยง หลังจากนั้น เขาขับรถพาโอวหยางชิ่งมุ่งหน้าไปที่ตระกูลเซี่ยงตอนนี้เซี่ยงตงเซิงกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก กำลังจัดงานเลี้ยงดื่มเหล้าอยู่กับแขกของตัวเองแขกคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นไป๋เจิ้นหัวของตระกูลไป๋“ผู้นำตระกูลเซี่ยง คุณบอกว่าสำนักเสินฉือสามารถช่วยนำตำแหน่งผู้นำตระกูลกลับมาให้ผมได้เป็นเรื่องจริงไหมครับ?”ไป๋เจิ้นหัวมองเซี่ยงตงเซิงด้วยใบหน้าที่มีความหวัง เซี่ยงตงเซิงโบกมืพูดอย่างเหิมเกริมโดยไม่มีความลังเล:“วางใจเถอะ ผมกับนายน้อยโอวหยางหมิงคุยกันไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เขากุมอำนาจสำนักเสินฉือได้ นั่นก็จะช่วยตระกูลเซี่ยงของผมให้กลับมาอยู่จุดสูงสุดได้อีกครั้ง”“ถึงเวลาเพียงแค่ผมพูดจาดี ๆ ต่อหน้านายน้อยโอวหยาง การแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลกลับมา ต้องเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก”เมื่อเห็นเซี่ยงตงเซิงเด็ดขาดแบบนี้ ไป๋เจิ้นหัวรีบยกแก้วเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้น และ
แต่ในใจของเขากลับเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้“อ่อใช่แล้วน้องเจิ้นหัว มามามา เพื่อเลี่ยงไม่ให้นายลืมหลังจากเมามาย นายเขียนสัญญาให้ฉันหน่อย”เซี่ยงตงเซิงเพิ่งนึกขึ้นได้ และสั่งให้คนรับใช้เอากระดาษปากกามา“สัญญา?”ไป๋เจิ้นหัวประหลาดใจเล็กน้อย“ถูกต้อง”เซี่ยงตงเซิงหรี่ตายิ้มพูด: “นายเขียนตรงนี้ว่า ยินยอมยกลูกสาวให้แต่งงานกับฉัน สำหรับฉันก็เขียนสัญญาให้นาย”“ฉันเซี่ยงตงเซิงก็จะช่วยนายแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลไป๋มา เป็นอย่างไรบ้าง?”“นี่…มีความจำเป็นด้วยเหรอครับ?”ไป๋เจิ้นหัวลังเลเล็กน้อย“มีความจำเป็นอยู่แล้ว”เซี่ยงตงเซิงสีหน้าบึ้งตึง และพูดด้วยความจริงจัง: “ฉันเซี่ยงตงเซิงทำอะไรพูดจาคำไหนคำนั้น ในเมื่อจะรับปาก รับปากกับปากสำหรับฉันแทบจะไม่มีประโยชน์”“เป็นอย่างไร?”มองดูสีหน้ายิ้มแย้มของเซี่ยงตงเซิง และการชำเลืองมองของผู้คุ้มกันตระกูลเซี่ยงที่อยู่รอบ ๆหน้าผากของไป๋เจิ้นหัวมีเหงื่อไหลออกมา หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังกะทันหัน และหยิบปากกาขึ้นมายิ้มพูด: “ได้ ในเมื่อกฎของพี่เซี่ยงเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ทำตามอยู่แล้ว”“เขียนสัญญา เป็นหลั
“โอวหยางชิ่ง?”“แก…แกยังไม่ตาย?!”เซี่ยงตงเซิงเห็นโอวหยางชิ่งก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเห็นหลินเฟิง เขามองโอวหยางชิ่งที่ถือกระบี่ยาวด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ“หึ ขอโทษด้วยนะ ทำให้นายผิดหวังแล้ว ฉันยังมีชีวิตอยู่อย่างดี!”โอวหยางชิ่งยิ้มเยาะ จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น และตวาดเสียงดัง: “เซี่ยงตงเซิง แกฆ่าพ่อของฉัน และต้อนฉันจนกระโดดหน้าผาให้ตาย วันนี้ฉันจะจบเรื่องกับแก!” พูดจบ โอวหยางชิ่งก็ถือกระบี่พุ่งเข้าไปโดยตรง“ไอ้พวกสวะไร้ประโยชน์…”เซี่ยงตงเซิงกัดฟันแทบแตก ถึงว่าลูกน้องของเขาหาศพของโอวหยางชิ่งไม่เจอมาโดยตลอดที่แท้เธอยังมีชีวิตอยู่เซี่ยงตงเซิงไม่มีทางนิ่งเฉยอยู่แล้ว เขาพลิกโต๊ะเหล้าขึ้นอย่างแรง ตัวเองกลับถอยหลังตึกตึกตึกไปหลายก้าว และนำกระบี่ที่แขวนอยู่บนกำแพงมาไม่ว่าอย่างไร เซี่ยงตงเซิงก็เป็นยอดฝีมือกำลังภายใน“หือ? ไป๋เจิ้นหัว คุณมาทำอะไรที่นี่?”เห็นโอวหยางชิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และใช้กระบี่ฟันโต๊ะ สู้รบอยู่กับเซี่ยงตงเซิงหลินเฟิงกลับเดินเข้ามาจากประตูช้า ๆ และมองเห็นไป๋เจิ้นหัวนั่งทรุดอยู่บนพื้น“ฉัน…ฉัน…”ไป๋เจิ้นหัวพูดคำว่าฉันอยู่นาน ก็พูดคำอื่นไม่ออก“นี่คืออะไร?”หลินเฟิงเ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ