อึ้งไหม ก็อึ้งน่ะสิ ตกใจไหมก็ตกใจอยู่นะ ผู้ชายของเราบอกรักครั้งแรกทั้งที บอกแบบดื้อ ๆ ด้วยที่ระเบียงมีผ้าตากไว้เต็ม หื้ม ผู้ชายของฉัน เขินตัวเองแป๊บ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองมาโดยตลอดนั่นแหละว่านายขุนอาจจะมีความรู้สึกนี้กับฉัน ก็แหมจะไม่ให้คิดได้ยังไงพ่อคุณทูนหัวทูลกระหม่อมเล่นแสดงความห่วง หวงและหึงหนักมากอย่างชัดเจนไม่มีสงวนท่าทีเลยสักนิด แถมยังชอบทำตัวติดกับฉันแจเสียขนาดนี้ และคือตอนนี้ฉันพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยังไม่ยิ้มออกมานะแต่บ้าจริงเชียว ฉันเก๊กหน้านิ่งแทบไม่ได้เลยอ่ะ“นายบอกว่ารักฉันงั้นเหรอขุน” ฉันทวนถามอีกครั้งแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่าตัวเองยังนิ่งไม่เนียนพอเพราะหน้าที่มันร้อนผ่าว ๆ นี่แหละ ป่านนี้มันคงแดงเถือกลามลงมาถึงลำคอแล้วมั้ง“ฉันรักเธอหมูแดง รักหมูของฉัน” ขุนพลบอกฉันอย่างไม่มีแววล้อเล่นมีแต่ความออดอ้อนที่มันชัดเจนผ่านสีหน้าและแววตาพร้อมกับรวบเอวฉันไปกอดไว้แน่น เริ่มซุกปากซุกจมูกนัวเนียแถวฐานคอ อัตราการเต้นของหัวใจฉันว่าได้ยินมันชัดเลยแหละ“อย่าเพิ่งหื่นสิขุน คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ฉันประท้วงแต่ก็นะไม่มีผลต่อการรับรู้ของหมอนี่หรอก“เธอร
หลังกินสารพัดเมนูของอาหารอีสานที่เล่นทำเอาร้องซี๊ดปากเบิร์นไปตาม ๆ กันจนอิ่มท้องก็ถึงเวลาที่เหล่าคุณชายทั้งสามคนได้ฤกษ์ลงมือทำงานจริง ๆ จัง ๆ สักที ส่วนสาว ๆ ที่ไม่มีอะไรทำอย่างเรา ๆ ก็นั่งดูหนังไปด้วยพร้อมกับสั่งของออนไลน์กันสนุก ราวกับว่าเดินเข้าไปเลือกซื้อกันที่ร้าน และมันยิ่งสนุกมากเมื่อไม่ต้องใช้เงินในบัญชีของตัวเองสักบาทเดียว เพราะคุณชายขุนพลเขายัดโทรศัพท์ให้เข้าแอปโอนเงินได้ตามสบาย ไม่มีโอดครวญหรือห้ามไม่ให้ซื้อเยอะ พี่จิวกับพี่เคนเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกัน“ฉันว่าเราสามคนเปลี่ยนใจไปงานวันเกิดของหนุงหนิงกันดีไหม ถ้าไปก็ได้เจอเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่ได้เจอกันมานมนานด้วยนะหมูแดง มินนี่ ว่าไงเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะจ๊ะ มันต้องสนุกมากแน่ ๆ กับบรรยากาศเก่า ๆ น่ะ ค่ำนี้แล้วนะ”“ถ้าแกสองคนเปลี่ยนใจจะไปกันขึ้นมาจริง ๆ ฉันก็ไม่มีทางพลาดหรอกน่า ไปไหนไปกันอยู่แล้ว” มินนี่ตอบโดยที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ มือก็ล้วงเข้าไปในถุงมันฝรั่งอบกรอบมาเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับ“ยังไงยะยัยหมวย จะไปหรือไม่ไป ตอบฉันสองคนมาเลยเร็ว ๆ เข้า อย่าลีลาจ้ะเพื่อน” พิ้งค์จ้องแกมบังคับจะเอาคำตอบเลย แล
“นั่นสิคะ รีบ ๆ ทำเข้าพี่เคน เสียเวลา เกรงใจเจ้าของห้องอย่างเพื่อนมินนี่ซะบ้าง เรื่องบางเรื่องอย่าทำเป็นรู้มากเหมือนตัวเองเซียนหน่อยเลยค่ะ” มินนี่ว่าเข้าให้ สายตานี่มองแรงด้วย เห็นมีมุมหวาน ๆ แบบนี้เวลาโมโหก็นางมารดี ๆ นี่เอง“ดุพี่ทำไมเนี่ยมินนี่ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ แค่แซวเล่น ๆ ขำ ๆ เอง”“พี่ด้วยพี่จิว น่าหมั่นไส้”“เลิกออเซาะเมียแล้วหันกลับมาทำส่วนของมึงต่อสิวะไอ้ขุน เพราะมึงนั่นแหละกูโดนพิ้งค์หมั่นไส้เลย มีแต่คนเข้าข้างมึงจนน่าระ...เอ่อ หมั่นไส้จริง ๆ” คำว่ารำคาญเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้อย่างทันท่วงทีเมื่อสายตาสองคู่พุ่งตรงเข้าใส่“หอมหน่อยหมู”ฉันยู่ปากแล้วเอียงแก้มให้คนมีอาการง่วงที่ยอมโงหัวขึ้นมาหอมทั้งสองข้าง สงสัยจะต้องลุกไปชงกาแฟมาให้ดื่มแล้วสิ ไม่งั้นฉันคงได้เป็นคนทำรายงานแทนแน่ ๆ หาวให้หวอด ๆ“เดี๋ยวไปชงกาแฟมาให้นะ”“จูบก่อน”“ทำให้เสร็จก่อนแล้วจะให้จูบ ขยับด้วยขุนฉันจะเข้าไปในครัว”“ไอ้ขุน!! อย่าลีลาดิวะ”“กูรู้แล้วเคนว่าต้องทำส่วนของตัวเองน่ะ จะแหกปากทำบ้าอะไร”“รู้แล้วก็ช่วยขยับสักทีสิขุน” ฉันฟาดไหล่คนพาลไปแรง ๆ หนึ่งที ปากบอกรู้แต่ยังอยู่ท่าไหนท่านั้น ฟึดฟัดอยู่แป๊บถึงยอมแต
มหาวิทยาลัย Gวันนี้เป็นวันเปิดเทอมขึ้นปีสองวันแรกหลังจากปิดภาคเรียนไปสามเดือนเต็มและเทอมนี้ฉันก็ต้องลงเรียนวิชาจิตวิทยาทั่วไปเป็นวิชาเลือกในหมวดสังคมเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าเพื่อนสนิทอีกสองคนมันดันลงทะเบียนวิชานี้ไม่ได้เนื่องจากมันเต็มเลยกระเด็นหลุดโผต้องไปลงวิชาอื่นแทน ซึ่งมันทำให้ฉันเซ็งมากถึงมากที่สุดเลยแหละ และตอนนี้ก็ต้องมานั่งแกร่วเป็นเล่นเกมส์ในมือถือไปพลางๆ เพราะเปิดประตูเข้าห้องเรียนมาเป็นคนแรก เพื่อนร่วมคลาสคนอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครโผล่มาให้เห็นหน้าเลยสักคนเดียว ชักช้ากันจังเลย แล้ววิชานี้ต้องเรียนรวมกับทุกชั้นปีแบบไม่จำกัดคณะ สาขาวิชาอีกด้วยสิ คือมันไม่ดีตรงนี้นี่แหละค่า คนไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วยเช่นฉันคงหงอยเหงาเศร้าสร้อยเป็นนกปากเจ็บแน่เลย จะมีคนรู้จักมาเรียนบ้างไหนหนอคงต้องรอดูนี่ก็เหลือเวลาเข้าเรียนตามตารางสอนอีกประมาณยี่สิบนาทีเห็นจะได้ ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนขยันจัดหรือรักเรียนเป็นชีวิตจิตใจหรอกนะ ฉันกลัวรถมันจะติดต่างหากเลยรีบออกทั้งที่คอนโดกับมหาลัยไม่ได้ไกลกันมากมายอะไร คือด้วยความที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกไง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์มันจะคึกคักกันเป็นพิเศษ คนเยอะ รถแยะ ป
“นี่! ฉันชื่อขุนพล เรียนอยู่คณะบริหารปีสาม เธอชื่ออะไรและเรียนคณะอะไรล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบและเลือกที่จะแนะนำตัวเองให้ยัยหน้าตาบ๊องแบ๊วที่มองตาปริบๆ ได้รู้จักก่อน ผู้หญิงบ้าอะไรวะหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาชะมัด ตัวเล็กแต่ฟาร์มโคนมนี่ไม่เล็กตามรูปร่างเธอเลย เรียนที่นี่มาสามปีแล้ว ถึงจะมาบ้างไม่มาบ้างแต่ไม่เคยเห็นหน้ายัยนี่มาก่อนหรือจะเป็นเด็กปีหนึ่งเพิ่งเข้ามาเรียน อันนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงเพราะหน้าเด็กฉิบหาย“อ่อ ชื่อหมูแดง เรียนอยู่คณะนิเทศปีสองค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” รุ่นพี่เขาเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปีแถมชื่ออย่างเท่ห์เลยขุนพล อ่า นี่ฉันควรผูกมิตรกับเขาดีไหมนะไหนๆก็นั่งข้างกันแล้ว แต่มันทำให้ความคิดฉันสะดุดเพราะก่อนหน้าที่เขาถามว่าฉันสติดีใช่ไหมนี่แหละ เป็นการถามที่ฉันอยากจะกรีดร้องออกมามาก“อืม นิเทศปีสองอย่างนั้นเหรอ งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับน้องหมู” ขนาดชื่อยังน่ารักน่ากินเลยให้ตายเถอะว่ะ พ่อแม่ของยัยนี่ตั้งได้เข้าท่ามาก ‘หมูแดง’ แค่เรียกก็มีความอยากกินขึ้นมาแล้วสิ“เอ่อ ชื่อหมูแดงค่ะไม่ใช่หมูเฉยๆ ช่วยกรุณาเรียกให้ถูกด้วยนะคะพี่ขุนพล” ฉันไม่ชอบให้ใครเรี
Kunpon Talksผมนั่งเท้าคางมองหน้าหมูแดงที่ทำเป็นเมินไม่ยอมสนใจใครนอกจากอาจารย์ประจำวิชาที่กำลังยืนบ่นอะไรสักอย่างที่ผมไม่คิดจะฟัง นึกย้อนไปถึงตอนที่เดินมาหน้าห้องที่จะใช้เรียน ด้วยความที่มันเป็นกระจกใสกั้นเอาไว้และม่านมันก็ไม่ได้ปิดหมดทำให้ง่ายต่อการมองเข้ามาด้านใน ผมจึงได้เห็นคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องเพียงคนเดียวอย่างชัดเจน โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าตนเองนั้นกำลังตกเป็นจุดสนใจมันเหมือนกับว่าผมถูกต้องมนต์สะกดทำให้ละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย เรื่องผู้หญิงสวยข้างกายผมมีไม่เคยขาดนับตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มมาจนถึงปัจจุบัน แต่แปลกที่ผมกลับมองว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจกว่าใครทั้งหมดที่เคยสัมผัสมา นานหลายนาทีกว่าผมจะตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้ามาหาเธอแล้วทำทีเป็นชวนคุยทั้งที่มันไม่ใช่นิสัยที่ทำเป็นประจำเวลาเจอสาว ปกติแทบไม่ต้องขยับตัวก็มีเรียงคิวเข้ามาให้เลือก ด้วยรูปร่างหน้าตาที่พ่อแม่ให้มามันชวนเรียกสายตาให้เพศตรงข้ามมองได้ไม่ยากและมันก็ได้ผลแต่ทุกอย่างมันมีข้อยกเว้นยังไงล่ะเท่าที่สังเกตดูยัยหมูแดงตัวน้อยนี่ไม่ค่อยจะอินกับใบหน้าของผมสักเท่าไหร่ทั้งที่ตอนแรกเหมือนจะออกอาการอึ้งไปพ
ณ โรงอาหารโรงอาหารติดแอร์แสนไฮโซโก้เก๋ที่มานั่งจ่อมอยู่มีนักศึกษาค่อนข้างหนาตา ถามว่าฉันเต็มใจมาไหม ไม่เลยสักนิด ไม่เลยจริงๆ เหอะๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย เวลานี้ฉันควรไปหาเพื่อนรักที่นัดกันไว้สิถึงจะถูก แต่ติดที่ยังไปไม่ได้ไง เพราะโดนไอ้บ้าขุนพลมันยึดกระเป๋าเอาไว้แล้วฉันจะไปไหนได้ยังไง“อ้าปากดิหมู” ฉันปรายสายตาอันขุ่นขวางมองคนพูดเล็กน้อย ข้าวหน้าหมูเกาหลีอยู่ในช้อนที่ตักเอาไว้แบบพอดีคำถูกยื่นมาจ่อที่ปากฉัน ทั้งที่ไม่ได้ร้องขอ สายตากึ่งบังคับของขุนพลทำให้ฉันอ้าปากกินอย่างไม่เต็มใจ รสชาติมันแม้จะอร่อยแต่มันฝืดเคือง เพราะฉันไม่มีอารมณ์อยากกินอะไรทั้งนั้น“ไม่เอาแล้วนะ ไม่อยากใช้ช้อนร่วมกับนาย” ฉันบอกตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งมันทำให้นายขุนชักสีหน้าใส่ฉันราวกับว่าอยากจะขย้ำคอฉันให้ตายคามือมันซะเดี๋ยวนี้เลย โหดร้ายป่าเถื่อนไปไหน คนเขาไม่อยากก็คือไม่อยากปะ“สงสัยหมูตัวนี้อยากโดนขย้ำ ถึงได้กล้าพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา” ไม่อยากใช้ช้อนร่วมกันอย่างนั้นเหรอ หึๆ รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นตรงมุมปาก พลางจับยึดปลายคางหมูแดงที่ทำท่าเลิกลักไว้มั่น โน้มหน้าลงต่ำจนหน้าผากแตะกัน ปากเล็กอ้าอย่างต้องการปร
วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยมากเป็นพิเศษเพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะว่าไอ้บ้าขุนน่ะสิที่เกาะติดฉันเป็นปลิงเป็นปลวกเลย ช่วงบ่ายที่มีเรียนอาจารย์ก็งดคลาสเหตุผลคือเปิดเทอมวันแรกไม่มีอะไรมากยังไม่อยากสอน ซึ่งมันจะดีมากเลยไงถ้าไม่มีนายขุนพลตามติดก้นต้อยๆ ไปทุกที่อยู่แบบนี้ พอถามเขาก็บอกว่าถึงมีก็ไม่เข้าได้มีเพื่อนเป็นถึงลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยจะกลัวทำไม โถ เออดีเนอะเหตุผลหมอนี่ฟังเข้าท่าซะไม่มี ฉันควรอิจฉาดีไหมเนี่ย เอาล่ะๆ พักเรื่องนายขุนคนน่ามึนแล้วมาคิดถึงเรื่องตัวเองบ้างดีกว่าฉันน่ะเป็นลูกสาวคนเล็กสุดของป๋าม๊ามีพี่ชายสองคนชื่อเฮียหนึ่งคนที่สองชื่อเฮียสอง สุดท้ายหมวยเล็กที่มีชื่อกิ๋บเก๋ต่างจากพี่ๆคือหมูแดง เป็นครอบครัวคนจีน ทำธุรกิจห้างทองและมีโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องส่งออกต่างประเทศ แฟนเฟินอะไรไม่เคยมีหรอกตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้มีแต่คนมาจีบแต่ฉันไม่สนใจไง สวยๆ โสดๆ มันดีกว่าเยอะ ใครๆ ก็ชอบบอกว่าฉันเหมือนตุ๊กตาอย่างนั้นอย่างนี้ เลยไม่แปลกที่ครอบครัวจะรักและปลื้มปริ่มกับฉันม๊ากมาก แต่ก็นะยิ่งเป็นลูกคนเล็กและลูกสาวคนเดียวของครอบครัวแบบนี้ด้วยคนตามใจก็เลยเยอะมันเลยทำให้ฉันค่อนข้างเป็นคนขี้งอน ขี้
“นั่นสิคะ รีบ ๆ ทำเข้าพี่เคน เสียเวลา เกรงใจเจ้าของห้องอย่างเพื่อนมินนี่ซะบ้าง เรื่องบางเรื่องอย่าทำเป็นรู้มากเหมือนตัวเองเซียนหน่อยเลยค่ะ” มินนี่ว่าเข้าให้ สายตานี่มองแรงด้วย เห็นมีมุมหวาน ๆ แบบนี้เวลาโมโหก็นางมารดี ๆ นี่เอง“ดุพี่ทำไมเนี่ยมินนี่ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ แค่แซวเล่น ๆ ขำ ๆ เอง”“พี่ด้วยพี่จิว น่าหมั่นไส้”“เลิกออเซาะเมียแล้วหันกลับมาทำส่วนของมึงต่อสิวะไอ้ขุน เพราะมึงนั่นแหละกูโดนพิ้งค์หมั่นไส้เลย มีแต่คนเข้าข้างมึงจนน่าระ...เอ่อ หมั่นไส้จริง ๆ” คำว่ารำคาญเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้อย่างทันท่วงทีเมื่อสายตาสองคู่พุ่งตรงเข้าใส่“หอมหน่อยหมู”ฉันยู่ปากแล้วเอียงแก้มให้คนมีอาการง่วงที่ยอมโงหัวขึ้นมาหอมทั้งสองข้าง สงสัยจะต้องลุกไปชงกาแฟมาให้ดื่มแล้วสิ ไม่งั้นฉันคงได้เป็นคนทำรายงานแทนแน่ ๆ หาวให้หวอด ๆ“เดี๋ยวไปชงกาแฟมาให้นะ”“จูบก่อน”“ทำให้เสร็จก่อนแล้วจะให้จูบ ขยับด้วยขุนฉันจะเข้าไปในครัว”“ไอ้ขุน!! อย่าลีลาดิวะ”“กูรู้แล้วเคนว่าต้องทำส่วนของตัวเองน่ะ จะแหกปากทำบ้าอะไร”“รู้แล้วก็ช่วยขยับสักทีสิขุน” ฉันฟาดไหล่คนพาลไปแรง ๆ หนึ่งที ปากบอกรู้แต่ยังอยู่ท่าไหนท่านั้น ฟึดฟัดอยู่แป๊บถึงยอมแต
หลังกินสารพัดเมนูของอาหารอีสานที่เล่นทำเอาร้องซี๊ดปากเบิร์นไปตาม ๆ กันจนอิ่มท้องก็ถึงเวลาที่เหล่าคุณชายทั้งสามคนได้ฤกษ์ลงมือทำงานจริง ๆ จัง ๆ สักที ส่วนสาว ๆ ที่ไม่มีอะไรทำอย่างเรา ๆ ก็นั่งดูหนังไปด้วยพร้อมกับสั่งของออนไลน์กันสนุก ราวกับว่าเดินเข้าไปเลือกซื้อกันที่ร้าน และมันยิ่งสนุกมากเมื่อไม่ต้องใช้เงินในบัญชีของตัวเองสักบาทเดียว เพราะคุณชายขุนพลเขายัดโทรศัพท์ให้เข้าแอปโอนเงินได้ตามสบาย ไม่มีโอดครวญหรือห้ามไม่ให้ซื้อเยอะ พี่จิวกับพี่เคนเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกัน“ฉันว่าเราสามคนเปลี่ยนใจไปงานวันเกิดของหนุงหนิงกันดีไหม ถ้าไปก็ได้เจอเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่ได้เจอกันมานมนานด้วยนะหมูแดง มินนี่ ว่าไงเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะจ๊ะ มันต้องสนุกมากแน่ ๆ กับบรรยากาศเก่า ๆ น่ะ ค่ำนี้แล้วนะ”“ถ้าแกสองคนเปลี่ยนใจจะไปกันขึ้นมาจริง ๆ ฉันก็ไม่มีทางพลาดหรอกน่า ไปไหนไปกันอยู่แล้ว” มินนี่ตอบโดยที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ มือก็ล้วงเข้าไปในถุงมันฝรั่งอบกรอบมาเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับ“ยังไงยะยัยหมวย จะไปหรือไม่ไป ตอบฉันสองคนมาเลยเร็ว ๆ เข้า อย่าลีลาจ้ะเพื่อน” พิ้งค์จ้องแกมบังคับจะเอาคำตอบเลย แล
อึ้งไหม ก็อึ้งน่ะสิ ตกใจไหมก็ตกใจอยู่นะ ผู้ชายของเราบอกรักครั้งแรกทั้งที บอกแบบดื้อ ๆ ด้วยที่ระเบียงมีผ้าตากไว้เต็ม หื้ม ผู้ชายของฉัน เขินตัวเองแป๊บ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองมาโดยตลอดนั่นแหละว่านายขุนอาจจะมีความรู้สึกนี้กับฉัน ก็แหมจะไม่ให้คิดได้ยังไงพ่อคุณทูนหัวทูลกระหม่อมเล่นแสดงความห่วง หวงและหึงหนักมากอย่างชัดเจนไม่มีสงวนท่าทีเลยสักนิด แถมยังชอบทำตัวติดกับฉันแจเสียขนาดนี้ และคือตอนนี้ฉันพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยังไม่ยิ้มออกมานะแต่บ้าจริงเชียว ฉันเก๊กหน้านิ่งแทบไม่ได้เลยอ่ะ“นายบอกว่ารักฉันงั้นเหรอขุน” ฉันทวนถามอีกครั้งแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่าตัวเองยังนิ่งไม่เนียนพอเพราะหน้าที่มันร้อนผ่าว ๆ นี่แหละ ป่านนี้มันคงแดงเถือกลามลงมาถึงลำคอแล้วมั้ง“ฉันรักเธอหมูแดง รักหมูของฉัน” ขุนพลบอกฉันอย่างไม่มีแววล้อเล่นมีแต่ความออดอ้อนที่มันชัดเจนผ่านสีหน้าและแววตาพร้อมกับรวบเอวฉันไปกอดไว้แน่น เริ่มซุกปากซุกจมูกนัวเนียแถวฐานคอ อัตราการเต้นของหัวใจฉันว่าได้ยินมันชัดเลยแหละ“อย่าเพิ่งหื่นสิขุน คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ฉันประท้วงแต่ก็นะไม่มีผลต่อการรับรู้ของหมอนี่หรอก“เธอร
“ฉันก็จะกินกับแกมินนี่ เอาลาบหมู น้ำตกหมู ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ส้มตำไข่เค็ม ตำซั่วหอยดอง ยำวุ้นเส้นด้วย ที่เหลือแกกับยัยพิ้งค์ก็เพิ่มเติมไปเลย” สั่งสิ่งที่อยากไปเต็มที่ แต่เชื่อเถอะว่าเห็นว่าเยอะๆ แบบนี้ สองสาวต้องเพิ่มอีกแน่ๆ“งั้นก็กินส้มตำกันทั้งหมดนี่เลยง่ายดี ไม่ต้องแปลกแยก สั่งไก่ทอดชุดใหญ่มาเพิ่มด้วย โอเคไหมวะไอ้ขุน ไอ้จิว ได้ยินที่น้องหมูแดงร่ายรายการอาหารให้มินนี่จดแล้วกูก็เริ่มอยากกินส้มตำไปด้วยแล้วเนี่ย แสบไส้ฉิบ”“อือ คุณนายเมียหมูกูกินอะไรก็กินตามนั้นแหละ ไม่เรื่องมาก” ตอบอย่างเนือยๆ แต่กลับทำตัวไม่เนือยตาม เดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมขาฉันประหนึ่งว่ามันคือน้ำมันหอมระเหยให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย ตั้งแต่เริ่มทำรายงานที่ไม่เห็นจะได้เรื่องได้ราวอะไรเลย นี่ก็พร้อมใจกันหยุดพักแล้วด้วยเพราะความหิวเข้าโจมตี ยกขาขึ้นนั่งขัดสมาธิก็ไม่ได้ด้วยนะ ไม่ยอมต้องให้ขาฉันห้อยลงมาทั้งสองข้าง บางครั้งก็ให้พาดบ่าเกี่ยวเอาไว้ ไอ้ที่ว่าเมื่อยๆ นี่อาจเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้นะฉันว่า“เออ สั่งมาเยอะๆ หน่อยนะครับสาวๆ คือพวกพี่หิวกันมาก”“ห้องแกมีน้ำแข็ง น้ำหวาน น้ำอัดลมพอพวกเรากินไหมอ่ะหมูแดง ถ้าไม่มีจะได้ให้พี่จิวล
เช้าวันอาทิตย์แทนที่จะได้นอนตื่นสายสบายๆ แต่ผมกลับต้องแหกตาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง กว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็ค่อนคืนเข้าไปแล้วเพราะร่างในอ้อมแขนทำให้เสียการทรงตัว ลุกเข้าห้องน้ำไปสองรอบ เป็นไอ้ขุนบางครั้งก็ทรมานเป็นบ้าเลย แทะเล็มหมูจนได้เรื่องและเดือดร้อนตัวเองจนโดนรังแก“ขุน!! ทำให้ไม่รีบตากให้มันเสร็จๆ ไปล่ะ จะยืนหล่อเหม่อมองท้องฟ้าอีกนานไหม ไม่ได้กำลังถ่ายเอ็มวีเพลงหรือซีรีส์โปรดอย่าเข้าใจหน้าที่ตัวเองผิดไป” เสียงแหลมๆ เล็กๆ ทำเอาสะดุ้งลืมเรื่องที่กำลังคิดชั่วขณะเลย“รู้แล้วครับคุณนายหมู เร่งจังเลย มีแค่สองมือจะให้เร็วยังไงวะเนี่ย ขอเวลาให้ฉันหน่อยดิ” งานของผมตอนนี้ก็คือยืนตากผ้ารับอากาศร้อนๆตรงระเบียงที่เมียหมูซักไง คุณเธอโยนลงเครื่องกดปุ่มปั่น แล้วกระชากผมให้ลืมตาขึ้นตื่นมาทำหน้าที่ตาก เป็นการทำโทษที่ผมจับถอดชุดนอนออกเหลือแค่กางเกงในตัวเดียวที่ติดกายโคตรจะน่าขย้ำ จับฟัดจับจูบจนง่วง หลับไปตอนไหนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะเสียงตะคอกดุๆ และหนังหัวแทบหลุดพร้อมสายตาแข็งๆ ของเมียหมูที่กลายร่างเป็นปีศาจ“จะไม่ให้ฉันเร่งได้ยังไงล่ะกับอีแค่ตากผ้าทำซะนานชะมัดเลย นายยังต้องไปเก็บกวาดเช็ด
Kunpon Talks“คุยกับใครหมู ผู้ชายรึเปล่า” ผมเดินออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขกระแทกเข้าหูเลยเร่งฝีเท้ามาที่เตียงนอนแล้วคลานเข่าเข้าซ้อนหลังบอบบางที่นอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางซ้ายมือ ด้วยความอยากรู้จึงชะโงกหน้ามองโทรศัพท์หน้าจอที่มือเล็กกำลังพิมพ์โต้ตอบอย่างคล่องแคล่ว และเห็นตรงมุมบนซ้ายเป็นชื่อกลุ่มที่มีสมาชิกเป็นยี่สิบคน“คุยกับเพื่อนๆ สมัยที่เรียนโรงเรียนน่ะ มีทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละ ห้ามโวยวายเด็ดขาดบอกไว้ก่อน สระผมแล้วทำไมถึงไม่ยอมเช็ดให้มันแห้งก่อนล่ะ ยังเปียกชุ่มอยู่เลยนะขุน เช็ดเดี๋ยวนี้เลยน้ำมันหยดใส่ฉันเนี่ย ให้มันแห้งก่อนค่อยนอน แน่ะบอกละยังจะทำนิ่งทำเฉยอยู่อีก โตแล้วไม่ใช่เด็กๆสักหน่อย” หมูแดงเอี้ยวหน้ากลับมาดุและบ่นแล้วก็กลับไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ต่อ“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มเลย อยากให้เช็ดนักเธอก็เช็ดให้ฉันหน่อยดิ ไม่งั้นฉันจะนอนแบบนี้จริงๆ ด้วย เธอตัวเปียกไปด้วยอย่ามาบ่นฉันละกัน” ผมเลิกคิ้วหยั่งเชิง แล้วแย่งสิ่งที่ดึงความสนใจของหมูไปจากผมมาถือไว้ แล้วยัดผ้าขนหนูผืนหนาใส่มือเล็กแทนเวลานี้มันควรจะเป็นของผมแค่คนเดียวเท่านั้น ดึกๆ ดื่นๆ ไม่ไปหลับไปนอนกันวะ
“บ้าเหรอ ใครจะติดสปริงที่หน้าอก อื้อ! อย่าบีบสิขุน เดี๋ยวก็ดูหนังไม่รู้เรื่องหรอก เลิกเล่นซนสักทีเถอะน่า ปล่อยเลย” ฉันทุบไหล่หนาเมื่อมือซนๆ เริ่มไม่อยู่นิ่ง แทนที่จะฟังกันดันเลื้อยเข้ามาในเสื้ออีก สมาธิไม่มีตั้งแต่หนังยังไม่ฉาย“เรื่องอะไรต้องเอาออกด้วยมันก็ของฉันเหมือนกัน เธอรู้ไหมสถานที่ที่คู่รักอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาพลอดรักกันเธอรู้ไหมว่าโรงหนังก็ติดอันดับหนึ่งในห้าเลยนะหมูจ๋า บนเครื่องบิน บนเรือ ในทะเลก็ติดนะฉันอ่านเจอมาเมื่อไม่นานนี้เอง ที่ติดเป็นเพราะว่ามันค่อนข้างตื่นเต้นดี และไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำมันได้” พลอดรักในที่นี้คงไม่ได้หมายถึงจูบกันธรรมดาใช่ไหม บ้าน่า“ละ...แล้วยังไงล่ะ นายจะมาบอกทำไมเนี่ย ไม่อยากรู้เลยสักนิด” ฉันถามอย่างระแวดระวังสุดฤทธิ์และพยายามควบคุมเสียงไม่ให้ตื่นเกินเหตุ นายขุนไม่น่าไว้วางใจอีกแล้วเพราะสายตาเจ้าเล่ห์คู่นี้มันกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับฉัน“ก็อยากลองเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในนี้ดูบ้างว่าจะตื่นเต้นมากน้อยแค่ไหน น่าสนใจดีไม่ใช่เหรอ ไหนๆ เราสองคนก็นอนกอดกันอยู่ในโรงหนังแล้วด้วย ลองหน่อยดีไหม” ฮือ หมูแดงอยากมีคาถาหายตัวได้ตอนนี้เลยเจ้าค่ะสวรรค์เจ้าขา“ขุ
“อย่างอนพี่ขุนสิจ๊ะเมียหมูจ๋า พี่ขุนไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าโรงหนังเลย ส่วนมากจะพาเข้าแต่โรงแรมน่ะ อะ...โอ๊ย! ซี๊ดด...เจ็บโคตร” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดหลุดออกมาราวถูกฉันปาดคอ เพียงเพราะว่าถูกเล็บคมๆ ของฉันหยิกเข้าที่สีข้าง“แล้วตอนนี้ล่ะยังได้พาผู้หญิงคนไหนเข้าอยู่อีกไหมโรงแรมน่ะ ตอบมาให้ชัดๆ เลยนะ!!” ฉันถามคนปากดีเสียงเข้มและห้วนจัดแต่ไม่ได้ดังอะไรมากมายแค่ให้ได้ยินกันสองคนพอ เพราะด้วยสถานที่ในตอนนี้มันคือที่สาธารณะ มีคนนอกอยู่ไม่น้อยต้องเกรงใจคนส่วนมาก ท่องไว้เงียบๆ แม้ฉันจะเกลียดหน้าหล่อๆ ของไอ้บ้าขุนตอนตอบว่าส่วนมากจะพาเข้าแต่โรงแรมขั้นสุด หน้าตาช่างระรื่นชื่นบานจนน่าหมั่นไส้ โดนหยิกแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ โมโห“ก็ไม่เคยไง วันๆ มีแต่หมู คิดถึงแต่เมียหมู ไม่อยากได้ใครอีกนอกจากหมู ถ้าจะพาเข้าโรงแรมก็คงจะเป็นเมียคนหมูคนนี้คนเดียวเท่านั้น ล้อเล่นนิดหน่อยทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ด้วยเนี่ย” เสียงทุ้มพูดด้วยน้ำเสียงติดงอนๆ อ้อมแขนก็กอดรัดแน่นขึ้นไปอีกเมื่อพูดจบและจมูกโด่งเป็นสันก็กำลังคลอเคลียอยู่ที่แก้มไม่ห่าง แทบจะนั่งสิงร่างกายกันอยู่รอมร่อแล้วตอนนี้“ทำไมต้องจริงจังงั้นเหรอ? ลองสลับให้ฉันพ
ตอนนี้ฉันกับขุนมาถึงห้างดังเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากฝ่าการจราจรที่ค่อนข้างจะหนาแน่นแม้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดแต่สำหรับคนที่ทำงานวันเสาร์และหยุดเพียงวันอาทิตย์วันเดียว ก็ยังคงเอาเรื่องอยู่หากมาในช่วงเวลาเลิกงาน คนเจ็บปากเพราะโดนเฮียหนึ่งต่อยร้องอยากจะมาดูหนังเรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้าเมื่อสองสามวันก่อน ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องแต่ประการใด ส่วนหนึ่งคืออยากเดินเที่ยวด้วยเผื่อจะได้อะไรใหม่ๆ ติดไม้ติดมือกลับไปใช้สอยให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ คอลเลกชันล่าสุดที่ยังไม่มีไรงี้ และสำคัญที่สุดคือเราสองคนยังไม่เคยได้ทำกิจกรรมนี้ร่วมกันเลยถ้าไม่นับที่ดูหนังด้วยกันในคอนโดครั้งนั้นที่ไม่จบอีกต่างหาก ไม่จบไม่ว่าคืนนั้นเป็นคืนที่อ๊าย หน้าอกฉันถูกลวนลามอย่างบ้าคลั่งด้วย มีแต่รอยแดงเต็มไปหมด คิดแล้วเลือดลมก็สูบฉีดดีเหลือเกิน ร้อนผ่าวไปทั้งตัวเลยเนี่ย ฉันไม่ได้หื่นนะแค่ความคิดมันไหลไปเอง ควบคุมไม่ได้ด้วยไม่ ไม่ ไม่ ฉันหลับตาแล้วสะบัดหัวนิดหน่อยเพื่อขับไล่ความคิดสิบแปดบวกให้ออกจากสมอง ยืนฟังขุนเจรจากับพนักงานอย่างตั้งอกตั้งใจแทน“ขอบคุณมากครับ”“ครับ”สรุปที่อุต