LOGINเวลาต่อมา....
ตอนนี้ฉันอยู่ที่คอนโดของเจไดหลังจากที่เขาไปรับฉันที่บ้าน ตอนอยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่เขายิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยกับพ่อแม่ของฉันอย่างปกติแต่พอขึ้นรถมาเท่านั้นแล่ะสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันทีเขาทำหน้าบอกบุญไม่รับเหมือนจำใจมารับฉัน ไหนแม่บอกว่าเจไดเขาเต็มใจให้ฉันมาอยู่ด้วยไงหรือเขาเกรงใจแม่ก็เลยพูดให้แม่สบายใจ ถ้าเขาไม่อยากให้อยู่ฉันกลับไปอยู่บ้านก็ได้นะ
"เธอนอนห้องนี้นะ" เขาเดินนำฉันเข้ามาในห้องแล้วเปิดประตูห้องนอนซึ่งเป็นห้องนอนเล็กที่ติดกับห้องนอนของเขา คือคอนโดของเจไดมีอยู่สองห้องนอนห้องใหญ่เป็นห้องนอนเขาส่วนห้องเล็กนี้เขาเอาไว้เวลาพ่อกับแม่ของเขามาเยี่ยมที่ฉันรู้เพราะตอนที่เราเป็นแฟนกันเขาก็มักจะพาฉันมาที่นี่บ่อยๆ จะว่าไปฉันก็ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วเหมือนกันก็ตั้งแต่เราเลิกกัน
"อื้ม" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะขนกระเป๋าตัวเองเข้าห้องส่วนเขาก็เดินเข้าห้องนอนตัวเอง ฉันจัดการกับข้าวของเครื่องใช้ตัวเองเสร็จก็เดินออกมาเพื่อหาน้ำดื่มเพราะรู้สึกเหนื่อยและพอฉันเดินออกมาจากห้องก็เห็นเขาเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอกเพราะเขาเปลี่ยนชุดแล้ว
"เจไดจะไปไหนเหรอ"
"ไปกินข้าวมีอะไร"
"เหรอ ไปกินข้าวเหรอ" คืออยากจะบอกเขาว่าขอไปด้วยได้ไหมเพราะฉันเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเลยแต่...
"อืม ถ้าเธอหิวก็โทรสั่งเอาละกันนะ ฉันไปล่ะ" เขาพูดขนาดนี้แล้วฉันจะขอไปด้วยก็ดูจะเสียมารยาทเกินไปก็เลยทำได้แค่ยิ้ม แต่ก่อนที่เขาจะก้าวขาออกจากห้องเสียงมือถือเขาก็ดังขึ้นมาฉันเห็นเขาหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วยิ้ม
"ครับ กำลังออกไป"
"ผมเลือกร้านไว้แล้ว ไม่เกินครึ่งชั่วโมงถึงหน้าคอนโดพี่เลย" น้ำเสียงที่เขาพูดมันทำไมฟังดูอบอุ่นเหลือเกินไหนจะคำพูดที่สุภาพอีกหรือคนในสายเป็นผู้หญิง พอคิดแบบนั้นใจฉันมันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะใช่ผู้หญิงอย่างที่ฉันคิดหรือเปล่า
"เจไดไปกินข้าวกับ...ใครเหรอ" ฉันเผลอหลุดปากถามออกไปทำให้เขาหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาที่นิ่งก่อนจะตอบ
"แฟน" เขาตอบน้ำเสียงนิ่งๆแต่คำตอบของเขามันทำให้ใจฉันเจ็บ
"แฟน??" ฉันถามย้ำอีกครั้งเผื่อว่าฉันจะฟังผิด
"อืมแฟน"
"เอ่อ..เจไดมีแฟนใหม่แล้วเหรอ"
"อืมมคบมาได้สักพักละ แค่นี้ใช่ไหมที่จะถามฉันรีบไป"
"อื้มรีบไปเถอะเดี๋ยวแฟนใหม่เจไดจะรอนาน" ฉันพูดทั้งไปทั้งที่ใจเจ็บเพราะทำอะไรไม่ได้มันรู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากเขาออกไปแล้วฉันก็ทรุดตัวลงนั่งด้วยใจที่หน่วง คำถามในใจตอนนี้ก็คือทำไมเขาถึงมีแแฟนใหม่เร็วขนาดนี้ล่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน
เวลาต่อมา...
ฉันนั่งดูซีรีส์เรื่องโปรดอยู่หน้าทีวีห้องรับแขกถามว่ามีสมาธิดูไหมยอมรับว่าไม่มีเลยเพราะห่วงใครบางคนที่ยังไม่กลับห้องคือตอนนี้มันเกือบเที่ยงคืนแล้วแต่เจไดยังไม่กลับมาเลยไหนบอกไปทานข้าวไงทำไมไปนานจังหรือว่าเขาจะไปกันที่อื่นอีกแบบว่าไปช็อปปิ้งไปเที่ยวไปดูหนังเหมือนที่เราเคยทำตอนที่ยังเป็นแฟนกัน ฉันตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมากะว่าจะโทรไปหาเขาว่าเมือ่ไหร่จะกลับเพราะมันดึกมากๆแล้วแต่พอคิดอีกทีตอนนี้ฉันกับเขาเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วจะโทรตามมันจะดูน่าเกลียดเกินไปหรือเปล่า แต่พอคิดอีกมุมตอนที่เราเป็นเพื่อนกันฉันก็มักจะโทรหาเขาอยู่บ่อยๆถ้าตอนนี้ฉันโทรหาเขาในฐานะเพื่อนก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้งพอคิดได้แบบนั้นฉันก็ตัดสินใจเลื่อนหาเบอร์ของเจไดแต่ไม่ทันที่ฉันจะกดเบอร์ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างของเจ้าของห้องที่มาในสภาพคล้ายคนเมาใบหน้าแดงกล่ำแต่...เขาไม่ได้กลับห้องมาคนเดียว เขาเดินจับมือผู้หญิงคนนึงเข้ามาด้วยผู้หญิงคนนี้สวยมากๆสวยกว่าฉันเยอะเลยล่ะแล้วผู้หญิงคนนั้นก็มองมาที่ฉันด้วยใบหน้าสงสัย
"เธอเป็นใครมาอยู่ในห้องเจไดได้ยังไง" น้ำเสียงไม่พอใจเอ่ยขึ้น
"เอ่อคือ ฉันเป็นเพื่อนเจไดน่ะชื่อต้นหลิว" ฉันจำใจแนะนำตัวเองออกไปเพราะดูท่าทางแล้วผู้หญิงคนนี้เหมือนจะไม่พอใจที่ฉันอยู่ในห้อง
"เพื่อนเหรอ แน่ใจนะว่าแค่เพื่อน"
"อื้มเพื่อนจริงๆ เธอเป็น...แฟนใหม่ของเจไดใช่ไหม"
"แฟนใหม่??หมายความว่าไง แปลว่าก่อนหน้านี้เจไดเค้ามีแฟนมาก่อนงั้นเหรอ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเธอรู้จักไหม" น้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าเจไดเคยมีแฟนมาก่อน นั่นก็แปลว่าเจไดไม่เคยบอกว่าตัวเองเคยมีแฟนสินะไม่อย่างงั้นผู้หญิงคนนี้คงไม่ออกอาการแบบนี้
"เอ่อ...คือ" ฉันไม่รู้จะตอบคำถามแฟนใหม่ของเจไดว่ายังไงจนกระทั่ง
"พี่ไม่ต้องไปสนใจหรอก" เจไดเป็นคนตอบเองเขาหันมามองหน้าฉันแวบหนึ่งด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะหันไปซบไหล่แฟนใหม่ของเขาอย่างออดอ้อน
"ตอนนี้พี่คือแฟนผม ส่วนอดีตของผมพี่ไม่ต้องสนใจเพราะผมเองผมยังไม่ใส่ใจเลย"
สามปีต่อมา.....ต้นหลิว...หลังจากน้องเจด้าอายุได้ขวบนึงฉันก็ขอเจไดว่าอยากกลับมาเรียนต่อซึ่งเจไดก็โอเคเขาตามใจฉันอยู่แล้วค่ะแต่เขาขอให้ฉันย้ายไปเรียนที่เดียวกันกับเขาซึ่งฉันตกลงทันทีอยากจะบอกว่าฉันเชื่อฟ้งเจไดทุกอย่างเขามีเหตุผลมีความคิดที่ไกลกว่าฉันมากทั้งที่เราก็อายุเท่ากัน อ่อลืมบอกว่าตอนนี้น้องเจด้าอายุได้สามขวบกว่าแล้วนะคะแล้วตอนนี้ฉันก็เรียนอยู่ปีสามค่ะส่วนเจไดเรียนปีสุดท้ายแล้วเขาบอกว่าถ้าเขาเรียนจบเขาอยากจะเปิดบริษัทนำเข้ารถยนต์เองซึ่งอันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องเปิดบริษัทใหม่ก็ได้เพราะทุกอย่างที่พ่อแม่เขาสร้างไว้สุดท้ายแล้วก็เป็นของเขาเองทั้งหมดเพราะเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวแต่เขาบอกว่าเขาอยากสร้างอะไรด้วยตัวของเขาเองอยากทำในสิ่งที่เขาชอบจริงๆ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเขาอยากให้ฉันมั่นใจว่าเขาสามารถดูแลฉันกับลูกได้ อยากจะบอกว่าฉันภูมิใจในตัวของเจไดมากเขาเป็นทั้งสามีที่ดีของฉันเป็นทั้งพ่อที่ดีของของน้องเจด้าซึ่งอาจจะดีจนเกินไปในบางครั้ง โดยที่ช่วงที่ฉันกับเจไดมีเรียนเราจะเอาน้องเจด้าไปฝากที่บ้านของพ่อกับแม่ฉันค่ะพอเลิกเรียนเราก็จะไปรับตอนแรกก็เกรงใจพ่อกับแม่มากๆ ที่ต้องเอาลูกไ
หลายเดือนต่อมา.....เจได...หลังจากที่ทุกอย่างผ่านไปตอนนี้ทั้งหยิมทั้งพี่มิ้นรวมถึงไอ้มิคกับพรรพวกถูกจับดำเนินคดีกันหมดแล้วซึ่งโทษก็สูงมากโดยเฉพาะไอ้มิคที่อาจจะถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะตำรวจได้ตามสืบเรื่องผิดกฎหมายที่มันทำทั้งค้าประเวณี ค้ายา ส่วนหยิมกับพี่มิ้นก็น่าจะโดนหนักเหมือนกันเพราะเห็นตำรวจบอกว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยก็สมควรแล้วล่ะ ส่วนครอบครัวของพี่มิ้นผมไม่ได้ทำอะไรเพราะเห็นแก่ไอ้เวกัสที่มันก็มีส่วนช่วยให้ผมตามหาต้นหลิวจนเจอ แม้ว่ามันจะบอกกับผมจะทำอะไรก็ทำไปเลยเพราะทุกวันนี้พ่อมันก็ไม่เคยเห็นมันเป็นลูกอยู่แล้ว ขนาดเกิดเรื่องขนาดนี้พ่อกับแม่เลี้ยงมันยังโทษมันว่าเป็นเพราะมันพี่มิ้นถึงถูกจับ ตอนนี้ผมกับต้นหลิวเราแต่งงานกันแล้วครับเราจัดกันแบบเรียบง่ายเพราะผมไม่อยากให้ต้นหลิวเหนื่อยเพราะตอนนี้เธอท้องได้หกเดือนกว่าแล้ว แล้วตอนนี้ผมก็รู้แล้วด้วยว่าลูกผมเพศอะไรผมได้ลูกสาวครับ ส่วนเรื่องเรียนต้นหลิวขออาจารย์ดรอปเรียนไปก่อนถ้าคลอดแล้วค่อยกลับมาเรียนต่อเธออาจจะเรียนจบช้าไปหนึ่งปีก็ไม่เป็นไร ผมคิดเอาไว้แล้วว่าเราจะช่วยกันเลี้ยงลูกเองไม่อยากรบกวนพ่อกับแม่เพราะพวกท่านก็แก่แล้วผมอยากให้ท่านพั
ต้นหลิว....ผลัก!!! ฉันถูกพี่มิคผลักลงบนเตียงอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บไปทั่วท้องเหมือนเขาจะเมาทั้งเหล้าทั้งยาเพราะกลิ่นมันคลุ้งไปทั้งห้อง ตอนนี้ฉันไม่ได้ห่วงตัวเองฉันห่วงลูกในท้องของฉันจะได้รับอันตราย"โอ๊ย เจ็บ" "เจ็บเหรอจ๊ะน้องต้นหลิวจ๋าพี่ขอโทษนะที่ทำรุนแรง""พี่มิคหลิวขอร้องอย่าทำอะไรหลิวเลยนะ หลิวสัญญาว่าจะไม่แจ้งความถ้าพี่ปล่อยหลิว" "ปล่อยให้โง่เหรอห๊ะนังตัวดี ยังไงวันนี้แกก็ไม่รอดแน่ จัดการเลยมิคฉันจะถ่ายคลิปเอง" "แกรู้ไหมว่าฉันรอวันนี้มานานแค่ไหนแล้วนังหลิว เอาเลยพี่มิคหยิมจะช่วยถ่ายรูปแล้วก็จะเอาลงเพจมหาลัยทุกคนจะได้เห็นว่านังนี่มันร่านแค่ไหน" ฉันมองหน้าคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิท ฉันไม่คิดเลยว่าแค่ผู้ชายเพียงคนเดียวจะทำให้คนๆหนึ่งกล้าทำเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้"พวกเธอเตรียมตัวถ่ายคลิปอันสุดสยิวได้เลย555" พี่มิคพูดแล้วหันมามองฉันด้วยสายตาหื่นกามก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาอย่างช้าๆมือก็ปลดกระดุมเสื้อออกฉันรีบกระเถิบตัวจนติดหัวเตียง"อย่าทำอะไรหลิวเลยนะพี่มิค หลิวท้อง" ฉันพูดออกไปเพราะคิดว่าพวกเขาอาจจะเห็นใจแต่เปล่าเลย"ห๊ะ ว่าไงนะ""แกท้อง??""หึแกท้องงั้นเหรอนังหลิวก็ดีมันจะได้
ต้นหลิว...."แกมาที่นี่ได้ยังไง หรือว่าแกร่วมมือกับคนพวกนั้น""ใช่ฉันเป็นคนคิดแผนนี้เอง""แกว่าไงนะ""ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เกลียดแกอยากให้แกได้รับความอับอายยังไงล่ะ""ฉันทำอะไรให้แกห๊ะหยิม""แกคงไม่รู้ว่าฉันแอบชอบเจไดมานานแล้วตั้งแต่เขาคบอยู่กับแก ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แกเลิกกับเขาแต่สุดท้ายแกก็เสือกกลับไปคบกับเขาอีก""ถึงฉันจะไม่กลับไปคบกับเจไดเจไดก็ไม่มีวันหันมาสนใจแกหรอก""แกรู้ได้ยังไงห๊ะ ฉันน่ะทั้งสวยกว่าทั้งเซ็กซี่มีดีกว่าแกมีเหรอเขาจะไม่สนใจฉัน""หึ ถ้าเขาสนใจแกเขาคงตอบสนองแกตั้งแต่วันที่แกไปอ่อยเขาในห้องน้ำแล้วล่ะ""แกรู้เรื่องนี้งั้นเหรอ""ฉันรู้หมดทุกอย่างนั่นแล่ะ รู้แม้กระทั่งเรื่องที่แกร่วมมือกับไอ้มิคเอายาปลุกเซ็กส์ใส่ในน้ำส้มให้ฉันกินวันนั้น""5555 ฉลาดดีนี่แต่เสียใจด้วยนะที่แกฉลาดช้าไปหน่อยเพราะไม่งั้นแกคงไม่โง่ยอมเลิกกับเจไดง่ายๆเพราะถูกพวกฉันเป่าหูแกหรอก""ถามจริงๆเถอะหยิมแกเคยเห็นฉันเป็นเพื่อนแกบ้างไหม""ไม่เคย ที่ฉันเข้าหาแกเพราะเจได""ทั้งที่แกรู้ทั้งรู้ว่าเจไดเป็นแฟนฉันเนี้ยนะ""ใช่ ฉันถึงเข้าหาแกแล้วพยายามเป่าหูแกให้เลิกกับเจไดยังไงล่ะ""ฉันไม่น่าคบกับแกเป็นเพ
เจได....เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงที่ผมตามหาต้นหลิวแต่ก็ยังหาเธอไม่พบ ใจผมร้อนรนกระวนกระวายมากเลยตอนนี้มันผิดปกติที่จู่ๆต้นหลิวจะหายไปดื้อๆแบบนี้ ผมตัดสินใจไปขอให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของทางห้างขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าต้นหลิวหายไปตอนไหน เริ่มจากที่เธอเดินแยกกับผมไปเข้าห้องน้ำ ตอนนี้ผมใจจดจ่ออยู่กับหน้าจอมอนิเตอร์ผมอยากรู้ว่าต้นหลิวเธอหายไปไหนเพราะตอนนี้ผมติดต่อต้นหลิวไม่ได้เลยเหมือนเธอปิดเครื่อง ผมเป็นห่วงต้นหลิวมากไหนจะลูกในท้องอีก ผมภาวนาว่าจะไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกับเธอ ผมพยายามโทรหาต้นหลิวอีกครั้งเผื่อว่าเธอจะเปิดเครื่องและในขณะที่ผมกำลังก้มหน้ากดมือถือโทรหาต้นหลิวสลับกับมองหน้าจอพี่เจ้าหน้าที่ชี้ให้ผมดูร่างเล็กๆที่เดินออกมาจากห้องน้ำแต่...เธอไม่ได้เดินออกมาแค่คนเดียวมีพี่มิ้นเดินตามออกมาด้วย"ใช่คุณผู้หญิงคนนี้ใช่มั้ยครับแฟนของคุณ""ใช่ครับคนนี้แล่ะครับ" หลังจากนั้นพี่เจ้าหน้าที่ก็ไล่เปิดดูกล้องทุกตัวเพื่อให้ผมได้เห็นว่าต้นหลิวเดินไปทางไหนชั้นไหนจนกระทั่งร่างของเธอหายเข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่งโดยมีพี่มิ้นเดินตาม จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีต้นหลิวก็เดินออกมาจากร้านแ
เจได.....หลายอาทิตย์ต่อมา....ช่วงนี้ปิดเทอมพอดีผมกับต้นหลิวเราก็เลยได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่คอนโดของผมจะมีออกไปซื้อของเข้าห้องกันบ้างคือถ้าไม่จำเป็นเราสองคนแทบไม่ได้ออกไปไหนกันเลยเราสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันนอนดูซีรีส์ด้วยกันทำอาการทานด้วยกัน ผมโคตรมีความสุขเลยความสุขที่เคยหายไปและผมจะไม่มีวันทำให้มันหายไปอีกแล้ว"เจได หลิวมีอะไรจะให้ดู" ในขณะที่ผมกำลังยืนทำอาหารเย็นของเราสองคนอยู่ต้นหลิวก็เดินมาหาเอามือไว้ข้างหลังเหมือนมีอะไรซ่อนไว้"อะไร""หลับตาก่อนสิ""ทำไมต้องหลับตาจะแกล้งอะไร""เปล่าแกล้งซะหน่อย หลับตาเร็วไม่หลับตาหลิวงอนจริงๆนะ>อืมม อืมมก็ได้ อ่ะหลับตาละเอาไงต่อ" ผมทำตามที่เธอบอกจากนั้นต้นหลิวก็ดึงมือผมไปและวางอะไรบางอย่างบนฝ่ามือของผมจากการสัมผัสลักษณะของที่อยู่ในมือมันจะเป็นแท่งไม่ยาวมาก"อะไรอ่ะ" ผมถามทั้งที่ยังหลับตา"ลืมตาได้" ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็เห็นเป็นแท่งสีขาวๆแท่งนึงที่ตรงกลางมีขีดสีแดงขึ้นสองขีด"หลิว..เป็นโควิดเหรอ" ผมถามอย่างพาซื่อเพราะมันเหมือนที่ตรวจโควิดจริงๆ เพี๊ยะ!!!"บ้า!!! พูดไม่เป็นมงคลอย่ามาแช่งกันสิ" ผมถูกต้นหลิวฟาดแขนไปหนึ่งทีเจ็บๆ"ตืทำไมเนี้ยะเจ็บนะ







