“น้ำผึ้งเอ๊ย หยิบของให้แม่หน่อยลูก”
“จ้า แม่จ๋า” สาวน้อยที่ถูขนานนามว่าน้ำผึ้งลากเสียงยาวขานรับผู้เป็นมารดาพร้อมกับหาสิ่งที่นาง ดวงดี พลีชีพ ผู้เป็นมารดาต้องการ
น้ำผึ้ง หรือ ดรุณนุช พลีชีพ ในวันนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวหน้าตามอมแมมอีกแล้ว แต่เธอโตเป็นสาวสะพรั่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลยทีเดียวและสวยหาตัวจับอยาก ด้วยดวงหน้ารูปไข่นวลใส ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตสุกใส ที่มักประดับรอยยิ้มหวานบนเรียวปากอวบอิ่มสีเรื่อ มันทำให้คนมองใจหวิวๆ ได้อย่างน่าทึ่งทั้งๆ ที่เธอแค่ยิ้มเท่านั้น
ร่างผอมดำ และเก้งก้างครั้งวันวานไม่มีให้เห็นแล้ว มีเพียงหญิงสาวรูปร่างโปร่งระเหิดระหง ช่วงขาเรียวยาว เอวบางรับกับสะโพกมนกลมกลึง และเหนือสิ่งอื่นใด ทรวงอบอวบอัดคัพดี ที่ทำให้เธอกลายเป็นสาวสวยเซ็กซี่ไปโดยปริยายและยิ่งเมื่อเดือนก่อน มีหนังสือแฟชั่นขอมาถ่ายแบบเพื่อขึ้นปกหนังสือแฟชั่นชื่อก้องโลกฉบับหนึ่ง และก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเกาะที่ต้องการประชาสัมพันธ์เกาะไปในตัวในบางมุม และบังเอิญเหลือเกินที่นางแบบคนดังที่ถูกทาบทามมาถ่ายแบบป่วยกะทันหันทางทีมงานจึงต้องหานางแบบ แบบด่วนจี๋และสายตาอันแหลมคมประดุจเหยี่ยวทะเลของสไตลิสต์ชื่อดังก็มาโป๊ะเชะที่สาวน้อยหน้าคม ที่กำลังทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับของรีสอร์ทซึ่งเธอมาช่วยงานในตำแหน่งนั้นชั่วคราว
ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอแต่งกายด้วยชุดประตัวพนักงานที่เป็นเพียงเสื้อแขนกระบอกติดกระดุมหน้าตลอดแนวสีครีมอ่อนเกือบขาว ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายทอมือที่ทอขึ้นใช้สำหรับพนักงานที่ทำงานในรีสอร์ตบนเกาะพราวแสงจันทร์ และนุ่งผ้าถุงลายดอกไม้สีสดใสที่ใช้สีที่ได้จากธรรมชาติ อันเป็นเครื่องแต่งกายที่เรียบง่ายและเป็นแนวการแต่งกายที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและการแสดงออกถึงความเรียบง่ายและรักความสงบให้กับผู้มาเยือนได้รับรู้ว่า เกาะพราวแสงจันทร์คือสถานที่พักผ่อนที่เน้นความเป็นอยู่ที่ธรรมดา เรียบง่ายแบบอยู่กับธรรมชาติจริงๆ และใช้ชีวิตในการมาพักผ่อนบนเกาะในแบบของคนพื้นที่มากกว่าจะสนองความต้องการอันหรูหรา และฟุ้งเฟ้อ และเสพติดความฟุ่มเฟือย
การถ่ายแบบเป็นไปด้วยดี แต่รูปชุดสุดท้ายที่ดรุณนุชสวมใส่ถ่ายแบบนั้น ซึ่งเป็นเพียงผ้าคาดอกสีน้ำตาลไหม้ซึ่งพาดพันรอบอกคัพซีที่เผยความอวบอิ่มแบบที่ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ เปิดเผยเอวบางอรชร และสะโพกกลมกลึงภายใต้ผ้าถุงลายดอกไม้สีสดใสงดงาม แต่ชายผ้านั้นกลับแหวกสูงขึ้นมาถึงหน้าขา โชว์เรียวขายาวนวลเนียน และหญิงสาวแค่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนชายหาดที่น้ำทะเลกำลังซัดเข้าหา ร่างกายบางส่วนเปรอะเปื้อนด้วยเม็ดทรายขาวสะอาด ใบหน้างามมองกล้องด้วยแววตาสดใส ริมฝีปากแย้มยิ้มอย่างน่ารัก
ถึงแม้ว่าภาพที่ออกมาดรุณนุชจะไม่ได้โพสท่าเย้ายวนหรือเซ็กซี่อย่างที่นางแบบถ่ายแบบลงหนังสือบางเล่ม แต่ท่าทางของสาวน้อยชาวเกาะที่ดูเป็นธรรมชาติและรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งตาและริมฝีปากอวบอิ่มสีเรื่อ อวดเรียวฟันสวยราวไข่มุกนั้นก็สะกดสายตาใครต่อใครที่ได้เห็นให้หลงใหลได้ไม่ยาก และภาพชุดสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้เธอกลายเป็นนางแบบหน้าใหม่ที่แจ้งเกิดเพียงแค่หนังสือวางแผงวันแรกและขายดิบขายดีจนทางนิตยสารเล่มนั้นต้องมาขอให้เธอเป็นแบบให้อีก แต่สุดท้ายไม่ว่านิตยสารเล่มไหนๆ ก็รับประทานแห้วไปตามๆ กันเพราะเธอปฏิเสธทุกฉบับ เธอชอบชีวิตแบบเดิมมากกว่าชีวิตที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม
“วันนี้ได้ข่าวว่านายหัวให้ไอ้เด่นดังไปรับคนมาทำงานแทนคนตกแต่งรีสอร์ตคนเก่า ไม่รู้ว่ามาถึงหรือยัง”
“จริงเหรอแม่ แล้วเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะแม่”
“ผู้หญิงมั้ง เห็นว่างั้นนะไอ้สองตัวนั่นบอกว่าเป็นทอมกับดี้ด้วยว่ะไอ้ผึ้ง” นางดวงดีเล่าให้ลูกสาวฟังขณะที่หญิงสาวช่วยโขลกน้ำพริก
“โห แม่รู้ดีขนาดนั้นเชียว เขาอาจจะไม่เป็นก็ได้”
“ถ้าไม่เป็นก็ดีสิ เห็นสองตัวนั่นบอกว่าเธอสวยน่ารักมาก ถ้าพวกเธอไม่เป็นอย่างนั้นก็ดีสิวะ นายหัวของเราจะได้มีหญิงสาวสวยๆ มาป่วนใจให้หายเศร้าบ้าง”
“แม่นี่คิดไปไกลนะ อย่างนายหัวน่ะวันๆ ฉันเห็นแต่อยู่กับลิง ต้นไม้ ต้นกาแฟ แล้วก็หอย...”
โป้กกก!!! เสียงทัพพีโขกลงมากลางกระหม่อมบางทันทันควัน
“โอ๊ยอะไรน่ะแม่เอาทัพพีมาโขกหัวผึ้งทำไม เจ็บนะนี่อูย จะโนรึเปล่ายิ่งวันนี้มีทัวร์นักเรียนมาด้วย แม่อ่ะ” หญิงสาวบ่นอุบมือบางลูบหน้าผากมนป้อยๆ
“ก็แกมันทะลึ่ง เป็นสาวเป็นนางพูดออกมาได้ ว่าวันๆ นายหัวอยู่แต่กับหอย นังลูกบ้า”
“อ้าวแม่ก็ ผึ้งยังพูดไม่จบ ที่ว่าอยู่กับหอยคือหอยมุกที่ฟาร์มหอยมุกของนายหัว โฮๆๆ แม่ก็เล่นซะหัวเกือบแตก ยายดวงดีทำไมใจร้ายกับลูกสาวแสนสวยแบบนี้” สาวน้อยแกล้งร้องคร่ำครวญอย่างน่าหมั่นใส้ และเรียกค้อนงามๆ จากคุณนายดวงดี เป็นรางวัล
“ก็แกเล่นพูดไม่จบนี่หว่า เอ้ากับข้าวเสร็จแล้ว รีบกินจะได้รีบไปทำงาน แล้วอย่าลืมเอาขนมนี่ไปให้นายหญิงด้วยล่ะ อ้าวแล้วนี่เจ้ากุ้งแก้วไปไหนล่ะ”
“โน่นมาแล้ว ตุ๊ต๊ะมาเชียว เดี๋ยวต้องให้มันลดความอ้วนบ้างแล้ว เจ้านี่ชักจะหนักเกินไปแล้ว”
เจ้ากุ้งแก้ว ลิงน้อยที่พลัดหลงกับพ่อแม่ซึ่งเป็นลิงจากคณะละครสัตว์ที่ตระเวนเล่นไปตามที่ต่างๆ แล้วแต่เจ้าของคณะจะพาไป มันเป็นลูกลิงเพศผู้ที่พี่ชายฝาแฝดทั้งสองได้มาในขณะที่ไปดูงานกับนายหัวที่เกาะสมุย ในตอนนั้นเจ้าลิงน้อยมีสภาพที่ร่อแร่เต็มทีเพราะขาดอาหารและหนีการรังแกจากเด็กๆ และบรรดาสุนัขจรจัดที่จ้องตะครุบเจ้าลิงน้อยที่โซซัดโซเซอย่างไร้จุดหมาย และการขาดอาหารหลายมื้อทำให้มันเดินมาเป็นลม ต้องใช้คำว่าลิงเป็นลมไม่ใช่ลิงลม เพราะมันเดินมาล้มลงต่อหน้าพี่ชายฝาแฝดของเธอ และพวกเขาก็ได้นำมันมารักษาดูแลและเลี้ยงดูจนทุกวันนี้
ตอนที่ 16.ในตอนนี้มันไม่มีคราบของลิงจรจัดผู้หิวโหยอีกต่อไปเพราะมันได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและกินดีอยู่ดีจนเกินไป บัดนี้มันก็เลยอ้วนจนแทบจะเดินไม่ไหว จากเมื่อก่อนนี้มันสามารถปีนต้นมะพร้าวเก็บมะพร้าวได้เร็วและเยอะโดยที่ไม่ต้องมีเชือกหรือคนคอยคุม มันแสนรู้ราวกับเป็นคนๆ หนึ่งเลยทีเดียวทั้งขี้เล่น แสนงอน และร้ายกาจอย่างที่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่มันติดที่ว่ามันเป็นลิงแต่เจ้ากุ้งแก้ว ก็เป็นลิงที่ฉลาดมากๆ แต่หลังจากที่มันซนจนได้เรื่องมีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันแอบไปเล่นน้ำทะเลและเผลอไปเอาแมงกะพรุนไฟมาเล่นทำให้โดนพิษแมงกะพรุนที่ขาซ้ายทำให้มันไม่สามารถใช้งานขาซ้ายได้คล่องแคล่ว และไม่อาจจะปีนเก็บมะพร้าวได้ ครั้งแรกที่มันรู้ตัวว่าขาของมันไม่เหมือนเดิม มันคงจะเสียใจมากและถ้าเป็นคนมันก็คงจะแอบร้องไห้เป็นแน่ เจ้ากุ้งแก้วเกิดอาการซึมเศร้าไปหลายวัน คนในครอบครัวของดรุณนุช และที่เรือนใหญ่ยังต้องมาคอยปลอบใจและหาของขวัญมาเยี่ยมอาการซึมเศร้าอยู่นานนับเดือนกว่าที่มันจะหาย ขนาดว่าเจ้าคอบร้าสุนัขตัวโปรดของนายหัวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับมัน ยังต้องยอมสงบศึก ไม่กวนไม่แกล้งมันชั่วคราวแต่พอหายมันก็กลายเป็นลิงที่ขี้
ตอนที่ 17.เท่านั้นแหละไอ้ท่าทางที่เหมือนระทดระทวยลิ้นห้อยนั้นก็หายไปคงเหลือแต่ลิงอ้วนที่ยังคงความไวเหมือนลิงกระโดดขึ้นนั่งเบาะนุ่มหลังหญิงสาวผู้ทำหน้าที่ปั่นจักรยานให้มันนั่งในท่าของพญาลิงอ้วน ที่น่าหมั่นไส้ต่อผู้พบเห็น ดรุณนุชปั่นจักรยานคู่ใจมุ่งไปยังเรือนใหญ่เพื่อเอาขนมแสนอร่อยไปฝากนายหญิงวาริน โดยหารู้ไม่ว่าเวลาแห่งอิสรภาพของเธอใกล้หมดลง...“เราได้เจอกันแน่ ยัยลูกลิงแสนหวาน”ริค ลดกล้องส่องทางไกลในมือลงเมื่อเป้าหมายหายลับไปในดงมะพร้าวที่เรียงรายอยู่เบื้องล่าง การล่าเหยื่อต้องใจเย็นๆ ให้เหยื่อตายใจ แล้วค่อยตะครุบชายหนุ่มยิ้มในหน้าด้วยสายตาหมายมาด ถ้าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมาเห็นคงต้องรู้สึกเย็นวาบหนาวไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียวแพขนตางอนงามกระพือเบาๆ ดวงตากลมใสพยามยามปรับความคมชัดของภาพที่เห็นให้ชัดเจน และภาพต่างๆ ก็เริ่มชัดเจนและพอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเป็นอะไรไปและเจอกับอะไร ร่างเล็กบางทะลึ่งพรวดจากที่นอนหนานุ่มทันทีและพอหันมาเจอกับภาพเจ้าหมาหน้าขนที่เธอไม่เคยปลื้มมันเลยสักครั้งในชีวิต ที่ยืนแยกเขี้ยวอยู่ข้างเตียงพร้อมกับ...โฮ่ง โฮ่ง /“กรี๊ดดดด” ร่างเล็กบางพอได้สติก็ต้องกรีดร้องเสียงหลงอีก
ตอนที่ 18.“สวัสดีค่ะหนูอรุณนารี เรียกแมงปอก็ได้ค่ะ เอ่อ คือแมงปอมาทำงานแทนเพื่อนน่ะค่ะ”“อ๋อ มาแทนเพื่อนคนที่ประสบอุบัติเหตุน่ะเหรอลูกโถแม่คุณพอมาถึงก็เป็นลมเป็นแล้ง แล้วกินอะไรมารึยัง ตื่นมาคงหิว ไปๆ กินข้าวเย็นกันนี่ก็ได้เวลาแล้วไปลูกมาร์ค เจ้าคอบร้าแกอย่าสร้างปัญหาอีกล่ะ” นายหญิงวารินเอ่ยปลอบลูบหลังหญิงสาวที่นางเองก็พอใจจนอยากจะได้มาเป็นลูกสาวเพราะนางมีแต่ลูกชายและหันมาปรามเจ้าหมาน้อยแต่ตัวไม่น้อยที่กำลังจะเดินหน้าเป็นมาข้างๆ หญิงสาวที่ทำท่าหวาดหวั่นทันทีที่เห็นเจ้าหมาน้อยขยับตัวและทำท่าว่าจะเดินมาหาเธอ และพอมันเจอนายหญิงว่ามันก็ทำหน้าม่อย ทำท่าแสนจะน่าสงสารพลางร้องหงิงๆ เดินไปคลอเคลียขาแกร่งของ เหมันต์ผู้เป็นนายอย่างขอความเห็นใจ“ไม่ต้องไปอ้อนเจ้านายแกเลยนะ เพราะแกทำให้หนูแมงปอตกใจจนเป็นลมเพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ มีความผิดติดตัวนะเราน่ะ ไปลูกไม่ต้องสนใจ ปล่อยไว้นี่แหละทั้งคนทั้งหมาเจ้าปัญหาพอๆ กัน”ว่าแล้วนางก็จับจูงมือเล็กบางของอรุณนารีออกจากห้องไป ปล่อยให้ทั้งสุนัขและเจ้านายหน้าดุ หันมามองหน้ากันอย่างเซ็งๆ“เพราะแกเจ้าคอบร้า เห็นไหมฉันโดนคุณแม่ดุเลยเจ้าปัญหานะเราน่ะ”เวลาใกล้พลบค่
ตอนที่ 19.นายหญิงวารินอธิบายยืดยาวขณะที่มาส่งเธอที่ห้องของเธอห้องเดียวกับที่เธอฟื้นขึ้นมาพร้อมกับทำเรื่องน่าอายนั่น“ค่ะขอบคุณมากนะคะที่กรุณาแมงปอ”“โอ๊ย มันเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านอยู่แล้วจ๊ะ และแม่ก็ถูกใจหนูมาก เอาล่ะอาบน้ำพักผ่อนได้แล้วพรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า ขอบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะพราวแสงจันทร์สวยไม่แพ้ที่ไหนในโลกเชียวนะ”“จริงเหรอคะ แมงปออยากเห็นจัง”“อยากเห็นก็ต้องรีบเข้านอนจ๊ะเด็กดี”“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณแม่ ฝันดีนะคะ”หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับถือโอกาสหอมแก้มที่ยังคงความงดงามและหอมกรุ่นของนายหญิงอย่างที่เคยทำกับบิดามารดาของตนเองก่อนเข้าห้องของตนไปด้วยรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้บ้านทั้งบ้านของนางสดใส นายหญิงวารินก็ต้องหน้าแดงนิดๆ ด้วยความตื้นตันมือที่เริ่มเหี่ยวย่นกุมซีกแก้มที่ถูกหอมจากหญิงสาวน่ารักที่ชื่อแมงปอ อย่างปลาบปลื้ม โอ นางอยากได้ลูกสาวเหลือเกินอยากได้มากๆ และถ้าได้ลูกสาวชื่อแมงปอ มันจะดีสักแค่ไหนกันหนอชายหนุ่มมองผู้เป็นแม่ที่เดินเอามือกุมแก้มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานั่งข้างผู้เป็นพ่ออย่างงงๆ ว่าแม่ของเขายิ้มดีใจอะไรนักหนาจึงอดแซวไม่ได้“สงสัยนายหญิงวารินกำลังตกหลุมรักใครรึเปล่า
ตอนที่ 20.แต่ในขณะนั้นเอง ภาพของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางคลื่นลมที่โหมกระหน่ำ ก็ดึงสายตาของชาวเกาะพราวแสงจันทร์ให้เขม้นมอง และเมื่อเห็นชัดเจนความปลื้มปิติก็เข้ามาท่วมท้นในใจผู้ที่รักและห่วงใยนายหัวของเขา นายหัวมาร์ค เหมันต์ หิรัญวารินทร์ ภาพเจ้าสุนัขตัวน้อยที่พยายามว่ายน้ำฝ่าคลื่นลม อย่างทุลักทุเลพาร่างสูงใหญ่ที่หมดสติของเหมันต์ว่ายเข้าฝั่งในวันทะเลคลั่ง ยังฝังอยู่ในความทรงจำของชาวเกาะพราวแสงจันทร์ ผู้คนในเหตุการณ์วันนั้นต่างสรรเสริญเยินยอในความกล้าหาญของมัน และเมื่อเหมันต์ได้รับการรักษาจนหายดีก็นำมันมาเลี้ยงอย่างถาวรหลังจากที่นำมันไปให้หมอเก่ง ที่เรือนพยาบาลดูแลรักษามันจนขาที่หักและบาดแผลบนตัวมันหายดี และตั้งชื่อให้มันว่า คอบร้า ตามตัวเอกในหนังสือการ์ตูนที่เขาชอบอ่านและเก็บสะสมไว้และหลังจากนั้นเหมันต์ก็ไม่เคยแตะพวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือของมึนเมา อีกเลยพร้อมๆ กับภาพรอยยิ้มสดใสและความอบอุ่นอ่อนโยนของเขาก็หายไปด้วย เหลือไว้เพียง นายหัวมาร์คผู้เย็นชา และไร้รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นนับตั้งแต่นั้นมา เจ้าคอบร้า ก็เป็นที่รักและขวัญใจของคนทั้งเกาะ และมันก็หวงนายของมันมาก
ตอนที่ 21.“อยากได้อะไรอีกล่ะแก มาอ้อนแต่เช้า เอ้านี่ชินสุดท้ายแล้วนะ”ชายหนุ่ม ก้มถามเจ้าคอบร้าที่นัวเนียคลอเคลียอยู่กับลำขาแกร่ง ก่อนหยิบช็อกโกแลตเนยถั่วที่มันชอบมากและเหลือชิ้นเดียวและเป็นชิ้นสุดท้ายแล้วนั้นให้มันก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นเจ้าลิงน้อยแต่ตัวไม่น้อย ซึ่งกำลังมองช็อกโกแลตเนยถั่วที่เป็นของโปรดของมันเหมือนกันนั้นตาละห้อยน่าสงสารนัก“อ้าวน้ำผึ้งกับกุ้งแก้วมาแต่เช้าเลย แต่แกกุ้งแก้วอดกินนะเพราะมันมีแค่อันเดียวและฉันก็ให้คอบร้าไปแล้ว แต่เอะ มันแบ่งได้นี่ คอบร้าแกแบ่งให้กุ้งแก้วด้วยสิ”เหมันต์บอกกับคอบร้าที่ยืนคาบช็อคโกแลตแท่งโต พลางแกว่งหางอย่างอารมณ์ดี ส่วนเจ้ากุ้งแก้วก็นั่งเชิดหน้าทำเป็น วางมาดหยิ่งผยองอยู่บนตักหญิงสาวหน้าใส ใบหน้ารูปหัวใจเล็กๆ นั้นแดงปลั่ง ดวงตาใสแจ๋วนั้นพราวด้วยรอยยิ้ม อรุณนารีหัวเราะกับกิริยาของเจ้าสองตัวที่ทำท่าราวกับเด็กน้อยน่ารักหยอกเย้ากัน เสียงหัวเราะนั้นใสกังวานน่าฟังจนเหมันต์เองยังหยุดที่จะฟังเสียงนั้นราวต้องมนต์เจ้าคอบร้าที่ตอนนี้เป็นต่ออยู่คาบช็อคโกแลตแท่งโตเหวี่ยงไปมาอย่างยั่วเย้าคู่อริ และทำไปเดินเฉียดหญิงสาวที่เจ้ากุ้งแก้วนั่งตักอยู่ ซึ่งเธอ
ตอนที่ 22.ผาแสงจันทร์...เป็นอีกมุมหนึ่งของเกาะพราวแสงจันทร์ ซึ่งเป็นหน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบเกาะพราวแสงจันทร์ ลักษณะเป็นหน้าผากว้างราบเรียบและที่มีอาคารหลังเล็กที่ออกแบบให้กลมกลืนกับแนวโขดหินทำให้มองดูเหมือนไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ที่นี่จะเป็นทั้งอาคารควบคุมระบบไฟฟ้าและระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของเกาะเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยแก่ทุกชีวิตบนเกาะนี้ ระบบต่างๆ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยจนไม่มีใครคาดคิดว่าเกาะที่แสนสงบและสวยงามเหมือนจะห่างไกลความเจริญจะมีเจ้าเครื่องมือสื่อสารและระบบต่างๆ ที่ทันสมัยเหล่านี้“นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”เหมันต์เอ่ยถามชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไม่แพ้เขาแต่รูปร่างเพรียวบางกว่าเขาเล็กน้อย ดวงตาคมหวานสีเขียวมรกตวาววามอย่างคนเจ้าสำอางและรักความสำราญ ใบหน้าคมสวยราวอิสตรีหากไม่ติดที่ไรเคราเขียวครึ้มเหมือนเจ้าตัวเพิ่งจะโกนหนวด ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อแย้มพรายอย่างเคยชิน“มาได้สามสี่วันแล้วแต่ไม่อยากเผยตัวให้เหยื่อตื่นตระหนก” ริค เวลส์ เอ่ยยิ้มๆ พลางจิบกาแฟในมือหนาทว่าเรียวสวย ดวงตาสีมรกตมองไปยังท้องทะเลที่ตอนนี้พราวระยับด้วยแสงแดดยามสายของวัน“หึหึ นายเอาจริงรึไง ขอบอกไว้ก่
ตอนที่23. สาวน้อยแสนสวยเอ่ยบอกเธอขณะพาเดินชมบ้านพักที่มีอยู่ทีละหลัง ซึ่งปลูกสร้างด้วยไม้เสียส่วนใหญ่และหลังคาก็มุงด้วยหญ้าและใบจากอย่างดีในบ้านพักแต่ละหลังจะมีสระว่ายน้ำเล็กๆ อยู่ตรงกลางกลางบ้านพัก เชื่อมระหว่างห้องนอน และห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน และตรงระเบียงนั่งเล่นก็สามารถชมวิวของทะเลงามได้มุมที่สวยแทบทุกหลัง ดรุณนุชให้เหตุผลว่าการที่ต้องมีสระว่ายน้ำไว้กลางบ้านเพื่อให้ความเย็นของน้ำระบายอากาศที่ร้อนชื้นไปในตัวบ้านพักที่นี่สร้างแบบประตูหน้าต่างเปิดโล่งได้ตลอดบานเพื่อรับลมทะเล และมีแอร์ที่ใช้ระบบเปิดปิดแอร์ด้วยระบบอัตโนมัติคือ ถ้าแขกที่มาพักเปิดแอร์ทิ้งไว้โดยไม่มีคนอยู่หรือเปิดแอร์โดยที่ไม่ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยเกินสิบนาทีแอร์จะปิดเองโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นการรักษาสภาพของแอร์และใส่ใจในการประหยัดพลังงาน และมองเห็นความมักง่ายของผู้ที่มาพักซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใคร่จะใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่าตนเองจ่ายเงินเข้าพักแล้วจะเปิดจะใช้อะไรเท่าไหร่ก็ได้ และนั่นมันทำให้คนไทยติดนิสัยฟุ่มเฟือยและไม่เห็นคุณค่าของข้าวของเครื่องใช้ หรือสภาพแวดล้อม ซึ่งนับวันบ้านเมืองเรากำลังประสบปัญหาสภาพแ
ตอนที่ 173.บรรยากาศบ้านหลังงามย่ำแย่ อึมครึมมากขึ้นทุกวันๆ เจ้ากุ้งแก้วและจัสมินเองก็ไม่ได้มีความสุขไปด้วยมันทั้งสองตัวเองก็เครียดจนล้มป่วยเพราะทั้งอาหารและอากาศที่แตกต่างอีกทั้งความเซื่องซึมและไม่ร่าเริงของดรุณนุชจึงทำให้พวกมันทั้งสองพลอยซึมเศร้าไปด้วย แต่ความเย็นชาหมางหมองดังกล่าวไม่ได้รอดพ้นสายตาผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนเช่นนายใหญ่ทั้งสองของคฤหาสน์แห่งเวลส์ไปได้เพราะพวกเขาแอบสังเกตลูกๆ มาได้สักระยะหนึ่ง คุณราเชลจึงต้องเรียกบอดีการ์ดคู่ใจของริคมาไถ่ถาม“พอกันทั้งคู่ ท่ามากปากหนักเฮ้อ ลูกชายคุณก็อายุไม่น้อยแล้วนะคะราฟ ทำไมถึงได้ขี้ขลาด ท่ามากขนาดนี้นะ แล้วเมื่อไหร่เราจะได้อุ้มหลานล่ะคะ” คุณราเชลบ่นให้สามีอย่างฉุนๆ เมื่อนึกถึงความท่ามากของบุตรชายช่างเหมือนบิดาตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด เพราะกว่าจะเอ่ยปากขอนางแต่งงาน นางก็เกือบต้องได้แต่งงงานกับชายหนุ่มที่ทางครอบครัวหาไว้ให้“โธ่ที่รัก จะมาว่าแต่ริคเป็นลูกผมคนเดียวได้ยังไงเล่า ก็ลูกบังเกิดเกล้าของคุณเหมือนกันนั่นแหละน่า” สองสามีภรรยาต่างเง้างอดใส่กันจนไมค์และเจมส์ที่ถูกสั่งให้คอยดูแลความปลอดภัยให้กับดรุณนุชที่บ้านเป็นกรณีพิเศษถึงกับส่ายหัวมองหน้าก
ตอนที่ 172. “ใช่ลูก ถึงแล้วก็ส่งข่าวมาบ้างนะ”นายใหญ่เสริมภรรยาพลางสวมกอดชายหนุ่มและเด็กชายตติยะอย่างรักใคร่เอ็นดูแม้จะได้รู้จักเด็กชายเพียงไม่นานแต่ความเฉลียวฉลาดเกินวัยก็ทำให้เขานึกถึงลูกๆ ในวัยเด็ก“ครับ” ริคตอบสั้นๆ เหมันต์ก็เดินเข้ามาตบบ่าเขาเบาๆ“ฉันคงคิดถึงนายเหมือนกัน ขอให้โชคดีเพื่อน ฝากน้องสาวฉันด้วยดูแลเธอดีๆ ล่ะ”แล้วชายหนุ่มทั้งสองก็กอดกันและตบหลังกันเบาๆ อย่างให้คำมั่นสัญญา ก่อนที่เหมันต์จะผละออกมาโอบกอดร่างบางของดรุณนุชที่เพิ่งผละจากอกของนางดวงดี“เราก็ด้วยนะเด็กดื้อเพลาๆ ลงบ้างไอ้นิสัยรั้นๆ น่ะรู้ไหม” เหมันต์สั่งสอนเด็กดื้ออย่างเอ็นดู“พี่มาร์คก็พูดเหมือนแม่กับพี่ดีเลย น้ำผึ้งไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ”“ใช่ ไม่ใช่เด็กๆ แต่เป็นสาวและมีสามีแล้วด้วย”เหมันต์ต่อให้และสาวน้อยก็ได้แต่พ้ออย่างขัดใจนิดๆ เธอไม่ได้อยากตามริคไปเลย แต่ถ้าเธอไม่ไป เธอเองก็ต้องโหยหาเขา และมารดาของเธอเองก็คงไม่ยอมให้เธออยู่ที่นี่ด้วยเพราะว่าเธอออกเรือนมีสามีแล้ว สามีภรรยาควรจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าที่ไหนก็ตามและอีกหลายๆ เทศนาซึ่งมารดาและนายหญิงวารินบอกกล่าวแก่เธอ“พี่น้ำผึ้งกลับมาเยี่ยมหนูดีกับพี่แ
ตอนที่ 171.“ให้มันจริงเถอะ” ก่อนที่สองหนุ่มจะต่อปากต่อคำกันริคก็เดินขึ้นเรือนมาด้วยใบหน้าที่เหมือนคนอกหักรักคุดอย่างไรอย่างนั้น“อ้าวพี่ริคมาแต่เช้าเลย มาครับเรากำลังจะทานข้าวกันพอดี” วสันต์เอ่ยชวนอย่างแช่มชื่น “อ้าวแล้วน้ำผึ้งล่ะครับ” คิมหันต์ถามอย่างแปลกใจ“น้ำผึ้งพาหนูดีไปทานข้าวกับพี่ๆ ที่บ้านน่ะเห็นว่าหนูดีกลัวคิมมากเลยไม่กล้าขึ้นเรือนมา” ริคเล่าเรียบๆ แต่คนฟังถึงกับหน้าเสียไปเล็กน้อยแต่ก็ปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉยโดยเร็วจนไม่มีใครทันสังเกต“ว่าแต่ทุกคนอยู่ที่ห้องอาหารใช่ไหม”“ครับ เราไปกันเถอะ” วสันต์ตอบ แล้วสามหนุ่มก็เดินไปที่ห้องอาหารซึ่งตอนนี้นายหญิงวารินและอรุณนารีกำลังลำเลียงอาหารออกมาวางบนโต๊ะตัวสวยโดยมีลูกมือตัวโตคอยช่วยถือนั่นถือนี่ให้ไม่ห่างกายจนนายหญิงรู้สึกเวียนหัวคนติดเมียจนอยากจะเอาตะหลิวฟาดกบาลสักทีด้วยความหมั่นไส้ แต่ทำได้เพียงค้อนลูกชายคนโตปะหลับปะเหลือก“โอ๊ยเห็นทีเช้านี้กับข้าวคงหวานไปหมดนะว่าไหมครับ”“ใช่ไม่หวานอย่างเดียวนะ คงมีมดตกลงไปในกับข้าวบ้างล่ะงานนี้”“นี่นายสองคนไม่ต้องมากินข้าวร่วมกับฉันกับเมียก็ได้นะไปเลยไปๆ กินที่รีสอร์ตโน่นเลย” เหมันต์มองน้องชายอย่า
ตอนที่ 170.“แหมนายหัวคะ มาช้านะคะนี่มัวทำอะไรกันอยู่เอ่ย ว่าไงแกแมงปอเหนื่อยมากจนต้องให้นายหัวเขาอาบน้ำแต่งตัวแล้วประคองมาเลยเหรอแก” เนตรนาราเอ่ยกระเซ้าเพื่อนรักเหมือนรู้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นเหมันต์โอบประคองร่างเล็กๆ ของเพื่อนรักไม่ห่าง และเธอก็ได้ค้อนโตๆ จากเพื่อนรักมาแทนคำตอบพร้อมกับทำปากขมุบขมิบคาดโทษ เนตรนาราจึงได้แต่เสหัวเราะเก้อๆ ทั้งที่อยากจะหัวเราะดังๆ แม้ว่าเธอจะยังไม่เคยรักใคร แต่ไอ้อาการหลงเมียแบบเป็นเอามากและรอยแดงๆ บนลำคอขาวๆ ของเพื่อนรักก็เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าเธอคงจะหยอดถูกจุด แล้วยิ่งเห็นใบหน้ายิ้มแฉ่งบานฉ่ำของนายหัวมาร์คซึ่งเธอเคยได้ยินเพื่อนรักบ่นให้ฟังบ่อยๆ ว่าทั้งเคร่งขรึม รกรุงรังและเย็นชาแถมปากร้ายเมื่อคราวแรก ไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย มีเพียงใบหน้าของนายหัวมาร์คผู้ซึ่งกำลังอยู่ในห้วงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น“ไอ้เนตรแกก็ไปว่าไอ้แมงเดี๋ยวแม่คุณก็โกรธ น้อยใจงานเข้าพี่มาร์คอีกหรอก” อโนมาปรามเพื่อนรักแต่ตนเองก็ไม่วายส่งสายตาล้อเลียนไปให้เจ้าภาพทั้งสองเช่นกัน“แกก็ว่าแต่ฉัน ดูแกมองล้อไอ้แมงเหมือนกันล่ะน่า”“แหม ก็คนมันหมั่นไส้นี่หว่า”“อ้อนจ๋า ที่รักดูสิลูกอ้อนจะหาแ
ตอนที่ 169.ชายหนุ่มหลงใหลไปกับรสชาติหวานล้ำที่ได้รับจากร่างเล็กๆ ตรงหน้าที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดนี้ และคอยแต่จะหาโอกาสเชยชิมความหอมหวานจากร่างสาวจนเธอแทบหมดแรง แม้จะนึกสงสารหญิงสาวที่อ่อนด้อยประสบการณ์แต่เธอก็เร่าร้อน ไร้เดียงสาจนน่าสั่งสอนให้เป็นงานเป็นการ ซึ่งเขาก็ไม่รอช้าที่จะสอนสั่งแมงปอตัวน้อยแม้จะต้องคอยข่มความต้องการและค่อยเป็นค่อยไปเหมือนอย่างเช่นตอนนี้ที่เขาต้องคอยสอนสั่งและใจเย็นกับร่างเล็กๆ เปล่าเปลือยให้คล้อยตามและไม่หวาดผวาต่อความรักซึ่งเขามีให้กับเธอล้นปรี่ความหอมหวานของดอกไม้แรกผลิทำให้เขาไม่อาจทนต่อความเย้ายวนนั้นได้ ริมฝีปากร้อนๆ จึงดูดดื่มเชยชิมไปทั่วทุกตารางนิ้วบนร่างขาวผ่องที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อทั้งตัว เสียงครางแผ่วหวานยิ่งกระตุ้นให้เขาเกิดความต้องการมากขึ้น ดวงนวลหน้าใสแดงปลั่งกับริมฝีปากเล็กๆ เห่อบวมเผยอน้อยๆ ยิ่งดูเร้าอารมณ์ให้โหมกระพือจนเขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าจากยอดอกสีหวานไปดูดซับความหอมหวานในโพรงปากสาวอย่างเร่าร้อนลิ้นหนาสอดรัดเคล้าคลึงดูดดื่มจนลิ้นเล็กๆ พ่ายแพ้ไม่เป็นท่าและยอมศิโรราบแก่เขา ร่างสาวที่ดูเหมือนร้อนเร่าจนแทบปริร้าวบิ
ตอนที่ 168. พิธีหมั้นและแต่งในวันเดียวกันแบบเรียบง่ายทว่าเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความรักและหวานชื่นทั้งสองฝ่าย ทั้งเจ้าสาวเจ้าบ่าวต่างยิ้มแย้มผ่องใส แม้แขกเหรื่อจะมีแค่เพียงญาติๆ ไม่กี่คนแต่ทั้งงานก็สมบูรณ์แบบมีพิธีการที่ครบถ้วน ฝ่ายบิดามารดาเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างก็แย้มยิ้มแก้มปริที่เห็นบุตรสาวหนุ่มของตนเป็นฝั่งเป็นฝา เมื่อได้ไหว้พระรับพรและพิธีการในตอนเช้าสิ้นสุด แล้วก็มาถึงพิธีการในตอนเย็นซึ่งเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ แต่บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ที่ได้รับการเนรมิตรจากเนตรนาราเจ้าแม่โปรเจคเช่นเคย เธอเสกสรรงานเลี้ยงแบบดนตรีในสวนมีดนตรีแจ๊สขับกล่อมท่ามกลางสวนน้ำตกจำลองและทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสงดงามเรียบหรู “ขอบคุณนะคะคุณอารี คุณสินธุ ที่ยกแมงปอให้ลูกชายของเรา” นายหญิงวารินเอ่ยขึ้นในขณะนั่งรับประทานอาหารกันพร้อมหน้าของบรรดาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของคุณนายดวงดี เนตรนารา อโนมา และครอบครัวของกันต์เพื่อนรักของอัคคีสามีของเธอ และครอบครัวของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปาญาติสนิทของเนตรนาราที่มาร่วมงานมงคลนี้ด้วย“แหมจะขอบคุณอะไรกันคะ เราต่างหา
ตอนที่ 167. “พี่ขอโทษถ้าสิ่งที่พี่ทำมันทำให้น้ำผึ้งลำบากใจและเข้าใจผิดตลอดมา” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบซึ่งทั้งสองปล่อยให้ความคิดของตนเองล่องลอย โดยต่างก็เข้าใจไปคนละทิศคนละทาง ริคปล่อยมือจากเอวบางแล้วก้าวถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวมองใบหน้าคมสวยอย่างตัดพ้อน้อยๆ ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้ดรุณนุชมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความน้อยใจและเสียใจที่อยู่ๆ เขาก็ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งไว้เพียงลำพัง สิ่งที่เขาทำกับเธอตอนนี้มันบ่งบอกว่ารักเธอตรงไหน สาวน้อยคิดอย่างเจ็บปวดพลางทรุดนั่งลงบนพื้นทรายนุ่มมองท้องทะเลงามเพียงลำพังด้วยดวงใจที่สับสนเจมส์และไมค์ มองดูสองสามีภรรยาที่เดินไปคนละทิศคนละทางแล้วมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอาจิตเมื่อคนทั้งสองต่างปากหนักและคิดมากกันทั้งคู่ดูก็รู้ว่าทั้งสองรักกันแค่ไหนแต่ต่างคนต่างอมพะนำไม่ยอมเอ่ยปากบอกในสิ่งที่ตนคิดและรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แม้เขาทั้งสองจะไม่เคยมีความรักเพราะชีวิตที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเสมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เท่าที่พวกเขามองดูอาการของคนมีความรักและเรียนรู้จากพฤติกรรมของนายใหญ่และนายหญิงแห่งเวลส์ ก็พอจะรู้ว่
ตอนที่ 166.“แมงปอจ๋า จะไปไหนน่ะ” เหมันต์รั้งมือบางเบาให้เธอหยุดเดิน พลางเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ “แมงปอจะไปติดกรอบรูปให้เสร็จเสียทีค่ะ เหลือแค่อีกไม่กี่หลัง พี่มาร์คถามทำไมคะจะไปช่วยหรือ” “ถ้าแมงปอให้พี่ทำอะไรพี่ก็เต็มใจทำจ๊ะ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างออดอ้อนและก็ได้ค้อนงามๆ จากสาวเจ้า “ถ้างั้นก็เดินไปค่ะงานแมงปอจะได้เสร็จสมบูรณ์เสียที เปิดรีสอร์ตไม่ทันรับนักท่องเที่ยวไม่รู้ด้วย” “ไม่เป็นไรจ๊ะ แมงปอจะได้อยู่ที่นี่นานๆ ไงพี่มาร์คเลี้ยงได้อยู่แล้วเมียแค่คนเดียวสบายมาก” “ใครเป็นเมียพี่มาร์คกันคนบ้าหน้าไม่อายเขายังไม่ได้ยอมเป็นเสียหน่อยขี้ตู่ชะมัด” หญิงสาวเอ่ยเสียงอุบอิบใบหน้าแดงก่ำอย่างน่าดู “ก็อีกไม่กี่วันหรอกน่า ยังไงแมงปอก็บินหนีพี่มาร์คไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าหนีนะพี่มาร์คจะเด็ดปีกเสียให้เข็ด คอยดูสิ” “พี่มาร์คบ้าๆๆ” อรุณนารีทุบแขนแกร่งอย่างขัดเขินเมื่อเจอสายตาหวานฉ่ำล้อเลียนของเขา ชายหนุ่มรวบร่างบางไว้ในวงแขนก่อนจะวางร่างบางให้ยืนบนโขดหินเล็กๆ จนความสูงของเธอเท่ากันกับเขา ใบหน้าทั้งสองจึงอยู่ในระดับเดียวกัน หนุ่มสาวม
ตอนที่ 165. “ไอ้อาการแบบนี้มันเป็นไปได้หรือหมอเก่ง มันเกิดขึ้นบ่อยหรือเปล่าคะ” ดรุณนุชถามบ้าง “มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรอกนะน้ำผึ้ง เคสนี้นานๆ จะมีเกิดขึ้นกับคนไข้บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยด้วย แต่กรณีของหนูดีอาจจะเป็นข้อยกเว้น เอ่อผมคิดว่าเธอคงจะมีความทรงจำที่เลวร้ายเกี่ยวกับคิมหันต์มากเกินไปรึเปล่า...” หมอเก่งอ้อมแอ้มพูดเบาๆ ในตอนท้ายพลางชำเลืองมองใบหน้าที่เรียบเฉยของคิมหันต์ ซึ่งใบหน้าเรียบเฉยนั้นเขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรหรือรู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น “เอาเป็นว่าหนูดีแค่จำคิมไม่ได้ชั่วคราวใช่ไหม” นางดวงดีเอ่ยขึ้นบ้างและพลธวัชก็พยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ “แล้วนานแค่ไหนที่เธอจะจำนายคิมได้” “มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเองว่าจะเปิดรับคิมหันต์เข้าไปในความทรงจำหรือเปล่า” หมอเก่งให้เหตุผล เท่านั้นเองคิมหันต์ก็เดินลงเรือนไปทันทีทำให้ทุกคนมองตามอย่างแปลกใจและเดาความรู้สึกของชายหนุ่มไม่ออก “สมน้ำหน้ามัน ถูกหนูดีเกลียดจนไม่อยากจดจำ” เหมันต์เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้และก็ได้ลูกทุบเบาๆ จากอรุณนารีพร้อมกับดวงตาเขียวๆ