เนตรนาราไม่วายหาของมาหลอกล่อ และเธอรู้ว่าอรุณนารีชอบทะเลมากกว่าอะไร และงานนี้ไม่พลาดแน่ แม้ว่าเธอเจ็บตัวแต่งานที่รับไว้ต้องเสร็จสมบูรณ์โดยที่ร้านของเธอไม่เสียชื่อแน่นอนเพราะเพื่อนรักของเธอก็แต่งสวนได้สวยไม่แพ้กัน และยังมีความละเอียดอ่อนรอบคอบ ใจเย็นมากกว่าเธอหลายเท่านัก
“แล้วจะไปยังไงอะไรก็ยังไม่ได้เตรียม”
อรุณนารีพูดส่งๆ แต่ในแววตาวาววับว่างานนี้เธอจะได้ไปทำงานในที่ที่โอบล้อมด้วยทะเลซึ่งเป็นอะไรที่เธอชอบมากที่สุด ทะเล สายลม แสงแดด ต้นไม้เขียวๆ น้ำใสๆ โอยแค่คิดก็คุ้มแล้ว แต่งานนี้ต้องขูดเลือดยัยหมวยมหาภัยขี้งกให้สุดๆ
“แต่มีข้อแม้ งานนี้ฉันเจ็ดสิบ แกสามสิบ โอเคตามนี้”
เนตรนาราอ้าปากค้างเมื่อโดนมุกนี้ของเพื่อน แต่ก็ต้องยอมเมื่อเจอสายตาแบบแมงปอพิฆาตที่เธอกับอโนมารู้ดีว่าถ้าเจอสายตาแบบนี้ต้องเงียบและทำตามแม่คุณอย่าให้ขาดตกบกพร่อง
“เออๆ ก็ได้ ฉันโทรไปบอกเขาแล้วว่าเลื่อนการเดินทางไปสักสองวันเพราะประสบอุบัติเหตุ ฉันให้แกไปแทน เขาก็ไม่ว่าอะไรการเดินทางเดี๋ยวฉันบอก ส่วนของที่จะเอาไปด้วยน่ะ ส่งไปล่วงหน้าแล้ว”
“ดีมากเพื่อนรัก”
“ยัยแมงปอจอมงก”
“ฉันก็ติดนิสัยมากจากแกนั่นล่ะ นังหมวยมหาภัยจอมงก”
สองสาวทำหน้างอนๆ ใส่กันเหมือนจะโกรธกัน แต่สุดท้ายเธอทั้งสองก็หัวเราออกมาพร้อมกันด้วยและยิ้มให้กันด้วยความรักที่มันมีมากมายยิ่งกว่าคำว่าเพื่อนรัก
“อะไรของแกนักหนาวะแมงปอ”
เนตรนาราร้องถามเมื่อเห็นกระเป๋าสัมภาระของเพื่อนรักนั้นใบใหญ่เกินตัว และมีถึงสองใบ ไม่รวมกับกระเป๋าสะพายใบเล็กที่เธอมักใช้เป็นประจำนั่นอีก
“ของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า และอื่นๆ อีกมากมายไงแก” อรุณนารีบอกเพื่อนอย่างไม่รู้สึกแปลกใจกับสัมภาระของเธอ
“เดินทางดีๆ นะลูก”
“ค่ะคุณพ่อกับคุณแม่ไม้ต้องห่วง แมงปอจะไม่ดื้อไม่ก่อปัญหาแน่นอนค่ะ สัญญา”
หญิงสาวทำท่าให้คำปฏิญาณแบบลูกเสือ จนผู้เป็นแม่และเพื่อนรักที่มาส่งอดหมั่นใส้ไม่ได้ แต่ก็รู้สึกใจหายเล็กน้อยที่บุตรสาวซึ่งไม่เคยห่างจากอกไปไหนไกลต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำงานไกลถึงเกาะพราวแสงจันทร์
“จ้า แม่คนเรียบร้อย ฉันคิดผิดรึเปล่าวะที่ให้แกไปแทนนี่ ฉันล่ะกลัว สังหรณ์ใจยังไงชอบกลว่ะ”
“อ้าวนี่แกดูถูกฝีมือเพื่อนเหรอเนตร”
“เปล่าแค่เป็นห่วงคนที่นั่นนิดหน่อยที่ต้องต้อนรับแก มีแกอยู่ด้วยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงน่ะกลัวเขาจะเฉาปากแกตายซะก่อนน่ะสิ ฮ่าๆ”
“ไอ้เพื่อนบ้าแกว่าฉันเหรอ”
“อ้าวพอๆ เลยทั้งคู่โตเป็นสาวแล้วยังจะมาเล่นเป็นเด็กๆ ไปๆ ไปขึ้นเครื่องได้แล้ว เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดี”
นางเอื้ออารีผู้เป็นมารดาห้ามปรามสองสาวที่ทำท่าว่าจะเลยเถิดเล่นกันเพลินจนไม่รู้เวลา เพราะการเดินทางไปเกาะพราวแสงจันทร์ นั้นต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศไปลงที่ภูเก็ตแล้วจะมีเครื่องบินเล็กของเกาะมารับที่สนามบินโดยที่การเดินทางนั้นจะมีความเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด
“ค่ะแมงปอไปนะคะแม่ ไปนะเนตร ฝากดูแลแม่กับพ่อแล้วก็ร้านฉันด้วยนะ อย่าทำเจ๊งล่ะ”
“โธ่มือชั้นนี้แล้ว อย่าห่วงเลยน่า”
อรุณนารีมองเพื่อนรักที่ยืนข้างมารดาอย่างใจหายนิดๆ เมื่อต้องเดินทางจริงๆ เพราะในใจหญิงสาวรู้สึกเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้มันจะเป็นการเดินทางที่ยาวไกลและจะเปลี่ยนโลกของเธอไปทั้งใบ
ภาพเกาะแสนสวยรายล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกตและแนวปะการังที่เห็นรางๆ ใต้ผิวน้ำ หมูนกนางนวลที่โผบินนวยนาดบนผืนฟ้ากว้างทำให้อรุณนารียิ้มกว้างกับภาพที่เห็น ไม่เสียแรงที่ตัดสินใจมาเลยจริงๆ
“ใกล้ถึงแล้นะครับคุณแมงปอ”
เด่นดัง ชายหนุ่มที่อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่ทำหน้าที่ขับเครื่องบินลำเล็กของเกาะพราวแสงจันทร์มีไว้สำหรับโดยสารและติดต่อโลกภายนอก เอ่ยบอกเธอ หญิงสาวพยักหน้าตอบและมองคนที่โดยสารมาด้วยอย่างทึ่งๆ ไม่นึกว่าคนที่ไปรับเธอที่สนามบินภูเก็ต ที่แต่งตัวได้แสบสัน ร่างผอมสูง หัวหยิกฟูฟ่องแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาดกางเกงทรงเดปสีเหลือง เสื้อสายดอกสีแดง ตัดกับผิวที่คล้ำแดดอย่างแรง แต่ชายหนุ่มก็ไม่แคร์สายตาใครเดินยืดอกอย่างมันใจแม้จะถูกมองจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
เมื่อเครื่องบินจอดสนิทบนลานจอดที่ก่อสร้างเป็นลานกว้างขนาดใหญ่กลางผิวน้ำพอที่จะจอดเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กสองลำ และมีสะพานไม้สวยหรูแข็งแรงที่ทอดยาวพาเดินไปสู่เกาะพราวแสงจันทร์ที่มองเห็นบ้านหลังใหญ่ที่ก่อสร้างอย่างเรียบหรูหันหน้าเข้าสู่ทะเลและฉากด้านหลัง มีน้ำตกสายเล็กที่มองเห็นสายน้ำกระเซ็นสาดเป็นสายเล็กๆ อยู่หลังบ้านหลังงาม
โอ...นี่มันเกาะในฝันชัดๆ อรุณนารีอุทานในใจ เธอเคยคิดและจินตนาการไว้ว่าสักวันจะได้มาเยือนเกาะที่มีทั้งน้ำตก ทะเล สายลมและแสงแดด เกาะที่มีบ้านหลังงามที่หลังบ้านมีน้ำตกสายเล็กๆ รินไหลไม่ขาดสาย มันมีจริงๆ
เมื่อหญิงสาวที่มัวแต่เดินชื่นชมความงามของเกาะที่มองเห็นเพียงด้านหน้าเพราะเพิ่งมาถึงจนไม่ทันสังเกตว่าตัวเองเดินลงมาถึงพื้นทรายนุ่มแล้ว และไม่ห่างกันนั้นที่โขดหินใหญ่ซึ่งตอนนี้เจ้าของเกาะร่างสูงใหญ่ก็ยืนกอดอกมองเธออย่างเฉยเมย พร้อมกับเจ้าคอบร้า ซึ่งนอนหมอบอยู่แทบเท้าเจ้านายของมัน และดวงตาของมันก็จ้องเขม็งไปที่หญิงสาวแปลกหน้าที่กำลังเดินชื่นชมความงามของเกาะโดยที่ไม่ได้สังเกตว่าตนเองกำลังอยู่ในอาณาเขตของใคร
โฮ่ง ๆ!!! เจ้าคอบร้าส่งเสียงเมื่อเห็นหญิงสาวแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้เจ้านายหนุ่มโดยที่เธอเองก็ไม่ทันสังเกต แต่เพราะเสียงเห่าของมันทำให้ร่างบางชะงักตัวแข็งทื่อ ก่อนจะค่อยๆ หันมาทางต้นเสียงและต้องตกตะลึงเมื่อเห็นร่างสูงทะมึนของผู้ชายที่หน้าตารกครึ้มด้วยหนวดเครายืนมองเธอด้วยแววตาวาววับน่ากลัว และข้างๆ กันก็คือ สุนัข!!!
ตอนที่ 187. ตอนอวสาน ความนุ่มหยุ่นนวลเนียนของผิวสาวทำให้ริคไม่พลาดสักตารางนิ้วที่จะเชยชม จนผิวสีน้ำผึ้งผุดผ่องแดงเห่อไปทั้งร่างและเขาก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะฝากรอยรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของร่างงามนี้ “ฮื้อ พอก่อนค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” ดรุณนุชเอ่ยห้ามเมื่อสามีผู้เร่าร้อนดื่มชิมร่างงามจนเธอแทบร้อนเป็นไฟ แต่ความที่มีเรื่อร้อนใจใจทำให้เธอไม่อาจปล่อยให้ตนหวามไหวไปกับเขาจนลืมความตั้งใจได้ “อืม เอาไว้ก่อนจ๊ะฮันนี่ ตอนนี้สามีไม่ว่างจะคุยนะจ๊ะ” ริคเอ่ยชิดทรวงอกอวบใหญ่หวานล้ำและยังไม่ยอมเงยหน้าจากทรวงสาวจนดรุณนุชต้องกลั้นใจรวบเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดึงศีรษะซึ่งกำลังซุกไซ้กับทรวงอกตนออกจนได้แม้จะยังหอบกระเส่าเร่าร้อนเพราะไฟพิษศวาสที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นก็ตามที “อืม ฮันนี่จ๋า มีอะไร” ริคยังไม่วายจะดึงดันก้มลงเชยชิมอกอวบจนดรุณนุชต้องซัดเผี๊ยะเข้าที่แขนแข็งแรงจนชายหนุ่มถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บนิดๆ อารมณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ลดองศาลงมาเล็กน้อย “คนบ้ากามหื่นที่สุด คุยกันก่อนค่ะน้ำผึ้งซีเรียสนะคะ” ดรุณนุชค้อนสามีฉุนๆ ขึงตามองคนหื่นจัดอย่างขัดเคือง
ตอนที่ 186. งานเลี้ยงที่ไม่หรูหราแต่เรียบง่ายเหมือนงานบายศรีสู่ขวัญ ดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ นายใหญ่และนายหญิงวารินซึ่งตอนนี้ชราลงมากแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มองดูลูกหลานอย่างมีความสุขใบหน้าและแววตาที่ร่วงโรยตามวัยยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจที่วันนี้เป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่ง แล้วเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของน้องหนึ่งก็ดังลั่นเรียกความสนใจของทั้งสองให้มองไปยังร่างที่ดูสูงเกินเด็กในวัยเดียวกันวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น จนแก้มขาวใสของเด็กชายแดงปลั่ง “คุณปู่คุณย่าคับ อาวัตสันโทรมาแล้วคับ มาฟังเสียงอาวัตสันเร็วๆ” “จ้าลูก ไปเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่” อรุณนารีเข้ามาประคองร่างของนายหญิงวารินในขณะที่สามีประคองร่างผู้เป็นบิดาเดินไปยังโทรศัพท์ที่ลูกชายจอมซนเปิดเสียงลำโพงอย่างรู้งาน “สุขสันต์วันเกิดนะหลานอา สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนด้วยนะครับ” เสียงของวสันต์ดังอู้อี้ไม่ค่อยชัดนักเหมือนอยู่ในที่อับสัญญาณ “จ๊ะลูก ทุกๆ คนสบายดีแล้ววัตสันล่ะลูกอยู่ไหนกัน” นายหญิงวารินตอบอย่างตื้นตันและรักใคร่บุตรชาย
ตอนที่ 185.“น่านสิค้า อาคิมขาของน้องนาเดียน่าสงสารจังที่โดนเมียทิ้ง ยังหนุ่มยังแน่นและยังหล่อด้วยเอางี้มั้ยคะให้น้าหนูดีช่วยดามอกมั้ยค้าน้าหนูดีของน้องนาเดียสวยน้า นี่ถ้าน้องนาเดียโตกว่านี้ น้องนาเดียจะไม่ทำให้อาคิมขาเสียใจเลย น้องนาเดียจะหาสาวๆ สวยๆ ให้อาคิมขาเอง” หนูน้อยนาเดียเด็กหญิงน่ารักตัวอ้วนกลมผิวขาวแก้มยุ้ยแดงปลั่งพูดฉะฉานเกินวัยพูดและทำท่าราวเด็กสาวริรัก“แต่เรย์ว่า ใครก็สวยสู้น้าหนูดีไม่ได้หรอก เรย์ว่าน้าหนูดีของเรย์เหมาะสมกับอาคิมขาที่สุด แต่เอ...ทำไมเวลาอาคิมมาน้าหนูดีก็ไป แล้วตกลงน้าหนูดีกับอาคิมเป็นอะไรกันแน่คับ คุณอาคิมขากับน้าหนูดีคนสวยเกลียดกันหรือคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่ แบบนี้เรย์ก็ได้คนอื่นมาเป็นแฟนน้าหนูดีแน่ๆ เสียดายจัง” เด็กชายเรย์ม่อน ที่มีหน้าตาคมคายน่ารักและมีผิวเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาส่วนความแก่แดดแก่ลมไม่เกินกันเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าอาคิมขาเขม็งเหมือนต้องการหาคำตอบจนคนที่ถูกเด็กๆ ตัวร้ายทั้งสามคนมองเป็นตาเดียวเริ่มอึดอัด นี่เขาคิดผิดแน่ๆ ที่มาร่วมงานวันเกิดของหลานชาย และอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ให้บทที่พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว“เอ่อ คือ ฮึ
ตอนที่ 184. “นี่พี่ริคโทรไปข่มหาเรื่องกวนประสาทพี่มาร์คอีกแล้วหรือคะ” ดรุณนุชถามสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นสามีสุดหล่อนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสะใจ ดูก็รู้ว่าโทรไปคุยข่มเหมันต์เรื่องที่ตัวเองได้ลูกแฝดชายหญิง ยิ่งดีใจยกใหญ่ และชายหนุ่มก็ขยันโทรไปคุยข่มกันจนบางครั้งอรุณนารีโทรมาบ่นกับเธอบ่อยๆ ว่าเบื่อชายหนุ่มทั้งสองที่ทำตัวเหมือนเด็กโข่งทั้งที่ตัวเองอายุเฉียดๆ สี่สิบเข้าไปแล้ว“โธ่ ฮันนี่จ๋าพี่ริคขาก็แค่ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ นี้ จนใจมันร้อนรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปเล่าสู่เพื่อนฝูงฟังไงจ๊ะ” ริคพูดกับเธอด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว และมันเป็นเรื่องที่เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าริคสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ชัดพอสมควร และมันก็ทำให้เธองอนเขาไปหลายวันเช่นกันที่ถูกเขาหลอกและอับอายนักเมื่อนึกได้ว่าเธอแอบว่าเขาไปหลายอย่างเมื่อก่อนนี้ รวมทั้งที่เคยตั้งชื่อให้เขาว่า ริค เวร ด้วย“ไม่ต้องมาโธ่เลย พวกพี่นี่ทำอะไรเป็นเด็กๆ รู้ไหมคะว่ามันไม่น่ารักเลย พี่มาร์คเขาเสียใจนะคะ”“เมื่อก่อนบทที่แมงปอท้องใหม่ๆ พี่ก็เสียใจเหมือนกัน น้อยใจด้วยที่เราแต่งงานมีเมียก่อนดันมาท้องทีหลังเพราะเมียคิดว่าเราไม่รัก”“ค่ะ มัน
ตอนที่ 183.“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่พี่มาร์คก็จะทำบุญให้เธอตามประเพณีทางศาสนา” เขาบอกภรรยาด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเสียใจ มือหนาจับจูงมือเล็กๆ นั้นเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาดขาวสะอาด ลมทะเลกรุ่นกลิ่นหอมยามบ่ายพัดโชยโลมไล้ผิวกายราวจะพัดพาเอาความทุกข์ร้อนของคนให้ลงทะเลไปเสีย“แมงปอก็เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไปสู่สุคติ”“พี่ก็คิดแบบนั้น พี่อยากบอกเธอว่าพี่อโหสิให้เธอทุกอย่างและอยากขอให้เธออโหสิให้กับเราทุกๆ คนด้วย” สองสามีภรรยาเดินมาทรุดนั่งบนโขดหินใหญ่โดยมีเจ้าคอบร้า เจ้าลิลลี่และลูกๆ ของมันวิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนลูกๆ ของเจ้าลิลลี่จะรักและเคารพเจ้าคอบร้ามากกว่าแม่ของมันเสียอีก เพราะไม่ว่าเจ้าคอบร้าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้อยๆ สี่ตัวนี้ก็พร้อมจะตามไปและทำตามอย่างแข็งขัน จนผู้ที่พบเห็นมันต่างก็พากันมองดูพวกมันด้วยความชื่นชมเอ็นดู“เจสซี่ มินนี่ ทอฟฟี รินนี่ มานี่เร็วๆ” อรุณนารีร้องเรียกเจ้าสุนัขน้อยสี่ตัวที่เป็นตัวเมียสองตัว ตัวผู้สองตัว และเธอก็ตั้งชื่อให้พวกมันอย่างคล้องจองกัน แต่ตอนนี้พวกมันพากันตัวโตมากขึ้นเพราะได้รับการเลี้ยง
ตอนที่ 182.“คุณคะ คุณว่าสองคนนั่นจะเป็นไรมากไหมคะ เห็นเด็กๆ บอกว่ายังไม่ลงมาจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน คุณแม่บ้านบอกว่าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้ที่หน้าห้องแล้วสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายชั้นบนหากไม่เรียก โธ่คืนนั้นสองคนนั่นดูเหมือนจะแรงทั้งคู่นะคะคุณ ป่านนี้หนูฮันนี่ของฉันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” คุณราเชลบ่นกับสามีเบาๆ“โธ่คุณ ถ้าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้และไม่ให้ใครไปวุ่นวายก็คงจะหมายความว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาเขาสองคนนั่นแหละ เรารอฟังข่าวดีกันดีกว่า ไม่แน่ป่านนี้หนูฮันนี่อาจจะกำลังมีหลานให้เราแล้วก็ได้” นายใหญ่แห่งคฤหาสน์เวลส์มองหน้ากันด้วยความหวังที่เรืองรองทันทีเวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวันและผ่านผันเป็นเดือน เมื่อความรักความเข้าใจแทรกซึมในหัวใจที่มีรักและครองสติได้มองทุกอย่างด้วยเหตุและผลที่เหมาะสม ทุกชีวิตก็ย่อมถูกใช้ให้หมดไปในแต่ละวันอย่างมีความสุข อันความทุกข์นั้นเราก็เอาไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้มองเห็นและรู้ทันมันนั่นคือสิ่งที่ผู้มีปัญญาควรไตร่ตรองและคิดได้ แต่หากผู้โง่เขลามองและคิดอย่างไร้เหตุผลหลงผิดตกลงไปในบ่วงร้ายที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ไฟแห่งความหลงผิดนั้นก็