“เอ้าว่าไงมีอะไรก็ว่ามา ง่วงนะนี่ต้องตื่นแต่เช้าอีกพรุ่งนี้เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดี”
“แกจะไปนานมั้ยอ่ะ ฉันอยู่คนเดียวก็เหงาแย่สิ”
หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนเพราะพรุ่งนี้เนตรนาราต้องเดินทางไปเกาะพราวแสงจันทร์ของนายหัวม้งมาร์คอะไรนั่น วันนี้ทั้งสองสาวจึงได้มาจัดเตรียมของที่จะนำไปตกแต่งสวนบ้านพักของรีสอร์ตผู้ว่าจ้าง นามว่าเหมันต์ หิรัญวารินทร์
“โธ่ๆๆ อย่างแกนี่นะจะเหงา ฉันว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ แกจะเฉาตายก่อนแกเหงาตายอีกแมงปอ”
“เชอะทำมาว่าเขา ตัวเองก็ใช่ย่อย” หญิงสาวพ้อเพื่อนพลางทำปากยื่นอย่างแสนงอนแล้วเธอก็เปลี่ยนโหมดกะทันหัน
“แกๆ เมื่อกี้อธิษฐานอะไรน่ะ บอกหน่อยสิ นะนะ”
“อะไรของแกนี่แมงปอปรับโหมดไวจังวะอยากรู้แกก็บอกของแกมาก่อนสิ”
“ก็ได้ๆ ฉันน่ะนะอธิษฐานว่า ขอให้แมงปอตัวน้อยๆ ตัวนี้ได้พบกับชายหนุ่มผู้แสนดีและรักแมงปอสุดหัวใจ ขอให้เขาขอแมงปอแต่งงานภายใต้ท้องสีฟ้าคราม ท่ามกลางทะเลงามสายลมและแสงแดดที่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแม๊นติก อิอิอิ เขินจัง”
เนตรนารามองกิริยา เขินจัง ของเพื่อนรักแล้วส่ายหน้าใบหน้าเล็กๆ รูปหัวใจแดงก่ำ ทำกระบิดกระบวนเอียงอาย หมอนที่เธอทุบปุบๆ อยู่นั่นแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สาวหมวยมหาภัยถอนใจกับเพื่อนที่ขอเยอะเกิน
“ขอเยอะขนาดนี้ถ้าฉันเป็นพระเจ้านะให้ได้อย่างเดียว เลยแมงปอ”
“ให้อะไรแก”
“คานทองเสริมใยเหล็กอย่างหนาและทนทานต่อการพยายามหักคานไงแก ฮ่าๆๆ”
“ไอ้เนตรบ้า นี่แนะๆๆ” ร่างเล็กของอรุณนารีฟาดหมอนนุ่มใส่เพื่อนรักเบาๆ อย่างแกล้งๆ ใบหน้าแดงก่ำเพราะหัวเราะและออกแรงทุบเพื่อนรักมากไป
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยแก ฉันบอกคำอธิษฐานของฉันแล้ว แกบอกเรื่องที่แกขอมาเลยนะ”
“โอเคๆ บอกก็ได้” เนตรนารายกมือยอมแพ้แต่ก็ยังขบขันเพื่อนรักไม่หายแล้วบอกเพื่อนในสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในหัวสักนิดแต่เพิ่งคิดได้เมื่อกี้นี่เองแบบสดๆ ร้อนๆ
“ฉันขอว่า ขอให้ได้เจอชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สูงสัก 189 เซนติเมตร มีผมสีราวกับเปลวเพลิงดวงตาสีน้ำเงินหนึ่งข้างสีเขียวหนึ่งข้างมีผิวสีทองแดงงดงามราวสำริดมีแหวนพลอยสีน้ำเงินล้อมเพชรเป็นแหวนหมั้นและที่สำคัญ...” แล้วหญิงสาวก็หยุดเล่าดื้อๆ เพราะนึกอะไรไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“อ้าวที่สำคัญอะไรบอกมาเร็วๆ”
“ที่สำคัญๆ เขากับฉันพบกันในเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายแบบว่า โอ...ไม่น่าเป็นไปได้และฉันกับเขาก็รักกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เป็นไงแก โอเคป่ะอิอิอิ”
“โหว่าฉันขอเยอะแต่แกน่ะขอแปลก ใครที่ไหนวะจะมีดวงตาข้างละสีแถมผมสีแดง ดูหนังมากไปแล้วแก และถ้าฉันเป็นพระเจ้านะฉันก็ให้แกได้คานทองเสริมใยเหล็กอย่างดีมากๆ กับแกเหมือนกันเชอะ ไม่คุยละนอนดีกว่า”
แล้วสองสาวก็เข้าสู่นิทรารมย์อันแสนสุข และหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พวกเธอขอนั้นมันอาจจะเป็นจริงในสักวัน และในระยะเวลาอันใกล้นี้
ในขณะที่อรุณนารีกำลังรดน้ำต้นไม้อย่างเพลิดเพลิน ส้มฉุนเด็กสาวที่เป็นพนักงานในร้านก็วิ่งหน้าตื่นมาหา
“ห๊า อะไรนะ ไอ้เนตรถูกรถชน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล!!!”
“ค่ะพี่แมงปอทางโรงพยาบาลเพิ่งโทรมาเมื่อกี้” แล้วร่างเจ้านายสาวก็ลิ่วไปทันทีทันใด
ณ โรงพยาบาลในเครือของจงบริบูรณ์ไพศาล
ห้องพักฟื้น วีไอพี ที่ตอนนี้มีร่างของหญิงสาวผมซอยสั้นทันสมัย ใบหน้าสวยคมดวงตากลมโตเป็นประกาย ริมฝีปากบางแย้มยิ้มให้ผู้มาเยือนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะไรเนี่ยไอ้เนตร แกเจ็บแค่นี้ถึงกับนอนโรงพยาบาลเลยเหรอ”
“ไอ้แค่นี้ของแกคือแขนหัก นะแมงปอไม่ใช่แขนเดาะ หรือมดกัด ดูสิเจ็บมากๆเลย”
“ใช่แต่หน้าตาแกไม่เป็นไรเลยนี่ ดูสิยังสวยยังกะลิงเหมือนเดิม” อรุณนารีเย้าเพื่อนรักที่ทั้งเนื้อทั้งตัว ไร้รอยฟกช้ำ โดยเฉพาะใบหน้าสวยเฉี่ยวคมที่ยังคงเนียนใส ยกเว้นแขนซ้ายที่หักและตอนนี้เข้าเฝือกแล้วเรียบร้อยและรอยถลอกที่แขนขาเล็กน้อยเท่านั้น
“ก็ใบหน้าคือสิ่งสำคัญ ฉันสวยขนาดนี้ก็ย่อมต้องปกป้องใบหน้าอันสวยงามของฉันไว้ให้ดีที่สุดสิแก” ใช่แล้วถึงแม้เนตรนาราจะห้าวห่ามสักเพียงไหน แต่สิ่งที่เธอเป็นเหมือนผู้หญิงทุกๆ คนคือความรักสวยรักงาม จนบางครั้งเธอกับอโนมายังแอบคิดว่า รักสวยรักงามมากเข้าขั้นมากที่สุดด้วย แต่เนตรนาราก็สวยจริงๆ นั่นล่ะแม้เจ้าตัวไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตาให้สวยสดงดงามเช่นหญิงสาวคนอื่นๆ ที่พยายามแต่งให้สวย และเนตรนาราก็เป็นคนเดียวในกลุ่มที่แต่งตัวแต่งหน้าเป็นและแต่งแล้วสวยอย่างกับมืออาชีพเลยทีเดียว
“แหม ห่วงสวยจนต้องเอาแขนบังหน้าไว้จนเกือบแขนหักนี่นะ น่าชื่นชมว่ะแก แล้วเรื่องงานเอาไงนี่” เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักที่ประสบอุบัติเหตุขณะขับรถไปสนามบินแล้วมีรถอีกคันเสียหลักมาเฉี่ยวชนทำให้เพื่อนรักแขนหักเพราะเอาแขนบังตัวเองจากกระจกที่แตกและขณะถูกแรงกระแทกจากรถอีกคัน
“ฉันรับเงินมาแล้วครึ่งนึงน่ะแก แกคงต้องไปแทนชัวร์ๆ อยู่แล้วเพราะฉันไม่ไว้ใจใคร ส่วนที่ร้านไม่ต้องห่วงเพราะพรุ่งนี้ยัยอ้อนกลับมาจากฮันนีมูน แล้วก็จะมาอยู่ที่ร้านให้แกไม่ต้องห่วง”
“เออดีพูดเองเออเอง ตัดสินใจเอง ไม่เคยคิดถามฉันสักคำ อย่างนี้ไม้ต้องอ้าปากก็เห็นไปถึงถุงน้ำดีแล้วว่างกสุดๆ”
“แหะๆๆ ก็มันอยากได้งานนี้นี่นา ฉันเห็นภาพเกาะของเขามันสวยและบรรยากาศดี อีกอย่างเขาจะทำรีสอร์ทที่เอื้อประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกทั้งแนวคิดเชิงอนุรักษ์พลังงานของเขาก็น่าสนใจด้วย ฉันเห็นว่ามันเหมือนความคิดตัวเองก็เลยรีบตกลงกลัวเขาไม่จ้างนี่ ” เนตรนาราบอกเพื่อนเสียงอ่อยๆ อย่างน่าสงสารและอรุณนารีก็สงสารเพื่อนจริงๆ และอีกเหตุผลคือแนวคิดการทำรีสอร์ทของชายหนุ่มผู้ว่าจ้างมันน่าสนใจที่เดียว
“น่านะแก นี่ขนาดฉันเห็นแค่ไหนไฟล์ที่เขาก๊อปมาให้ดู เกาะพราวแสงจันทร์ยังสวยขนาดนั้นถ้าไปเห็นจริงๆมันต้องสวยสุดยอดแน่ๆ และเมื่อแกไปถึงก็ต้องถ่ายรูปส่งเมลล์มาให้ฉันดูด้วย กล้องตัวเก่งฉันยกให้เลยนะ”
ตอนที่ 187. ตอนอวสาน ความนุ่มหยุ่นนวลเนียนของผิวสาวทำให้ริคไม่พลาดสักตารางนิ้วที่จะเชยชม จนผิวสีน้ำผึ้งผุดผ่องแดงเห่อไปทั้งร่างและเขาก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะฝากรอยรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของร่างงามนี้ “ฮื้อ พอก่อนค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” ดรุณนุชเอ่ยห้ามเมื่อสามีผู้เร่าร้อนดื่มชิมร่างงามจนเธอแทบร้อนเป็นไฟ แต่ความที่มีเรื่อร้อนใจใจทำให้เธอไม่อาจปล่อยให้ตนหวามไหวไปกับเขาจนลืมความตั้งใจได้ “อืม เอาไว้ก่อนจ๊ะฮันนี่ ตอนนี้สามีไม่ว่างจะคุยนะจ๊ะ” ริคเอ่ยชิดทรวงอกอวบใหญ่หวานล้ำและยังไม่ยอมเงยหน้าจากทรวงสาวจนดรุณนุชต้องกลั้นใจรวบเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดึงศีรษะซึ่งกำลังซุกไซ้กับทรวงอกตนออกจนได้แม้จะยังหอบกระเส่าเร่าร้อนเพราะไฟพิษศวาสที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นก็ตามที “อืม ฮันนี่จ๋า มีอะไร” ริคยังไม่วายจะดึงดันก้มลงเชยชิมอกอวบจนดรุณนุชต้องซัดเผี๊ยะเข้าที่แขนแข็งแรงจนชายหนุ่มถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บนิดๆ อารมณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ลดองศาลงมาเล็กน้อย “คนบ้ากามหื่นที่สุด คุยกันก่อนค่ะน้ำผึ้งซีเรียสนะคะ” ดรุณนุชค้อนสามีฉุนๆ ขึงตามองคนหื่นจัดอย่างขัดเคือง
ตอนที่ 186. งานเลี้ยงที่ไม่หรูหราแต่เรียบง่ายเหมือนงานบายศรีสู่ขวัญ ดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ นายใหญ่และนายหญิงวารินซึ่งตอนนี้ชราลงมากแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มองดูลูกหลานอย่างมีความสุขใบหน้าและแววตาที่ร่วงโรยตามวัยยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจที่วันนี้เป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่ง แล้วเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของน้องหนึ่งก็ดังลั่นเรียกความสนใจของทั้งสองให้มองไปยังร่างที่ดูสูงเกินเด็กในวัยเดียวกันวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น จนแก้มขาวใสของเด็กชายแดงปลั่ง “คุณปู่คุณย่าคับ อาวัตสันโทรมาแล้วคับ มาฟังเสียงอาวัตสันเร็วๆ” “จ้าลูก ไปเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่” อรุณนารีเข้ามาประคองร่างของนายหญิงวารินในขณะที่สามีประคองร่างผู้เป็นบิดาเดินไปยังโทรศัพท์ที่ลูกชายจอมซนเปิดเสียงลำโพงอย่างรู้งาน “สุขสันต์วันเกิดนะหลานอา สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนด้วยนะครับ” เสียงของวสันต์ดังอู้อี้ไม่ค่อยชัดนักเหมือนอยู่ในที่อับสัญญาณ “จ๊ะลูก ทุกๆ คนสบายดีแล้ววัตสันล่ะลูกอยู่ไหนกัน” นายหญิงวารินตอบอย่างตื้นตันและรักใคร่บุตรชาย
ตอนที่ 185.“น่านสิค้า อาคิมขาของน้องนาเดียน่าสงสารจังที่โดนเมียทิ้ง ยังหนุ่มยังแน่นและยังหล่อด้วยเอางี้มั้ยคะให้น้าหนูดีช่วยดามอกมั้ยค้าน้าหนูดีของน้องนาเดียสวยน้า นี่ถ้าน้องนาเดียโตกว่านี้ น้องนาเดียจะไม่ทำให้อาคิมขาเสียใจเลย น้องนาเดียจะหาสาวๆ สวยๆ ให้อาคิมขาเอง” หนูน้อยนาเดียเด็กหญิงน่ารักตัวอ้วนกลมผิวขาวแก้มยุ้ยแดงปลั่งพูดฉะฉานเกินวัยพูดและทำท่าราวเด็กสาวริรัก“แต่เรย์ว่า ใครก็สวยสู้น้าหนูดีไม่ได้หรอก เรย์ว่าน้าหนูดีของเรย์เหมาะสมกับอาคิมขาที่สุด แต่เอ...ทำไมเวลาอาคิมมาน้าหนูดีก็ไป แล้วตกลงน้าหนูดีกับอาคิมเป็นอะไรกันแน่คับ คุณอาคิมขากับน้าหนูดีคนสวยเกลียดกันหรือคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่ แบบนี้เรย์ก็ได้คนอื่นมาเป็นแฟนน้าหนูดีแน่ๆ เสียดายจัง” เด็กชายเรย์ม่อน ที่มีหน้าตาคมคายน่ารักและมีผิวเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาส่วนความแก่แดดแก่ลมไม่เกินกันเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าอาคิมขาเขม็งเหมือนต้องการหาคำตอบจนคนที่ถูกเด็กๆ ตัวร้ายทั้งสามคนมองเป็นตาเดียวเริ่มอึดอัด นี่เขาคิดผิดแน่ๆ ที่มาร่วมงานวันเกิดของหลานชาย และอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ให้บทที่พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว“เอ่อ คือ ฮึ
ตอนที่ 184. “นี่พี่ริคโทรไปข่มหาเรื่องกวนประสาทพี่มาร์คอีกแล้วหรือคะ” ดรุณนุชถามสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นสามีสุดหล่อนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสะใจ ดูก็รู้ว่าโทรไปคุยข่มเหมันต์เรื่องที่ตัวเองได้ลูกแฝดชายหญิง ยิ่งดีใจยกใหญ่ และชายหนุ่มก็ขยันโทรไปคุยข่มกันจนบางครั้งอรุณนารีโทรมาบ่นกับเธอบ่อยๆ ว่าเบื่อชายหนุ่มทั้งสองที่ทำตัวเหมือนเด็กโข่งทั้งที่ตัวเองอายุเฉียดๆ สี่สิบเข้าไปแล้ว“โธ่ ฮันนี่จ๋าพี่ริคขาก็แค่ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ นี้ จนใจมันร้อนรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปเล่าสู่เพื่อนฝูงฟังไงจ๊ะ” ริคพูดกับเธอด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว และมันเป็นเรื่องที่เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าริคสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ชัดพอสมควร และมันก็ทำให้เธองอนเขาไปหลายวันเช่นกันที่ถูกเขาหลอกและอับอายนักเมื่อนึกได้ว่าเธอแอบว่าเขาไปหลายอย่างเมื่อก่อนนี้ รวมทั้งที่เคยตั้งชื่อให้เขาว่า ริค เวร ด้วย“ไม่ต้องมาโธ่เลย พวกพี่นี่ทำอะไรเป็นเด็กๆ รู้ไหมคะว่ามันไม่น่ารักเลย พี่มาร์คเขาเสียใจนะคะ”“เมื่อก่อนบทที่แมงปอท้องใหม่ๆ พี่ก็เสียใจเหมือนกัน น้อยใจด้วยที่เราแต่งงานมีเมียก่อนดันมาท้องทีหลังเพราะเมียคิดว่าเราไม่รัก”“ค่ะ มัน
ตอนที่ 183.“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่พี่มาร์คก็จะทำบุญให้เธอตามประเพณีทางศาสนา” เขาบอกภรรยาด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเสียใจ มือหนาจับจูงมือเล็กๆ นั้นเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาดขาวสะอาด ลมทะเลกรุ่นกลิ่นหอมยามบ่ายพัดโชยโลมไล้ผิวกายราวจะพัดพาเอาความทุกข์ร้อนของคนให้ลงทะเลไปเสีย“แมงปอก็เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไปสู่สุคติ”“พี่ก็คิดแบบนั้น พี่อยากบอกเธอว่าพี่อโหสิให้เธอทุกอย่างและอยากขอให้เธออโหสิให้กับเราทุกๆ คนด้วย” สองสามีภรรยาเดินมาทรุดนั่งบนโขดหินใหญ่โดยมีเจ้าคอบร้า เจ้าลิลลี่และลูกๆ ของมันวิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนลูกๆ ของเจ้าลิลลี่จะรักและเคารพเจ้าคอบร้ามากกว่าแม่ของมันเสียอีก เพราะไม่ว่าเจ้าคอบร้าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้อยๆ สี่ตัวนี้ก็พร้อมจะตามไปและทำตามอย่างแข็งขัน จนผู้ที่พบเห็นมันต่างก็พากันมองดูพวกมันด้วยความชื่นชมเอ็นดู“เจสซี่ มินนี่ ทอฟฟี รินนี่ มานี่เร็วๆ” อรุณนารีร้องเรียกเจ้าสุนัขน้อยสี่ตัวที่เป็นตัวเมียสองตัว ตัวผู้สองตัว และเธอก็ตั้งชื่อให้พวกมันอย่างคล้องจองกัน แต่ตอนนี้พวกมันพากันตัวโตมากขึ้นเพราะได้รับการเลี้ยง
ตอนที่ 182.“คุณคะ คุณว่าสองคนนั่นจะเป็นไรมากไหมคะ เห็นเด็กๆ บอกว่ายังไม่ลงมาจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน คุณแม่บ้านบอกว่าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้ที่หน้าห้องแล้วสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายชั้นบนหากไม่เรียก โธ่คืนนั้นสองคนนั่นดูเหมือนจะแรงทั้งคู่นะคะคุณ ป่านนี้หนูฮันนี่ของฉันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” คุณราเชลบ่นกับสามีเบาๆ“โธ่คุณ ถ้าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้และไม่ให้ใครไปวุ่นวายก็คงจะหมายความว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาเขาสองคนนั่นแหละ เรารอฟังข่าวดีกันดีกว่า ไม่แน่ป่านนี้หนูฮันนี่อาจจะกำลังมีหลานให้เราแล้วก็ได้” นายใหญ่แห่งคฤหาสน์เวลส์มองหน้ากันด้วยความหวังที่เรืองรองทันทีเวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวันและผ่านผันเป็นเดือน เมื่อความรักความเข้าใจแทรกซึมในหัวใจที่มีรักและครองสติได้มองทุกอย่างด้วยเหตุและผลที่เหมาะสม ทุกชีวิตก็ย่อมถูกใช้ให้หมดไปในแต่ละวันอย่างมีความสุข อันความทุกข์นั้นเราก็เอาไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้มองเห็นและรู้ทันมันนั่นคือสิ่งที่ผู้มีปัญญาควรไตร่ตรองและคิดได้ แต่หากผู้โง่เขลามองและคิดอย่างไร้เหตุผลหลงผิดตกลงไปในบ่วงร้ายที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ไฟแห่งความหลงผิดนั้นก็