Home / อื่น ๆ / หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง / ตอนที่ 9 ความเจ็บช้ำในอดีต

Share

ตอนที่ 9 ความเจ็บช้ำในอดีต

last update Last Updated: 2025-01-03 16:50:01

ตอนที่ 9 ความเจ็บช้ำในอดีต

นั่นมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเธอกับพี่สาวไม่ค่อยจะสนิทกันสักเท่าไรเพราะต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตัวเองเสียมากกว่า ถึงเธอจะไม่ชอบคลุกคลีอยู่ในไร่ในสวนกับคนงานสกปรกพวกนั้น แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้สนใจในธุรกิจของครอบครัว ที่มีทั้งไร่ชา และไร่ดอกไม้ที่มีเอาไว้ส่งตามตลาดร้านค้าโรงแรมหรู และเอาไว้เป็นแลนด์มาร์คให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอิน และยังมีโฮมสเตย์และรีสอร์ทติดเขาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นที่ชื่นชอบ สำหรับชาวต่างชาติและผู้ที่เบื่อนายกับความวุ่นวายในเมืองหลวงมาพักผ่อนคลายเครียด จะว่าไปแต่ก่อนมันก็ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองถึงขนาดนี้จนตอนที่พี่สาวของเธอได้มาบริหาร ธุรกิจของครอบครัวของเธอจึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาติดอันดับต้นๆของภาคเหนือสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แล้วอย่างนี้มีหรือที่เธอจะไม่สนใจในธุรกิจของครอบครัว

"พี่น้ำไปพบลูกค้าในเมืองพี่น้ำจะแวะไปหาพี่ภพที่โรงแรมหรือเปล่าคะ?" เพลงพิณถามที่สาวที่กำลังตักข้าวปาก

"พี่ไม่แน่ใจที่ต้องดูก่อนว่างานของที่เสร็จเร็วหรือเสร็จช้า" เธอตอบ

"คนกำลังจะแต่งงานกันแต่ไม่ไปเจอหน้ากันเลยนี่มันยังไงคะ?"เพลงพิมพ์เอียงคอถามพี่สาวยิ้มๆ

"ถึงไม่ได้เจอกันทุกวันแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้เจอกันเลยนี่คะ..โทรศัพท์ก็โทรหากันอยู่แทบจะทุกชั่วโมง"เธอตอบน้องสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม..แต่คนฟังกับรู้สึกระคายหู

"อิจฉาพี่น้ำจังเลยค่ะ!" เธอเอ่ยออกมายิ้มขม

"อิจฉาก็หาแฟนซะสิคะ"ธารธาราสัพพยอกน้องสาว

เพลงพิณไม่ได้รับคำหรือปฏิเสธพี่สาว เธอเพียงแต่แย้มยิ้มออกมาเพียงบางเบาให้กับพี่สาวเท่านั้น

"แล้วไปพบลูกค้าก็อย่ากลับค่ำมากนักนะลูกพ่อเป็นห่วง?"นายสันติเอ่ยขึ้นกับบุตรสาวคนโต ด้วยน้ำเสียงห่วงใย

"ค่ะพ่อ"เธอรับคำยิ้มๆ

"พ่อว่าให้ผู้ช่วยตามไปเป็นเพื่อนหรือไม่ก็ให้เลขาตามไปเป็นเพื่อนดีไหม"นายสันติบอกกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ น้ำไปคนเดียวได้ปกติน้ำก็เข้าออกเมืองอยู่อย่างนี้คนเดียวทุกวันอยู่แล้วนี่คะ ไม่เห็นจะมีอะไร? อีกอย่าง ไร่ของเราก็ไม่ได้ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองสักเท่าไหร่นี่คะขับรถครึ่งชัวโมงก็ถึงแล้ว"เธอบอก

"ก็พ่อเป็นห่วง"นายสันติยังคงพึมพำ

"น้ำจะรีบกลับไม่ให้ค่ำก็แล้วกันนะคะ!"เธอบอกกับบิดาเสียงอ่อน

"เอาอย่างนั้นก็ได้"นายสันติพยักหน้าพลางเอ่ย จากนั้นคนทั้ง 4 ก็แยกย้ายกันออกจากบ้านไปทำธุระของตัวเองนายสันติกลับเข้าไปในไร่ส่วนนางศิรินาถอยู่บ้านทำอาหารดูแลบ้าน ส่วนบุตรสาวคนเล็กก็ออกไปร้านผ้าไหมของตัวเอง ด้านของธารธาราเองก็กำลังเดินทางไปพบลูกค้าในเมือง

อีกด้านหนึ่ง ณไร่ภาคิน

"เจ้านายจะไม่ให้พวกผม 2 คนตามไปด้วยจริงๆหรือครับ?" มาวินกับวินัยยืนกุมมือ อยู่ตรงหน้าของผู้เป็นนายพลางถามออกไป

ภาคินมองคนสนิททั้งสองนิ่งๆ

"งั้นไปคนหนึ่งอีกคนหนึ่งทำงานแทนฉันที่นี่"เขาตอบ

"อย่างนั้นก็ได้ครับ" ทั้งสองถอนหายใจ ด้วยความโล่งอก ไม่ว่าใครจะเป็นคนติดตามเจ้านายเข้าในเมืองก็ไม่ต่างกันขอแค่เจ้านายไม่ไปคนเดียวก็พอ ไม่นานคนทั้งสองก็ตกลงได้มาวินเป็นคน ติดตามผู้เป็นนายเข้าไปในเมืองส่วนวินัยดูแลงานแทนผู้เป็นนายอยู่ที่ไร่

ใช้เวลาไม่นานเจ้านายลูกน้อยก็มายืนอยู่หน้าห้องห้องเลยในโรงแรมอุ่นไอหมอกของตัวเอง เขาเคาะประตูไม่กี่ครั้งประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับชายวัย 60 ยืนส่งยิ้มให้เขาอยู่หลังประตู

"สวัสดีครับพ่อ"ภาคินยกมือไหว้บิดาทันทีที่เจอหน้าคนที่เขาไม่ได้เจอมาเกือบจะ 5 ปี

"สวัสดีครับคุณท่าน" มาวินยกมือไหว้ชายชราตามผู้เป็นนายถึงจะไม่รู้ว่าผู้ชายวัยชราตรงหน้านี้เป็นใครแต่เจ้านายเรียกชายตรงหน้านี้ว่าพ่อ..นั้นก็คงจะเป็นคุณท่านของเจ้านายพวกเขา เพราะเจ้านายไม่ได้บอกว่าพ่อของเจ้านายจะมาเขาเองก็ไม่เคยพบเจอกับครอบครัวของผู้เป็นนาย

วีระพลมองบุตรชายที่ไม่หลงเหลือคลาบของผู้ชายเจ้าสำอางเมื่อ 5 ปีที่แล้วให้เขาได้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านี้คือผู้ชายมาดเข้มท่าทางดุดันจนดูน่าเกรงขาม การแต่งตัวก็ไม่หลงเหลือมาดของรองประธานสุดเนี๊ยบ เมื่อ 5 ปี หลงเหลือให้เขาเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว นี่ถ้าเกิดว่าภรรยาของเขามาเห็นบุตรชายในลุคนี้นางคงจะร้องไห้จนน้ำตาท่วมเชียงใหม่แน่ๆนายวีระพลคิด กลับกัน แต่เขากลับชอบบุตรชายในตอนนี้มากกว่าดูเป็นคนเข้มแข็งและฉลาดหลักแหลมไม่หัวอ่นเหมือนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

"เข้ามาข้างในกันก่อนสิ!" เมื่อมองสำรวจบุตรชายจนหนำใจแล้วนายวีระพลจึงเรียกให้บุตรชายเข้ามาในห้อง

"เป็นยังไงบ้างลูก สบายดีไหม?" นายวีระพลถามบุตรชายพลางตบไหล่ล่ำๆ ของบุตรชาย ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขอบตาร้อนพราวเมื่อนึกถึงสภาพของบุตรชายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนจนเขาเองทนดูสภาพของบุตรชายไม่ไหวจนต้องหาวิธีส่งบุตรชายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น เหมาะเจาะกับที่บุตรชายของเขาได้รับจำนำไร่ชาที่ภาคเหนือเอาไว้พอดี บุตรชายของเขาจึงหอบเอาร่างกายและหัวใจที่บอบช้ำหนีมาเป็นชาวไร่.. จนกลายเป็นพ่อเลี้ยงไร่ชาในที่สุด เขาภูมิใจในตัวของบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาคนนี้มาก ถึงจะผ่านอะไรมามากมาย แต่เขาก็พาตัวเองมาถึงจุดนี้จนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ได้พึ่งพาตัวของเขาเลยแม้แต่สักครั้ง

"แล้วคุณพ่อล่ะครับเป็นยังไงบ้างสบายดีหรือเปล่า?" เขาถามบิดาโดยไม่ยอมปริปากถามหาคนเป็นมารดาเลยแม้แต่คำเดียวจนนายวีระพลต้องเป็นคนเอ่ยขึ้นมาเองเสียก่อน

"พ่อสบายดี แม่เราก็สบายดี แม่เขาบ่นหาลูกทุกวันเลยนะ แม่เขาคิดถึงลูกมากจนผ่ายผอมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ให้อภัยแม่เขาเถอะนะ แม่เขาสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปแล้ว" นายวีระพลเอ่ยพรางมองหน้าบุตรชายด้วยแววตาขอร้อง

"ครับ"เขาตอบรับเพียงคำเดียวสั้นๆ แล้วไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีกจนนายวีระพลต้องแอบถอนหายใจ แทนผู้เป็นภรรยา จะว่าไปภรรยาของเขาก็ทำผิดกับบุตรชายคนนี้เอาไว้มากจริงๆ นั่นแหละ ถ้านางไม่โกหกบุตรชายว่าเป็นโรคหัวใจถ้าไม่ยอมแต่งงาน กับคนที่นางเลือกให้นางจะไม่ยอมรักษาตัวจนบุตรชายต้องยอมทำตามคำร้องขอของมารดา ด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน ทนแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักแถมยังเกลียดแสนเกลียดอย่างเช่นผู้หญิงคนนั้น จนในที่สุดบุตรชายของเขาก็ได้รู้ความจริงว่าเขาถูกมารดาร่วมหัวกันกับน้องสาวคู่หมั้นและมารดาของเธอ โกหกบุตรชาย และวางแผนกำจัดคู่หมั้นของบุตรชาย แล้วให้บุตรชายแต่งงานกับน้องสาวของคู่หมั้นแทน ถ้าเป็นเขาเขาเองก็โกรธจนยากที่จะให้อภัยเช่นกัน

"แล้วคุณพ่อจะอยู่กี่วันครับ"เขาไม่พูดถึงมารดา แต่เลือกที่จะคุยไปเรื่องอื่น นายวีระพลแอบถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะยิ้มน้อยๆแล้วตอบคำถามของบุตรชาย

"พ่อกะว่าจะอยู่ซักอาทิตย์ คุยงานกับลูกค้าเสร็จพ่อก็กะว่าจะไปชมไร่ของลูกเสียหน่อย"นายวีระพลบอกกับบุตรชาย

"ครับ ผมจะมารับพ่อพรุ่งนี้ตอนเย็นนะครับ" เขาเอ่ย ถึงคนเป็นพ่อจะไม่เอ่ยเขาก็จะเป็นคนมารับผู้เป็นพ่อไปชมไร่ของตัวเองอยู่แล้ว

จากนั้นสองพ่อลูกก็คุยกันอยู่นานสมกับที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี โดยเฉพาะนายวีระพล ที่ไม่ได้เจอบุตรชายมานานคุยไม่หยุดปากด้วยความคิดถึง ปกติแล้วจะคุยกันแค่ทางโทรศัพท์และข้อความไลน์แต่พอมาเจอหน้ากันแบบนี้แล้วทำให้เขานึกถึงตอนที่อยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯซึ่งตอนนั้นทั้งสองได้เจอหน้ากันทุกวัน..จนเวลาล่วงเลยถึงสี่โมงเย็น

"หิวข้าวหรือยังครับพ่อจะสั่งขึ้นมาทานหรือจะไปทานข้างนอกกันดี?"ภาคินถามบิดา

"สั่งขึ้นมาทานดีกว่า พ่อยังเหนื่อยกับเดินทางไกลอยู่"

"งั้นโทรไปสั่งให้เชฟทำอาหารขึ้นมาส่งบนนี้ที"เขาหันไปสั่งคนสนิท

"ครับนาย" มาวินรับคำก่อนจะออกไปโทรสั่งกับผู้จัดการ

......อีกด้านหนึ่ง ธารธาราที่พึ่งจะคุยกับคู่ค้าเสร็จ เธอก็มาเดินชื้อของใช้ส่วนตัวที่ห้างสรรพสินค้าของเมืองเชียงใหม่ก่อนจะกลับบ้าน..กว่าเธอจะเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จก็ปาไปเกือบจะหนึ่งทุ่ม

"ค่ำจนได้"

เธอพึมพำเมื่อออกมาเจอว่าแสงตะวันได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว เธอขึ้นรถแล้วขับออกมาจากห้างสรรพสินค้าเสียงของโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอกดรับสายโดยไม่ลังเลเพราะเธอเห็นแล้วว่าใครเป็นคนโทรมา..แล้วเสียงหวานใสของน้องสาวก็ดึงขึ้นปลายสาย

"พี่น้ำอยู่ไหนคะ" เพลงพิณถามพี่สาวทันที่ที่พี่สาวกดรับสาย

"กำลังกลับจ้ะ"เธอตอบพลางเหยียบคันเร่งไปตามถนน

"แล้วตอนนี้พี่น้ำถึงไหนแล้วคะ? เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอทานข้าวค่ะ"เพลงพิณถามพี่สาวมาตามสาย

"พึ่งจะออกจากห้างสรรพสินค้านะอีกไม่เกิน20นาทีก็คงจะถึงไร่"เธอบอกกับปลายสาย

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะรอทานข้าวนะคะ พี่น้ำขับรถดีๆนะคะ" เพลงกินบอกกับพี่สาวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

"จ๊ะขอบใจจ้า"เธอกล่าวขอบใจน้องสาวแล้วก็วางสายไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ถึงแม้ว่าเธอกับน้องสาวจะเป็นพี่น้องคนละแม่ แต่เธอก็รัก และเอ็นดูน้องสาวตัวน้อยคนนี้อยู่มาก เพราะตอนที่เพลงพิณเกิดเธอก็อายุ 5 ขวบเข้าไปแล้ว เมื่อมีน้องสาว เธอจึงเอ็นดูน้องสาวตัวน้อยมาก

อีกด้าน ณโรงแรมอุ่นไอหมอก

"ผมจะต้องกลับไร่แล้ว พ่อจะไม่เปลี่ยนใจกลับพร้อมผมวันนี้แน่นะครับ"ภาคินถามคนเป็นบิดา

"เอาไว้พรุ่งนี้ตอนเย็นก็แล้วกันพ่อขอทำธุระให้เสร็จก่อนจะได้พักผ่อนให้สบายใจ"วีระพลกล่าวกับบุตรชาย

"ตามใจพ่อเลยครับ"กล่าวจบเขาก็ขอตัวกลับทันทีแต่ไม่ลืมสั่งให้ผู้จัดการดูแลบิดาของเขา ก่อนจะกลับไร่ไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 23 ผิดหวัง

    ตอนที่ 23 ผิดหวัง ธารธารามองบิดาที่ทำหน้าขึงขังตะคอกใส่เธอด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห่พร่า "น้ำถามพ่อจริงๆเถอะค่ะ พ่อเคยรักน้ำบ้างไหม? นอกจากเห็นน้ำเป็นคนงานในไร่แล้วพ่อเคยเห็นน้ำเป็นลูกของพ่อบ้างไหม?"เธอถามพร้อมกับมองหน้าบิดาด้วยน้ำตานองหน้า "ทำไมฉันจะไม่รักแกคุณนาทเองเขาก็รักแกเหมือนกับลูกในไส้ของเขาเสียด้วยซ้ำ" "ถ้าคุณพ่อบอกว่าพ่อรักน้ำ แล้วทำไมสิ่งที่เพลงทำกับน้ำพ่อไม่เห็นจะตำหนิเพลงเลยแม้แต่คำเดียวล่ะคะ แต่พ่อกลับมาตำหนิน้ำ ทั้งๆที่น้ำไม่ได้เป็นคนทำอะไรผิดทั้งๆ ที่น้ำเป็นคนถูกกระทำ นี่เหรอคะการ กระทำของพ่อที่บอกว่ารักลูกเท่ากัน..?"เธอถามทั้งน้ำตา "แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้วแล้วแกเองก็เป็นคนพูดเองกับปากว่าจะไม่แต่งงานกับตาภพแล้ว"สันติเอ่ยออกมาด้วยคิดว่าท่าบุตรสาวยกเลิกงานแต่งไปแล้ว มันก็ไม่ผิดที่บุตรสาวคนเล็กที่หลงรักคู่หมั้นของพี่สาวของตัวเองมากมายขนาดนี้จะเข้ามาอยู่แทนที่ เธอมองบิดาด้วยความรู้สึกผิดหวัง "โดยที่พ่อมาขอคู่หมั้นของน้ำให้กับลูกสาวคนเล็กของตัวเองแบบนี้นี่นะคะ?พ่อทำได้ยังไงคะ? พ่อใจร้ายกับหนูมากเลย

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 22 เผชิญหน้ากับความจริง

    ตอนที่ 22 เผชิญหน้ากับความจริง "นะคุณไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยฉันไม่อยากจะไปพบคนพวกนั้นคนเดียวจริงๆ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ภาคินมองคนที่เขาหลวมตัวไปยุ่งเกี่ยวด้วยตั้งแต่แรก พลางถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ มองดูอีกที่ก็เห็นสายตาร้องขอกำลังจดจ้องเขาอยู่ "อืม..ก็ได้" เขาจึงจำใจต้องตอบตกลงไปเป็นเพื่อนของเธอ เพื่อไปพบกับครอบครัวของคู่หมั้นและครอบครัวของตัวเองในครั้งนี้อย่างจำใจ ณไร่ธารธารา หลังจากที่ 3 คนพ่อแม่ลูกกลับไปแล้วนายสันติก็เอาแต่นั่งสองมือกุมขมับพิงพนักโซฟาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและเหนื่อยใจ ข้างกายมีนางศิริมาถค่อยปล่อบประโลมอยู่ไม่ห่าง ห่างออกไปมีบุตรสาวคนเล็ก นั่งจิ้มโทรศัพท์อยู่โดยไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใจอะไร ท่าทีสบายใจของบุตรสาวทำเอานางสิรินาถ ถึงกับมองด้วยความแปลกใจ แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าบุตรสาวคนเล็กยังเด็ก ในขณะที่คนทั้ง 3 กำลังนั่ง ต่างคนต่างก็คิด ถึงเรื่องต่างๆอยู่นั้นก็มีเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาด้วยหน้าตาตื่นตกใจและดีใจไปในคราเดียวกัน "พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเจ้าขา คุณน้ำกลับมาแล้วค่ะ" เสียงร้องโหวกเหวกของเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาหาคนทั้งสาม นายสันติเมื่อได้

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 21 ผิดแผน

    ตอนที่ 21 ผิดแผนสันติยังมีใบหน้าเคร่งเครียด ถึงจะได้ฟังเหตุผลที่บุตรสาวหนีไปก็เถอะ "ไม่มีเรื่องผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม?"สันติยังคงอดที่จะถามไม่ได้คำถามของว่าที่พ่อตาทำเอาปองภพถึงกับหน้าเสีย กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"ไม่มีครับคุณอา ผมรักน้ำ ผมมีแค่น้ำคนเดียวครับ?"เขาพูดพลางปลายตาไปมองยังหญิงสาวอีกคนด้วยแววตาข่มขู่เพลงพิณเมื่อได้รับสายตาข่มขู่ และคำพูดของผู้ชายที่เธอรักบอกกับทุกคนว่าเขารักพี่สาวของเธอและในใจก็มีเพียงพี่สาวของเธอคนเดียว มันทำให้เธอถึงกับรับไม่ได้ ความเสียใจและน้อยใจมันก็ตีตื่นขึ้นมาจนเธออยากจะตะโกนถามออกไปต่อหน้าของเขาว่า แล้วเธอล่ะ? เป็นอะไร? ไม่มีส่วนใดสำคัญกับชีวิตเขาบ้างเลยหรือยังไง? เมื่อทนรับฟังต่อไปไม่ไหวเธอจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปบอกกับมารดาสียงแข็ง"คุณแม่คะ! พอดีว่าลูกน้องที่ร้านโทรมาว่ามีเรื่องด่วนเพลงจะต้องออกไปเดี๋ยวนี้เพลงไปก่อนนะคะ" เธอพูดพลางมองหน้าของปองภพด้วยแววตาตัดพ้อ ก่อนจะเดินสะบัดหน้าเดินผ่านหน้าเขาออกจากห้องรับแขก โดยมีสายตาของคนทั้ง 4 มองตามด้วยความมึนงง? และไม่เข้าใจในอารมณ์ของหญิงสาว แต่กระนั้นนางศิรินาถก็ยังหั

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 20 ความเสียใจ

    ตอนที่ 20 ความเสียใจ อีกด้านหนึ่งภายในห้อง ธารธาราที่เผลอหลับไปด้วยความเมื่อยล้าทั้งกายและใจ ตื่นขึ้นมาอีกทีท่ามกลางห้องที่ไม่คุ้นเคยตา กว่าเธอจะตั้งสติได้ว่าเธอมาขออาศัยอยู่ที่ไร่ชาภาคิน ก็กินเวลาไปเกือบนาที เธอมองออกไปด้านนอกหน้าต่างที่มีไร่ชากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาด้วยความหม่นเศร้า ยิ่งนึกไปถึงคนรักและผู้หญิงที่เป็นเพื่อนรักและน้องสาวเพียงคนเดียวของตัวเองมันก็ยิ่งทำให้เธออยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พรางก็นึกสมเพชตัวเองที่ถูกเพื่อนสนิทและน้องสาวที่เธอทั้งรักและเอ็นดูหักหลัง ถ้าทั้งสองคนนั้นบอกกับเธอดีๆว่าชอบคนรักของเธอ เธอเองก็จะยอมหลีกทางให้แต่โดยดี เพราะเธอเองก็ไม่คิดที่จะแบ่งผู้ชายของตัวเองให้ผู้หญิงคนอื่นไปใช้เช่นกัน ถ้าเธอรู้ เธอก็จะยกให้อย่างไม่คิดที่จะเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่คนพวกนั้นเลือกที่จะแทงข้างหลังเธอ ทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เธอรู้เรื่องสกปรกโสมมของคนพวกนั้นก่อนที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา และตกนรกทั้งเป็น เมื่อถึงวันนั้น การเลิกรามันก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการฟ้องหย่ามันไม่ได้ใช้เวลาแค่วันสองวันเสียทั้งเวลาและความรู้สึก.. ในขณะที่เธอกำล

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 19 ปองภพร้อนใจ

    ตอนที่ 19 ปองภพร้อนใจเพลงพิณเข้ามาในบ้านสิ่งแรกที่เธอทำคือมองหาพี่สาวต่างมารดา"พี่น้ำกลับมาหรือยัง? "เธอถามเด็กรับใช้ที่อยู่แถวนั้น"คุณน้ำยังไม่กลับมาเลยค่ะคุณเพลง"เด็กรับใช้หันมาตอบเมื่อได้รับคำตอบของเด็กรับใช้เพลงพิณก็เดินขมวดคิ้วเข้าไปในบ้าน ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพราะเธอตั้งใจจะมาคุยกับพี่สาวเรื่องของปองภพ เธออยากจะขอร้องให้พี่สาวไปบอกกับปองภพให้เธอเป็นเจ้าสาวแทน แต่เมื่อเดือนเข้ามาในบ้านก็เห็นมารดานั่งอยู่ในห้องรับแขกกำลังนั่งสั่งงานทางไลน์อยู่กับออแกนไนท์ที่มาจัดเตรียมสถานที่งานแต่งให้กับพี่สาวของเธออยู่นางสิรินาถเองที่เห็นบุตรสาวเดินเข้ามาในบ้านในเวลานี่ก็อดที่จะขมวดคิ้วถามออกไปไม่ได้"อ้าวไม่สบายหรือเปล่าลูกทำไมกลับมาเวลานี้?"นางถาม บุตรสาวคนเล็กด้วยความเป็นห่วง"เปล่าค่ะแม่คะพี่น้ำยังไม่กลับมาอีกเหรอคะ?"เธอปฏิเสธมารดาพลางถามกลับ"แม่ยังไม่เห็นพี่น้ำเขากลับมาเลยนะ" นางสิรินาถตอบบุตรสาว"มีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า??"นางถามกลับอีก"ไม่มี!.".เพลงพิณตอบพลางเดินขึ้นห้องของตัวเองไป ปล่อยให้นางศิริมาศมารตอนบุตรสาวด้วยความมึนงง พลางพึมพำตามหลังบุตรสาว"อะไรกันอยู่ๆก็ไป"ด้านของเพลงพิณ

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ

    ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status