Home / มาเฟีย / หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 ) / บทที่ 7 เพื่อนยามเหงา

Share

บทที่ 7 เพื่อนยามเหงา

last update Last Updated: 2025-04-18 01:53:26

เอมิเลียนั่งตัวตรงพร้อมรวบช้อนส้อมเข้าหากันวางกลางจานข้าวซึ่งยังเหลืออยู่เต็มจาน หลังถูกลูแคน บอดี้การ์ด​ฝั่งซ้ายครูซัสกึ่งบังคับพามากิน ชายหนุ่มหรี่ตาขึ้นมองถือช้อนค้าง เขาเองก็ถูกต่อรองจากเธอ ถึงได้มาร่วมโต๊ะ​กันอย่างนี้

"หนู​อิ่ม..."

"คุณหนู​ยังไม่อิ่มครับ"

หญิงสาวเหลือบตามองบน ยกแขนกอดอกแน่น เริ่มหน่าย กับพฤติกรรมรู้ทันไปเสียทุกเรื่องของเขา ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองเข้าไปในตาสีฟ้า หวังจะสะกดจิต ทว่า...

"ทานต่อเถอะครับ คุณ​หนูเพิ่งทานไปสองคำเอง"

"หนูอิ่มแล้วค่ะ"

เอมิเลียย้ำ เลิกคิ้วขึ้นบ่งบอกให้รู้มันคือความจริง แต่คนผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างลูแคนหรือจะเชื่อ เขาวางช้อนลง ตั้งใจพูดแกมขอร้องเน้นคำ

"กว่าคุณ​หนูจะ​ได้​ทาน​มื้อ​เย็น​อีก​รู้ไหมครับมันนาน ทานให้อิ่มเสียตอนนี้เถอะครับ ผมขอร้องล่ะ " แต่เหมือนคนขอร้องอย่างเขาจะถูกอ้อนกลับมา เอมิเลียทำหน้าสลด ก้มหน้างุน

"ทำไมไม่เชื่อหนูบ้าง ก็ได้ค่ะ... ถ้ากินหมด คุณ​ลูแคนให้รางวัลหนูหน่อยได้ไหมล่ะคะ"

"หืม... "

"​หนู​มี​ที่​ที่นึงที่​อยาก​จะ​ไปค่ะ​"

เธอบอกเสียงร่าเริงในประโยค​ทิ้ง​ท้าย ก้มหน้าก้มตาตั้งใจกินโดยไม่รู้คำตอบจากเขา ปล่อยเขานั่งมึน เสมือนถูกชกหน้า

ในที่สุดบอดี้การ์ด​หนุ่ม​ต้องยอมจำนน แม้สถานที่ที่เธออยากมาจะฝืนใจเขาสักหน่อย นั่นเพราะมันคือสถานที่ต้องห้าม หากเจ้านายเขารู้ มีหวังเขาต้องถูกเล่นงานแน่ๆ อีกทั้งก่อนหน้า เธอจงใจมัดมือชก โดยการไม่รอคำตอบ แต่เลือกที่จะถามเองตอบเอง แล้วอย่างนี้เขาจะเลือกอะไรได้อีก

"ทำหน้าแบบนี้ แสดงว่าคุณท่านห้ามสินะคะ"

เสียงเธอถามทำเขาสะดุ้ง ขณะรถเคลื่อนมาจอดสนิท และคนขับมีสีหน้าที่ซังกะตายเสียจนดูออก

"คุณหนู​รู้​แต่เลือกที่จะทำ"

"หนู​ไม่​บอกเขาหรอกค่ะ ไม่​ต้องห่วง แค่อยากมาไว้อาลัยคุณป้าเรกาโด แกรนด์​ เท่านั้น"

"......"

มือบางเลื่อนไปเปิดประตู​เอง โดยไม่รอเขา และไม่วายจะหันมาเน้นย้ำ ทำชายหนุ่มยิ้มกริ่มที่มุมปาก

"สัญญา​ค่ะ จะไม่ทำให้เดือดร้อน"

เอมิเลียเดินทอดน่องฝ่าแสงแดดเข้ามาในสุสาน ไม่ห่วงเรื่องผิวจะเสีย เกิดข้อเปรียบเทียบแก่คนเดินตามไม่น้อย ก่อนหน้าซึ่งมากับเคลที่ ไม่ใช่แบบนี้ รายนั้นโวยวาย หากร่มลอยมาคลุมศีรษะหล่อนไม่ทัน

แต่เด็กชุบเลี้ยงคนนี้กลับทรุดลงนั่งบนเข่า ในขณะลูกแท้ๆไม่เคยทำ ต่างกันกลับยืนค้ำหัวคนตายไม่รู้ตาสีตาสา มิหนำซ้ำยังบ่นว่าร้อนตลอดเวลาอีก ไม่วายถูกพี่ชายตนปรามทางสายตาจนคนเห็นชินชาไปด้วย ส่วนเธอคนนี้ นอกจากจะพกช่อดอกไม้ติดตัว เลือกแต่ละดอกด้วยหัวใจวางไว้บนฐานปูนข้างรูปแล้ว เธอยังระลึกถึงพึมพำวาจาประโยค​เหล่านี้ด้วย

"เอมี่มาเยี่ยมค่ะคุณป้า ขอโทษ​ที่รู้ช้าไป สัญญาค่ะว่าจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนให้สบกับความเมตตาที่คุณป้ามีให้"

พร้อมฝ่ามือที่ลูบไล้บนรูปถ่ายไปมา คำพูด​นุ่มนวลน่าฟังกับการกระทำที่อ่อนโยน มันทำให้คนยืนมองอย่างลูแคนใจอ่อนไหว

ใช่ เอมิเลียช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน

ใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากกว่าห้าชั่วโมง กว่าเอมิเลียจะได้กลับบ้าน หลังครูซัสส่งสาสน์บอกลูกน้องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทุกคนปลอดภัย แต่กว่าจะประเหลาะ ชักแม่น้ำทั้งห้าฉุดยื้อให้เอมิเลียไปไหนมาไหนต่อ ทำตามอย่างว่าง่ายได้โดยไร้ความสงสัยนั้น ลูแคนเหงื่อแตกพลั่กกันเลยทีเดียว ต่างกับคนนี้โดยสิ้นเชิง นอกจากจะทำให้ลูกน้องมือขวาเกือบเป็นโรคประสาทแล้ว อารมณ์ขี้วีนของหล่อนสร้างความเหนื่อยล้า จุกความอึดอัดถึงขั้นใกล้สำลอก

"พี่ชายฉันคงสอนพวกแกให้เป็นหุ่นยนต์ด้วยสินะ ถึงไม่มีอารมณ์​สุนทรีแบบนี้ ถามอะไรก็ไม่ตอบสักอย่าง"

และเสียงนั่นก็แผดล้นออกมานอกประตู เอมิเลียสะดุ้งโหยง อยากจะหมุนเท้า เดินหนีทว่า คงไม่ทัน ในขณะร่างเธอหลุดเข้ามาแล้ว จึงทำได้แค่ชะงักและยืนนิ่งเท่านั้น

เคลที่ชำเลือบหันมามองค้อน ก่อนเหยียดปากแปรทิศทางมาเป็นเธอ

"อ้อ! ยัยนี่ก็คงจะไม่ต่างกับฉัน ว่าแต่มีสิทธิ์​อะไรน่ะ ถึงได้เอาเงินพี่ฉันไปผลาญเล่น"

หล่อนเหน็บแนบ จาบจ้วงจนเอมิเลียก้มหน้างุน ใจคอเริ่มไม่ดี หายใจไม่ทั่วท้อง สำหรับเธอ คนตรงข้ามคือคนแปลกหน้าที่น่ากลัวที่สุด หากให้เดา หล่อนคงเป็นน้องสาวนายท่านของซีอาร์​และคนอื่นๆสินะ

"เอ่อ.. สวัสดีค่ะ "

และเมื่อรู้ เธอไม่ควรจะยืนเมินเฉยอย่างนี้ ด้วยมารยาท จึงเงยหน้าขึ้นมาทักทายเจ้าของบ้าน ยิ้มกว้างเป็นมิตร ทว่ากลับถูกหล่อนขึงตาใส่ เลี่ยงเอมิเลียก้มหน้างุนอีกครั้งไม่ได้ คราวนี้ถึงกับสลดกว่าเดิม

"สิทธิจากนายท่านครับคุณหนู"

"ฉันไม่ได้ถามแก!"

คงมีแต่คนกล้าปกป้องอย่างลูแคนล่ะมั้ง ที่ทนยืนดูต่อไปไม่ไหว เขาจึงสอดแทรกขึ้น แต่ไม่วายถูกหล่อนตะเพิดกลับมา ทว่าลูแคนหาสะท้กสะท้านไม่ แต่กลับยืนเฉย แอบหันมายักคิ้วให้เอมิเลีย ที่ตอนนี้ห่อไหล่ เหลือบตามามองเขา

"ทำไมต้องเอามันมาอยู่ที่นี่ให้สิ้นเปลืองด้วยนะ ส่งเสียมันเรียนเหมือนที่ผ่านมาก็ได้นี่"

ก่อนสะดุ้ง ชาวาบไปทั้งตัวเพราะคำถามนี้ ที่เคลที่ตะเบ็งเสียงใส่

ท่ามกลางความเห็นอกเห็นใจจากคนใช้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทว่าช่วยอะไรเธอไม่ได้ เว้นแต่บอดี้การ์ดคนเดิม

"คุณหนูถามใครหรือครับ อ้อ คงไม่ใช่ผม"

และเหมือนเดิม เขาถูกขึงตาใส่อีกเช่นเคย จงใจขัดใจเคลที่ ทว่าโล่งใจเอมิเลีย เมื่อเธอถูกหล่อนโบกมือไล่

"จะไปไหน​ก็ไป ไป"

แน่นอน ร่างบางรีบปลีกตัวโดยไม่คิดชีวิต แต่ไม่วายหันไปยิ้มอ่อน แทนคำขอบคุณ​ให้กับลูแคน บอดี้การ์ดจำเป็นของเธอ

เรกาโดเดินอาดๆเข้ามาในคฤหาสน์ หลังเคลียร์ปัญหา​คาราคาซัง​นั้นจบ เขาวางมือจากปืนลงบนโต๊ะ ทุ่มตัวใส่เบาะนุ่มหวังผ่อนคลาย ทว่า ไม่ทันได้หายใจเต็มปอด สมาร์ท​โฟนในกระเป๋า​กางเกงกลับดังขึ้น

ร่างใหญ่ถอนหายใจพรืด ความล้าทำได้แค่ยกเอวสอบ งัดเครื่องบางขึ้นมากดรับเท่านั้น มากไปกว่านั้น เมื่อเห็นชื่อคนโทรมา กลับทำเขายิ่งหนักใจ

"ว่าไง"

(คนเป็นแฟนกันเขาทักทายกันอย่างนี้หรือคะ)

"ผมเหนื่อย"

(ฉันก็เหนื่อยค่ะ เหนื่อยใจ)

"มิเชล ผมไม่มีอารมณ์​มาต่อปากต่อคำกับคุณ"

(แล้วต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่คะ คุณถึงจะมีอารมณ์ขึ้นมา ถ้าฉันไม่เป็นฝ่ายติดต่อ คุณก็ไม่เคยโทรมาก่อน)

 "ฟู่ว.."

ชายหนุ่มกลั้วปากพลางลอบถอนหายใจ แต่กลับถูกหล่อนแผดเสียง

(อย่ามาถอนหายใจใส่ฉันนะคะเรกาโด)

"คุณคิดว่าคุณเป็นใครกันมิเชล! "

ก่อนถูกครูซัสตะเพิดสวนกลับไปเช่นเดียวกัน เขาเปลี่ยนท่าเอนเป็นนั่งตัวตรง ข่มอารมณ์ ​ เริ่มหัวเสีย ส่วนมิเชลสะอึก เสมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ หล่อน​นั้น​พลาด​ไป​แล้ว จึงเปลี่ยนเป็นเสียงอ่อน

(ฟะ แฟนคุณ​ไงคะ)

ทว่า เหมือนจะไม่ทัน เรกาโดอารมณ์​ขุ่นมัวหนักไปแล้ว 

"ก็แค่แฟน"

(......)

"ฟังนะมิเชล ตราบใดที่เรายังไม่แต่งงานกัน คุณยังไม่ใช่มาดามเรกาโด คุณ​ไม่มีสิทธิ์​ขึ้นเสียงกับผม! "

ติ้ด

พลางตัดสายทิ้ง ปล่อยคนปลายสายกำโทรศัพท์​แน่น ในใจจุกเสียด แทบจะกรีดร้อง ต่างกับเรกาโด นอกจากเขาไม่สนใจ ยังสไลด์โทรศัพท์​เครื่องบางเฉียบ​ไปไกลห่างอีก

ก่อนเอนตัวพิงผนักโซฟาอย่างเดิม แต่แล้ว มารผจญ​การรีแล็กซ์​ของเขาเหมือนยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อมีเสียงเคาะประตูมาขัดจังหวะอีกครา

ก็อกๆๆ

"นายครับ เกิดเรื่อง​ใหญ่​แล้วครับนาย! "

"อะไรวะ! "

สร้างความหงุดหงิดให้เขาอีกเท่าทวีคูณ

ฝั่งเกิดเหตุ เอมิเลียนั่งตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า หลังเสื้อผ้าซึ่งซื้อมาหมาดๆเมื่อตอนกลางวันของเธอถูกตัดฉีกเป็นชิ้นๆ หลังเคลที่พบว่าแบรนด์​และเฉดสีของชุดเหล่านั้น มีบางตัวเหมือนกันกับหล่อน และเพราะต้องการสั่งสอนให้เอมิเลียรู้ซึ้ง เธอกับหล่อนมันคนละชั้น การฉีกเสื้อทึ้งชุดจนแหลก มันเป็นวิธีที่ทำให้หล่อนสะใจที่สุด ทว่า คนถูกกระทำอย่างเอมิเลียปวดใจ หลังกลับมาถึงห้อง เธอลองชุด ไม่คิดว่าคนใช้คนนึงซึ่งนำของว่างมาให้เธอ จะนำเรื่องที่เห็นไปบอกเคลที่ หวังจะเอาหน้า

เอมิเลียนั่งมองการกระทำเจ้าของบ้าน ขณะหล่อนทำลายชุดใหม่ของเธอจนขาดวิ่น​คามือ ฉีกแหลกออกมาเป็นชิ้นๆไม่มีเหลือเคล้าโคลงเดิม เธอไม่ได้​เสียดายมัน และไม่ได้เสียใจด้วย เพียงแต่งงงวย​กับการกระทำของคนตรงหน้าก็เท่านั้น อะไรกันทำให้หล่อนโมโหได้ขนาดนี้ มือบางกุมเข้าหาบีบกันแน่น ยิ่งก้มหน้าลงต่ำก็ตอนเรกาโดเดินเข้ามาห้ามทัพ

มือใหญ่จับต้นแขนน้องสาวตนเอง กระชากแรงหันไปประจันหน้า กึ่งบังคับให้หล่อนหยุดตกมัน เขาดูโมโห และที่สำคัญพาลมาถึงเธอด้วย

"เคลที่ ทำบ้าอะไร!"

แน่นอนเสียงเดือดดาลนั่น หยุดคนทั้งห้อง เอมิเลียสะดุ้งโหยงก้มหน้านิ่ง ส่วนคนถูกตะเพิดจ้องหน้าเขาอย่างถือดี

"มันบังอาจมาใส่ชุดเหมือนกับฉัน"

หล่อนชี้มาที่เธอ เรกาโดชำเลืองมองตาม พลางส่ายหน้าถอนหายใจ

"เรื่องเล็กนิดเดียว"

"เล็กหรือ ฉันรู้นะว่าพี่ซื้อชุดพวกนี้ เพราะต้องการให้มันไปร่วมงานของพี่มิเชล ใช่มั้ย.. มหาลัยรับมันแล้วนี่"

"เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว พี่แทบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เธอไม่มีชุดดีๆใส่ พี่ก็แค่ให้คนพาเธอไปซื้อ"

"ต่างกันตรงไหนล่ะ จับมันแต่งตัวหรูๆแบบนี้ ฉันรู้ ต่อไปพี่ก็ต้องพามันออกงาน ฮึ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง บอกเลย ฉันจะไม่ยอม ไม่มีทางยอมหรอก "

หล่อนเริ่มตะเบ็งเสียง เชิ่ดหน้าเถียงเขาคอเป็นเอ็น ทำเรกาโดเริ่มฟึดฟัด จ้องหน้าหล่อนไม่วางตา ก่อนจะเบือนไปหาคนกลาง ที่ตอนนี้เอาแต่นั่งนิ่ง ดูไม่ออกว่าเธอยังหายใจอยู่รึเปล่า หรือกลายเป็นอิฐปูนไม่มีหัวใจไปแล้ว ชายหนุ่มชี้ไปที่เธอ โพล่งคำประกาศิต​คำนึง ที่ทำเธอสะดุ้งโหยง

"พี่ไม่มีวันเอาแม่นั่นมาเทียบกับน้องโอเค้? "

"....."

"ฉะนั้นหยุดโวยวายได้แล้ว "

ซึ่งแน่นอนเริ่มทำเคลที่สงบลงได้ หล่อนค่อยๆเย็นลง จนกระทั่งยิ้มออกมาในที่สุด ถลาเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย

"จริงๆนะคะ พี่ไม่ได้โกหกนะคะ"

เรกาโดชำเลืองมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง พลางลอบถอนหายใจเฮือก เขารู้คำพูดเมื่อกี้ คงกระทบใจเธอไม่น้อย แต่มันช่วยไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือก

"... อืม"​

แล้วจึงหันมาตอบน้องสาวเสียงเรียบ ใช้ฝ่ามือดุนหลังหล่อน หวังให้หล่อนนั้นสงบศึก

"ไปนอนเถอะเคลที่ ทางนี้พี่จะจัดการเอง"

"แล้วเรื่องนั้นล่ะคะ งานพี่มิเชลที่มหาลัย พี่จะไม่พามันไปด้วยใช่ไหม"

ก่อนจะผ่อนลมหายใจอีกครั้ง พร้อมคิ้วขมวดบ่งบอกความหงุดหงิด

"เคลที่ นอกจากงานในองค์กร พี่ไม่เคยเอาเรื่องจุกจิกของผู้หญิงเข้ามาในหัว น้องก็รู้..."

บอกเสียงขรึม สร้างความขุ่นมัวใจให้หล่อนไม่น้อย เคลที่เลิกคิ้ว ยกมือขึ้น เป็นการยอมแพ้และยุติเหตุการณ์ทั้งหมด

"ก็ได้.... ไม่พูดเรื่องนี้ก็ได้ แต่อย่าให้ฉันโมโหก็ล่ะกัน"

ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง โดยไม่วายเหลือบมองเอมิเลียในประโยค​หลัง

"ฝากไว้ก่อนเถอะ "

ปล่อยเขากับเธอให้อยู่ด้วยกันสองคน ในขณะหญิงสาวยังคงก้มหน้านิ่ง เรกาโดเห็นอย่างนั้นจึงก้มลงเก็บเศษเสื้อผ้าที่หล่นเกลื่อนพื้นให้ เข้าใจว่าเธอนั้นคงจะเสียใจมาก

"พรุ่งนี้ฉันจะพาไปซื้อใหม่"

ทำท่าจะหันหลังเดินออก ทว่า...

"เปลี่ยนจากพาไปซื้อเสื้อผ้า ไปส่งหนูกลับบ้านกำพร้าได้ไหมคะ..."

เรกาโดชะงัก หมุนตัวกลับมามองหน้าหญิงสาว ในขณะเธอช้อนหน้าขึ้น หยดน้ำเต็ม​เบ้าตา พลางขมวดคิ้ว

"พูดใหม่อีกทีซิ"

คำถามตอกย้ำความกลัว หญิงสาวปากสั่นระริก ไร้ซึ่งศักยภาพความกล้าเมื่อครู่ ถามตัวเองในใจ ทำไมใจไม่สู้นานกว่านี้อีกสักสิบวินาที ดวงตาหวานเบือนต่ำ ปากบางเฉียบเม้มเขาหากันแน่น นั้นยิ่งทำให้คนถามหงุดหงิด เขาเหนื่อยงานมาทีนึงแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก

"ฟังนะสาวน้อย"

เรกาโดย่อตัวนั่งยองตรงหน้า ระดับปลายจมูกห่างกันเพียงสองเซนต์​ เรียกขานนามเธอเสียงต่ำ ในขณะลมหายใจเริ่มแรงขึ้น

"อันที่จริงฉันไม่ได้อยากจะหาภาระมาใส่หัวเพิ่มหรอก เธอมาที่นี่ในฐานะเด็กของแม่ฉัน ก่อนตายหล่อนได้ขอฉันไว้ ตอนนั้นฉันรับคำเพราะต้องการให้แม่ไปสบาย ฉะนั้นอย่าสำคัญตัวผิด"

"ฮึก..."

สร้างความจุกในทรวงให้เอมิเลียไม่น้อย ร่างกายเธอชาวาบ ดวงตาสั่นระริก ระยะห่างเธอกับเขามันกดดันกันเกินไป เธอไม่กล้าแม้จะหายใจแรง

"แต่ชีวิต... "

"​ชีวิตเธอไม่ได้เป็นของเธอแล้วเอมิเลีย "

"......"

"แต่มันคือ.. ของของฉัน ทางที่ดีอย่าทำให้ฉันต้องผิดคำพูดกับแม่จะดีกว่า เพราะฉันคงไม่เธอไปง่ายๆ ในฐานะผู้รู้ความลับ... "

ถ้าหากประโยคนี้ไม่ทำให้เธอขุ่นมัวใจขึ้นมา ข้างในเธอกำลังร้อน เสมือนมีใครจุดไฟเผา ทำได้แค่ตอบโต้เล็กๆน้อยๆเท่านั้น ทว่ากลับพลาด ในจังหวะหันหน้าหวังจะค้อนเขา

"อุ๊บ O.O"

ริมฝีปากบางเฉียบ แตะเข้ากับริมฝีปากหนา โดยที่เขาไม่คิดแม้จะหลบหนี เอมิเลียตกใจหนัก เผลอผลักเขาเต็มแรง ทว่าคนเซล้มพับกลับไม่ใช่เขา เรกาโดถึกเกินกว่าจะสะท้กสะท้านได้ หรือหงายหลังด้วยข้อมือบางเล็กเพียงคู่เดียวของเธอ

"ฮึ.."

อีกทั้งเจ็บใจหนักก็ตอนเขาใช้ลิ้นกวาดเลียริมฝีปากหนา บ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั้นทำตัวเธอเอง ในขณะร่างบางรีบยันตัวเองลุกขึ้น จ้องเขาผ่านม่านน้ำตาไม่กระพริบ

"ฮึก... คนเห็นแก่ตัว"

สบถคำด่าลอดไรฟัน ส่วนเขาเหยียดยิ้มแค่มุมปาก

"ฉันจะเก็บคำด่าของเธอไปหาความหมายนะ และถ้ามีเวลาว่างมากไปกว่านั้น ฉันจะไปหาวิธีเลี้ยงดูเธอใหม่"

"......"

"เอาแบบไหนดีล่ะ ในฐานะน้องสาว หรือ... นางบำเรอ"

ประโยคทิ้งท้ายเขากระซิบ ทำหน้ายียวนกวนประสาท พลางลุกออกไปโดยไม่บอกลาเธอสักคำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 50 อวสาน

    เขตนอกชานเมือง กึ่งป่าดงดิบกึ่งป่าทึบ หากแหงนหน้าขึ้นไปข้างบน ตรงจุดนี้จะเป็นเนินเขาคล้ายเหวลึก เสียงสัตว์ป่าสงวนผสานเสียงกันจ้าละหวั่น หากใครสักคนต้องติดอยู่บริเวณนี้จนมืดค่ำ คงจะอ้างว้างน่าดู เวเดโน่ยืนน่าซีดเผือดหลังมาถึง และฟังคำบอกเล่าของคนแปลกหน้าที่ติดต่อมาด้วยความนิ่งสงบ ต่างกับใจที่ละเหี่ยเต็มที แม้จะบั่นทอนจิตใจ แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องรู้ เขาจึงต้องฟัง จากพลเมืองดีตรงหน้า ที่คิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจออีกแล้ว ดวงตาสีดำสนิททั้งสี่คู่มองไปยังจุดนั้นเป็นจุดเดียว ในขณะหูนั้นฟังพร้อมนึกภาพตาม กับสีหน้าที่สลดสูงสุด เรกาโดต้องทรมานแค่ไหนจึงจะผ่านมาเหวนี้มาได้ เพราะความห่างระหว่างตึกองค์กรกับหน้าผามันไม่ใช่หนทางที่ง่ายเลย" ตอนนี้เขาอยู่ไหน "“ ยังไม่ได้สติครับ ““ พาพวกเราไปหน่อย “เวเดโน่ละสายตาเป็นคนแรก ก่อนแจ้งเจตจำนง แม้ท่าทางที่แสดงออกมาต่อหน้าคนอื่นจะดูเรียบเฉย ราวกับเรื่องตรงหน้า ไม่สำคัญให้ต้องตื่นเต้น เพราะเหตุการณ์แบบนี้ช่ำชองกับเขามานักต่อนัก การสูญเสียใครสักคนไปจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมาเฟียอย่างพวกเขา เว้นแต่กรณีของเรกาโด ต่อให้กลบเกลื่อนความรู้สึกด้วยความขรึมยังไ

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 49 เพราะเขาเข้มแข็ง

    ร่างบางทิ้งเข่ายวบพื้นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก หมดพลังและปัญญาจะอ้าปากพูด แม้แต่มือยังปล่อยปะละเลยไว้บนตัก เธอทำได้แค่สะอื้นในใจเท่านั้น นั่นไม่ใช่เพราะเสียใจน้อย แต่มันช็อคจนไม่รู้จะร้องไห้ยังไง มันทั้งเจ็บทั้งปวด ทรมานเกินจะบรรยาย" คะ คุณครูซ..."ต่อจากนั้นคงมีแต่ศีรษะที่เอาแต่ส่ายหน้า ซ้ำไปซ้ำมา ราวกับสลัดความมึนงง เธอต้องฝันไปแน่ๆ...ใช่ มันคือความฝัน ทว่า ทำไมน้ำตานับแสนเม็ด กับหัวใจของเธอที่แตกสลาย ไม่มีชิ้นดีนี้ แทนคำตอบของเธอได้ดีทีเดียว สัญชาตญาณกำลังบอกเธอ..มันคือเรื่องจริง!" ไม่จริ๊ง!!! "" เอมิเลีย! "ก่อนร่างทั้งร่างจะล้มตึงฟุบพื้นไม่เป็นท่า หากไม่ได้แขนพ่อของเธอเข้าช่วย มีหวังหน้าผากที่มนสวยคงแตกเกิดรอยตำหนิหนึ่งชั่วโมงผ่านไปโลกทั้งใบเป็นสีทึบ ทะเลทรายที่เคยขาวสะอาด มีแสงระยิบระยับราวกับกากเพชรยามถูกแดดส่องแปรเปลี่ยน ทุกอย่างดูอึมครึมไปทันที นับตั้งแต่เปลือกตาหวานละมุนปิดสนิท ออร์แกนพบข่าวด่วน ด่วนชนิดที่ทำเขารับมันไม่ทัน จะว่าเป็นข่าวดีก็มีส่วน หากแต่มาในช่วงเวลานี้ คงจะยินดีไม่ไหว" ท้องงั้นหรือ..."เสียงครางไม่อยากจะเชื่อเอ่ยขึ้น หลังหมอประจำตระกูลถูกเรียกตัวมาตรวจ

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 48 เขาโกหกเธอ

    คนพิการทางร่างกายหากแต่ใช่สมองนิ่วหน้า คงเจ็บระบมน่าดู เพราะฝ่าเท้าที่เหยียบอยู่ของมาเฟียรุ่นลูกนั้น น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆ ความเจ็บปวดทางใจบอกผ่านนัยย์ตา เรกาโดจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ จะร้องก็ไม่ร้องจะแสร้งเมินเฉยก็คงเกินความสามารถ วินาทีนี้หัวใจเขามันเหน็บชาไปหมด“บอกกูมา ว่าอยากจะตายอยู่ที่นี่หรือว่าจะรอดไปด้วยกัน”คนข้างล่างต่อลอง เขาแค่นหัวเราะก่อนจะยกยิ้มมองเปลือกตาไม่กระพริบ พลางทรุดตัวลงนั่ง“รู้อะไรไหมครับ ในชีวิตของผมเจอคนพิการแบบท่านมาก็เยอะ บางคนสงสารจับใจจนต้องยื่นมือเข้าช่วย จะทำเป็นไม่เห็นคงไม่ได้ แต่กับท่านเนี่ย....” โน้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆ “ยิ่งตายอย่างทรมาน ผมโคตรยิ่งสะใจ”พลั่ก!จับหัวโขกพื้นไปทีนึง แล้วลุกขึ้นยืน ปล่อยให้โคโรธีนอนงอเข่า จุกเสียดอยู่ตรงนั้น ส่วนเขายืนเต็มความสูงอย่างหมดแรง แต่ก็ยังใช้เรี่ยวแรงที่เหลือนั้นค้นหาสมาร์ทโฟน หาเบอร์โทรเกือบจะล่าสุดกดโทรออก ไม่นานปลายสายก็รับ(ครับนาย นายเป็นอย่างไรบ้าง)“เอาโทรศัพท์ไปให้ เอมิเลีย”(อะไรนะครับ?)“ใช่หน้าที่ มึงต้องมาสงสัยหรือ เร็วๆ”(ครับๆ ได้ครับ)เขายืนรอสายอย่างใจเย็น ที่ช้าสำหรับเขาอยู่ตอนนี้ คาดว่าลูแค

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 47 พ่อก็คือพ่อ

    ใช้เวลานานพอสมควร กับการสาดกระสุนใส่กันระหว่างสองพวก เรียกได้ว่านี้เป็นมหากาพย์ที่ดีที่สุดหากเปรียบเทียบเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ก็ว่าได้ทว่า..ไม่ใช่ สำหรับผู้ประสบพบเจออย่างทีมอัลฟ่า และคนชั่วอย่าง โคโรธี ทอน มันเป็นเรื่องที่บัดซบที่สุด นับตั้งแต่เกิดมาได้ครึ่งคน นี่คือผลงานชิ้นใหญ่ที่ทำเจ้าของถิ่นหัวเสียได้มากสุด อัลฟ่ามาเพื่อทำลายและล้างผลาญทรัพย์สมบัติเขาจริงๆ อย่างที่คิดไว้ ความเสียหายประดุจคำบอกเล่า ในเมื่อต้องการครอบครอง แบบไม่ผันก้มลงมองตัวเอง รังแต่ใช้อำนาจตัดสินอนาคตคนอื่น พรากออกจากโลกด้วยความตาย...ฉะนั้นคนกระทำก็สมควรตายตามไปด้วยเช่นกัน ถึงเวลาแล้ว และคนอย่างพวกเขาต้องทำให้สำเร็จ แม้นยามนี้จะกระทบใจใครอยู่ก็ตามที!“เลิกบ้าได้แล้ว ไอ้ครูซ”เสียงคำรามข่มต่ำทุ้มดังมาจากข้างหลัง เรกาโดชะงักสิ่งที่กำลังจะทำกลางคัน เขาจำเสียงนี้ได้แม่น แค่ไม่หันกลับไป นอกเสียจากแค่นหัวเราะในลำคอแทน“หึ...”“อย่าดันทุรัง”“พ่อต่างหาก ที่ดันทุรังอยู่ ปกป้องมันทำไม เพื่ออะไร...”ประโยคทิ้งท้ายแหบแห้ง มาเฟียแก่ผมขาว คงไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่แสดงออกว่ายามนี้สิ่งที่ลูกชายเขามีมันคือความเจ็บปวดที่บีบหัวใจเข

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 46 สงคราม

    รถกันกระสุนคันเดิมจอดห่างไกลตัวตึก เพื่อให้ชายหนุ่มนั่งข้างคนขับกระโดดลงไปอย่าทันให้ใครเห็น เวเดโน่ถอยรถกลับอย่างรวดเร็ว เกือบชนต้นไม้ในโพรงป่าทึบข้างกำแพงหลังพุ่งกันชนท้ายเข้าไป ก่อนจะตามเรกาโดไปติดๆ คราวนี้ทั้งคู่คงต้องรับบทเป็นนินจาเสียแล้ว' ประตูดีๆ ไม่มีให้พวกมึงเข้าไปหรือไงวะ 'เสียงซันดรูแทรกออกมา ท่ามกลางความเงียบรอบบริเวณที่พวกเขาอยู่" มึงคิดว่ามันยังต้อนรับพวกเราดีอยู่ว่างั้นเถ้อะ! "เวเดโน่ประชด ส่วนเรกาโดแค่นหัวเราะพร้อมหาช่องแคบทางลับจากจุดนี้ไปโผล่อีกทีหลังกำแพงอย่างช่ำชอง จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นรู้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาเคยมาแล้วครั้งนึง เหตุผลทำไมไม่ไปในจุดที่รู้น่ะหรือ... เพราะคิดว่า โคโรธี ทอน เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ คงสั่งลูกน้องดักรอเชือดคอเขาเรียบร้อยแล้ว!" เฮ้ย ไอ้ครูซ เดี๋ยวรอกูด้วย... บ้าเอ๊ยยย ไม่ฟังกูเลย "เวเดโน่ชะงักกึกเปลี่ยนจากการกระซิบกับซันดรูเป็นกระซิบไล่หลังแทน พร้อมกิ่งไม้แห้งใกล้มือเขวี้ยงใส่ไปด้วย' อะไรกันวะ ' ส่วนฝั่งตรงข้ามถามกลับมา ทว่า..." หน้าที่ของมึงตอนนี้ หาเส้นทางรอดให้พวกกูก็พอ ไอ้ครูซมันเข้าไปแล้ว "กลับถูกเวเดโน่เอ

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 45 การจากลา

    ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจ หลังได้ยินเสียงข้อความผ่านสามาร์ทโฟนปลุกให้ตื่นจากฝันร้าย ร่างหนาถึกพยุงตัวเองขึ้นนั่ง พลางหันไปมองด้านขวา กลับไร้คนข้างๆมีเพียงพื้นที่ว่างเปล่า คิ้วหนาขมวดเข้ากันเป็นปม...เช้าขนาดนี้หล่อนไปไหน ก่อนจะบึ่งลงจากเตียงเดินอาดๆ ไปยังห้องน้ำในครัว นานทีจะมีนายหญิงลงมาทำอาหารเช้าเอง ความครึ้กครื้นปนวุ่นวายย่อมบังเกิด สาวใช้นับสิบยืนเรียงหน้ากระดานพากันมองร่างบางเท้าสะเอวคนน้ำพาสต้าแล้วยกขึ้นมาชิม สลับกับการเติมเครื่องปรุงไปด้วย เธอขะมักขะเม้นในการทำเป็นอย่างมาก ยกอะไรใส่ก็ล้วนแต่มั่นใจไปเสียหมด ไม่รวมถึงการหั่นเนื้อ หั่นผักที่ดูคล่องแคล่วถนัดนัก เล่นเอาสาวใช้ที่ยืนมองตั้งแต่เริ่ม ละอายตามกันเลยทีเดียว วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหนอ นายหญิงตัวน้อยของพวกหล่อนถึงเข้าครัวได้" โอเค เสร็จแล้ว ยกเสิร์ฟได้เลยจ้ะ"เอมิเลียบอกเสียงใส ตบมือเข้าหากันสองสามที ก่อนจะกอดอก ราวกับภาคภูมิในฝีมือตัวเองเต็มประดา แล้วหันมาพยักหน้าให้พวกหล่อน" เดี๋ยวยกไปให้หน่อยนะคะ ส่วนในหม้อที่เหลือนี้ พวกพี่ทานได้ ฉันทำเผื่อด้วย "และครั้งนี้ดูเหมือนว่าสาวใช้จะพากันเทใจให้กับหล่อนไปเต็มๆ หลังรับรู้ถึงความมี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status