ครูซัสออกไปแต่เช้า จากคำบอกเล่าของซีอาร์โดยที่เธอไม่ต้องถาม ร่างบางกำชับเชือกผูกบู้ทให้แน่นเท่าที่จะแน่นได้ พลางยิ้มอ่อนเสมือนตั้งใจฟังคำบอกเล่าซะเต็มประดา ทว่า เปล่าเลย ในใจเธอคิดเหม่อลอยไปไกลแล้ว ของกิจกรรมในวันนี้ งานที่รับมอบหมายให้ไปกับลูกน้องของเขา
ใช่ มันกดดันน้อยกว่ากันตรงไหนกันล่ะ??
ร่างสูงในชุดสูทดำเต็มยศ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาคำนับน้อยๆให้ ก่อนเธอจะเงยหน้าขึ้นมอง
"พร้อมรึยังครับคุณหนู"
หญิงสาวเม้มปากแน่น ถึงแม้จะกลัว แต่เธอก็เลือกที่จะไป
".... ค่ะ"
หันไปยิ้มให้ซีอาร์น้อยๆ โบกมือลา แล้วจึงจะเดินก้มหน้าก้มตาตามหลังบอดี้การ์ดไปที่รถ ในขณะที่เขานั้นผายมือเชื้อเชิญไม่ให้เดินผิดทางตลอดจนถึง
"ถ้าหนูเปลี่ยนใจไม่ไปตอนนี้ล่ะคะ"
เอมิเลียตั้งคำถาม หลังขึ้นมานั่งบนเบาะเรียบร้อยแล้ว แต่รถยังไม่ทันออก ลูกน้องคนสนิทมือซ้ายของครูซัส ยิ้มกว้างผ่านกระจะมาให้เธอ พลางส่ายศีรษะ
"นายไม่ชอบให้ใครขัดใจท่านหรอก เชื่อผมสิ"
บอกเธอเสียงเรียบ พร้อมมือผลักเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออกไป เอมิเลียถึงกับหมดแรง ทิ้งร่างพิงพนักทันที
"ฟู่ว..." พอกันทั้งเจ้านายและลูกน้อง
ร้านเสื้อผ้าใหญ่โตในห้างสรรพสินค้าหรู เอมิเลียมาถึงก็เอาแต่ยืนเฉย ในขณะรอบตัวมีพนักงานยืนล้อมอยู่สี่คน หนึ่งในนั้นมองหน้าเธอแล้วยิ้มบางๆ ยืนรอหวังให้เธอนั้นเลือก หรือจับต้องชุดใดชุดหนึ่งสักชุดแล้วเอามาลองก็ได้ แต่เปล่าเลย เธอเอาแต่ยืนจริงๆ เสมือนกำลังนึก พร้อมหน้าที่ซีดเผือด และรอยยิ้มแห้ง ยามสบตากับพนักงานขาย พวกหล่อนหันมองผู้ชายที่มาด้วย หวังขอความช่วยเหลือ และหาคำตอบจากเขา ทว่า ดูจากความห่างเหิน และหน้าที่ขรึมนิ่ง ไม่สนใจหญิงสาวแล้ว บ่งบอกถึงสถานะไม่ได้เป็นอะไรกัน จึงได้แต่เงียบไป
"เอ่อ..."
"ช่วยหนูหน่อยค่ะ"
ไม่ทันจะเอ่ยถาม เอมิเลียยื่นการ์ดทองใบนึงที่ผู้ปกครองเธอฝากลูกน้องมาให้เมื่อเช้า ไปให้
"คะ?? "
เธอจะบอกอย่างไรดี ว่าเธอไม่เคยซื้อของ และไม่เคยมาที่แบบนี้
"ช่วยหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับหนูที"
หน้าเหยเก บอกเสียงแผ่ว หน้าฉงนในทีแรกของพนักงานยิ้มกว้างทันที ก่อนจะกระดี้กระด้าขึ้นมา เมื่อเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการ
"ได้เลยค่ะ... เดี๋ยวพวกเราจัดให้ คุณลูกค้ามาทางนี้นะคะ"
จากนั้นแขนเรียวก็ถูกดึงให้เดินตามไป ท่ามกลางสายตาจับจ้องดูเธอใต้แว่นดำนั้นของบอดี้การ์ด เอมิเลียตอนนี้เงอะงะสุดๆ ก่อนจะหยิบสมา์ทโฟนขึ้นมารายงานนาย หลังเธอเข้าในร้านไปลับตา
"ครับนาย เรียบร้อยแล้วครับ"
(เธออยากได้อะไร ก็ตามใจเธอให้หมด ถ่วงเวลาไว้ จนกว่ากูจะบอกว่าปลอดภัย)
"รับทราบครับนาย"
ครูซัสวางสมาร์ทโฟนอย่างไม่ใส่ใจใยดี หันไปสนใจกับงานตนต่อ ซึ่งยุ่งเหยิงวุ่นวายเสียจนไม่รู้จะทำอันไหนก่อนอันไหนหลังดี หากเขาแยกร่างได้ก็คงจะทำไปแล้ว
สายตาคมกริบมองสลับกันระหว่างภาพวงจรปิดตรงหน้าและสัญญาณจากเพื่อนร่วมแก็งค์
ใช่ วันนี้เขามาทำภารกิจ ปฏิบัติการชักศึกเข้าฝูงเยี่ยงสหายคนสนิทขอไว้ โดยการรอสัญญาณ และ ระวังกลุ่มคนชุดดำสี่ห้าคนฝั่งตรงข้าม ที่พากันมาด้อมๆมองๆระแวกคฤหาสน์เขาไปด้วย
ครูซัสต้องขอบคุณรัศมีกล้อง ที่ทำงานไกลขนาดนี้ได้ ศักยภาพมันช่างขั้นเทพจนเขาต้องทึ่ง
"ในขณะที่เราวางแผนชิงตัวไอ้เวย์ กูไม่คิดว่าฝูงเก่าของมันจะตามล่ามันด้วย "
ชิบขนาดเล็กที่ฝังไว้ใต้หูตอนนี้ถูกใช้งานไม่ขาด ครูซัสกัดฟันกรอด เริ่มหงุดหงิด กับภาพเคลื่อนไหวที่เขาเห็น กลุ่มคนเหล่านั้นกำลังรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ของตน
"เย็นไว้ไอ้เสือ มึงหยุดคิดเรื่องนั้นไว้ก่อน นี่คือคำขอจากเราทุกคน"
" ฟัค!!! "
และนั่นยิ่งทำเขาสบถหนัก ยามถูกเพื่อนขัด เสมือนรู้ทัน โชคดีแค่ไหนกับสัญชาตญาณในใจของเขา นอกจากคติทำงานใหญ่ใจต้องนิ่งที่ใช้ประจำแล้ว ยังมีเซนส์มากพอให้รู้ล่วงหน้าว่าวันนี้มันคือวันแห่งอันตรายระดับหนึ่ง เขาจึงเกณฑ์ลูกน้องพาน้องสาวทั้งคู่ออกไปข้างนอก โดยการล่อเงินมหาศาลเปย์ให้ไปใช้จ่ายตามความต้องการ แน่นอนอาจเป็นเรื่องโปรดของเคลที่เพราะเข้าใจไปเองว่า พี่ชายหล่อนคงจะง้อหล่อนเรื่องเมื่อคืน ทว่าไม่ใช่กับ เอมิเลีย
"พร้อมไหมท่านบิ๊กครูซ"
"พร้อมตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้วโว้ย!"
"บุก!"
ปัง!
เสียงถีบประตูดังก่อนเสียงปืนจะตามมา เป็นอุปสรรคคั่นกลางการเจรจาระหว่างคนสองฝ่าย ดาฟพ่อค้าอาวุธรายใหญ่คู่แข่งของแก็งค์อัลฟายกมือขึ้นเหนือหัวพร้อมทรุดตัวนั่งลงที่เดิม ในจังหวะมีคนบุกรุกและคิดจะหนีกันซึ่งๆหน้า ส่วนอีกฝั่งถูกยิงดับคาที่ด้วยน้ำมือของบิ๊กครูซ
"บุกมาถึงที่กูได้ ถือว่ามึงกล้ามาก"
ดาฟกัดฟันแน่นเป็นเกลียวพลางยกมือค้างรอการชำระแค้น
"ฮึ ท่านมากกว่าที่กล้า กล้ามาล้วงคองูเห่าอย่างอัลฟา ทั้งที่เราตกลงกันไว้แล้ว"
บิ๊กครูซใช้เท้ายันโซฟาข้างเดียวกับท่อนแขนของดาฟที่ตั้งเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาหนี เอ่ยเสียงเรียบแต่เยือกเย็นจนน่าขนลุก ทว่า ไม่ได้ทำให้ดาฟเกรงกลัว เขายังทำใจดีสู้เสือหัวเราะกวนประสาท
"ฮ่ะๆๆ ก็ลูกค้ามันอยากใช้ของกูนี่หว่า ทำไงได้วะ ของซื้อของขาย"
แน่นอนทำครูซัสเลือดขึ้นหน้าได้ใจ
ผั๊วะ!
เขาตบหน้าดาฟด้วยด้ามปืนจนหน้าหัน กัดฟันกรอด ข่มเสียงต่ำ ในขณะคนเจ็บอุทานอย่างโกรธแค้น
"บัดซบ!"
"ผมไม่ยักรู้ว่าท่านจะเล่นขายของด้วย"
"....."
เพราะไม่คิดว่า คนรุ่นลูกอย่างบิ๊กครูซจะกล้าทำกับเขาอย่างนี้
"มึงกล้าทำกูงั้นเรอะ"
"ขนาดลูกค้าวีไอพีอย่างไอ้นั่น ผมยังกล้าเหนี่ยวไกใส่มันได้ นับประสาอะไรกับคู่แข่งอย่างท่านล่ะครับ"
เขาชี้ปลายกระบองปืนไปยังศพที่นอนหงายเลืิอดท่วมตัว ก่อนจะเลื่อนมาจ่อขมับดาฟ
"ผมเคยบอกท่านแล้ว อัลฟารับไม่ได้จริงๆ กับเรื่องทรยศ"
แกรก...
จงใจขู่ให้มาเฟียรุ่นพ่ออย่างดาฟปั่นป่วน หวังทำคะแนนให้เวย์เห็น ว่าแก็งค์เขานั้นเก่งสามารถคุ้มครองเขาได้ หากเวย์ไว้ใจ ทุกอย่างก็ง่ายไปเสียหมด ซึ่งแน่นอนมันเกินคาด ดาฟยกมือเหนือศีรษะหนักกว่าเดิม ร้องขอชีวิตตัวเอง ไม่ห่วงศักดิ์ศรีระหว่างรุ่นกับรุ่น
"โอเค มึงจะเอายังไงกับกูก็ว่ามาเลย ไอ้บิ๊กครูซ.."
แม้ว่าจะข่มใจทำก็ตาม ท่ามกลางการซุ่มมองของคนอื่นๆ รวมถึงแฮคเกอร์ในแก็งค์อัลฟา ต่างทึ่งในการทำงานของเขา ไม่คิดว่าการตัดสินใจเพียงแค่เสี้ยววินาทีจะแม่นยำขนาดนี้
"วู้!! ให้มันได้อย่างนี้สิวะ ไอ้เสือ ฮ่าๆๆๆ"
เอมิเลียนั่งตัวตรงพร้อมรวบช้อนส้อมเข้าหากันวางกลางจานข้าวซึ่งยังเหลืออยู่เต็มจาน หลังถูกลูแคน บอดี้การ์ดฝั่งซ้ายครูซัสกึ่งบังคับพามากิน ชายหนุ่มหรี่ตาขึ้นมองถือช้อนค้าง เขาเองก็ถูกต่อรองจากเธอ ถึงได้มาร่วมโต๊ะกันอย่างนี้"หนูอิ่ม...""คุณหนูยังไม่อิ่มครับ"หญิงสาวเหลือบตามองบน ยกแขนกอดอกแน่น เริ่มหน่าย กับพฤติกรรมรู้ทันไปเสียทุกเรื่องของเขา ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองเข้าไปในตาสีฟ้า หวังจะสะกดจิต ทว่า..."ทานต่อเถอะครับ คุณหนูเพิ่งทานไปสองคำเอง""หนูอิ่มแล้วค่ะ"เอมิเลียย้ำ เลิกคิ้วขึ้นบ่งบอกให้รู้มันคือความจริง แต่คนผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างลูแคนหรือจะเชื่อ เขาวางช้อนลง ตั้งใจพูดแกมขอร้องเน้นคำ"กว่าคุณหนูจะได้ทานมื้อเย็นอีกรู้ไหมครับมันนาน ทานให้อิ่มเสียตอนนี้เถอะครับ ผมขอร้องล่ะ " แต่เหมือนคนขอร้องอย่างเขาจะถูกอ้อนกลับมา เอมิเลียทำหน้าสลด ก้มหน้างุน"ทำไมไม่เชื่อหนูบ้าง ก็ได้ค่ะ... ถ้ากินหมด คุณลูแคนให้รางวัลหนูหน่อยได้ไหมล่ะคะ""หืม... ""หนูมีที่ที่นึงที่อยากจะไปค่ะ"เธอบอกเสียงร่าเริงในประโยคทิ้งท้าย ก้มหน้าก้มตาตั้งใจกินโดยไม่รู้คำตอบจากเขา ปล่อยเขานั่งมึน เสมือนถูก
เวลานานเท่าไหร่ไม่รู้เธอไม่ได้นับ หลังชายหนุ่มเดินออกไปจากห้อง เธอก็เอาแต่นั่งเหม่อลอย มองเพดานสลับกับฝาผนัง ทำอย่างกับมันคือภาพที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจสุดท้าย ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ คงมีแต่เรกาโดเท่านั้นที่รู้ !เอมิเลียตาบวมเป่ง ค่อยถดร่างบางออกจากเตียงเดินไปล้างหน้า ทำตัวให้ปกติ เมื่อความตกใจนั้นเริ่มทุเลาลง เธอรู้เธอไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และเหมือนจะไม่มีวันนั้นเลยด้วยเที่ยงคืนตรงตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าทำเธอสะดุ้งตื่น ผุดตัวลุกขึ้นมานั่ง หลังหลับไปสักพัก เธอเดินไปที่หน้าต่าง ค่อยๆแง้มมันออก พลางใช้สายตาก้มลงไปดู ชายชุดดำนับสิบ วิ่งกันจ้าละหวั่นเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นมีลูแคนด้วย ก่อนจะหลุดร่างเรกาโดผุดออกมาจากตึก เสมือนเช็คความเรียบร้อย เธอรีบหลบ ในจังหวะเขาเงยขึ้นมามอง หญิงสาวขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนหน้าเธอเหมือนเห็นอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นลังถูกลำเลียงพาขึ้นรถไปแต่ ทำไมต้องทำกันลับๆล่อๆตอนเที่ยงคืนบรื้นนนนดวงตาหวานโผล่ออกไปแอบมองอีกครั้ง หลังได้ยินเสียงรถออกไปพร้อมเสียงความวุ่นวาย แต่เธอพลาดที่มองไกลเกินไป ตอนสายตาชำเลืองตามดวงไฟท้ายรถนั้น เลยไม่ทันสังเกตุเห็นมีคนบางคนด
ร่างสูงสง่ายืนคุยโทรศัพท์อยู่นานสองนานด้วยเรื่องสำคัญ หลังเวเดโน่ได้รับข่าวจากสายลับถึงแก็งค์คู่แข่งเรื่องการส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดมืด แต่เป็นการเหยียบจมูกพวกเขา"ใครบอกมึง"(ไอ้เวย์) "ฮึ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้"(ถือว่าสำเร็จไปขั้นนึง แล้วไอ้พวกทรยศนี้ล่ะวะ มึงจะเอาไง) เวเดโน่ขอความเห็นในขณะเรกาโดกำลังครุ่นคิด พร้อมกับพ่นควันบุหรี่ไปด้วย ก่อนจะขยี้และทิ้งลงถัง"เดี๋ยวกูเข้าไปเองดีกว่า "(ได้ งั้นกูจะนัดคนที่เหลือมารอมึง อีกนานไหมวะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้กระเตงเด็ก)"ฮึ ตลก..."ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ"รอไม่นาน เดี๋ยวกูเข้าไปเลย"แล้วตัดสายทิ้ง ยืนผ่อนคลายความเครียดอยู่อึดใจนึง จึงจะเดินขึ้นรถไป(ครับนาย) "ลูแคน ช่วยมาตามโลเคชั่นนี้ที"ทิ้งน้องสาวกำมะลอไว้ในร้าน โดยให้ลูกน้องมาสานต่อทางด้านของเอมิเลีย และ ไดอาน่า หลังวัดตัวเสร็จ ดีไซเนอร์อย่างหล่อนก็ทำการร่างโครงคร่าวๆทันที หล่อนแพลนจะตัดให้เธอหลายๆชุด มีทั้งชุดลำลองและชุดออกงาน ก่อนจะพากันเดินออกมาเพื่อตกลงราคากับเรกาโด ทว่า ไม่มีเขายืนอยู่ตรงนั้นเสียแล้ว"หืม ไปไหนแล้วล่ะ"ในขณะเอมิเลียแอบชะเง้อคอมองหา สลับกับมองไดอาน่าที่ก
องค์กรดาร์ก สมาคมสำหรับผู้บ้าอำนาจ ถูกแต่งตั้งด้วยรุ่นเก๋าอย่างพ่อของเรกาโด แม้จะถอนทัพไปนานแล้ว ทว่าเบื้องหลังทั้งหมดยังมีเขาอยู่ เรกาโดตื่นเช้าเพื่อเข้าประชุมตามคำบัญชาที่ส่งมาทางสมาร์ทโฟนไร้สาย หน้าขรึมบัดนี้ขรึมยิ่งกว่า เพราะต่อให้หงุดหงิดแค่ไหนกับความยุ่งเหยิงก็ต้องเก็บกักมันไว้ ก่อนศีรษะโค้งคำนับลงหลังถึง" นั่งสิ "ร่างบึกบึนที่ไม่ยอมแก่แม้หนวดเคราจะแฝงสีขาวผายมือเชื้อเชิญ แน่นอนลูกชายถอดแบบจากเขาไม่มีผิด เขาไม่นั่ง" ผมมา เพื่อจะฟังเรื่องสำคัญของท่านเท่านั้น คิดว่าคงไม่นาน "ใครเล่าจะนั่งสนทนากับคนที่ขึ้นชื่อทำให้แม่เขาตายลง เรกาโด วิส เม้มปากแน่น คำรามฮึมฮัมในลำคอ เดินฟึดฟัดไปหยุดข้างหน้าต่าง เขาหันหลังให้ ส่วนลูกชายยืนยืดอกนิ่ง สูทที่สวมใส่ของทั้งคู่ คงความเป็นผู้ดีบ่งบอกถึงการไว้หน้า ไม่ทำตัวกร่างต่อหน้าลูกน้องได้ดีเลยทีเดียว" แกพาเด็กคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้าน ได้สืบหัวนอนปลายเท้าหล่อนรึยัง "แน่นอนครูซัสพ่นลมหายใจพรืด เดาไม่เคยผิดว่าต้องเป็นเรื่องนี้" เธอเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด โตมาจากที่นั่น จะต้องสืบอะไรอีก "" ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่หล่อนตายแล้วนี่ "" แค่ผู้หญิงคนเด
ปากหนาเป็นกระจับ แดงระเรื่อเผยอขึ้นพ่นควันบุหรี่ ในขณะสายตาคมกริบกำลังมองภาพเคลื่อนไหวผ่านชิปสอดแนม ซึ่งแอบติดไปกับเสื้อลูแคน หลังแสร้งทำเป็นตบบ่าฝากฝังให้ไปส่งน้องสาวกำมะลอ จริงๆแล้ว เจตนาของเขานั้นแค่เป็นห่วง อยากรู้ว่าเธอนั้นเป็นอย่างไร ไม่นึกว่าจะมาเห็นภาพอะไรแบบนี้ และถ้าชิปเก่านั้นไม่ขัดข้องเพราะไม่ค่อยได้ใช้งานนานเสียก่อน คงจะได้ยินเสียงด้วย ภาพตรงหน้าจึงถูกฉายให้เห็นเพียงเอมิเลียโผเข้าโอบหลังบอดี้การ์ดของเขาตุบ!ครูซัสเตะถังขยะไปไกลห่าง หลังทิ้งก้นบุหรี่ลง จนมันล้มเทระเนระนาด ก่อนจะลุกเต็มความสูงเดินไปใส่เสื้อ เก็บกักอารมณ์หงุดหงิดนั้นไว้ เพื่อไปประชุมให้ทันใช่ เพราะไอ้เวย์คนเดียว ทำให้เขาชวดจากการไปส่งเธอ!ในห้องประชุมของดาร์ก บรรยากาศแสงสลัว แอร์เย็นฉ่ำ มีเพียงไฟจากสปอร์ตไลท์เท่านั้นที่ชี้ไปทางกระดานขาว เรกาโดนั่งเงียบในขณะเพื่อนๆกำลังเฮฮาสนั่นห้อง ก่อนหนังสือเล่มหนึ่งจะลอยมาโดนศีรษะ แน่นอนเมื่อรู้ทิศทางของคนปามา เขาจึงปากลับ สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนที่เหลือไม่น้อย“ เฮ้ พวกไม่เอาน่า แค่ลูกหย่านมแค่นี้ ถึงกับเศร้าเลยหรือวะ"“ ฮ่าๆๆ "พวกเขารู้ เอมิเลียออกจากบ้านของครูซัส
เอมิเลียเดินมาหยุดกลางห้อง ซึ่งเป็นห้องเดิมเมื่อสี่ปีก่อน ตลอดทางเดินที่มาเธอเก็บความมึนงงในนาทีแรกที่เจอลูแคนไว้ จนถึงจุดหมาย หญิงสาวปล่อยมือออกจากที่จับกระเป๋า ย้ายไปนั่งปลายเตียงแทน ทบทวนเหตุการณ์ พยายามนึกถึงสาเหตุที่ทำลูแคนเย็นชาแบบนั้นได้ ทว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก การกระทำของเขาเหล่านั้นสวนทางกับจิตใจ จนทำให้เธอมองออกแต่แล้ว.... ในขณะเธอนั่งครุ่นคิด ไม่นานภวังค์ของเธอก็หลุด ถูกทำลายโดยสาวใช้อายุรุนราวคราวเดียวกับเธอ เอมิเลียขมวดคิ้วในจังหวะหล่อนเดินมาถึงและคำนับให้" สวัสดีค่ะคุณหนู ดิฉันซากี มีหน้าที่ดูแลคุณหนูนับแต่นี้ค่ะ "" เอ๋ ?? ..แล้วพี่ซีอาร์ล่ะคะ ไปไหน? "เธอเอียงคอถาม ในขณะซากีก้มหน้างุน สคริปของหล่อนไม่มีคำพูดนอกเหนือจากนี้ หล่อนถูกสั่งให้มารายงานตัวและจัดเก็บกระเป๋าให้คุณหนูเพียงอย่างเดียว" เอ่อ..."" ออกไปให้พ้นซะซากี ""ค่ะ "ระหว่างอ้ำอึ้ง สาวใช้กลับต้องกระวีกระวาดรีบคำนับรนรานเพราะเสียงดังของใครคนนึงครูซัสถือวิสาสะเดินเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต จงใจจะห้ามไม่ให้หล่อนนั้นปากโพล่ง แต่นั่นยิ่งทำเอมิเลียสงสัยเข้าไปใหญ่ เธอเหยียดเท้าลงจากเตียงเหยียบพื้น ยืนเต็มความสูง แต่ไ
ร่างสูงปราดเปรียว คอไร้เครื่องประดับ ทว่าระหงสวยจนใครต้องเหลียวหลังมอง สีชุดของเธอฉูดฉาดขับผิวให้เด่น แต่กระนั้นมันไม่ใช่ที่ที่เธอจะต้องมาเดิน ตาหวานกวาดหาสัญลักษณ์ห้องน้ำ เธอหวังจะไปสงบสติอารมณ์เท่านั้น แต่แล้ว ข้อมือเรียวกลับถูกใครบางคนฉุดไว้ ดึงหันตัวไปมอง ในจังหวะร่างบางถึงมุมอับ คนยืนประชันหน้าคือ ..มิเชล" เย้ว! "" อ๊ะ.."หล่อนยืนมองเธอตั้งแต่หน้าผับแล้ว มองตามหลังกรายๆ เห็นแค่เสี้ยวหน้าก็พอจะรู้ว่าเธอสวย และคนสวยมักจะถูกเรกาโดเลือกจนกระทั่งเข้ามาในงาน ยืนมองโต๊ะวีไอพีที่เด่นที่สุดในมุมมืด รอจังหวะเอมิเลียผละออกมา และก็สมหวัง ตาสีฟ้ามองเข้ามาในตาลึก หลังทักทายเสียงแหบห้าว และด้วยส่วนสูงที่เท่ากัน ทำหล่อนจิกได้ง่าย ในขณะเอมิเลียงง เธอชะงักชะงัน" เอาล่ะแม่สาวน้อย บอกฉันมา เธอชื่ออะไร "ขบฟันถาม เส้นเลือดขึ้นลำคอ" คุณเป็นใคร "" เรากำลังจะได้รู้จักกันอยู่นี่ไง "" ฉัน เอมิเลีย "" อืม เอมิเลีย ฉัน ..มิเชล "จริงๆ แล้ว คนที่รู้จักมิเชลฝ่ายเดียวคือเอมิเลีย เธอเคยเห็นหล่อนเมื่อสี่ปีก่อน ตรงหน้ารั้วคฤหาสน์ ซึ่งกำลังทะเลาะกับเรกาโดอย่างบ้าคลั่ง และท้ายที่สุดก็จบลงตรงการนอนด้วยกัน"
เอมิเลียยืนค้าง เธอหมดคำจะเอื้อนเอ่ย แผ่นหลังเนียนพิงฝาผนังบ่งบอกถึงความหมดแรง มีอะไรอีกหลายอย่างที่เธอไม่รู้ และอ่อนหัด เขาทำแผลเสร็จก็เก็บของเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีช่วงนึงหลังวางสายจากซันดรูและปล่อยเธอทิ้ง ไม่พูดไม่จาทำเหมือนห้องนี้ไม่มีคนอยู่ จนกระทั่งหลุดเข้าไปล้างมือในห้องน้ำแล้วเดินกลับ จึงจะค่อยสนใจใหม่ เธอไม่รู้ ในสมองเขามีเรื่องให้ต้องคิดหลายเรื่อง"มานั่งนี่สิ มาใกล้ๆ ฉัน" เขาตบเบาะข้างกายหลังขึ้นไปนั่งบนฟูกหนัง หญิงสาวยังคงลังเลจนเขาต้องดึงสติซ้ำ" เอมิเลีย ได้ยินที่ฉันพูดไหม ฉันมีบางเรื่องจะตกลงกับเธอ"นั่นจึงผลักให้เธอยอมเดิน ทั้งที่ใจประหม่าแทบแย่ เธอค่อยๆ ก้าว ขึ้นไปนั่งข้างเขาเชื่องช้า และด้วยความสูงที่ต่างกัน เท้าเธอจึงลอย เรกาโดถอนหายใจเฮือก เอี่ยวตัวจากการเก็บของ หันกลับมามองเธอ" ยังเสียใจอยู่หรือเปล่า "" คะ? ""......." เขาเงียบ ปล่อยให้เธอนึกเอง" อ้อ นิดหน่อยค่ะ "เอมิเลียพยักหน้า สีหน้าประหม่าและกดดันเต็มที ภาวนาให้เรื่องที่เขาถามคือเรื่องเดียวกับที่เธอตอบ ทว่า ไม่ ไม่ใช่มันคนละเรื่อง เขาหมายถึงการตายของซีอาร์ ส่วนเธอเข้าใจว่า เรื่องที่เกิดคือเหตุการณ์ชุลม
ข้างกระโจมเรียงรายหลายหลัง บริเวณกว้างรอบล้อมไปด้วยทะเลทราย นับว่าเป็นครั้งแรกที่แก็งค์อัลฟามาเหยียบที่นี่ และเป็นครั้งเลอค่าไม่เสียแรงที่ยอมเหนื่อยเพื่อได้ไต่เต้า พวกเขาทำสำเร็จ เพียงเพราะการต่อลองของเรกาโด แลกกับการอารักขาหัวโขนผู้ยิ่งใหญ่ใช่ เขาช่างเป็นผู้ที่เสียสละแน่นอนภายหลังของภารกิจพรรคพวกเขาต้องร่วมและมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย นั่นหมายถึงบ่อเกิดของการต้องประนีประนอม บ่อยครั้งที่ต้องเย็นกว่า เพื่อสยบร้อนให้มากที่สุด ยามเรกาโดกระฟัดกระเฟียด ดุจนิสัยหญิงมีประจำเดือนเป็นระลอกแบบไม่ดูเวล่ำเวลา หรือจะเรียกว่าสามวันดี สี่วันไข้ก็ยังได้ แลนิสัยเหล่านี้ มักจะทำงานใหญ่พังประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่ง พรรคพวกนอกชายแดนแบบไม่สนิทเท่าไหร่นัก ทว่ายอมร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันจนงานสำเร็จ แม้ว่าเจตนาที่เข้ามาช่วยนั้นจะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งหมด กระนั้นเรื่องแบบนี้ ขึ้นชื่อว่าวงการตลาดมืด หามีใครมาถือสากันไม่แต่แล้ว...กลับถูกยิงตายด้วยเงื้อมมือของเรกาโด เพียงแค่ถกเถียง และออกความเห็นไม่ตรงกัน ด้วยเรื่องไร้สาระแค่นั้นเปรียบเป็นอุทาหรณ์สอนใจทุกคนในทีมได้ดีเลยทีเดียว เหล่าเพื่อนสนิ
แผ่นหลังบางถูกสัมผัสเข้ากับพรมหนา พร้อมร่างใหญ่โน้มลงมาคร่อม นิ้วเรียวแตะจึ้กทาบริมฝีปาก ก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ในจังหวะเขาลดหน้าเตรียมจะจูบ" หืม ..."" อย่าทำแบบนี้ "" อะไร ก็แค่จูบ "เรกาโดเลิกคิ้วหนา" ขอพักได้ไหมคะ เหนื่อยจะแย่"ส่วนเธอร้องขอเสียงกระท่อนกระแท่นเอากับเขาสิ ทีแรกบอกจะนอนเอาแรง คนกะล่อนอย่างเขา หากเธอรู้ไม่ทันก็แย่เต็มทีแล้ว" เอมิเลีย ฉันแค่จะจูบ.."" ฉันอยากคุยกับคุณมากกว่านะคะ"" ........."หัวไหล่แกร่งยักขึ้น หลังก้มมองพวงแก้มเธอนิ่ง ลากสายตามายังลำคอระหง ที่กำลังลอบกลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกเคลื่อน แล้วยันตัวลุก" มีสิทธิ์สั่งฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ "ทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆ เธออย่างว่าง่าย เพราะเขาเองก็เหนื่อยเหมือนกัน พลางหันมาหาในท่าเท้าคางนอนตะแคง พร้อมถอนหายใจ" จะคุยเรื่องอะไร ก็ว่ามา .."" เรื่อง.."เธอก้มหน้างุด ประโยคทิ้งท้ายเอ่ยเสียงแผ่ว" ซิสเตอร์และเด็กๆ "" ฟู่ววว "ว่าแล้ว เดาไม่เคยผิด ชายหนุ่มถอนหายใจ พลางยันตัวลุก เขาไม่พร้อมจะเจรจาเรื่องเครียดตอนนี้ แต่เธอคงไม่ยอม" ถามว่า? "" คุณพาศพพวกเขาไปไว้ที่ไหน "" ฝากบาทหลวงทำพิธี ฝังในพื้นที่ของฉัน"ชายหนุ่
เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวล่อนลงแตะพื้น ก่อนออฟโรดมากกว่าสิบคันจะมารอรับ เอมิเลียเริ่มหายใจไม่ออก ท้องไส้ปั่นป่วน เมื่อเห็นความใหญ่อลังการของแก็งค์เขา มันคงยากมากหากจะเชื่อ ทว่า ก็ต้องเชื่อ หลังเธอมายืนอยู่จุดนี้ กับรอยยิ้มที่เจื่อนสนิท เมื่อเทียบชุดที่เขาสวมใส่กับชุดนอนบางเบาของเธอ ทำไมเรกาโดถึงไม่ให้เวลาเธอได้เตรียมตัวบ้าง" ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย "เข้าภวังค์ได้ไม่นาน เสียงทุ้มร่างสูงข้างกายก็โพล่งขึ้น เขาติเตือนเธอในขณะใบหน้าและดวงตายังจ้องมองไปยังบอดี้การ์ด ที่พากันลำเลียงของลงจาก ฮ. สู่หลังรถ" คุณพาฉันมาด้วยทำไม ไหนว่ามาพักผ่อน นี่มันผจญภัยชัดๆ ..."" แฮ่มมม" เขาชะงักก่อนยกกำปั้นกระแอมยามเธอหันมาฉอดๆใส่เขา" คุณนี่มัน..."" เฮ้บิ๊กครูซ "แต่แล้ว...กลับต้องปิดปากเงียบหันไปหาเสียงผู้มาใหม่แทน ในขณะสีหน้ายังคงกระเง้ากระงอดอยู่แมททริกยื่นกระเป๋าเดินทางฝากการ์ดที่เดินผ่าน ก่อนวิ่งเร็วมาหาคนทั้งคู่ เขายิ้มทักทาย ในขณะเธอทำได้แค่หลุบหน้าต่ำ เพราะปรับอารมณ์ไม่ทัน" ไง "" โทษทีว่ะ ที่มาช้ากว่าคนอื่น พอดีติดภารกิจที่บ่อน "" ช้าที่ไหน มึงก็มาแล้วนี่ ""เออ ว่าแต่นี่..."" เอมิเลียไง"และนั่
ดวงตาอิดโรยหลุบหลบต่ำ ไซร่าเลือกที่จะไม่ตอบ สมองเริ่มบีบเพราะต้องหวนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา แขนเรียวเปอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นผสมเลือด กวาดกอดตัวเองอีกระลอก ตัวสั่นสะท้าน สติเลอะเลือน เรกาโดอมลมในปาก เริ่มวิตกกังวล ก่อนผละร่างออกห่างยืดอกยืนเต็มความสูง หันไปหาลูกน้อง" เอาน้ำมาสาดเธอ "ซ่า!สิ้นสุดคำสั่ง น้ำถังใหญ่ถูกสาดราดลงกลางหัว ผ่านตัวไปนองพื้น หญิงสาวไม่สะท้กสะท้าน ยิ่งทวีคูณความกลัวด้วยการกอดตัวเองแน่น และแรงกว่าเดิม" ฮึกๆๆ"ก่อนจะล้มลงหมดสติไป' รุ่นเดียวกัน ชะตาเหมือนกัน รักกันให้มากๆนะรู้ไหม 'เสียงเรียบแสนจะอบอุ่นของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น มือคู่บางจับมือเด็กน้อยทั้งสามคนไว้ พร้อมใบหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมไปด้วยความใจดี' ค่ะซิสเตอร์ '' เอมี่ ในสถานะที่ลูกอยู่ที่นี่มานาน ดูแลเพื่อนๆด้วยนะ ว่าแต่แม่จะตั้งชื่อลูกสองคนว่ายังไงดี .. '' สเปชี่กับไซร่าไหมคะซิสเตอร์ เอมี่ชอบ 'เด็กน้อยวัยสิบขวบยิ้มตาหยี หันมองหน้าคนข้างๆสลับกับซิสเตอร์ของเธอ' เอางั้นเรอะ ก็ได้ๆ '' ว่าแต่ ทำไมสเปชี่ไม่คุยเลยล่ะ 'เด็กหญิงถามสีหน้าฉงน พร้อมดวงตากลมโตจะเผลอถ่างขึ้นทุกคราที่เธอสงสัย ซิสเตอร์เม้มปากแน่น
ตาหวานเคลือบความใสดุจน้ำมันเบิกออก ร่างถึกอมยิ้ม เกลี่ยพวงแก้มสาวด้วยความหลงใหล ค่อยๆ โน้มหน้าปลายจมูกจ่อใกล้ เธอประหม่า เตรียมหลบ ทว่า มือใหญ่คว้าไว้กลางคัน" อยู่ที่นี่ คงเบื่อแย่ "ชวนสนทนาน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะมืออีกข้างไถถูไปรอบเอวคอดกิ่ว หน้าขาแกร่งเบียดหน้าขาเล็ก ท่อนเอ็นถูเสียดเข้ากับเนื้อนูน เอมิเลียตัวเกร็ง เมื่อรับรู้ถึงความผิดปกติ ที่กำลังขยายตัว" อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า "" อยากออกห่างจากตัวคุณค่ะ "" หืม.."ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ขำขันต่อคำพูดตรงไปตรงมา ไร้ความแอบแฝงใดๆ นั่น เธอคงกลัว ทว่า กลับท้าทายต่อเขา" เพราะอะไร "" มันอึดอัด "" ไหน ตรงไหน บอกสิ ฉันจะแก้ให้ "เขาล้อเลียน นิ้วใหญ่เลื่อนไปนาบตรงกลางกาย หญิงสาวสะดุ้งโหยง รนรานหลบหลีก ทว่า เรี่ยวแรงกลับไม่เท่าเขา" อย่าค่ะ "ปลายนิ้วเกลี่ยถูไปทั่ว ก่อนจะค่อยล้วงเข้าไปใต้กระโปรงบานผ้าลื่นของเธอ" อย่าอะไร "ขนหน้าขาเรียวขนลุกชู ยามนิ้วเย็นลากยาวทาบทับ พร้อมเสียงกระซิบ ริมฝีปากเหน็บเม้มติ่งหู" คุณครูซ..."" อยู่เฉยๆ สิ อย่าขัดความสุขของฉัน "มาถึงตอนนี้ต่อให้ฝ่ามือเล็กตะปบ ยื้อยึดมือเขา เรกาโดผู้เปี่ยมไปด้วยความเผด็จการ คงไม่
เรกาโดหันขวับ เปลี่ยนติดทางไปยังคนพูดทันที พลางยกกระบอกปืนชี้ ไซร่าเห็นยิ่งตัวสั่น ก้มหน้างุนกว่าเดิม" เธอว่าอะไรนะ" เขาถามย้ำนาทีนี้คงไม่มีใครสนใจคนเจ็บที่นั่งเลือดอาบแขนอยู่บนพื้น" ฉันไม่ทราบค่ะ เธอเอาข้อเสนอมาให้พวกเรา"หล่อนตอบตะกุกตะกัก ไม่ค่อยจะเต็มเสียงนัก สายตาเบือนต่ำไปหาเพื่อนสาว ก่อนเบือนหน้าหนี" ข้อเสนออะไร"" ขะ ข้อเสนอ.... "" บอกมาเถอะน่า ถ้าเธอบอก ฉันจะไว้ชีวิตเธอ"เขาเก็บปืนเหน็บเอวสอบ ก่อนเลื่อนเก้าอี้มานั่งตรงหน้า อย่างใจเย็น ไซร่ากลืนน้ำลายก้อนใหญ่ คอแห้งเผือด กลัวเสียจนกระหายน้ำ" เธอบอกว่า จะดูแลพวกเราอย่างดี เพราะเป็นนายหญิงของที่นี่"" แลกกับอะไร? "" อย่าบอกนะไซร่า... ""หุบปาก! "นิ้วเรียวชี้หน้าคนที่นั่งกับพื้น สายตาดุดัน ในจังหวะเขาถามแล้วหล่อนแทรกขึ้นมา สเปชี่เห็นอย่างนั้น จึงรีบหลบตา .... สำหรับเรกาโดตอนนี้ หล่อนคือคนกลัวไม่เกรง และร้ายที่สุด" หรือฉันจะฆ่าเพื่อนเธอก่อนดีไซร่า " เขากระซิบ " แล้วเรามาคุยกันสองคน... เอาแบบว่า เนื้อแนบเนื้อเลยดีไหม..."เขาหยั่งเชิง เลิกคิ้วเข้ม โน้มหน้าเข้าไปใกล้ เพราะดูออก เด็กพวกนี้หวังสูงเอาการ คงเห็นแบบอย่างเป็นเอ
ทางเดินสีดำมืดมนที่เคยพานพบ สำหรับเรกาโดก่อนหน้านี้ เขาคิดมาโดยตลอดว่าเขาเอาอยู่ ในคติของใจสุดลึก อะไรก็ตามเข้ามาอยู่ในอุ้งมือ ปล่อยเสรีให้เขาดูแลอย่างเต็มที่ ไม่มีทางที่เขาจะทำพลาด ถึงแม้เรื่องนั้นจะยากเกินตัว เว้นแต่...วันที่เธอคนนี้เดินเข้ามา" เอมิเลีย... ฟู่ววว"เขาถึงกับกุมขมับไปไม่ถูก เอนหลังแกร่งพิงพนักเก้าอี้ยาวประจำตำแหน่ง ใช้ความคิดหาทางออกต่อเหตุการณ์ครานี้ แต่เหมือนมันตื้อไปหมดนิ้วเรียวยาวเคาะโต๊ะเป็นจังหวะของเส้นสมองประกอบความคิด ก่อนเรกาโดจะหลับตาแน่น คลายความกดดันนั้นลง ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พาร่างล่ำสมาร์ทไปยืนตรงระเบียง เพื่อจุดบุหรี่สูบภาพศพเรียงรายดำไหม้แทบกลายเป็นขี้เถ้า ติดอยู่นัยย์ตาเขา พาลทำหลอนประสาท หากเรื่องนี้ไม่ใช้เงินมหาศาลในการปิดข่าว เพื่อกันเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามายุ่งเกี่ยว เขาคงจะเครียดหนักกว่านี้ เผลอๆถึงขั้นกระอักเลือดสถานที่กำพร้า แม้จะเป็นพื้นที่ของเขา ตระกูลเขาใช้อิทธิพลกวาดซื้อ เพื่อสานต่อภายในอนาคต หวังบังหน้าธุระกิจผิดกฏหมาย แม้ในความคิดของบิดาจะแสร้งทำ ทว่ากลับมีค่าต่อจิตใจมารดาของเขาทั้งสิ้น ความผิดหวังและเสียใจต้องเกิดขึ้นกับบุตรชายอย่างเ
เอี๊ยด!ล้อรถหยุดเคลื่อนตัวหน้าคฤหาสน์หรู หน้าที่ของคนขับหลังเปิดประตูรถให้ตัวเอง ต้องรนรานลงมาเปิดประตูรถให้เจ้านายด้วย เนื่องจากนายหญิงสลบเหมือดไม่ได้สติตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วเรกาโดแบกร่างบางสาวไว้เต็มสองแขน กรอบหน้ามนสวยปรักจมแผงอกอุ่น เขาเดินเร็วรุดหน้าไปยังโรงพยาบาลขนาดย่อม หาได้สนใจไม่" ตามหมอมา"" ครับนาย"บาดแผลนอกกายไม่ได้หนักหนาสาหัส เท่ากับภายในใจ ณ ตอนนี้ ชายหนุ่มคิดไม่ตก คงจะหมดความมั่นใจ หากเธอฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เหมือนเดิม" หมอมาแล้วครับ"เรกาโดค่อยๆ วางร่างเธอลงบนเบาะ ในจังหวะหมอประจำตระกูลเข้ามาก้มคำนับให้ ใบหน้าหวานเปอะเปื้อนไปด้วยเขม่าควันดำครึก นั่น ทำเขาไม่อยากจะละสายตา เธอหลับตาพริ้ม ท่ามกลางคราบน้ำตาเต็มเปลือก" ฝากด้วยนะหมอ เธอฟื้นเมื่อไหร่บอกฉันด้วย"" ครับ"ก่อนจะหันหลังเดินจากไป เพื่อไปสะสางคดีความสามชั่วโมงผ่านไปเปลือกตาหนักอึ้ง ค่อยๆ ลืมขึ้น ภาพแรกที่เห็น คือเพดานสีขาวสะอาดตา กลิ่นยาคุ้นเคยตลบอบอวลไปทั่ว หญิงสาวลุกพรวดด้วยความตกใจ ก่อนจะเบ้ปากด้วยความเจ็บปวด เมื่อแขนข้างหนึ่งดึงสายน้ำเกลือขึ้นจนตึง" ซี๊ดดดด"เธอปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ลามไปทั้งตัว" นายหญ
มืดสลัว นาฬิกาภายในห้องบอกเวลาสามทุ่ม เอมิเลียสลึมสลือตื่นเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวาย เสมือนฝีเท้าเคาะพื้นเป็นจังหวะรัวเร็วของผู้คนมากกว่าสิบหญิงสาวถูกปลุกขึ้นมาจากความฝัน เธอฝันถึงซิสเตอร์และเด็กๆ จัดงานวันเกิดให้แก่เธอในห้องนอนเก่า ทุกคนแต่งชุดสวย สีสันสดใสสว่างไสวไปด้วยแสงเทียน เสียงปรบมือกระทบกันเป็นจังหวะ หลายคู่ผสานพร้อมกันกับเสียงเพลงในจังหวะน้องเล็กสุดยื่นเค้กมาให้เธอพร้อมยิ้มหวาน จังหวะนั้นที่เธอกำลังจะเป่า แต่แล้ว....ตึก ตึก ตึก ตึกกลับมีเสียงดังกล่าวมารบกวนการนอนของเธอ เอมิเลียลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซไปแง้มหน้าต่าง ภาพที่เห็นคือความยุ่งเหยิง ชวนให้เวียนหัว" อะไรกัน.."ก่อนรถทุกคันซึ่งถูกจอดเรียงไว้ จะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป คันสุดท้ายคาดว่าจะเป็นของนายใหญ่เปิดประตูค้าง เรกาเดินเร็วออกมาจากตัวบ้าน เขาหยุดคุยกับบอดี้การ์ดสลับกับช้อนตาขึ้นมามองหน้าต่างห้องของเธอ โชคดีไฟไม่ได้เปิดเขาจึงมองไม่เห็นมีเธอยืนอยู่และไม่นานเสียงเคาะประตูห้องเธอก็ดังขึ้น ด้วยความอยากรู้ หญิงสาวจึงเดินเร็วไปกระชากมากกว่าเปิด แต่แล้วประโยคแรกที่ได้ยินกลับต้องยืนช็อค" นายหญิง.. "" มะ มีอะไร......."" บ