“เราออกไปสนุกด้วยกันดีกว่า”
เสียงลาน่าเอ่ยชวนรสรินทร์เพราะไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้นาน หญิงสาวจึงหันไปบอกคนรักเชิงเป็นการขออนุญาต แต่อันที่จริงแล้วเธอเพียงบอกเขาเฉย ๆ เท่านั้นเพื่อจะได้แสดงความรักให้สาว ๆ แถวนี้ได้เห็นก็เพียงเท่านั้น
“"ดินคะ เดียวโรสมานะคะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมยิ้มหวานให้คนรัก คนรักของเขาเป็นคนรักสนุกชอบปาร์ตี้เป็นที่สุดผิดกับเขา แต่เพราะรักเขาถึงยอมฝืนใจตัวเองมานั่งเป็นเพื่อนเธอทุกครั้ง แต่ก็เพราะหวงและห่วงความปลอดภัยของหญิงสาวที่ชอบแต่งกายโป๊เปลือยแบบนี้ออกมาปาร์ตี้ทุกครั้งเขาจึงไม่ปล่อยให้เธอมาเพียงลำพัง
“ไม่ไปสนุกกับคนอื่นเหรอครับ” จอนถามเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว
“ไม่ละครับผมเต้นไม่เป็นนะ”
“แปลกจังนะครับโรสชอบเต้นแต่กลับมีแฟนที่เต้นไม่เป็นซะอย่างนั้น”
“ไม่แปลกหรอกครับผมแค่เห็นโรสมีความสุขผมก็มีความสุขแล้ว”
“คุณดินนี่ช่างเป็นคนรักที่แสนดีจริง ๆ นะครับ”
จอนบอกอย่างประชดประชัน นคินทร์สังเกตได้จากน้ำเสียงที่พูดคุยกันชายหนุ่มตรงหน้าดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเอาเสียเลยทั้งที่เขาก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่ไม่ค่อยชอบมาในสถานที่ที่เสียงดังและคนเยอะๆ แบบนี้” นคินทร์ตอบไปอย่างงั้น
“เรียนจบแล้วโรสบอกว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ คุณดินก็คงเหมือนกันใช่มั้ยครับ” จอนถามต่อหวังจะชวนชายหนุ่มคุยต่อ
“ครับกะว่าจะอยู่ต่ออีกสักหนึ่งปีแล้วค่อยกลับไทยไปแต่งงานกับเธอ”
คำตอบนั้นทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับหน้าเสีย จากที่เคยเป็นต่อบัดนี้เปลี่ยนไป คิ้วหนาขมวดผูกกันเป็นโบพร้อมกับแสดงท่าทางออกมาว่าไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด เพราะรสรินทร์ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาและไม่ทันที่เขาจะได้ถามต่อเสียงโทรศัพท์ของนคินทร์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
ตื้ด ตื๊ด ตื๊ด
“ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ด้านนอกก่อนนะครับ”
“เชิญครับ”
ว่าแล้วนคินทร์ก็เดินออกมาด้านนอกเพื่อรับโทรศัพท์ เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของน้องสาวสุดที่รักของเขาแต่น่าแปลกที่น้องสาวของเขาโทรหาเขาในเวลาเช่นนี้
“ว่าไงยัยดาวโทรมาหาพี่ซะดึกเลย”
“พี่ดินคะคุณพ่อป่วยตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ”
นิศราน้องสาวเขาบอกเสียงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หากเขาเดาไม่ผิดเสียงเช่นนี้ของน้องสาวคือเธอพึ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา
“คุณพ่อเป็นอะไร”
“คุณพ่อเป็นโรคหัวใจ บวกกับตอนนี้ท่านเครียดเรื่องที่บริษัทเลยทำให้ช็อกหมดสติไป โชคดีที่พี่ติมาเจอเข้าเสียก่อนเลยพาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลาค่ะ พี่ดินดาวกลัว”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บริษัทถึงทำให้คุณพ่อเครียดจนถึงกับต้องช็อกหมดสติไป”
“คือ..” หญิงสาวอึกอักเพราะบิดาบอกเธอสั่งไว้ว่าอย่าได้กวนใจพี่ชายของเธอเพราะเขาได้ตัดสินใจจะสร้างธุรกิจของตัวเองแล้ว
“บอกพี่มาให้หมดนะดาวว่าที่บ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
นคินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น ชายหนุ่มมั่นใจว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวของเขาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นบิดาของเขาคงไม่โทรตามให้เขากลับบ้านบ่อยขนาดนี้ แต่ที่เขาไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เพราะบิดาไม่เคยเล่าให้ฟัง นิศราที่ทนการคาดคั้นของพี่ชายไม่ไหวจึงเล่าเรื่องราวที่เกินขึ้นทั้งหมดให้คนเป็นพี่ฟังโดยไม่ปิดบังอีก
เมื่อทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบริษัทจนทำให้อาการป่วยของบิดาเขากำเริบจนเกือบเสียชีวิตหากว่าเลขาคนสนิทของบิดานำตัวส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ชายหนุ่มก็ต้องตกใจเพราะเขาพึ่งคุยกับบิดาไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เองโชคดีที่ครั้งนี้บิดาเขาไม่เป็นอะไร เรื่องที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าคือ
บริษัทที่บิดาเขาสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง กำลังประสบปัญหาใหญ่เรื่องหนี้สิน คงเป็นเพราะเรื่องนี้สินะบิดาของเขาถึงได้อยากให้เขากลับไปให้เร็วที่สุดแต่เขากลับยืนยันหนักแน่นว่าจะอยู่ต่อจนบิดาของเขาตัดสินใจจะไม่บอกเรื่องนี้กับเขาเพราะไม่อยากให้เขาต้องเป็นกังวล นี่เขาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคหัวใจของบิดาเขาทรุดลงด้วยหรือเปล่า ชายหนุ่มคุ้นคิดกับตัวเอง
หากน้องสาวของเขาไม่โทรมาในวันนี้ เขาก็คงยังไม่รู้เรื่องอาการป่วยของบิดาของเขาเป็นแน่ เพราะการคุยโทรศัพท์กับบิดาท่านไม่เคยบอกอะไรเลย ท่านคงไม่อยากให้เขากลับไปโดยที่ยังไม่อยากกลับ แถมตอนที่เขาบอกว่าจะอยู่ต่ออีกหลังเรียนจบบิดาของเขาก็ไม่ได้ห้ามหรือขัดขวางอะไรแถมยังอวยพรเขาอีก มันยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดเข้าไปอีกทำไมเขาถึงไม่ถามว่าทางนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ทั้งที่ช่วงหลังบิดาโทรมาหาเขาบ่อยมาก ๆ มันน่าจะทำให้เขาเอะใจคิดได้บ้างแต่เขากับรำคาญทุกครั้งที่บิดาโทรหาเพราะเขามัวแต่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองจนลืมคนข้างหลังไป การที่เขาจากมาไกลขนาดนี้ทำให้เขามองไม่เห็นความสำคัญของครอบครัวที่รอเขากลับไปได้อย่างไร
เสียงเพลงในไนต์คลับที่ดังสนั่นโดนใจคนชอบเที่ยวที่พากันเต้นตามจังหวะดนตรีอย่างสนุกสนาน รสรินทร์ก็สนุกจนลืมชายหนุ่มที่มาด้วยไปเลย ระหว่างที่เธอกำลังเต้นอย่างเพลิดเพลินกับกลุ่มสาว ๆ จอนที่คุ้นคิดกับคำพูดของนคินทร์เกี่ยวกับเรื่องของรสรินทร์ผู้หญิงที่เขาชอบจนทนไม่ไหว จึงเดินตรงเข้าไปหาเธอทำท่าเหมือนจะเต้นด้วย แต่เปล่าเลยเขาเดินมาถึงก็โน้มหน้าลงไปกระซิบข้างหูของรสรินทร์ที่กำลังเต้นอย่างสนุก
“ออกมาคุยกับผมหน่อยทางเดินไปห้องน้ำเดี๋ยวนี้”
เขาบอกน้ำเสียงเข้มสีหน้าจริงจังแล้วจึงเดินนำเธอออกไปก่อนเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตในหมู่เพื่อน ๆ แล้วหญิงสาวจึงเดินตามเขาออกไปเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย
“มีอะไรคะจอน ทำหน้าจริงจังเชียว”
“โรสคุณจะแต่งงานกับไอ้ดินนั่นเหรอทำไมถึงไม่บอกผม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“บ้าน่าจอน โรสยังรักสนุกอยู่ไม่คิดที่จะแต่งงานกับใครหรอก คุณก็น่าจะรู้ดีกว่าใคร"
หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนลงแถมส่งสายตายั่วให้คนตรงหน้าอีกต่างหาก ทำอย่างกับคำถามที่เขาถามมาเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียงอย่างนั้น แต่คนถามดูเหมือนจะไม่เชื่อคำพูดของเธอสักเท่าไหร่
“แต่มันบอกผมแบบนั้น”
“แล้วคุณก็เชื่อ…จอน! คุณคิดว่าคนอย่างฉันจะแต่งงานแล้วทิ้งชีวิตที่แสนสนุกแบบนี้ไปหรือคะไม่มีทาง”
ไม่พูดเปล่าหญิงสาวใช้สองแขนโอบรอบคอของเขาก่อนดึงโน้มเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มเร่าร้อนราวกับกระหาย เขาปล่อยให้เธอเป็นคนเสนอจูบร้อนแรงนั้นก่อน แล้วจึงดันร่างอันแสนยั่วยวนของเธอให้แนบชิดกับผนังทางเดินและจูบตอบกลับอย่างดูดดื่มร้อนแรงไม่แพ้กัน ทั้งสองยืนจูบกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานจนอารมณ์ของชายหนุ่มเริ่มเตลิดมือหนาเริ่มเลื้อยไล่ไปตามร่างบางจนมาหยุดที่ทรวงอกอวบนิ่มของเธอก่อนจะบีบเคล้นอย่างมันมือ นานจนพอใจแล้วค่อยๆ เลื่อนไล้ปลายนิ้วลงต่ำไปตามหน้าท้องแบนราบของหญิงสาวและหมายจะล้วงเข้าไปสำรวจด้านในกระโปรงสั้น แต่กลับถูกมือบางจับที่ข้อมือเขาห้ามเอาไว้เสียก่อน
“ตรงนี้ไม่ได้ค่ะจอน”
เธอห้ามพร้อมส่งสายตากับมองไปทางประตูห้องน้ำ ชายหนุ่มรู้ในทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร
ยังไม่ทันที่จะได้คุยกันรู้เรื่องสายก็ถูกตัดไป เพราะได้ยินไม่ชัด แวบแรกที่นึกขึ้นมาได้ก็คือ แพรไหมจะไปอยู่ต่างประเทศ อะไรกัน เขาคิดว่าเคลียร์ใจกับพี่ชายเธอเรียบร้อยแล้วเสียอีกทำไมเธอถึง จะหนีเขาไปอยู่ไกลขนาดนั้นอีก หรือเธอโกรธเขาที่ขาดการติดต่อไปหลายวันคิดได้ดังนั้นจึงร้อนรนใจสิทีนี้ เขาพยายามโทรหาหญิงสาว แต่กลับไม่สามารถติดต่อได้ ด้วยความร้อนใจ เขาเลื่อนไฟลต์บินกลับเป็นตอนนี้เลย“ติจองตั๋วกลับไทยให้หน่อยขอเป็นเที่ยวบินที่เร็วที่สุดเลย สายการบินไหนก็ได้”“เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ ดูร้อนใจ” เลขาคนสนิทถามด้วยความเป็นห่วง“เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง ไปจัดการเรื่องตั๋วก่อน”“ได้ครับ”ช่วงเวลาที่คุณหมอหนุ่มกำลังบอกลาทุกคนอยู่ นคินทร์ที่เพิ่งลงเครื่องมารีบวิ่งมาฝั่งผู้โดยขาออกทันที ภาพที่เห็นคือแพรไหมยืนถือกระเป๋าเดินทางอยู่เคียงข้างพี่ชายตนเอง ภาพตรงหน้ายิ่งตอกย้ำให้ชายหนุ่มเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ว่าเธอจะหนีเขาไปจริง ๆไม่รอช้าขายาวรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดรั้งร่างบางไว้ ต่อหน้าทุกคนทำเอาคนอื่นๆต่างพากันตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพราะสีหน้าท่าทางชายหนุ่มดูไม่ดีเอาเสียเลย“แพรถ้าพี่ทำอะไรให้แพรโก
เย็นวันนั้นนครินทร์นั่งรอจนคุณหมอหนุ่มกลับมา เพื่ออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เขานั่งคิดทบทวนในสิ่งที่ได้ทำลงไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้หวังให้พี่ชายเธอให้อภัย เพียงแต่หวังว่าพี่ชายของเธอจะเข้าใจเขาบ้าง เพราะเขารู้ตัวดีว่าสิ่งที่ทำลงไปมันเกินกว่าที่จะได้รับการให้อภัย นานนับชั่วโมงที่สองหนุ่มนั่งคุยกันภายในห้อง จนแพรไหมไม่เป็นอันทำอะไร เดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้อง กระวนกระวายใจกลัวว่าพี่ชายของเธอจะไม่เข้าใจ และจะทำให้เธอต้องแยกจากเขาอีกครั้ง “ผมรู้นะว่าคุณรักแพรมาก แต่การที่คุณใจร้อนมันไม่ได้มีผลดีต่อใครเลย” “ผมรู้ครับและผมต้องขอโทษคุณด้วย ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น” “ช่างเถอะ ผมทราบเรื่องของคุณจากบรรดาเพื่อนๆ ของแพรแล้ว อย่างน้อยผมก็รู้ว่าคุณจะดูแลน้องสาวผมได้เป็นอย่างดี ผมไม่ได้โกรธ แต่อยากให้คุณใช้สติให้มากกว่าอารมณ์” “ขอบคุณนะครับที่เข้าใจและให้อภัยผม ต่อไปผมจะระวังให้มากกว่านี้” “ที่ให้อภัย เพราะผมอยากเห็นแพรมีความสุข ผมคิดว่าคุณสามารถทำให้น้องสาวผมมีความสุขได้” “จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมต้องขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ ครับ ที่ไม่ถือสาเอาความผม” “ผมขอถามเรื่องหนึ่งจะได้มั้ย” “ครับ” “ปัญหาของครอ
แขนแข็งแรงยังคงโอบกอดรัดร่างน้อยเปลือยเปล่าไว้แนบแน่นราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีหายไปไหน“ต่อไปห้ามบอกว่าเราเลิกกัน ห้ามบอกว่าไม่รักพี่อีกเข้าใจมั้ย”“พี่รักแพรมาก ไม่เคยมีวันไหนเลยที่พี่จะไม่รักแพร รักมากจนไม่สามารถเสียแพรไปให้ใครได้ ที่พี่ทำไปทั้งหมดเพราะไม่อยากให้แพรต้องมาตกอยู่ในอันตราย หากแพรเป็นอะไรไปพี่คงอยู่ไม่ได้ ตอนนี้เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว พี่ขอโทษ ขอโทษกับเรื่องโง่ๆที่ทำลงไป ขอโอกาสให้พี่ได้แก้ตัวสักครั้งได้มั้ยครับ”คำขอโทษของ ทำให้ความรู้สึกอัดอั้นที่เธอเก็บเอาไว้พรั่งพรูออกมาเป็นหยดน้ำตาใสๆ โดยที่ไม่มีคำใดสามารถเอ่ยออกมาได้ ในใจลึกๆ รู้ดีว่าเขาทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารัก แต่ที่เสียใจคือการแสดงออกที่ผ่านมาของเขา มันทำให้เธอเจ็บปวดเสียเหลือเกิน“หายโกรธพี่เถอะนะครับคนดี”“พูดอะไรกับพี่หน่อยสิครับ อย่าเอาแต่เงียบใส่พี่แบบนี้”“จะทุบ จะตี จะด่าพี่ยังไงก็ได้”เสียงทุ้มกระเส่าเบาหวิวข้างใบหู ไม่เพียงแต่พูดเปล่าใบหน้าคมโน้มลงจูบซับหัวไหล่มนอย่างแสนรัก ไม่มีคำตอบใดหลุ
ฝ่ามือใหญ่ทาบลงบนเอวคอดกิ่วเหนือบั้นท้าย บีบกระชับร่างบางแนบชิดลำตัวสนิท มืออีกข้างสอดลูบไล้เลื่อนขึ้นปลดตะขอบาร์ด้านใน ด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะลูบไล้ฝ่ามือไปตามเรือนกายสาวจนทั่ว ทำคนตรงหน้าไม่มีโอกาสได้ตั้งสติ มือหนาเลื่อนมาหยุดที่หน้าอกอวบอิ่มคู่งาม ตอนนี้ปลายยอดสีน้ำตาลเข้มชูชันตั้งตรงยั่วยวน ชวนให้เข้าไปสัมผัสร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อมือร้อนแตะทาบทับ บีบเคล้นบนอกอวบคู่งามอย่างย่ามใจ ริมฝีปากหนาถอนจูบออก ก่อนขยับพรมจูบซับทั่วใบหน้าสวย ไล่ไปตามใบหู ลำคอ ความเสียวสะท้านทำหญิงสาวขนลุกชูชันไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่าตนเองต้านทานสัมผัสนี้ไม่ไหว ใช้สติที่เหลือน้อยนิดจับข้อมือแกร่งไว้เป็นการขัดขืน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล นคินทร์ยกยิ้มกว้างพอใจ เพราะการกระทำของเธอดูไม่จริงจังนัก แถมสีหน้าแววตาของเธอตอนนี้ ทั้งเซ็กซี่ทั้งยั่วยวนชวนให้ไปต่อ“อื้อพี่ดิน พะ ..พอค่ะ”ทันทีที่คนตัวโตถอนจูบออก ปากน้อยได้เป็นอิสระจึงรีบร้องห้ามเสียงเบาราวคนละเมอ เมื่อเห็นท่าทีขัดขืนเขาไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้สตินาน“พี่รักแพร...รัก มาก...แพรต้องเป็นของพี่ ของพี่แค่คนเ
นคินทร์ยืนทำสมาธิ อยู่หน้าห้องของหญิงสาวชั่วครู่ ก่อนตัดสินใจเคาะประตู คนด้านในกำลังนั่งรอพี่ชายด้วยความร้อนรนใจ กลัวว่าทั้งสองคนจะมีเรื่องกัน รีบวิ่งมาเปิดประตูให้ทันที“พอลเป็นยังไงบ้าง ...พี่ดิน” ร่างเล็กชะงักไม่คาดคิดว่าจะเป็นเขา“ใช่พี่เอง ขอคุยด้วยได้มั้ย”เสียงทุ้มนุ่มถาม พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้โมโหใส่คนเบื้องหน้า“ไม่ค่ะ”“แพร”“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”“งั้นพี่จะยืนอยู่ตรงนี้จนกว่าแพรจะยอมคุยกับพี่”“จะทำแบบนี้ทำไมคะ ในเมื่อพี่ดินเป็นคนที่ไม่ต้องการเจอแพรเอง”“พี่อยากคุยกับแพรให้รู้เรื่อง อยากขอโทษ”“ไม่จำเป็นค่ะ ไม่มีอะไรต้องขอโทษ” พูดแล้วก็ดึงประตูจะปิด แต่ถูกแขนแข็งแรงดันไว้เสียงก่อน“จำเป็นสิขอโอกาสให้พี่ได้อธิบายสักครั้ง ...นะครับ” แพรไหมถอนหายใจหนัก“งั้นก็ลงไปคุยกันข้างล่างค่ะ คุยเสร็จจะได้กลับเลยแล้วไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก&rdquo
เธอเมาจนภาพตัดจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเมื่อคืนตัวเองกลับมาที่โรงแรมได้ยังไง“ก็เมื่อคืนเราเจอผู้ชายคนนี้ที่บาร์ไง แล้วแพรก็บอกว่าไม่รู้จักเขา”“...”แพรไหมพยายามนึก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก ว่าที่พี่ชายของเธอพูดหมายความว่ายังไง เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไปนานนคินทร์ที่รอไม่ไหวก็เป็นฝ่ายถามพร้อมต่อว่าเธอ“ผู้ชายคนนี้มันเป็นใคร แล้วทำไมถึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้มันจับง่ายๆแบบนี้ ไหนจะเมื่อคืนอีก ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเมาจนขาดสติแล้วต้องมานอนกับมันที่นี่”“แพรไม่ได้ทำอะไรอย่างที่พี่ดินพูด อย่ามาพูดจาดูถูกกันแบบนี้นะคะ”“จะให้หยุดพูดได้ยังไงในเมื่อพี่พูดเรื่องจริงทั้งหมด”“แล้วคุณเป็นใครถึงได้มาต่อว่า ให้แพรเสียหายแบบนี้ จำเป็นที่จะต้องมาแสดงกิริยาต่ำ ๆในที่สาธารณะแบบนี้เหรอ” พอลเตือนให้อีกฝ่ายได้สติ“ผมเป็นสามีแพร แล้วคุณล่ะเป็นใครถึงได้พาเมียคนอื่นมานอนค้างที่โรงแรมสองต่อสอง แค่ต่อยมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”ทันทีที่นคินทร์พูดจบคุณหมอหนุ่มก็หันหน้าไ