หลี่หลงหลินกล่าวว่า “ถึงแม้กองกำลังหลักของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะไม่ออกมาช่วยเหลือคนแก่ เด็ก และสตรีที่ไร้บ้านเหล่านี้ พวกเขาก็จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางของราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือด้วยตนเอง”อย่างไรเสีย กองกำลังหลักของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็ล้วนมาจากเมืองต่างๆ เหล่านี้คนแก่ เด็ก และสตรีเหล่านี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแม่ ภรรยา หรือลูกของพวกเขาพวกเขาไม่มีทางนิ่งเฉยดูดายได้อย่างแน่นอนแม้จะเป็นเผ่าหมาน พวกเขาก็ยังมีความเป็นมนุษย์พวกเขาไม่ใช่เครื่องจักรที่เย็นชาไร้ความรู้สึกซูเฟิ่งหลิงเผยสีหน้าประหลาดใจ “องค์รัชทายาท แต่ทำเช่นนี้จะหาราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือพบจริงๆ หรือเพคะ?”“ในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ ลำพังคนแก่ เด็ก และสตรีเหล่านี้คงเดินไปได้ไม่ไกลนัก”“ราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือในตอนนี้เกรงว่าจะยังอยู่ห่างจากเราพอสมควร”ในมุมมองของซูเฟิ่งหลิงเชลยเหล่านี้เกรงว่าแม้แต่จะเดินออกจากเมืองซงหลินยังลำบากยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตามหาราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือที่อยู่ลึกเข้าไปในทุ่งหญ้าในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่นี้ ต้าเซี่ยส่งทหารชั้
จางไป่เจิงเอ่ยขึ้นช้าๆ “องค์รัชทายาท ทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะกระมัง... อย่างไรเสียกฎหมายต้าเซี่ยก็มีคำสั่งห้ามมิให้เกิดเรื่องเช่นนี้อย่างชัดเจน”“อีกอย่าง ข้ารบมาทั้งชีวิต ยังไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นที่องค์รัชทายาทตรัสมาก่อน”หลี่หลงหลินกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพจาง ท่านไม่เคยเจอไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีเหตุผล”“อย่างไรเสีย ต่อให้แม่ทัพในกองทัพจะวางแผนเก่งกาจเพียงใด หากไม่มีเหล่าทหารสู้ตายอยู่ที่แนวหน้า ก็ไม่อาจคว้าชัยชนะมาได้”“บัดนี้เหล่าทหารรบชนะมาหลายครั้งแล้ว ย่อมต้องให้รางวัลปลอบขวัญอย่างงาม”“ส่วนเรื่องที่ท่านแม่ทัพกังวล หากเสด็จพ่อทรงตำหนิลงมา ข้าจะรับไว้เอง จะไม่ให้โทษไปถึงท่านอย่างแน่นอน”จางไป่เจิงคิดแล้วคิดอีก ในที่สุดก็ยอมตกลงในเมื่อเป็นสิ่งที่หลี่หลงหลินต้องการจะทำ เกรงว่าคงไม่มีใครหยุดเขาได้จางไป่เจิงกล่าวว่า “ในเมื่อองค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้แล้ว ก็จงทำตามที่องค์รัชทายาทตรัสเถิด!”“ไม่ว่าอย่างไร ครั้งนี้เหล่าทหารก็ลำบากกันมากจริงๆ สมควรให้รางวัลแก่พวกเขาบ้าง”จางไป่เจิงมองไปยังซูเฟิ่งหลิง “จงนำคำสั่งของข้าไปประกาศ นำของที่ริบได้ทั้งหมดนี้แจกจ่ายให้เหล่าทหาร!”ซูเฟิ่
เบื้องหน้าเมืองซงหลินใบหน้าของเหล่าทหารเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เผยให้เห็นความซื่อตรงอันเป็นเอกลักษณ์ของชายชาวต้าเซี่ยเมื่อเหล่าทหารได้เห็นหลี่หลงหลิน ต่างก็ชูแขนขึ้นโห่ร้องหากมิใช่เพราะหลี่หลงหลินช่วยรักษาอาการตาบอดกลางคืนของพวกเขาในครั้งนั้น สงครามครั้งนี้คงไม่ราบรื่นและสะใจถึงเพียงนี้!“องค์รัชทายาททรงพระปรีชา!”“องค์รัชทายาททรงเกรียงไกร!”“...”หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย พลางโบกมือให้เหล่าทหารหลังจากรักษาอาการตาบอดกลางคืนแล้ว พลังรบของทหารม้าเหล็กต้าเซี่ยก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งระดับในอนาคต ความเร็วในการยึดเมืองจะยิ่งรวดเร็วยิ่งขึ้น!รอยยิ้มบนใบหน้าของเหล่าทหารก็จะยิ่งมีมากขึ้นหลี่หลงหลินเดินฝ่าเหล่าทหารมายังเบื้องหน้าเมืองซงหลินก็เห็นทรัพย์สมบัติเงินทองที่ยึดมาได้จากในเมืองกองอยู่หน้าประตูเมือง และยังมีม้าชั้นดีอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนืออีกหลายตัวซูเฟิ่งหลิงมองไปยังจางไป่เจิงแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพจาง ทรัพย์สินเงินทองและม้าเหล่านี้ล้วนเป็นของที่ยึดมาได้จากในเมืองซงหลินหลังจากตีเมืองสำเร็จ ข้าให้ทหารนำทั้งหมดมากองไว้ที่นี่แล้ว”“ท่าน
ขวานผ่าภูเขาขนาดมหึมาฟาดฟันเข้าใส่ซูเฟิ่งหลิงราวกับพายุคลั่งซูเฟิ่งหลิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางยกทวนขึ้นรับนางรู้ดีว่ายิ่งเป็นสถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งไม่อาจหลบหนีต้องใช้กำลังหักล้างด้วยกำลัง!เสียงขวานและทวนปะทะกันราวกับเสียงตีเหล็ก จนถึงขั้นมีประกายไฟกระเด็นออกมาการต่อสู้ระหว่างซูเฟิ่งหลิงและเซียวลี่นั้นรวดเร็วจนน่าตื่นตาตื่นใจภายใต้กระแสลมที่รุนแรงแผ่กระจายออกไปทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนายหนึ่งหลบไม่ทัน ถูกทวนยาวของซูเฟิ่งหลิงแทงทะลุศีรษะจนระเบิด!หากขวานผ่าภูเขาของเซียวลี่คือกระทิงที่มิอาจต้านทานทวนยาวของซูเฟิ่งหลิงก็คือมังกรวารีในสายน้ำ พลิกแพลงนับพันหมื่น ใช้ความอ่อนโยนสยบความแข็งกร้าว คอยหาโอกาสแทงเข้าใส่ร่างของเซียวลี่ ทำให้ร่างกายกำยำของเขาพรุนไปด้วยบาดแผลเกิดเป็นดอกไม้โลหิตเบ่งบานขึ้นทีละดอก ทีละดอกแกร็ก!ซูเฟิ่งหลิงหาจังหวะได้เหมาะเจาะ นางไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ออกแรงตวัดเพียงครั้งเดียวก็ส่งขวานผ่าภูเขาในมือของเซียวลี่ลอยกระเด็นออกไปขวานผ่าภูเขาหนักร้อยชั่งในมือของเซียวลี่หล่นลงมาทับทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนายหนึ่งตายทันทีเขามองไปยังขวานที่อยู่ไก
เซียวลี่เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับซูเฟิ่งหลิงมาก่อนวันนี้เมื่อได้มาเห็นกับตา จึงได้รู้ว่านางแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!เขารู้สึกราวกับมีภูเขาทั้งลูกกดทับอยู่บนร่างจนแทบหายใจไม่ออกเซียวลี่ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดผลักทวนเงินของซูเฟิ่งหลิงออกไปด้วยขวานผ่าภูเขาท่วงท่าของซูเฟิ่งหลิงนั้นต่อเนื่องไหลลื่นไม่มีสะดุดนางหมุนปลายทวนกลับทันที และฟาดเข้าใส่เซียวลี่อีกครั้งอย่างรุนแรง!เซียวลี่รู้ดีว่าตนไม่อาจประมาทได้ซูเฟิ่งหลิงผู้นี้มิใช่คู่ต่อสู้ธรรมดา จะต้องทุ่มสุดกำลัง!เซียวลี่พลิกตัวหลบทวนเงินก็เฉียดเกราะบริเวณอกของเขาไปทิ้งรอยบุบไว้บนเกราะอกอันแข็งแกร่ง!หากเขาหลบไม่ทันเมื่อครู่ เกรงว่าทรวงอกคงถูกทวนเงินแทงทะลุไปแล้ว!สีหน้าของเซียวลี่เคร่งขรึมลง ไม่กล่าววาจาใด มืออันใหญ่โตทั้งสองข้างกำขวานผ่าภูเขาแน่นแล้วฟันลงไปยังซูเฟิ่งหลิงอย่างเต็มแรง!ซูเฟิ่งหลิงยกทวนเงินขึ้นขวางไว้ตรงหน้าอกเคร้ง!เมื่ออาวุธปะทะกันก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!แรงปะทะอันมหาศาลเกือบจะซัดซูเฟิ่งหลิงให้กระเด็นออกไปอาชาสีขาวใต้ร่างนางถูกแรงกดจนทรุดเข่าลงกับพื้นเซียวลี่เผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อส
ในชั่วพริบตา ศีรษะของทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือหลายนายก็ลอยละลิ่วขึ้นไปในอากาศ โลหิตจากลำคอพุ่งกระฉูดดั่งน้ำพุบนทวนเงินกลับไม่เปื้อนเลือดแม้แต่น้อยแม้แต่บนเกราะเงินของซูเฟิ่งหลิง ก็มีเพียงหยดเลือดเกาะอยู่ไม่กี่หยด เลือดของทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทำให้ผ้าคลุมสีแดงของนางยิ่งแดงฉานขึ้นเหล่าทหารที่ทะมึนอยู่เบื้องหลังนางประดุจคลื่นสีดำถาโถมเข้าใส่เมืองซงหลินทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือที่เฝ้าเมืองแทบไม่เชื่อสายตาตนเองซูเฟิ่งหลิงนำทัพบุกตะลุยด้วยตนเองราวกับเทพเซียนจุติลงมาโปรด มีพลังอำนาจที่จะกวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก!เหล่าทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือที่ประจำการในเมืองซงหลินถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงระฆังเตือนภัย ต่างพากันออกจากเมืองเพื่อรับศึกในชั่วพริบตานอกเมืองซงหลินก็เกิดความโกลาหลวุ่นวายธงรบโบกสะบัด เสียงฆ่าฟันดังกึกก้อง ม้าวิ่งชนกันไปทั่ว ดินทรายสาดกระเซ็นไปทุกหนทุกแห่งทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยเสียงอาวุธกระทบกันทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยแขนขาที่ขาดวิ่น เลือดข้นหนืดไหลนองเต็มพื้นผืนดินนอกเมืองกลายเป็นโคลนตมเหล่าทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่เคยเห็นทหารต้