แชร์

บทที่ 265

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
“อย่างแรก การพระราชทานการสอบในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อวันพระราชสมภพของไทเฮา ท่านเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ถือเป็นการแสดงความกตัญญู!”

“สอง หม่อมฉันได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าการสอบขุนนางต้าเซี่ยไม่ยุติธรรม มีการทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว! หากท่านเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ท่านก็จะสามารถให้ความยุติธรรมต่อบัณฑิตทั่วหล้าได้!”

“สาม ท่านเป็นผู้ออกคำถามด้วยตัวเอง จะได้เป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถในการบริหารบ้านเมือง!”

“หม่อมฉันไม่ได้มีเจตนาเห็นแก่ตัวจริงๆ หม่อมฉันคิดไตร่ตรองเพื่อฮ่องเต้เท่านั้นเพคะ...”

ยิ่งหลินกุ้ยเฟยพูดมากเท่าไหร่ น้ำตาของนางก็ยิ่งไหลลงมามากเท่านั้น เหมือนดอกสาลี่ที่เปื้อนฝน ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกสงสาร

ทันใดนั้น ฮ่องเต้หวู่ก็ใจอ่าน เอื้อมมือไปโอบเอวหลินกุ้ยเฟยเอาไว้ แล้วช่วยพยุงนางขึ้นมาพร้อมขอโทษ “สนมที่รักของข้า ข้าตำหนิเจ้าผิดแล้ว! การสอบขุนนางพระราชทานครั้งนี้ ข้าจะไม่ใช้ขุนนางเหล่านั้น ข้าจะออกหัวข้อด้วยตนเอง และเป็นผู้ตรวจการการสอบด้วยตัวเอง!”

“แต่ข้าควรจะออกหัวข้ออะไรดีล่ะ?”

หลินกุ้ยเฟยเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้ม นางเอื้อมมือปิดหูแล้วกล่าวว่า “หม่อมฉันไ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 266

    หนิงชิงโหวเดินมาพร้อมกับบัณฑิตหยิ่งยโส มาถึงกระท่อมที่ทรุดโทรมหลังหนึ่งนี่คือกระท่อมที่คับแคบและทรุดโทรมที่เขาอาศัยอยู่นับตั้งแต่หนิงชิงโหวสอบตก และถูกปลดจากเกียรติยศ ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ แทบไม่เหมือนคนตอนนี้หลายคนมารวมตัวกันอยู่ที่หน้ากระท่อมมุงจากมีชาวบ้านมาดูความความครึกครื้นนอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมพิธีการด้วยผู้นำก็คือบัณฑิตจากสำนักฮั่นหลินก็คือเฉินตันชิงอาจารย์ผู้มีพระคุณของชิงหนิงโหว!“ท่านอาจารย์...”“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”หนิงชิงโหวเอามือปิดหน้า ไม่กล้ามองไปที่เฉินตันชิงเขาคือคนที่หยิ่งผยองที่สุดหลังจากสอบตก หนิงชิงโหวก็ตัดสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นในสำนักศึกษา และยิ่งไม่ไปพบหน้าเฉินตันชิงอาจารย์ผู้มีพระคุณของตนเลยแต่ไม่คิดว่าวันนี้เฉินตันชิงจะมาที่นี่ด้วยตัวเองหนิงชิงโหวรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าแสดงความเย่อหยิ่งต่อหน้าอาจารย์ของตน“ชิงโหว...”เฉินตันชิงถอนหายใจ น้ำตาไหลพราก “เจ้าไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง อาจารย์เองที่ไม่มีหน้ามาพบเจ้า! เรื่องในปีนั้น อาจารย์ไร้ความสามารถเอง ไม่อาจปกป้องเจ้าได้...”เฉินตันชิงเป็นบัณฑิตของสำนักฮั่นหลิน เป็นผ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 267

    ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน!คราวนี้การสอบขุนนางพระราชทาน ต้องเป็นเวทีเต้นรำที่องค์ชายเก้าสร้างให้ตนโดยเฉพาะ!และเป็นเวทีเต้นรำที่ยุติธรรม!น้ำตาไหลพรากออกมาจากหางตาหนิงชิงโหว เขาคุกเข่าแล้วโขกศีรษะไปกับพื้น “ขอบพระทัยในความเมตตาขององค์ชายเก้า! ชิงโหวไม่มีอะไรจะตอบแทนในชีวิตนี้! มีเพียงขอสาบานจะติดตามไปจนวันตาย จนร่างกายจะแหลกสลาย!”เมื่อมาถึงจุดนี้ หนิงชิงโหวบัณฑิตที่หยิ่งยโสอันดับหนึ่ง รู้สึกซาบซึ้งใจต่อหลี่หลงหลินเป็นอย่างมาก!เฉินตันชิงเห็นท่าทางเช่นนี้ของหนิงชิงโหวเจ้าไม่ขอบพระทัยฮ่องเต้ แต่ไปขอบพระทัยองค์ชายเก้าทำไม?ฮ่องเต้พระราชทานการสอบขุนนาง เกี่ยวอะไรกับองค์ชายเก้า?เฉินตันชิงคิดว่าหนิงชิงโหวคงจะทนทุกข์ทรมานมากเกินไป จนเกิดปัญหากับสมองของเขา ในใจก็รู้สึกเศร้าจนพูดอะไรไม่ออก ตบไหล่เขาเบาๆ แล้วพาคนจากไปในพริบตา คนที่มามุงดูความคึกคักที่กระท่อมก็แยกย้ายกันไป เหลือเพียงหนิงชิงโหวและกลุ่มบัณฑิตผู้หยิ่งยโสเท่านั้นอย่างไรมันก็แค่การกู้เกียรติยศกลับมาเท่านั้นไม่ใช่ว่าสอบผ่านขุนนาง และยิ่งไม่ใช่สอบได้อันดับจอหงวนเดิมทีนี่ก็เป็นขั้นตอนเล็กๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไร!ในเวลา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 268

    องค์ชายเก้า!ในความเงียบสงัดภายในหอคัมภีร์เหวินยวนบรรดาขุนนางต่างตกตะลึง และมีสีหน้าประหลาดใจวันนี้องค์ชายเก้าอยู่ในห้องทรงพระอักษรแต่ขุนนางส่วนใหญ่เห็นว่าองค์ชายเก้าเป็นเหมือนอากาศ แทบไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาพอคิดอย่างรอบคอบแล้วแท้จริงแล้วเป็นองค์ชายเก้าที่คอยชี้แนะการพัฒนาของเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นบทกวีสามบท หรือหนิงชิงโหวและการสอบขุนนางพระราชทาน ล้วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์ชาย!ตั้งแต่เริ่มแรกก็มีความขัดแย้งระหว่างขุนนางกับองค์ชายเก้า!แต่หลังจากที่หรงกั๋วกงมาถึง ความขัดแย้งก็เปลี่ยนไปเป็นการต่อสู้ระหว่างสองกลุ่มหลัก ชนชั้นสูงและขุนนาง และองค์ชายเก้าถูกเพิกเฉยไป!จริงๆ แล้วองค์ชายเก้าคือผู้บงการเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่กลุ่มขุนนางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชนชั้นสูง ขันที และแม้แต่ฮ่องเต้ ล้วนกลายเป็นเบี้ยในมือของเขาและกำลังถูกบงการอยู่ในมือของเขา!ซี๊ด...เสียงสูดหายใจด้วยความตกใจก็ดังขึ้นใบหน้าของขุนนางทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยองค์ชายเก้าที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง จะฉลาดขนาดนี้ตอนนี้ปัญหามาแล้วองค์ชายเก้าต้องการทำอะไร?พวกขุนนางไม่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 269

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ขุนนางทุกคนก็ตกตะลึงหนิงชิงโหวได้เป็นจอหงวนไม่ว่าคนโง่อย่างจางอี้ก็สามารถกลายเป็นบัณฑิตชั้นสูงได้หรือ?องค์ชายเก้าดูแคลนระบบการสอบขุนนางที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปีนี้ต่ำไปหรือไม่?นอกเสียงจากว่าจะโกง!ส่วนคำถามนั้น ฮ่องเต้จะเป็นคนออกหัวข้อเอง ขัดขวางเส้นทางของการเล่นพรรคเล่นพวกและการทุจริตของขุนนางพวกขุนนางล้วนเป็นคนฉลาด แต่ก็ยังไร้มาตรการรับมือองค์ชายเก้ามีวิธีการอะไร ถึงสามารถรับประกันได้ว่าหนิงชิงโหวและจางอี้ได้?ตู้เหวินยวนส่ายหัว แล้วถอนหายใจ “นี่คือสิ่งที่ข้าคิดไม่ออก! ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตจอหงวน หรือบัณฑิตชั้นสูง ในเงื่อนไขที่ยุติธรรม นอกจากการแข่งขันเพื่อความสามารถและการเรียนรู้ที่แท้จริงแล้ว ก็ยังต้องอาศัยโชคด้วย...”“สรุปแล้ว ข้าคิดว่า ต่อให้ความคิดขององค์ชายเก้าจะพิถีพิถันแค่ไหน จะฉลาดล้ำลึกแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำได้!”ขุนนางคนหนึ่งพูดเสียงต่ำว่า “ถ้าเกิดว่า... ถ้าเกิดว่าองค์ชายเก้ามีวิธีการจริงๆ ล่ะ ให้หนิงชิงโหวและจางอี้สอบผ่าน จะทำอย่างไร?”ดวงตาของตู้เหวินยวนก็เย็นชาขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็คงต้องใช้วิธีการทุกอย่าง สู้กันให้ตายไปทั้งสองฝ่าย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 270

    โรงเรียนทหารซีซาน?สีหน้าของหนิงชิงโหวดูประหลาดใจไม่ใช่เพราะคำว่าซีซานสองคำนี้ แต่คือโรงเรียนทหาร!อย่างไรเสียในสมัยโบราณไม่มีโรงเรียนทหารหนิงชิงโหวถามด้วยความประหลาดใจ “โรงเรียนทหารหมายความว่าอย่างไร?”ลั่วอวี้จู๋จึงตอบอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน องค์ชายเก้าต้องการใช้ชื่อนี้ ข้าคิดว่ามันคงเหมือนกับสำนักศึกษาอะไรแบบนั้นกระมัง? เจ้าไปถามเจ้าตัวเองเลยเถอะ!”หนิงชิงโหวพยักหน้า พร้อมกับเดินตามลั่วอวี้จู๋ไปที่ห้องรับแขก และจิบชาอย่างช้าๆแต่ในใจเขากลับคิดถึงความหมายของโรงเรียนทหารไม่นานนักหลี่หลงหลินก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มข้างหลังเขาคือซูเฟิ่งหลิง ใบหน้าอันงดงามของนางแดงก่ำ หมัดของนางกำแน่น ราวกับอยากจะฆ่าคนไม่จำเป็นต้องพูดซูเฟิ่งหลิงไม่เพียงแต่ถูกหลอกเท่านั้น แต่ยังถูกหลี่หลงหลินเอาเปรียบ นางเสียเปรียบไปไม่น้อย!“คารวะองค์ชายเก้า!”หนิงชิงโหวเป็นผู้นำทุกคนลุกขึ้นยืนแล้วยกมือคารวะไปทางหลี่หลงหลิน“นั่งตามสบายเถอะ!”หลี่หลงหลินโบกมือ ไม่ได้วางท่าเลยสักนิด ยิ้มให้หนิงชิงโหวแล้วถามว่า “เกียรติยศของเจ้าถูกกู้กลับคืนมาแล้วใช่หรือไม่?”หนิงชิงโหวกล่าวด้วยความเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 271

    อย่าไปสนใจเหล่าบรรดาชนชั้นสูงที่จางเฉวียนหรงกั๋วกงเป็นผู้นำ วันปกติสวมชุดเครื่องแบบทหาร พกดาบยาว ดูแล้วเหมือนจะได้เรื่องได้ราว ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาสามารถบัญชาการทหารได้หรือ? สู้รบเป็นหรือ? ตอนเข้าไปในสนามรบ ไม่กลัวจนฉี่ราด ก็ถือว่าดีมากแล้ว ก็เพราะฝ่าบาทเข้าใจหลักการข้อนี้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งจางไป่เจิงให้นำทัพทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายออกไปรบ แต่เมื่อจางไป่เจิงไป เมืองหลวงก็จะว่างทันที นำไปสู่เหตุการณ์ยุ่งเหยิงที่องค์ชายหกก่อกบฏเพื่อแย่งชิงอำนาจ หรือว่าราชสำนักนี้ นอกจากจางไป่เจิงคนเดียวแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถต่อสู้ได้อีก? หรือจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หลี่หลงหลินมองไปทางหนิงชิงโหวแล้วเอ่ยว่า “เช่นนั้นไหนเจ้าลองว่ามาสิ เหตุใดถึงเกิดสถานการณ์เช่นนี้ได้? หนิงชิงโหวขมวดคิ้วเป็นปม ดำดิ่งสู่ห่วงความคิด ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับวรรณกรรมมากกว่าการทหารหรือ? ก็ไม่ใช่ ฝ่าบาทได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้บู๊ พร่องการปกครองเมืองด้วยวัฒนธรรม เชี่ยวชาญด้านการทหาร แล้วจะให้ความสำคัญกับวรรณกรรมมากกว่าการทหารได้อย่างไร? ต้าเซี่ยขาดแคลนผู้มีความสามารถหรือ? ก็ยังไม่ใช่ ต้า

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 272

    ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกว่าตนเองถูกหักหลัง จึงบ่นพึมพำ “แต่ท่านก็บอกอยู่ว่า จะต้องสร้างกองทัพตระกูลซูขึ้นมาใหม่ ทำไมถึงกลายเป็นจะก่อตั้งโรงเรียนทหารไปได้ล่ะ!” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “โรงเรียนทหารกับกองทัพใหม่ จะสร้างไปด้วยกันไม่ได้หรือ! นอกจากนี้ ข้าก็เกณฑ์ชาวบ้านอพยพมาหนึ่งพันคนแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับทหารพ่ายศึกที่มีอยู่เดิม ข้าไม่ได้ต้องการแค่สร้างกองทัพตระกูลซูขึ้นมาใหม่ แต่ยังจะสร้างกองทัพอันดับหนึ่งในใต้หล้าให้เป็นมาตรฐานด้วย” หนิงชิงโหวดวงตาเป็นประกาย “ข้าเข้าใจแล้ว! องค์ชายจะให้กองทัพตระกูลซูเป็นมาตรฐาน เพื่อที่จะประชาสัมพันธ์โรงเรียนทหารซีซาน! เมื่อถึงตอนนั้น วีรบุรุษที่มีความสามารถในใต้หล้า ก็จะหลั่งไหลกันเข้ามาราวกับน้ำหลาก...” หลี่หลงหลินลูบคางแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้องแล้ว” ในสมองของเขา นึกถึงภาพหนึ่งขึ้นมา ชายหนุ่มที่เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้นหลายพันคน รวมตัวกันอยู่ที่ลานกว้างของโรงเรียนทหารซีซาน และตะโกนเรียกเสี้ยวจ่าง! ตัวเองหัวล้าน ปัดโถ่..... ตัวเองที่ผมสวยพลิ้วสลวย แต่งกายด้วยชุดทหาร ตรวจตราทัพสามกอง มองแล้วช่างสง่าผ่าเผย! ไม่ว่ายังไงก็ตาม เมื่อเทียบกับเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 273

    องค์ชายเก้าดูจะให้ความสำคัญกับตนมากเกินไปหรือเปล่านะ? ซูเฟิ่งหลิงเองยิ่งประหลาดใจ จึงดึงหลี่หลงหลินไปด้านข้างเพื่อคุย “ท่านให้ข้าเป็นอาจารย์หรือ?” หลี่หลงหลินเผยยิ้มร่า “ใช่แล้ว การเป็นอาจารย์น่าเกรงขามมากนะ! ถ้าเจ้าไม่ชอบหน้าเขา เจ้าก็สามารถซ้อมเขาได้! เจ้าชอบซ้อมคนที่สุดไม่ใช่หรือ?” ซูเฟิ่งหลิงใบหน้าแดงก่ำ “แต่ว่า แต่ว่า ข้ารู้แค่เรื่องการต่อสู้ ความรู้ทางวิชาการข้าอาจจะเทียบกับจางอี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” จางอี้ยังไงก็เคยเรียนที่สำนักศึกษาแห่งแคว้นมาตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนจากบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่! ถึงแม้ว่าจางอี้จะมีนิสัยเกียจคร้าน ไม่ตั้งใจเรียน ทำให้เหล่าบัณฑิตโกรธจนควันออกหู แต่สุดท้ายเขาก็ยังได้เป็นกงเซิงอยู่ดี! ซูเฟิ่งหลิงเติบโตมากับปู่ในกองทัพ ไม่เคยได้เรียนหนังสือเลย อ่านออกเขียนได้ก็เพราะมีพี่ชายและพี่สะใภ้คอยสอน ตนเองเป็นแค่คนอ่านออกเขียนได้นิดหน่อย จะไปเป็นอาจารย์ของบัณฑิตได้อย่างไร นี่มันเรื่องเหลวไหลชัดๆนะ? หลี่หลงหลินพูดอย่างจริงจัง “ที่นี่คือโรงเรียนทหาร ไม่ใช่สำนักศึกษา! นอกจากวิชาการแล้ว ยังต้องสอนการวางแผนยุทธวิธี และยังต้องสอนวิทยายุทธ์ด้วย อันนี้เจ้าถนัดใช่ไห

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1288

    ความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมด้วยความพอใจอย่างยิ่ง “เจ้าเก้านี่มักจะทำให้ข้าประหลาดใจได้เสมอจริงๆ”ฮ่องเต้หวู่ทรงยกน้ำแกงปลาเบื้องหน้าขึ้น ค่อยๆ ลิ้มรสความหวานละมุน รสชาติยังคงติดตรึง ยิ่งกว่าความอร่อยที่รับรู้ทางรสสัมผัสคือความรู้สึกอิ่มเอมในพระทัยเมื่อเห็นฝ่าบาททรงพอพระทัยยิ่งนัก ฮองเฮาหลินจึงรีบทูลว่า “ฝ่าบาท หากฝ่าบาททรงโปรด หม่อมฉันสามารถทำน้ำแกงปลาถวายฝ่าบาทได้ทุกวัน เพื่อบำรุงพระวรกายของฝ่าบาทเพคะ ยิ่งไปกว่านั้น แม้พระโอรสจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ นี่ก็เป็นความกตัญญูของเขาเพคะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงดื่มน้ำแกงปลาในชามจนหมดสิ้น ก็รู้สึกสบายพระวรกาย “ข้าไม่เคยได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่สดอร่อยถึงเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าที่ตงไห่จะมีปลาพันธุ์ดีรสเลิศเช่นนี้อยู่ด้วย วันนี้ข้าถือว่าได้อิ่มหนำสำราญแล้ว!”เมื่อเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงสำราญพระทัย ก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในใจของฮองเฮาหลินก็คลายลง นางกลัวว่าฮ่องเต้หวู่จะทรงลงพระอาญาแก่หลี่หลงหลิน ในความเห็นของฮองเฮาหลินแล้ว น้ำแกงปลาชามนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับชะตากรรมของหลี่หลงหลินทีเดียวฮ่องเต้หวู่มองไปที่เว่ยซวินอย่างสนพระทัยยิ่ง ตรัสว่า “สหาย เล่าให้ข้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1287

    เรื่องในราชสำนักล้อเล่นไม่ได้เป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะต้องนำพาภัยพิบัติมาสู่บ้านเมืองและราษฎร ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้ยืนเอามือไพล่หลัง ใบหน้าเคร่งขรึม “ข้าตั้งใจจะเรียกตัวองค์รัชทายาทเข้าเมืองหลวงมาพบข้าทันที ข้าจะถามเขาต่อหน้า ว่าไอ้ ‘เหตุใดไม่กินโจ๊กเนื้อเล่า’ นี่มันหมายความว่ากระไรกันแน่!”ทันใดนั้น ฮองเฮาหลินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทูลว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่พระโอรสพูด ดูเหมือนว่า...ก็ไม่ผิดนะเพคะ”“อะไรนะ?”ในแววตาของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความเย็นชา “มิน่าเล่าหลี่หลงหลินถึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าแม้แต่เจ้ายังเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา! เหลือเชื่อจริงๆ! มีแม่เช่นไรย่อมมีลูกเช่นนั้น!”เพียงชั่วพริบตา ความประทับใจดีๆ ที่ฮ่องเต้ทรงมีต่อฮองเฮาหลินมาตลอดหลายปีก็มลายหายไปสิ้นฮองเฮาหลินทูลเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะทรงเข้าพระทัยความหมายของหม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”กล่าวจบ ฮองเฮาหลินก็ทรงหยิบสาส์นฉบับนั้นออกมา ถวายให้ฮ่องเต้ “ฝ่าบาท นี่คือลายมือขององค์รัชทายาทเพคะ ขอฝ่าบาททอดแววตาด้วยเพคะ”ฮ่องเต้ทรงเหลือบมอง ในแววตาเต็มไปด้วยโทสะ “ข้าไม่ดู! ต่อให้เป็นล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1286

    ฮองเฮาหลินทรงประหลาดพระทัยยิ่งนัก บนใบหน้าอันงดงามสมเป็นมารดาแห่งแผ่นดินปรากฏแววตกตะลึง “ฝ่าบาท เหตุใดฝ่าบาทจึงตรัสถึงพระโอรสเช่นนั้นเพคะ?”ฮองเฮาหลินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ทอดพระเนตรเห็นว่าฮ่องเต้หวู่ผู้ซึ่งปกติทรงโปรดปรานหลี่หลงหลินยิ่งนัก ยามนี้กลับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทรงแสดงท่าทีรังเกียจหลี่หลงหลินกระทั่งเมื่อทรงทราบว่าปลานี้หลี่หลงหลินส่งมาจากตงไห่ด้วยม้าเร็วแปดร้อยลี้ ก็ไม่ยอมเสวยน้ำแกงปลาต่อฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พอนึกถึงหลี่หลงหลินขึ้นมา ก็รู้สึกเดือดดาลในท้อง ยิ่งไม่มีกะจิตกะใจจะเสวยน้ำแกงปลาใดๆ ทั้งสิ้น“ทำไม? ข้าต่างหากที่อยากจะถามเจ้าว่าเหตุใด! เหตุใดองค์รัชทายาทที่ปกติก็ดูดีๆ อยู่ พอไปถึงตงไห่จึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!”ฮ่องเต้หวู่กริ้วจนพระพักตร์แดงก่ำ แววตาลุกวาบด้วยโทสะขอบตาของฮองเฮาหลินแดงก่ำขึ้นทันที นางไม่เคยเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วถึงเพียงนี้มาก่อน ร่ำไห้สะอื้นไม่หยุด “ฝ่าบาท พระโอรสของหม่อมฉันเพียงแค่อยากจะบำรุงพระวรกายให้ฝ่าบาท เหตุใดจึงต้องทรงจ้องจับผิดเรื่องความเหลวไหลของเขาอยู่เรื่อย การส่งปลาด้วยม้าเร็วแปดร้อยลี้มันเหลวไหลมา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1285

    ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรไปรอบๆ พระตำหนัก แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของฮองเฮาหลิน ก็ยิ่งทำให้โทสะพุ่งขึ้น “ฮองเฮาหลินอยู่ไหน! ข้าต้องการพบนางเดี๋ยวนี้!”ขันทีน้อยประจำตำหนักฉางเล่อรีบหมอบราบกับพื้น “ทูลฝ่าบาท วันนี้ฮองเฮาเสด็จออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ออกไป? ไปไหน?”คิ้วของฮ่องเต้หวู่ขมวดแน่น โทสะยิ่งพลุ่งพล่าน เดิมทีก็ทรงกริ้วเรื่องของหลี่หลงหลินอยู่แล้ว พอมาถึงช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ กลับหาตัวฮองเฮาหลินไม่พบอีกขันทีน้อยกล่าวเสียงสั่น “กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นเพียงผู้รับใช้ดูแลกิจวัตรประจำวันของฮองเฮา มิกล้าสอดรู้เรื่องที่เสด็จไปพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง ตรัสว่า “เว่ยซวิน ส่งคนไปตามหาฮองเฮาหลินกลับมาให้ข้าเดี๋ยวนี้! วันนี้ข้าจะต้องถามนางให้รู้เรื่องว่าอบรมสั่งสอนองค์รัชทายาทอย่างไร!”เว่ยซวินคิดในใจดูท่าครั้งนี้ฝ่าบาทจะทรงกริ้วจริงจัง แม้แต่ฮองเฮาก็คงยากจะรอดพ้นความผิดไปได้เว่ยซวินกล่าวเสียงหนัก “ฝ่าบาท กระหม่อมจะส่งคนไปตามหาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”ทันใดนั้น กลิ่นหอมระลอกแล้วระลอกเล่าโชยมาปะทะจมูก ตามมาด้วยเสียงใสกังวานราวระฆังเงินเป็นระลอกเว่ยซวินก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1284

    เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างส่งเสียงฮือฮาผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนหาใช่จำนวนน้อยๆ ไม่!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมเห็น ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนนี้คือภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากจัดการไม่เหมาะสม ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนก่อการจลาจลขึ้น เกรงว่า...”เจ้ากรมกลาโหมไม่กล้ากล่าวอะไรต่อหากเขากล่าวอะไรต่อไปอีก จะต้องทรงพระพิโรธเป็นแน่ แต่ก็จำเป็นต้องทูลเตือนฝ่าบาท ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินจะเคยทูลรับรองสิ่งใดต่อหน้าฝ่าบาทก็ตาม ก็จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนส่วนใหญ่เป็นพวกที่ควบคุมได้ยาก คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่นอกเมืองหลวงได้สร้างผลกระทบเลวร้ายไม่น้อยแล้ว หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีปลุกปั่น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เป็นแน่!แม้ว่าตอนนี้จางไป่เจิงจะนำทัพกลับราชสำนักแล้ว กำลังทหารในเมืองหลวงจะเข้มแข็ง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากอยู่ดีเหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตาของแคว้นต้าเซี่ย โปรดอย่าได้ทรงประมาทเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ขณะนี้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1283

    “อะไรนะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง!เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ นี่มันยิ่งกว่าการเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเสียอีก! ยามนี้ราษฎรยากจนถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อหาธัญญาหาร แล้วจะมีเนื้อที่ไหนให้กินกัน?เจ้ากรมคลังลดเสียงลง กล่าวว่า “ฝ่าบาท วาจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมาจากโอษฐ์ขององค์รัชทายาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทีแรกกระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะตนเองตาฝ้าฟางไป แต่ฎีกาหลายฉบับล้วนรายงานตรงกัน เกรงว่าวาจานี้คงเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสจริงๆ...”เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮาคาดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!ไม่เพียงแต่สร้างความเยือกเย็นในใจของราษฎร ยังสร้างความเยือกเย็นในใจของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย นี่คือการกระทำชั่วร้ายที่ยากจะสาธยายให้หมดสิ้น อาลักษณ์จะต้องบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดารเป็นแน่ ทำให้ชื่อเสียงของหลี่หลงหลินฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้หวู่ส่ายพระพักตร์ ทรงครุ่นคิดในพระทัยไม่ใช่ เจ้าเก้าไม่น่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้ อย่างน้อยในเมืองหลวง ราษฎรส่วนใหญ่ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา หรือว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง?ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงเย็น “

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1282

    ณ ท้องพระโรงบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างสงบเสงี่ยม ก้มหน้าคารวะถวายบังคมฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรกวาดสายตาไปยังหมู่ขุนนาง พลางตรัสเรียบเรื่อย “เหล่าขุนนางทุกท่าน หากมีเรื่องก็กราบทูล หากไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมเถิด”นับตั้งแต่หลี่หลงหลินเดินทางไปยังตงไห่ ราชสำนักก็ดูสงบขึ้นไม่น้อย ฮ่องเต้หวู่ซึ่งแต่เดิมก็เอนเอียงไปทางเก็บตัวเงียบๆ ก็เริ่มชินกับจังหวะสงัดเช่นนี้ ยิ่งตอนนี้จางไป่เจิงนำทัพกลับสู่เมืองหลวง ปัญหากำลังพลไม่พอในเมืองหลวงก็คลี่คลายลง บรรดาขุนนางที่เคยซ่องสุมคิดร้ายในเงามืด ก็พากันลดราวาศอกแต่แล้ว เจ้ากรมคลังก็ก้าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่เห็นเป็นกรมคลัง จึงขมวดคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “ว่ามา”แม้ปัญหาเรื่องทหารจะคลี่คลาย แต่เงินในท้องพระคลังก็ยังร่อยหรอ หากกรมคลังเสนอฎีกาเมื่อใด มักไม่พ้นเรื่องเงินไม่พอใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากลัดกลุ้มมาเนิ่นนาน เจ้ากรมคลังกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท ขณะนี้เขตตงไห่ประสบภาวะขาดแคลนเสบียงจนเกิดทุพภิกขภัย ราษฎรอดอยากปากแห้ง ร้องทุกข์ระงม แต่ละเขตในตงไห่ต่างก็ส่งฎีกาขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก...”ฮ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1281

    กงซูหว่านมองดูแบบร่าง โครงสร้างเรียบง่ายมาก แต่นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าอะไรหลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือกระป๋อง”“กระป๋อง? มันสามารถถนอมอาหารได้หรือเพคะ?”หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม แม้เวลาจะล่วงเลยไปแปดปี สิบปีก็ยังไม่เสีย”“นานขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?”กงซูหว่านเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินในความเข้าใจของกงซูหว่าน การเก็บรักษาอาหารได้นานสักไม่กี่เดือนก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วหลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของกระป๋องยังเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาในยามออกศึกยิ่งนัก”“หากพี่สะใภ้รองสามารถทำมันขึ้นมาได้ ข้าก็ตั้งใจจะเปิดโรงงานกระป๋องที่ตงไห่ แปรรูปปลาหวงฮื้อใหญ่จำนวนมหาศาลที่จับขึ้นมาโดยเฉพาะ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง หากผลิตกระป๋องได้สำเร็จ ก็ไม่ต้องหวั่นไหวต่อภัยแล้งและความอดอยากอีกต่อไปกงซูหว่านยังคงตกตะลึง “โรงงานกระป๋องหรือเพคะ? ถึงข้าจะทำตามแบบได้เป๊ะๆ แล้วจะไปหาคนงานจากที่ใด?”ยามนี้ชาวเมืองตงไห่ต่างก็แย่งกันออกทะเลหาปลา กำลังคนขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งหลี่หลงหลินตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ให้ชาวตงไห่เขาหาปลากันต่อไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1280

    วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status