Share

บทที่ 349

Aвтор: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ภายในห้องทรงพระอักษร

ฉินอู๋ต้าวพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “พวกเจ้าสองคนคิดอย่างไรกับผลงานขององค์รัชทายาทวันนี้?”

เว่ยเจิงประสานมือคารวะ “ฝ่าบาท วันนี้องค์รัชทายาทสามารถเหยียบวงการวรรณกรรมของแคว้นเป่ยเยี่ยนไว้ใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์แล้ว ผลงานเช่นนี้สมควรได้รับการยกย่องว่าสะเทือนเลื่อนลั่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน น่าทึ่งดุจเทพเซียนจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าค่อนข้างจะยกย่องรัชทายาททีเดียว แล้วเจ้าเล่า ขุนนางเหลย?” ฉินอู๋ต้าวมองไปทางเหลยเจิ้น

เหลยเจิ้นยิ้มแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท วันนี้องค์รัชทายาททรงทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง ทันทีที่เรื่องวันนี้แพร่ออกไป องค์รัชทายาทจะทรงมีชื่อเสียงเกรียงไกรอย่างแน่นอน อีกทั้งยังทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์ต้าเหยียนดังกึกก้อง อย่างน้อยก็ทำให้แคว้นโดยรอบมิกล้าดูแคลนพวกเราเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”

“หึ องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดมิเพียงแค่ทำให้เป่ยเยี่ยนต้องกลับไปอย่างปราชัยเท่านั้น ซ้ำยังยั่วยุให้ไทฮองไทเฮาทรงเสียอารมณ์ พร้อมกันนั้นยังทำให้ตัวข้าต้องลดตำแหน่งอ๋องหนิงเหลือเพียงฝู่กั๋วกงอีกด้วย

วิธีการที่เด็ดขาดเช่นนี้ แม้แต่ตัวข้าเองยังต้องชื่นชม พวกเจ้าคิดว่า สิ่งที่องค์รัชทายา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 350

    ภายในจวนฝู่กั๋วกง ทันทีที่ฉินเซียวเข้าประตูมา เขาก็คว่ำโต๊ะในห้องโถงอย่างโกรธจัด ชุดน้ำชาบนโต๊ะร่วงหล่นลงพื้นแตกเป็นชิ้น ๆ ในชั่วพริบตา เมื่อคนรับใช้ในจวนเห็นท่าทางเช่นนี้ ทุกคนต่างตกใจกลัวจนหน้าซีดมิกล้าแม้แต่หายใจ ตอนนี้เองชายชราวัยห้าสิบหรือหกสิบปีเดินเข้ามา เขาเหลือบมองห้องโถงที่เละเทะด้วยเอ่ยด้วยความเคารพ “ท่านอ๋อง ท่านมิได้เข้าวังไปฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทฮองไทเฮาหรือพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดจึงกลับเร็วเช่นนี้ อีกทั้งยังดูโมโหมากด้วย?” ฉินเซียวหันกลับไปและถามด้วยความประหลาดใจ “ที่ปรึกษาจี้ ไฉนท่านจึงอยู่ที่นี่?” ที่ปรึกษาจี้ผู้นี้มีนามว่าจี้เหลียน เขาเป็นอดีตพ่อบ้านของจวนอ๋องหนิง หลังจากที่ฉินเซียวถูกลดตำแหน่งเป็นฝู่กั๋วกง ที่ปรึกษาจี้ถูกสำนักขุนนางใหญ่จัดให้ไปทำงานที่อื่น เมื่อเห็นว่าเขาปรากฏตัวในจวนฝู่กั๋วกง ฉินเซียวจึงรู้สึกสับสนเล็กน้อย จี้เหลียนอธิบายว่า “นับตั้งแต่ท่านอ๋องย้ายมายังจวนฝู่กั๋วกง ข้าน้อยก็รีบเขียนหนังสือส่งให้สำนักขุนนางใหญ่เพื่อขอติดตามท่านอ๋องมาที่นี่ทันที จนกระทั่งเช้านี้ คำสั่งของสำนักขุนนางใหญ่เพิ่งออกมาพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อฉินเซียวได้ยินสิ่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 351

    “ที่ผ่านมาองค์รัชทายาทมิเคยทำตัวให้เป็นที่สะดุดตา วันนี้กลับโดดเด่นในศึกประลองวรรณกรรมระหว่างสองแคว้น เขามากเล่ห์ซ่อนกลไว้อย่างลึกซึ้งเช่นนี้ ข้าน้อยคิดว่าองค์จักรพรรดิจะต้องทรงเฝ้าระวังเขาในภายภาคหน้า นี่มิใช่เรื่องดีพ่ะย่ะค่ะ” ฉินเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าช้า ๆ “ที่ท่านพูดเช่นนี้ก็ถูก เสด็จพ่อทรงเป็นคนขี้ระแวง เมื่อฉินซูแสดงความสามารถโดดเด่นเช่นนี้ ย่อมทำให้พระองค์เกิดความสงสัยอย่างมากแน่นอน” “เช่นนั้น แล้วท่านอ๋อง ต่อไปเราควรเร่งหาทางให้องค์จักรพรรดิทรงฟื้นฐานะจวิ้นอ๋องของท่านกลับมา ส่วนการแก้แค้นองค์รัชทายาทพวกเรายังมีโอกาสในภายภาคหน้าพ่ะย่ะค่ะ” “ลูกผู้ชายล้างแค้นสิบปีก็มิสาย ได้ ข้าจะทำตามคำแนะนำของท่าน! เพียงแต่… จะมีวิธีใดที่ทำให้เสด็จพ่อฟื้นคืนตำแหน่งจวิ้นอ๋องให้ข้าได้หรือ?” จี้เหลียนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ในแคว้นต้าเหยียนของเรามีภัยน้ำท่วมทางใต้และภัยแล้งทางเหนือ ถึงแม้ราชสำนักเริ่มทำการบรรเทาภัยพิบัติแล้ว ทว่าผู้คนจำนวนมากในเขตเมืองและมณฑลที่ได้รับผลกระทบรุนแรงนั้นยังไม่มีอาหารกินว่ากันว่าผู้คนในเขตเมืองและมณฑลเหล่านั้นเต็มไปด้วยความมิพอใจและเสียศรัทธาต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 352

    ฉินเหยี่ยนพูดอย่างจริงจัง “ว่ากันว่า เสด็จพ่อทรงวางแผนจะส่งองค์ชายไปตรวจสอบตามเขตเมืองและมณฑลที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากภัยพิบัติ นี่เป็นภารกิจที่สามารถสั่งสมบารมีได้ ไว้ตอนราชสำนักช่วงเช้า เสด็จพี่รัชทายาทลองหาโอกาสดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูยักไหล่เล็กน้อยและกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าข้าเอ่ยปากทูลขอจริง เจ้าคิดว่าเสด็จพ่อจะส่งข้าไปจริงหรือ?” “เสด็จพี่รัชทายาท ในพระทัยของเสด็จพ่ออาจมิเต็มพระทัยทำเช่นนั้น แต่บัดนี้ท่านมิได้ต่อสู้ในราชสำนักเพียงลำพังแล้ว ตัวอย่างเช่น ตุลาการศาลต้าหลี่ ผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายและคนอื่น ๆ จะต้องออกมาสนับสนุนท่านแน่นอน” พูดถึงสิ่งนี้แล้ว ฉินเหยี่ยนยังให้คำมั่นอีกว่า “และขอเพียงเสด็จพี่รัชทายาททูลขอ น้องผู้นี้ก็จะสนับสนุนท่านอย่างสุดใจโดยมิลังเลเลยพ่ะย่ะค่ะ” ฉงชูโม่ที่อยู่ด้านข้างแสดงสีหน้าสงสัยและถามว่า “ท่านอ๋องจิ้น เหตุใดท่านมิลองทูลขอภารกิจที่ดีเช่นนี้ให้ตัวท่านเอง ทว่ากลับสนับสนุนองค์รัชทายาทแทน ท่านหวังผลอะไร?” ฉินเหยี่ยนถอนหายใจอย่างจนใจ “มิว่าอย่างไรเสด็จพ่อก็มิส่งข้าไปแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น จะไม่มีขุนนางคนใดออกมาสนับสนุนข้า ในสถานการณ์ยามนี้ คนที่สามารถแย่งต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 353

    หลังจากฉินเหยี่ยนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่รัชทายาท กระหม่อมเองจะมิปิดบังท่าน หากเสด็จพ่อทรงส่งฉินเซียวไปตรวจสอบเขตภัยพิบัติจริง เช่นนั้นระหว่างทางกระหม่อมจะส่งคนไปลอบสังหารเขา หนหนึ่งมิสำเร็จก็จะมีหนที่สอง หนที่สองมิสำเร็จก็หนที่สาม มิว่าอย่างไร กระหม่อมจะมิยอมให้เขามีชีวิตกลับมาที่หลงเฉิง!” “ท่านอ๋องจิ้น หากท่านส่งคนไปลอบสังหารฉินเซียวจริง ๆ และหากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่อง สถานการณ์ของท่านอาจจะ…” ฉงชูโม่พูดมิทันจบ ฉินเหยี่ยนก็พูดแทรกว่า “ขอเพียงแก้แค้นให้หลิงเอ๋อร์ได้ เรื่องอื่นล้วนมิสำคัญ” ได้ยินเช่นนี้ ฉงชูโม่จึงมิพูดอะไรอีกและมองไปที่ฉินซู ฉินซูยิ้มบาง ๆ “น้องหกอย่าได้ร้อนใจ รอดูราชสำนักช่วงเช้าวันพรุ่งก่อนเถิดว่า เสด็จพ่อจะทรงตัดสินพระทัยเช่นไร ข้าจะต่อสู้ในสิ่งที่สมควรเอง” “เช่นนี้ ทุกอย่างต้องขอพึ่งเสด็จพี่รัชทายาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ น้องจะมิรบกวนท่านมากไปกว่านี้ ขอทูลลา!” ฉินเหยี่ยนโค้งคำนับแล้วหันหลังจากไป เซี่ยหลานขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามว่า “อ๋องจิ้นมิลังเลที่จะส่งคนไปลอบสังหารฝู่กั๋วกง เขาเพียงแค่พยายามล้างแค้นให้ชายารองของเขาเท่านั้นจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 354

    ฉงชูโม่พยักหน้าช้า ๆ และกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “อืม พวกเราสาบานได้ว่าจะมิพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังแม้แต่คำเดียวรวมถึงองค์จักรพรรดิด้วย” ฉินซูกล่าวอย่างมิใจว่า “มิว่าพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ลับหลังข้าไม่มีผู้ยิ่งใหญ่คนใดเลยจริง ๆ หากจะยืนกรานว่ามี เช่นนั้นควรมีสามคน” “สามคนนั้นคือใคร?” เซี่ยหลานและฉงชูโม่ถามออกมาพร้อมกัน ฉินซูเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ชิงเหยาแล้วก็พวกเจ้าสองคน!” เซี่ยหลานขมวดคิ้วแล้วบ่นว่า “องค์รัชทายาท พวกเราจริงจังเพคะ ท่านยังมาล้อเล่นกับพวกเราอีก” ฉงชูโม่เองก็ม้วนแขนเสื้อขึ้น “ถูกต้อง พวกเราจะเป็นผู้ทรงภูมิอยู่เบื้องหลังท่านได้อย่างไร?” “กล่าวกันว่าบุรุษประสบความสำเร็จได้ ต้องมีสตรีคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และพวกเจ้ามิใช่สตรีที่อยู่เบื้องหลังข้าหรอกหรือ!” “ถุย! สตรีที่อยู่เบื้องหลังท่านอะไรกัน พูดจาเหลวไหลทั้งเพ!” ใบหน้าสวยของเซี่ยหลานแดงขึ้นมาเล็กน้อย “ใช่แล้ว คำพูดเช่นนี้ท่านอย่าได้พูดให้ชิงเหยาฟังเชียว มิเช่นนั้นนางต้องเข้าใจผิดแน่” เมื่อเห็นท่าทีของนางเช่นนี้แล้ว ฉินซูรู้สึกว้าวุ่นในใจ ครั้นแล้วเขาก็มองไปรอบ ๆ แล้วเอ่ยกับฉงชูโม่ว่า “ชูโม่ วันนี้เป่ยเย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 355

    ฉินหงทุบโต๊ะพร้อมกับพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “เพราะเช่นนั้นข้าถึงได้ขอให้พวกเจ้าคิดมาตรการรับมืออย่างไรเล่า หากปล่อยให้เจ้ารัชทายาทไร้ค่าคนนั้นยืนหยัดในราชสำนักได้อย่างมั่นคงแล้วละก็ มิใช่เพียงแค่กับข้า แม้แต่พวกเจ้าก็จะไม่มีที่ยืนอยู่ในราชสำนักเช่นกัน!”ใบหน้าเซี่ยเหอเกิดความรู้สึกมิแน่นอนขึ้นมาทันที จากนั้นครู่หนึ่งแววตาของเขาก็ฉายประกายบางอย่างและกล่าวอย่างจริงจังว่า “ท่านอ๋อง สำหรับแผนการนี้ พวกเรามิควรสู้กับองค์รัชทายาทเพียงลำพัง สมควรหาพวกเพิ่มพ่ะย่ะค่ะ!” “เจ้าพูดน่ะง่าย แล้วเราจะไปหาพวกจากที่ไหนเล่า?” “อ๋องซิ่นพ่ะย่ะค่ะ เขาเองก็เกลียดองค์รัชทายาทจะตายอยู่แล้ว หากท่านอ๋องจับมือกับเขา ก็จะจัดการองค์รัชทายาทได้ง่ายขึ้นมากพ่ะย่ะค่ะ” ฉินหงลูบคางและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ร่วมมือกับองค์ชายสามเป็นความคิดมิเลวจริง ๆ ทว่ายามนี้ฉินซูรุ่งโรจน์ขีดสุด กลัวว่าถึงแม้จะร่วมมือกับองค์ชายสามก็คงยากที่จะเอาชนะเขาได้อยู่ดี” หลินซีพยักหน้าช้า ๆ และกล่าวเห็นด้วย “ท่านอ๋องพูดถูก วันนี้องค์รัชทายาทพลิกวิกฤตทำให้คณะทูตเป่ยเยี่ยนปราชัยกลับไป ยิ่งกว่านั้นยังทำให้ไทฮองไทเฮากริ้วอีกด้วยแม้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 356

    ฉินหยางพยักหน้า “ถูกต้อง ตอนนี้ความมิพอใจของราษฎรในพื้นที่ภัยพิบัติได้ขยายเป็นวงกว้าง และการเดินทางในครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอันตราย จึงมิใช่เรื่องง่ายที่องค์รัชทายาทจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทางของฉินหงและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไป!“เสด็จพี่สามต้องการยืมมือราษฎรที่ประสบภัยเพื่อทำให้องค์รัชทายาท…”ฉินหงพูดพร้อมกับทำท่าทางเชือดคอตัวเองฉินหยางเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและพยักหน้าช้า ๆหลินซีขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ท่านอ๋องซิ่น ความคิดนี้ช่างดีเสียจริง เพียงแต่ก่อนหน้านี้อ๋องจิ้นได้ส่งยอดฝีมือจากยุทธภพไปลอบสังหารองค์รัชทายาท ทว่าก็คว้าน้ำเหลวกลับมา ยามนี้อาศัยเพียงราษฎรที่ประสบภัยเหล่านั้น แล้วจะทำสำเร็จได้อย่างไรกัน?”“คำพูดของใต้เท้าหลินมีเหตุผล เกรงว่าการลอบสังหารอาจมิสำเร็จ อีกทั้งอาจทำให้องค์รัชทายาทได้หน้าไปมิน้อย หากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็จะสูญเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง”ฉินหยางพูดอย่างมั่นใจ “ที่ฉินเหยี่ยนพลาดครั้งที่แล้วเป็นเพราะชูโม่อยู่ข้างกายองค์รัชทายาท แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากครั้งนี้นางมิสามารถติดตามเขาไปได้?”“หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าน้อยก็คิดว่ามันเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซี่ยเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 357

    “ในเมืองหลงเฉิงแห่งนี้พวกเขาคงมิกล้า ทว่าหากองค์จักรพรรดิทรงส่งท่านไปตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติเล่าเพคะ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็รู้สึกกังวล “องค์รัชทายาท หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ท่านก็จะตกอยู่ในอันตรายนะเพคะ มิเช่นนั้น วันพรุ่งหากองค์จักรพรรดิทรงส่งท่านไป ก็ทรงหาข้ออ้างหลบเลี่ยงเถิดเพคะ”ฉินซูพูดด้วยความโกรธ “หากเสด็จพ่อประสงค์ให้ข้าไปจริง ๆ ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร นอกจากนี้ หากข้ามิไป นั่นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ฉินเซียวได้กลับมาผงาดน่ะสิ!”เซี่ยหลานพูดอย่างกังวล “แต่หากทางหอดารารักษ์ส่งยอดฝีมือไปสกัดกั้นและสังหารท่านระหว่างทาง ท่านจะมิตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายหรอกหรือเพคะ?”“มิเป็นไร ข้าโชคดีมาโดยตลอด และข้าก็มีชูโม่คอยปกป้อง ไม่มีปัญหาใหญ่อะไรเกิดขึ้นกับข้าหรอก”ฉงชูโม่ถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า “ช่างเถิดเพคะ ถึงตอนนั้นพวกเราแค่ระมัดระวังกันให้มากขึ้นก็พอ”“เอาเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว พวกเจ้ารีบไปพักผ่อนได้แล้ว”“เพคะ เช่นนั้นท่านก็ทรงพักผ่อนเถิดเพคะ”หลังจากที่ฉงชูโม่พูดจบ นางก็ดึงเซี่ยหลานเดินจากไปฉินซูส่งสายตาให้เซี่ยหลานอย่างมิแสดงอารมณ์ใดเซี่ยหลานลังเล แต่สุดท้ายก็แอบพยักหน้า

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 718

    ฉินซูเปิดกล่องไม้ในมือแล้วมองเข้าไปข้างใน เห็นเพียงขวดกระเบื้องขนาดเล็กที่ภายในบรรจุโอสถลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดถั่วนอกจากนั้น ยังมียันต์กระดาษสีเหลืองวางอยู่อีกสองสามแผ่นเมื่อเห็นดังนั้น เขาก็อดมิได้ที่จะพึมพำ “ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นี่ มิบอกข้าสักคำว่ายันต์พวกนี้มีประโยชน์กระไรกันบ้าง มันน่านัก”เขายกยันต์ขึ้นมาแล้วเก็บไว้ในอกเสื้อจากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไปยังเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่มิไกลหลังจากซื้อม้าชั้นดีตัวหนึ่งในเมืองแล้วก็ควบม้าห้อตะบึงตรงไปยังทิศทางของเป่ยเยี่ยนมิหยุดหย่อน......วันรุ่งขึ้นภายในเมืองหลวงจินหลิงแห่งเป่ยเยี่ยนหยวนหัวกำลังก้าวเดินด้วยมือไพล่หลังอย่างหยิ่งยโสไปตามถนนสายหลักของเมืองเมื่อเดินผ่านแผงลอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งก็เห็นเครื่องหยกบนแผงนั้นงดงามเป็นพิเศษ จึงหยิบขึ้นมาพินิจดูพ่อค้าเห็นว่าอาภรณ์ของเขามิธรรมดา จึงรีบกล่าวแนะนำว่า “คุณชายตาถึงมากขอรับ นี่คือเครื่องประดับที่แกะสลักจากหยกขาวมันแพะ ขายเพียงหนึ่งถึงสองตำลึงเงินเท่านั้นขอรับ”หยวนหัวมองเครื่องประดับในมือสองสามครั้ง แล้วกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ของมิเลว ข้าจะเอา”พูดจบ เขาก็ถือเครื่องหยกหันหลังเดินออกไปเมื่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 717

    “ดินแดนเป่ยเยี่ยนมีแต่อันตรายรอบด้าน พาเจ้าไปด้วยมีแต่จะทำข้าพะวง”“แต่คนมันอดคิดถึงพระองค์มิได้นี่เพคะ”เซี่ยหลานกอดฉินซูจากด้านหลังพลางซบใบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างหนาของเขาและสะอื้นไห้เบา ๆฉินซูอดใจอ่อนมิได้ จึงหันกลับไปโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน เขาเชยคางเรียวเล็กของนางขึ้นพร้อมจุมพิตลึกซึ้งจากนั้นฉินซูก็คิดจะหันหลังเดินออกไป แต่ก็กลับถูกเซี่ยหลานรั้งแขนไว้แน่นเห็นเซี่ยหลานแสดงสีหน้าอาลัยอาวรณ์ ดวงตาคู่งามที่มีน้ำตาคลอหน่วยมองเขาอย่างตัดพ้อ“ก็ได้ ช้านิดช้าหน่อยคงมิเป็นกระไรหรอก”ฉินซูตัดสินใจเด็ดขาด อุ้มเซี่ยหลานแล้วกระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วเซี่ยหลานทั้งตกใจและดีใจ จากนั้นก็ให้ความร่วมมืออย่างชำนิชำนาญในห้องรับรองตำหนักบูรพา เหลยเจิ้นที่กำลังนั่งจิบชาคอยอยู่ ในขณะนั้นเองหูของเขาก็กระดิกเล็กน้อยแล้วตั้งตรงขึ้นวินาทีต่อมา เขาก็บ่นพึมพำออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ “คนหนุ่มสาวสมัยนี้ มิรู้จักแยกแยะเรื่องสำคัญเร่งด่วนกระไรกันเลย นี่มันเวลาไหนแล้วยังคิดถึงเรื่องนั้นอีก เฮ้อ”สองเค่อต่อมาฉินซูก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา “หัวหน้าโหรหลวง ออกเดินทางได้แล้ว”“องค์รัชทายาททรงมีกำลังวังช

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status