Share

บทที่ 590

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
หลายวันต่อมา

ทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงสงบสุข ไม่มีคดีเด็กสาวหายตัวไปอีก

ทำให้พวกหวังฉือต่างโล่งใจ

ฉินซูเองก็เดินทางไปยังสำนักหอดูดาวหลวง เพื่อถามไถ่เกี่ยวกับร่างหยินสุดขั้วกับหัวหน้าโหรหลวง จึงได้ทราบว่าเหลยเจิ้นรู้เรื่องนี้น้อยมากเช่นกัน

ด้วยความมืดแปดด้าน ฉินซูจึงกลับไปยังตำหนักบูรพา

ฝั่งกรมโยธาธิการเองก็เร่งผลิตธนูทดกำลังอย่างขันแข็งจนแทบไม่มีเวลาพัก

วันหนึ่ง หิมะโปรยปรายลงมาทั่วเมืองหลงเฉิง

มินาน พื้นดินก็ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้ทั้งเมืองดูงดงามราวกับภาพวาด

ฉินซูกำลังชื่นชมทิวทัศน์อยู่ที่ลานหลังตำหนักบูรพา

เขาหันไปทางขอบฟ้าทิศใต้ แล้วเอ่ยพึมพำกับตนเอง

"หิมะตกแล้ว มิรู้ว่าสถานการณ์รบที่เมืองเจียวโจวเป็นอย่างไรบ้าง ชูโม่คงมิเป็นกระไรกระมัง"

ตงฟางไป๋สาวเท้าก้าวเข้ามา "องค์รัชทายาท ใต้เท้าเหวิน เสนาบดีกรมกลาโหมขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"

ฉินซูหน้าเปลี่ยนสีไปทันที "เชิญเขาไปที่ห้องรับรอง ตัวข้าจะไปเดี๋ยวนี้"

"พ่ะย่ะค่ะ!"

สักครู่ต่อมา ในห้องรับรองของตำหนักบูรพา

เหวินเยวี่ยนซานเดินเข้ามาพร้อมกับอากาศเย็นเยียบ

เขาคารวะฉินซู ก่อนจะกล่าวด้วยความนอบน้อม "คารวะองค์รัชทายาท"

"ใต้เ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 591

    “นี่คือระเบิดสายฟ้า ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการของท่านทำเจ้าสิ่งนี้ได้เร็วใช่หรือไม่?“ทูลองค์รัชทายาท ขอบังอาจถามว่า ส่วนประกอบของระเบิดสายฟ้าคือ...”“ดินปืนและลูกเหล็กขนาดเล็ก หรือจะใช้เศษเหล็กก็ได้”ฉินชูพูดจบก็ดึงเชือกจุดชนวนออก แล้วเทดินปืนภายในลูกกลมออกมาภายในนั้นมีลูกเหล็กขนาดเล็กจำนวนมากปะปนกับเม็ดผลึกสีขาวเล็กน้อยสวี่จิ้นเอามือสัมผัสแล้วดมดู “องค์รัชทายาท เม็ดสีขาวนี้คือสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ??”ฉินซูตอบสั้น ๆ ว่า “น้ำตาลทรายขาว!”"น้ำตาลทรายขาว?"ใต้เท้าสวี่รู้สึกประหลาดใจ เขาเพิ่งจะเคยเห็นน้ำตาลผสมอยู่ในดินปืนเป็นครั้งแรกเหวินเยวี่ยนซานถามต่อว่า “ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการคงมีดินปืนเหลือเฟือใช่หรือไม่?”“จะบอกว่าเหลือเฟือคงมิได้ เพราะดินปืนผสมยากเป็นทุนเดิม โรงดอกไม้ไฟยังเหลือดินปืนสำหรับทำดอกไม้ไฟอยู่บ้าง แต่ข้าน้อยมิเข้าใจว่าเหตุใดพระองค์จึงใส่น้ำตาลทรายขาวลงในดินปืนด้วย?”“น้ำตาลจะทำปฏิกิริยากับดินปืน ทำให้แรงระเบิดเพิ่มขึ้น!”เหวินเยวี่ยนซานและสวี่จิ้นมิเข้าใจเรื่องปฏิกิริยา แต่พวกเขาเข้าใจในสิ่งที่ฉินซูพูดการใส่น้ำตาลทรายขาวลงในดินปืนทำให้ระเบิดรุนแรงขึ้น!เ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 592

    ฉินซูพยักหน้า "แม้ว่าอานุภาพจะลดลงไปบ้าง แต่ก็เพียงพอให้นำไปใช้สังหารศัตรูได้"สวี่จิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น "เศษเหล็กอะไรพวกนี้มีอยู่มากพอสมควร หากมิพอพวกข้าน้อยสามารถหาซื้อจากร้านตีเหล็กข้างนอกได้ ขอเพียงมีดินปืนเพียงพอ ช่างฝีมือกรมของโรงดอกไม้ไฟในกรมโยธาธิการสามารถเวียนกันทำงานได้จนถึงรุ่งเช้า อย่างน้อยวันหนึ่งก็สามารถทำขึ้นมาได้หลายร้อยถึงหนึ่งพันลูกพ่ะย่ะค่ะ!""เช่นนั้นก็ใช้กระบอกไม้ไผ่ ตัวข้าให้เวลาพวกท่านสองวัน ทำได้เท่าไรเท่านั้น ต้องเร็วและพลังทำลายล้างก็ต้องมิน้อยเกินไป""องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะมิทำให้พระองค์ผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ"เลือดนักสู้ในตัวสวี่จิ้นพลุ่งพล่าน เมื่อได้เห็นพลานุภาพของระเบิดสายฟ้า มันคืออาวุธสังหารแห่งสนามรบ และทรงพลังกว่าธนูทดกำลังหลายเท่าเขารีบจัดแจงให้คนไปตัดไม้ไผ่และซื้อน้ำตาลทรายขาวกับเศษเหล็กส่วนฉินซูบอกอัตราส่วนของน้ำตาลทรายขาวกับดินปืนแก่สวี่จิ้นหนึ่งชั่วยามต่อมาระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ลูกแรกพร้อมแล้วสวี่จิ้นรีบนำระเบิดสายฟ้าไปให้ฉินซูดูอย่างอดรนทนมิไหว"องค์รัชทายาท ทำสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอพระองค์โปรดทอดพระเนตรด้วยพ่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 593

    "ไม่สิ เมื่อครู่องค์รัชทายาทตรัสว่า… พระองค์จะลงไปชายแดนทางใต้หรือ?""พระองค์จะไปยังสนามรบหรือ?"พูดถึงตรงนี้ สวี่จิ้นก็เบิกตาโพลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อองค์รัชทายาทจะลงสมรภูมิด้วยพระองค์เอง นี่มันเรื่องตลกกระไรกัน!......วันรุ่งขึ้นพระตำหนักจินหลวนบรรดาขุนนางระดับสูงทั้งหลายต่างก็มีท่าทีเคร่งขรึมเนื่องจากพวกเขาทราบข่าวแล้วว่า สถานการณ์การรบในเมืองเจียวโจวนั้นตึงเครียดอย่างยิ่งแม้ว่าจะมีฉงชูโม่ประจำการอยู่ แต่ต่อให้มีวรยุทธ์กล้าแกร่งเพียงใด นางจะเอาชนะกองทัพขนาดมหึมาได้อย่างไรฉินอู๋ต้าวบนบัลลังก์มังกรในเวลานี้ กวาดสายตามองด้วยสีหน้ามิสบอารมณ์สักเท่าไรเดิมทีเขาคิดว่าส่งกองทหารรักษาการณ์เขาเสียซานห้าหมื่นนายไปสนับสนุนเมืองเจียวโจวแล้วคงช่วยพลิกสถานการณ์การรบในชายแดนทางใต้ได้แต่คิดมิถึงว่าจะยังล้มเหลวในการขับไล่กองทัพหนานเยวี่ยเขาเคลื่อนสายตาองอาจไปมองสวี่จิ้น และเอ่ยถาม "ขุนนางสวี่ ธนูทดกำลังที่องค์รัชทายาทออกแบบ กรมโยธาธิการของเจ้าทำขึ้นได้มากน้อยเพียงใด?"สวี่จิ้นก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว และกล่าวด้วยความนบนอบ "ทูลฝ่าบาท ทำได้หกร้อยคันแล้วพ่ะย่ะค่ะ นอกจากนี้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 594

    ฉินอวี่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย โต้ตอบอย่างมิเห็นด้วย "มันก็แค่ดอกไม้ไฟกับประทัดดัดแปลงเท่านั้น จะทรงพลังแค่ไหนกันเชียว?""อ๋องฉู่ ดอกไม้ไฟกับประทัดจะเทียบกับระเบิดสายฟ้าได้อย่างไร ระเบิดสายฟ้านั้น..."มิรอให้สวี่จิ้นพูดจบ ฉินอวี่ก็โบกมือปัด "ใต้เท้าสวี่มิจำเป็นต้องพูดให้มากความ ข้าทำศึกในสนามรบมาแปดเก้าปี เห็นคลื่นลมมาแล้วทุกรูปแบบ!"ได้ยินดังนั้น สวี่จิ้นก็ได้แต่กลืนคำพูดที่ติดอยู่ที่ปากลงคอไปฉินอวี่จึงหันไปประสานมือคารวะฉินอู๋ต้าวและกล่าวอีกครั้ง "เสด็จพ่อ สถานการณ์เมืองเจียวโจวมิอาจแก้ไขโดยง่าย ลูกนำทหารม้าหุ้มเกราะฝีมือชั้นยอดกลับมาจากการตรวจตราฝั่งตะวันออกแล้ว ขอเพียงเสด็จพ่อทรงอนุมัติ ลูกจะนำพวกเขาเร่งกรีธาทัพทั้งวันทั้งคืนเข้าช่วยเหลือเมืองเจียวโจวทันทีพ่ะย่ะค่ะ!""ท่านอ๋องฉู่ ข้าน้อยมิได้มีเจตนาจะดูหมิ่นพระองค์หรือทหารม้าหุ้มเกราะของพระองค์ ทว่ามีทหารทัพหนานเยวี่ยหนึ่งแสนนายปักหลักนอกเมืองเจียวโจว ท่านนำกองกำลังทหารม้าหุ้มเกราะเพียงน้อยนิดของท่านไป เกรงว่าคงเป็นการหยดน้ำดับไฟเท่านั้นกระมังพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อเผชิญกับความสงสัยของเหวินเยวี่ยนซาน ฉินอวี่ตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง "กองท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 595

    "เสด็จพี่ช่างมีความทะเยอทะยานนัก หรือท่านคิดอยากจะยึดครองทั้งแคว้นหนานเยวี่ยเล่า?"ฉินซูตอบโต้ด้วยคำพูดชวนให้ตะลึงงัน "หนานเยวี่ยเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ หากคิดจะยึดครองพวกมันทั้งหมด ก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปมิได้เสียทีเดียว""เป็นไปได้รึ นี่เสด็จพี่คิดจะทำสงครามยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยทั้งหมดจริง ๆ หรือ?!"ฉินอวี่ตกตะลึง แทบมิอยากเชื่อหูตนเองฉินซูพยักหน้ายืนยันอย่างหนักแน่น "ถูกต้อง ก่อนหน้านี้เราไม่มีข้ออ้างดี ๆ การยกทัพไปโจมตีหนานเยวี่ยจึงขาดความชอบธรรม ทว่ายามนี้ หนานเยวี่ยรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของเราหลายครั้งแล้ว นี่เป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เรามีเหตุผลในการโจมตีพวกมัน!"ได้ยินฉินซูกล่าวเช่นนั้น ขุนนางระดับสูงทั่วทั้งท้องพระโรงต่างส่งเสียงกระซิบกระซาบพึมพำกันเอง"เอ่อ องค์รัชทายาทถึงกับทรงคิดจะยกทัพโจมตีน่านเยวี่ยเลยหรือ? ความคิดนี้ดูจะรุนแรงเกินไปหน่อยกระมังพ่ะย่ะค่ะ?""นั่นสิ แคว้นหนานเยวี่ยเต็มไปด้วยเทือกเขาทอดยาวไร้สิ้นสุด ด่านป้องกันก็ล้วนตั้งอยู่บนเส้นทางสำคัญที่เป็นปราการธรรมชาติ ป้องกันง่ายแต่โจมตียาก การจะบุกฝ่าเข้าไปถึงใจกลางหนานเยวี่ยนั้น พูดง่ายแต่ทำยาก""พูดได้ถูกต้อง มิหนำ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 596

    เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยวของฉินซู หวังฉือและคนอื่น ๆ ก็ได้แต่กลืนคำพูดที่ติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากกลับลงไป พร้อมทั้งส่ายหน้าถอนหายใจอย่างเงียบงันมิหยุดตอนนี้อ๋องฉีและพวกพ้องล่มจมแล้ว เช่นนั้นก็เป็นโอกาสดีที่จะเอาชนะใจผู้คนและเสริมสร้างอิทธิพลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นพวกเขามิเข้าใจเลยสักนิดว่า เหตุใดฉินซูจึงยืนกรานอาสานำทัพออกรบที่เมืองเจียวโจวในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้นี่มันเสียเวลาเปล่ามิใช่หรือในตอนนี้เองขุนนางวัยกลางคนในชุดสีแดงคนหนึ่งก็ก้าวขึ้นมาเขาเอ่ยถามฉินซู "องค์รัชทายาททรงมีพระทัยเปี่ยมล้นด้วยความฮึกเหิม จิตวิญญาณนักสู้กล้าแกร่ง เห็นทีคงจะมีอาวุธลับเป็นแน่ หากเดินทางไปเมืองเจียวโจวครานี้มิสามารถขับไล่กองทัพหนานเยวี่ยได้ แต่กลับกลายเป็นภาระให้แม่ทัพฉงจะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?"หวังฉือโต้กลับทันควัน "หม่าเถิง เจ้าเป็นเพียงผู้ดูแลจวนอ๋องฉีผู้ต่ำต้อย หาได้มีสิทธิ์พูดในที่แห่งนี้ไม่!"หม่าเถิงเองก็ตอบโต้อย่างวางตัวเหมาะสม "ใต้เท้าหวัง แม้ข้าน้อยผู้นี้จะเป็นเพียงผู้ดูแลจวนอ๋องฉี แต่เพราะบารมีขององค์รัชทายาท หลังจากสิ้นอำนาจอ๋องฉี ข้าน้อยก็ได้ถูกเลื่อนขั้นจากกรมขุนนางให้เป็นรอง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 597

    ฉินซูพยักหน้าจริงจัง "หากเป็นเพราะความผิดพลาดของลูก ทำให้การศึกที่เจียวโจวล่าช้า ลูกยินดีรับโทษตามกฎระเบียบของกองทัพพ่ะย่ะค่ะ!"ฉินอู๋ต้าวเคาะโต๊ะลงมติทันที "ดี! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมเถิด วันพรุ่งจงนำทหารม้าหุ้มเกราะที่อ๋องฉู่พากลับมาเคลื่อนทัพลงใต้ไปช่วยเหลือเจียวโจวเสีย!""ลูกน้อมรับพระบัญชา!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาแห่งชัยชนะก็วาบผ่านดวงตาของหม่าเถิงหลังเลิกประชุมราชสำนัก ฉินซูก้าวออกจากพระตำหนักจินหลวนด้วยท่าทีสงบและมั่นคงหวังฉือ เนี่ยหง และเหวินเยวี่ยนซานรีบตามไปเมื่อเห็นดังนั้น ฉินอวี่ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ "หึหึ ลมในราชสำนักเปลี่ยนทิศเร็วดีจริง ๆ เพียงสองสามเดือน จากองค์รัชทายาทชื่อเสียงฉาวโฉ่ก็ได้รับการสนับสนุนไปทั่วเสียแล้ว!""ได้รับการสนับสนุนไปทั่วกระไรกันพ่ะย่ะค่ะ ก็มีแต่หวังฉือกับพวกเท่านั้นที่พยายามประจบสอพลอ" หม่าเถิงแสดงท่าทีเหยียดหยามฉินอวี่เหลือบมองเขาผาดหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เมื่อครู่เจ้าเพิ่งแอบช่วยข้า มิใช่ว่ากำลังประจบสอพลอเหมือนกันหรอกหรือไร?"หม่าเถิงกล่าวอย่างมีหลักการ "วิหคเลือกกิ่งไม้เพื่อเกาะพักฉันใด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 598

    สวี่จิ้นประสานมือกล่าว "องค์รัชทายาท ข้าน้อยจะกลับไปยังกรมโยธาธิการ ให้พวกเขารีบเร่งผลิตระเบิดสายฟ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้พระองค์ทรงนำไปยังเจียวโจวได้มากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!"ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย "ได้ พวกท่านไปทำธุระของตนเถิด"หวังฉือและคนอื่น ๆ ต่างทูลลาและจากไปเมื่อออกจากตำหนักบูรพา เหวินเยวี่ยนซานก็กล่าวด้วยใจกลัดกลุ้ม "การเดินทางครั้งนี้ขององค์รัชทายาทจะต้องอันตรายอย่างยิ่งเป็นแน่ หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับพระองค์ที่เจียวโจว ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่""ใช่แล้ว อุตส่าห์โค่นอ๋องหนิงและพรรคพวกได้สำเร็จ ตอนนี้กลับขันอาสาไปออกรบเองเสียได้ มิเข้าใจเลยว่าพระองค์ทรงคิดกระไรอยู่"หวังฉือพูดเป็นเชิงปลอบโยน "ที่จริงพวกเรามิจำเป็นต้องหดหู่ถึงเพียงนี้ก็ได้ หากองค์รัชทายาททรงได้รับชัยชนะครั้งใหญ่กลับมา เรื่องราวในวันชุนเฟินปีหน้าก็จะถูกยกเลิกเป็นแน่ กล่าวได้ว่าองค์รัชทายาททรงกำลังต่อสู้เพื่อตัวพระองค์เองอยู่เช่นกัน!""ที่ท่านพูดมาก็ถูก ได้แต่หวังว่าองค์รัชทายาทจะทรงกลับมาโดยสวัสดิภาพ"......วันรุ่งขึ้นฉินซูพาพี่น้องตงฟางไป๋ไปยังกรมโยธาธิการหลังจากรถม้าสองสามคันที่บรรทุกธนูทดกำลังและระ

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status