LOGINขนมรีบรูดบัตรคีย์การ์ดที่เธอจองเผื่อเหตุฉุกเฉินไว้ชั้นเดียวกัน ประตูห้องสวีทเปิดออก เธอประคองกันต์ที่ตัวสั่นเทาเข้าไปข้างในทันที ปิดประตูสนิทแล้วล็อกกลอนสองชั้น“พี่กันต์...นั่งพักก่อนนะคะ”เธอพูดเสียงสั่น เขายังคงกอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย ราวกับกลัวเธอจะหายไปจริง ๆ“ขนม...อย่าไปไหนนะ...” เสียงเขาพร่าแหบแห้ง ใบหน้าร้อนผ่าวซุกที่ซอกคอเธอ ลมหายใจร้อนรดผิวขาวเนียนจนขนลุกซู่ขนมประคองเขาไปที่โซฟา กันต์นั่งลง แล้วก็ดึงเธอลงไปนั่งบนตักเขาทันที มือใหญ่โอบรอบเอวเธอแน่นจนแทบหายใจไม่ออกดวงตาคมกริบที่เคยพร่ามัว ตอนนี้กลับลุกโชนด้วยไฟปรารถนาที่ร้อนยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า“พี่...พี่ร้อน...ร้อนมาก...”เขาพึมพำ ก่อนจะก้มลงซุกจมูกที่ซอกคอเธอ สูดกลิ่นหอมวานิลลาอ่อน ๆ จากตัวเธออย่างคลั่งไคล้“กลิ่นเรา...หอมจนพี่จะบ้าแล้ว...”“พี่กันต์...เดี๋ยวก่อนค่ะ พี่เพิ่ง....”ขนมยังไม่ทันพูดจบ ปากร้อนของเขาก็ประกบลงบนปากเธอทันที จูบดุเดือดและเร่าร้อนจนเธอแทบหายใจไม่ออก ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปชิมรสหวานอย่างหิวกระหายมือใหญ่ค่อย ๆ ลูบไล้จากไหล่ลงไปตามเนินอก กดเบา ๆ ตรงยอดถันที่แข็งเป็นไตจนเธอสะดุ้ง“พี่...อ๊า...” เสียงเธอหว
ชั้น 25 ห้องเพนท์เฮาส์สวีทสุดหรูของโรงแรมเอลลิเซียม พาเลซ ประตูถูกปิดสนิทด้วยกุญแจล็อกสองชั้นเจสซี่พยุงกันต์เข้ามาในห้องที่เธอจัดเตรียมไว้ แสงไฟสลัวสีเหลืองนวลจากโคมข้างเตียงสาดส่องลงบนเตียงคิงไซส์ที่ปูด้วยผ้าซาตินสีแดงเข้มกลิ่นน้ำหอมหรูหราของเธอลอยอบอวลผสมกับกลิ่นเทียนหอมวานิลลาที่จุดไว้รอบห้อง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ชวนเคลิบเคลิ้มกันต์ทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียง ร่างกายกำยำที่เคยแข็งแกร่ง ตอนนี้ร้อนผ่าวราวกับถูกไฟเผา หน้าผากผุดเหงื่อเม็ดโต หายใจหอบถี่ ดวงตาคมกริบที่เคยเย็นชาปรากฏแววพร่ามัว เขายกมือขึ้นกุมขมับ“ขนม...พี่...พี่ไม่ไหวแล้ว...มันร้อน...ร้อนไปหมด”เจสซี่ยิ้มอย่างผู้ชนะ เธอถอดเสื้อคลุมทิ้งลงบนพื้น เผยให้เห็นเดรสสายเดี่ยวสีดำรัดรูปที่โอบรับทุกส่วนโค้งเว้าของร่างกายมือเรียวยื่นไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาเบา ๆ นิ้วอุ่นร้อนลูบไล้แผ่นอกกว้างที่เปียกชุ่มเหงื่อ“ใจเย็นสิคะ กันต์...ฉันจะช่วยเอง”เธอกระซิบเสียงนุ่มนวล โน้มตัวลงเข้าใกล้ ริมฝีปากแดงระเรื่อแตะที่คอเขาเบา ๆ กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงแรง ๆ ลอยเข้าจมูกเขา ผสมกับฤทธิ์ยาที่กำลังคุกรุ่นกันต์ตัวเกร็ง มือใหญ่กำผ้าปูแน่น ร่างกายตอบสนอง
ภายในห้องจัดงานเลี้ยง ทีมงานกำลังจัดโต๊ะอาหารสุดท้าย ขนมยืนตรวจรายการไวน์ที่บาร์กับบาร์เทนเดอร์ มือเล็กจดโน้ตอย่างละเอียดกันต์เดินกลับมาหาเธอหลังจากจัดการเรื่องดอกไม้เสร็จ เขายื่นแก้วน้ำเย็นให้เธอแก้วหนึ่ง“ดื่มหน่อยสิ ดูเหนื่อย ๆ นะ”“ขอบคุณค่ะ”ขนมรับแก้วมาจิบ ก่อนยิ้มหวานให้เขา“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ พรุ่งนี้เรามาเช็คอีกรอบก่อนแขกมาถึงก็พอ”กันต์พยักหน้า ก่อนจะหันไปมองบาร์“ขอน้ำเพิ่มหน่อยสิ คอแห้งหมดแล้ว” เขายกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ“ได้ค่ะ คุณกันต์”พนักงานเสิร์ฟยิ้ม ก่อนจะหยิบแก้วน้ำจากถาดที่ซ่อนไว้ใต้เคาน์เตอร์ เป็นแก้วที่เจสซี่ส่งมาให้ล่วงหน้าแล้ว“เชิญค่ะ”กันต์รับมาจิบ พลันขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นหอมจาง ๆ จากยาปลุกอารมณ์ที่ละลายเข้ากับน้ำเปล่า เขามองหน้าพนักงานเสิร์ฟด้วยความสงสัย“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” พนักงานเสิร์ฟมือสั่นเล็กน้อย แต่ยังฝืนยิ้มให้เขากันต์ไม่ตอบแต่ยื่นแก้วน้ำคืนทันที แล้วหันไปหาขนม“ไปกันเถอะ เดี๋ยวช่วยกันเช็คตรงเวทีหลักซะหน่อย”ทั้งคู่เดินคุยไปด้วยกัน หัวเราะเบา ๆ กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในงาน แต่อยู่ ๆ กันต์ก็รู้สึกแปลก ๆ ร่างกายเริ่มร้อนว
หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ของเจสซี่ และไม่กี่วันก่อนงานกาล่าดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่กันต์จะต้องพาขนมไปร่วมงานในฐานะตัวแทนทีมบริหารของวิสต้า พร้อมเหล่าผู้บริหารแถวหน้าของวงการอสังหาริมทรัพย์เจสซี่นั่งเอนหลังในห้องสวีทหรูบนชั้นสูงสุดของโรงแรมเอลลิเซียม พาเลซ แสงไฟระยิบระยับจากตัวเมืองยามค่ำคืนส่องผ่านกระจกใสบานใหญ่ แต่นัยน์ตาสีเข้มของเธอกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา และความแค้นใจที่ก่อตัวเงียบ ๆเธอรู้ตัวดีว่า การต่อสู้ด้วยอำนาจหรือภาพลักษณ์ ไม่สามารถ ‘ข่ม’ เด็กผู้ช่วยอย่างขนมได้อีก ไม่ว่าจะใช้หมากกลใด หรือใช้ข่าวลือว่ากันต์อาจกลับมาคืนดีกับแฟนเก่าหรือการกลั่นแกล้งสารพัดในที่ทำงาน...ขนมก็ยังเอาตัวรอดได้ทุกครั้ง ด้วยรอยยิ้มที่หวานเกินต้าน และไหวพริบที่เฉียบขาดเกินคาดเจสซี่รู้ดีว่าตัวเองกำลัง ‘แพ้’ ในเกมที่เคยมั่นใจว่าเธอควบคุมได้ แต่ที่เจ็บกว่านั้นคือ...กันต์...ก็ไม่ทีท่าว่าจะกลับมาคืนดีกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว“ยัยเด็กนั่น...ไม่ใช่แค่ของเล่นชั่วคราวสินะ”เจสซี่พึมพำเสียงแผ่ว มือเรียวยกแก้วไวน์ขึ้นจิบช้า ๆ ดวงตาฉายแววขุ่นเคืองขณะมองโทรศัพท์บนโต๊ะหินอ่อนหน้าจอสว่างด้วยภาพจา
— 20 นาทีต่อมา —“กาแฟของคุณค่ะ~” ขนมวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าเจสซี่ ก่อนจะยิ้มอย่างสุภาพ“ตามที่สั่งเลยนะคะ ลาเต้เย็นใส่นมสด...แบรนด์พิเศษที่คุณชอบ”เจสซี่มองแก้วอย่างพอใจ ยกขึ้นจิบโดยไม่เอะใจเพียงแค่กลืนคำแรก...“แค่ก! แค่กๆๆ!!”หญิงสาวสำลักทันที น้ำตาเล็ด น้ำกาแฟไหลออกจากมุมปากเลอะลิปสติกสีแดง“นี่มันอะไรกัน!!”ขนมยิ้มละมุน รีบหยิบทิชชูส่งให้“อ้อ ร้านนั้นเค้าทำลาเต้เย็นใส่นมสดสูตรพิเศษค่ะ แต่เพิ่มช็อตเอสเปรสโซสามเท่านะคะ”ราวินที่ยืนอยู่ตรงมุมห้องหันหลังหลบอย่างไว ส่วนกันต์แกล้งไอกลบเสียงหัวเราะ แต่ไหล่สั่นจนขนมแอบเหล่เจสซี่มองขนมด้วยสีหน้าคับแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเธอเป็นคนสั่งเอง“ถ้าคุณเจสซี่ไม่ถูกใจ วันหลังขนมจะบอกให้แม่บ้านไปซื้อมาให้นะคะ 😊”ขนมส่งยิ้มหวานบาดใจให้เจสซี่ราวกับไม่รู้เรื่องที่โดนกลั่นแกล้งเย็น วันศุกร์ | ห้องโปรเจกต์วิสต้าจู่ ๆ ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วบริษัท ว่าเจสซี่จต้องการรีวิวงานทั้งหมดของบริษัทวิสต้าเพื่อส่งให้บอร์ดบริหารพิจารณาใหม่แม้เธอจะไม่มีอำนาจโดยตรง แต่ด้วยสถานะผู้ถือหุ้น และความเป็นเจสซี่ ก็ทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกระแวงยกเว้นขนมที่ยังคงจัดกา
หลังจากวันนั้นตลอดหนึ่งสัปดาห์กลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวของเจสซี่ก็กลายเป็นกลิ่นประจำตึกของบริษัทวิสต้าฯ ไปโดยปริยายเพราะกันต์และขนมต้องเข้าร่วมประชุมกับราวินอย่างต่อเนื่องในโปรเจกต์เกาะเอเลเมนท์ที่เพิ่งกลับมา เจสซี่ก็ถือโอกาสใช้สถานะ ‘ผู้ถือหุ้นของบริษัทวิสต้า’ เดินเข้าออกตึกอย่างไม่เกรงใจใครทั้ง ๆ ที่งานทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับสายงานเธอเลยสักนิด เพราะจุดประสงค์จริง ๆ ไม่ใช่การ ‘ดูงาน’...แต่คือ ‘จับผิดขนม’ไม่ว่าอะไรที่สามารถทำให้ขนมทำงานพลาด เจสซี่พร้อมจัดเต็ม แต่มีหรือขนมจะยอม...เธอก็พร้อมฟาดกลับทุกดอกเหมือนกันเช้า วันจันทร์ | ห้องประชุมของฝ่ายการตลาดในขณะที่ประชุมกำลังดำเนินไปอย่างปกติ เสียงเปิดประตูห้องประชุมก็ดังขึ้น เจสซี่ในชุดสูทสีครีมเรียบหรูเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ พร้อมแฟ้มหนาเตอะในมือ“คุณขนมคะ ขอเอกสารแนวคิดแคมเปญเดือนหน้าให้ฉันดูหน่อยค่ะ”เจสซี่เอ่ยเสียงหวานต่อหน้าทีมงานทุกคน พร้อมรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตรนัก“อ้อ...ขอฉบับที่มีลายเซ็นผู้บริหารด้วยนะคะ ไม่ใช่ฉบับร่าง”บรรยากาศในห้องประชุมเงียบกริบ หลายคนเหลือบตามองกันอย่างงง ๆ เพราะรู้ดีว่าเอกสารนั้นยังไม่ถึงรอบการอนุมัติแต่ขน







