ก็อกๆๆ
เสียงดังด้านนอกไม่ได้ทำให้เจ้าของร่างอรชรที่นอนฟุบหน้าน้ำตาไหลกับที่นอนสนใจ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่พอใจตนมาก
“ถึงจะโกรธกันยังไงก็ออกมากินข้าว ถ้ารันไม่สบายขึ้นมา น็อตจะเป็นห่วง”
เหมือนคนพูดเองก็ดูไม่ได้ใส่ใจเธอนัก เขาคงแค่ไม่ต้องการมีปัญหากับน้องชาย บอกแล้วพีรพลก็เงียบไป มิรันตีลุกขึ้นนั่งปาดน้ำตาลวกๆ เหลือบไปยังประตูแล้วสะบัดหน้าหนี
“แค่ไม่กินข้าว ไม่ป่วยหรอก ว่ารันทำตัวเป็นเด็ก พี่พีเองก็พูดเหมือนรันเป็นเด็กเหมือนกัน”
เธออุบอิบบ่นคนเดียวโดยไม่คิดจะกินข้าว มิรันตีรู้ว่าทำตัวไม่มีเหตุผลแต่ตอนนี้เธอทั้งโมโหทั้งอาย ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับพีรพล ขอเวลาพักเว้นระยะกายและใจของตัวเองก่อน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและเป็นสายของเพื่อนหนุ่ม พอเธอไม่รับอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาไม่หยุดสุดท้ายเธอก็เปิดอ่าน
‘รับสายสิ’
‘เรารู้ว่ารันอยู่กับมือถือ’
แล้วนิติพลก็โทรมาทันที
“ทำไมไม่ออกไปกินข้าว”
“พี่พีฟ้องน็อต?”
“โทรมาบ่นต่างหาก”
“บ่นว่ายังไงล่ะ”
มิรันตีเสียงขุ่น หน้างอเมื่อรู้สึกราวถูกนินทาลับหลัง
“ก็บ่นว่ารันดื้อ แล้วก็บ่นว่าเราหาเรื่องปวดหัวมาให้”
“หึ...เรื่องปวดหัวเหรอ รันไปก็คงหายปวดหัวสินะ”
“ไม่ประชดสิคนสวย”
ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงขี้เล่นเพราะคิดว่าจะช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้น
“รันไม่อยากให้น็อตเป็นห่วงใช่ไหม”
เธอไม่ได้ตอบแต่อีกฝ่ายก็พูดต่ออย่างมั่นใจ
“ออกไปกินข้าว อยู่ที่นั่นให้เหมือนไปพักผ่อน หรืออยากลองทำงานที่ร้านกาแฟก็ได้ เราบอกกับพี่พีไว้แล้วว่ารันสนใจเรื่องร้านกาแฟ อยากทำก็บอกพี่พีได้เลย”
“พี่พีๆ น็อตดูไม่ออกเหรอว่าพี่พีของน็อตอยากตะเพิดรันออกจากบ้านเขาทุกครั้งที่เห็นหน้า”
มิรันตีเหนื่อยใจที่เพื่อนพูดถึงแต่ชื่อพี่ตัวเองซ้ำไปซ้ำมาราวตั้งใจกรอกหูเธอ
“แต่เขาก็ไม่ไล่ใช่ไหมล่ะ”
เธอถอนหายใจเฮือกให้คนปลายสายได้ยินเจ้าตัวก็หัวเราะในลำคอ
“อะไรกัน แค่พี่พีดุหน่อยก็หงอแล้วเหรอ ไม่ใช่รันสาวอึดของน็อตเลย ฮึดสู้หน่อยสิที่รัก โอกาสมีแค่ครั้งนี้นะ”
ริมฝีปากอิ่มเม้มอย่างขัดใจ พีรพลทำเหมือนกลัวเธอจะกระโดดจับเขาอย่างไรอย่างนั้น
“ทำอย่างกับพี่ของน็อตจะให้โอกาสรันงั้นแหละ”
“พี่พีไม่ใช่คนใจแข็ง เขาแค่ทำเป็นแข็งแค่นั้นเอง ไม่อย่างนั้นเขาจะแยกตัวออกไปจากที่บ้านทำไม ทั้งที่เขาก็มีสิทธิ์ในทรัพย์สินของคุณพ่อของตระกูลเรา แต่เขาไม่อยากยุ่งเพราะไม่อยากให้คุณแม่เราโกรธ เขารักทุกคน ไม่อยากให้มีปัญหาภายในครอบครัว”
เธอยังเงียบไม่พูดอะไร แม้ในใจจะนึกเห็นใจและนับถือความมุ่งมั่นตั้งใจยืนหยัดอยู่ด้วยตนเองของพีรพล
“พี่พีเป็นผู้ชายที่ดีมากที่สุดในความคิดของเรา แล้วสำหรับรันล่ะ พี่พีดีพอที่จะทุ่มเทเพื่อคว้าหัวใจของเขาไหม”
“เขาไม่ได้สนใจฉัน”
มิรันตีพึมพำเสียงเบา
“ไม่ลองก็ไม่รู้ เชื่อเราเถอะ พี่พีไม่ได้รังเกียจอะไรรันหรอก เราผิดเองที่ทำให้รันกลายเป็นผู้หญิงที่พี่พีต้องพยายามอยู่ให้ห่างเข้าไว้ ถึงตอนนี้เรายังไม่กล้าพอที่จะพูดทุกอย่างทั้งหมด แต่สักวันนะรัน สักวันเราจะบอก ตอนนี้เราอยากให้รันกล้าทำตามความต้องการในหัวใจตัวเองเหมือนกับที่เราทำ ถึงเราจะยังทำมันไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ ยังไงเราก็อยากให้รันทำเพื่อดูตัวเองดูบ้าง”
ชายหนุ่มหยุดไปเหมือนรอว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร ขณะที่มิรันตีแทบไม่มีความมั่นใจเลย เธอยอมรับว่าได้พบพีรพลอีกครั้งทำให้หัวใจเต้นระรัวและหวิวหวั่น หากมีสิ่งหนึ่งที่เธอรับไม่ได้เมื่อต้องเผชิญกับอีกฝ่าย
“รันไม่อยากให้พี่พีจะเกลียดรัน ให้เขาไม่รู้สึกอะไรกับรันเสียยังดีกว่า”
“ถ้ารักเขาขนาดนั้นก็คุ้มค่าให้ต่อสู้ไม่ใช่เหรอ”
เธอนิ่งงันกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอก
“มั่นใจในตัวเองหน่อยสิรัน”
นิติพลรู้ใจเธอเสมอ หญิงสาวถอนหายใจอย่างหนักหน่วงในอก ใช่ว่าเธออยากทะเลาะกับพีรพลถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติด ที่ขึ้นเสียงกับอีกฝ่ายไปก็อายและเสียใจมาจนถึงตอนนี้
“รันวีนใส่พี่พีจนเขาคงไม่อยากคุยด้วยแล้ว”
เธอพึมพำเสียงเบา อีกฝ่ายก็หัวเราะในลำคอก่อนจะแนะนำ
“ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไงก็บอกว่าจะขอสมัครทำงานที่ร้านกาแฟ อยากมีอะไรทำ อย่างน้อยรันก็จะได้ฝึกหัดชงชากาแฟไงล่ะ”
ร่างอรชรมาปรากฏหน้าห้องของพีรพลสูดลมหายใจเข้าปอดลึกรวบรวมความกล้าเคาะประตูห้องอีกฝ่าย รอไม่นานชายหนุ่มก็เปิดออกเธอก็ท่องสิ่งที่คิดเอาไว้ออกไปทันทีโดยมองเพียงแผงอกกว้างของอีกฝ่าย
“รันขอไปทำงานที่ร้านกับพี่พีนะคะ อยู่ที่บ้านคนเดียวทั้งวันไม่มีอะไรทำเบื่อน่ะค่ะ รันอยากมีร้านกาแฟของตัวเองก็เลยอยากฝึกค่ะ ขอเริ่มงานพรุ่งนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ”
พูดจบก็ยกมือไหว้แล้วผละออกมาจะกลับห้องตัวเอง ทว่ากลับถูกคว้าแขนไว้
“กินข้าวเสียก่อน”
มิรันตีชะงักหันกลับไปมองใบหน้าคมคายแล้วใจเต้นโครมครามขึ้นมาเพราะน้ำเสียงอีกฝ่ายทุ้มลง เธอขยับแขนเล็กน้อยอย่างไม่สบายใจชายหนุ่มจึงยอมปล่อย
“ขอโทษที่เสียงดังใส่พี่พีค่ะ”
เธอรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทำแบบนั้น มองสบตาคมเข้มได้ไม่นานนักก็เลี่ยงเดินไปยังห้องครัวเพราะจิตใจยังไม่เข้มแข็งพอ
บนโต๊ะมีอาหารที่พีรพลจัดวางและปิดเอาไว้เรียบร้อย เมื่อเปิดดูก็เห็นมีกับข้าวถึงสามอย่างแต่ค่อนข้างเย็น ไปดูในหม้อก็มีข้าวสวยอยู่บางส่วนถูกตักไปแล้ว แต่กับข้าวเหมือนแบ่งแยกเป็นสัดส่วนไว้เพราะไม่มีรอยตัก
มิรันตียิ้มบางขณะเริ่มเอาอาหารไปอุ่น อย่างน้อยพีรพลก็ไม่ได้ใจแข็งอย่างที่นิติพลบอก ทั้งที่เธอทำนิสัยแย่ใส่เขาก็ตระเตรียมอาหารไว้ให้อย่างดีไม่ทิ้งให้อดอยาก
‘ลองสู้สักตั้งดีไหมนะ’
=====
ฝากติดตามเชียร์รันกันด้วยนะคะ ^^
“ต่อจากเมื่อวานกันนะครับ”เอ่ยจบชายหนุ่มก็จูบซับกลีบปากอิ่ม เม้มแรงทั้งบนล่าง ปลายลิ้นอุ่นซอกแซกไล้ไปมาจนสามารถเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเธออย่างเร่าร้อนมือหนาบีบเคล้นทรวงอวบที่ยังมีผ้าลูกไม้เกาะครึ่งเต้าทรวงก่อนปลายนิ้วแกร่งจะไล้ผ่านเนินขาวขึ้นไปเกี่ยวสายเส้นเล็กลงจากไหล่บางปล่อยสองทรวงอวบใหญ่ให้เผยต่อตา ใบหน้าคมคายซุกไซ้สูดกลิ่นกายสาวปะปนสบู่เหลวหอมสดชื่น เม้มผิวอ่อนบางตรงซอกคอแล้วไซ้ลงมาหายอดอกสีหวาน เบียดแก้มสากเสียดสีกระตุ้นเร้ากายสาว และเขาก็อยากสัมผัสอกอวบคู่งามที่สุดสำหรับตนให้เนิ่นนานปากอุ่นจัดขยับเม้มยอดทรวงราวหยอกเย้าจนชูช่อโดดเด่นทั้งสองข้าง ก่อนรวบก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นเข้าอุ้งปากตน ดูดดื่มเบาแล้วเพิ่มแรงขึ้นจนหญิงสาวครวญคราง มือบางขยุ้มผมเขาหากพีรพลไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดชายหนุ่มไม่ได้ปลุกเร้าเพียงอกสาว เขาส่งมืออีกข้างสอดผ่านกางเกงขายาวเนื้อหนาของมิรันตีเข้าไปลูบโลมความสาวบอบบาง แล้วยังเคลื่อนเข้าไปแตะต้องจนถึงเนื้อใน ปลายนิ้วลากไล้ก่อนจะรุกรานอย่างย่ามใจเพราะขาเรียวสองข้างขยับกว้างเปิดทางอย่างไม่ต้องบังคับหรือบอกกล่าวมิรันตีครางเสียงเครือรับการปรนเปรอจากนิ้วแกร่ง แล
ประตูห้องเปิดผลัวะออกอย่างแรงพร้อมกับหมอนกระแทกเข้าใส่หน้าเขาเต็มๆ ทำเอานิติพลหน้าหงาย แต่ก็รับหมอนไว้ได้ก่อนหล่นลงพื้นพร้อมกับมองหน้าพี่ชายด้วยความงุนงง ทว่าพอเหลือบไปด้านหลังแล้วเห็นเจ้าของร่างอรชรรีบเดินตามมาใกล้พี่ชายที่ตีหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่ก็เข้าใจได้ทันที“เอ่อ ผมไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้”เขาบอกพร้อมสีหน้ารู้สึกผิดมิรันตีรีบแทรกมายืนด้านหน้าพีรพลพลางยิ้มเจื่อนส่งสายตาขอโทษเพื่อนแล้วบอกสิ่งที่ตนตั้งใจในตอนแรก“ฉันแค่มาเช็กว่าพี่พียังมีไข้หรือเปล่าน่ะ แล้วก็จะกลับแล้ว”“เหรอ เช็กจนผมยุ่งไปหมดเลยเนอะ โอ๊ะ...”ร่างโปร่งของนิติพลผงะเซไปด้านหลังก้าวหนึ่งเพราะพี่ชายแอบยกเท้ามายันขา แล้วก็เป็นจังหวะให้มิรันตีรีบแทรกออกไปเมื่อมีพื้นที่ หญิงสาวก้มหน้างุดไม่มองใครอีก คนเป็นเพื่อนมองตามแล้วก็ถอนหายใจหันกลับมาก็เจอเข้ากับสายตาดุเข้มของพี่ชาย“นอนข้างนอกไปเลย”“โธ่พี่ ล้อเล่นนิดเดียว ไม่คิดว่ารันจะอายขนาดนี้”“น้องเวร เป็นเพื่อนยังไงวะ”“ขอโทษครับพี่”“ไปขอโทษรันโน่น”นิติพลหน้าซีด พลางส่ายหน้า“ตอนนี้รันงอนอยู่ เอาไว้พรุ่งนี้ใจเย็นก่อนดีกว่า”เขารู้ว่าควรง้อเจ้าตัวและเอาอกเอาใจเมื่อไร มิรันตีไ
เพราะเจ็บไม่น้อยวัชพลจึงให้พีรพลไปหาหมอที่อนามัยใกล้ๆ และกลับบ้าน แล้วให้กัญญาเฝ้าร้านกับเดือน เนื่องจากรู้ว่ามิรันตีก็ต้องตามไปดูแลเขากลับมาถึงบ้านหลังจากทำแผลที่สถานีอนามัยมิรันตีก็ประคองชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาแล้วไปเอาน้ำมาให้เขา เธอพยายามเก็บอาการน้ำตาซึมกับสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาของตัวเองเอาไว้อย่างที่สุด แต่เมื่อชายหนุ่มดื่มน้ำแทบไม่ได้ แม้แต่จับแก้วยังลำบากเธอก็น้ำตาไหลจนได้“โธ่ พี่พี”ปลายนิ้วเรียวแตะโหนกแก้มช้ำกับมุมปากที่แตกของชายหนุ่มแล้วเลื่อนมือลงมาจับมือหนาที่แตกทั้งสองข้างขึ้นดู“เจ็บมากสินะคะ”พีรพลหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางยิ้มอ่อนเธอจึงหน้างอ“ยังจะหัวเราะอีก รันตกใจแค่ไหนรู้ไหมคะ ที่เห็นคุณแก้มพยุงพี่พีเข้ามาร้านในสภาพนั้น”หญิงสาวเสียงเครือแล้วก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาหยดลงบนมือหนาถูกแผลทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเบาๆ เพราะแสบแต่ก็ทนได้ ทว่าเขาไม่อยากให้เธอร้องไห้ พีรพลจึงเป็นฝ่ายเปลี่ยนมาประคองใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นเกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้“ทำเพื่อรัน เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ พี่ทนได้”“นิดหน่อยที่ไหนกันคะ”“เอาน่า อย่างน้อยพวกนั้นก็จะไม่มาเหยียบที่ไร่ดิฐวัฒน์อีก”มิรันตีม
“มึงคิดว่ามึงแน่เหรอ ฮะ!”หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น“มึงกล้ามีเรื่องกับลูกค้าอย่างพวกกูเหรอ”อีกคนพูดเสียงดังตรงจุดนี้เป็นส่วนที่คนเข้ามาถึงน้อยเพราะจัดเอาไว้อย่างเฉพาะ ซึ่งไม่ไกลจากที่จอดรถของพีรพลนัก และเวลานี้ก็ไม่มีคนอื่นมาสูบบุหรี่“เออ กูจะเอาให้พวกมึงไม่กล้าเห่าหอนถึงผู้หญิงเสียๆ หายๆ ได้อีก”พีรพลสวนกลับอย่างไม่กลัว“มึงมาเสือกอะไรวะ หรือว่า...”คนพูดกระตุกยิ้มมุมปาก“นั่นเมียมึง”ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงใคร พีรพลกระโดดยกขาเข้าไปหาในทันใดและมันก็กระโดดหลบ ขณะที่เพื่อนทั้งสองคนที่เหลือรีบเข้ามารุมจับเขา ชายหนุ่มสลัดออกก่อนหันไปต่อยอีกคน แต่ก็ถูกถีบสีข้างจนเกือบล้ม แล้วก็มีคนตามมากระชากไหล่ไปต่อยการเตะต่อยสามรุมหนึ่งเป็นไปอย่างชุลมุน พีรพลโดนทั้งถีบทั้งต่อยไปหลายครั้ง หากเขาก็เหวี่ยงหมัดเอาคืนทั้งสามไปอย่างไม่หยุดหย่อนราวเรี่ยวแรงไม่หดหาย ครู่หนึ่งจึงมีคนเข้ามาห้ามซึ่งเป็นวัชพลกับคนงานในไร่อีกสองคน“หยุดได้แล้ว”วัชพลเสียงเข้ม เข้าไปกระชากหนึ่งในลูกค้าล็อกแขนไว้ คนงานอีกสองคนก็จับสองคนที่เหลือ“ปล่อยสิวะ”แม้จะไม่มีใครยอมแต่เพราะทั้งเจ็บตัวทั้งอ่อนล้าทำให้สลัดวัชพลกับคน
‘แกคิดว่าแม่เห็นแกเป็นเครื่องผลิตเงินหรือไง’เมื่อไปรับมารดาที่บ้าน มิรันตีก็ขอโทษและท่านก็เอ่ยมาราวประชด แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองเธอ ทั้งยังพูดกับพีรพลด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น ไม่ได้ซักหรือถามไถ่เรื่องงานอีก ทว่าหลังจากมาติกาออกจากโรงพยาบาลในวันถัดมา ก่อนจะลากลับมารดากลับพูดในสิ่งที่ทำให้เธอถึงกับน้ำตาซึม‘ฝากรันด้วยนะคะ เด็กคนนี้ชอบทำเป็นเก่ง แต่ยังไงก็ต้องมีคนดูแล’หลายเดือนผ่านไป มิรันตีได้ฝึกชงกาแฟกับชาและเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มอีกหลายเมนูจนคล่องแคล่ว แต่บาริสต้าหลักยังเป็นพีรพลและเดือนเป็นผู้ช่วย ส่วนเธอนั้นทำเมนูที่ไม่ยุ่งยากหลายขั้นตอน อีกอย่างที่นี่ก็มีเค้กที่ทำเองด้วย ซึ่งอุปกรณ์ครบพร้อมอยู่ด้านใน ส่วนนี้เดือนจะเป็นผู้ทำโดยมีเธอช่วย และเดือนก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพีรพลดี‘ก็พอจะมองออกน่ะนะ’อีกฝ่ายยักไหล่พร้อมบอกอย่างไม่แปลกใจเมื่อเธอสารภาพกับเจ้าตัวหลังกลับจากกรุงเทพฯ ในเมื่อที่บ้านเธอเกิดเรื่องแต่ชายหนุ่มกลับตามไปด้วยอย่างไรก็ดูน่าแปลกวันนี้เป็นวันหยุดยาวนักขัตฤกษ์ในไร่จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างคึกคัก และนิติพลก็บอกว่าจะมาเยี่ยม แต่เขาจะมาวันพรุ่งนี้เพราะใช้เวลากับคน
ร่างอรชรถูกปล่อยลงใกล้เตียงนอนและชายหนุ่มก็กอดจูบลูบไล้เรือนกายนุ่มละมุน พร้อมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอไปด้วย มิรันตีเองก็ดึงชายเสื้อชายหนุ่มจากเอวกางเกง ร่างสูงโปร่งถอยห่างเล็กน้อยจัดการกับชุดของเธอจนเหลือเพียงซับในสองชิ้นเขาก็ถอดเสื้อตนออกอย่างรวดเร็ว แล้วโอบพาเธอลงไปนอนบนเตียงมือหนาลูบแก้ม ไล้ปลายนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่ม ก่อนจะลากมือระเรื่อยผ่านลำคอบางมาถึงเนินอวบขาว ปัดป่ายเย้ายวนใจพร้อมริมฝีปากได้รูปประกบกับกลีบปากอิ่มที่เห่อแดงด้วยฤทธิ์จูบก่อนหน้านี้มิรันตีเปิดรับเมื่ออีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาเกี่ยวรัดพัวพัน รับรู้ได้ถึงมือหนาเกาะกุมอกอวบเคล้นคลึง ขณะเดียวกันต้นขาแกร่งก็แทรกกลางร่างเสียดสีเร้าอารมณ์อย่างเร้าใจทำเอาเธอเกร็งไปทั้งตัวดื่มด่ำกับจูบหวานลึกซึ้งแล้วปากอุ่นก็ค่อยเคลื่อนแตะแผ่วพรมทั่วลำคอขาว ซุกซบดอมดม เม้มผิวอ่อนจนแดงเรื่อแล้วจึงไต่ลงต่ำจูบซับเนินอกสองข้าง และเริ่มปลดตะขอเปิดปลือยเต้าทรวง ความกลมกลึงอวบใหญ่กับยอดอกสีหวานชวนลิ้มลองปรากฏต่อหน้า ใบหน้าคมคายก็ถูไถจนได้ยินเสียงหวานครางผะแผ่ว“รันสวยที่สุด”ชายหนุ่มพึมพำแล้วไล้ลิ้นระรัวเหนือยอดอกสีหวานที่ชูชันตื่นตัวเต็มที่และย้ายไ