คนโต ไฮโซภูมิ[1] ปัจจุบันแต่งงานและมีลูกน่ารัก ๆ ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคุณปู่คุณย่าและคุณตาคุณยาย
คนรอง ไฮโซบุญ หรือบุญนำพา ปัจจุบันมีทั้งบริษัทอาหารเสริม บริษัทเครื่องสำอางที่ก่อตั้งร่วมกับใบบุญญา โดยอำนาจการบริหารทั้งหมดบุญนำพาเป็นผู้ดูแล
น้องคนเล็กคือคนที่ถูกตามใจที่สุด อยากเรียนอะไรหรือทำงานอะไร ไม่มีใครที่บ้านบังคับ แต่ใครจะคิดว่าคุณหมอใบบุญญาจะเลือกเรียนแพทย์ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่เหนื่อยและต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ
ยิ่งจิตแพทย์ด้วยแล้ว ถือเป็นสาขาแพทย์ที่ขาดแคลนและเป็นสาขาแพทย์ที่สังคมปัจจุบันต้องการ
ใบบุญญาเคยบอกกับคนรอบตัวของเธอว่า เธอนั้นโชคดีเกิดมาในครอบครัวที่ดี ทั้งหน้าตา ทั้งทรัพย์สินเงินทองของเธอนั้นใช้ชาตินี้เธอก็คงใช้ไม่หมด
แต่มีอีกหลายคนบนโลกใบนี้ที่ขาดทั้งโอกาสและทรัพย์
“ด้วยมนตราแห่งความรัก ใบจะเปลี่ยนโลกใบเล็ก ๆ ของเขา”
ในตอนที่เบญญาและภาสฟังคำพูดของเด็กหญิงวัยไม่กี่ขวบ ก็ได้แต่หัวเราะชอบใจว่าลูกคงดูการ์ตูนมากเกินไป
แต่ใครจะคิดว่าปัจจุบันความฝันของเด็กคนนั้นได้กลายเป็นจริงในวันนี้
ใบบุญญานั่งในห้องทำงานของตัวเอง ตอนนี้ในหัวเธอกำลังขบคิดเรื่องของคุณอินน์ ยอมรับว่าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเป็น คนเรานี่มองแต่ภายนอกไม่ได้จริง ๆ เขาดูเพียบพร้อมไปทุกอย่าง ใครจะคิดว่าเขากลับทุกข์ทรมานด้วยโรคทางจิตเวชเช่นนี้
เธอยังไม่เคยรับมือกับอาการของคนไข้ลักษณะนี้มาก่อน คงต้องศึกษาหาข้อมูลอีกเยอะว่าเกิดจากอะไร เธอเปิดหน้าจอไอแพดอ่านผลการตรวจสุขภาพของอินน์อย่างละเอียด
“ร่างกายปกติดีทุกอย่าง ไม่น่าเป็น” เธอรำพึงกับตัวเอง ไม่ได้สนใจคนที่เข้ามาในห้องทำงานของเธอโดยไม่เคาะประตู
“ทำไร!”
“ว้าย!! อีต่อตกใจหมด” คุณหมอสาวร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อจู่ ๆ เพื่อนรักสาวสองสุดหล่อของเธอก็เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง
“อีใบ มึงร้องดังขนาดนั้น เดี๋ยวคนเขารู้หมดว่ากูเป็น...” ถึงสังคมจะเปิดกว้างแค่ไหน แต่จะให้ใครรู้ว่าคุณหมอหนุ่มหล่อเพื่อนสนิทของเธอเป็นอีต่อไม่ใช่ไอ้ต่อ...ไม่ได้
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะที่บ้านของท่านต่อหรือคุณชายตระการยังไม่ยอมรับเรื่องเพศสภาพที่สามอย่างไรเล่า
เมื่อคุณชายปู่รับไม่ได้และขู่ว่าจะตัดออกจากกองมรดก ตระการถึงกับต้องแอ๊บไว้ก่อน ใครจะว่าเขาเห็นแก่เงินก็ช่าง เพราะชีวิตมันต้องใช้เงินจริง ๆ
มรดกพันล้าน ใครจะยอมให้ตัดออก
“เออ โทษที ปิดประตูหรือยัง”
ใบบุญญามองไปทางประตูห้องทำงานของเธอ ทุกห้องจะเก็บเสียงอย่างดีเพราะเรื่องของคนไข้เป็นความลับที่จะหลุดรอดออกไปไม่ได้
“ปิดแล้ว แกดูอะไรอยู่ หน้าเครียดใจลอยเชียว” ตระการถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“คนไข้ซูเปอร์วีไอพีน่ะแก เออแก ถามหน่อยสิ ปกติแกเคยแบบว่าแข็งแล้วอ่อนทันทีเลยไหม” ใบบุญญาตัดสินใจถามเพื่อนสนิท เรื่องแบบนี้เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปถามใคร
“อะไรแข็ง ๆ อ่อน ๆ ของมึง กูงง”
“ไอ้นั่นไง ของผู้ชายอะ” ตระการมองหน้าเพื่อนสาวผู้ไม่เคยมีแฟนอย่างตื่นตะลึง
“มึงถามทำไม อย่าบอกนะว่ามึง...”
“หยุดค่ะเพื่อนต่อ เพื่อนของคุณยังเป็นสาวเวอร์จินที่ยังไม่เคยมีสิ่งใดมาทำให้บัลลังก์ของเวอร์จินสั่นคลอน”
สาวเวอร์จินผู้ยังไม่เคยแม้แต่มีอารมณ์ทางเพศพูดขึ้นก่อนที่ตระการจะคิดไปเรื่อยเปื่อย เรื่องความมโนและมั่นหน้าต้องยกให้เพื่อนต่อของใบ
“มึงมันคนบาปค่ะอีใบ สุขใดจะเท่าสุขบนเตียงที่ผู้ชายกระแทกกระทั้นเข้าใส่ คิดแล้วเปรี้ยวปาก”
ตระการผู้อดอยากปากแห้งในช่วงนี้พูดขึ้นอย่างถึงพริกถึงขิง เพราะอยู่กันตามลำพังระหว่างเพื่อน อยากพูดอะไรก็พูด อยากทำอะไรก็ทำได้เต็มที่
“จ้า ตกลงว่าไง มันเหี่ยวทันทีได้เลยไหมอีต่อ” ใบบุญญาถามอย่างอยากรู้ เพราะเท่าที่เธอจับของคุณอินน์ มันก็เหี่ยวทันทียิ่งกว่าจู๋ทะเลที่พ่นน้ำแล้วเหี่ยวซะอีก
“บ้า! ถามอะไรน่าเกลียด” ตระการทัดหูด้วยผมทิพย์และทำท่าเอียงอาย
“อย่ากระแดะมึง เร็ว กูอยากรู้” ใบบุญญาเร่งเร้าเพื่อนสนิท เวลาอยู่กันตามลำพัง เพื่อนเธอจะกลายร่างจากจิตแพทย์หนุ่มมาดเท่เป็นปลาทันที
ปลาหรือไส้เดือนโดนเสียมกันนะ มันถึงได้สะดีดสะดิ้งขนาดนี้
“โอย อีนี่ขัดใจ มึงก็เคยเรียนมาไหมอีใบ มันต้องแตกก่อน ไม่แตกจะเอาอะไรมาเหี่ยว นอกจากจู่ ๆ หมดอารมณ์ เช่นเจอเรื่องตกใจมาก ๆ หรือคู่นอนตดไรงี้”
คำตอบของตระการทำให้คนฟังอย่างใบบุญญาถึงกับขำ ตดเนี่ยนะ มีอะไรกันอยู่แล้วตดเนี่ยนะ
“แปลก” เธอรำพึง นึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เธอเพิ่งจับแล้วหดเมื่อไม่กี่วันก่อน
[1] ภูมิ พระเอกจากเรื่อง ฉันเป็นลูกสาวของนางร้าย
ครั้งที่แม่เล่าให้เธอฟัง มนทนาคิดว่าแม่น่าจะโม้เพื่อไม่ให้เธอกลัวแค่นั้นใครจะคิดว่าสิ่งที่แม่พูดเป็นจริง ความเจ็บที่เคยมีหายไปจนหมดแทบๆไม่มีความเจ็บปวดอะไรเหลือค้างเลยแม้แต่น้อย เจ้าลูกชายตัวอ้วนกลมแก้มน่ารักน่าหยิก หน้าตาออกมาเหมือนพ่อราวกับโขกออกมาจากใบหน้าของผู้เป็นพ่อ“น้องตฤณ ตฤณกุล (ตริน-กุล) – ผู้ที่สร้างความสมบูรณ์ให้กับตระกูล เพราะไหมครับปู่ทวดของลูกเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้นะครับ”เจ้าสัวไตรเป็นผู้ตั้งชื่อตฤณกุลให้เหลนตัวน้อยเพราะว่าเหลนคนนี้เป็นคนที่มาสร้างความสมบูรณ์ให้กับตระกูล หลังจากที่ท่านเจ้าสัวได้หมดหวังเรื่องการมีทายาทไปแล้วสองปีผ่านไปเด็กชายตฤณกุลกำลังนั่งเขี่ยแก้มเด็กหญิงเล่นอย่างอารมณ์ดี เด็กหญิงที่ว่าคือน้องตชญา (ตะ-ชะ-ยา) ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขานั่นเองพ่อบอกเขาว่าต้องรีบออกมาไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีน้อง เขาก็เลยรีบออกมาทันทีและเวลานี้เขาก็มีน้องเป็นของตัวเองแล้ว อยากให้น้องพูดได้เร็ว ๆ น้องจะได้เรียกเขาว่าพี่“ฟี่” เด็กชายวัยสองขวบที่พูดยังไม่ค่อยชัดกำลังสอนเด็กหญิงที่เพิ่งคลอดได้สามวันพูด“ไม่ใช่พี่ครับตฤณ นี่เรียกว่าน้อง” ตระการบอกกับลูกชายที่เรียกน
แต่ผัวรักอย่างตระการทั้งอาเจียน ทั้งเวียนหัว ทั้งอยากกินอะไรแปลก ๆ แทบทุกวัน อาการที่เป็นมันยิ่งกว่าบทพิสูจน์ว่าเขากำลังแพ้ท้องแทนเธอแต่ในเมื่อผัวรักบอกไม่ใช่ เมียที่รักผัวมากอย่างเธอจะทำอะไรได้นอกจากตามใจผัวว่าไงเมียก็ว่าอย่างนั้นมื้อเช้าของวันในบ้านหลังใหญ่ที่มีเจ้าสัวไตรเป็นประธานนั่งหัวโต๊ะ เจ้าสัวย้ายมาอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่ปลูกบ้านให้หลานชายกับหลานสะใภ้เสร็จเป้าหมายของชายสูงวัยคือได้อยู่เลี้ยงเหลนที่กำลังจะมาเกิดแต่วันนี้ทุกคนต้องขมวดคิ้วกับเมนูตรงหน้าทันที“นี่อะไรเหรอ” เจ้าสัวไตรเอ่ยถามแม่บ้านคนพื้นที่ทันที“อันนี้แอ๊บอ่องออเจ้า หมอต่ออยากกินเจ้า” แอบอ่องออหรือสมองหมูนั่นเอง“แล้วอันนี้ละ” เจ้าสัวถามอีกเมนูที่หน้าตาคล้าย ๆ กันแต่เขาต้องถามให้แน่ในเพราะบางอย่างท่านเจ้าสัวก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะกินได้หรือเปล่า“อันนี้ แอบปลาเหยี่ยนเจ้า” คำตอบของแม่บ้านทำเจ้าสัวขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม“ปลาไหลไทยนะคะ” มนทนาอธิบาย ส่วนคนที่ขอเมนูนี้กำลังเดินไหล่ห่อเหี่ยวลงมาจากชั้นสอง ทันทีที่ได้เห็นเมนูทั้งสองที่ตัวเองอยากกิน จากไหล่ห่อเหี่ยวก็กลับตั้งตรงมีชีวิตชีวาทันที“น่ากินทุกอย่างเลย” สายตาเป็นป
‘มหากิจบำรุงสกุล’แน่นอนว่านามสกุลนี้ในประเทศไทยอาจไม่รู้จักทุกคน แต่เชื่อเลยว่าวงสังคมชั้นสูงหรือแม้แต่พวกข้าราชการอย่างพวกเขารู้จักเป็นอย่างดีไตร มหากิจบำรุงสกุลเป็นเจ้าสัวระดับหมื่นล้านแสนล้านด้วยอำนาจเงินและบารมีที่สร้างสมมาอย่างยาวนาน ใครจะกล้ามีเรื่องด้วยธวัชรีบพิมพ์ชื่อของตระการ พร้อมทั้งนามสกุลลงบนช่องทางการค้นหาทันทีและภาพที่ชายหนุ่มถ่ายรูปกับผู้เป็นปู่และพ่อในงานวันเกิดเมื่อไม่กี่เดือนของเจ้าสัวก็ปรากฎชัดหลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ“เพราะแบบนี้สินะ อีมณีถึงได้กล้าหือกับกู”ธวัชเอ่ยอย่างโมโห แต่เขาคงทำอะไรไม่ได้ ก็ใครจะกล้าเอาไม้จิ้มฟันไปงัดกับท่อนซุงขนาดใหญ่แบบเจ้าสัวไตรบทที่ 6 อารมณ์ไม่ดีหกเดือนผ่านไปน้องชายของมนทนาเดินทางไปเรียนต่อตามที่เขาได้ตั้งใจ“ค่าเทอมแค่นี้เองเหรอ” มณีเอ่ยถามลูกชายในวันที่ต้องจ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่าตัวเครื่องบินให้ลูกเป็นจำนวนเงินแสนกว่าบาท“ก็เท่านี้แหละแม่ โฟว์เรียนดีไงได้ส่วนลด”“เข้าไปเถอะได้เวลาแล้ว” มนทนาเอ่ยตัดบทสนทนาระหว่างแม่กับลูกชายกลัวว่าน้องชายเธอจะหลุดจำนวนเงินที่แท้จริงออกมาจำนวนเงินที่แท้จริงมากกว่าที่ชายหนุ่มแจ้งผู้เป็นแม่ไปมากโข
แต่วันนี้เธอไม่กลัวคนตรงหน้าเพราะมีลูกสาวและว่าที่ลูกเขยอยู่เคียงข้าง“ทำอะไรกันอยู่ทำไมเปิดประตูช้า” ชายวัยเกือบหกสิบบ่นทันทีที่ลูกสาวเปิดประตูร้านให้เข้ามาด้านใน นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่เคยพบเจอคนตรงหน้าเธอคงลืมหน้าเขาไปแล้วหากไม่มีทีวี ใช่ตลอดเวลาที่เธอ แม่และน้องโดนไล่ครั้งนั้นพวกเราก็ไม่เคยพบเจอผู้ชายตรงหน้าอีกเลยจนเมื่อไม่นานมานี้มีอินฟลูท่านหนึ่งมาถ่ายรีวิวร้านข้าวแกงของแม่เธอทำให้ผู้ชายคนนี้กลับเข้ามาในวงจรชีวิตของพวกเธอสามแม่ลูกอีกครั้ง“ขอน้ำหน่อยร้อน”“มีอะไรก็พูดมา” มณีเอ่ยถามทันที พร้อมทั้งปลายตาไปยังป้ายที่ติดหร่าอยู่กลางร้าน ‘น้ำดื่มฟรีบริการตัวเอง’ อยากกินก็เดินไปเองควายมันต้องเดินหาปลัก ไม่ใช่ให้ปลักต้องเดินมาหาควายนั่นคือคำพูดที่เธอพอคิดออกในใจ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นพ่อของลูก เธอไม่อยากให้ลูกระคายใจ“คุยกับโฟว์หรือยังเรื่องเปลี่ยนนามสกุล” เมื่อไม่มีใครเอาน้ำมาให้ดื่มกินธวัชจึงเข้าเรื่องที่ต้องการพูดวันนี้ทันที“โฟว์จะใช้นามสกุลฉัน” มณีตอบอย่างมั่นใจ เรื่องนี้เธอคุยกับลูกแล้ว“หึ! เธอนี่เห็นแก่ตัวจริง ๆ มณี ถ้าลูกเปลี่ยนกลับมาใช้นามสกุลฉันรู้ไหมว่าลูกจะได้อะไร ลูกจ
“ปากร้าย” เธอตัดพ้อ“ก็ตอนนั้นนี่นา แต่ตอนนี้เอาจนพรุนแล้วคงไม่ต้องให้พูด” ก็จริงอย่างเขาว่าจากอารมณ์พาไปในวันนั้นจนถึงวันนี้เขากับเธอเหมือนจะขาดกันไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง“เรายังไม่เคยลองหน้ากระจกเลยใช่ไหม” ตาเป็นประกายของตระการเอ่ยถาม“ยังเลย” คนตอบกลับก็ตาเป็นประกายเช่นกัน“มีท่าที่ทรีอยากลองไหม” เขาเอ่ยถามในขณะที่จัดการกับเสื้อยืดสีขาวออกจากร่างบาง เสื้อยืดที่มีบราในตัวเมื่อถอดออกก็เหลือเพียงก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีมือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป“เมื่อก่อนเห็นนมทีไรวิ่งหนี แต่พอนมทรีทำไมเราวิ่งเข้าใส่วะ” คำถามที่มีคำตอบอยู่ในตัว ทำคนฟังหัวเราะชอบใจ“เมื่อก่อนเราไม่เคยเห็นนะ” เธอพูดพร้อมทั้งลับไล้สิ่งที่บอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน“แต่เวลานี้ก็วิ่งให้เธอใส่เหมือนกน” วิ่งเข้าใส่ที่บ่งบอกว่าใส่อะไรเมื่อร่างบางเบียดสิ่งที่วิ่งให้เขาสอดใส่“หื่นนะเรา”“อืม นิดหนึ่ง” สาวห้าวยอมรับพร้อมทั้งหัวเราะชอบใจ“สรุปเราสองคนมันก็พวกกลืนน้ำลายตัวเอง” ตระการนิยายสิ่งที่เธอกับเขาเป็น มือหนารั้งกางเกงบางให้พ้นออกจากสะโพกและเรียวขา“นอกจากกลืนน้ำลายตัวเองแล้วเราว่ากลืนน้ำทรีด้วย” ว่าแล้วเขาก็ย่อตัวนั่งลง สายเรีย
เชียงใหม่แม้พยายามทำตัวให้เป็นปกติมากแค่ไหนแต่เพราะความสัมพันธ์ทางกายได้ก้าวข้ามความเป็นเพื่อนไปแล้ว คนคุ้นเคยที่อยู่กันทุกวี่วันก็มองเห็นความผิดปกตินี้โดยเฉพาะเพื่อนรักของทั้งคู่อย่างใบบุญญา‘ตักกับข้าวให้’‘แกะกุ้งให้’‘นั่น ๆ ยัยทรียิ้มหวานขอบคุณ’“อะแฮ่ม ต่อจ๋า เพื่อนใบอยากกินกุ้งมั้งแกะให้หน่อย” ขอใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อนทวงกุ้งกันหน่อย“แล้วผัวแกไปไหน” นั่นไง นั่นไง ทุกคนเห็นไหม สองมาตรฐานชัด ๆ“ผัวไม่มาก็แปลว่าไม่มีไง แกะให้หน่อย” ใบบุญญายังใช้ลูกอ้อนที่เคยใช้ประจำ ตระการแกะกุ้งวางบนจานของเพื่อนใบอย่างว่าง่ายแต่เดี๋ยวนะ“ทำไมของเราตัวนิดเดียวอ่ะ ของทรีตัวใหญ่มาก”“หมอใบครับ แกะก็แกะให้แล้ว อย่าเรื่องมากได้ป่ะ”“ฉันว่าแกสองคนแปลก ๆ อ่ะ ปกติตีกันฉ่ำทำไมวันนี้ ทุกอย่างดูเปลี่ยนไป” จิตแพทย์สาวหรี่ตามองเพื่อนทั้งสอง คนโดนมอง“มีอะไรเล่าคิดมาก เพื่อนกันทั้งนั้น” มนทนาปฏิเสธใบหน้านักจิตวิทยาสาวเห่อร้อนด้วยความเขินอาย“ใครเพื่อนแก” ใบหน้างามหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อโดนเขาดุ ตลอดเวลาเธอคิดว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตลอด นี่เขาไม่ได้คิดอย่างเดียวกับเธอหรอกหรือ“หมายความว่ายังไง” สาวห้าวขึงต