“ทำไมมึงไปจับของใครมา เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงหรือเปล่ามึง ถึงได้เหี่ยวทันที”
ตระการถามอย่างสงสัย ผู้ชายที่ใกล้ตัวใบบุญญาที่สุดเวลานี้มีแต่เขากับญาติของหญิงสาวเท่านั้น ไม่น่าจะไปเจอใครให้จับได้
“คนไข้”
“อีใบ! มึงจะกินคนไข้เหรอ ผิดจรรยาบรรณนะ ไหน ๆ เอามาให้เพื่อนต่อดูหน่อย หล่อไหม” คนบอกว่าผิดจรรยาบรรณกลับอยากดูรูปเสียอย่างนั้น
“โนค่ะเพื่อน แพทย์ที่ดีไม่เปิดเผยความลับของคนไข้ ผิดจรรยาบรรณนะเรา อีกอย่างเพื่อนใบไม่ได้จะกินเขาค่ะ แค่สำรวจอาการเข้าใจไหมคะ สำรวจอาการ” คำพูดของใบบุญญาทำคนฟังเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
“น่าจะเป็น SAD[1] เขาเคยมีเซ็กซ์ไหม”
“น่าจะเป็น SAD เขาเคยมีเซ็กซ์ไหม”
ตระการเวลาเป็นการเป็นงานจะเป็นอีกคนทันที เขามีองค์ความรู้มากกว่าเธอ ต้องเรียกว่าที่เธอเรียนเฉพาะทางจบมาได้ อีกฝ่ายมีบุญคุณกับใบบุญญามากทีเดียว
“เออ เราลืมไปเลย Sexual Aversion Disorder หรือโรครังเกียจการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนมากที่เราเคยเจอจะเป็นผู้หญิงไงต่อ เราไม่เคยเจอเคสผู้ชายมาก่อน” ใบบุญญารำพึงกับเพื่อน
“ใบส่งเคสมาให้เราก็ได้ เดี๋ยวเราดูต่อ”
ตระการเป็นห่วงเพื่อนจึงขันอาสา แต่ใบบุญญากลับรีบสั่นหน้า ได้อย่างไรกันเล่า เรื่องนี้เป็นความลับ ลับสุดยอดถ้ามันหลุดออกไป เธอมีแต่ตายกับตาย
“ไม่ได้แก เรื่องนี้เกี่ยวกับความเป็นความตายของคลินิกเรา”
ความลับระดับสิบ จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าคุณอินน์ ไฮโซชื่อดังเมืองเหนือเป็นโรคไข่หดไม่ได้ รู้ไปถึงไหน คุณหมอใบบุญญาเตรียมตัวตายได้เลย
ไม่ได้...หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเสียใบบุญญาไม่มีทางให้ใครมาจับไข่คุณอินน์...เอ่อ เดี๋ยวนะหมอใบ
หมายถึงว่าไม่ให้ใครมารู้ความลับคุณอินน์เป็นอันขาด
“ตามใจ!” ตระการเองก็ไม่อยากใส่ใจ ถ้าเพื่อนบอกเป็นความลับก็ความลับ แต่ขอแซวเพื่อนสักนิดได้ไหม
“มึงก็เป็น Asexual[1] น่าจะรักษาพร้อมกันดู แบบว่าความสัมพันธ์แกะกล่องด้วยกันทั้งคู่อะไรงี้”
“บ้า!!! ไหนแกบอกไม่ให้ฉันยุ่งกับคนไข้ไง” คนไม่อยากยุ่งกับคนไข้และไม่อยากให้ใครจับไข่คนไข้ของเธอถึงกับแหวใส่เพื่อน
“โอ๊ย! หมอใบคะ ไม่ใช่เรื่องผิดศีลไหมคะ ถ้าเขาโสด คุณหมอใบก็โสด โรคนี้ฉันเคยได้ยินว่าต้องใช้การสะกดจิตถึงจะหาย แต่อย่างที่แกรู้ว่าบ้านเรายังไม่รองรับเรื่องการสะกดจิต แกอาจต้องบำบัดแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนมากคนไข้มักเกิดจากปมในใจ”
ใบบุญญาพยักหน้าเข้าใจเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับวงการจิตแพทย์ มีผู้คนมากมายป่วยด้วยเรื่องเพศ แต่ในสังคมคนไทยยังมองว่าเรื่องทางเพศนั้นน่าอาย
อย่างเช่นการใช้เซ็กซ์ทอยนั่นแหละ เป็นของผิดกฎหมาย แต่คนกลับหาทางออกโดยการมีชู้ ข่มขืน หรือแม้แต่ซื้อบริการทางเพศ ประเทศที่มองการมีชู้หรือนอกใจแฟนเป็นเรื่องปกติ แต่ของเล่นที่ใช้หาความสุขให้ตนเองโดยไม่เบียดเบียนใครกลับเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
บางครั้งประเพณีหรือความยึดติดบางอย่างควรที่จะยกเลิกไปได้แล้ว ชีวิตทำไมต้องทำให้มันยาก กิน ขี้ ปี้ นอน มันเรื่องปกติ ตราบใดที่เราไม่ได้ไปผิดลูกผิดเมียใคร เรื่องของธรรมชาติควรจะยอมรับและเปิดรับกันเสียที
“คิดอะไรแก” ตระการเท้าคางมองหน้าเพื่อนสาว เมื่อเห็นเพื่อนจิตหลุดไปจากบทสนทนา
“ทำไมแกไม่ชอบผู้หญิง แกรู้ตอนไหน” ใบบุญญาไม่เคยถามเพื่อนเรื่องนี้มาก่อน สำหรับเธอ เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่เคยมองว่าเพื่อนเป็นเพศไหน
“ทำไมน่ะเหรอ ไม่รู้สิ ฉันไม่มีความรู้สึกเลยเวลามองผู้หญิง มันเหมือนกับมองเพื่อน มองแม่ มองน้อง แต่กับผู้ชาย ทุกกล้ามเนื้อบนตัวเขาทำให้ฉันหัวใจเต้นและแข็งอะแก” ตระการเองเพิ่งจะรู้ตัวเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เขาเรียนโรงเรียนชายล้วนที่สอบเข้ายากที่สุด
ตระการเป็นนักเรียนระดับหัวกะทิของห้องและสอบติดแพทย์อย่างที่ทางบ้านต้องการ
“เซ็กซ์ครั้งแรกของแกกับใคร” จิตแพทย์สาวเพื่อนรักถามอย่างอยากรู้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่กล้าถามเรื่องนี้ แต่เพราะอายุที่มากขึ้น ได้พบเจอคนไข้มากมาย ทำให้เข้าใจโลกมากขึ้น
“เพื่อนกันนี่แหละ อีนี่ถามไรเนี่ย”
“เริ่มไงวะ” ใบบุญญาดวงตาเป็นประกายด้วยความอยากรู้
“ของแบบนี้อารมณ์มันก็พาไปแหละ เดี๋ยวแกมีก็รู้เอง” ตระการไม่ยอมเล่า เรื่องครั้งแรกมันก็ต้องเก็บไว้ในความทรงจำสิ ใครจะเล่าง่าย ๆ
“ถ่ายรูปมึงท่านี้ส่งไปให้เจ้าคุณปู่มึงดูดีกว่า” ท่าที่ว่าคือท่าเท้าคางของเพื่อนรักที่ตาจิกกล้องอย่างมีจริต
“อย่าเชียวนะอีใบ!”
[1] Asexual เป็นอาการขาดความสนใจทางเพศ
[1] ความรังเกียจทางเพศ (Sexual Aversion Disorder: SAD)
ครั้งที่แม่เล่าให้เธอฟัง มนทนาคิดว่าแม่น่าจะโม้เพื่อไม่ให้เธอกลัวแค่นั้นใครจะคิดว่าสิ่งที่แม่พูดเป็นจริง ความเจ็บที่เคยมีหายไปจนหมดแทบๆไม่มีความเจ็บปวดอะไรเหลือค้างเลยแม้แต่น้อย เจ้าลูกชายตัวอ้วนกลมแก้มน่ารักน่าหยิก หน้าตาออกมาเหมือนพ่อราวกับโขกออกมาจากใบหน้าของผู้เป็นพ่อ“น้องตฤณ ตฤณกุล (ตริน-กุล) – ผู้ที่สร้างความสมบูรณ์ให้กับตระกูล เพราะไหมครับปู่ทวดของลูกเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้นะครับ”เจ้าสัวไตรเป็นผู้ตั้งชื่อตฤณกุลให้เหลนตัวน้อยเพราะว่าเหลนคนนี้เป็นคนที่มาสร้างความสมบูรณ์ให้กับตระกูล หลังจากที่ท่านเจ้าสัวได้หมดหวังเรื่องการมีทายาทไปแล้วสองปีผ่านไปเด็กชายตฤณกุลกำลังนั่งเขี่ยแก้มเด็กหญิงเล่นอย่างอารมณ์ดี เด็กหญิงที่ว่าคือน้องตชญา (ตะ-ชะ-ยา) ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขานั่นเองพ่อบอกเขาว่าต้องรีบออกมาไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีน้อง เขาก็เลยรีบออกมาทันทีและเวลานี้เขาก็มีน้องเป็นของตัวเองแล้ว อยากให้น้องพูดได้เร็ว ๆ น้องจะได้เรียกเขาว่าพี่“ฟี่” เด็กชายวัยสองขวบที่พูดยังไม่ค่อยชัดกำลังสอนเด็กหญิงที่เพิ่งคลอดได้สามวันพูด“ไม่ใช่พี่ครับตฤณ นี่เรียกว่าน้อง” ตระการบอกกับลูกชายที่เรียกน
แต่ผัวรักอย่างตระการทั้งอาเจียน ทั้งเวียนหัว ทั้งอยากกินอะไรแปลก ๆ แทบทุกวัน อาการที่เป็นมันยิ่งกว่าบทพิสูจน์ว่าเขากำลังแพ้ท้องแทนเธอแต่ในเมื่อผัวรักบอกไม่ใช่ เมียที่รักผัวมากอย่างเธอจะทำอะไรได้นอกจากตามใจผัวว่าไงเมียก็ว่าอย่างนั้นมื้อเช้าของวันในบ้านหลังใหญ่ที่มีเจ้าสัวไตรเป็นประธานนั่งหัวโต๊ะ เจ้าสัวย้ายมาอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่ปลูกบ้านให้หลานชายกับหลานสะใภ้เสร็จเป้าหมายของชายสูงวัยคือได้อยู่เลี้ยงเหลนที่กำลังจะมาเกิดแต่วันนี้ทุกคนต้องขมวดคิ้วกับเมนูตรงหน้าทันที“นี่อะไรเหรอ” เจ้าสัวไตรเอ่ยถามแม่บ้านคนพื้นที่ทันที“อันนี้แอ๊บอ่องออเจ้า หมอต่ออยากกินเจ้า” แอบอ่องออหรือสมองหมูนั่นเอง“แล้วอันนี้ละ” เจ้าสัวถามอีกเมนูที่หน้าตาคล้าย ๆ กันแต่เขาต้องถามให้แน่ในเพราะบางอย่างท่านเจ้าสัวก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะกินได้หรือเปล่า“อันนี้ แอบปลาเหยี่ยนเจ้า” คำตอบของแม่บ้านทำเจ้าสัวขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม“ปลาไหลไทยนะคะ” มนทนาอธิบาย ส่วนคนที่ขอเมนูนี้กำลังเดินไหล่ห่อเหี่ยวลงมาจากชั้นสอง ทันทีที่ได้เห็นเมนูทั้งสองที่ตัวเองอยากกิน จากไหล่ห่อเหี่ยวก็กลับตั้งตรงมีชีวิตชีวาทันที“น่ากินทุกอย่างเลย” สายตาเป็นป
‘มหากิจบำรุงสกุล’แน่นอนว่านามสกุลนี้ในประเทศไทยอาจไม่รู้จักทุกคน แต่เชื่อเลยว่าวงสังคมชั้นสูงหรือแม้แต่พวกข้าราชการอย่างพวกเขารู้จักเป็นอย่างดีไตร มหากิจบำรุงสกุลเป็นเจ้าสัวระดับหมื่นล้านแสนล้านด้วยอำนาจเงินและบารมีที่สร้างสมมาอย่างยาวนาน ใครจะกล้ามีเรื่องด้วยธวัชรีบพิมพ์ชื่อของตระการ พร้อมทั้งนามสกุลลงบนช่องทางการค้นหาทันทีและภาพที่ชายหนุ่มถ่ายรูปกับผู้เป็นปู่และพ่อในงานวันเกิดเมื่อไม่กี่เดือนของเจ้าสัวก็ปรากฎชัดหลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ“เพราะแบบนี้สินะ อีมณีถึงได้กล้าหือกับกู”ธวัชเอ่ยอย่างโมโห แต่เขาคงทำอะไรไม่ได้ ก็ใครจะกล้าเอาไม้จิ้มฟันไปงัดกับท่อนซุงขนาดใหญ่แบบเจ้าสัวไตรบทที่ 6 อารมณ์ไม่ดีหกเดือนผ่านไปน้องชายของมนทนาเดินทางไปเรียนต่อตามที่เขาได้ตั้งใจ“ค่าเทอมแค่นี้เองเหรอ” มณีเอ่ยถามลูกชายในวันที่ต้องจ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่าตัวเครื่องบินให้ลูกเป็นจำนวนเงินแสนกว่าบาท“ก็เท่านี้แหละแม่ โฟว์เรียนดีไงได้ส่วนลด”“เข้าไปเถอะได้เวลาแล้ว” มนทนาเอ่ยตัดบทสนทนาระหว่างแม่กับลูกชายกลัวว่าน้องชายเธอจะหลุดจำนวนเงินที่แท้จริงออกมาจำนวนเงินที่แท้จริงมากกว่าที่ชายหนุ่มแจ้งผู้เป็นแม่ไปมากโข
แต่วันนี้เธอไม่กลัวคนตรงหน้าเพราะมีลูกสาวและว่าที่ลูกเขยอยู่เคียงข้าง“ทำอะไรกันอยู่ทำไมเปิดประตูช้า” ชายวัยเกือบหกสิบบ่นทันทีที่ลูกสาวเปิดประตูร้านให้เข้ามาด้านใน นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่เคยพบเจอคนตรงหน้าเธอคงลืมหน้าเขาไปแล้วหากไม่มีทีวี ใช่ตลอดเวลาที่เธอ แม่และน้องโดนไล่ครั้งนั้นพวกเราก็ไม่เคยพบเจอผู้ชายตรงหน้าอีกเลยจนเมื่อไม่นานมานี้มีอินฟลูท่านหนึ่งมาถ่ายรีวิวร้านข้าวแกงของแม่เธอทำให้ผู้ชายคนนี้กลับเข้ามาในวงจรชีวิตของพวกเธอสามแม่ลูกอีกครั้ง“ขอน้ำหน่อยร้อน”“มีอะไรก็พูดมา” มณีเอ่ยถามทันที พร้อมทั้งปลายตาไปยังป้ายที่ติดหร่าอยู่กลางร้าน ‘น้ำดื่มฟรีบริการตัวเอง’ อยากกินก็เดินไปเองควายมันต้องเดินหาปลัก ไม่ใช่ให้ปลักต้องเดินมาหาควายนั่นคือคำพูดที่เธอพอคิดออกในใจ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นพ่อของลูก เธอไม่อยากให้ลูกระคายใจ“คุยกับโฟว์หรือยังเรื่องเปลี่ยนนามสกุล” เมื่อไม่มีใครเอาน้ำมาให้ดื่มกินธวัชจึงเข้าเรื่องที่ต้องการพูดวันนี้ทันที“โฟว์จะใช้นามสกุลฉัน” มณีตอบอย่างมั่นใจ เรื่องนี้เธอคุยกับลูกแล้ว“หึ! เธอนี่เห็นแก่ตัวจริง ๆ มณี ถ้าลูกเปลี่ยนกลับมาใช้นามสกุลฉันรู้ไหมว่าลูกจะได้อะไร ลูกจ
“ปากร้าย” เธอตัดพ้อ“ก็ตอนนั้นนี่นา แต่ตอนนี้เอาจนพรุนแล้วคงไม่ต้องให้พูด” ก็จริงอย่างเขาว่าจากอารมณ์พาไปในวันนั้นจนถึงวันนี้เขากับเธอเหมือนจะขาดกันไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง“เรายังไม่เคยลองหน้ากระจกเลยใช่ไหม” ตาเป็นประกายของตระการเอ่ยถาม“ยังเลย” คนตอบกลับก็ตาเป็นประกายเช่นกัน“มีท่าที่ทรีอยากลองไหม” เขาเอ่ยถามในขณะที่จัดการกับเสื้อยืดสีขาวออกจากร่างบาง เสื้อยืดที่มีบราในตัวเมื่อถอดออกก็เหลือเพียงก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีมือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป“เมื่อก่อนเห็นนมทีไรวิ่งหนี แต่พอนมทรีทำไมเราวิ่งเข้าใส่วะ” คำถามที่มีคำตอบอยู่ในตัว ทำคนฟังหัวเราะชอบใจ“เมื่อก่อนเราไม่เคยเห็นนะ” เธอพูดพร้อมทั้งลับไล้สิ่งที่บอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน“แต่เวลานี้ก็วิ่งให้เธอใส่เหมือนกน” วิ่งเข้าใส่ที่บ่งบอกว่าใส่อะไรเมื่อร่างบางเบียดสิ่งที่วิ่งให้เขาสอดใส่“หื่นนะเรา”“อืม นิดหนึ่ง” สาวห้าวยอมรับพร้อมทั้งหัวเราะชอบใจ“สรุปเราสองคนมันก็พวกกลืนน้ำลายตัวเอง” ตระการนิยายสิ่งที่เธอกับเขาเป็น มือหนารั้งกางเกงบางให้พ้นออกจากสะโพกและเรียวขา“นอกจากกลืนน้ำลายตัวเองแล้วเราว่ากลืนน้ำทรีด้วย” ว่าแล้วเขาก็ย่อตัวนั่งลง สายเรีย
เชียงใหม่แม้พยายามทำตัวให้เป็นปกติมากแค่ไหนแต่เพราะความสัมพันธ์ทางกายได้ก้าวข้ามความเป็นเพื่อนไปแล้ว คนคุ้นเคยที่อยู่กันทุกวี่วันก็มองเห็นความผิดปกตินี้โดยเฉพาะเพื่อนรักของทั้งคู่อย่างใบบุญญา‘ตักกับข้าวให้’‘แกะกุ้งให้’‘นั่น ๆ ยัยทรียิ้มหวานขอบคุณ’“อะแฮ่ม ต่อจ๋า เพื่อนใบอยากกินกุ้งมั้งแกะให้หน่อย” ขอใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อนทวงกุ้งกันหน่อย“แล้วผัวแกไปไหน” นั่นไง นั่นไง ทุกคนเห็นไหม สองมาตรฐานชัด ๆ“ผัวไม่มาก็แปลว่าไม่มีไง แกะให้หน่อย” ใบบุญญายังใช้ลูกอ้อนที่เคยใช้ประจำ ตระการแกะกุ้งวางบนจานของเพื่อนใบอย่างว่าง่ายแต่เดี๋ยวนะ“ทำไมของเราตัวนิดเดียวอ่ะ ของทรีตัวใหญ่มาก”“หมอใบครับ แกะก็แกะให้แล้ว อย่าเรื่องมากได้ป่ะ”“ฉันว่าแกสองคนแปลก ๆ อ่ะ ปกติตีกันฉ่ำทำไมวันนี้ ทุกอย่างดูเปลี่ยนไป” จิตแพทย์สาวหรี่ตามองเพื่อนทั้งสอง คนโดนมอง“มีอะไรเล่าคิดมาก เพื่อนกันทั้งนั้น” มนทนาปฏิเสธใบหน้านักจิตวิทยาสาวเห่อร้อนด้วยความเขินอาย“ใครเพื่อนแก” ใบหน้างามหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อโดนเขาดุ ตลอดเวลาเธอคิดว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตลอด นี่เขาไม่ได้คิดอย่างเดียวกับเธอหรอกหรือ“หมายความว่ายังไง” สาวห้าวขึงต