บทที่ 4 บ้านพี่ยังมีห้องว่างนะครับ
อาจารย์นะอาจารย์สั่งงานเหมือนสอนเป็นคลาสสุดท้ายก่อนวันสิ้นโลก เฮ้อ...หมดกันวันหยุดที่แสนสดใสของฉันกะว่าจะนอนพักสมองอยู่หอเฉยๆ ซะหน่อย “ไม่รู้แกจะสั่งงานอะไรเยอะขนาดนั้นเนอะ” “บ่นไปก็เท่านั้นไม่ทำเดี๋ยวก็ F แกรู้ไงสั่งงานเยอะขนาดไหนนักศึกษาอย่างพวกเราก็ต้องทำอยู่แล้ว” ฉันละอยากจะวาข้ามไปตอนรับปริญญาเลย “นั่นสินะ งั้นฉันกลับก่อนแล้วกันแยกกันตรงนี้เลยนะแกลูกหมู” “อ้าว แกไม่ได้กลับกับไอ้ปกหรือไง” ปกติเห็นกลับบ้านด้วยกันทำไมวันนี้ถึงกลับก่อน “ปกมันเลิกเย็นฉันเลยว่าจะกลับไปทำงานที่อาจารย์จรรยาสั่งให้เสร็จเพราะวันเสาร์ฉันมีนัดเดทกับปก” เป็นแฟนกันแล้วจะต้องไปเดทอีกหรือไง แต่จะว่าไปฉันก็ยังไม่เคยมีโมเมนต์ได้ออกเดทกับใครเลยนี้น่า “อืม กลับดีๆ” “แล้วแกล่ะจะไปไหนต่อหรือจะไปหาพี่นนท์ที่คณะ” “ทำไมฉันต้องไปหาด้วย” “นี่ลูกหมูแกไม่รู้อะไรเลยหรือไงว่าแฟนแกน่ะฮอตและดังมากในมหาลัยรุ่นพี่รุ่นน้อง บัญชี การตลาด การโรงแรมแม้แต่เกษตรเรายังมีไปอ่อย เอ้ยไม่ใช่ยังไปนั่งรอเจอพี่เขาที่หน้าคณะเลยแกเป็นแฟนแกไม่ไปเปิดตัวเลยล่ะฉันว่าต้อวมีคนช็อกตายแน่ๆ ที่พี่นนท์มีแฟนแล้ว” ฉันมีแฟนฮอตขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ยจะว่าไปก็ไม่แปลกนายอินทนนท์เล่นเบ้าหน้าฟ้าประทานมาซะขนาดนั้น “ไม่อะฉันว่าฉันกลับไปทำรายงานของจรรยาดีกว่าวันหยุดฉันก็อยากนอนโง่ๆ เหมือนกัน” “อืม แกไม่ต้องไปคณะการตลาดแล้วล่ะ โน้นแฟนแกเดินหล่อมาโน้นแล้ว” ฉันหันไปมองทางด้านหลังก็เจอนายอินทนนท์กำลังก้าวเดินมาหาฉัน แต่จู่ๆ ก็มีกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงสี่คนคณะฉันเดินเข้าไปหานายนั่นก่อนจะคุยอะไรกันฉันไม่สามารถรับรู้ได้เพราะอยู่ไกลเลยไม่ได้ยิน “ไม่หวงหรือไงแฟนแกโดนผู้หญิงล้อมขนาดนั้น” “ไม่อะ” ถึงฉันจะบอกแบบนั้นแต่ทำไมรู้สึกไม่พอใจนิดๆ กันนะ “ลูกหมู! ตัวเงินมาหาเค้าหน่อยครับ!” “ลูกหมูแฟนแกเรียกแล้วไปสิ ฉันก็จะกลับแล้วเหมือนกัน” “เดี๋ยวสิ หน่อไม้...” ฟิ้วว มันจะรีบอะไรขนาดนั้นสับตีนแตกไปเลยหายอย่างเร็ว ฉันหันไปมองเสียงที่เรียกฉันก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาหมอนั่นอย่างจำยอม เมื่อมาถึงฉันถึงได้รู้ว่าผู้หญิงที่ล้อมตัวแฟนฉันอยู่นั้นเป็นรุ่นพี่ปีสามแถมหนึ่งในสี่ยังมีพี่น้ำฟ้าดาวคณะเกษตรอยู่ด้วย “ลูกหมูรู้จักนนท์ด้วยเหรอ” “ค่ะ” “และรู้ไหมว่านนท์มีแฟน?” “...” ฉันเงยหน้าไปมองคนตัวสูงข้างๆ ก็เห็นเขายิ้มให้ฉันอยู่พร้อมกับใช้มือโอบตัวฉันให้ชิดกับเขาอีกตั้งหาก “ทำไมจะไม่รู้ล่ะครับ เพราะลูกหมูคนนี้แหละครับแฟนผม” “จ...จริงเหรอลูกหมูเธอเป็นแฟนนนท์จริงๆ เหรอ” “ตอบไปสิครับ” ยังมีหน้ามายิ้มให้อีกทั้งที่พึ่งจะสร้างศัตรูให้ฉันแท้ๆ ดูก็รู้ว่าพี่น้ำฟ้าชอบหมอนี่แถมคำพูดเมื่อกี้ของเขาเหมือนจะทำให้พี่น้ำฟ้าคนสวยดาวคณะเกษตรอกหักดังเป๊าะอีกด้วย “ค่ะลูกหมูเป็นแฟนของพี่นนท์” “ได้ยินแล้วนะครับงั้นเราสองคนขอตัว ไปกันเถอะ” ไม่รอฟังคำตอบรับอะไรนายอินทนนท์ก็จูงมือฉันออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนจะพาเดินมาที่รถหรูที่จอดอยู่หน้าคณะของฉัน “นายสร้างศัตรูให้ฉันรู้ตัวไหม” “พี่” “อะไร” “เรียกว่าพี่นนท์เหมือนที่เรียกเมื่อกี้ไง” “ไม่ถ้าอยากให้เรียกพี่งั้นก็เป็นแค่พี่ไม่ต้องเป็นแล้วแฟน” “ก็ได้ไม่เรียกพี่ก็ได้ ถ้างั้นเรียกชื่อเล่นกันแทนแล้วกัน” “ทำไมถึงอยากให้เรียกชื่อเล่นละไหนบอกอยากมีคำเอาไว้เรียกกันสองคน” ฉันถามอย่างสงสัย “ตัวเงินตัวทองเราเอาไว้เรียกกันเวลาที่อยู่แค่สองคนก็ได้” “ทำไมล่ะ” “เธอไม่คิดเหรอว่าคำเรียกเราสองคนมันแปลกคนอื่นที่ได้ยินคงคิดว่าเราด่ากันมากกว่าน่ะสิ” น่ารักจะตายความหมายก็ดีด้วย “ก็ได้” ขับรถมาไม่นานก็ถึงหอที่ฉันพักอยู่ก่อนที่ฉันจะเปิดรถลงมา แต่ทว่านายนนท์ก็ลงมาด้วย “นายลงมาทำไม” “นนท์จะขึ้นไปส่ง” “ไม่ต้องส่งแค่ตรงนี้ก็พอ” “ไม่สนนนท์จะขึ้นไปส่งปะ” เฮ้อ เหนื่อยใจจริงๆ มีแฟนแบบนี้ “หนูลูกหมู” ฉันหันไปหาป้าเจ้าของหออย่างสงสัย “คะ?” “ตอนนี้ชั้น 3 ที่หนูอยู่ไฟดับน่ะลูก” อะไรนะไฟดับแล้วทำไมข้างล่างยังมีไฟติดอยู่เลย “จริงเหรอคะ แล้วทำไมข้างตรงนี้ไฟยังติดอยู่” “ไฟมีปัญหาแค่ชั้น 3 น่ะลูกอีกหลายวันเลยกว่าจะซ้อมเสร็จป้าว่าหนูไปอยู่กับเพื่อนก่อนดีกว่าไม่งั้นนอนไม่ได้แน่ๆ เพราะไม่มีไฟ” “หลายวันเลยเหรอคะ” ฉันถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ใช่จ๊ะ ถ้าไฟกลับมาใช้ได้แล้วเดี๋ยวป้าโทรไปแจ้ง อ๋อ...ป้าลืมบอกเนื่องจากไฟมีปัญหาค่าห้องเดือนหน้าชั้นสามเลยไม่ต้องจ่ายนะลูก” ค่าห้องไม่ต้องจ่ายงั้นเหรอจะว่าเป็นโชคดีได้ไหมเนี่ย “ค่ะ ถ้างั้นทำไฟเสร็จแล้วบอกหนูด้วยนะคะ” “จ๊ะ” ป้าคนเฝ้าหอตอบรับก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับอินทนนท์อย่างรู้กันลับหลังของลูกหมู แล้วอย่างนี้วันนี้ฉันจะไปนอนที่ไหนล่ะเนี้ยจะไปนอนกับยัยหน่อไม้ก็เกรงใจมันเพราะมันอยู่กับปกป้องห้องก็ไม่ได้ใหญ่แค่ตัวฉันก็น่าจะกินพื้นที่ไปครึ่งเตียงแน่ๆ “บ้านพี่ยังมีห้องว่างนะครับ” “หืม ใครจะอยากอยู่กัน” “ห้องติดแอร์เย็นๆ บ้านมี WiFi ให้เล่นค่าห้องก็ไม่ต้องจ่ายไม่สนใจจริงๆ เหรอครับ” “ไม่!!” #อินทนนท์# ผมพาคนที่ปฏิเสธว่าจะไม่มานอนที่บ้านผมเสียงแข็งแต่สุดท้ายก็ยอมมานอนจนได้เพราะต้องทำงานที่อาจารย์สั่ง หลังจากพาลูกหมูขึ้นไปเก็บของเก็บเสื้อผ้าบางส่วนเพื่อมานอนบ้านผม “ไหนบอกว่าจะพามานอนบ้านนนท์ไงแล้วพามาร้านทองทำไม” ผมชอบจังเลยที่เธอเรียกชื่อผมแบบนี้ถึงแม้ผมจะอยากให้เรียกว่าพี่นนท์มากกว่าก็เถอะ “นนท์นอนที่นี้มาเถอะเดี๋ยวนนท์พาไปห้อง” ผมบอกเธอก่อนจะถือกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอลงมาด้วย พาเดินไปเข้าประตูหลังบ้านเพราะข้างหน้ามีลูกค้ากำลังชื้อทองอยู่ ติ้ง! “ใหญ่ชะมัด” “เข้ามาสิ” ผมบอกเธอให้เข้ามาด้านในก่อนจะพาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดที่เป็นห้องนอนผม “ให้ฉันอยู่ห้องนี้เหรอแต่ดูเหมือนจะมีคนอยู่นะ” “ห้องนนท์เอง” “ฮะ! ไหนบอกว่ามีห้องว่างไงนายหลอกฉันงั้นเหรอ!” “ไม่ได้หลอกตอนแรกมีห้องว่างจริงๆ แต่เมื่อกี้พึ่งนึกขึ้นได้ว่าลูกพี่พรขอมานอนที่นี้ด้วยตอนนี้ห้องนั้นเลยไม่ว่างแล้ว” โกหกผมโกหกลูกพี่พรอะไรกันมีลูกที่ไหนอย่าว่าแต่ลูกเลยแฟนสักคนผมยังไม่เคยเห็น “งั้นฉันฉันไปเช่าห้องที่อื่นอยู่ก่อนก็ได้” “เธอกลัวงั้นเหรอ” ผมแกล้งพูดแหย่เธอ “กลัว หลัวอะไรทำไมฉันต้องกลัว” หึ ติดกับเพราะผมรู้ว่าเธอเป็นพวกที่ไม่ชอบโดนท้าทาย “อ้อ งั้นหรอนึกว่ากลัวที่จะต้องนอนห้องเดียวกับนนท์” “...” “ถ้ากลัวก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวนนท์หาโรงแรมแถวนี้ให้ก็ได้...” “ไม่...ไม่ต้อง เออนอนก็นอนสิใครเขาจะไปกลัวนายกัน!”ตอนพิเศษ ดำนาช่วยพ่อตา5 ปีต่อมา ห้าปีแล้วนับตั้งแต่งานแต่งงานจนตอนนี้ฉันเรียนจบมาช่วยงานที่บ้านเรียบร้อย ถึงจะบอกว่าช่วยงานที่บ้านฉันก็แค่เปิดร้านขายปุ๋ยขายยาโดยผู้สนับสนุนหลักจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีสุดที่รัก เขาเองก็มาอยู่กับฉันที่กำแพงเพชร แต่ยังคงเปิดร้านทองเหมือนเดิมแถวตัวเมื่อ เราสองคนก็ยังคงไปมากรุงเทพฯ กำแพงเพชรอยู่เรื่อย ๆ ชีวิตฉันตอนนี้มีความสุขมากเลย“หนูครับ”“ครับ หนูอยู่ตรงนี้”“ทำไมคนถึงมาบ้านเราเยอะขนาดนี้” สามีที่น่ารักเข้ามากอดฉันพร้อมกับหอมแก้มไปสองที“หนูยังไม่ได้บอกเหรอว่าวันนี้มีกิจกรรมของหมูบ้านดำนาประจำปี”“หืม ดำนา?” “ทำหน้าอย่างนี้ไม่รู้สินะ ดำนาก็คือการที่เรานำต้นกล้าหมายถึงต้นข้าวที่โตประมาณยี่สิบถึงยี่สิบห้าวันไปลงนาเพื่อปลูกน่ะ” ฉันอธิบายให้เขาเข้าใจ“แล้วที่พ่อบอกไปหว่านข้าวล่ะไม่เหมือนกันเหรอทำไมถึงต้องดำนาอีก”“เหอะ จะหว่านจะดำนาก็เหมือนกันนั่นแหละสุดท้ายก็เป็นข้าวให้เรากินกันอยู่ดี” ฉันที่ขี้เกียจอธิบายให้เขาเข้าใจจึงบอกตัดบทไป“แล้ว...”“พอเลิกสงสัยแล้วไปลองลงมือทำเองเลยดีกว่า” ฉันบอกเขาพร้อมกับจับมือไปที่รถขนกล้า“อืมได้ น่าสนุกดี” 20
บทที่ 40 อินทนนท์เป็นของลูกหมู @วันงานแต่งงาน“โห่ ฮี่โห่ ฮิ่โห่ ฮิ่โห่ ฮิ่โหยยย”“ฮิ้วววว”“ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาวใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขยเอาวะเอาเหวย ลูกเขยผู้ใหญ่นิดมาตาลาลา...”“หู้ยย..ฮา..โห่..ฮี้ว” เสียงเพลงวงลำแคนแต่งงานดังมาตั้งแต่ปากซอยก่อนจะเข้ามาถึงบ้านเจ้าสาวที่อยู่ห่างไม่ไกลบรรดาญาติฝ่ายหญิงเต้นรำตามขบวนขันหมากเพลงลำแคนอย่างสนุกสนานสร้างสีสันให้ขบวนได้เป็นอย่างดี ใช้เวลาเดินขบวนไม่นานขบวนขันหมากของอินทนนท์ก็ได้มาหยุดที่หน้าบ้านเจ้าสาวแสนสวยเป็นที่เรียบร้อย“ขอให้เพื่อนผมเข้าไปเจอเจ้าสาวหน่อยครับ” เวย์รับหน้าเอ่ยบอกคนกั้นประตูเงิน“จะเข้าไปต้องมีอะไรมาแลกนะจ๊ะ ซองไม่หนักประตูไม่เปิดจ๊ะ” ลูกเจี๊ยบบอกด้วยรอยยิ้ม“นี่เลยครับ เจ้าบ่าวเตรียมชุดใหญ่ให้เรียบร้อย” น่านที่รับหน้าที่เป็นคนถือซองยื่นซองขาวใส่เงินจำนวนหนึ่งให้ทั้งสองคนที่กั้นประตูเงินไว้ไป“ว้าว เชิญเลยจ๊ะ” เมื่อได้รับซองประตูเงินก็เปิดออกอย่างง่ายดาย“ไปเพื่อนไปหาเจ้าสาวมึงกัน” น่าน“เดี๋ยวค่ะ ยังเข้าไปไม่ได้นะคะ” เดินเข้ามาได้ไม่นานขบวนเจ้าบ่าวก็เจอเข้ากับประตูทองที่หนอไม้กับปกป้องยืนถือสร้อยทองกั้นป
บทที่ 39 พรีเวดดิ้ง“เอ็งสองคนไปถ่ายรูปติดงานแต่งกันได้แล้ว”“พรีเวดดิ้งพ่อ”“เออนั่นแหละ ไปถ่ายกันได้แล้วข้ากับเทวาเตรียมงานหมดแล้วแล้ว” “จ๊ะ” หลังจากพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยทั้งสองครอบครัวจึงแยกย้ายไปจัดเตรียมของต่างๆที่จะใช้ในงานแต่งงานอีกครั้ง ลูกหมูกับอินทนนท์พร้อมเพื่อนและพี่แยกกันไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งทุ่งนา“เนี่ยเหรอวะต้นข้าว” เวย์เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นต้นข้าวของจริงใกล้ๆ“ค่ะ ใกล้ได้เวลาเกี่ยวแล้ว”“แล้วต้นเขียวๆตรงนั้นคือข้าวเหมือนกันใช่ไหมลูกหมู” น่านชี้ไปที่ทุ่งนาอีกฝั่งที่เป็นต้นอ่อน“ใช่ค่ะ ต้นกล้าอ่อนยังไม่โต กว่าจะโตเราต้องให้น้ำให้ปุ้ยค่อยบำรุงให้ต้นข้าวโตได้ดี” ฉันอธิบายให้พวกเขาฟังก็อย่างนี้ล่ะนะคนเมืองไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้จึงไม่ค่อยรู้ถึงความลำบากของชาวนาว่าจะได้ข้าวไปให้กิน“สวยจริงๆ เหมาะแล้วที่เลือกถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี้” อินทนิลเอ่ยบอก“พร้อมถ่ายกันหรือยัง คนถ่ายพร้อมแล้วนะครับ” เวย์ ใช่แล้วพวกเราไม่ได้จ้างตากล้องมาถ่ายรูปให้เพราะพี่เวย์เองก็ถ่ายรูปแต่งรูปได้ดีมากจึงอาสาทำให้เราฟรีๆ แต่ฉันว่าจ้างจะถูกกว่าเพราะพี่เขาเล่นไปซื้อของจัดฉากจัด
บทที่ 38 หนุ่มน้อยตกน้ำ“ทนไม่ไหวแล้วโว้ย! ถ้าจะหอนดังขนาดนั้นแน่จริงก็เดินมาพูดต่อหน้าสิวะอีพวกผีเปรตขอส่วนบุญ!” ใครจะมองยังไงช่างแม่งแล้วขอทีเถอะพวกชอบนินทาคนอื่นเนี่ยชีวิตนี้คงไม่มีอะไรทำหรือไงวะถึงได้ชอบอิจฉาคนอื่นไปทั่วถ้าไม่ได้สั่งสอนวันนี้คงนอนไม่หลับ“หนูเป็นอะไร”“มานี่” ฉันลากพี่นนท์เดินตรงไปยังกลุ่มผีเปรตที่ร้องขอส่วนบุญทันที“อะ...อะไร” “ไหนคนไหนชื่อเนย!” ฉันถามพวกมันทั้งเจ็ดคนพร้อมกับมองเรียงตัวและสายตาของทุกคนก็มองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง“คนนี้สินะ พี่นนท์ชอบหน้าตาและหุ่นอย่างยัยนี่มั้ย”“ครับ?”“หนูถามว่าพี่ชอบหุ่นหน้าตาอย่างยัยนี่มั้ย?”“ไม่ครับพี่ชอบหนู ไม่สิพี่รักลูกหมูคนเดียว”“ชัดไหมยัยพวกไม้เสียบผี เขารักฉันถึงไม่สวยแน่แต่ผู้ชายที่พวกเธออยากได้เขารักฉันของใครให้รู้ซะบ้าง”“แกอีกอ้วน!”“อ้วนแล้วหนักหัวแม่...”“นิสัยเหมือนน่าตาเลยนะครับ”“คะ?”“พวกคุณทำตัวน่ารังเกียจมาก”“สุดหล่อพวกเรายังไม่ได้ทำอะไรยัยอ้วนนี่เลย จู่ๆมันก็เดินมาหาเรื่องพวกเราก่อนอย่างนี้ใครเป็นคนน่ารังเกียจกัน”“เหรอครับ แล้วการที่พวกคุณนินทาต่อว่าคนอื่นมันดีมากเลยสินะ”“พวกเราก็แค่คุยกันขำๆ
บทที่ 37 เที่ยวงานวันก็ได้เรื่องเกิดความเงียบขึ้นเมื่อได้ยินเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกหมูบอก ผู้ใหญ่นิดจ้องมองไปที่เครื่องนวดหอมพร้อมกับหหัวเราะออกมาเสียงดัง“ฮาฮ่าๆ นวดกันรึงั้นก็แล้วไป เออข้าลืมเลยว่าแม่เองให้ข้ามาตามไปกินข้าวไปๆรีบตามกันมาล่ะ” ผู้ใหญ่นิดบอกก่อนจะเดินออกจากห้องเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งห้องเกิดความเงียบทุกสายตามองตามหลังของผู้ใหญ่นิดก่อนจะหันหน้ามองกัน“จบเรื่องง่ายขนาดนี้เลย”“นี่แหละพ่อมึง จัดของเสร็จก็ลงไปกินข้าวเดี๋ยวรอนานพ่อเอ็งจะหมาบ้าเข้าอีก ลงไปกันเถอะจบเรื่องแล้ว” สาวสายหน้าเอือมระอาพร้อมกับเอ่ยบอกคนทั้งเจ็ดที่กำลังยืนอึ้งกับเหตุการณ์ก่อนหน้า“ลุกออกมาได้แล้วอินทนนท์เป็นลูกผู้ชายซะเปล่าเข้าไปแอบทำไม” เทวาเอ่ยถามลูกชายที่กำลังนั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะฟึ่บ!“โธ่ ป๊าก็พูดได้สิป๊าไม่ได้เจอแบบผมนิ”“หึ เจอแค่หมัดกับเท้าป๊าเจอปืนจ่อหัวยังไม่หลบเหมือนแกเลยไอ้ลูกชาย” เทวาว่าออกมาพร้อมกับเดินออกจากห้องไป“จริงเหรอม๊า” อินทนนท์เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“จ๊ะ ลุกขึ้นจัดการตัวเองแล้วตามม๊ามานะ” น้ำอิงบอกก่อนจะเดินตามสามีไป“ฮาฮ่า กูอยากถ่ายรูปมึงตอนนี้เอาไปเปิด
บทที่ 36 ลูกเขยเวร!“เก็บท้องไว้กินของแม่ด้วยพวกมึง” ผมเตือนมันสองตัวที่ขอเพิ่มขนมจีนน้ำยาป่าคนละสองจานแล้ว“เออ รู้แล้วแต่น้ำยาที่ใส่ขนมจีนอร่อยวะ” น่าน“จริงกูพึ่งเคยกินครั้งแรกเลย” เวย์ “พี่ก็ว่าอร่อย”“ใช่ไหมที่ผมเคยกินยังไม่อร่อยขนาดนี้เลย”“หรือเพราะพวกเราหิว” น่าน“อร่อยก็คืออร่อย ว่าแต่พี่นิลมานานแล้วเหรอพี่” เวย์เอ่ยถามอินทนิล“มาเพื่อวานตอนดึกเลย เพราะไอ้นนท์มันโทรมาบอกเรื่องเลื่อนงานแต่งงานเข้ามาม๊าป๊าเลยต้องมาเตรียมงานให้มัน” อินทนิลถือโอกาสบ่นน้องชายนิดหน่อย“ช้าเร็วผมก็แต่งอยู่แล้ว”“เออ กูรู้แต่นี่มันก็เร็วไปไหม เอาเหอะไม่มีใครขัดมึงอยู่แล้ว”“พี่นิล ป๊าม๊าไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหมคะ?” เรียกพี่นิลทีไรชอบนึกถึงปลานิลนึ่งทุกทีเลยฉัน“ใครจะว่าอะไรล่ะครับ ป๊าม๊ายินดีจะตายจะได้ลูกหมูมาเป็นลูกสะใภ้เร็วขึ้นที่สำคัญ...เตรียมตกใจสินสอดที่ป๊าม๊าขนมาให้หนูได้เลย” สินสอดอะไรอีกทองที่ให้มาพ่อแม่ฉันยังไม่แตะเลย“สินสอดอะไรอีก แล้วของที่ให้คราวก่อน...”“มันไม่เหมือนกันสิครับ อันนั้นของฝากอันนี้สินสอด” โอ้มายก๊อด! นี่สินะที่เรียกว่าตกถังข้าวสาร แหะๆ“เอ่อ...พี่นิลช่วยกระซิบบอกหนูหน่อยได้ไหม