"อุ๊ย...ผอมกว่าสวยกว่าแล้วยังไงสุดท้ายเขาก็เลือกฉัน! โฮโฮ่โฮ"(หัวเราะอย่างผู้ชนะ) *นางเอกอ้วน*
View Moreบทที่ 1 จู่ๆ ก็ได้แฟน
“ป้าเอาลูกชิ้น...” “เอากี่ไม้ดีจ๊ะคนสวย” อุ๊ยป้าก็พูดไปสวยอะกัน “10 ไม่ 20 ไม้ค่ะป้า!” กะว่าจะซื้อแค่ 10 ไม้ พอป้าคนขายชมว่าสวยปากดันเผลอพูดว่า 20 ไม้ไปซะได้แต่ไม่เป็นไรลูกหมูคนนี้กินหมดอยู่แล้วของชอบซะอย่าง “นี่จ๊ะ 20 ไม้กินให้อร่อยนะลูก” ฉันจ่ายเงินพร้อมกับรับถุงลูกชิ้นปิ้งมาถือไว้ก่อนจะรีบเดินกลับหอพักเพื่อกลับไปเปิดแอร์นอนกินลูกชิ้นที่ซื้อมาอย่างสบายใจเพราะทนอากาศร้อน ร้อนจัดของประเทศไทยไม่ไหวเดินออกจากห้องทีเหมือนซ้อมลงกระทะทองแดงทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ “หนักเหมือนกันนะ 20 ไม้เนี่ยในเมื่อหนักนักเอาก็แค่ลดจำนวนมันลงก็สินเรื่อง” ฉันหยิบลูกชิ้นหมูที่ราดน้ำจิ้มรสเด็ดออกมาจากถุง 3 ไม้ก่อนจะเริ่มกิน “อื้มม อร่อยสมกับเป็นร้านเด็ดจริงๆ งื้มๆ” พลัก ตุบ! ไม่นะ ลูกชิ้นของชั้นนนนใคร ใครมันบังอาจมาเดินชนจนลูกชิ้นปิ้งของฉันหล่นลงพื้นแม่จะกระโดดทับให้ใส่แตกตายนอนกองอยู่ข้างถนนเลย! “เดินประสาอะไรวะ! ไม่แหกตาดูทางบ้างชนคนอื่นจนลูกชิ้นตกเนี่ย!” “…” “...” อุ๊ย หล่อ แต่เรื่องของลูกชิ้นมันยอมไม่ได้จริงๆ “เป็นคนหล่อที่ตาบอดหรือไงถึงมองไม่เห็นว่าฉันเดินกินลูกชิ้นอยู่” “เห็นถึงได้เดินชนไง” อ้าว อย่างนี้ก็สวยสิ ตั้งใจหาเรื่องกันนี่หว่า “จะมาหาเรื่องกันหรือไงไอ้หน้าหล่อ” “เปล่า ไม่ได้มาหาเรื่อง” “ไม่ได้จะหาเรื่องแต่เมื่อกี้บอกตั้งใจชน ถ้าตั้งใจชนก็แสดงกว่าอยากมีเรื่องน่ะสิ” ถึงจะหล่อฉันก็ไม่ยอมหรอกนะบอกไว้ก่อน “ไม่ได้จะหาเรื่อง...แค่จะมาขอเป็นแฟน” “ฮะ?” เดี๋ยวนะเหมือนเมื่อกี้หูฉันจะได้ยินอะไรผิดๆ “ยังไม่แกเธอก็หูตึงแล้วเหรอ” ปากไอ้หน้าหล่อนี้มันเรื่องสุนัขไว้หรือไง ไม่สิๆ เราต้องถามให้แน่ใจก่อนว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้ไม่ได้หูฝาดไป ลองถามไอ้หน้าหล่อนี่อีกทีดีกว่า “เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” “เธอหูตึง” “ไม่ใช่สิ ก่อนหน้านี้” “ฉันขอเธอเป็นแฟน” โอ้แม่เจ้าโว้ยยยย! เกิดมาจนอายุ 19 ปี พึ่งจะเคยโดนขอเป็นแฟนครั้งแรกแถมยังเป็นผู้ชายหน้าตาดีถึงแม้ปากเสียไปหน่อยก็เถอะ ในที่สุดทั้งสามพิภพในโลกนี้ก็เห็นความดีที่ฉันช่วยเก็บขยะจากพื้นไปให้แล้วสินะ “อ้าปากนานๆ ระวังแมลงวันบินเข้าปาก” “เอ่อ...นายขอฉันเป็นแฟน?” “ใช่” “กับฉันเนี่ยนะ!” ขอถามย้ำอีกทีเถอะเพื่อความแน่ใจ “เฮ้อ แค่ตอบมาว่าเธอจะเป็นแฟนฉันไหมพอ พอดีฉันมีไปธุระต่อ” “ตกลงฉันจะเป็นแฟนนาย” “อืม ฉัน อินทนนท์ แล้วก็นี่ของขวัญที่คบกันฉันไปล่ะเจอกัน” “เดี๋ยว...” ไปซะแล้ว อะไรของเขาวะแล้วยัดถุงอะไรใส่มือฉัน “เชี่ย!” ฉันรีบวิ่งกลับมาที่หอทันทีเมื่อลองเปิดถุงที่แฟนหมาดๆ ของฉันยื่นมาให้จะไม่ให้รีบวิ่งกลับห้องได้ยังไงเพราะในถุงมีถุงทอง กล่องโทรศัพท์แบรนด์ดังอยู่ในนั้น ไม่ใช่แค่นี้นะยังมีกล่องอะไรไม่รู้เล็กๆ น่าสงสัยอีกสองสามกล่อง ฉันกลัวว่าจะรับของโจรมาน่ะสิ “หมอนั่นคงไม่ใช่โจรใช่ไหม” ฉันมองของที่หยิบออกมาจากถุงอย่างตกตะลึง ทั้งสร้อยทองหนึ่งบาท และของที่อยู่ในกล่องเล็กๆ ที่น่าสงสัยก็เป็นสร้อยเพชรจิวเวอร์รี่ อีกสามกล่อง ไหนจะโทรศัพท์แบรนด์ดังที่ราคามันสามารถซื้อรถเครื่องได้หนึ่งคันอีก “โอ้ยย ฉันคงไม่ได้มีแฟนเป็นโจรจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย” Rrrrrrr. “แม่งมึงตาย ตกใจหมด” ฉันมองโทรศัพท์ที่วางอยู่เมื่อเห็นว่ามีสายเรียกเข้า “หรือจะเป็นเจ้าของโทรศัพท์ที่ถูกหมอนั่นขโมยมา อื้มถ้าใช่เราก็แค่บอกว่าเก็บได้แล้วค่อยเอาไปคืนแล้วกัน” ติ้ด! “ (.....) ” “ฉันไม่ได้ขโมยโทรศัพท์คุณนะคะ พอ...พอดีฉันเก็บได้...” “ (เพ้ออะไรของเธอ) ” “อิน...อินทนนท์” “ (อืม) ” “นายเป็นโจรใช่ไหมถึงมีของแพงขนาดนี้ นายไปขโมยใครมาเอาไปคืนเลยนะมันไม่ดีฉันไม่อยากโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดด้วย!” “ (ฮะ ฮะฮ่าฮาเธอจะบ้าหรือไงหน้าตาอย่างฉันเหมือนหัวขโมยหรือไง) ” นั่นสิ แต่รู้หน้าไม่รู้ใจคนหล่อๆ เป็นหัวขโมยเยอะแยะไป “ใครจะไปรู้” “ (หึ สบายใจได้แฟนเธอไม่ใช่หัวขโมยของทั้งหมดที่ให้เธอไปเป็นเงินฉันเอง) ” “นายรวยงั้นเหรอ” ก็ถามไปเลยสิคะ “ (ฉันไม่ได้รวย แค่บ้านเปิดร้านทองกับร้านจิวเวอร์รี่ทั่วประเทศเอง) ” “...” จ้า ไม่รวย ไม่รวยเลยจ้า “ (เพราะงั้นเธอสบายใจได้ลูกหมู) ” เดี๋ยวนะ หมอนี่รู้ชื่อฉันได้ยังไงฉันยังไม่ได้บอกชื่อเขาเลย “นายรู้จักฉันงั้นเหรอ” “ (หึ 'ลูกหมู' กานต์พิชชา กาญจน์วรสกุล ปี1 คณะเกษตรศาสตร์ มหาลัยD) ” นะ น่ากลัวหมอนี่รู้ทั้งชื่อนามสกุลฉันเลยด้วย “โรคจิต” “ (แล้วแต่เธอจะคิด) ” “แล้วนายโทรมามีอะไร” “ (เรื่องชื่อเรียก) ” “ชื่อเรียกอะไร” “ (เราคบกันแล้วควรมีชื่อเอาไว้เรียกกันสองคน) ” “ทำไม เรียกชื่อปกติไม่ได้หรือไง” ไม่เห็นจำเป็นต้องมีชื่อเรียกกันเลยด้วยซ้ำ “ (ฉันเป็นแฟนเธอต้องพิเศษมากกว่าคนอื่นสิ) ” “เรื่องมากจริง” การมีแฟนมันยุ่งยากเรื่องมากขนาดนี้เลยหรือไงกัน “ (เอาเป็นบี๋ ที่รักอะไรแบบนี้ดีไหม) ” แหวะ ขนลุกออกมายืนตรงเคารพธงชาติแล้วจ้า “หยี้ ไม่เอาอะ” “ (แล้วเธอจะเอาชื่ออะไร) ” “เหี้ย” “ (ฮะ?) ” “เหี้ยไงฉันเรียกนายว่าเหี้ย” “ (เธอกำลังกวนตีนฉันใช่ไหม) ” “กวนตีนอะไร ฉันเห็นเพื่อนฉันเรียกแฟนมันแบบนี้ไม่เห็นแปลกอะไร” ฉันไม่ได้กวนตีนอะไรหมอนี่สักหน่อยก็หน่อไม้เพื่อนฉันมันก็ชอบเรียกแฟนมันแบบนี้ตลอดไม่หวานเลี่ยนจนรับไม่ได้แบบ บี๋ ที่รัก ด้วยชื่อนี้ฉันว่าโอเค “ (...) ” หมอนั่นเงียบไปเลยแหะ ไม่ถูกใจงั้นเหรอ “ทำไมมันไม่น่ารักหรอ” “ (...) ” “โอเคๆ ไม่เอาชื่อนี้ก็ได้งั้นนายอยากจะเรียกฉันว่าอะไร” “ (ตัวเงิน) ” “เอาคืน?” “ (เปล่าแล้วตัวเงินมันไม่น่ารักตรงไหน น่ารักจะตายตัวเงิน เงินไหลมาเทมา) ” เออ จะว่าไปความหมายของมันก็ดีจริงด้วยถ้างั้นเปลี่ยนของหมอนี่เป็นตัวทองบ้างดีกว่าจะได้เข้ากันกับฉัน “ได้ งั้นฉันจะเรียกนายว่าตัวทองแล้วกัน” “ (หึ เอาสิน่ารักจะตายคู่รักตัวเงินตัวทอง) ” “อือ เอาเป็นแบบนี้ก็ได้” “ (พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัย) ” ติ้ด! “นี่ฉันจะมีแฟนคนแรกเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีบ้านรวยจริงๆ เหรอเนี้ย”ตอนพิเศษ ดำนาช่วยพ่อตา5 ปีต่อมา ห้าปีแล้วนับตั้งแต่งานแต่งงานจนตอนนี้ฉันเรียนจบมาช่วยงานที่บ้านเรียบร้อย ถึงจะบอกว่าช่วยงานที่บ้านฉันก็แค่เปิดร้านขายปุ๋ยขายยาโดยผู้สนับสนุนหลักจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีสุดที่รัก เขาเองก็มาอยู่กับฉันที่กำแพงเพชร แต่ยังคงเปิดร้านทองเหมือนเดิมแถวตัวเมื่อ เราสองคนก็ยังคงไปมากรุงเทพฯ กำแพงเพชรอยู่เรื่อย ๆ ชีวิตฉันตอนนี้มีความสุขมากเลย“หนูครับ”“ครับ หนูอยู่ตรงนี้”“ทำไมคนถึงมาบ้านเราเยอะขนาดนี้” สามีที่น่ารักเข้ามากอดฉันพร้อมกับหอมแก้มไปสองที“หนูยังไม่ได้บอกเหรอว่าวันนี้มีกิจกรรมของหมูบ้านดำนาประจำปี”“หืม ดำนา?” “ทำหน้าอย่างนี้ไม่รู้สินะ ดำนาก็คือการที่เรานำต้นกล้าหมายถึงต้นข้าวที่โตประมาณยี่สิบถึงยี่สิบห้าวันไปลงนาเพื่อปลูกน่ะ” ฉันอธิบายให้เขาเข้าใจ“แล้วที่พ่อบอกไปหว่านข้าวล่ะไม่เหมือนกันเหรอทำไมถึงต้องดำนาอีก”“เหอะ จะหว่านจะดำนาก็เหมือนกันนั่นแหละสุดท้ายก็เป็นข้าวให้เรากินกันอยู่ดี” ฉันที่ขี้เกียจอธิบายให้เขาเข้าใจจึงบอกตัดบทไป“แล้ว...”“พอเลิกสงสัยแล้วไปลองลงมือทำเองเลยดีกว่า” ฉันบอกเขาพร้อมกับจับมือไปที่รถขนกล้า“อืมได้ น่าสนุกดี” 20
บทที่ 40 อินทนนท์เป็นของลูกหมู @วันงานแต่งงาน“โห่ ฮี่โห่ ฮิ่โห่ ฮิ่โห่ ฮิ่โหยยย”“ฮิ้วววว”“ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาวใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขยเอาวะเอาเหวย ลูกเขยผู้ใหญ่นิดมาตาลาลา...”“หู้ยย..ฮา..โห่..ฮี้ว” เสียงเพลงวงลำแคนแต่งงานดังมาตั้งแต่ปากซอยก่อนจะเข้ามาถึงบ้านเจ้าสาวที่อยู่ห่างไม่ไกลบรรดาญาติฝ่ายหญิงเต้นรำตามขบวนขันหมากเพลงลำแคนอย่างสนุกสนานสร้างสีสันให้ขบวนได้เป็นอย่างดี ใช้เวลาเดินขบวนไม่นานขบวนขันหมากของอินทนนท์ก็ได้มาหยุดที่หน้าบ้านเจ้าสาวแสนสวยเป็นที่เรียบร้อย“ขอให้เพื่อนผมเข้าไปเจอเจ้าสาวหน่อยครับ” เวย์รับหน้าเอ่ยบอกคนกั้นประตูเงิน“จะเข้าไปต้องมีอะไรมาแลกนะจ๊ะ ซองไม่หนักประตูไม่เปิดจ๊ะ” ลูกเจี๊ยบบอกด้วยรอยยิ้ม“นี่เลยครับ เจ้าบ่าวเตรียมชุดใหญ่ให้เรียบร้อย” น่านที่รับหน้าที่เป็นคนถือซองยื่นซองขาวใส่เงินจำนวนหนึ่งให้ทั้งสองคนที่กั้นประตูเงินไว้ไป“ว้าว เชิญเลยจ๊ะ” เมื่อได้รับซองประตูเงินก็เปิดออกอย่างง่ายดาย“ไปเพื่อนไปหาเจ้าสาวมึงกัน” น่าน“เดี๋ยวค่ะ ยังเข้าไปไม่ได้นะคะ” เดินเข้ามาได้ไม่นานขบวนเจ้าบ่าวก็เจอเข้ากับประตูทองที่หนอไม้กับปกป้องยืนถือสร้อยทองกั้นป
บทที่ 39 พรีเวดดิ้ง“เอ็งสองคนไปถ่ายรูปติดงานแต่งกันได้แล้ว”“พรีเวดดิ้งพ่อ”“เออนั่นแหละ ไปถ่ายกันได้แล้วข้ากับเทวาเตรียมงานหมดแล้วแล้ว” “จ๊ะ” หลังจากพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยทั้งสองครอบครัวจึงแยกย้ายไปจัดเตรียมของต่างๆที่จะใช้ในงานแต่งงานอีกครั้ง ลูกหมูกับอินทนนท์พร้อมเพื่อนและพี่แยกกันไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งทุ่งนา“เนี่ยเหรอวะต้นข้าว” เวย์เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นต้นข้าวของจริงใกล้ๆ“ค่ะ ใกล้ได้เวลาเกี่ยวแล้ว”“แล้วต้นเขียวๆตรงนั้นคือข้าวเหมือนกันใช่ไหมลูกหมู” น่านชี้ไปที่ทุ่งนาอีกฝั่งที่เป็นต้นอ่อน“ใช่ค่ะ ต้นกล้าอ่อนยังไม่โต กว่าจะโตเราต้องให้น้ำให้ปุ้ยค่อยบำรุงให้ต้นข้าวโตได้ดี” ฉันอธิบายให้พวกเขาฟังก็อย่างนี้ล่ะนะคนเมืองไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้จึงไม่ค่อยรู้ถึงความลำบากของชาวนาว่าจะได้ข้าวไปให้กิน“สวยจริงๆ เหมาะแล้วที่เลือกถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี้” อินทนิลเอ่ยบอก“พร้อมถ่ายกันหรือยัง คนถ่ายพร้อมแล้วนะครับ” เวย์ ใช่แล้วพวกเราไม่ได้จ้างตากล้องมาถ่ายรูปให้เพราะพี่เวย์เองก็ถ่ายรูปแต่งรูปได้ดีมากจึงอาสาทำให้เราฟรีๆ แต่ฉันว่าจ้างจะถูกกว่าเพราะพี่เขาเล่นไปซื้อของจัดฉากจัด
บทที่ 38 หนุ่มน้อยตกน้ำ“ทนไม่ไหวแล้วโว้ย! ถ้าจะหอนดังขนาดนั้นแน่จริงก็เดินมาพูดต่อหน้าสิวะอีพวกผีเปรตขอส่วนบุญ!” ใครจะมองยังไงช่างแม่งแล้วขอทีเถอะพวกชอบนินทาคนอื่นเนี่ยชีวิตนี้คงไม่มีอะไรทำหรือไงวะถึงได้ชอบอิจฉาคนอื่นไปทั่วถ้าไม่ได้สั่งสอนวันนี้คงนอนไม่หลับ“หนูเป็นอะไร”“มานี่” ฉันลากพี่นนท์เดินตรงไปยังกลุ่มผีเปรตที่ร้องขอส่วนบุญทันที“อะ...อะไร” “ไหนคนไหนชื่อเนย!” ฉันถามพวกมันทั้งเจ็ดคนพร้อมกับมองเรียงตัวและสายตาของทุกคนก็มองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง“คนนี้สินะ พี่นนท์ชอบหน้าตาและหุ่นอย่างยัยนี่มั้ย”“ครับ?”“หนูถามว่าพี่ชอบหุ่นหน้าตาอย่างยัยนี่มั้ย?”“ไม่ครับพี่ชอบหนู ไม่สิพี่รักลูกหมูคนเดียว”“ชัดไหมยัยพวกไม้เสียบผี เขารักฉันถึงไม่สวยแน่แต่ผู้ชายที่พวกเธออยากได้เขารักฉันของใครให้รู้ซะบ้าง”“แกอีกอ้วน!”“อ้วนแล้วหนักหัวแม่...”“นิสัยเหมือนน่าตาเลยนะครับ”“คะ?”“พวกคุณทำตัวน่ารังเกียจมาก”“สุดหล่อพวกเรายังไม่ได้ทำอะไรยัยอ้วนนี่เลย จู่ๆมันก็เดินมาหาเรื่องพวกเราก่อนอย่างนี้ใครเป็นคนน่ารังเกียจกัน”“เหรอครับ แล้วการที่พวกคุณนินทาต่อว่าคนอื่นมันดีมากเลยสินะ”“พวกเราก็แค่คุยกันขำๆ
บทที่ 37 เที่ยวงานวันก็ได้เรื่องเกิดความเงียบขึ้นเมื่อได้ยินเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกหมูบอก ผู้ใหญ่นิดจ้องมองไปที่เครื่องนวดหอมพร้อมกับหหัวเราะออกมาเสียงดัง“ฮาฮ่าๆ นวดกันรึงั้นก็แล้วไป เออข้าลืมเลยว่าแม่เองให้ข้ามาตามไปกินข้าวไปๆรีบตามกันมาล่ะ” ผู้ใหญ่นิดบอกก่อนจะเดินออกจากห้องเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งห้องเกิดความเงียบทุกสายตามองตามหลังของผู้ใหญ่นิดก่อนจะหันหน้ามองกัน“จบเรื่องง่ายขนาดนี้เลย”“นี่แหละพ่อมึง จัดของเสร็จก็ลงไปกินข้าวเดี๋ยวรอนานพ่อเอ็งจะหมาบ้าเข้าอีก ลงไปกันเถอะจบเรื่องแล้ว” สาวสายหน้าเอือมระอาพร้อมกับเอ่ยบอกคนทั้งเจ็ดที่กำลังยืนอึ้งกับเหตุการณ์ก่อนหน้า“ลุกออกมาได้แล้วอินทนนท์เป็นลูกผู้ชายซะเปล่าเข้าไปแอบทำไม” เทวาเอ่ยถามลูกชายที่กำลังนั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะฟึ่บ!“โธ่ ป๊าก็พูดได้สิป๊าไม่ได้เจอแบบผมนิ”“หึ เจอแค่หมัดกับเท้าป๊าเจอปืนจ่อหัวยังไม่หลบเหมือนแกเลยไอ้ลูกชาย” เทวาว่าออกมาพร้อมกับเดินออกจากห้องไป“จริงเหรอม๊า” อินทนนท์เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“จ๊ะ ลุกขึ้นจัดการตัวเองแล้วตามม๊ามานะ” น้ำอิงบอกก่อนจะเดินตามสามีไป“ฮาฮ่า กูอยากถ่ายรูปมึงตอนนี้เอาไปเปิด
บทที่ 36 ลูกเขยเวร!“เก็บท้องไว้กินของแม่ด้วยพวกมึง” ผมเตือนมันสองตัวที่ขอเพิ่มขนมจีนน้ำยาป่าคนละสองจานแล้ว“เออ รู้แล้วแต่น้ำยาที่ใส่ขนมจีนอร่อยวะ” น่าน“จริงกูพึ่งเคยกินครั้งแรกเลย” เวย์ “พี่ก็ว่าอร่อย”“ใช่ไหมที่ผมเคยกินยังไม่อร่อยขนาดนี้เลย”“หรือเพราะพวกเราหิว” น่าน“อร่อยก็คืออร่อย ว่าแต่พี่นิลมานานแล้วเหรอพี่” เวย์เอ่ยถามอินทนิล“มาเพื่อวานตอนดึกเลย เพราะไอ้นนท์มันโทรมาบอกเรื่องเลื่อนงานแต่งงานเข้ามาม๊าป๊าเลยต้องมาเตรียมงานให้มัน” อินทนิลถือโอกาสบ่นน้องชายนิดหน่อย“ช้าเร็วผมก็แต่งอยู่แล้ว”“เออ กูรู้แต่นี่มันก็เร็วไปไหม เอาเหอะไม่มีใครขัดมึงอยู่แล้ว”“พี่นิล ป๊าม๊าไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหมคะ?” เรียกพี่นิลทีไรชอบนึกถึงปลานิลนึ่งทุกทีเลยฉัน“ใครจะว่าอะไรล่ะครับ ป๊าม๊ายินดีจะตายจะได้ลูกหมูมาเป็นลูกสะใภ้เร็วขึ้นที่สำคัญ...เตรียมตกใจสินสอดที่ป๊าม๊าขนมาให้หนูได้เลย” สินสอดอะไรอีกทองที่ให้มาพ่อแม่ฉันยังไม่แตะเลย“สินสอดอะไรอีก แล้วของที่ให้คราวก่อน...”“มันไม่เหมือนกันสิครับ อันนั้นของฝากอันนี้สินสอด” โอ้มายก๊อด! นี่สินะที่เรียกว่าตกถังข้าวสาร แหะๆ“เอ่อ...พี่นิลช่วยกระซิบบอกหนูหน่อยได้ไหม
บทที่ 35 หมอลำ รำแคนที่พ่อแม่ต้องการเช้าวันต่อมาเวลา 6 โมงเช้า@ร้านทองอินทนนท์“หาววว”“หาวขนาดนั้นแมลงวันบินเข้าไปวางไข่ในปากมึงแล้วมั้ง” น่าน“ก็มันง่วงนี่หว่า มีอย่างที่ไหนจะไปบ้านเมียส่งข้อความมาบอกตอนตีสามตอนที่กูกำลังจะนอน หาวว” เวย์บ่นออกมา“ไม่ได้บังคับให้มา”“โห่พูดงี้ มึงดูไอ้นนท์พูดไอ้น่าน”“มันก็พูดจริง มึงก็อย่าบ่นเลย”“รีบเดินทางกันดีกว่าเดี๋ยวถึงบ้านสาย” ฉันที่ฟังพวกเขายืนเถียงกันมาสักพักรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีไม่งั้นคงยืนเถียงกันอีกยาว“ครับ”“หึ สองมาตรฐานชัดเจน กับเมียนี่ครับ” เวย์แซว“…” อินทนนท์ไม่ตอบโต้อะไรเขาแค่มองถลึงตาใส่เวย์เท่านั้น“ไปคันเดียวกันนะกูไม่อยากขับรถไกล” น่าน“เออ พวกมึงคอยเปลี่ยนกับกู” เมื่อทั้งสี่ตกลงกันเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางจากกรุงเทพฯเพื่อไปกำแพงเพชร ใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง@บ้านลูกหมูเวลา 11:35 นาที ในที่สุดก็ถึงซะทีนั่งรถจนเมื่อดากไปหมดแล้ว โอ๊ะ! รถตู้คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้านทำไมคุ้นๆจังเหมือนรถครอบครัวของพี่นนท์เลย“รถคันนั้น?” “พี่ไม่ได้บอกเหรอว่าป๊าม๊ามารอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” ก็ไม่ได้บอกน่ะสินึกว่าจะตามมาทีหลัง“อ
บทที่ 34 แต่งกี่ครั้งก็เมียคนเดิมงั่มๆ งั่มๆ ผมนั่งมองใบหน้าสวยที่กำลังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยดูท่าจะอร่อยเกินไปด้วยซ้ำ“ระวังหน่อยสิ” ผมยื่นมือไปเช็ดอาหารเละขอบปากเธอ “อ๊ะ ขอบคุณ”“อร่อยขนาดนั้นเลย”“งั่มๆ อื้มอร่อยพี่ไม่กินเหรอ” เธอยอมเรียกผมว่าพี่แล้ว“แค่เห็นหนูกินพี่ก็อิ่มแล้ว”“แหวะ!” ผมเห็นนะว่าเธอยิ้ม“อึก! เรื่องแต่งงาน…”“อาทิตย์หน้า”“บอกว่าไม่แต่งไง!” “ทำไม?” ผมถามเธออย่างจริงจัง“มันไม่สวย”“อะไรไม่สวย”“โอ๊ย! ตอนใส่ชุดแต่งงานไงเดี๋ยวมันไม่สวยขอเวลาลดน้ำหนักหน่อยไม่ได้หรือไง!” ลูกหมูบอกออกมาอย่างเหลืออด“ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง...”“เมื่อกี้พูดอะไรได้ยินนะ” หูดีจริงๆว่าที่เมียผม“ในวันแต่งงานยังไงเจ้าสาวอย่างหนูก็สวยที่สุดแล้วครับ”“เอาอะไรมาสวยตัวเป็นหนูแบบนี้” ไม่พูดเปล่าลูกหมูใช้มือตัวเองจับห่วงรอบเอวให้อินทนนท์ดู“ฮึ”เพียะ!“หัวเราะอะไร!”“โอ๊ย! พี่แค่ขำพี่หนูบอกว่าตัวเองเหมือนหนู”เพียะ!“เห็นไหมขนาดนายยังหัวเราะเลย ไม่เอาไม่แต่แล้วไม่เอา!!”“โอ๊ย! จุ๊ๆไม่เอาไม่ร้องครับ พี่ไม่ได้บอกว่าหนูไม่สวยซะหน่อย เพราะหนูเป็นแบบนี้พี่ถึงรัก” ผมลุกขึ้นเดินเข
บทที่ 33 มอบความรัก“บอกคิดถึงมันหนูก็ช่วยมอบให้ความรักกับมันหน่อยนะครับเพราะมันก็คิดถึงหนูเหมือนกัน” “เอ่อ...” อ่า พอได้เห็นเธอทำหน้าตลกผมรู้สึกดีจริงๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำใจกล้าอยู่แท้ๆพอมาตอนนี้กลับทำหน้าตกใจซะขนาดนั้นเมื่อมาถึงขนาดนี้ขอแกล้งเธอเล่นนิดหน่อยแล้วกันหมับ!“ช่วยมอบความรักของหนูให้มันด้วยนะครับ” ผมกระซิบข้างหูเธอพร้อมจับมือเธอมาจับเจ้าลูกชายของผมที่กำลังขยายตัวใหญ่สั่นสู้มือที่กำลังสัมผัสมันอยู่ลูบ ลูบ ลูบ“ได้สิค่ะ หนูจะมอบความรักให้มันเอง”ฟุ่บ! ให้ตายเถอะเธอทำให้ผมตกใจได้ตลอดเลย ครั้งนี้ก็เหมือนกันใครจะไปคิดว่าเธอจะใจกล้าขนาดลงไปนั่งคุกเข่าเลียของผมกัน ผมเองยังไม่กล้าคิดว่าเธอจะทำเลย“หึ ไม่อายแล้วหรือไง” ผมแกล้งถามเธอ“ไม่อายแล้ว หนูคิดตามที่พี่บอกขนาดในสวนกล้วยเรายังทำได้ นี่ในห้องทำไมจะทำกันไม่ได้จริงไหมคะ?” เฮอะให้ตายเถอะผู้หญิงคนนี้! ทำให้หัวใจผมกระตุกได้ตลอดไม่รู้จะน่ารักไปถึงไหนกัน!“อื้มมม” ผมจับใบหน้าสวยเงยขึ้นก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มเป็นรางวัลให้เธอที่ทำตัวน่ารัก“รางวัลของคนน่ารัก” ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนจ
Comments