Mag-log inตึบ ตึบ ตึบ ตึบ นอกจากชอว์จะไม่ถนอมร่องสาวที่รัดเขาแน่นแล้ว เขายังจับสะโพกขาวไว้มั่นและอัดเรี่ยวแรงดั่งกับว่าเขากำลังซ้อมวัดกำลังหมัดกับกระสอบทรายอยู่ไม่ปาน
อู้ยยยยย “นายท่าน...ขา หนูเจ็บ...” เสียงเว้าวอนขาดๆ ของออยดังขึ้น เธอกำลังออดอ้อนขอความเห็นใจจากชอว์ เขาเกลียดผู้หญิงมากนักหรือไงนะ สิ่งที่ออยคิดอยู่ ไม่ทันไรร่างกายสาวก็ร้อนดั่งไฟ
เสียงหลากหลายในห้องแห่งนี้ไม่ได้เข้าหูชอว์เลย สายตาเขานิ่งเยือกเย็นเมื่อนึกถึงสิ่งที่แก้วตาบอก
“ชอว์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเสียสัตย์ แต่ข้าต้องการความมั่นใจมากกว่าแค่คำสัตย์ของเจ้า อย่าว่าข้าเลย เจ้าก็ไม่ได้เสียหายอะไร ข้ามีหลักประกันให้เจ้าด้วย อย่างไรแล้วข้าก็เป็นแม่คนนะ บุตรสาวของข้าจะเป็นนาฬิกายืดเวลาให้ข้าเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเธอจะนำของที่เจ้าต้องการมอบให้กับเจ้าด้วยมือ”
&nb
“น้อยไปสิ! เด็กอะไรไม่รู้เลยเหรอไงว่าเล่นอยู่กับอะไร ตอนนั้นถ้าฉันโมโหจนฆ่าหนูอัญทิ้งเสียจะเป็นยังไง” “ไม่รู้สิ! ชอว์คิดออกเหรอ” ชอว์ทำท่าครุ่นคิดสักแป็บและก็ส่ายหน้าไปมา ใช่เขาและเธอด้วยไม่มีทางคิดเรื่องแบบนั้นออกหรอกเพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้น “ชอว์...หายโกรธเค้าแล้วใช่มั้ย” “โกรธ!...โกรธ ผมไม่เคยโกรธ” หนูอัญหน้ามู้ทันที ไม่โกรธได้ไง ก็ฉันอย่างงั้นฉันอย่างงี้อยู่แท้ๆ นานแล้วที่เธอไม่ได้ยินชอว์แทนตัวเองกับเธอแบบนี้ แปดเก้าเดือนมานี่เขาสุภาพและหวานหยดย้อยกับเธอจนน้ำตาลยังต้องเรียกพี่เลย นี่น่าจะเป็นการโกรธหรือน้อยใจขั้นรุนแรงเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้หลังจากที่เขาและเธอแต่งงานเป็นสามีภรรยากันถูกต้องแล้ว หมับ! วงแขนเล็กโอบรัดแน่นมากขึ้นและเธอก็ออกแรงดึงให้ใบหน้าชอว์เข้ามาใกล้ใบหน้าเธอ และปากอิ่มหวานก็ทำท่าจะจูบเขา แต่ชอว์ก็ฝ
ตามรายละเอียดข้างต้นที่เค้ากล่าวมาอ่านแล้วดูดีมากๆเลย ก็มันเป็นเรื่องราวดีๆ แต่ทำไมวันนี้เธอต้องมายืนตะเบงเสียงเรียกเขา เรียกอีกเรียกแล้วเขาก็เหมือนจะหูหนวก ตาบอด อย่างตั้งใจไม่ได้ยินเสียงเธอและไม่เห็นเธอ มันมากเกินไปแล้ว เธอไม่เห็นหน้าเขามาเกือบสัปดาห์แล้วสองสามวันแรกเธอก็ไม่ทันได้รู้สึกอะไร แต่พอผ่านไปสามวันก็รู้สึกแปลกๆ ว่าจู่ๆชอว์ก็ไม่กลับมานอน ไม่ได้ทานอาหารด้วยกัน จนผ่านไปอีกหลายวันเธอก็รู้สึกว่ามันผิดปกติไป วันนี้เธอจึงมาหาเขากว่าจะหาเจอว่าเขาอยู่ที่ไหน ห้องทรงอักษรของท่านคารามาส ชอว์ทำงานในนี้ นอนที่นี่ ทำไมเขาไม่กลับไปหาเธอละ “เธอเป็นใคร?” !???? นั่นไงประโยคแรกจากคนรักที่รักกันปานจะกลืนกินหลังจากไม่เจอกันนานเกือบสัปดาห์ แน่ๆเลย เธอถูกเขางอนใส่ และหนักมากด้วย แล้วเธอต้องตอบคำถามนั้นมั้ยนะ... 
เฮ่อ เฮ่อ เฮ่อ เสียงครางปนหอบของร่างบาง ดังกระเซ่าไม่หยุด โอ้วววว ชอว์คำรามออกมาอย่างสุขใจ เขาไม่รู้ว่าชาตินี้เขาจะอิ่มกับเรื่องแบบนี้กับเธอคนนี้เหรอไม่ ถ้าชาตินี้เขาไม่พอไม่อิ่มก็หวังว่าชาติหน้าเขาจะติดตามหาเธอจนเจอและเอาเธอมาเป็นของเขาต่อ กรี๊ดดดด หนูอัญกรีดร้องออกมาอย่างมีความสุข แม้ร่างกายจะบอบช้ำอ่อนล้าจากเซ็กส์หลายชั่วโมงของผู้ชายที่หื่นเป็นเทพ เธอก็เต็มใจ ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งนี้ แต่ตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ อื้ม อื้ม กึก กึก กึ กึก กึ เสียงลมหายใจร้อนที่เป่าลดต้นคอของเขา ขณะที่ช่วงขายาวกำลังก้าวย่างอย่างช้าๆแต่มั่นคงไปเรื่อยๆตามริมชายหาด “สวยจังเลยนะคะ” หนูอัญวางศีรษะนาบบนไหล่ด้านหลังของชอว์ สายตามองทอดยาวออกไปไกลยังผืนท้องน้ำทะเลที่ค่อยๆเปลี่ยนสี ตอนนี้เธอกับชอว
“ชอว์! คุณทำเค้าไปไม่ถูกเลย...แต่เค้าชอบนะคะ ชอว์แบบไหนก็ได้เค้ารักหมดใจ แค่เป็นชอว์ที่ไม่มีสายตามองผู้หญิงคนไหนอีกต่อไปแล้วเท่านั้น...” ชอว์ยิ้มตอบกลับให้เธอ หนูอัญเดินตามการจูงของเขา เขาพาเธอเดินผ่านเตียงนอนขนาดใหญ่ไปอีกด้านของประตูทางออก ฟิ้ววววว ลมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดกระทบโขดหิน ผืนท้องน้ำ ชอว์หันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ เขาล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋า หนูอัญยิ้มออกมา กำไลประจำตำแหน่งของเธอเขาจับแขนเธอและสวมมันกลับคืนเข้าไป เขายังไม่ปล่อยมือเธอ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง คราวนี้ในมือเขามันคือแหวน ชอว์คุกเข่า เขาไม่เอ่ยอะไรแต่เขาค่อยๆสวมแหวนวงนั้นเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้าย จุ๊บ เขาจุมพิตที่แหวน จุ๊บ เขาจุมพิตที่นิ้วนางข้างนั้น จุ๊บ เขาจุมพิตที่หลังมือเธอ “พระชายาของผม” หนูอัญยิ้มออกมาอย่างสุขใจ พรึ่บ! เธอคุกเข่าลงต่อหน้าเขา สองมือเล็กกอบกุมใ
ชีวิตความยิ่งใหญ่ในวงการมืดของผมเริ่มต้นนับจากวันนั้น ความรักที่พวกเขามีต่อผม ผมเอามาสร้างประโยชน์ต่อเส้นทางมืดดำของผม เพราะผมไม่อยากได้เส้นทางสว่างอีกต่อไปแล้ว ผมเติบโตขึ้นเรื่อยๆในวงการมืด ผมรับงานฆ่าคนรวมถึงเปิดเผยจุดดำมืดของเหยื่อออกสู่สาธารณะชน แล้วแต่ทางผู้ว่าจ้างต้องการให้เหยื่อตายแบบไหน ตายเงียบๆ หรือตายแบบเป็นอุบัติเหตุ หรือตายแบบฆ่าตัวตาย แบบไหนผมจัดให้ได้หมด ผลงานอายุการทำงานสร้างชื่อเสียงให้กับผมไม่น้อย แม้ผมจะเริ่มจากทำงานคนเดียวแต่ชื่อเสียงขอผมมากขึ้นกว้างขวางขึ้น ผมต้องมีลูกน้อง คนแรกเขาชื่อแอล และคนต่อๆมาก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมต้องมีผู้คุ้มกัน ใครๆก็บอกว่าผมเป็นมาเฟีย แต่เหล่าพวกลูกน้องบอกว่าผมไม่ใช่มนุษย์ แล้วเป็นอะไรละตอนนั้นผมถามพวกเขา พวกเขาบอกว่าผมเป็นอสูร ยิ่งวิถีการใช้ชีวิตของผมที่มักจะนอนตอนกลางวันและออกล่าตอนกลางคืน แบบนี้มันวิถีอสูรชัดๆร่างกำยำในชุดสีเข้มเนี๊ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า บดบังดวงตาสีเทาเข้มด้วยแว่นตากันแดดแบรนด์ดัง คนระดับอย่างชอว์หากไม่สวมชุดประจำชาติเสื้อผ้าเข้าของเครื่องใช้ของเขาก็เป็นแบรนด์ดังทั้งนั้น ยิ่งขับให้เข
“ลูกแม่! ลูกต้องหนีไป” แม่พูดอย่างรวดเร็วแม่เก็บเสื้อผ้าของผมได้เท่าที่หยิบได้ในเวลาอันสั้น แม่ยัดมันใส่ไปในเป้ “เอาเงินนี่ติดตัวไว้ และรีบไปเร็ว อย่ากลับมาหาแม่ อย่ากลับมาที่นี่อีกเป็นอันขาด” ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากแม่คือ “แม่รักลูก...ลาก่อน สเปนส์ลูกรักของแม่” และแม่ก็พลักผมออกจากห้องเช่า สติของผมกลับเมื่อลมเย็นปะทะใบหน้า ตอนนั้นผมจำต้องวิ่ง ผมวิ่งเอาตัวรอดอีกครั้ง ผมวิ่ง วิ่ง วิ่งไม่หยุด ผมไม่รู้ว่าผมวิ่งไปทิศทางใด แต่กว่าผมจะหยุดวิ่งผมก็เกือบจะขาดใจเพราะความเหนื่อยเกินขีดจำกัดของร่างกาย หลังจากนั้นผมก็ซ่อนตัวตามแหล่งชุมชนคนพเนจร ผมเดินทางด้วยเท้าบ้างด้วยรถประจำทางบ้างไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน ค่ำไหนก็นอนนั้น ชีวิตผมเป็นแบบนี้อยู่ครึ่งเดือน จนข่าวเรื่องแม่หายไปจากหน้าจอทีวี ตอนนั้นแม่บอกว่าเธอฆ่าสามีเธอเอง หลักฐานทุกอย่างก็ชี้ชัดไปในทิศทางแบบนั้น เพราะหน้าตาบอบช้ำจากการถูกทำร้าย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เรื่องเกี่ยวกับผมไม่ได้เป็นประเด็นมาก แม่คงบอกกับตำรวจไปว่าไม่รู้ว่าผมไปไหน แม่คงมีวิธีพูดให้ทางเจ้าหน้







