ไอ้จ๊อดหนุ่มเซเว่นกะดึก ที่ทำงานหาเงินทุกวิถีทางเพื่อมาเป็นค่ารักษาพยาบาลมารดาที่ล้มป่วย แต่ชีวิตก็เล่นตลก เมื่อมารดาอาการทรุดและต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนและต้องใช้เงินก้อนโต มันจะหาเงินมาได้อย่างไรในระยะเวลาอันสั้น
สัน ลูกค้าประจำเซเว่นยามดึก เล่าตำนานที่ร่ำลือกันที่เคยได้ยินมาให้ไอ้จ๊อดฟัง คำขอพรที่เป็นจริง แต่มีสิ่งแลกเปลี่ยน… ••••••••• " แม่งเอ้ย! " จ๊อด...หนุ่มพนักงานเซเว่นเตะถังขยะพลาสติกที่วางไว้หน้าประตูทางเข้าอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง โชคดีที่ถังพลาสติกค่อนข้างทนทานทำให้ไม่บุบสลายเสียหายจนจ๊อดอาจจะต้องเสียเงินชดใช้ค่าถังขยะที่ร้านใช้มานานปี ซึ่งราคาคงไม่เบานัก บุหรี่ถูกคาบในปากและถูกดูดควันที่ระเหยออกมาเข้าปอดจนสุดแรงดูด ก่อนที่เจ้าหนุ่มจ๊อดจะอมควันไว้ชั่วครู่และพ่นออกมาด้วยสีหน้าพึงพอใจ ประหนึ่งว่าควันและกลิ่นของยาสูบช่วยผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดของตนเอง " ไอ้จ๊อด อย่าทำลายข้าวของสิวะ! " เจ๊จิ๋มหัวหน้ากะของร้านออกมาตะโกนด่าทอลูกน้องอารมณ์ร้อนของตน " โทดทีเจ๊ ผมหัวร้อนไปหน่อย " จ๊อดกล่าวขอโทษอย่างขอไปที หญิงสาวชินแล้วกับนิสัยของลูกน้องคนนี้ไม่ติดว่ามันทำงานดีและเก่งเธอคงไม่ทนพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรงของมัน เดี๋ยวนี้พนักงานเซเว่นที่อยู่ประจำอยู่นานอยู่ทนหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร มาทำ ๆ ซักพักฆ่าเวลารองานที่ไปสัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้าพอได้งานแล้วก็ออก เธอเบื่อเหลือเกินที่ต้องมานั่งฝึกพนักงานใหม่เรื่อย ๆ ดังนั้นถึงแม้ไอ้จ๊อดมันจะมีข้อเสียแต่ข้อดีเรื่องงานนั้นมีเยอะกว่า เธอจึงทำปิดหูปิดตาเสีย ตราบเท่าที่ไม่ก่อเรื่องร้ายแรง " มึงเดินออกไปสูบไกล ๆ ร้านไป เสียภาพลักษณ์ร้านหมด " หญิงสาวออกปากไล่ ไอ้จ็อดได้ยินหัวหน้าไล่ตนเองก็ไม่กล่าวอะไรเดินออกห่างไปแต่โดยดี เป็นที่เข้าใจตรงกันว่าเจ๊จิ๋มกึ่ง ๆ อนุญาตให้มันพักชั่วครู่ในเวลางานเพื่อสงบสติอารมณ์ ไอ้จ๊อดดูดบุหรี่จนเกือบหมดมวน ก็มีเงาดำทาบทับพาดผ่านใบหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้นดูก็พบลูกค้าขาประจำยามดึกที่มักจะมาซื้อกาแฟดื่ม อีกฝ่ายเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดที่อยู่ห่างออกไปห้าร้อยเมตรนี่เอง " ไอ้จ๊อด มานั่งอะไรที่มืด ๆ ตรงนี้วะ " สัน พนักงานรักษาความปลอดภัยเอ่ยปากถามไอ้หนุ่มรุ่นน้อง " เห้อ หนักใจว่ะพี่ " จ๊อดบ่นเปรย ๆ ออกมา ก่อนจะดูดส่วนสุดท้ายของบุหรี่จนหมดตัวและใช้เท้าในรองเท้าผ้าใบสีซีดเก่าขาดขยี้ลงพื้น " แม่ผมจะผ่าตัดเงินก็ไม่มี ใช้ทีเป็นแสน ไอ้พนักงานเซเว่นอย่างผมเงินเดือนหลักพันจะไปมีปัญญาหาเงินผ่าตัดจากไหนมาให้แม่งวะพี่ " เมื่อได้พูดไอ้จ๊อดก็บ่นรัวเป็นชุดประหนึ่งปืนกลยิงออกแล้วก็หยุดไม่ได้ " ไอ้หยา ทำไมเยอะนักวะ ไหนว่ามีบัตรทองไงวะสามสิบบาท มึงโดนหลอกป่าว " สันแสดงความเห็นออกมา " ก็นั่นแหละพี่ผมก็สงสัย แต่เจ้าหน้าที่เขาบอกว่ามันไม่ครอบคลุมในรายการสิทธิ์สามสิบบาท เลยต้องจ่ายส่วนต่างนี่เอง ไอ้ผมตอนแรกก็ไม่เชื่อเลยโทรไปเช็กตามที่ต่าง ๆ แม่งก็จริงตามเขาบอก ทีนี่ผมก็เลยมานั่งปวดกบาลอยู่เนี่ย! " จ๊อดเสียงแสดงออกถึงความสิ้นหวัง มันรักแม่แต่ว่ามันไม่มีปัญญาหาเงินมารักษาแม่ก็ไม่ต่างจากปล่อยให้แม่ตายด้วยมือของมัน เป็นความรู้สึกที่เป็นภาระหนักทางจิตใจ ไม่ต่างกับมันเป็นคนฆ่าแม่ด้วยมือของมันเอง คิดแล้วก็เศร้า ไอ้จ๊อดเริ่มร้องไห้เงียบ ๆ สันที่เห็นแบบนี้ก็ตะลึงก่อนจะแสดงสีหน้าแวบนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง แต่ก็ลังเลใจและอ้ำอึ้ง เหมือนตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าจะทำหรือไม่ทำดี แต่เห็นไอ้หนุ่มที่รู้จักกันมาหลายปีแม้แค่มาซื้อกาแฟจากร้านมันก็ตามก็บังเกิดความรู้สึกสงสารจับใจ เมื่อคิดว่าถ้าเกิดเป็นแม่ของตนเองเขาก็คงอยากได้ทางรอดเช่นกัน เอาวะ! สันตัดสินใจก่อนจะพูดออกไป " ไอ้จ๊อด เอ็งเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม เผื่อว่ามันจะช่วยเอ็งได้ แต่ข้าบอกก่อนนะว่าไม่รู้จริงแท้แค่ไหนและทำแล้วจะได้ผลหรือเปล่า " สันก้มลงทำท่ากระซิบกระซาบเสียงเบาเหมือนไม่อยากให้คนอื่นได้ยินเนื้อหาที่พวกเขากำลังจะคุยกัน " อะไรวะพี่ พ่นมา " จ๊อดที่กำลังเหมือนคนจมน้ำเห็นสิ่งที่สันกำลังจะบอกเหมือนกระดานไม้ลอยน้ำมาให้จับก่อนจมลงถาวร เขาแทบจะอดใจไม่ไหวไปกระชากคอไอ้พี่สันมาเค้นถามจนหมดเปลือก " ใจเย็น ๆ สิวะ คืองี้ มันมีเรื่องเล่าว่า หลังเที่ยงคืนของทุกคืน ในแอป TT จะมีแอ็กฯชื่อ เมก อะ วิ วิ อะไรนี่แหละ " " เมกอะวิช (Make A Wish ) ไหมพี่ " จ๊อดจบปวส.จึงพอรู้เรื่องรู้ราวภาษาฝรั่งกับเขาอยู่บ้าง " เออ ๆ ไอ้นั่นแหละ โพรไฟล์มันจะเป็นรูปวงกลมหน้ายิ้ม ตาเป็นรูปกากบาท เหมือนตัวการ์ตูนหลอน ๆ ในนั้นจะมีคลิปอยู่คลิปเดียว เอ็งดูจนจบ จากนั้นให้กดหัวใจ และใส่คอมเมนต์ลงไป ว่าเอ็งมีความปรารถนาอะไร และ วิธีการตายที่เอ็งจะทำ ถ้าเมนต์ถูกใจเจ้าของแอ็กฯความปรารถนาของเอ็งจะเป็นจริง " จ๊อดฟังแบบตั้งใจมากจนพอสันพูดจบมันก็ทำหน้าโมโหใส่เพื่อนรุ่นพี่ " ไอ้พี่สัน มึงอย่ามาเล่านิทานหลอกเด็ก สัส กูจริงจังห่า! " ไอ้จ๊อดระเบิดอารมณ์โกรธออกมาทันที มันนึกว่าไอ้พี่สันกำลังล้อมันเล่นแต่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาเอาเสียเลย " ไอ้เหี้× กูนี่ทำคุณบูชาโทษ กูอุตส่าห์บอก กูไม่รู้หรอกว่าจริงไหมแต่เขาลือกันมา ไอ้ห่า มึงลองดูก็ไม่เสียหายไหมวะ เกิดแจ็กพอตได้จริง มันก็ดีไม่ใช่รึไงสัส " สันหงุดหวิดที่โดนด่าแต่ด้วยความที่อาวุโสกว่าก็เข้าใจอารมณ์ไอ้เด็กรุ่นน้อง ก่อนจะพยายามพูดชักชวนต่อ " แต่ว่านะ เอ็งระวังไว้หน่อย มีอีกข่าวลือเหมือนกัน " " เขาว่าไงกันวะพี่ " " หลังจากเอ็งได้ในสิ่งที่ต้องการ สามสิบวันให้หลังเอ็งจะตายตามแบบที่เอ็งโพสต์ในคอมเมนต์ไปน่ะสิ " ไอ้จ๊อดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะขำก๊ากออกมา " พี่ นี่มันไม่ใช่หนังนะเว้ย ทำเป็นหนังโบราณ 999-9999 ต่อติดตายไปได้ " " เหอะ เอาเป็นว่ากูบอกมึงหมดล่ะ ที่เหลือมึงจะทำหรือเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของมึง กูไปซื้อกาแฟกูล่ะ " สันลุกขึ้นเดินเข้าร้านไปตามปกติ ทิ้งให้ไอ้จ๊อดนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว นาฬิกาจากโทรศัพท์แสดงเวลาอีกสองนาทีจะถึงเวลาเที่ยงคืน แสงไฟจากหน้าจอสะท้อนลงบนใบหน้าที่มันย่องของไอ้จ๊อดชั่วขณะเหมือนเห็นภาพของมันแสยะยิ้มแบบน่ากลัวประหนึ่งภาพหลอน ก่อนจะหายไปในพริบตา สองนาทีผ่านไปตัวเลขบอกเวลาในโทรศัพท์มือถือขึ้นที่ 00.00 พอดี นิ้วของไอ้จ๊อดก็ถูกยกขึ้นก่อนเลื่อนไปกดที่หน้าจอมือถือตรงสัญลักษณ์แอป TT เพื่อเข้าไปด้านในก่อนจะค้นหาคำว่า Make A Wish ซึ่งมันก็เจอแอ็กฯชื่อนี้จำนวนมากแต่หนึ่งในนั้นมีรูปโพรโฟล์แบบที่ไอ้พี่สันบอกแค่แอ็กฯเดียว มันรีบกดเข้าไปดูในนั้นไม่มีบอกประวัติอะไรทั้งสิ้น หน้าจอว่างเปล่ามีเพียงคลิปความยาวหนึ่งนาทีหน้าปกคลิปเป็นสีดำหน้ายิ้มแบบโลโก้สีขาวคลิปเดียว ไอ้จ๊อดยื่นมือไปเหนือหน้าจอโทรศัพท์บริเวณคลิป เหงื่อซึมออกมาจนเห็นเป็นเม็ดน้ำสีใสบนหน้าผาก คิ้วขมวดย่นยู่ มันกำลังลังเลใจ เนื่องจากคำร่ำลือที่สองเรื่องความตาย แต่ว่าในใจอีกครึ่งก็คิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่นขำ ๆ แบบจดหมายลูกโซ่สมัยก่อนที่ต้องเขียนต่อสี่ซ้าห้าฉบับส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ ที่ฮิตอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ว่าในใจอยู่ดี ๆ ก็ปรากฏภาพแม่ที่นอนป่วยติดเตียงและกำลังทรมาน และภาพที่ไม่มีเงินแม่ก็ต้องค่อย ๆ ตายไปทีละน้อย ๆ ในทุกวันทำให้มันกลั้นใจกดลงไปตรงหน้าจอที่เป็นตำแหน่งคลิปก่อนจะกลั้นใจรอคลิปเล่น ภาพแรกที่ปรากฏ คืออักษรสีแดงเหมือนสีเลือดไหลย้อยคำว่า Make A Wish กลางจอ ก่อนจะกลายเป็นภาพที่แม่ของมันได้รับการผ่าตัดและหายดี ทั้งยังมีเงินเหลือซื้อบ้านหลังใหญ่อยู่สุขสบายและมันเลิกเป็นพนักงานเซเว่นที่ต้องลำบากเข้ากะดึกเป็นประจำจนสภาพร่างกายย่ำแย่ มีรถหรูขับ มีเมียทั้งสาวและสวยและลูกสาวลูกชายหน้าตาน่ารัก จากนั้นคลิปก็จบลง ไอ้จ๊อดที่กำลังดื่มด่ำกับภาพที่ปรากฏก็สะดุ้งสุดตัวก่อนจะรู้สึกว่าสิ่งที่เป็นความต้องการในจิตใจเบื้องลึกของมันถูกตีแผ่ออกมาจนหมดเกลี้ยงในรูปคลิปที่มันดู จนคิดว่านี่มันหลอนยาสูบหรือเปล่า ก่อนจะพยายามยืนยันสิ่งที่เห็นเมื่อครู่โดยการกดที่คลิปอีกครั้งแต่คราวนี้กดเท่าไหร่คลิปก็ไม่ยอมเล่น แต่ค้างหยุดไว้เป็นหน้าจอสีดำ พื้นอักษรแบบเดิมคือสีแดงเลือดย้อยคำว่า Make A Wish แบบที่ปรากฏแรกสุด ไอ้จ๊อดตัดสินใจทันที ราวกับว่ามันโดนสะกดจิตล่อลวงไปแล้ว หัวใจถูกกดก่อนตามขั้นตอน จากนั้นกดที่วงกลมที่เป็นส่วนสำหรับคอมเมนต์ จากนั้นมันก็นึกว่ามันต้องการอะไร ' ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งชุดสิบใบ และ .... ' มันพิมพ์ลงไปแบบลังเลในส่วนการตายกดลบ ๆ อยู่หลายรอบ การตายต้องเป็นที่ถูกใจเจ้าของแอ็กฯว่ามันจะตายอย่างไร ก่อนจะนึกไอเดียได้เมื่อเหลือบไปเห็นลังสินค้าที่มาส่งและมีน้ำยาล้างห้องน้ำอยู่ในนั้น ' ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งชุดสิบใบและกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ' จากนั้นมันที่กำลังจะกดปุ่มโพสต์ส่งข้อความก็เกิดลังเลขึ้นมาอย่างประหลาดเหมือนสัญชาตญาณบอกมันว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้องมันไม่ควรทำ " เห้ย มึงทำอะไร!? " อารามด้วยความตกใจ นิ้วกดปุ่มส่งพอดีจากเสียงทักของไอ้พี่สัน " ไอ้พี่เหี้× ตกใจหมด แม่งเอ๊ย! " จ๊อดแหกปากโวยวาย มันรู้ตัวว่ากดปุ่มส่งข้อความที่พิมพ์ออกเรียบร้อยทั้งที่ยังไม่เตรียมใจสักนิด " อย่าบอกนะว่ามึงกำลังทำตามที่กูเล่า อิอิ " ไอ้พี่สันทำหน้าแบบล้อเลียน แต่จ๊อดกลับทำหน้านิ่งจนสันเลิกเล่น " ไหนมาดูสิว่ามึงโพสต์ขออะไรและจะตายแบบไหน " สันคว้าโทรศัพท์จากมือไอ้หนุ่มรุ่นน้องมาดูแต่ก็พบว่าหน้าจอกำลังเป็นไลฟ์สดขายขนมเปี๊ยะ เสียงแม่ค้าโฆษณาความอร่อยและสรรพคุณของขนมดังลั่นในความเงียบยามค่ำคืนชัดเจน " เอาคืนมา! ไอ้พี่บ้า " จ๊อดรีบคว้าโทรศัพท์กลับคืน ก่อนจะรีบปิดหน้าจอเก็บลงกระเป๋า เสียงที่ดังออกมาก็หายไปทันที " เออ ๆ มึงก็หวงจริ๊ง แต่ก็คำร่ำลือ มึงอย่าเอาไรมากล่ะ ลองหายืมเงินหรือลองคุยกับทางโรงพยาบาลดูว่ามีระบบแบ่งจ่ายไหมดีกว่า อย่างน้อยแกยังตัดแบ่งเงินเดือนไปจ่ายได้ยังไงแกก็เป็นพนักงานประจำของเซเว่นมาหลายปีความน่าเชื่อถือมันต้องมีบ้างล่ะวะ " สันให้คำแนะนำแบบที่ถูกที่ควร ก่อนจะถือแก้วกาแฟเดินจากไปตามทาง เมื่อหลังของสันลับตาไปในความมืด ไอ้จ๊อดรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดแอปดูและหาแอ็กเคานต์นั้นแต่ก็ไม่เจอแล้ว พยายามค้นเท่าไหร่ก็ไม่พบ จนมันคิดว่าสงสัยจะเป็นการล้อเล่นของพวกว่างงานสติไม่สมประกอบ และเขาเองก็ดันเชื่ออะไรบ้า ๆ ไปได้ จากนั้นก็ปิดโทรศัทพ์ก่อนจะจับมันยัดใส่กระเป๋าหลังของกางเกงและลุกไปทำงานต่อ หมดเวลาพักแล้ว ขืนช้ากว่านี้เกรงว่าเจ๊จิ๋มหัวหน้าของมันจะขบหัวเอา แต่ที่จ๊อดไม่เห็นคือ ตอนที่ลุกเดินออกไป หน้าจอโทรศัพท์ฉายแสงขึ้นเองและปรากฏภาพสัญลักษณ์กลมใบหน้ายิ้ม ตาเป็นรูปกากบาท แบบเดียวกับรูปโปรไฟล์ของแอ็กเคานต์ Make A Wish ขึ้นมาแว๊บหนึ่งกอนจะดับไป เหมือนว่าเจ้าของแอ็กเคานต์ได้รับคำขอและเลือกคำขอของจ๊อดเป็นที่เรียบร้อย" เอาล่ะครับ ได้เวลาแล้ว ผมจะลงมือจัดการวัตถุดิบก่อน อย่างแรกก็ต้องล้างให้สะอาด ถูกหลักอนามัย " อิงฟ้าถูกจับถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนเปลือยเปล่าก่อนจะถูกก๊อกน้ำแบบดึงไปมาได้ฉีดชำระล้างทั้งตัว พร้อมขัดถูจนแสบผิวหนังไปหมด จากนั้นขนทั่วตัวถูกถอนออกจนหมดโดยการแว็กซ์ แม้เธอจะเจ็บปวดจากการถูกแว็กซ์แต่ก็นับว่าน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับคราวที่เบ้าหน้าของเธอถูกเปลี่ยนแปลง น้ำตาคลอหน่วยเพียงเล็กน้อยแต่พอทุกอย่างเสร็จสิ้น อิงฟ้าเห็นเจ้าผีร้าย เดินไปหยิบมีดทำครัวสำหรับแล่เนื้อออกมาจากที่เก็บมีด ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดถูจนสะอาด " เมนูวันนี้ มีเนื้อตุ๋นพะโล้ เนื้อชุบแป้งทอด เนื้อนึ่งสามรส หม้อไฟเสฉวน คั่วกลิ้ง ขนมหวานเป็นเจลาตินจากลูกตานะครับ " แน่นอนว่าวัตถุดิบหลักคือเนื้อจากตัวเธอนั่นเอง อิงฟ้าร้องไห้อย่างหนักแต่ไม่มีเสียงลอดออกมา คนดูต่างพากันกรีดร้องในคอมเมนต์จนคอมเมนต์เลื่อนขึ้นด้วยความเร็วที่อ่านด้วยตาเปล่าไม่ทันเสียแล้ว ดนตรีถูกเปิดขึ้น เป็นเพลงแบบที่มักพบในหนังประเภทเชือด เลือดสาดของหนังจากเมกา เวลาฆาตกรโรคจิตกำลังจะชำแหละหรือทรมานเหยื่อ จากนั้น เสียงฮัมเพลงคลอตามจังหวะของผีร้ายก็ดังขึ้น
" ไม่ "คำตอบเย็นเยียบ ก่อนที่สีตาของซอนอาจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และร่างกายของเธอก็หดลงและกลายเป็นเด็กผู้ชายในชุดประจำชาติสีขาวที่อิงฟ้าเคยเจอสองครั้งสองคราและทุกครั้งอีกฝ่ายจะมาช่วยเธอ" พะ พะ พี่ซอนอา ไม่สิ เธอ เจ้าหนู "อิงฟ้าไม่รู้จะเรียกอีกฝ่ายว่าอะไร อิงฟ้าตกใจที่อยู่ ๆ ซอนอาก็กลายสภาพเป็นเด็กคนนั้น แต่เด็กชายไม่ทำให้เธอกลัว เธอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าที่หรือจิตวิญญาณเทพเจ้าของศาลเจ้าที่ไฟไหม้แห่งนั้น" เธอ ทำไมมาในรูปลักษณ์ของซอนอาล่ะ "เด็กชายยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะตอบด้วยเสียงของซอนอา" ฉันกับซอนอาก็คือคนคนเดียวกันแต่แรกแล้ว "" สองครั้งก่อนขอบคุณมาก แต่ว่าทำไมต้องแปลงร่างเป็นซอนอาด้วยล่ะ "" ซอนอาคือร่างแปลงของข้าในโลกมนุษย์ต่างหาก "เด็กชายตอบด้วยเสียงของเด็กชายประสานกับเสียงของซอนอาพร้อมกัน ทำให้รู้สึกน่าขนลุกอย่างประหลาด" แล้วเธอมาหาพี่ทำไมกัน "อิงฟ้าถามถึงจุดประสงค์ที่อีกฝ่ายมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอในเวลานี้อย่างระแวง" ตามสัญญาไงล่ะ "พูดจบ เด็กชายก็ดีดนิ้ว ตัวของอิงฟ้าก็แข็งทื่อก่อนจะล้มลงไปนอนบนโซฟาขยับไม่ได้ ตาของเธอและสติยังรับรู้แต่ว่าไม่อาจขยับร่างกายหรือส่งเสียงใด ๆ ได้ เด็กชา
อิงฟ้ารู้สึกตัวอีกที่ก็เมื่อมีคนมาตบหน้าเบา ๆ เรียกเธอให้ตื่น เสียงอันแสนคุ้นเคยทำให้เธอค่อย ๆ ลืมตาจนพบว่าคนที่มาคือพี่สาวคนสวย...ซอนอา นั่นเอง" เกิดอะไรขึ้น ทำไมบ้านเละเทะแบบนี้ล่ะ "อิงฟ้าทำหน้างงใส่อีกฝ่ายก่อนจะมองไปรอบบ้าน สภาพบ้านของเธอเหมือนมีพายุเข้าของจริง ข้าวของกระจัดกระจายระเนระนาดแต่ว่ารอบโซฟาที่เธอนั่งกลับปลอดภัยเสมือนเธอเป็นตาพายุที่ไม่โดนหางเลขซอนอารีบมาที่นี่เนื่องจากเธอติดต่อเด็กสาวไม่ได้ และด้วยความเป็นห่วงจึงบึ่งรถมายังบ้านพักของเด็กสาวและพบว่าประตูบ้านเปิดออก ในใจคิดว่าแย่แล้ว เธอไม่คิดอะไรรีบวิ่งเข้ามาด้านใน ก่อนจะพบสภาพภายในบ้านที่เละเทะแต่ตัวเด็กสาวปลอดภัยดี แค่หลับเท่านั้น ไม่มีอาการบาดเจ็บทางร่างกายแต่อย่างใดซอนอายิ้มมุมปากออกมาอย่างพึงพอใจ และปรับสีหน้าเป็นตกใจและทำการเขย่าปลุกเด็กสาวที่หลับใหลอยู่เด็กสาวได้สติก็โผเข้าหาซอนอาและร้องไห้โฮ ด้วยความรู้สึกท้วมท้นหลากหลาย เธออยากกลับบ้าน อยากเจอพ่อกับแม่ แต่ว่า ถ้าเธอจากไปวันนี้ ระหว่างอยู่บนเครื่องบินไม่มีอะไรรับประกันชีวิตเธอได้เลย ถ้าเจ้าสิ่งนั้นทำเครื่องบินตกล่ะหรือบังคับให้เธอทำอะไรที่เป็นอันตรายกับตนเอง
อิงฟ้าขอบคุณซอนอาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ซอนอาขับรถมาส่งเธอที่บ้านพักพร้อมกับอาหารตุนตลอดสองวัน จากตอนแรกที่จะให้ลูกน้องมาส่งแต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว มันอันตรายเกินไป " ตลอดสองวันนี้เป็นไปได้พยายามอย่าหลับล่ะ พี่คิดว่าพวกมันคงพยายามเล่นงานทางความฝัน "ซอนอารู้ดีว่ามันทำยากมาก เรื่องการอดนอนแต่ว่าถ้าอยากรอด เด็กสาวก็ต้องทำให้ได้" ได้พี่ หนูจะพยายาม พ้นสองวันนี้ คือหนูจะรอดใช่ไหม "ซอนอาไม่พูดอะไร แต่ส่ายหน้า" ถ้าพ้นสองวันนี้ไปพอมีทางช่วยให้เธออยู่รอดไปจนหมดวาระอายุขัย แต่...ทุกสิ่งต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียม จำไว้ ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ แต่ดีกว่าตายตอนนี้ "ซอนอายิ้มมุมปากน้อย ๆ ดูลึกลับและน่ากลัว จนอิงฟ้าขนลุกแบบไม่รู้ตัว เธอรีบลงรถทันทีเมื่อรถจอดที่หน้าบ้านพัก ไม่รู้ทำไมเธอไม่อยากจะอยู่กับซอนอานักในตอนนี้ เหมือนสัมผัสได้ถึงความอันตรายของซอนอาได้ราง ๆ แม้หลังจากที่ซอนอาพูดจบและบรรยากาศกลับมาเป็นปกติ เธอก็รู้สึกกลัวอยู่ดี ซอนอามองแผ่นหลังของเด็กสาวที่เปลี่ยนไปมากจากวันแรกที่เจอกันรีบเดินเข้าไปในที่พัก ก่อนจะรีบปิดประตูและคาดว่าคงจะติดยันต์ติดเครื่องรางรอบห้องรอบบ้านไปทั่ว " ใกล
" ปึง ปัง ..... "เสียงอะไรบางอย่างกระแทกประตูไม่หยุดทั้งแรงและหนัก กรอบประตูสะเทือนไหว อิงฟ้าดูเวลาอีกสิบนาทีพระอาทิตย์จะขึ้น เธอต้องทนอีกสิบนาทีเท่านั้นอิงฟ้าขังตัวเองในห้องนอนพร้อมกับเอายันต์และเครื่องรางที่เหลือติดตามผนังและประตูห้องนอนเอาไว้ ส่วนตัวเธอคลานไปบนเตียงหดงอขาคู้ตัว เอาผ้าห่มคลุมทั้งตัวร่างกายสั่นเทา เธอต้องทนฟังเสียงปึงปังต่อเนื่องจนกระทั่งได้ยินเสียงแกร่กและโครม เหมือนว่าประตูหน้าได้ถูกพังเข้ามาแล้ว และเสียงฝีเท้าก็เดินดิ่งตรงมาทางห้องนอนที่เธออยู่ในตอนนี้ประตูห้องนอนคือปราการด่านสุดท้ายของเธอระหว่างเธอและสิ่งน่ากลัวด้านนอก เจ้าสิ่งนั้นเริ่มกระบวนการเดิมในการพังประตูต่อ และแผ่นยันต์รวมถึงเครื่องรางก็พยายามต้านพลังการทำลายล้าง อย่างสุดความสามารถ เธอมองนาฬิกาเหลือเวลาเวลาอีกห้านาที กำแพงและประตูสั่นไหวรุนแรง แผ่นยันต์สีเหลืองทยอยสลายเป็นเถ้าไปทีละน้อย จากใบต่อใบ อิงฟ้ามองนาฬิกาพร้อมภาวนาในใจอย่างสิ้นหวัง ' เร็วเถอะ รีบขึ้นเร็วเถอะ 'เธอแทบอยากจะไปลากพระอาทิตย์ขึ้นเสียเองให้รู้แล้วรู้รอดไป" ตึง ตึง ปึง กราวว.....แคร่ก "เสียงกระแทกผสานเสียงกรอบประตูเริ่มแตกและปูนเ
" ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด...... "เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ก่อนที่อิงฟ้าจะพยายามตะเกียกตะกายลุกจากโซฟาที่นอนขดตัวอยู่ เธอตอนนี้ปวดไปทั้งตัว โดยเฉพาะคอที่มีรอบช้ำและตรงแขนที่มีรอยแดงจากการโดนผีโจมตี" ซี๊ด อูย ทำไมซวยจังวะ "หญิงสาวอดที่จะสบถออกมาไม่ได้ หลังจากอยู่กับซอนอามาพักหนึ่งทำให้เธอเริ่มติดนิสัยเสียชอบสบถของซอนอามา แต่ก็มีความกล้ามากขึ้นด้วยเช่นกัน อิงฟ้ารีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอเลือกเสื้อคอเต่าสีเบจที่สามารถปิดบังรอยที่คอได้และสวมกางเกงขายาวสีเข้ม ก่อนจะเลือกรองเท้าสนีกเกอร์ให้สามารถเดินระยะไกลหรือวิ่งได้อย่างสบาย เตรียมพร้อมเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างน้อยก็ยังเผ่นทันอิงฟ้าไปที่โรงพยาบาลตามนัดและเจ้าคอร์สดูแลผิวต่อเนื่องจากนั้นก็ปรึกษาเรื่องรอยแผลที่แขน ก่อนจะได้รับยามาทาและได้รับการเตือนจากคุณหมออย่างแข็งขัน เมื่อออกจากโรงพยาบาลอิงฟ้าก็เดินไปยังร้านที่เธอเจอแผ่นป้ายงานเทศกาลของศาลเจ้าที่ทำให้เธอสนใจ ก่อนจะพบว่าร้านนั้นอันที่จริงเป็นตึกร้างปิดประกาศขาย เมื่อถามคนแถวนั้นก็พบว่าที่นี่ปิดประกาศขายมาหลายปีแล้วแต่ไม่มีใครมาซื้อ สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำความแปลกเข้าไปอีก จากนั้นเธอก็นั่งร