สามวันผ่านไป วันนี้เป็นวันสิ้นเดือนพอดี เงินเดือนของไอ้จ๊อดก็ถูกโอนเข้าสู่บัญชีธนาคารที่ให้ไว้ตอนเซ็นสัญญาทำงานกับบริษัทในตอนแรก เงินเดือนเก้าพันห้านอนรอนิ่งในบัญชีแต่ไม่นานก็จะถูกถอนไปเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลแม่เกินครึ่งภายในอีกสองวัน สำหรับไอ้จ๊อดมันคือเรื่องปกติ เงินที่เหลือพอสำหรับแค่ค่ามาม่าที่กินได้ทั้งเดือนแต่ไม่พอค่าที่พักอาศัยหลับนอน มันอาศัยรับจ้างเข้ากะแทนหรือควงกะเอาทำให้ได้เงินพิเศษเพียงพอใช้แค่เดือนชนเดือนไม่เหลือเก็บ เวลาเลิกงานของกะดึกหลังจากจัดการส่งต่องานให้พนักงานกะเช้าเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบเก้าโมง ไอ้จ๊อดเดินตรงไปที่มอไซค์เก่า ๆ ของมันที่ใช้มาสิบปีตั้งแต่วัยรุ่น...เพื่อนคู่ทุกข์ยาก เมื่อเดินเข้ามาใกล้รถของตนก็พบว่ามีแผงขายหวยแบบแขวนสะพายไหล่วางไว้บนเบาะรถของมัน ส่วนเจ้าของแผงหายตัวไปไหนไม่อาจทราบได้ แผงไม่ได้ถูกพับปิดแบบปกติแต่เปิดโชว์หราแบบไม่กลัวคนมาขโมยไปสักนิด ไอ้จ๊อดที่พึ่งเลิกงานทั้งง่วงและหัวเสีย อยากจะเอาแผงออกไปวางที่อื่นก็กลัวว่าเดี๋ยวไปทำของเขาหายมันจะเป็นคนผิดจึงได้แต่จุดบุหรี่สูบรอฆ่าเวลา พอได้ควันบุหรี่เข้าปอดอารมณ์เหมือนจะสงบลง มันก็เริ่มสังเกตหวยบนแผงพบว่ามีอยู่ชุดหนึ่งสิบใบ เลขหกตัวเป็น 657890 เขียนว่า ชุด 60 ล้าน แปะป้ายสีแดงเด่นหรา สีแดงที่ทำให้มันนึกถึงคำว่า Make A Wish ขึ้นมา ไร้สาระน่า ไอ้จ๊อดคิดสนใจว่าเรื่องที่มันขอนั้นมันคือการล้อเล่นขำ ๆ อย่าไปคิดอะไรมากแต่ตาของมันก็ไม่อาจละสายตาไปจากหวยชุดนั้นได้ เหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่าง " ว๊าย! ป้าขอโทษพ่อหนุ่ม พอดีป้าปวดขี้รีบไปเข้าห้องน้ำ กลัวล็อตเตอรี่เปียกเลยวางทิ้งไว้ ขอบใจนะที่เฝ้าให้ " เจ้าของแผงเป็นป้าแก่ ๆ วัยเดียวกับแม่ของมัน แต่งกายด้วยชุดเสื้อขายาวแขนยาวและสวมหมวกกันแดดมิดชิด มองไปก็ทำให้มันนึกถึงแม่ที่โรงพยาบาลขึ้นมาตะหงิด ๆ " สนใจล็อตเตอรี่ไหม ป้าลดให้ขายใบละแปดสิบพอ ปกติป้าขายเก้าห้า อุตส่าห์เฝ้าแผงให้ป้า " จ๊อดมองล็อตเตอรี่ชุดสิบใบนั่นเขม็ง สิบใบแปดร้อยบาทเท่านั้น ไม่ใช่ว่ามันจะเจียดเงินซื้อไม่ได้ แต่ว่าถ้าไม่ถูกคือเงินสูญเปล่าทันทีเหมือนกัน ระหว่างกำลังชั่งใจว่าจะซื้อดีไม่ซื้อดี ป้าคนนั้นก็ปลดเสื้อคลุมออกพอดีเห็นเสื้อยืดข้างในของแกเป็นสีดำลายสีขาว ลายเดียวกับรูปโปรโฟล์ของแอค Make A Wish ไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ไอ้จ็อดชักสงสัยและใคร่รู้ไปในเวลาเดียวกัน " ป้า ลายเสื้อสวยนะ " " อ้อ ไอ้นี่ลูกชายซื้อให้บอกว่าการ์ตูนอะไรซักอย่างนี่แหละ ยี่ห้อด้วยนา ลูกป้ามันทำงานบริษัทใหญ่โตได้เงินเดือนเยอะอยู่มันบอกให้ป้าเลิกเดินขายล็อตเตอรี่ได้แล้วแต่ไอ้เราคนแก่อยู่เฉย ๆ ก็เบื่อไง ป้าก็เลยดื้อไม่เลิก ขายเอาขำ ๆ หาค่าขนม เจอผู้คนนี่แหละ " ป้าเจ้าของแผงเล่าเรื่องราวเป็นเรื่องเป็นราวพร้อมอวยลูกชายเสร็จสรรพ " ผมเอาชุดสิบใบชุดนี้ป้า " ไอ้จ๊อดชี้ไปที่ชุดสิบใบชุดเดียวที่อยู่บนแผง " โอ้ ดี ๆ ชุดนี้ดีมากแปดร้อยพ่อหนุ่ม จะจ่ายเงินสดหรือคิวอาร์โค้ดล่ะ " ไอ้จ๊อดฟังแล้วก็ตะลึงอึ้ง สมัยนี้ป้าขายล็อตเตอรี่ก็ทันสมัยเข้ายุคกับเขาเหมือนกันแฮะ ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์บ่งบอกว่าจะสแกนจ่าย ป้าเจ้าของแผงเอาโทรศัพท์ตัวเองออกมาแสดงคิวอาร์โค้ดรับเงินก่อนที่ไอ้จ๊อดสแกนจ่ายเงินเป็นอันเรียบร้อย เงินเดือนเก้าพันห้าของมันตอนนี้เหลือ แปดพันเจ็ด มาไวออกไวแท้! ไอ้จ๊อดรับล็อตเตอรรี่ในซองพลาสติกใสมาก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าสะพายข้างอย่างมิดชิดและทำให้มั่นใจว่าจะไม่หล่นหายไปไหน กระดาษสิบใบนี้มีมูลค่าเริ่มต้นแปดร้อย ถ้าถูกคือหกสิบล้าน มันต้องรักษาเท่าชีวิต ก่อนจะประกาศรางวัลกระดาษสิบใบนี้มีมูลค่าทั้งสิ้น ไอ้จ๊อดแยกย้ายกับป้าขายล็อตเตอรี่ มันขี่รถกลับหอพักไปนอนก่อนจะตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเย็น เตรียมเข้ากะดึกอีกรอบ พอตื่นสิ่งแรกที่ทำคือ เปิดกระเป๋าสะพายเช็กล็อตเตอรี่ว่ายังอยู่ดีไหม เมื่อเห็นพวกมันนอนนิ่งในกระเป๋าครบถ้วนก็ถอนหายใจก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวและขับรถออกไปยังร้าน มันทำงานตามปกติจนกระทั่งเวลาเที่ยงคืนพอดี เช่นเดิมมันขอตัวจากเจ๊จิ๋มออกมาพักห้านาทีก่อนจะหยิบโทรศัพ์มากดหาแอ็กเคานต์เมื่อวานแต่ก็ไม่พบอีกแล้ว " โดนหลอกแล้วมั้งกู เห้อ แปดร้อย " ไอ้จ๊อดถอนใจ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์และเดินเข้าร้านไปอย่างเซ็ง ๆ เพื่อทำงานต่อ ตอนเช้าที่เลิกงานคือวันที่หนึ่งของเดือนพอดี เรียกว่าวันรวยหรือวันหวยออก มันขับรถกลับด้วยความห่อเหี่ยวผสมเซ็งจัด ไม่อยากทำอะไรนอกจากล้มตัวลงนอน พร้อมคิดว่า กูไม่น่าเชื่อไอ้คำร่ำลือบ้า ๆ ที่ไอ้พี่สันบอกเลยวะ แม่งโคตรโง่ โตเป็นควายยังจะเชื่อเรื่องหลอกเด็กอยู่อีก " จากนั้นมันก็หลับไป จนกระทั่งตื่นมาอีกทีเป็นเวลาห้าโมงเย็น มันอาบน้ำแต่งตัวตามปกติเพื่อเตรียมเข้างานและยกโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจเช็กยอดเงินในธนาคาร พรุ่งนี้มันต้องนำเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่แล้ว เกรงว่าเดือนนี้อาจต้องควบกะหรือทำงานพิเศษที่อื่นเพิ่มอีกสักหน่อย สาขาอื่นที่เขาต้องการคนชั่วคราวก็สามารถไปทำได้ เอาวะแปดร้อยหาคืนได้ พอนึกถึงแปดร้อย ไอ้จ๊อดก็หยิบล็อตเตอรี่ออกมาจากกระเป๋า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เอาเช็กเผื่อถูกเลขท้ายสองตัวก็ยังดี สิบใบสองหมื่นเหนาะ ๆ มันไม่หวังรางวัลที่หนึ่งที่กว่าจะได้ยากแสนยากหรอก โทรศัพท์ถูกเปิดขึ้นมาก่อนจะปรากฏหน้าจอแสดงผล ไอ้จ๊อดเข้ากูเกิ้ลหรืออากู๋ ค้นหาผลของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดนี้ ก่อนจะเอาล็อตเตอรี่ของตัวเองมาเทียบ " เหี้x!!! เหี้x ๆๆๆๆๆๆ " เสียงโวยวายแหกปากลั่นเกินปกติด้วยความตกใจจนสติแตกดังลั่นห้องจนคนข้างห้องทุบผนังปัง ๆ เตือนมันจึงหยุดร้อง " แม่ง! เรื่องจริงหรือวะหรือกูตาฝาด " ไอ้จ๊อดไม่เชื่อ เลยเปิดคลิปการจับสลากฯย้อนหลังดูอีกรอบ และก็พบว่าตรงกันอย่างไม่ต้องสงสัย " โอย กูรวยแล้วโว้ย ฮ่าๆๆๆ " เสียงหัวเราะลั่นอย่างพอใจและดีใจ " ไม่ได้ล่ะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปขึ้นเงินแต่เข้า จะลาหยุดวันนี้ก็ไม่ได้อีก เจ๊จิ๋มไม่มีคนช่วยโดนด่าตายห่า " ไอ้จ๊อดที่เริ่มกังวลอีกแบบว่าล็อตเตอรี่จะหายหรือชำรุดชักไม่อยากไปทำงานจนกว่าจะเอาพวกมันไปขึ้นเงินสำเร็จแต่ติดว่ามันลางานกะทันหันไม่ได้นั่นเอง สุดท้ายมันก็ไปทำงานโดยที่กระเป๋าถูกสะพายตลอดเวลาหรือวางใกล้ตัวไม่ห่างจนเจ๊จิ๋มมองมันด้วยสายตาแปลก ๆ " มึงไม่ได้เอาของผิดกฎหมายเข้าร้านมาใช่ไหมวะ " " ไม่มีเจ๊ ใครจะกล้า เจ๊คิดมาก พอดีผมเบิกเงินมาจะไปจ่ายค่ายาแม่เลยกลัวหาย " ไอ้จ๊อดบอกปัดไปด้วยคำโกหกคำโตแต่เจ๊จิ๋มที่รู้ดีว่าไอ้จ๊อดมันต้องเบิกเงินไปจ่ายค่ายาแม่เป็นประจำจึงไม่สงสัยในคำพูดของมัน " เออ เอามาเก็บในเซฟมา " เจ๊จิ๋มเสนออย่างใจกว้าง เซฟที่ว่าเป็นเซฟเก็บเงินของร้าน ขนาดปานกลาง " ขอบคุณเจ๊ ผมฝากด้วยนะ " เจ๊จิ๋มเดินไปเปิดเซฟและให้ไอ้จ๊อดเอากระเป๋าของมันใส่เข้าไป ก่อนจะปิดลง ในใจคิดว่าขืนเธอไม่ทำแบบนี้งานการไอ้จ๊อดไม่ต้องทำงานพอดีมัวแต่พะวงอยู่นั่นแหละ วันนี้ไอ้จ๊อดทำงานแบบขยันขันแข็งประหนึ่งฉีดเลือดไก่เข้าเส้น มันกระตือรือล้นมากผิดปกติ แต่ว่าแม้หญิงสาวจะสงสัยแต่ว่ามันไม่ได้ทำผิดอะไรซ้ำงานดี เธอก็คร้านจะจุกจิกใส่ใจ เมื่อถึงเวลาเลิกงานยามเช้า ไอ้จ๊อดรีบเอากระเป๋าออกจากเซฟและมุ่งหน้าตรงไปยังกองสลากฯ เพื่อนำสลากฯ ไปขึ้นเงินทันที เมื่อมาถึงมันก็แจ้งความประสงค์รวมถึงยื่นบัตรประขาชนให้ เจ้าหน้าที่รับสลากฯ ไปตรวจเช็กเมื่อพบว่าถูกต้องไม่ได้ปลอมแปลงหรือเป็นสลากปลอมและเป็นสลากชุดที่ทางกองสลากจัดขายเป็นชุดอย่างถูกต้อง ก็เข้าสู่กระบวนการขึ้นเงิน " จะแบ่งจ่ายเป็นงวดหรือรับทีเดียวคะ " การแบ่งจ่ายทำให้เลี่ยงการเสียภาษีจำนวนมากได้แต่การจ่ายทีเดียวก็จะโดนภาษีหฤโหด " ทีเดียวเลยครับ นำเข้าธนาคารของผมเลยได้ไหมครับ " มันกลัวโดนปล้นถ้าเดินออกไปจากที่นี่ " ได้ค่ะ รบกวนขอสมุดบัญชีค่ะ " ไอ้จ๊อดเตรียมเอกสารมาเรียบร้อยและส่งให้กับพนักงาน ไม่นานก็มีข้อความเด้งเข้ามือถือของมันว่าเงินจำนวนสามสิบกว่าล้านเข้าแล้ว มันโดนค่าภาษีเงินได้ไป 35% ตามอัตราก้าวหน้า แต่แม้จะรู้สึกเสียดายแต่ก็ได้เงินก้อนใหญ่มาทีเดียวก็นับว่าสะดวกกว่า " ฮู้ว เสร็จเสียที คราวนี้ก็จัดการเรื่องแม่ได้แล้ว " เป็นอะไรในรอบหลายปีที่ไอ้จ๊อดรู้สึกดีอย่างยิ่ง มันไม่ต้องคิดเรื่องเงินเดือนชนเดือน ทำงานหามรุ่งหามค่ำ โรงพยาบาลที่แม่ของไอ้จ๊อดอยู่เป็นโรงพยาบาลรัฐ ห้องรวม เนื่องจากไม่มีใครมาเฝ้าได้ถ้าอยู่ห้องพิเศษ " แม่ เป็นไงบ้าง " ไอ้จ๊อดรีบเข้าไปยกมือไหว้แม่ก่อนจะนั่งลงข้างเตียง แม่ที่แก่และผอม ป่วยรุมเร้าไปด้วยโรคก็ลืมตาขึ้นมามองลูกชายคนเดียว ก่อนจะยิ้มให้อย่างดีใจ " เลิกงานแล้วรึ ไม่กลับไปพักผ่อนก่อนล่ะ " " ไม่ได้แม่ กว่าผมจะตื่นแผนกการเงินก็เลิกงานกลับบ้านกันหมด เดี๋ยวแม่ก็ถูกเตะโด่งออกจากโรงพยาบาลก็แย่ดิ " ไอ้จ๊อดพูดเล่นอย่างขำ ๆ ใส่แม่ตนเอง " เออ เขาไม่ขนาดนั้นหรอก แหม " สองแม่ลูกคุยกันสนุกสนานก่อนที่พยาบาลจะเข้ามาตรวจเช็กอาการของแม่ของจ๊อด " คุณหมอชายยังอยู่ไหมครับ " จ๊อดถามพยาบาล " อยู่ค่ะ " " แม่งั้นเดี๋ยวผมมาขอไปจ่ายเงินค่ายากับคุยกับหมอก่อนนะ " " เออ ไปดีมาดี แม่รอนี่นะ " จ๊อดยิ้มให้แม่ก่อนจะเดินไปด้วยความรู้สึกเบาสบายที่ภาระหนักที่แบกไว้กดทับใจได้ถูกยกออกจนหมดสิ้น คุณหมอชายเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รักษาและเป็นเจ้าของไข้เคสของแม่ของมัน ไอ้จ๊อดเคาะประตูห้องก่อนจะได้ยินเสียงอนุญาตให้เข้าไปด้านใน " สวัสดีครับหมอ " " อ้าว จ๊อด มาหาแม่รึ " " ครับ ผมแวะมาจ่ายค่ายาประจำเดือนนี้ด้วย " " อ้อ แล้วนี่เรื่องผ่าตัด ตัดสินใจได้หรือยัง " หมอชายถามตรงประเด็น อาการคนไข้น่าเป็นห่วงทำให้เขาอยากจะทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด " ผมหาเงินได้แล้วหมอ หมอนัดเวลาผ่าได้เลยครับ " หมอชายมองจ๊อดแบบแปลก ๆ ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา " หวังว่าจะไม่กู้พวกนอกระบบหรือทำอะไรผิดกฎหมายมาใช่ไหม " หมอมองด้วงดวงตาคมปลาบ " โอ๊ยหมอ ที่ไหนกัน ผมถูกหวยต่างหาก รางวัลที่หนึ่งสิบใบแหน่ะ " หมอชายทำหน้าไม่เชื่อ แต่จ๊อดก็เอาโทรศัพท์ที่หน้าจอแสดงโพสต์ของกองสลากฯ ส่งให้ดูภาพที่เขาถ่ายตอนรับรางวัล นั่นแหละหมอชายถึงจะเชื่อที่เขาพูด " โชคดีจริง ๆ นะ เอาล่ะในเมื่อไม่มีปัญหาเรื่องเงินก็หมอจะนัดวันผ่าให้ไวที่สุด แล้วอย่าลืมหาคนมาเฝ้าแม่เราด้วย " เรื่องคนเฝ้า ตอนนี้ครอบครัวเหลือแค่เขากับแม่แค่สองคนเท่านั้นแต่ว่าเขาตั้งใจว่าจะไปลาออกจากการเป็นพนักงานเซเว่นโดยให้เจ๊จิ๋มหาคนเตรียมเสียบแทนไว้ ยังพอมีเวลาก่อนเวลาที่หมอจะนัดผ่า " ครับหมอ " " รีบผ่าตอนนี้น่ะดี อาการแม่เธอยังทรงตัว อัตราความสำเร็จสูง " " ขอบคุณมากครับหมอ " หมอชายเป็นหนึ่งในคนที่มันนับถือ เนื่องจากรักษาและดูแลแม่ของเขาอย่างดีและรู้ว่าเขาต้องทำงานคนเดียวเพื่อหาเงินมารักษาแม่ไม่ยอมปล่อยทิ้งจึงคุยกับทางโรงพยาบาลเรื่องทำการจ่ายค่ารักษาค่ายาเป็นรายเดือนโดยแกเป็นคนรับรอง จ๊อดอยู่สนทนากับหมอเรื่องถูกรางวัลอีกนิดหน่อยก่อนจะขอตัว จากนั้นก็ไปจ่ายเงินค่ายาที่แผนกธุรกรรมของโรงพยาบาลก่อนจะกลับไปหาแม่ที่ห้องผู้ป่วยรวม " แม่ ผมมีเรื่องจะบอก แต่อย่าตกใจและทำเสียงดังล่ะ มันอันตรายกับผม " แม่ของจ๊อดเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้ ลูกชายของหล่อนมีลับลมคมในอะไรนักหนา " แกไม่ได้ขายยาใช่ไหม " " บ้าหรอแม่ พูดเหมือนหมอชายกับเจ๊จิ๋มอีกและ หน้าตาผมมันเหมือนคนขายยานักหรือไงกันหา " " ก็แกมันทำตัวไม่น่าไว้ใจ! " " โธ่ นี่ลูกแม่นะ เห็นเป็นคนดีหน่อยเหอะ " จ๊อดบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะกระซิบเล่าเรื่องถูกหวยรางวัลที่หนึ่งสิบใบรวดให้แม่ฟัง " เห้ย! อุ๊บ " แม่เผลอพูดเสียงดังและรีบยกมือปิดปาก แต่หน้าแกแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นจัด " ใจเย็น ๆ แม่แก่แล้ว เดี๋ยวหัวใจวายหรอก " จ๊อดเตือนด้วยความเป็นห่วง " ต่อไปนี้เราสองคนแม่ลูกก็สบายล่ะนะ ผมจะลาออกจากงานเซเว่น หาซื้อบ้านและรถ จากนั้นจะหากิจการเล็ก ๆ ทำเป็นของตัวเอง เงินที่เหลือเก็บกินดอกเอา " จ๊อดบอกแผนการในใจแก่แม่ของมัน " เออดี เห้อ เทวดาคุ้มครอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้โชค เราสองคนแม่ลูกลำบากมานานในที่สุดก็ลืมตาอ้าปากได้เสียทีนะ " แม่ของไอ้จ๊อดบ่นรำพึงรำพันกับตนเองเบา ๆ " แม่พักผ่อนเถอะ ผมต้องไปกลับไปพักและเตรียมเข้าเวรคืนนี้ก่อน และต้องแจ้งเจ๊จิ๋มด้วยให้แกหาคนใหม่มาแทน " " เออ ๆ จัดการให้เรียบร้อย " จ๊อดกลับออกจากโรงพยาบาลด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยไม่รู้ว่าโทรศัพท์มือถือของเขา ปรากฏวันเวลานับถอยหลังวาบขึ้นมา บอกเวลาที่เหลือยี่สิบกว่าวันกับอีกไม่กี่ชั่วโมง ก่อนหน้าจอจะดับไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
สามวันผ่านไป วันนี้เป็นวันสิ้นเดือนพอดี เงินเดือนของไอ้จ๊อดก็ถูกโอนเข้าสู่บัญชีธนาคารที่ให้ไว้ตอนเซ็นสัญญาทำงานกับบริษัทในตอนแรก เงินเดือนเก้าพันห้านอนรอนิ่งในบัญชีแต่ไม่นานก็จะถูกถอนไปเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลแม่เกินครึ่งภายในอีกสองวัน สำหรับไอ้จ๊อดมันคือเรื่องปกติ เงินที่เหลือพอสำหรับแค่ค่ามาม่าที่กินได้ทั้งเดือนแต่ไม่พอค่าที่พักอาศัยหลับนอน มันอาศัยรับจ้างเข้ากะแทนหรือควงกะเอาทำให้ได้เงินพิเศษเพียงพอใช้แค่เดือนชนเดือนไม่เหลือเก็บ เวลาเลิกงานของกะดึกหลังจากจัดการส่งต่องานให้พนักงานกะเช้าเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบเก้าโมง ไอ้จ๊อดเดินตรงไปที่มอไซค์เก่า ๆ ของมันที่ใช้มาสิบปีตั้งแต่วัยรุ่น...เพื่อนคู่ทุกข์ยาก เมื่อเดินเข้ามาใกล้รถของตนก็พบว่ามีแผงขายหวยแบบแขวนสะพายไหล่วางไว้บนเบาะรถของมัน ส่วนเจ้าของแผงหายตัวไปไหนไม่อาจทราบได้แผงไม่ได้ถูกพับปิดแบบปกติแต่เปิดโชว์หราแบบไม่กลัวคนมาขโมยไปสักนิด ไอ้จ๊อดที่พึ่งเลิกงานทั้งง่วงและหัวเสีย อยากจะเอาแผงออกไปวางที่อื่นก็กลัวว่าเดี๋ยวไปทำของเขาหายมันจะเป็นคนผิดจึงได้แต่จุดบุหรี่สูบรอฆ่าเวลา พอได้ควันบุหรี่เข้าปอดอารมณ์เหมือนจะสงบลง มันก็เริ่มสังเกตหวย
ไอ้จ๊อดหนุ่มเซเว่นกะดึก ที่ทำงานหาเงินทุกวิถีทางเพื่อมาเป็นค่ารักษาพยาบาลมารดาที่ล้มป่วย แต่ชีวิตก็เล่นตลก เมื่อมารดาอาการทรุดและต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนและต้องใช้เงินก้อนโต มันจะหาเงินมาได้อย่างไรในระยะเวลาอันสั้น สัน ลูกค้าประจำเซเว่นยามดึก เล่าตำนานที่ร่ำลือกันที่เคยได้ยินมาให้ไอ้จ๊อดฟัง คำขอพรที่เป็นจริง แต่มีสิ่งแลกเปลี่ยน… •••••••••" แม่งเอ้ย! "จ๊อด...หนุ่มพนักงานเซเว่นเตะถังขยะพลาสติกที่วางไว้หน้าประตูทางเข้าอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง โชคดีที่ถังพลาสติกค่อนข้างทนทานทำให้ไม่บุบสลายเสียหายจนจ๊อดอาจจะต้องเสียเงินชดใช้ค่าถังขยะที่ร้านใช้มานานปี ซึ่งราคาคงไม่เบานักบุหรี่ถูกคาบในปากและถูกดูดควันที่ระเหยออกมาเข้าปอดจนสุดแรงดูด ก่อนที่เจ้าหนุ่มจ๊อดจะอมควันไว้ชั่วครู่และพ่นออกมาด้วยสีหน้าพึงพอใจ ประหนึ่งว่าควันและกลิ่นของยาสูบช่วยผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดของตนเอง" ไอ้จ๊อด อย่าทำลายข้าวของสิวะ! "เจ๊จิ๋มหัวหน้ากะของร้านออกมาตะโกนด่าทอลูกน้องอารมณ์ร้อนของตน " โทดทีเจ๊ ผมหัวร้อนไปหน่อย "จ๊อดกล่าวขอโทษอย่างขอไปที หญิงสาวชินแล้วกับนิสัยของลูกน้องคนนี้ไม่ติดว่ามันทำงานดีและเก่ง
สายลมพัดโชย แสงแดดแรงจัดท่ามกลางฤดูร้อนในช่วงปิดเทอมทำให้ทุกคนต่างหลบกันในที่ร่มไม่ออกไปไหน แต่กระนั้นบนดาดฟ้าของคอนโดสูงหลายสิบชั้นแห่งหนึ่งก็ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มวัยประมาณสิบแปดสิบเก้าปีเดินเอื่อยเฉื่อยบนดาดฟ้า ในมือถือไม้เซลฟี่ที่มีโทรศัพท์ติดอยู่ ถ้ามองดูดี ๆ จะพบว่าหน้าจอโทรศัพท์กำลังทำการไลฟ์สดในแอปชื่อดังที่ชื่อว่า ทีที ซึ่งกำลังเป็นที่ฮอตฮิตกันในขณะนี้ เสียงกดไลฟ์ และเสียงส่งของขวัญให้กับผู้จัดรายการไลฟ์ดังต่อเนื่องตลอดเวลา ผู้ชมจำนวนมากหลั่งไหลกันเข้ามาดูไม่ขาดสายพร้อมคอมเมนต์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นจนอ่านไม่ทัน ใบหน้าของเด็กหนุ่มกำลังพูดกับผู้ชมในไลฟ์พร้อมยิ้มทั้งน้ำตา สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีดขัดกับคำพูดที่พูดออกมาจากปากอย่างสิ้นเชิง " สวัสดีครับ ผมแบ้งค์นะครับ เจอกันอีกแล้ว วันนี้ผมมีหัวข้อมาไลฟ์สด ชื่อว่า วินาทีสุดท้าย วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การออกมาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์และรับลมมากครับ "เด็กหนุ่มชื่อแบ้งค์หมุนตัวถ่ายบรรยากาศรอบ ๆ ตัวเขาทำให้ผู้ชมเห็นว่าตอนนี้เจ้าตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งที่เป็นพื้นที่สูงอย่างมาก บางคนคอมเมนต์ว่าดาดฟ้าตึกที่ไหนสักแห่ง บางคนบอกว่าไม่ดีล่ะ เนื