"ไม่ทราบว่าคุณหนูชื่ออะไรหรือขอรับ?" หวงอวี้ถามขึ้นหลังจากแนะนำตัวเองแล้ว ถิงถิงแก้มแดงเพราะความเคอะเขินพลางก้มหน้าเล็กน้อย "คุณหนูของข้าชื่อถิงถิงเจ้าค่ะ" อาหลันโพล่งขึ้น "ถิงถิง...เป็นชื่อที่ดียิ่ง...รอประเดี๋ยว ข้าจะไปเก็บลูกกลมหวายสานให้เองขอรับ" กล่าวจบ หวงอวี้ก็วิ่งไปยังริมสระบัวทันที "ไม่ต้องหรอกคุณชายหวง" ถิงถิงเอ่ยปากห้าม ทว่าช้าไป...หวงอวี้กระโดดลงสระบัวไปเก็บลูกกลมหวายสานแล้ว... "คุณชายหวงอวี้เก็บลูกกลมหวายสานขึ้นจากสระบัวให้คุณหนูถิงถิงเสร็จ ก็จากไปในสภาพเปียกปอน" อาหลันเล่า "ต่อมา...คุณหนูถิงถิงและข้าน้อยถึงได้รู้ว่าคุณชายหวงอวี้เป็นบุตรชายคนเดียวของเศรษฐีหวงหลงที่มีกิจการค้าหลายอย่างในเมืองหลวง และเศรษฐีหวงหลงก็เป็นสหายรักของนายท่านเหอผิง วันหนึ่ง คุณหนูถิงถิงเล่นซ่อนแอบกับข้าน้อย ข้าน้อยหาคุณหนูถิงถิงไม่พบ ก็กลับไปรอคุณหนูอยู่ที่ห้องของคุณหนู จนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามครึ่ง คุณหนูถิงถิงก็กลับมาที่ห้องส่วนตัว ข้าน้อยรีบถามคุณว่า..." อาหลันนึกถึงเรื่องราวในอดีต... "คุณหนู ท่านไปซ่อนตัวที่ไหนเจ้าคะ บ่าวหาค
ที่ห้องโถงพักผ่อนห้องหนึ่งในพระตำหนักหลวง ถูกไท่ชินอ๋องใช่เป็นห้องเบิกความ...ไท่ชินอ๋องนั่งในตำแหน่งประธาน มีท่านอ๋องสี่นั่งอยู่ด้านข้าง อีกฝั่งหนึ่งของห้อง หลี่ชิงกับอาเฟยนั่งเคียงกัน หลังฉากกั้น ตาเฒ่าแซ่กู้และภรรยาถูกนำตัวมาคุกเข่าต่อหน้าไท่ชินอ๋อง "ท่านอ๋องได้โปรดอภัยไว้ชีวิตพวกข้าน้อยด้วยเถิดขอรับ ต่อไปพวกข้าน้อยจะไม่กล้าทำความผิดอีกแล้วขอรับ" ตาเฒ่าแซ่กู้วิงวอนขอร้อง เขากับภรรยาคุกเข่าโขกศีรษะอย่างหวาดกลัว "ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า...แต่โทษตายละเว้นให้ โทษเป็นยังคงต้องรับ พวกเจ้าสองคนหลอกลวงเบื้องสูง ทว่าเห็นแก่เป็นคนสูงวัยไร้การศึกษา ทำเพราะความรักลูก ยากจนข้นแค้น จึงให้ลงโทษเบา เฆี่ยนด้วยหวาย สามีสามสิบที ภรรยายี่สิบที และตอบแทนความดีความชอบที่เคยช่วยชีวิตพระชายาเอาไว้จากพงหญ้าริมทาง จึงประทานเงินให้หนึ่งร้อยตำลึง" ไท่ชินอ๋องตัดสินความสองสามีภรรยาแซ่กู้แล้ว ทหารก็นำตัวคนทั้งสองออกไปจากห้องโถงแห่งนั้น หลิวกงกงเดินเข้ามาคุกเข่าน้อมคำนับไท่ชินอ๋อง "น้อมเรียนท่านอ๋อง...บ่าวไปปราบโจรอำเภอฉางซาน พวกโจรแตกพ่ายหนีขึ้นเขาฉางซาน บนเขามีค่ายโจรใหญ่ตั
ท่านอ๋องสี่ไปพบไท่ชินอ๋องที่พระราชวังหลวง...ทั้งสองไปปรึกษาหารือกันในห้องทำงาน ท่านอ๋องสี่มอบของกำนัลของอำมาตย์เหอผิงให้ไท่ชินอ๋องชมดู พร้อมกับเล่าว่า "อำมาตย์เหอเอามากำนัลให้อาเฟย" ไท่ชินอ๋องเปิดกล่องดูแท่นฝนหมึกหยกม่วง แล้วกล่าวว่า "กำนัลด้วยของล้ำค่าเช่นนี้ ย่อมต้องมีคำขอร้อง" "หึๆๆๆๆ..." ท่านอ๋องสี่หัวเราะอย่างขบขัน "อำมาตย์เฒ่าคงมีคำขอร้องแน่ๆ แต่อาเฟยของข้าเหมือนผู้อื่นซะที่ไหน...เห็นโจ๊กสองชามสำคัญกว่าแท่นหยกม่วงฝนหมึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังหายากยิ่งหนึ่งในสามชิ้นของประเทศ" ไท่ชินอ๋องยิ้มขบขัน "แล้วจะทำอย่างไรกับแท่นหยกฝนหมึกล้ำค่าอันนี้?" "ข้าถามแล้ว...อาเฟยไม่สนใจมัน ข้าจึงนำมาให้พี่ใหญ่จัดการ" ท่านอ๋องสี่เอ่ย "ถ้าเช่นนั้น...ข้าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานการติดสินบนของอำมาตย์เหอ" ไท่ชินอ๋องกล่าว "ก็ดี...ข้าให้อาเฟยอย่าเพิ่งไปหอสุราเจ็ดวัน" ท่านอ๋องสี่เอ่ย "เขายอมเชื่อฟังหรือ?" "ข้าให้ต้าหยางไปหาปลากัดสวยๆ ร้อยตัวมาให้อาเฟยเล่นแก้เบื่อ" "อ้อ..." ไท่ชินอ๋องทำเสียงรับรู้ "อีกอย่างหนึ่ง...ข้าอยากขอร้องพี่ส
"ขออภัยขอรับพระชายา" อำมาตย์เหอผิงรีบกล่าวพลางค้อมศีรษะคำนับ "ข้าน้อยเพียงต้องการจะมอบของกำนัลให้พระชายา แล้วก็จะกลับขอรับ" "นี่ขอรับของกำนัล" อำมาตย์เหอทงรีบนำกล่องที่ทำจากไม้ล้ำค่าฝังมุกงดงามมาเปิดบนโต๊ะให้พระชายาอาเฟยชม อาเฟยมองแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจนัก พลางโบกมือให้ต้าโก่วรับของ แล้วเอ่ยว่า "แค่นี้ใช่ไหม?" "เอ่อ..." อำมาตย์เหอผิงเพิ่งจะอ้าปากได้เพียงแค่เสียงเดียว พระชายาอาเฟยก็รีบรวบรัดตัดความ "หมดธุระแล้ว เชิญท่านทั้งสองเถอะ" แล้วลุกขึ้นเดินจากไป อำมาตย์สองพ่อลูกได้แต่มองหน้ากัน เพราะต้าหนิวยืนทะมึนทำท่าส่งแขก ทั้งสองหิวจนไส้กิ่ว แต่จะอยู่ต่อเพื่อกินอาหารก็เกรงจะเสียมารยาท จึงจำใจต้องลุกจากโต๊ะอาหาร ออกจากหอสุราอาเฟยไปขึ้นรถม้ากลับจวน ส่วนอาเฟยนั้น พอปลีกตัวจากสองอำมาตย์ตระกูลเหอ ก็ตรงรี่กลับห้องพักผ่อนส่วนตัวในหอสุราอาเฟย ต้าหยางยกถาดใส่ชามโจ๊กมาให้อย่างรู้ใจ อาเฟยไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกชามโจ๊กขึ้นซดอึกๆ อย่างหิวจัด ซดโจ๊กหมดไปสองชาม ก็ร้องว่า "เอามาอีก" "ไม่ได้ขอรับ...ท่านหมอสั่งว่า พระชายากินโจ๊กได้มื้อละสองชามขอรับ" อา
หลังจากอบรมให้ไท่หวางเฟยดูแลตนเองเพื่อประเทศชาติแล้ว ก่อนจะกลับมหาอำมาตย์ไห่สุยก็กล่าวทิ้งท้ายว่า"ไท่หวางเฟย...หากท่านได้พบกับพระชายาของท่านอ๋องสี่ก็ช่วยบอกพระชายาว่าให้ระวังอำมาตย์เหอผิงด้วย" "ใต้เท้าไห่พบเห็นสิ่งใดไม่ชอบมาพากลหรือขอรับ?" หลี่ชิงถาม "เมื่อเช้า...ขณะที่ข้านั่งรถม้าจะมาประชุมที่ท้องพระโรง ผ่านหอสุราอาเฟย ได้เห็นรถม้าของจวนตระกูลเหอแล่นมาจอดที่หน้าหอสุรา...เกรงว่าผู้มาไม่หวังดี ผู้หวังดีไม่มา...ไท่หวางเฟยหากพบพระชายาก็ช่วยกล่าวเตือนหน่อยเถิด" มหาอำมาตย์ไห่สุยกล่าว "ขอรับใต้เท้า" หลี่ชิงรับคำ "เช่นนั้น ข้าขอตัวก่อนละ ไท่หวางเฟยจะได้พักผ่อน" กล่าวแล้วน้อมคำนับ "เสี่ยวฉี" หลี่ชิงเรียกขันทีคนสนิท "ช่วยออกไปส่งใต้เท้าไห่แทนข้าที" "ขอรับ" ฉีกงกงน้อมรับคำสั่ง แล้วออกไปส่งมหาอำมาตย์ไห่สุย พอหมดคนนอก...หลี่ชิงก็ถามไท่ชินอ๋องว่า "ท่านอ๋อง ทำไมท่านถึงบอกว่าข้าป่วยเพราะไปตากลมกลางคืนละขอรับ?" ไท่ชินอ๋องยกยิ้มมุมปาก "หรือจะให้ข้าบอกใต้เท้าไห่ว่า...ไท่หวางเฟยเล่นซุกซนเป็นเด็ก ชงชาผสมนั่นผสมนี่ ดื่มจนท้องเสียดีละ?"
เวลาเย็น...ที่ห้องนอนของไท่ชินอ๋องในวังหลวง... ไท่ชินอ๋องป้อนโจ๊กหลี่ชิงที่ครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียงนอนกว้างใหญ่ เด็กหนุ่มรู้สึกเขิน จึงเอ่ยว่า "ท่านอ๋อง...ข้ากินเองดีกว่า" พลางขยับตัวขึ้นนั่งตรง ฉีกงกงรีบเพิ่มหมอนหนุนหลังให้ หลี่ชิงดึงชามโจ๊กจากมือไท่ชินอ๋องไปตักกินเอง ไท่ชินอ๋องก็รับชามโจ๊กจากขันทีอีกคนหนึ่งมายกขึ้นดื่ม หลี่ชิงมองด้วยความประหลาดใจ แล้วอดถามไม่ได้ว่า "ท่านอ๋อง...ไยท่านก็กินโจ๊กด้วยละขอรับ?" "ข้ากินเป็นเพื่อนเจ้า" ไท่ชินอ๋องตอบ "อย่าเลยขอรับท่านอ๋อง...เดี๋ยวตกดึกจะหิว" หลี่ชิงเอ่ยอย่างเป็นห่วง "ผู้ใดใช้ให้เจ้าท้องเสียล่ะ?" ไท่ชินอ๋องเอ่ยเสียงเรียบๆ "เจ้าท้องเสีย เจ้าต้องกินโจ๊กเปล่าใส่เกลือ ข้าก็สมควรกินเป็นเพื่อนเจ้า เพราะว่าสามีภรรยาต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน" "ข้าท้องเสียต้องกินอาหารอ่อน แต่ท่านอ๋องไม่ได้ท้องเสียซะหน่อยนี่ขอรับ" หลี่ชิงกล่าวเสียงอ่อนๆ "ท่านอ๋องสมควรกินอาหารปกติให้อิ่มนะขอรับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทรมานร่างกายเสียเปล่าๆ""รู้ด้วยหรือว่าการอดอาหารมื้อเย็นเป็นการทรมานร่างกาย...แล้วที่
อ๋องสี่ไม่ฟังอะไรอีกแล้ว...ลุกจากโต๊ะน้ำชาได้ ก็พุ่งไปยังประตู พอเปิดประตูออกไปก็ไม่สนใจอะไร พุ่งทะยานตรงกลับพระตำหนักของตนทันทีหลี่ชิงที่วิ่งไล่ตามก็ถูกไท่ชินอ๋องอุ้มทะยานตามอ๋องสี่ไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าดาวตก...ชิงชิงน้อยกลัวตกก็ใช้สองแขนกอดไท่ชินอ๋องเอาไว้แน่น เมื่อทั้งสามมาถึงพระตำหนักที่อ๋องสี่กับอาเฟยพักอาศัย ก็หยุดดูเหตุการณ์อย่างงงงัน... อาเฟยกำลังเอะอะโวยวายวิ่งไล่ต้าโก่วที่วิ่งหนี โดยมีบรรดาเพื่อนๆ ชาวต้าเหลียวคอยทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้พระชายาอาเฟยจับตัวต้าโก่วได้ "ต้าโก่วคืนถ้วยน้ำชาของข้ามา" อาเฟยส่งเสียง "อย่าขอรับ พระชายา...มันอันตรายยิ่ง" ต้าโก่วตอบพลางถือถ้วยน้ำชาวิ่งหนีไปรอบๆ "อันตราย? เจ้าพูดเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ที่ต้าเหลียวมีใครบ้างไม่รู้จักอาเฟยยอดฝีมือชงชาอันดับหนึ่ง ชาที่ข้าชงอร่อยขึ้นชื่อลือชา" อาเฟยโมโหจนแก้มป่อง "ใช่แล้วขอรับ ดังนั้นชาถ้วยนี้ข้าน้อยขอเป็นผู้ชิมให้เองขอรับ" "ได้อย่างไร...พวกเจ้าชิมก็ได้แต่ทำหน้าประหลาดๆ แล้วบอกว่าอร่อย แต่ข้าไม่รู้ว่าต้องเพิ่มอะไรหรือลดอะไรบ้าง ดังนั้นข้าต้องชิมเอง"
เพียงไม่ถึงสามวัน...หลิวกงกงก็มารายงานไท่ชินอ๋องกับหลี่ชิง ที่ห้องพักผ่อนในวังหลวงว่า "น้อมเรียนไท่ชินอ๋อง น้อมเรียนไท่หวางเฟย... เรื่องของนายอำเภอฉางซานคนก่อน เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของบัณฑิตหวงหลีที่เมืองฉงโจว บัณฑิตหวงเสียชีวิตเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ต่อมาอีกห้าปีภรรยาของบัณฑิตหวงก็เสียชีวิต เหลือเพียงบุตรชายคนเดียวซึ่งก็คือหวงอวี้ หวงอวี้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อสอบเป็นบัณฑิตหลวง ได้พักอาศัยอยู่ที่จวนของอำมาตย์เหอผิง และอำมาตย์เหอผิงก็เป็นบิดาของเหอถิงภรรยาของหวงอวี้...ที่น่าประหลาดใจก็คือ...นายอำเภอหวงอวี้กับภรรยาไม่ได้สมรสกันอย่างถูกต้องตามพิธีการ ทั้งที่หวงอวี้สอบได้ที่สามของบัณฑิตหลวงขอรับ""สาเหตุที่หวงอวี้ไม่ได้สู่ขอสมรสกับแม่นางเหออย่างถูกต้องตามประเพณีเพราะอะไร?" ไท่ชินอ๋องซักถาม "เพราะอำมาตย์เหอไม่อนุญาตให้บุตรสาวตบแต่งกับนายอำเภอหวงอวี้ขอรับ เนื่องจากว่าได้รับการสู่ขอจากตระกูลของอำมาตย์เกาซื่อไว้ แต่แม่นางเหอถิงดื้อรั้นติดตามนายอำเภอหวงอวี้ไป อำมาตย์เหอโมโหจนประกาศตัดพ่อตัดลูกกับนาง พอแม่นางเหอถิงจากไปแล้ว อำมาตย์เหอก็ให้บุตรสาวอีกนางหนึ่งที่เกิดจากภรรยารองแ
หลี่ชิงเม้มปากมองผู้เป็นสามี หมดคำพูดจะกล่าว ได้แต่นึกบ่นในใจว่า...ท่านอ๋อง วิธีทรมานคนอย่างทารุณ แต่ไม่เห็นเลือดแบบนี้ ท่านก็อุตส่าห์คิดค้นออกมาได้! แล้วนึกได้ถึงอีกปัญหาหนึ่งขึ้นมา "ท่านอ๋อง...บุตรชายของผู้แซ่กู้กับแม่นางที่มีครรภ์ รอช้า...พวกเขาอาจจะถูกผู้ใหญ่บ้านหรือไม่ก็พวกชาวบ้านจับไปถ่วงน้ำให้ตายเสียก่อนนะขอรับ" "อืมม์..." ไท่ชินอ๋องพยักหน้า "เรื่องนี้ข้าจะส่งคนไปห้ามผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านไม่ให้ทำร้ายพวกเขาก่อน รอตาเฒ่ากู้กับภรรยากลับไปจัดการ" "ท่านอ๋องว่า...รอตาเฒ่ากู้กับภรรยากลับไป...หมายความว่า ท่านอ๋องจะอภัยโทษให้พวกเขาหรือ?" หลี่ชิงถาม"ขอเพียงตาเฒ่ากู้พาหลิวยี่ไปยังที่ที่พบอาเฟยในตอนแรก...ด้วยความสามารถของหลิวยี่ ย่อมต้องสืบเสาะจนได้เบาะแสชาติกำเนิดของอาเฟยมาได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน ซึ่งข้าได้ออกปากแล้วว่าจะไว้ชีวิตเขากับภรรยา...ทว่าโทษตายข้าจะอภัยให้ แต่โทษเป็นยังต้องรับ" "โทษเป็น?" "โบยด้วยหวาย แล้วจึงปล่อยตัวกลับ" หลี่ชิงถอนหายใจเฮือก "ข้าไม่เห็นว่า...กลับไป พวกเขาจะแก้ปัญหาเรื่องของบุตรชายได้อย่างไร?" "พวกเขามาแอบอ้างต