Share

บทที่ 15 เจอหน้าเขาครั้งสุดท้าย

เงาขาวร่างใหญ่เหล่านี้ก็เหมือนซากศพที่ถูกต้มจนบวมเป่ง พวกเราทั้งหมดล้วนสยองขนพอง ขนาดกลางวันแสก ๆ ยังกล้าหลอกกันอีก!

“งั้นเงาเหล่านี้ ใช่คนหนุ่มสาวที่จมน้ำตายในทะเลสาปไหมคะ?”

ชายมีอายุจ้องมองไปที่เงาเหล่านั้น ก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อยพลางพูดว่า “นี่ยังไม่ชัดเจน ผมไม่กล้าไปดู แต่เมื่อสองสามปีก่อนคนที่ตายในทะเลสาปเป็นนักศึกษาสาววัยรุ่น ที่ถึงตอนนี้ก็ยังปิดคดีไม่ได้ เมื่อก่อนมันก็แค่ทำให้คนกลัวเท่านั้น พอหลังจากนั้นสิบวันศพก็จะเริ่มลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ มาหลอกคนอื่น โชคดีที่ตอนนี้อากาศหนาว ช่วงนี้เลยไม่ค่อยมีใครมาเล่นที่นี่เลย”

แล้วทำไมผีพวกนี้ถึงพึ่งจะมาหลอนหลอนกันล่ะ? แต่ถ้าลองนับดูฉันก็พึ่งเป็นร่างทรงได้แค่ประมาณสิบวัน สิ่งเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่านะ

พอคิดจบแบบนั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า ทำไมถึงเกิดเรื่องบังเอิญเช่นนี้ขึ้นได้

“แม่หมอ ตอนนี้คุณรู้ว่าเราไม่ได้โกหกคุณแล้วใช่ไหม? เราควรทำอย่างไรดี!”

ด้วยน้ำเสียงของหญิงผู้นี้ดูขี้ขลาด แต่ฉันเองก็หนังศรีษะชาจนไม่กล้าขยับเขยื้อน แต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คงจะหันหลังกลับไม่ได้อีก มือเรียวจึงหยิบยันต์สีเหลืองที่เขียนขึ้นเมื่อวานออกจากนะเป๋าแล้วยื่นให้คู่สามีภรรยา แม้ว่าในใจจะหวาดกลัว แต่ก็กลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นแล้วทำให้สองสามีภรรยาต้องเหนื่อยกว่าเดิม ดังนั้นจึงบอกให้พวกเขาไปรอข้างริมทะเล ฉันจะตามไปดูในถ้ำเอง

คราวนี้ฉันต้องการที่จะต้องรู้ให้ได้ว่าทั้งสามคนนี้เป็นวิญญาณหรือซากศพ ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ฉันอกสั่นขวัญหายก็เถอะ อีกไม่นานฉันก็จะลงมือทำแล้ว หากยันต์ของฉันได้ผล ฉันก็จะจัดการกับพวกเขา แต่ถ้าเปล่าประโยชน์ ก็คงต้องวิ่งไปขอให้แม่หมออิงมาจัดการด้วยตัวเอง

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาหน่อย ฉันค่อย ๆ ย่องเข้าหาเงาขาวขนาดใหญ่ทั้งสาม เมื่อเข้าใกล้มากขึ้น ก็ยิ่งเห็นลักษณะของพวกเขาชัดเจนว่าเป็นอย่างไร

มันคือสามศพ แต่แทนที่เนื้อตัวจะบวมเป่งจากการจมน้ำ พวกมันกลับถูกแช่แข็งและยืนตัวตรงบนขอบหลุมน้ำแข็งขนาดใหญ่ เจ้าของร่างเป็นหญิงสาวสามคนแถมอายุยังน้อย มองดูแล้วอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกันกับฉัน ร่างกายที่อยู่ใต้น้ำแข็งไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม พวกเธอเปลือยเปล่า อุปกรณ์ติดตัวก็ไม่มีสักอย่างและไม่รู้ว่าพวกเธอประสบอะไรมา

เป็นไปได้ไหมว่าหญิงสาวสามคนนี้เป็นศพของหญิงที่ถูกฆ่าตายในทะเลสาปเมื่อสองสามปีก่อนและไม่ได้ถูกกู้ร่าง?

ฉันเองก็ไม่กล้ามั่นใจเท่าไหร่และไม่กล้าประมาทด้วย ยันต์ที่ถืออยู่ในมือถูกวางไว้รอบ ๆ ศพทั้งสาม แต่ศพทั้งสามก็ไม่แสดงท่าทีอะไร แถมยังสงบนิ่งไม่ต่างจากเดิม

นี่มันน่าแปลกมาก ๆ พวกเธอก็ปรากฏตัวแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าแค่อยากกุเรื่องแกล้งให้ผู้คนที่นี่หวาดกลัว?

ทีแรกฉันตั้งใจว่าจะใช้ยันต์นี้จัดการกับพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ขยับเลย ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรกับศพทั้งสามนี่ ฉันเดินไปรอบ ๆ พวกเขาเหมือนสุนัขที่อยากกินอุจจาระ ตอนนี้ไม่ได้กลัวเท่าไหร่แล้ว แต่ยิ่งคิดยิ่งโมโห ถ้าจัดการศพพวกนี้ไม่ได้ แล้วฉันจะอธิบายให้ทั้งคู่ฟังว่าอย่างไร?

ในเวลานี้ ถ้าหลิวหลงถิงอยู่ก็คงจะดี

ขณะที่ฉันนั่งกลุ้มใจอยู่หน้าก้อนน้ำแข็งพลางคิดว่าจะจัดการกับศพทั้งสามนี้อย่างไร จู่ ๆ ก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังฉันราวไม่พอใจ “เธอนี่มันปัญญาอ่อนจริง ๆ ศพพวกเขาโผล่มาหมดแล้ว เธอก็โทรเรียกตำรวจสิ!”

ฉันหันไปตามเสียง ปรากฏว่าเป็นหลิวหลงถิง!

เวรแล้ว!

ในวินาทีนี้ ฉันอยากจะเรียกเขาว่าพ่อพระจริง ๆ ความรังเรียจที่เคยมีต่อเขาถูกกำจัดออกไปหมด ฉันรีบลุกขึ้นไปหาเขาอย่างเร็ว เขาในตอนนี้ที่สวมเสื้อคลุมสีกรมท่ามาพร้อมปกขนสัตว์สีขาว ผมเผ้าเรียบตรงดูเป็นระเบียบ ในมือถือกระเป๋าใบไม่ใหญ่มาก ที่คอพันผ้าพันคอลายสก๊อตเหลือเพียงใบหน้าอันใสสะอาดทีโผล่พ้นออกมา มันดูและอบอุ่นและมีสไตล์มาก

ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าเสื้อผ้าของตานั่นจะดูดีขนาดนี้ ก่อนหน้านี้คิดว่าเขาจะใส่เป็นแต่ชุดขาว ทว่าตอนนี้เขาได้เดินมาอยู่ข้างฉันแล้ว ฉันจึงรีบคว้ากระเป๋าในมือเขาไว้ พลันถามว่า “นายไม่ได้กลับบ้านหรอ? ทำไมถึงยังมาที่นี่อีก”

หลิวหลงถิงมองฉันที่กำลังประจบสอพอเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง พลางถอนหายใจ “ฉันผ่านมาทางนี้พอดี ฉันไม่ไว้ใจเธอก็เลยแวะมาดู คิดไม่ถึงว่าเธอจะโง่กว่าที่ฉันคิด”

พึ่งเจอหน้ากันก็ถูกตานั่นว่าแล้ว ฉันรู้สึกไม่สบายใจมาก จึงบอกเขาว่าเจอสถานการณ์เช่นนี้ฉันทำอย่างไรได้บ้าง ฉันเองก็หมดหวัง ศพเหล่านี้ยังนิ่งอยู่เลย ฉันควรทำอย่างไร?

เมื่อหลิวหลงถิงเงยหน้าดูศพหญิงสาวเหล่านี้แล้ว ในดวงตาก็ดูเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เหมือนว่าเขาจะรู้จักหญิงสาวเหล่านี้ เขาเงียบลงทันที “หญิงสาวเหล่านี้ตายมาหลายปีแล้ว ฉันเดาว่าใต้ทะเลสาบนี้ยังมีสายน้ำเย็นจากที่ไหนสักแห่งไหลเวียนอยู่ หรือมีสถานที่ที่น้ำแข็งไม่ละลายตลอดทั้งปีหลงเหลือ ร่างกายของพวกเธอติดอยู่ในนั้นจึงไม่เน่าเปื่อย ส่วนสาเหตุของการตายนั้น เธอลองเชิญเยว่เทียนเซียงมาถามดู เธอสื่อสารกับวิญญาณได้ดีกว่าฉัน”

เชิญเยว่เซียงเทียนหรอ? หล่อนเป็นผลพวงจากเป็นธุรกิจของหวางหงที่ฉันรับช่วงต่อ และหญิงคนนั้นก็ถูกเนรเทศจากยมโลก

“แล้วจะเชิญยังไงล่ะ?” ฉันเอ่ยปากถาม

หลิวหลงถิงเหลือบมองมาที่ฉันแบบไม่ใส่ใจที่จะอธิบาย เขาเอาร่างแนบชิดกับฉัน และบอกว่าสักครู่ฉันจะได้เรียนรู้ว่าจะเชิญวิญญาณได้อย่างไร เยว่เทียนเซียงเป็นทหารเฝ้าประตูทางเข้าโถงเซียนของเรา หลังจากที่ฉันเชิญเธอมาแล้ว ต้องขับร้องทำนองคาถาบางอย่างด้วย

พูดจบหลิวหลงถิงก็ใช้นิ้วกลาง และนิ้วนางด้านขวาบีบนิ้วหัวแม่มือของฉัน ปากก็เริ่มขับร้องทำนองออกมา “เลี้ยวซ้ายสิบแปดโค้ง ทะเลสาบทั้งสามเชื่อมกันถึงท้องล้า บนนภามีวิญญาณที่ล่วงลับ เรียนเชิญเย่ฝู โปรดส่งเทียนเซียงมาคุมทางเข้าออก พร้อมถามให้ชัดเจนถึงเหตุที่เสียชีวิตของวิญญาณว่า มีปณิธานก่อนตายที่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จใช่หรือเปล่า?”

พอหลิวหลงถิงท่องจบ เขาก็ค่อย ๆ ใช้นิ้วมือเขียนชื่อเย่เทียนเซียงบนชั้นน้ำแข็ง เขียนอย่างช้า ๆ แต่ดูเหมือนว่าความเร็วที่ใช้เขียนอักษรนั้นจะเป็นความเร็วที่มาจากเยว่เทียนเซียง และเมื่อปลายปากกาจรดคำพูดสุดท้ายลง ก็เกิดลมเย็นพัดมากระทบตัวฉัน

จะว่าไปก็น่าทึ่งมาก ที่เยว่เทียนเซียงเข้ามาอยู่ในร่างของฉัน ก่อนหน้านี้ยังไม่มีเสียงของศพหญิงสาวเหล่านี้ ตอนนี้กลับได้ยินเสียงร้องไห้ของพวกหญิงสาวออกมาจากก้อนน้ำแข็งและขอความช่วยเหลือจากพวกเรา

พวกเธอเป็นนักศึกษาหญิงที่มาเล่นน้ำที่นี่เมื่อสองสามปีก่อน พอเห็นว่าน้ำในทะเลสาปซานจิงใสสะอาด พวกเธอจึงถอดเสื้อผ้าออกและลงว่ายน้ำในทะเลสาป คิดไม่ถึงว่าจะถูกกระแสน้ำดูดลงไปในถ้ำน้ำแข็งข้างล่างและติดตายอยู่ในนั้น

คราวนี้น้ำแข็งที่พวกเธอติดได้แตกออกแล้ว พวกเธอจึงสามารถลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำและขอความช่วยเหลือให้พวกเรานำศพกลับไปฟังที่บ้าน

เมื่อเย่เทียนเซียงที่อยู่ในร่างของฉันถามพวกเขาถึงปณิธานสุดท้าย หญิงสาวสองคนตอบว่าไม่มี แต่หญิงสาวสวยหนึ่งในนั่นอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่งแล้วพูดกับฉันว่า “ฉันยังมีความปรารถนาหนึ่ง ฉันอยากเจอหลิวหลงถิงเป็นครั้งสุดท้าย ฉันรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่”

หญิงสาวผู้นี้รู้จักหลิวหลงถิงได้อย่างไร? ฉันไม่เข้าใจเลย เธอเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทำไมถึงมองเห็นหลิวหลงถิง? เป็นไปได้ไหมว่าหลิวหลงถิงกับเด็กสาวที่จมน้ำตายจะมีเรื่องบางอย่างกันมาก่อน?

ในเวลานี้ฉันเดาได้ว่า อาจเป็นเพราะเยว่เทียนเซียงที่กำลังเจรจากับหลิวหลงถิง ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวว่า “เขาไม่ต้องการพบคุณ พวกเราจะติดต่อครอบครัวพวกคุณเพื่อจัดการเรื่องศพให้ พวกคุณไปสู่สุขคติเถอะ”

หลังจากที่เยว่เทียนเซียงพูดจบ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหญิงสาวอีกครั้ง และพอเยว่เทียนเซียงออกจากร่างของฉัน ตรงหน้าฉันก็เหลือเพียงศพที่แข็งทื่อเหล่านี้ พร้อมความเงียบที่ปกคลุมอีกครั้ง

ฉันได้โทรแจ้งตำรวจ และหลิวหลงถิงก็ออกไปจากถ้ำน้ำแข็ง ฉันรีบถามเขาว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นคู่ขากับเด็กสาวมหาวิทลัยคนนั้นมาก่อนใช่ไหม?

หลิวหลงถิงเลิกคิ้วขึ้น พลางตอบฉันว่าไม่รู้ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ เกรงว่าฉันจะลืมไปแล้วว่าเขามีนิสัยอย่างไร

ฟังจากที่พูดแล้ว หลิวหลงถิงเป็นเซียนมาก่อนหรือเป็นคาสโนว่ากันแน่ ไม่แปลกใจทำไมถึงได้มีชีวิตดีขนาดนี้ ก่อนหน้านี้คงมีสัมพันธ์กับหญิงเป็นร้อยแล้วมั้ง

ฉันเองก็รู้สึกหึงนิด ๆ อย่างบอกไม่ถูก เดิมทีคิดว่าสัตว์ที่บำเพ็ญเป็นเซียนจะใสสะอาดและบริสุทธิ์ ที่ไหนได้เขาเกิดมาพร้อมทักษะเรื่องบนเตียง เขาไม่รู้จักตพอเลยสักนิดเลย

“เมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จ เธอกลับบ้านกับฉันแล้วคุยกับย่าสักหน่อย” หลิวหลงถิงพูดกับฉันพลางหยิบกระเป๋าขึ้นจากพื้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status