Share

บทที่ 17 ดอกโบตั๋นมรณะ

“อาจารย์หยินฮวาหรอคะ?” ฉันหันหัวเหลือบมองหลิวหลงถิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างสงสัย

หลิวหลงถิงที่รู้ตัวว่าหญิงมีเสน่ห์ผู้นี้จำคนผิด จึงย่างเท้าเข้าหาหญิงผู้นี้สองสามก้าวพลางพูดว่า “พี่รอง เธอคือร่างทรงของฉัน ชื่อป๋ายจิง คราวนี้พาเธอกลับมาด้วย เพราะอยากให้พี่รองกับพี่ใหญ่ดู”

หลังจากที่ได้ยินหลิวหลงถิงแนะนำชื่อฉัน ป๋ายจิง หญิงผู้นี้จึงออกมาจากบ้านอย่างเปิดเผย เธอเงยหน้าขึ้นพลางฉีกยิ้มเล็กน้อย “โอ้ ดูความจำฉันสิ พอรู้ว่าหลิวหลงถิงจะกลับมาก็ทั้งดีใจทั้งสับสนไปหมด” ในขณะที่พูด ก็บิดหน้าอันบอบบางมองมาที่ฉันสองสามครั้ง ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อย และน้ำเสียงที่สนทนากับฉันก็ดูประจบประแจงเป็นพิเศษ “เป็นร่างทรงของหลิวหลงถิงนี่เอง ยังดูเด็กอยู่เลยนะจ๊ะ มาสิ มานั่งในบ้าน”

หลังจากที่หลิวหลงถิงพาฉันเข้าไปในบ้าน เขาแนะนำฉันว่านี่คือพี่รอง ชื่อหลิวเลี่ยอวิ๋น มีนิสัยค่อนข้างดุดัน ปกติพี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้าน หลิวเลี่ยอวิ๋นจึงเป็นผู้ดูแลทุกเรื่องในบ้านหลังนี้

หลิวเลี่ยอวิ๋นที่ไปชงชาให้ฉันกับหลิวหลงถิง หลงเถิงและเจียวเอ่อร์ที่ยืนล้อมหลิวหลงถิงกำลังพูดคุยถึงเรื่องโลกภายนอก ฉันมองดูเด็ก ๆที่น่ารักวิ่งไปมา อีกทั้งท่าทางอันมีเสน่ห์อย่างยิ่งของพี่รอง รวมถึงหลิวหลงถิงผู้หล่อเหลา ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองกำลังตกหลุมความงามอยู่

มิน่าล่ะ ที่สมัยโบราณเกิดการถูกภูตผีปีศาจหลอกให้ตายมากมาย ถ้าเป็นฉันโดนปีศาจอันเลอโฉมหลอกเข้า ฉันก็เต็มใจที่จะตายเป็นผีเพราะความงามนี้

“จริงสิ ป๋ายจิง คราวนี้เธอกับหลงถิงกลับมา ก็ใช้เวลาเที่ยวให้เยอะหน่อยสิ บนภูเขาของเราไม่ค่อยสะดวกเท่าในเมืองสักเท่าไหร่นะ แต่ถ้าขาดเหลืออะไร เดี๋ยวฉันจะรีบให้คนจัดหามาให้”

“พวกเราฉลองปีใหม่เสร็จก็กลับแล้วครับ ป๋ายจิงต้องรีบกลับเข้ามหาวิทยาลัย” หลิวหลงถิงตอบแทนฉัน

“มหาวิทยาลัยเหรอ? เรียนอยู่ที่ไหนหรอจ้ะ?”

“ที่เมืองจิงคะ เรียนวาดรูป” ฉันตอบหลิวเลี่ยอวิ๋น

เมื่อหลิวเลี่ยอวิ๋นได้ยินว่าฉันเรียนวาดรูป ทันใดนั้นก็ออกท่าทางสนใจ รีบเสิร์ฟชาแล้วนั่งข้างฉันอย่างกระปรี้กระเปร่า เธอเอนตัวมาที่ฉันแล้วพูดว่า “เช่นนั้นเธอสามารถวาดภาพแบบยุโรปได้ไหม ก็แบบว่าวาดภาพนู้ดอะไรทำนองนั้น?”

เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามของหลิวเลี่ยอวิ๋นถามฉันราวกับเป็นเด็ก มันทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ได้ พลันยิ้มออกมาแล้วถามเธอว่า “คุณหมายถึงภาพวาดสีน้ำมันใช่ไหมคะ? ฉันทำได้ค่ะ แต่ไม่ได้วาดมานานแล้ว ฝีมือตกไปนิด”

“ฝีมือตกไม่ตกไม่เป็นไร เธอวาดให้ฉันสักรูปนะ ถ้าเธอตกลง ฉันจะให้ลูกน้องซื้ออุปกรณ์มาให้ทั้งหมด ถ้าวันไหนมีเวลา ก็วาดให้ฉันแขวนไว้ในห้องนอนสักรูป”

เดิมทีฉันคิดว่าการมาบ้านหลิวหลงถิงจะทำให้ไม่คุ้นเคย คิดไม่ถึงว่าหลิวเลี่ยอวิ๋นจะเป็นกันเองมาก ด้วยความเป็นกันเองนี้ทำให้ฉันไม่อาจสำรวมได้ ฉันรีบตกลงทันที พลันบอกว่าฉันจะวาดภาพเธอให้เสมือนดั่งเทพธิดาบนสรวงสวรรค์

เมื่อพูดจบ หลิวเลี่ยอวิ๋นก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข พลันถามฉันทันทีว่าต้องซื้ออะไรบ้าง จะได้จัดคนออกไปซื้อพู่กัน สีน้ำมันและอื่น ๆ

พวกเราดื่มชาไปสองสามอึกและพักผ่อนกันสักพัก หลิวเลี่ยอวิ๋นจึงจัดห้องให้ฉันสำหรับคืนนี้ เพราะฉันยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นจึงนอนด้วยกันไม่ได้ แต่หลิวเลี่ยอวิ๋นก็จัดให้ฉันนอนอยู่ใกล้ ๆ หลิวหลงถิง เธอบอกว่าเขานี้ มีเทพ ภูตผี สัตว์ป่า ทั้งงูมังกร ที่มาบำเพ็ญฌาณมากมาย ถ้าอยู่ใกล้หลิวหลงถิงจะปลอดภัยกว่า

เพียงแค่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับหลิวหลงถิง ฉันก็ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ และหลังจากหลิวเลี่ยอวิ๋นจัดการเรื่องของฉันกับหลิวหลงถิงเสร็จ เธอก็รีบออกไปข้างนอก ให้หลิวหลงถิงดูแลบ้านแทนไปก่อน เธอเป็นเหมือนทั้งพ่อและแม่ที่ต้องดูแลบ้านหลังใหญ่ ถ้าหลิวหลงถิงไม่กลับมา เธอคงจะเหนื่อยน่าดู

หลิวหลงถิงรับปากที่จะดูแลทุกอย่างในบ้าน หลังจากช่วยฉันทำความสะอาดห้อง ก็พาฉันไปดูรอบ ๆ บ้าน บ้านเขามีคนงานและเทพสัตว์ป่าหลายสิบคน แถมยังมีแม่บ้านอีกหนึ่งคน แต่ว่าฉันยังไม่เห็นพี่ใหญ่และพ่อแม่ของหลิวหลงถิง หลงเถิงและเจียวเอ่อร์ยังเล็ก พ่อแม่เขาอยู่ไหนกันนะ?

เมื่อฉันถามหลิวหลงถิงเกี่ยวกับคำถามนี้ หลิวหลงถิงก็กล่าวว่าพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนและมีชีวิตอยู่มากกว่าสามพันกว่าปี ถือว่าตายก่อนกำหนด ส่วนพี่ใหญ่เป็นเซียนบนสวรรค์ทางทิศใต้ ค่อนข้างยุ่งตลอดทั้งปี นาน ๆ จะกลับมาสักครั้ง

“ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเทพผู้ถูกเลือกและเทพเจ้าบ้านเรือนมาแล้ว เทพผู้ถูกเลือกจะถูกแบ่งเป็นฝ่ายขุนนางกับฝ่ายขุนพล แล้วเทพบนสวรรค์ที่ว่านี่เหมือนกันกับเทพเจ้าบ้านเรือนที่คอยคุ้มครองพื้นที่ของตัวเองไหม?” ฉันถามหลิงหลงถิง

เมื่อฟังความเข้าใจของฉันแล้ว หลิวหลงถิงก็พลันหัวเราะเยาะฉัน อธิบายให้ฉันฟังว่า “เทพบนสวรรค์เป็นเทพที่จะอาศัยอยู่เบื้องบนสวรรค์ ซึ่งได้บำเพ็ญฌาณบรรลุผลแล้ว พวกเขาจะดูแลเกี่ยวกับเทพเจ้าสัตว์ที่บำเพ็ญฌาณบนโลกนี้ทั้งหมด”

“คาดไม่ถึงเทพบนสวรรค์จะเก่งขนาดนี้ เช่นนั้นอาจารย์หยินฮวาล่ะ? อาจารย์หยินฮวาเป็นเทพเจ้าสัตว์เหรอ?” ฉันถามหลิวหลงถิง เมื่อครู่ที่หลิวเลี้ยอวิ๋นเรียกฉันว่าอาจารย์หยินฮวา มันทำให้ฉันยังสงสัยไม่หายว่า ตกลงฉันกับอาจารย์หยินฮวาหน้าตาเหมือนกันหรอ?

เมื่อหลิวหลงถิงฟังที่ฉันพลันถามเกี่ยวกับอาจารย์หยินฮวา ก็หันหน้ามามองฉันทันที “เธอคิดว่าอย่างไร? คิดว่าเธอคนนั้นเก่งกว่าเทพบนสวรรค์ไหม?”

“ฉันไม่ใช่อาจารย์หยินฮวา แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอเป็นอะไร?” ฉันชักหางตามองหลิงหลงถิงทันที แล้วหลิวหลงถิงก็ยิ้มให้ฉันโดยที่ยังไม่ตอบคำถามของฉัน ก่อนเข้าครัวไปตัดเตรียมอาหารสำหรับคืนนี้

ในบ้านหลิวหลงถิง มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าเป็นแขกคนนึงของบ้านคนรวยในโบราณ ทุกอย่างในบ้านพวกเขาล้วนดูเก่าแก่ แม้แต่โต๊ะอาหารก็ล้วนเป็นงานแกะสลักแบบโต๊ะกลมในสมัยโบราณ หลิวหลงถิงเล่าให้ฟังเกี่ยวกับโต๊ะพวกนี้ พวกกมันล้วนถูกส่งต่อมาจากสมัยก่อน จนถึงตอนนี้ก็มีอายุมากว่าหนึ่งถึงสองร้อยปีแล้ว

ยอดไปเลย แม้แต่โต๊ะในบ้านของหลิวหลงถิงก็ยังโบราณ ฉันมองดูรอบ ๆ บ้านของพวกเขาทั้งภาพวาดและเฟอร์นิเจอร์เล็กใหญ่ ถ้าฉันหยิบออกไปสักอัน คงจะขายได้ราคาดีแน่นอน ดูเหมือนหลิวหลงถิงจะเป็นเศรษฐีลับ ๆ ในอนาคตถ้าฉันไม่มีเงิน ก็คงจะขอให้เขาสนับสนุนได้

หลังจากที่เราทานอาหารเย็นเสร็จ แม่บ้านก็ซื้ออุปกรณ์วาดภาพให้ฉันมาครบหมดแล้วและมันกองวางอยู่ในห้อง ในเขานี้ไม่มีไฟฟ้า หลงเถิงและเจียวเอ่อร์ก็ต่างก็รีบเข้าห้องนอน และขอให้หลิวหลงถิงเล่านิทานให้พวกเขาฟัง ฉันเองก็อยู่ในห้องอันน่าเบื่อ จึงเริ่มจากการตีกรอบรูป เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม แล้วดูว่าพรุ่งนี้จะได้เริ่มวาดภาพไหม

ช่วงเวลาประมาณสิบโมงเช้า หลิวหลงถิงตรงมาเปิดประตูห้องฉันพลางอ้าปากหาว เมื่อเห็นฉันกำลังกางผ้าใบวาดรูป ก็หัวเราะออกมา แล้วถามว่า ฉันเรียนวาดรูปจริง ๆ หรอ?

ให้ตายสิ นายเพิ่งพูดว่าฉันเรียนวาดรูปเหรอ เขาคิดว่าฉันขี้โม้หรือไงกัน?

“ก็ใช่น่ะสิ งั้นนายลองนั่งลง ฉันจะวาดรูปนายให้ดูตอนนี้เลย!”

เขาที่ยังคงงัวเงียอยู่ เมื่อได้ยินฉันพูดเช่นนี้ ก็เรียกสติกลับมาแล้วพูดว่า “ได้ งั้นฉันไถ่โทษด้วยการเป็นนายแบบนู้ดให้เธอเอง” พูดจบเขาก็เริ่มใช้มือปลดกระดุมเสื้อออก

ฉันที่อยากบอกให้เขาหยุด แต่เมื่อฉันได้มองดูร่องอกที่กำยำแล้ว มันทำให้ฉันนึกได้ว่าที่จริงแล้วรูปร่างเขาดีมาก ถ้าวาดออกมาแล้วได้อวดเพื่อนร่วมห้องตอนเปิดเรียน คงจะเป็นหน้าเป็นตาให้ฉันดีเนอะ!

ฉันดูมีความสุขขึ้นทันที และรีบให้หลิวหลงถิงนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจัดแจงท่าทาง หลังจากนั้นก็เริ่มวาดภาพให้เขา

เดิมที ฉันตั้งใจว่าจะวาดรูปให้เขา แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้ว ฉันจะเอาแต่มองร่องกล้ามอันเนียนเรียบ ที่มาพร้อมกับผิวพรรณที่ละเอียดอ่อนบนร่างเขา ดูเหมือนว่าฉันจะเริ่มคอแห้ง

“ฉันหิวน้ำ เธอช่วยเทน้ำให้ฉันหน่อย” หลิวหลงถิงออกปากฉัน

ฉันสลัดพู่กันในมือพลางด่าเขาในใจที่เรื่องเยอะสุด ๆ แต่ฉันก็นำน้ำมาให้หลิวหลงถิง เมื่อเขารับแก้วน้ำ และดื่มน้ำไปอึกนึง มือหนาก็ดึงมือฉันแล้วรั้งร่างเข้าไปในอ้อมกอดของเขาทันที เขาพลิกตัวฉันลง และใช้ริมฝีปากคู่นั้นประกบลงที่ปากฉัน พลันน้ำเย็น ๆ ก็ไหลจากปากเขาเข้าสู่ลำคอของฉัน เป็นการป้อนน้ำอุ่น ๆ จากปากของเขา

จากนั้นเขาก็นอนกอดฉันบนเตียง มือหนาเอื่อมมือไปถอดรองเท้าที่ฉันสวมออก แล้วกดร่างบางลงเข้าไปในอ้อมกอดแกร่งอีกครั้ง

พอตื่นเช้า ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว ฉันเปิดม่านออกและเตรียมที่จะเก็บภาพ ทว่าเมื่อมองภาพนู้ดที่ฉันวาดให้หลิวหลงถิงนั้น ก็ต้องตกใจตาโตเมื่อไม่เห็นภาพนั้นอยู่ในห้องแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status