“หลิวหลงถิง ภาพที่ฉันวาดเมื่อคืนหายไปไหน?” ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปที่ขาตั้ง ขาตั้งยังอยู่ แต่ภาพหายังไงก็หาไม่เจอ หลิวหลงถิงลุกขึ้นสวมผ้าเดินลงจากเตียง เห็นฉันก้ม ๆ เงย ๆ หาของไม่หยุด จึงเอื่อมมือมากอดฉันไว้ แล้วพูดข้างหูฉันว่า “ไม่ต้องหาหรอก หายแล้วก็คือหาย เธอจะกลัวอะไร? อาจจะเป็นพี่รองเข้ามาหยิบไปดูก็เป็นได้”ในขณะที่หลิวหลงถิงกำลังพูดนั้น ก็สัมผัสได้ถึงไอความร้อนจากปากเขาส่งกระทบมาที่คอของฉัน ฉันจึงรีบผลักเขาออก ในเมื่อเขาไม่สนใจ แล้วฉันจะสนใจทำไม“หลิวหลงถิง นายบอกสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อคืนนี้ ถ้าครอบครัวนายรู้เรื่องนี้ มันคงดูไม่ดีใช่ไหม?” อย่างไรเสียฉันก็เป็นร่างทรงของหลิวหลงถิง ไม่ใช่ภรรยาเขา แต่ถ้ามันเกิดเรื่องที่เกินความสัมพันธ์ของเรา ก็อาจจะดูน่าเกลียดเกินไป“ดูไม่ดียังไง?” หลิวหลงถิงถามฉันกลับ“ก็คือ ก็คือ…”นาทีนี้ฉันก็พูดไม่ออกว่ามันไม่ดียังไง แต่ฉันจะไม่ยอมกลับคำพูด จึงบอกเขาไปว่าหลังจากนี้อย่าทำเช่นนี้อีก ถ้ายังทำเช่นนี้อีกไม่นานคนอื่นต้องรู้เข้าแน่ ๆ ไม่รู้ว่าหลิวหลงถิงเป็นอะไร แต่พอฟังฉันพูดจบ เขาก็เข้ามาโอบเอวฉันจากด้านหลัง แล้วพูดว่า “เห็นอยู่
ลูกชายคนที่สามของตระกูลหลิว ไม่ใช่หลิวหลงถิงหรอ? วาดภาพที่ฉันวาดนั้น ความจริงแล้วถูกคนเอาไปนี่เอง คาดไม่ถึงว่าเพราะภาพนี้ จะนำมาซึ่งการแต่งงานของหลิวหลงถิงอันที่จริงเมื่อครู่ ฉันก็รู้สึกเสียใจที่เจียวเอ๋อร์บอกว่าฉันจะไม่ได้แต่งงานกับหลิวหลงถิง แต่ตอนนี้มีคนมาแย่งสามีฉันไป ฉันควรจะโกรธนะ แต่ก็น่าขำ พอนึกถึงหลิวหลงถิงที่ปกติแล้วชอบทำตัวแมน ๆ ใส่ฉัน ตอนนี้เขากลับถูกผู้หญิงขอแต่งงาน ถ้าเขาอยู่ตรงนี้ ฉันคงขายหน้าแทนเขา“หวงซานเหนียง เจ้านายไร้สาระของเจ้าคือใคร? ถึงอยากขอน้องชายข้าแต่งงาน? ไม่ดูฐานะตัวเอง ถ้านายเจ้าสนใจน้องข้า ก็ให้นางมาด้วยตนเอง แต่นี่คงจะไม่ใช่เซียนตระกูลซานหลานหรอกนะ” ด้วยคำพูดที่เหน็บแนมของหลิวเลี่ยอวิ๋นนั้น ก็ไม่ได้ทำให้หวงซานเหนียงหญิงชุดแดงนั้นแสดงอาการโกรธหลิวเลี่ยอวิ๋นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามหล่อนกลับตอบอย่างเหิมเกริมว่า “อย่าคิดว่าฌาณข้าสูงไม่เท่าเจ้า นายคนใหม่ของข้า ที่ในเวลานั้นเป็นเซียนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเทพพระเจ้าหนูเอ่อร์ฮาเป็นการส่วนพระองค์ และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนางสนมผู้สูงศักดิ์ ทำงานกินตำแหน่งในประราชสำนัก คงจะทำให้บ้านเจ้าเหลือกินเหลือใช้
ด้านหน้าคือเทพเจ้าเม่นกับหวงซานเหนียง หวงซานเหนียงไม่ได้อยู่ในสายตาหลิวเลี่ยอวิ่นเลยสักนิด ดังนั้นฉันเดาว่าหวงซานเหนียงก็ไม่ได้มีฝีมือเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่ฉันกับหลิวหลงถิงต้องหนีออกไป แต่เมื่อเห็นท่าทางพังพอนหวงซานเหนียง คาดว่านางต้องพุ่งเข้าใส่พวกเราแน่ ๆ ถ้านางกลับไปทำรายงานเจ้านาย เดาได้ว่าพวกเราคงไปต่อไม่ได้แล้วแน่ ๆ หลิวหลงถิงไม่ได้รู้สึกกังวลเท่าไหร่เมื่อเห็นหวงซานเหนียง เขาที่ยังอยู่อยู่ในร่างเดิม หัวเราะเบา ๆ พลันถามหวงซานเหนียงอย่างเย็นชาว่า อายุยืนไปไหม?เมื่อหลิวหลงถิงกล่าวเช่นนี้ หวงซานเหนียงก็พลันหัวเราะทันที รอยย่นบนหน้าของนางมีมากกว่าเทือกเขาบนโลกใบนี้ มันมากจนนับไม่ถ้วน“ท่านชายหลิว อย่าเอาความแก่ของข้ามาเยาะเย้ยกันเลย ข้ายังอยากอยู่อีกนาน วันนี้ข้าจะมาหยุดท่าน ข้ารู้ว่าท่านกำลังจะออกจากเขาป๋ายซาน ข้ามาครั้งนี้เพื่อขอความช่วยเหลือท่านชายหลิว ถ้าท่านชายหลิวยินดี จากนี้ไปตระกูลหลิวและตระกูลเรา รวมทั้งลูกหลานทั้งร้อยแปดคน จะทำตามคำสั่งและคำแนะนำจากท่านชายหลิวทั้งหมด” แม้ว่าหวงซานเหนียงจะไม่มีฝีมือใด ๆ แต่หลิวหลงถิงค่อนข้างสนใจในเงื่อนไขที่หวงซานเหนียงกล่าว จึ
“เมื่อครู่หวงซานเหนียงบอกว่า ในบ้านของจูต้ากุ้ยบูชาจูเซียนที่เป็นเทพสุกรไม่ใช่เหรอ? แต่แล้วทำไมถึงเป็นพลังปีศาจล่ะ?” ฉันเอ่ยถามหลิวหลงถิง อย่างไรเสียหวงซานเหนียงบำเพ็ญฌาณมานานขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่จะแยกแยะเซียนกับปีศาจไม่ออก เธอบอกว่าผู้ที่เธอสนิทสนมด้วยนั้นล้วนเป็นเซียน แต่เทพสุกรนี่กลับไปสนิทสนมกับปีศาจตนหนึ่งเช่นนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย “สัตว์อย่างพวกเราบำเพ็ญฌาณเป็นเซียน มนุษย์โลกยังนับว่าปฏิบัติต่อเราอย่างสุภาพ ไม่เคยกระทำเรื่องเลวร้าย ไม่ว่าบำเพ็ญฌาณมาแค่ไหน ก็เรียกอย่างเคารพว่าเซียน ถ้าหากเซียนบริสุทธิ์ บางเหล่าที่ถูกจัดให้ปฏิบัติหน้าที่เซียน เช่น เหล่าเทพเจ้าบ้านเรือน เทพที่ถูกเลือกให้มาจุติ ล้วนเคยถูกจัดให้เข้าปฏิบัติหน้าที่เซียน ก็จะถือว่าเป็นเซียนบริสุทธิ์ บนตัวของเซียนบริสุทธิ์นั้น จะมีปราณหลักและจิตใจดีงาม ทำให้สามารถรักษาพลังที่สะอาดและบริสุทธิ์ไว้ได้ หากว่าเป็นเซียนบริสุทธิ์ที่ต่ำช้า กระทำเรื่องเลวร้าย กลิ่นตามตัวก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นเหม็นเน่าเรียกว่า พลังปีศาจ ทว่าสิ่งนี้ก็เกี่ยวข้องกับนิสัยในการใช้ชีวิตของสัตว์แต่ละตัว ตอนนี้เธอก็เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่เก
บาดเจ็บจะตายอยู่แล้ว หลิวหลงถิงยังพูดจาล้อเล่นแบบนี้! ฉันโกรธจนยื่นมือไปตีที่หน้าอกของหลิวหลงถิงทีหนึ่งโดยไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย กำลังจะบอกให้เขาจริงจังกว่านี้หน่อยได้ไหม ทว่าเมื่อฉันตีไปแบบนั้น หลิวหลงถิงจึงขมวดคิ้วเป็นปมทันที พอหน้าอกถูกกระทบ เลือดสีแดงฉานก็พ่นออกมาจากปากเขา! ฉันก็เกลียดมือของตัวเองขึ้นอย่างเร็ว และมองหลิวหลงถิงอย่างตึงเครียด พร้อมบอกให้เขาทนไว้ก่อน ฉันจะไปเรียกรถพยาบาลให้! คราวนี้หลิวหลงถิงใกล้ลืมตาไม่ไหวแล้ว ส่ายหัวกับฉันเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอก พาฉันไปพักผ่อนนิดหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว” พูดจบ ทั่วทั้งร่างกายเริ่มว่างเปล่า และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นงูตัวเล็กที่มีความหนาเท่าตะเกียบอันหนึ่ง เนื่องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเรียวเล็กสั่นสะท้านรุนแรงไม่หยุด ทำให้ฉันที่มองดูนั้นเจ็บปวดใจเหลือเกิน ฉันอุ้มงูเล็กขึ้นมาจากพื้นอย่างรีบร้อน เตรียมหมุนตัวออกจากหมู่บ้าน พี่สาวคนนั้นที่ยืนแข็งทื่อเป็นหินมองดูโครงกระดูกของจูต้ากุ้ย เธอไม่มีน้ำตาสักหยดเดียว กลับหัวเราะขึ้นมาคนเดียวแล้วคุกเข่ากราบฉันไม่หยุด พร้อมบอกขอบคุณกับฉันที่กำจัดตัวหายนะให้หมู่บ้านพวกเธอ จูต้ากุ้ยสมควรตายตั้งนานแล้ว เขาสมคว
“เมื่อกี้หากไม่ใช่เธอ ฉันต้องเจ็บหลายเดือนแน่นอน อยากให้ฉันตอบแทนไหม? ตอนนี้ได้เวลาเหมาะเจาะพอดีเลย”ตอนนี้หลิวหลงถิงกำลังมีไข้ ไม่เพียงแค่ร่างกายร้อนจี๋ แม้แต่ตอนที่เขาพูดกับฉัน ลมหายใจที่ออกมาจากปาก ก็แผ่ความร้อนมาที่คอของฉันจนร้อนผ่าว เดิมทีฉันอยากผลักเขาออก ทว่าเป็นครั้งแรกที่หลิวหลงถิงบอกต้องการตอบแทนฉัน ฉันคิดว่าบ้านเขาร่ำรวยขนาดนี้ เขาต้องมีเงินอย่างแน่นอน เลยขมวดคิ้ว แสร้งทำท่าทีเอาอกเอาใจ พร้อมเอ่ยถาม “ตอนนี้นายเป็นไข้ จะตอบแทนฉันยังไงล่ะ?”“การตอบแทนนี้ ต้องตอนที่ฉันเป็นไข้ถึงจะตอบแทนเธอได้ โอกาสนี้เกิดขึ้นได้ยากในรอบร้อยปีอยากได้หรือเปล่า?” น้ำเสียงที่หลิวหลงถิงพูดกับฉันก็เริ่มยั่วยวน“ของล้ำค่าใหญ่โตอะไรถึงให้ฉันได้ตอนที่เป็นไข้อยู่” ฉันเอ่ยถามหลิวหลงถิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลิวหลงถิงก้มศีรษะลงพร้อมส่งยิ้มให้ฉัน เอนตัวลงมาข้างหูของฉัน จากนั้นงับลงที่ใบหู พร้อมเอ่ยประโยคที่ทำให้ฉันรู้สึกเขินอายอย่างแผ่วเบา ไม่รู้ว่าถูกลมร้อนของเขาปะทะ หรือถูกคำพูดชวนเขินอายของเขา ใบหน้าของฉันแดงแจ๋ในทันที พลันบอกเขาอย่าปลุกปั่นฉันให้มาก ถ้าหากลมปราณบนร่างของฉันสัมผัสร่างกายของเขาอีก จ
“หลิวหลงถิงนายลืมพรางตัวหรือเปล่า?” ฉันหันไปถามหลิวหลงถิง แต่ว่าก็ไม่ถูกต้องนะ เซียนก็ไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุหรือฝึกวิชาพรางตัว ว่ากันตามเหตุตามผลแล้ว หลิวหลงถิงเป็นเซียน เซียนกับตัวเขาเองก็เป็นร่างเดียวกัน ไม่มีเหตุสัมพันธ์กับการบำเพ็ญฌาณของตัวเอง มนุษย์มองไม่เห็นเซียน ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแค่คนเดียวที่มองเห็นเขาได้ ไม่ว่าใครก็มองเขาเห็นหลิวหลงถิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่รู้สึกได้ว่าเขาไม่สบายใจเล็กน้อย พลางบอกฉันให้กลับกัน มองเห็นแล้วก็มองเห็นไป ฉันเดินตามหลังหลิวหลงถิงกลับโรงแรม แต่ว่าระหว่างทางพนักงานที่โรงแรมกับคนในลิฟต์ไม่มีใครมองหลิวหลงถิงเลย ทำให้ฉันยิ่งประหลาดใจ พอกลับถึงห้องก็ถามหลิวหลงถิงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ป๋ายเซียนที่คุณปู่ให้ส่งผลกระทบต่อเขาหรือเปล่า “สาเหตุเป็นเพราะตัวฉัน” หลิวหลงถิงนั่งลงบนโซฟา แล้วยื่นมือโอบฉันไว้ให้อยู่ในอ้อมกอดเขา พลางให้นั่งลงบนตักเขา พูดกับฉันอย่างเปิดเผยและไม่รู้สึกเขินอายเลย “เพราะฉันอยู่กับเธอด้วยนาน กลิ่นอายของเธอทำให้พลังบนร่างกายฉันเปลี่ยนไปเหมือนกัน ดังนั้นคนอื่นจึงสามารถมองเห็นฉัน” ฉันอยากจะยื่นมือไปตบหลิวหลงถิง ยังมาโทษฉันอีก! เมื่อวานฉ
ความสัมพันธ์ของฉันกับหลิวหลงถิงซับซ้อนมาก เป็นแฟนก็ไม่ใช่ แต่ว่าถ้าหากอีกฝ่ายถูกคนอื่นคอยคิดถึงหรือฝันหาล่ะก็ จะรู้สึกไม่สบายใจแต่ว่าเมื่อครู่หลิวหลงถิงบอกเหยาน่าว่าเขาเป็นแฟนฉันไปแล้ว คาดว่าเหยาน่าคงไม่พยายามเอาชนะใจหลิวหลงถิง อย่างไรเสียเหยาน่าก็เป็นเพื่อนสนิทที่ฉันเที่ยวเล่นด้วยมาตั้งหลายปี“นายยังไม่ได้เข้าห้องนอนพวกเราเลยนะ นายจะรู้ได้ไงว่าห้องนอนเราไม่สะอาดมาก ห้องนอน พวกเราถูกประเมินว่าเป็นห้องนอนที่สะอาดดีเด่นติดต่อกันหลายครั้งเชียวนะ”ฉันนึกว่าหลิวหลงถิงบอกว่าห้องนอนฉันเลอะเทอะไม่สะอาด แต่นึกไม่ถึงว่าหลิวหลงถิงจะเหล่หางตา มองฉันแวบหนึ่ง เหมือนขี้เกียจจะพูดกับฉัน เขาจึงใช้มือปิดดวงตาฉันไว้ ไออุ่นจากเรียวนิ้วของ หลิวหลงถิงแผ่เข้ามาในดวงตาของฉัน เมื่อหลิวหลงถิงเอามือออก ฉันถึงลืมตามองไปยังเบื้องหน้า ตาคมมองเห็นเพียงพื้นบนระเบียงทางเดินมีรอยเท้าสีดำปี๋เป็นทางยาว ส่วนรอยเท้าเดินตรงไปยังระเบียงทางเดิน ตอนที่เดินถึงประตูห้องนอนพวกเรา ก็เดินเลี้ยวเข้าไปทันที!ฉันตกใจจนใบหน้าซีดเผือด จึงตระหนักได้ว่าที่หลิวหลงถิงบอกว่าห้องนอนพวกเราไม่สะอาดนั้นหมายความว่าอะไร ครั้นก็รีบหันศีรษะไปถา