Share

บทที่ 0010

“แต่ต่อให้เป็นเทพ โดยเฉพาะเทพแห่งขุนเขาหรือเทพแห่งสายน้ำ การที่พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกมนุยษ์ได้นั้นเพราะความศรัทธาของมนุษย์ ยิ่งมนุษย์ศรัทธาในตัวพวกเขามากเท่าไหร่ พลังของพวกเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ในทางกลับกัน ถ้ามีมนุษย์บอกว่าพวกเขาเป็นปีศาจ พวกเขาจะเป็นปีศาจ เมื่อชาวบ้านในที่นั้นหมดศรัทธาในเทพแห่งขุนเขาแล้ว เหล่าเทพแห่งขุนเขาจะถอดความเป็นเทพเจ้าออกไป และพอไม่มีกำลังความศรัทธา เขาเองก็เป็นจะผู้ฝึกตนเช่นเดียวกับข้า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรามาลองดูกันก็ได้”

แต่ถึงอย่างไรก็ฉันที่ไปสู้กับเทพเจ้าแห่งขุนเขานั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วหลิวหลงถิงมีพลังเก่งกาจมากแค่ไหน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ถามรายละเอียดมากนัก เพียงแต่ถามหลิวหลงถิงไปตรง ๆ ว่า “แล้วโอกาสที่ท่านจะสู้จะชนะเขาคือเท่าไหร่”

“น่าจะแปดสิบเปอร์เซ็นต์ได้ ข้าบำเพ็ญเพียรมามากกว่าเจ็ดร้อยปีแล้ว”

เมื่อหลิวหลงถิงพูดเช่นนี้ เขาก็เหลือบตามามองฉัน ดวงตะวันที่เพิ่งโผล่พ้นออกมาก็สาดส่องลอดผ่านช่องหน้าต่างกระจกตกกระทบกับร่างของเขา แสงสีทองตัดกันกับใบหน้าสีขาวผ่องดูหล่อเหลา ราวกับหยกขาวที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตบรรจง ยิ่งมองฉันยิ่งอยากสัมผัสที่ใบหน้าเขามากขึ้นเท่านั้น

และอยากถามว่าทำไมเขาถึงได้หน้าตาดีขนาดนี้

ตอนนี้ฉันรู้สึกโล่งใจไปบางส่วน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันยังอยากถามหลิวหลงถิงอยู่

“เมื่อคืนท่านมาหาฉันหรือเปล่า?”

“แล้วอย่างไร อยากถามว่าข้าทำสิ่งใดทำกับเจ้าน่ะหรือ?” หลิวหลงถิงยกคิ้วขึ้น พร้อมตอบอย่างง่าย ๆ และชัดเจน

ให้ตายสิ! ฉันแค่อยากถามหลิงหลงถิงว่าเขามาหาฉันเมื่อคืนนี้หรือเปล่า แต่คำตอบเชิงย้อนถามของเขามีเหตุผลมากเพียงพอ และมันทำให้ฉันรู้สึกอายเล็กน้อยที่จะพูดต่อ ฉันจึงไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก พรุ่งนี้พวกเราจะกลับไปที่บ้านเกิดย่าหลี่พร้อมกับท่านเลย

หลิวหลงถิงมองที่ฉันพลันยกยิ้มที่มุมปาก เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ก็ถือว่าเข้าใจไปโดยปริยาย ร่างสูงหายตัวไปจากที่เดิม ทิ้งไว้เพียงสัมผัสของแสงแดดยามเช้าสีทอง

ฉันนำคำพูดของหลิวหลงถิงไปบอกกับย่าแบบไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว ย่าจึงไปบอกข่าวดีกับย่าหลี่ที่ชั้นล่าง ย่าหลี่มาที่บ้านพร้อมของกำนัลหลายกล่อง และบอกว่าครั้งนี้ต้องลำบากฉันจัดการเสียแล้ว เมื่อวานท่านได้ยินจากย่าของฉันบอกว่าตอนนี้ฉันกลายเป็นสำนักเทพแล้ว ใจจริงท่านก็อยากชวนฉัน แต่ท่านกลัวว่าฉันเป็นมือใหม่อาจจะไม่สามารถรับมือกับมันได้ ท่านกลัวว่าจะเป็นการเอาฉันจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแบบเสียเปล่า แต่ตอนนี้ฉันเสนอตัวช่วยเหลือท่านเอง แถมยังมีความมั่นใจอย่างมากขนาดนี้ ท่านจึงอยากจะขอบคุณฉันแทนพวกเด็กผู้หญิงที่เสียชีวิตไปแล้ว และขอบคุณฉันแทนผู้คนในหมู่บ้านของพวกท่านด้วย

ย่าหลี่เอ่ยคำขอบคุณจนฉันรู้สึกเกร็งไปหมด ในเช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกเรานั่งรถบัสคันใหญ่กลับไปที่หมู่บ้านกับท่าน ฉันก็ถามย่าหลี่ว่าท่านแต่งงานออกมาตั้งนานแล้ว จริง ๆ ก็ถือว่าท่านไม่ใช่สมาชิกของหมู่บ้านอีกต่อไปแล้ว ทำไมถึงยังต้องกลับไปแก้ไขเรื่องนี้ด้วย?

เมื่อฉันถามท่านเกี่ยวกับสิ่งนี้ ย่าหลี่ก็ร้องไห้น้ำตาไหลออกมาทันที “หนีไม่พ้น มันหนีไม่พ้น คนในหมู่บ้านของเราเติบโตขึ้นมาจากการดื่มน้ำจากน้ำพุบนภูเขาของเทพแห่งขุนเขา เขาจำพวกเราทุกคนได้ พี่สาวของฉันคนหนึ่ง ได้รับเลือกให้บูชาเทพแห่งขุนเขาตั้งแต่ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอถูกผู้ใหญ่ลากขึ้นไปบนภูเขา และอดอาหารตายในวัดบนภูเขานั่น...”

ฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน และนึกไม่ถึงว่าในสังคมยุคใหม่ที่มีอารยธรรมแล้ว ยังมีเรื่องล้าหลังและโหดร้ายแบบนี้อยู่อีก ย่าหลี่ร้องไห้อย่างเศร้าสร้อย แต่ฉันก็ไม่รู้จะปลอบท่านอย่างไรดี....

บ้านเกิดของย่าหลี่มันช่างห่างไกลเหลือเกิน เราเริ่มจากนั่งรถบัสคันใหญ่ แล้วก็เปลี่ยนมานั่งรถไฟ และก็เปลี่ยนมานั่งรถประจำทาง สุดท้ายพวกเราก็ยังต้องนั่งรถสามล้อสำหรับขึ้นเขาซึ่งมีระยะทางประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ก่อนที่เราจะถึงหมู่บ้านที่มีชื่อว่า หมู่บ้านฉีผาน ด้านหลังหมู่บ้านมีภูเขาสูงใหญ่ทอดยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา

หมู่บ้านเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด บ้านเรือนดูทรุดโทรมจนหมดสภาพไปแล้ว ผู้คนที่อยู่ในหมู่บ้านก็เป็นคนชราในวัยแปดสิบเก้าสิบปีกันแล้วทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่คนในหมู่บ้านนี้ก็เหมือนย่าหลี่ที่ได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่สามารถละเมิดได้ พวกเขาทุกคนจึงต้องรีบกลับมา

หัวหน้าหมู่บ้านเป็นชายสูงวันคนหนึ่ง ใบหน้าของเขาถูกลมภูเขาพัดใส่จนเกิดริ้วรอยร่องลึกอยู่หลายรอย ในมือของเขาถือกล้องยาสูบ เมื่อย่าหลี่บอกกับเขาว่าท่านพบคนที่จะจัดการกับเทพเจ้าแห่งขุนเขาได้แล้ว สีหน้าของเขาก็ยังเรียบนิ่ง แล้วตอบอืมกลับมาหนึ่งคำก็เป็นอันว่าตกลงแล้ว

วันนี้เป็นวันจัดงานเซ้นไหว้ หลังจากที่ฉันจัดการเรื่องที่หลับที่นอนเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ถามหลิวหลงถิงว่าเรามีวิธีอะไรที่จะสามารถจัดการกับเทพเจ้าแห่งขุนเขาองค์นี้ได้?

หลิวหลงถิงกลับไม่ฉายแววประหม่าเลยแม้แต่น้อย ร่างของเขาปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน พลางมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยสายตาที่ไม่จริงจังอะไร “ใช้เจ้าแทนหญิงสาวที่จะต้องถูกบูชา และถวายเป็นเครื่องเซ้นไหว้แด่เทพเจ้าแห่งขุนเขาไง”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status