Share

บทที่ 0009

“เทพภูเขาวิวาห์?”

นี่ไม่ใช่หนังในละครทีวีบางเรื่อง หรือเป็นเค้าโครงเรื่องเล่าบางเรื่อง ทำไมถึงยังมีเรื่องแบบนี้ในปัจจุบันอยู่อีก?

"ไม่เคยนะคะ มีแต่เคยอ่านในหนังสือ" ฉันตอบย่าไป

“เมื่อวานนี้ย่าลงไปคุยเล่นที่บ้านของย่าหลี่ที่อยู่ชั้นล่าง ย่าหลี่ของหนูบอกย่าเกี่ยวกับประเพณีแปลก ๆ ในบ้านเกิดของเธอ เธอพูดว่ามันเป็นประเพณีของพวกเขาที่ทุก ๆ สิบปีจะเลือกเด็กสาวที่อายุต่ำกว่าสิบสามปีให้แต่งงานกับเทพเจ้าแห่งขุนเขา เธอบอกว่าการแต่งงานนั่นจะสามารถปกปักรักษาพวกเขา และช่วยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล อีกทั้งปราศจากโรคภัยและปราศจากภัยพิบัติ”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงไม่เชื่อที่ย่าพูดอย่างแน่นอน เพราะคิดว่ามันเป็นงมงาย แต่ตอนนี้ฉันค่อนข้างเชื่อในไสยศาสตร์ เลยไม่ปฏิเสธเรื่องแบบนี้อีก ฉันยิ้มแล้วพูดกับย่าว่า “สิ่งต่าง ๆ พวกนี้ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แม้ว่าจะเป็นเทพเจ้าแห่งขุนเขา ถ้าสวรรค์ต้องการให้ฝนตกหรือให้มีโรคระบาด พวกเขาจะสามารถไปควบคุมได้อย่างไร”

“นั่นน่ะสิ เดี๋ยวนี้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็ก้าวหน้าไปมาก คนที่ปลูกพืชผักผลต่าง ๆ ควรได้กำไรกันมากกว่านี้ แต่คนที่ขาดทุนก็ยังคงต้องขาดทุนอยู่มันยังค้ำ เมื่อก่อนทุกอย่างมันล้าหลัง ไม่มีเทคโนโลยีระดับสูง และครอบครัวก็ยากจน พอเลี้ยงลูกไม่ไว้ก็มอบให้เทพแห่งขุนเขาก็จบแล้ว แต่ตอนนี้ลูก ๆ แต่ละครอบครัวมีค่าดั่งทองคำ ใครจะอยากให้ลูกไปตายเปล่า ๆ กันล่ะ”

“แบบนั่นไม่ต้องถวายเครื่องเซ่นไหว้แล้วเหรอคะ?”

“ย่าก็ไม่รู้ แต่เทพเจ้าแห่งขุนเขาเข้าฝันคนในหมู่บ้านของย่าหลี่ โดยบอกว่าถ้าพวกเขาไม่เคารพสักการะบูชาต่อ เทพเจ้าแห่งขุนเขาจะทำให้ทุกคนในหมู่บ้านนี้ไร้ซึ่งลูกหลานสืบสกุล เมื่อก่อนคนในหมู่บ้านเคยระดมเงินเพื่อซื้อเด็กหญิงจากผู้ค้ามนุษย์ และส่งเข้าไปที่ภูเขาเพื่อแต่งงานกับเทพเจ้าแห่งขุนเขา ทว่าปัจจุบันนี้พวกค้ามนุษย์กำลังถูกจับกุมอย่างเข้มงวด เห็นว่าพวกย่าหลี่จะกลับไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้ ย่าหลี่ของหนูกังวลเรื่องนี้มาก”

ในตอนแรกฉันก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่ควรฟังหูไว้หูเท่านั้น แต่เมื่อได้ยินย่าบอกว่าตอนคนในหมู่บ้านซื้อเด็กผู้หญิงจากพ่อค้ามนุษย์ ฉันก็โกรธจนกินโจ๊กไม่ลง ฉันพูดกับย่าว่าจะมีชาวบ้านกับเทพเจ้าแบบนี้ได้อย่างไรกัน ถ้าเทพพระเจ้าองค์นี้ปกป้องความสงบสุขของผู้คน ท่านก็เป็นเทพที่ดี แต่ถ้าเขาฆ่าคน คนใสหมู่บ้านนั้นก็ไม่มีใครอาสาจัดการกับเทพเจ้าแห่งขุนเขาเลยเหรอ?

“เมื่อก่อนย่าก็ไม่กล้าถาม แต่ตอนนี้ย่าหลี่หลุดปากกับย่าว่าคนในหมู่บ้านของเธอก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะหาคน ๆ นั้นได้จากที่ไหน และย่าก็พึ่งนึกออกว่าหลานพึ่งรับองค์มาไม่ใช่หรอ? ย่าอยากจะถามว่าหลานมีเทพที่เก่ง ๆ แนะนำบ้างไหม? ถือว่าเป็นการช่วยย่าหลี่และพวกเด็กหญิงตัวน้อยเหล่านั้นนะ”

เมื่อย่าถามเรื่องนี้มันก็ค่อนข้างจะทำให้ฉันลำบากเล็กน้อย ในตอนนี้คนที่ฉันเคยเห็นว่าติดต่อกับเทพได้ก็มีเพียงแม่หมออิงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นฉันก็อดไม่ได้ที่จะพิจารณาถึงตัวตนของเทพเจ้าแห่งขุนเขา ร่างทรงแบบพวกเราบางคนก็ไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างแน่นอน แต่ฉันจำได้ว่าหลิวหลงถิงดูท่าทางเหมือนจะมีการฝึกสมาธิอยู่บ้าง แล้วในครอบครัวก็ยังมีพี่น้องอีกหลายคน บางทีเขาอาจรู้จักปรมาจารย์อะไรอยู่บ้าง

ฉันตอบตกลงกับย่าไปก่อน แล้วบอกคุณย่าว่าก่อนอื่นฉันจะไปถามหลิวหลงถิงก่อนว่าเขาคิดเห็นอย่างไร ถ้าเขามีเทพที่พอจะติดต่อไปถึงได้ เขาอาจจะสามารถจัดการกับเทพเจ้าแห่งขุนเขาได้

ย่าได้ยินฉันพูดแบบนั้น ท่านก็ยิ้มกว้างจนย่นบนใบหน้าลึกขึ้น แล้วก็ชมเชยว่าฉันเป็นหลานสาวที่ดี จากนั้นท่านก็ปอกไข่ให้ฉัน พลางบอกให้ฉันกินเยอะ ๆ หน่อย

เมื่อเห็นย่ามีความสุขขนาดนี้ ฉันก็อบอุ่นใจไปด้วย ฉันรีบทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว พลันรีบหันหลังกลับไปที่สำนักทันที ฉันจุดธูปสองสามดอกไหว้หลิวหลงถิงเพื่อเชิญเขาออกมา

ตอนนี้ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เลย หลิวหลงถิงกลายเป็นงูขาวตัวหนึ่งค่อย ๆ เลื้อยออกจากแท่นบูชา มันม้วนตัวไว้อยู่บนเบาะเก้าอี้ แล้วพูดกับฉันว่าจริง ๆ แล้วแค่เขาก็สามารถจัดการกับเทพแห่งขุนเขาได้แล้ว ไม่ต้องไปเชิญผู้อื่น เพียงแค่ต้องการจะถามว่าฉันมีความเห็นอย่างไรบ้าง?

เดิมทีฉันยังคิดอยู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับหลิวหลงถิงยังไงดี ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็ไม่ค่อยสนิทสนมกับเขานัก ถ้าต้องไปขอความช่วยเหลือจากเขาฉันก็คงต้องอ่อนน้อมถ่อมตนนิดหน่อย แต่ไม่คิดว่าเขาจะตอบคำถามที่ฉันอยากจะถามเขาออกตรง ๆ เองเลย มันทำให้ฉันอดที่จะชื่นชมหลิวหลงถิงว่าเขาน่าทึ่งไม่ได้

เมื่อหลิวหลงถิงได้ยินฉันพูดแบบนี้ เขาก็ยกหัวงูขึ้น แล้วเลื้อยลงมาจากเก้าอี้ พลันเคลื่อนตัวขึ้นมาตามแขนของฉันแล้วพันรอบคอไว้หลวม ๆ ดวงตากลมโตคู่หนึ่งมองจ้องมาที่ฉัน เขาพ่นลมหายใจออกมา แล้วพูดว่า “เรื่องที่เจ้ารู้ ส่วนใหญ่ข้าก็รู้เช่นกัน อีกอย่างมีแค่ผนังห้องที่ประตูปิดไม่สนิทกั้นเราเอาไว้ คิดว่าที่เจ้าพูดกับย่า ข้าจะไม่ได้ยินเลยเหรอ?”

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อมองดูลำตัวสีขาวสะอาดตาที่โอบรอบคอฉันอยู่ด้วยท่าทางเกียจคร้านแวบหนึ่ง กลับรู้สึกว่ามันดูน่ารักจริง ๆ แววตาของฉันที่มองเขาเปลี่ยนเป็นน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมาทันที ฉันขยับเข้าไปใกล้เขาด้วยความดีใจ “ฉันคิดว่าท่านไม่ได้ยินนี่หน่า แต่อีกฝ่ายก็เป็นเทพแห่งขุนเขา ไม่ใช่ว่าเทพแห่งขุนเขามีพลังมากหรอกเหรอ ท่านจะจัดการกับเขายังไง?”

ฉันพูดไปพลางยื่นมือออกไปแตะหัวเล็ก ๆ สีขาวของหลิวหลงถิงเบา ๆ หลิวหลงถิงเองก็ไม่ได้หลบ แต่เขากลับกดหัวให้แนบชิดกับมือบางมากกว่าเดิม แต่เขาอาจรู้สึกว่าคุยกับฉันแบบนี้ไม่สะดวก ก็เลยเปลี่ยนกลับมาเป็นร่างมนุษย์ยืนอยู่ข้างหน้า เขาหันหลังให้ฉันและมองออกไปนอกหน้าต่าง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status