ตอนที่ 3 รอยรำลึก (ส่วนที่ 2)
เลอลักษณ์มองดูกล่องข้าวของที่กองอยู่กลางห้องของตัวเอง มีร่างบอบบางของแม่หลานสาวกำลังเปิดกล่องแต่ละใบดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ของเหล่านี่คือของที่ลีลาสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตและให้ส่งมาที่ห้องพักของเลอลักษณ์
“มันอะไรมากมายหึหนูลี” ผู้เป็นน้าที่อายุมากกว่าสาวน้อยไม่ถึงสิบปีเอ่ยถาม รู้สึกไม่ชอบมาพากลกับการกระทำของสาวน้อย ก็ลองถ้าลีลาสั่งอะไรให้มาส่งที่คอนโดมิเนียมของเธอ รับรองว่ามันคงเป็นสิ่งที่แม่หลานสาวต้องการปิดบังจากคุณจงกลผู้เป็นย่า หญิงชราผู้แสนเข้มงวดนั่น
“เครื่องสำอาง เสื้อผ้า แล้วก็หนังสือค่ะ” หนังสือน่ะเลอลักษณ์พอเข้าใจ ว่าก็มีบ้างที่ลีลาอาจอยากจะอ่านหนังสือต้องห้ามที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นกุลสตรีที่คุณจงกลขีดเส้นเอาไว้ แต่สาวน้อยก็มีความอยากรู้ตามวัย ยิ่งอยู่ในสังคมที่ก้าวไปไกลขนาดนี้แล้ว ลีลาจึงใช้วิธีซื้อหามาอ่านที่คอนโดฯของเลอลักษณ์ที่ซึ่งคุณจงกลอนุญาตให้หญิงสาวมาใช้เวลาอยู่ได้เหมือนบ้านตัวเอง ด้วยดีกรีอาจารย์มหาวิทยาลัย และภาพลักษณ์กุลสตรีเคร่งเรียนทำให้คุณจงกลวางใจให้เลอลักษณ์ได้ช่วยดูแลหลานสาวกำพร้าของเธอ
“นี่เราสั่งหนังสืออะไรมาอีก แล้วเสื้อผ้าอะไร เครื่องสำอาง ทำไมถึงต้องปิดคุณย่าหึหนูลี คุณย่าไม่ได้ห้ามหนูลีเรื่องเครื่องสำอางหรือเสื้อผ้านี่ หรือ...” เลอลักษณ์ก้าวไปทรุดนั่งข้างๆ หลานสาว ดึงเอาเสื้อผ้าที่แกะแล้วมาคลี่ดู
“คุณพระ!” ว่าที่ดอกเตอร์สาวถึงกับอุทานเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เธอดูแล้วเหมือนมันถูกอะไรตัดจนวิ่นแหว่งไปหมด บางชิ้นก็สั้นกุด บางชิ้นก็มีแขนแค่ข้างเดียว โอ้ยนี่หลานสาวเธอจะเอาเสื้อผ้าพวกนี้ใส่ไปไหน
“ยัยหนูลี จะใส่ไปไหนหึ” ปากถามแต่มือของอาจารย์สาวคว้าหยิบเอากล่องที่บรรจุเครื่องสำอางสารพัดขึ้นมา สีสันของมันฉูดฉาดทันสมัยนัก ต่างจากเฉดสีอ่อนๆ ที่ลีลาใช้อยู่เป็นประจำ ของที่สั่งมีกระทั่งน้ำหอมแบรนด์หรูกลิ่นเย้ายวน ของพวกนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เข้ากับบุคลิกจริงๆของยัยหนูลีแสนหวานของเธอเลย
“หนูลีจะเล่นละครค่ะน้าลักษณ์” เสียงนั้นแผ่วเบา แต่บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงตัดสินใจมาแน่วแน่ ก็ลองเตรียมการขนาดนี้ แปลว่าลีลาคงวางแผนมาระยะหนึ่งแล้ว
“ละครอะไรหนูลี”
“หนูลีจะเล่นละครให้ผู้ชายคนนั้นเขาได้รู้ว่า มีผู้หญิงอีกคน คนที่เขาเคย...เป็นคนละคนกับหนูลี” ขณะพูดแววตาคู่สวยสั่นไหว เลอลักษณ์รู้ดีว่าความผิดพลาดครั้งนั้นมันคงฝังลึกเกาะกินหัวใจของลีลาเป็นบาดแผลลึกล้ำ คนมากวัยกว่ารั้งร่างบอบบางมากอดเอาไว้
“หนูลี ทำไมถึงต้องทำให้มันยุ่งยากด้วย ทำไมไม่บอกความจริงกับคุณคนนั้นไปว่าคืนนั้นหนูลีโดนวางยา แล้วเขาก็เป็นคนแรกของหนูลี” เลอลักษณ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เรื่องเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ลีลาสูญเสียสิ่งมีค่าของลูกผู้หญิงไปโดยที่ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้ แต่อยู่ๆผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาในชีวิตเธอ กลายมาเป็นคู่หมายที่ผู้ใหญ่จัดการเอาไว้ให้ มันควรจะเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ แค่พูดคุยกันไปตามตรง
หลังจากเรื่องคืนนั้นเลอลักษณ์ตามสืบพฤติกรรมของเพื่อนกลุ่มที่พาลีลาไปเลี้ยงฉลอง เด็กกลุ่มนั้นถึงจะเป็นลูกคนดีๆ มีหน้ามีตาในสังคม แต่ประวัติด้านร้ายๆก็ฉาวไม่น้อย พวกนั้นมั่วยาและสับเปลี่ยนคู่นอนกันเป็นว่าเล่น ลีลาไม่เคยรู้ฉากหลังเหล่านั้นเพราะเธอไม่ค่อยได้คลุกคลีกับเพื่อนๆนัก เนื่องจากการคุมเข้มของผู้เป็นย่า เรื่องคืนนั้นเกิดขึ้นเพราะทั้งกลุ่มดื่มทั้งเหล้าเสพทั้งยาจนเมาแทบไม่รู้เรื่อง ไม่รู้แม้กระทั้งลีลาถูกคนนอกกลุ่มพาตัวไป แต่ถึงตอนนี้เลอลักษณ์กลับรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นโชคดีก็ได้ ถ้าชายหนุ่มผู้นั้นไม่มาพาตัวลีลาไป เธออาจถูกลากตัวไป ‘มั่ว’ กับเพื่อนแย่ๆพวกนั้น และไม่รู้กี่คนที่จะได้ครอบครองหลานสาวเธอ โลกของสาวน้อยคงถล่มทลายมากกว่านี้เมื่อต้องตกเป็นของผู้ชายไม่รู้กี่คนต่อกี่คน แม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะร้ายแรง แต่ลีลาก็สูญเสียมันให้คนคนเดียว
“เขาคงไม่เชื่อหรอกน้าลักษณ์ ผู้หญิงที่เขาหิ้วได้จากผับจะบริสุทธิ์ได้ยังไง แล้ว...แล้ว...” น้ำตาของลีลาทะลักออกมาอย่างสุดกลั้น
“บนเตียงมันก็ไม่มีเลือดด้วย” มือน้อยๆ กำเข้าหากันแน่นร่างบางสั่นสะท้าน ตอนลุกออกมาจากอ้อมกอดของเขา หญิงสาวหันกลับไปมองยังที่นอนที่เขากับเธอ ‘ใช้’ ร่วมกันมาทั้งคืน นอกจากรอยยับย่นราวโดนพายุโหมแล้ว มันไม่มีร่องรอยหยดเลือดอะไรเลย
“เลือดอะไร” เลอลักษณ์มองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างงุนงง และแล้วก็เหมือนจะเข้าใจความหมายเหล่านั้นลีลาคงหมายถึงเลือดพรหมจรรย์ อาจารย์สาวไม่รู้ว่าเธอควรจะหัวเราะขบขันหรือถอนหายใจดี ลีลาก็ยังเป็นลีลาที่ยังอ่อนต่อโลกวันยังค่ำ ต่อให้เจ้าตัวสรรหาหนังสือสารพัดมาอ่านก็เถอะ
ตอนพิเศษ 2 เพียงเธอ (ส่วนที่ 2) เจ้าของร่างบอบบางรับรู้ถึงจมูกโด่งๆ ที่ไล้ไปตามลาดไหล่นวลผ่อง ก่อนจะส่งผ่านสำผัสหวามหวานไปทั่วแผ่นหลังป่าวเปลือยของตัวเอง เมฆฉานกำลังทำอย่างที่พูด เขา'ขยัน' เสียเหลือเกิน แถมร้อนแรงราวไฟโหมแผดเผาตัวเธอไม่หยุดหย่อน "พี่เมฆขา ทำไมถึง...เอ่อ...ต้องการมากนักล่ะคะ" เสียงถามแผ่วเบาเอ่ยถาม พยายามไขว่คว้า มือซุกซนที่ไล้บีบคลึงไปทั่วร่างน้อย "ลงโทษคนใจร้าย ทำไมหึ ทำไมถึงไม่อยากมีลูก พี่อยากมีลูกกับหนูลีนะ มีแล้วพี่เลี้ยงให้ก็ได้ ถ้าหนูลียังไม่พร้อมจะเลี้ยง เราแต่งงานกันแล้วนะครับ" คนตัวโตออดอ้อน เขาใฝ่ฝันมาตลอดที่จะมีทายาทกับหญิงสาวที่รัก ถ้าไม่ใช่ลีลา เขาก็ไม่ได้คิดจะอยากมีกับใครแน่ๆ "พี่เมฆ ฟังหนูลีอธิบายก่อนนะ" ลีลาพยายามหยุดการรุกรานของสามี" หนูลีอยากมีลูกกับพี่เมฆนะคะ เพราะหนูลีรักพี่เมฆ แต่อายุยี่สิบมันอาจน้อยไปที่จะมีลูกสักคน หนูลีไม่มั่นใจเลยค่ะว่าจะมีวุฒิภาวะพอจะเลี้ยงดูเด็กๆ ให้เขาโตมาอย่างมีความสุขหรือเปล่า" เสียเล็กๆ สั่นเครือ เมื่อหัวใจสะท้อนสะท้านไปกับความรู้จากความทรงจำมากมาย
ตอนพิเศษ 2 เพียงเธอ (ส่วนที่ 1) ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกใส ขณะมองขนมสีสวยในกล่องหลากดีไซน์ที่สาวน้อยอ้อนวอนขอซื้อทุกแบบที่มีในร้าน "สวยจังค่ะพี่เมฆ ขนมก็สวย กล่องก็สวย ถุงอีก โอ้ยดูซิคะแม้แต่บิลเงินสดยังสวยเลย" เสียงกรี๊ดกร๊าดดังไม่หยุด ตั้งแต่หอบของถูกใจออกจากร้านขนมชื้อดังกลางกรุงปารีส "คนซื้อก็สวย" เสียงห้าวๆ ดังขึ้น พร้อมกับสายตาเจ้าชู้ที่ส่งไปยังภรรยาตัวน้อย แก้มนวลซับสีแดงระเรื่อแทบในทันที จนเมฆฉานอดใจไม่ไหวที่จะยื่นหน้าเข้าไปดอมดม "พี่เมฆน่ะ" ลีลาเบี่ยงตัวหลบอย่างเขินอาย “อยากมีลูกสาวกับหนูลีจัง ลูกเราต้องสวยน่ารักแน่ๆ แม่สวยขนาดนี้” อยู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นลอยๆ ทำเอาคนที่กำลังจิบน้ำอยู่ถึงกับสำลักกระอักกระไอรุนแรง “อ้าวใจเย็นๆ ครับ ตื่นเต้นล่ะซิ หรือว่าหนูลีอยากได้ลูกชายหล่อเหมือนพี่ ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จัดให้ แต่คนแรกขอลูกสาวก่อนแล้วกัน” ลีลารู้สึกเห่อร้อนไปทั้งใบหน้า กับวาจาห่ามๆ ของสามี “กินซะจะได้เงียบๆ” มือบอบบางหยิบขนมในมือยัดใส่ปากคนตัวโต ก่อนจะเดินหน้าแดงหนีไปดื้อๆ
ตอนพิเศษ 1 ลีลาเคียงเมฆ (ส่วนที่ 2) ภายใต้ซุ้มดอกไม้สดงดงามกลางสวนสวย บ่าวสาวในชุดไทยสวยงามยืนเคียงคู่กัน ท่ามกลางรอยยิ้มชื่นบานของบรรดาญาติสนิท "เหมาะสมเหลือเกินนะคะคุณพี่ เจ้าบ่าวก็หล่อ เจ้าสาวก็งามหมดจดราวหลุดออกมาจากวรรณคดี หนูลีนี่แต่งชุดไทยขึ้นจริงๆ"คุณหญิงรวีวรรณเอ่ยชมแววตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม ลูกสาวของเธอตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวแต่งชุดไทยในงานเลี้ยง แทนที่จะแต่งชุดสากลตามสมัยนิยม คุณจงกลพยักหน้ารับ แววตายังจับจ้องอยู่ที่คู่บ่าวสาว ในที่สุดเธอก็จับจูงหลานสาวผู้อาภัพคนนี้เดินมาจนถึงปลายทางช่วงหนึ่งของชีวิต หนทางต่อไปเธอมั่นใจว่าชายหนุ่มผู้นั้นจะประคับประคองลีลาให้ก้าวต่อไปด้วยดี ความรักมากมายที่เมฆฉานได้พิสูจน์ให้เห็น เป็นดังหลักประกันได้ "วันนี้เจ้าบ่าวของเรามีสิ่งพิเศษจากหัวใจ ที่จะมอบเป็นเซอไพร์ให้เจ้าสาวครับ" ภูหมอกผู้รับหน้าที่พิธีกรในงานประกาศ เสียงขานฮือฮาดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณงาน เมื่ิอเจ้าบ่าวเดินตรงไปที่เปียโนด้านหลัง ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เจ้าสาวเท่านั้นที่เซอไพร์กับเรื่องนี้ ครอบครัวเจ้าบ่าวก็ประห
ตอนพิเศษ 1 ลีลาเคียงเมฆ (ส่วนที่ 1) "ตายแล้ว! ปุ๊บ ปั๊บ ตาหนึ่งทำอะไรกันลูก" เสียงอุทานอย่างตระหนกดังขึ้น เมื่อเห็นสามหนูน้อยนั่งล้อมวงอยู่รอบๆ ถาดใส่ขนมหลากชนิด ปากเคี้ยวยับๆ อย่างเอร็ดอร่อย "กินหนมคับ อันนี้อร่อยมาก" มือป้อมๆ ของเด็กชายหนึ่งตะวัน หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นอวดมารดา ก่อนจะส่งมันเข้าปาก แพนดารารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะลมจับในทันที "อันนี้ก็อร่อย" เด็กชายคู่แฝดอวดขนมที่ตัวเองชอบบ้าง ไม่รับรู้ถึงอาการกุมขมับของผู้ใหญ่ ดวงตาคู่สวยมองสภาพถาดใส่ขนมขันหมากด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จะทำอย่างไรล่ะทีนี้ ตัวแสบทั้งสามกินขนมไปเกือบหมดถาดแล้ว จะหาขนมที่ไหนมาแทนได้ในเวลานี้เล่า ครั้นจะดุว่าก็ไม่มีประโยชน์อะไร จริงๆ เธอควรจะบอกเด็กๆ เอาไว้ตั้งแต่แรกว่าขนมนี้เอามากินไม่ได้ "มีอะไรหรือหนูแพน" เสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงสง่าของธรรศ มอเรล บิดาของสามีเธอ "สามแสบนั้นกินขนมขันหมากที่จะใช้ในพิธีพรุ่งนี้หมดไปเกือบถาดแล้วค่ะ ทีนี้จะแก้ไขอย่างไรดีคะ" ธรรศเลิกคิ้ว มองหลานชายทั้งสามที่ยังเอร็ดอร่อย ผลัดกันป้อนขนมให้กันชื่นมื่น
บทส่งท้าย 'กรงรัก' (ส่วนที่ 2) คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ เมื่อพาหนะที่เมฆฉานขับไปรับเธอมาจากสนามบินแล่นเลยทางเข้าเรือนไทยของผู้เป็นย่าไป ก่อนจะค่อยๆเลี้ยวเข้าประตูรั้วด้านข้างร้านขนม บ้านหลังน้อยท่ามกลางหมู่ไม้ค่อยปรากฏแก่สายตา ลีลายิ่งประหลาดใจมากขึ้น เธอจากไปเพียงเดือนกว่าๆ บ้านหลังนี้ผุดขึ้นมาได้อย่างไร ราวกับใครมาเนรมิตขึ้นมาอย่างนั้น จำได้ว่าบริเวณนี้แต่ก่อนเป็นสวนไม้ผลของคุณย่า ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกผลเท่าไหร่แล้ว “บ้านใครคะ” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยงุนงงหันไปถามคนที่พามา ขณะก้าวลงจากรถตามการจับจูงของคนตัวโต “เรือนหอน่ะ เจ้าสาวก็อยู่ข้างๆ นี่ไง” เสียงห้าวๆ ตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี รั้งเอวกลมกลึงของคนถามให้เดินตามเข้าไปด้านใน ลีลากวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ อย่างงุนงง บ้านหลังน้อยสองชั้นสไตล์วิกตอเรียนตั้งอยู่ท่ามกลางส่วนร่วมรื่น แยกออกมาเป็นสัดส่วนด้วยรั้วต้นไม้ไม่สูงนัก มีทางเดินเชื่อมไปยังเรือนไทยของผู้เป็นย่า ทั้งลักษณะของบ้าน และการตกแต่งเป็นไปตามที่เธอใฝ่ฝันทุกอย่าง “พี่ปรึกษากับคุณย่าท่านแล้ว เห็นตรงกันว่าควรจะสร้างเ
บทส่งท้าย 'กรงรัก' (ส่วนที่ 1) ร่างสูงก้าวยาวๆอย่างรวดเร็วไปบนทางเดินกลางสนามบิน ดวงตาคมกวาดไปโดยรอบ ก่อนจะหยุดล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูด้วยอาการกระวนกระวาย หากดูเหมือนทำให้หัวใจยิ่งร้อนรุ่ม ยัยตัวร้ายยังไม่เปิดโทรศัพท์มือถือ หรือเปิดก็ไม่ยอมแชร์โลเคชันบอกตำแหน่งของตัวเอง เด็กบ้าเอ้ย! สั่งอะไรไม่เคยจะทำตามเลย บอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าไม่ได้อยู่ข้างตัวเขา ห้ามปิดโทรศัพท์และให้แชร์โลเคชันบอกพิกัดที่ตัวเองอยู่เอาไว้ เขาจะได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เมฆฉานย่ำเท้าไปเรื่อยๆ มือก็พยายามกดโทรศัพท์หาคนรัก หรือว่าเขาควรจะระดมคนมาพลิกสนามบินตามหาดี แต่นั่นมันก็เกินกว่าเหตุไป เพราะยังไม่มีอะไรที่ส่อเค้าว่าจะเกิดอันตรายกับเธอ เพียงแค่เธอหายไปจากการรับรู้ของเขาเท่านั้น จริงๆ เขาควรจะดีใจที่ลีลากลับมาก่อนกำหนด หลังจากเจ้าหล่อนตามมารดาไปเที่ยวเล่นที่อเมริกาทันทีหลังงานแต่งงานของน้าสาว หญิงสาวไม่ได้บอกกำหนดแน่นอนว่าจะไปนานเท่าไหร่ ตอนแรกประมาณการณ์เอาไว้ว่าขั้นต่ำน่าจะสามเดือน จำได้ว่าตอนนั้นเขาหงุดหงิดมากที่รู้ว่าคนรักมีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้วนานถึงสิบปี แบบนี้มันติดปีกชัดๆ มิน่านึก