บทที่ 2 สืบประวัติ
ภายใต้คฤหาสน์หลังใหญ่ราคาเกือบห้าร้อยล้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีเพียงแค่เจ้าของบ้านที่เป็นหนุ่มโสดวัยยี่สิบห้าปีอาศัยอยู่เพียงคนเดียวไม่นับรวมบอดี้การ์ดและแม่บ้านของเขา คฤหาสน์ที่เขาสร้างมันด้วยเงินของตัวเอง
“ขออนุญาตครับเฮีย เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ” บอมมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าก้มหัวลงเล็กน้อย
“มึงไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้มาให้กูหน่อย” สายฟ้าโยนเอกสารปึกบางที่บอสตันพึ่งนำมาให้เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“ใครหรอครับเฮีย” บอมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เสือกทุกเรื่อง” สายฟ้าส่ายหัวเล็กน้อยเคยชินกับความอยากรู้อยากเห็นของบอม
ไม่แปลกที่บอมจะกล้าถามหรือเรียกเขาอย่างสนิทสนมไม่เหมือนที่คนอื่นเรียกเขา เพราะบอมคือลูกชายของแม่บ้านที่อาศัยและทำงานอยู่ในคฤหาสน์ของครอบครัวเขา จึงทำให้ทั้งคู่สนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่ละอ่อนบอมมีอายุน้อยกว่าเขาเพียงแค่สองปีด้วยความรักและเอ็นดูของสายฟ้า เห็นบอมเหมือนน้องชายจึงชักชวนมาทำงานกับเขาแถมยังได้ตำแหน่งเป็นมือขวาคนสนิทของเขาอีกด้วย
“บอมอยากรู้เฉย ๆ ไม่ได้เลย งั้นไม่บอกละ”
“อะไรของมึง” คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย
“น้องคนนี้ ผมเคยเห็นเรียนอยู่ที่คณะผมเป็นเด็กปีหนึ่งแถมยังฮอตด้วยนะเพราะหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา”
“แค่นี้ใช่ไหมที่จะบอกกู กูบอกให้ไปสืบมาขอละเอียด ๆ พ่อแม่เป็นใครทำงานอะไร อยู่ที่ไหน” สายฟ้าสั่งเสียงราบเรียบ
“รับทราบครับ ไม่มีอะไรแล้วผมไปทำการบ้านก่อนนะครับ” บอมยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแต่เป็นปีสุดท้ายแล้ว นอกจากจะได้รับความเมตตาเอ็นดูให้มาทำงานด้วยบอมยังเก่ง ฉลาดและหลักแหลมต่อให้เรียนอยู่ก็พร้อมจะทำงานให้สายฟ้าเสมออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
…
“เจ้าขา หนูเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะ C1 ให้เจ้หน่อย” เสียงแนนผู้จัดการคลับเอ่ยคำสั่งเสียงหวาน
“ค่ะเจ้แนน” เจ้าขาขานตอบอย่างฉะฉานเดินยกถาดเครื่องดื่มไปเสิร์ฟอย่างไม่อิดออด
เธอมาทำงานที่นี่เป็นวันที่สองก็คล่องแคล่วเป็นอย่างดี ถึงกับทำให้แนนที่เป็นผู้จัดการคลับรู้สึกประทับใจไม่น้อย เด็กที่ไม่เคยมีประวัติผ่านการทำงานบริการที่ไหนมาก่อนเคยทำแต่เป็นผู้ช่วยเชฟอยู่ในครัวจากที่สอบถามพอมาทำงานบริการได้ขนาดนี้ถือว่าเก่งมาก ๆ ไม่ว่าจะเรื่องการรับมือกับลูกค้า การบริการและการทำงานเป็นทีมร่วมกันกับเพื่อนในที่ทำงานเจ้าขาทำมันออกมาได้ดี
เท้าหนาเดินก้าวเข้ามาในคลับของเพื่อนสนิทอย่างมีมาดตามด้วยชายฉกรรจ์เดินตามหลังประกบอีกสองคน สายตาของหญิงสาวที่ออกมาท่องราตรีต่างพากันจับจ้องมองเจ้าของใบหน้าหล่อตี๋นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงอย่างสนอกสนใจ
“เจ้แนน…”
“น้องสายฟ้า…สวัสดีค่ะมีอะไรให้เจ้ช่วยไหมคะ” แนนเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทเจ้าของคลับอย่างนอบน้อมพลางเอ่ยถาม
“สวัสดีครับ เจ้พอจะมีโต๊ะว่างให้ผมไหมครับ” เสียงเข้มเอ่ยถาม
“น้องสายฟ้าหมายถึงข้างล่างหรอคะ?” แนนทำหน้าฉงนสงสัย
“ใช่ครับ วันนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งข้างล่างดู”
“เอ่อ…เดี๋ยวเจ้หาให้สักครู่นะคะ” แนนกวาดสายตามองหาโต๊ะว่างที่ไม่มีแก้ววางไว้ เพราะถ้าโต๊ะไหนที่มีแก้ววางไว้แสดงว่ามีคนจองไว้แล้ว
“มีตรงนั้นค่ะ เดี๋ยวเจ้พาไปนั่งตามมาค่ะ” เจ้แนนเดินนำสายฟ้าพาไปยังโต๊ะว่างที่อยู่ติดกับบาร์ค็อกเทล
แนนพาสายฟ้ามานั่งยังโต๊ะที่ว่าง “ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยขอบคุณตามมารยาท
“เดี๋ยวเจ้เรียกน้องเจ้าขาเด็กประจำโซนมาดูแลนะคะ น้องสายฟ้าอยากได้อะไรบอกน้องเขาได้เลย”
“ครับ” มุมปากหนากระตุกยิ้มทันทีที่ได้ยินชื่อของบุคคลที่ทำให้เขาอยากมาในวันนี้ บังเอิญเสียจริงที่ได้เธอเป็นคนมาดูแลโต๊ะของเขา
“สวัสดีค่ะลูกค้ารับอะไรดีคะ?” เสียงเล็กเอ่ยถามน้ำเสียงสุภาพ
“หึ…ผ่านไปแค่วันเดียวก็ลืมกันได้แล้วหรอ” เขาปรายตามองเธอมุมปากหนายกยิ้มเล็กน้อย
“คะ?” เจ้าขาขมวดคิ้วเล็กน้อยสงสัย ในนี้ค่อนข้างมืดทำให้เธอมองหน้าลูกค้าไม่ชัด ก่อนจะจำเสียงของเขาได้
“ทำเป็นไม่ได้ยินที่ฉันพูด?” เสียงเข้มเอ่ยถามพลางหันมาจับจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มนิ่งแววตาราวกับหมาป่าดุร้าย แผ่รังสีความน่าเกรงขาม
“......” เธอหลุบตาต่ำเพื่อหนีสายตาของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนัก ๆ
เขาคือผู้ชายคนเมื่อคืนที่ชวนเธอไปต่อกับเขา แต่เธอไม่ไป…
“ลูกค้าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?” เธอเงยหน้ากัดฟันฝืนยิ้มถาม
“แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันอยากได้เธอล่ะ?” ประโยคคำถามของเขาทำให้เธอนิ่งงันไป ใบหน้าเรียวก้มหน้างุดมองพื้น
“ถ้าลูกค้าไม่สั่ง หนูขอตัวไปดูแลโต๊ะอื่นนะคะ” เธอกลั้นใจพูดออกไป ก่อนจะหมุนตัวหนี
“เดี๋ยว!” มือหนากระชากแขนของเธอเอาไว้ เธอกล้ามาก กล้าเมินคำพูดของเขา
“พี่ต้องการอะไรจากหนูหรอคะ?” เจ้าขาหมุนตัวกลับมาเอ่ยถามเสียงสั่น รวบรวมความกลัวเอาไว้ภายใต้จิตใจของเธอ
“ฉันว่าสิ่งที่ฉันแสดงออกมันชัดเจนนะ” เสียงเข้มกดบอก มือหนาบีบเค้นแขนเรียวแน่นจนดวงหน้าจิ้มลิ้มแสดงสีหน้าเหยเกเจ็บปวด
“พี่ไปหาคนอื่นเถอะค่ะ หนูไม่สะดวก” เธอพยายามดีดแขนออกจากพันธนาการของเขา
“เจ้าขา! มาช่วยเจ้รับลูกค้าโต๊ะนี้หน่อย” เหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด
“ค่ะเจ้แนน” เธอขานตอบก่อนจะดึงแขนของตัวเองออกจากฝ่ามือหนาซึ่งสายฟ้าก็ยอมปล่อย
“ขอตัวนะคะ” เธอหันไปมองหน้าเขาเพียงแวบเดียวก่อนจะหมุนตัวเดินไปรับลูกค้าโต๊ะอื่น
แนนที่เฝ้ามองเจ้าขาเดินเข้าไปรับออเดอร์โต๊ะสายฟ้าอยู่นาน เห็นท่าไม่ดีจึงช่วยเรียกเจ้าขาออกมาให้รับลูกค้าโต๊ะอื่น สังเกตจากสีหน้าแววตาของเจ้าขาดูเกร็ง ๆ
“เจ้าขา…สายฟ้าทำอะไรเธอหรือเปล่า” เจ้แนนเอ่ยถามในตอนที่เจ้าขากำลังเดินกลับมาเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ลูกค้า
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะเจ้…” เธอเอ่ยปฏิเสธแล้วยกถาดเครื่องดื่มออกไปเสิร์ฟลูกค้า แนนมองตามด้วยความเป็นห่วงถึงแม้เจ้าขาจะมาทำงานได้แค่สองวันแต่ก็อยู่ในการดูแลของเธอแถมเจ้าขายังเป็นเด็กดี ขยัน เธอรู้สึกเอ็นดูเจ้าขาอยู่ไม่น้อย
บทที่ 5 ข้อเสนอเจ้าขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำประมานสิบนาที ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปยังประตูด้านหลังคลับ เพื่อออกไปสูดอากาศข้างในคนค่อนข้างเยอะและแน่นไปทุกอณูทำให้บรรยากาศในคลับอึดอัดไปหมด เธอยืนได้ไม่นานกลิ่นบุหรี่ก็ลอยมาเตะปลายจมูกบางของเธอ พลันทำให้เธอต้องหันไปมองยังต้นทางของกลิ่นนั้น ดวงตากลมเบิกโตเล็กน้อย เจ้าของกลิ่นบุหรี่ที่ลอยมาคือเขา คนที่เธอรอเจอมาทั้งคืน สายตาคมมองกลับเรียบนิ่งก่อนเขาจะตวัดสายตาหันไปมองทางอื่น เขาไม่สนใจเธอแม้แต่น้อยเทียบกับสองวันก่อนที่ผ่านมา เจ้าของความสูงร้อยแปดสิบเจ็ดทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นก่อนจะใช้เท้าบดขยี้มันและเดินผ่านหน้าของเจ้าขาไป กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาลอยมาเตะที่จมูกเธอเธอเม้มปากเข้าหากันแน่นไม่กล้าเรียกเขาให้หยุดเดิน ก่อนจะมองตามหลังแกร่งที่เดินกลับเข้าคลับไป เธอเหมือนดึงสติของตัวเองกลับมาได้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในเวลางานต้องกลับไปทำงานแล้วร่างบางจึงก้าวขาเดินกลับเข้าคลับไป “มึงมาทำไมป่านนี้” เสียงบอสตันเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างสายฟ้าที่พึ่งมาถึงคลับเมื่อสิบนาทีก่อน“มีกฎข้อไหนห้
บทที่ 4 ไม่เจอตัว ณ บอสตันคลับเจ้าขามาเข้าทำงานตามเวลาปกติในระหว่างทางที่เดินทางมาทำงานในหัวของเธอคิดเรื่องอยากเปลี่ยนตำแหน่งในร้านจากบริกรหรือเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มที่เขาเรียกกันว่าพีอาร์ เพราะผลตอบแทนค่อนข้างสูงแถมลูกค้าจ่ายทิปเยอะกว่า“เอ้า…เจ้าขาวันนี้มาทำงานเร็วนะเนี่ย” เสียงเจ้แนนผู้จัดการคลับเอ่ยทักทายเธอ“สวัสดีค่ะเจ้แนน พอดีวันนี้หยุดค่ะไม่มีคาบเรียน” เธอตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบา จะตัดสินใจขอเจ้แนนไปเป็นเด็กนั่งดื่มดีไหมเพราะในตอนแรกเธอมาสมัครเป็นแค่เด็กเสิร์ฟเท่านั้น “เจ้แนนคะ…” เธอเรียกผู้จัดการอีกครั้ง “ว่าไงเจ้าขา” “หนูอยากเปลี่ยนจากเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มได้ไหมคะ” คำถามของเจ้าขาสร้างความประหลาดใจให้กับแนนไม่น้อย ในวันแรกที่เจ้าขามาสมัครงานเธอทาบทามเจ้าขาให้ไปเป็นเด็กนั่งดื่มด้วยหน้าตาผิวพรรณแต่เจ้าขาปฏิเสธเสียงแข็งมาวันนี้กลับอยากเปลี่ยนใจ “เจ้าขามีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตามประสบการณ์สามสิบปีที่ผ่านมามองแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าขากำลังมีปัญหา “คือ…พ่อหนูติดหนี้นอกระบบค่ะ หนูต้องหาใช้คืน” คำตอบของเธอตอกย้ำชัดว่าเธอกำลังเจอปัญหา“แล
บทที่ 3 ไม่มีทางเลือกจวบจนเวลาเลิกงานเจ้าขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษาที่เธอใส่มาในตอนแรก วันนี้เธอเลิกเรียนเย็นมากทำให้ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านจึงมาทำงานในชุดนักศึกษาโชคดีที่แนนผู้จัดการคลับมีชุดให้เธอยืมเปลี่ยน หลังจากที่เธอเดินออกมาจากโต๊ะของสายฟ้าได้ไม่นาน เขาก็หายออกไปจากโต๊ะแถมไม่ได้สั่งเครื่องดื่ม แต่ก็ดีแล้วเพราะเธอไม่อยากให้เขาอยู่กวนใจเธอไปทั้งคืนหรอก“จะกลับแล้วหรอ อันนี้ค่าจ้างจ้ะ” แนนเดินเข้ามาจ่ายค่าจ้างรายวันให้กับเจ้าขา “ขอบคุณค่ะ” เธอรับเงินมาจากมือเจ้แนนพลางส่งยิ้มหวาน“กลับยังไงล่ะ เจ้ไปส่งไหม?” แนนเอ่ยถามเพราะเด็กเสิร์ฟคนอื่น ๆ ทยอยกลับกันหมดแล้ว มีก็แต่เจ้าขาที่เข้ามาเปลี่ยนชุดทำให้ได้กลับบ้านช้ากว่าคนอื่น ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ หนูเกรงใจ” เจ้าขาเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“เกรงใจอะไรกัน สบายมากกลับด้วยกันนี่แหละเจ้เหงาขับรถกลับคนเดียวนะ ๆ ”“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” “ป่ะ กลับบ้านกัน” เจ้แนนเดินจูงมือของเธอออกทางหลังประตูคลับตรงไปที่ลานจอดรถใช้เวลาไม่นานรถยนต์สีดำสนิทของเจ้แนนก็ขับมาจอดที่หน้าปากซอยของหมู่บ้านที่เจ้าขาพักอาศัยอยู่ หมู่บ้านที่อยู่ใจก
บทที่ 2 สืบประวัติภายใต้คฤหาสน์หลังใหญ่ราคาเกือบห้าร้อยล้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีเพียงแค่เจ้าของบ้านที่เป็นหนุ่มโสดวัยยี่สิบห้าปีอาศัยอยู่เพียงคนเดียวไม่นับรวมบอดี้การ์ดและแม่บ้านของเขา คฤหาสน์ที่เขาสร้างมันด้วยเงินของตัวเอง “ขออนุญาตครับเฮีย เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ” บอมมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าก้มหัวลงเล็กน้อย “มึงไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้มาให้กูหน่อย” สายฟ้าโยนเอกสารปึกบางที่บอสตันพึ่งนำมาให้เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว “ใครหรอครับเฮีย” บอมเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เสือกทุกเรื่อง” สายฟ้าส่ายหัวเล็กน้อยเคยชินกับความอยากรู้อยากเห็นของบอม ไม่แปลกที่บอมจะกล้าถามหรือเรียกเขาอย่างสนิทสนมไม่เหมือนที่คนอื่นเรียกเขา เพราะบอมคือลูกชายของแม่บ้านที่อาศัยและทำงานอยู่ในคฤหาสน์ของครอบครัวเขา จึงทำให้ทั้งคู่สนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่ละอ่อนบอมมีอายุน้อยกว่าเขาเพียงแค่สองปีด้วยความรักและเอ็นดูของสายฟ้า เห็นบอมเหมือนน้องชายจึงชักชวนมาทำงานกับเขาแถมยังได้ตำแหน่งเป็นมือขวาคนสนิทของเขาอีกด้วย“บอมอยากรู้เฉย ๆ ไม่ได้เลย งั้นไม่บอกละ” “อะไรของมึง” คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย“น้องคนนี้ ผมเคยเห็นเรีย
บทที่ 1 เจ้าขา“เจ้าขา นี่มึงได้นอนบ้างไหม?” เสียงไฟเพื่อนสนิทของเจ้าขาเอ่ยถาม“นอน ๆ มึงอย่าพึ่งบ่นได้ไหมกูรีบปั่นการบ้านอยู่” เจ้าขายกฝ่ามือห้ามปรามไม่ให้ไฟบ่นเธอ เพราะเธอกำลังตั้งหน้าตั้งตาปั่นการบ้านอยู่ เจ้าขา เด็กสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มตากลมโตราวกับตุ๊กตาส่วนสูงเพียงร้อยห้าสิบแปด เข้าสู่การเป็นนักศึกษาปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังด้วยการสอบชิงทุนเข้าคณะวิศวะ เธอมีอายุเพียงสิบเก้าปีเท่านั้นแต่เธอมีภาระหน้าที่อันหนักอึ้งที่ต้องรับผิดชอบราวกับคนวัยทำงาน เพราะพ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจ้าขาอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอดหลังจากที่พ่อและแม่ของเธอเสีย ยังโชคดีที่พ่อของเธอทิ้งเงินและบ้านไว้ให้เธอเพียงเล็กน้อยแต่เท่านั้นคงไม่พอ เพราะพ่อของเธอดันติดหนี้นอกระบบไว้เป็นจำนวนสามล้านนั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเพื่อมาใช้หนี้ให้หมด และเลี้ยงชีพรับผิดชอบตัวเอง “กูบอกให้ยืมเงินกูไปคืนซะก็จบจะได้ไม่ต้องไปทำงานกลางค่ำกลางคืน” ไฟพร่ำบ่นใส่หูเจ้าขาทุกวันเรื่องหนี้สินที่เธอกำลังหาเงินใช้หนี้ให้พ่อของเธออยู่ “เก็บไว้เถอะ ไม่อยากรบกวน” เจ้าขาเง
บทนำมาเฟียหนุ่มหล่อหน้าตี๋นั่งควงแก้ววิสกี้ในมืออย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางแสงสีเสียงและผู้คนที่ออกมาท่องราตรีในยามค่ำคืน สายตาคมดุจหมาป่าที่พร้อมจะล่าเหยื่อตลอดเวลา สายฟ้า มาเฟียหนุ่มหล่อชื่อดังในแวดวงสังคมนักธุรกิจ ผู้บริหารโรงแรม SHAFT คนใหม่สืบทอดต่อจากผู้เป็นพ่อ“ไง วันนี้ว่างออกมานั่งเล่นแล้วหรอผู้บริหารหน้าใหม่” เสียงเอ่ยแซวของบอสตันหนึ่งในแก๊งเพื่อนและยังเป็นเจ้าของคลับที่เขานั่งอยู่ตอนนี้“หึ…” เขาหัวเราะให้กับคำพูดของบอสตัน“ใครจะว่างเหมือนมึง วัน ๆ เอาแต่แดกเหล้า” เขาพูดกระแทกแดกดันเพื่อนสนิทกลับ “ไอ้เวร ก็กูเป็นเจ้าของร้านเหล้าไม่ให้แดกเหล้าให้แดกนมปั่นหรือไง” คนโดนแซวหัวเสียอยู่ไม่น้อย ไม่ชินเท่าไหร่ที่มักถูกเพื่อนด่าอยู่เสมอเรื่องที่เขาดื่มเหล้าทุกวัน “เพลา ๆ ลงบ้างก็ดีกูไม่อยากรีบไปงานศพเพื่อนตอนนี้” สายฟ้าแสยะยิ้มพูดร้ายกาจ “มึงตายก่อนดีไหม ตายคาตีนกูเนี่ย” บอสตันพูดยกฝ่าเท้าขึ้นทำท่าถีบใส่สายฟ้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม สายฟ้าไม่สนใจท่าทางอารมณ์เสียของเพื่อนนักสายตากวาดมองเหล่านักท่องราตรีเพื่อหาเหยื่อในคืนนี้ ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับเด็กสาวตากลมราวกับตุ๊กตาแต่ดูมีเสน่