“โดนตบไปแล้วครั้งนึงยังไม่เข็ดใช่ไหมอีนังเด็กนี่”
“ก็ลองเข้ามาอีกทีสิ วันนี้ไม่มีผัวป้าคอยห้าม รับรองว่าฉันไม่ยอมให้โดนตบฟรีอีกแน่” ศักดิ์สยามที่ยังตกตะลึง มองหน้าน้องสาวกับอดีตชู้รักสลับไปมา ลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปทันที “เดี๋ยว! นี่อะไรกัน ตาลเคยเจอคุณเพิร์ลแล้วเหรอ” ศีตลาไม่ยอมตอบ อีกฝ่ายจึงตอบแทน “แกแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ นายต้น” “ผม...ผมต้องรู้เรื่องอะไร” “ก็เรื่องที่น้องสาวแกคนนี้มันแร่ดเอาตัวไปเสนอให้ธามถึงบ้าน เพื่อแลกกับการยอมความ ให้แกไม่ต้องติดคุกไง” ศักดิ์สยามหันกลับมามองหน้าน้องสาว ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ผู้หญิงใจดำอย่างไข่มุกย่อมจะพูดอะไรก็ได้... แต่ศีตลากลับไม่ยอมสบตาเขา เธอเอาแต่มองไปทางอื่น... “ตาล ลูกตาล...” “จะอ้ำอึ้งทำไมนังเด็กแร่ด ยอมรับไปสิว่าแกจะขายตัวเพื่อแลกกับการยอมความจริง ๆ” “หนูเปล่าขายตัว อย่าพูดอะไรมั่ว ๆ นะป้า” “ขืนเรียกฉันว่าป้าอีกคำเดียว ฉันจะเอาแกหน้าแหกแน่” ไฮโซสาวลูกสาวนายพลลืมกิริยาผู้ดีไปสิ้น กางมือร่าเตรียมจะโผเข้าหาเด็กสาวที่ยืนตั้งรับอยู่อีกฟากของห้อง แต่ทนายกับผู้ช่วยสาวที่มาด้วยกันนั้นรีบสะกิดห้ามไว้เสียก่อน “เอ่อ คุณเพิร์ลครับ ผมว่าเราเข้าประเด็นเลยดีกว่านะครับ จะได้รีบกลับ ก่อนที่ทนายของคุณธามจะมา...” หญิงสาวเกือบจะวีนใส่คนของตัวเองแล้ว แต่ชื่อของธามยังพอให้เธอเรียกสติกลับมา “ให้ผมเจรจาเองดีกว่านะครับ คุณเพิร์ลออกไปรอ...” “ไม่! ฉันไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น ฉันตกลงกับมันด้วยตัวเอง” ‘มัน’ ที่ไฮโซสาวพูดถึง ยังนั่งหน้าซีดอยู่บนเตียงพยาบาล สีหน้าของศักดิ์สยามบอกว่าเขายังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก ตอนที่ไข่มุกเจอศักดิ์สยามครั้งแรก เธอคิดว่าเขาหล่อเหลาบุคลิกดี แต่สีหน้าของเขายามนี้ มันช่างดูเซ่อซ่าน่าหัวเราะและน่าสมเพชจนไม่อยากเชื่อตัวเองว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหลับนอนกับผู้ชายคนนี้ได้ “ฟังนะ ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว ฉันจะให้เงินสดแกห้าแสนบาท...” หญิงสาวเอ่ยพลางดีดนิ้วเปาะแล้วชี้ไปที่เตียง ผู้ช่วยสาวที่ตั้งแต่เข้ามาไม่ได้พูดอะไรเลย รีบล้วงหยิบซองสีน้ำตาลอ้วน ๆ ออกจากกระเป๋าเอกสาร เข้าไปวางบนเตียงที่ศักดิ์สยามนั่งอยู่ แล้วรีบถอยกลับไปยืนด้านหลังเงียบ ๆ ตามเดิม “นี่เงินหรือครับคุณเพิร์ล” คนบนเตียงผู้ป่วยเอ่ยถามเสียงแหบแห้ง “ใช่ ห้าแสน ฉันให้แกได้เท่านี้” “ค่าอะไรครับ ถ้าเป็นค่าพยาบาล มีคนจ่ายให้แล้ว ผมไม่...” “ค่าทำขวัญ ค่าจ้าง ค่าอะไรก็ได้แล้วแต่แกจะเรียก” ไข่มุกพูดแทรกขึ้นมา “แต่รวม ๆ ก็คือค่าจ้างให้แกกับน้องสาวของแกออกไปจากกรุงเทพฯซะ ไปไหนก็ได้ให้ไกลที่สุด ไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลยยิ่งดี...” “เพื่อ...เพื่ออะไรครับ ทำไมผมต้องทำอย่างนั้นด้วย” “เพราะฉันไม่ไว้ใจว่าแกจะกลับมาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้ฉันหรือเปล่าน่ะสิ” “แต่ผมก็บอกแล้วไงครับคุณเพิร์ล ว่าผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณ” ศักดิ์สยามไม่ได้พูดเพื่อเอาตัวรอด เขาหมายความตามนั้นทุกคำ... ต่อให้จะรู้ว่าภายใต้หน้ากากสวยงามของไข่มุกคือความมืดดำเน่าเฟะ แต่เขาก็ถือว่าตัวเองพลาดเอง และเมื่อได้พูดไปแล้วว่าจะไม่ให้ร้ายเธอไม่ว่าในเรื่องใด ๆ ก็ตาม เขาก็จะรักษาสัญญา แต่เพราะไข่มุกใช้มาตรฐานศีลธรรมตัวเองเป็นเกณฑ์วัด... เธอจึงไม่มีทางเชื่อถือคำพูดของอดีตคู่นอนแม้แต่น้อย “ที่แกดื้อด้านอยู่แบบนี้ เพราะคิดจะจับน้องสาวใส่พานให้ธามใช่ไหม พอแกไม่ได้ฉัน ก็เลยจะแก้แค้นด้วยการให้ผัวฉันได้กับน้องสาวแกแทน” “มันเกี่ยวอะไรกับน้องสาวผมด้วย... เลอะเทอะไปใหญ่แล้วนะครับคุณเพิร์ล...” “น้องสาวแกสิเลอะเทอะ...สกปรก มั่ว...” ไฮโซสาวปรายตามองศีตลาเหมือนมองไส้เดือนกิ้งกือ “ฉันพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าแกรับข้อเสนออะไรก็ตามจากผัวของฉัน ฉันจะถือว่าแกเป็นศัตรู แล้วศัตรูของฉันจะไม่มีวันได้อยู่สงบสุขจนกว่ามันจะขาดใจตายไปเอง...” ศีตลากลับไม่นึกกลัวคำขู่นั้นเลยสักนิด เด็กสาวจ้องตอบด้วยแววตาเวทนาแกมขบขัน “สรุปว่าที่ป้า...ที่คุณไข่มุกมาที่นี่ มาหาเรื่องพี่ชายฉันแบบนี้ ก็แค่เพราะหึงสามีเท่านั้นเองสินะ” “ก็ใช่น่ะสิ แล้วมันจะทำไม ถึงยังไงธามก็ยังเป็นสามีของฉัน ไม่มีเมียคนไหนยอมให้ผัวตัวเองไปนอนกับคนอื่นได้หรอก ยิ่งเรื่องจะให้พวกเมียน้อยเมียเก็บมามีลูกให้ อย่าฝันไปเลย... ถ้าวันไหนแกดันท้องกับธามขึ้นมาจริง ๆ ฉันนี่ล่ะจะฆ่าแกให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก” “ก็ลองดูสิคะ ถ้าคิดว่าคุณทำได้” เด็กสาววัย 19 ในชุดพาณิชยการที่ไม่เคยแม้แต่จะจับมือผู้ชาย เชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย “ฉันจะรับข้อเสนอของสามีคุณ ฉันจะอุ้มบุญลูกของเขา และจะไม่เอาไข่ของผู้หญิงอย่างคุณมาผสมด้วย... เพราะฉันนี่แหละจะเป็นแม่ของลูกให้เขาเอง” “แก!” ศีตลาผงะถอยทันทีที่ไข่มุกพุ่งตัวเข้ามาหา ทนายความกับผู้ช่วยร้องตกใจแต่ไม่มีใครกล้าแตะตัวหญิงสาวผู้เป็นนาย มือของไข่มุกกางออก เล็บเจลที่ต่อมาอย่างยาวเฟื้อยเหมือนจะไปฟ้อนเล็บเตรียมแหกหน้าเด็กสาวที่อ่อนเยาว์กว่าเธอหลายปีแต่ปากดีจนทำให้เธอคลั่ง ศีตลาเตรียมตัวตั้งรับแต่ก็ยังใจเต้นแรงเมื่อเห็นเล็บสีสดนั้นกางร่อน วันก่อนไม่เห็นว่าไข่มุกจะน่ากลัวเท่าวันนี้ เพราะตอนนี้ใบหน้าสวยสดงดงามของไฮโซสาวบูดเบี้ยวด้วยความโกรธแถมยังกางเล็บอย่างกับผีปอบเตรียมกระชากไส้... “เพียะ!” เสียงนั้นสะท้านดังชัดเต็มสองหูของทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น ทนายความกับผู้ช่วยฯ ของไข่มุกเผลอกรี๊ดออกมาแล้วถลาไปรับร่างที่เซถลาด้วยความตกใจ ศีตลาก็กำลังตกตะลึงไม่แพ้กัน แต่คนที่ตกใจจนเหมือนกำลังช็อกมากที่สุด... คือศักดิ์สยาม เขาแค่ทำไปตามสัญชาติญาณที่จะปกป้องน้องสาวของตัวเอง เมื่อจู่ ๆ ไข่มุกพุ่งตัวมาหาศีตลา เขาจึงทำในสิ่งที่พี่ชายแทบทุกคนก็คงจะทำเหมือนกัน นั่นคือซัดฝ่ามือใส่หน้าผู้หญิงอีกคนที่คลุ้มคลั่งเพื่อเรียกสติ... คนที่เซถลาเพราะถูกตบจนหน้าหันจึงไม่ใช่ศีตลาที่เป็นเป้าหมายของไข่มุก แต่เป็นอดีตยอดดวงใจของศักดิ์สยาม...คุณเพิร์ลนั่นเองรออ่านคอมเมนต์นักอ่านอยู่นะค้าาา ขอบคุณทุกกำลังใจล่วงหน้าค่ะ - ลิขิตา -
แต่วีณายังไม่ทันได้ถาม... ก้อยก็รีบวิ่งกลับมาเคาะประตูด้วยท่าทางตื่นเต้น"คุณท่านคะ คุณท่าน!""อะไร! มีอะไร!""คุณธามกลับมาแล้วค่ะ มาถึงก็ถามหาคุณท่านทันทีเลยค่ะ!"* * * * * ตอนแรกธามคิดว่าอาจจะพักสมองอยู่ที่เชียงรายต่ออีกสองสามวันแต่ปีขาลเตือนเขาว่า เรื่องบางเรื่อง ปล่อยไว้นานก็จะยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง 'ถึงยังไงคุณน้าก็เป็นแม่ของมึงนะธาม เลี้ยงดูกันมาขนาดนั้น จะไม่มีเยื่อใยความผูกพันกันเลยก็คงไม่ใช่ มึงกลับไปคุยกับแม่ดี ๆ เถอะ อย่างน้อยก็จะได้ใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่มีอะไรค้างคา'ขนาดคนที่หุนหันพลันแล่นอย่างปีขาลยังบอกแบบนี้ ธามจึงนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ มาทันทีเมื่อเลขาฯ บอกว่าท่านประธานฯ ไม่เข้าบริษัท เขาจึงมาที่บ้าน และก็เจอธัญญาจริง ๆ ในห้องทำงานของธัญญา มีกันเพียงสองคนแม่ลูก ชายหนุ่มใจชื้น อย่างน้อยแม่ก็ไม่ได้ไล่เขาทันทีที่เห็นหน้า"มาทำไม ต้องการอะไร""ผมอยากรู้ความจริงครับ ว่าผมเป็นลูกของ...คุณทีน่า...จริง ๆ ใช่ไหม""แกยังไม่ได้ไปถามมันอีกเหรอ""ผมยังไม่ได้ไปเจอเธอเลยครับ ผมอยากมาคุยกับแม่ก่อน เพราะสำหรับผม คุณทีน่าก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า แม่ต่างหากที่ยังเป็นแม่ของผม""แต่สำ
หลังเพื่อนสนิทเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ปีขาลถึงกับนั่งงงอยู่เป็นนานสองนานถ้าไม่ใช่เพราะคนเล่าคือ "ธาม" เพื่อนที่แสนจะสุขุม จริงจัง และไม่เคยล้ออะไรใครเล่น เขาก็คงนึกว่ากำลังฟังละครวิทยุอยู่แน่ ๆ"แล้วป่านนี้แม่มึง...ทั้งสองแม่ ไม่ตามหาตัวมึงให้วุ่นหรือวะ จู่ ๆ หลบมาแบบนี้""ไม่รู้"ธามตอบเนือย ๆ "แม่...หมายถึงแม่ตามกฎหมาย คงไม่อยากเห็นหน้ากูเท่าไหร่ แต่คุณทีน่า บอกตรง ๆ ว่ากูยังช็อก..."ชายหนุ่มนึกถึงหญิงคนนั้น คนที่ดวงตาซึ้งดูเศร้าแต่ก็จับใจเขาไว้ได้ตั้งแต่แรกเห็น"กูถูกชะตาเขามากตั้งแต่วันแรกที่เจอที่โรงแรม รู้สึกอยากเข้าใกล้ อยากรู้จัก... ไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...""เขาเองก็คงอึดอัดอยากบอกมึงเหมือนกันว่าเป็นแม่..."ปีขาลคาดเดาจากที่เพื่อนเล่าให้ฟังก่อนหน้า"ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าไม่เพราะคุณน้าธัญญาดันเกลียดแม่ที่ให้กำเนิดมึงน่ะไอ้ธาม..."นี่ปีขาลก็เดาอีก แต่ธามพยักหน้าเห็นด้วย"เท่าที่ได้ยิน แสดงว่าพ่อกับคุณทีน่าลักลอบมีอะไรกัน จนเกิดเป็นกูขึ้นมา กูก็คือลูกชู้ ลูกนอกสมรส ที่แม่เก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะอยากทำร้าย เพื่อที่แม่แท้ ๆ จะได้เ
เวลาสองทุ่ม จังหวัดเชียงรายไร่อรุณเบิกฟ้าเปิดไฟสว่างไสวตั้งแต่ปากทางเข้าไร่มาจนถึงตัวเรือนด้านในเพราะผู้มาเยือนโทรศัพท์มาบอกล่วงหน้าหลายชั่วโมงแล้วว่ากำลังจะมา เมื่อรถเล็กซัส แอลเอ็กซ์-หกร้อย มาถึงจึงมีคนงานคอยเปิดประตูให้ และเจ้าของไร่ตัวสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวรอต้อนรับด้วยสีหน้าดีใจแกมโล่งใจที่เพื่อนมาถึงโดยปลอดภัย"ไงมึง"ปีขาลทักสั้น ๆ พลางเข้าไปโอบเพื่อน ตบหลังเบา ๆ หนึ่งที แล้วหันไปทักทายลุงธงคนขับรถของเพื่อนสนิท"สวัสดีครับลุง ขับมาไม่ได้พักเลยสินะครับ""ก็มีแวะปั๊มบ้างครับ"ลุงธงยิ้มเหนื่อย ๆ ไม่รู้กี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้ขับรถออกต่างจังหวัด เพราะปกติที่ขับรถให้นาย ไกลสุดก็แค่อยุธยา"ที่จริงคุณธามแกจะขับเองครับ บอกให้ผมกลับบ้านได้เลย แต่ผมขอมาด้วย อย่างน้อยจะได้เปลี่ยนมือกัน...นี่ก็ออกมาเลย เสื้อพงเสื้อผ้าอะไรไม่มีสักตัวเลยครับ"ลุงธงบอกอย่างเป็นห่วงมากกว่าจะฟ้อง"ผมให้แม่บ้านเตรียมห้องกับพวกกับข้าวกับปลาไว้ให้ลุงแล้ว ไปกินข้าวก่อนก็แล้วกันนะลุง เดี๋ยวเสื้อผ้าสะอาด ๆ ให้แม่บ้านหาให้แป๊บเดียว...แม่ต้อย ฝากดูแลลุงเปิ้นกำเน่อ""เจ้า"แม่บ้านวัยกลางคนรับคำแล้วพาลุงธงเดินหายเข้าไปด้านหลั
ธามยังจับต้นชนปลายไม่ถูก...เขาอยากจะคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก เขากำลังถูกแกล้ง แต่สีหน้าของผู้หญิงสูงวัยสองคนที่กำลังมองมาที่เขาก็จริงจังเกินกว่าจะคิดเช่นนั้น"ทำไมแม่พูดอย่างนั้นล่ะครับ ก็แม่เป็นแม่ผม...""ใช่ แม่ควรจะเป็นแม่ของแก แม่ก็เคยเชื่อแบบนั้น"ธัญญาหันกลับไปมองทิพย์ลาวัณย์อย่างเจ็บแค้น"ฉันให้แกมาอุ้มบุญลูกของฉัน แต่แกกับทิมกลับสวมเขาให้ แอบไปมีอะไรกันตอนไหนฉันก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดจะระแวงเลยสักครั้ง แต่ตอนแกเกิด สายตาของแกกับทิมทำให้ฉันสงสัยและตัดสินใจแอบตรวจดีเอ็นเอ จึงได้รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย... แกหลอกฉันตลอดแปดเก้าเดือนที่ท้อง แกกับทิม เลวทั้งคู่""แม่...นี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้วนะครับ""จนป่านนี้แล้วยังไม่ชัดอีกหรือไง"ธัญญาหันมาตอบเสียงดังจนแทบเป็นตะโกน"ฉันไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของแก ฉันแค่เลี้ยงแกมา เพราะว่าแม่แท้ ๆ ของแกมันเป็นชู้ มันแค่อุ้มท้องแล้วก็คลอด แล้วก็ต้องหนีไปอยู่เมืองนอกเพราะทนขายขี้หน้าไม่ได้ที่แอบนอนกับผัวของพี่สาว..."ธามหน้าซีดเผือด ไม่กล้ามองทิพย์ลาวัณย์ให้ชัด ๆ ด้วยซ้ำ ธัญ
ธัญญาก้าวเข้าไปในห้องโดยไม่ต้องรอให้เชิญ ทิพย์ลาวัณย์เบี่ยงตัวหลบให้โดยอัตโนมัติทั้งที่ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวคนเดิมที่ต้องฟังคำสั่งของญาติผู้พี่อยู่เสมอ...แต่เธอก็อนุญาตให้ธัญญาเข้ามาแค่คนเดียว บรรดาผู้ช่วยผู้ติดตามของเขา เธอให้รออยู่ด้านนอกธัญญามองไปรอบ ๆ ห้องพักที่มีห้องนอนย่อยสองห้อง มีชุดครัว มุมนั่งเล่นดูโทรทัศน์ และมุมอ่านหนังสือ ทุกอย่างดูสะดวกสบายครบครันสมเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรม"ฉันไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานแล้ว ธามเขายังดูแลได้ดีทีเดียว ดูดีกว่าตอนทิมยังอยู่เสียอีก""พี่ธัญมาทำไมคะ"ทิพย์ลาวัณย์ถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม ญาติผู้พี่ของเธอคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อแค่ทักทายอย่างแน่นอนธัญญาหันกลับมาทันที "แกต่างหากกลับมาทำไม 'กล้า' กลับมาทำไม หรือมันนานเกินไปจนแกลืมไปแล้วว่าแกสัญญาอะไรกับฉัน""ใช่ค่ะพี่ธัญ มันนานเกินไปแล้ว"ทิพย์ลาวัณย์ยอมรับ แววตาและน้ำเสียงอ่อนลงอย่างอ้อนวอน"มันสามสิบกว่าปีแล้วนะคะ พี่จะไม่ให้ฉันกลับมาเหยียบบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองเลยหรือไง ฉันแค่อยากพาลูกชายฉันกลับมาเที่ยว... ไม่ได้มาเพราะต้องการจะรบกวนอะไรพี่... ขนาดงานศพพี่ทิม ฉันยังไม่มาเลย เท่านั้นยังไม่มา
เย็นนั้นลูกชายบอกว่าจะขอออกไปดินเนอร์กับเพื่อนใหม่ 'ที่อื่น'"มีบาร์ชั้นดาดฟ้าที่มองลงไปเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาครับ แวนอยากลองไปที่นั่น""ไปกับสาวก่อน แล้วค่อยพาแม่ไปวันหน้าใช่ไหม"ทิพย์ลาวัณย์แกล้งถาม แต่อีแวนยิ้มและพยักหน้าจริงจัง"แน่นอนครับ ถ้าร้านโอเคแวนจะพาแม่ไปอีกแน่นอน...""แล้วจะกลับดึกไหมลูก"อีแวนลังเลเล็กน้อย"น่าจะดึก หรืออาจจะค้างที่อื่นครับ"ทิพย์ลาวัณย์ตกใจนิด ๆ อดห่วงขึ้นมาไม่ได้ตามประสาคนเป็นแม่"ระมัดระวังตัวให้ดีนะแวน ที่นี่เมืองไทย ไม่ใช่อเมริกา""ครับ ไว้ใจได้ครับ"ชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ่ยก่อนก้มลงจูบแก้มสองข้างของมารดา แล้วขอตัวออกจากห้องไปเพื่อไปตามนัดกับเพื่อนใหม่ที่เขาว่า ทิพย์ลาวัณย์ไม่เซ้าซี้ถามว่าใคร แม้จะพอเดาได้ว่าน่าจะเป็นสาวสวยคนที่ส่งยิ้มให้ลูกชายเธอเมื่อเช้าเมื่อลูกชายไม่อยู่ ทิพย์ลาวัณย์เลยคิดว่าอาจจะโทรสั่งรูมเซอร์วิสขึ้นมาก่อนบนห้อง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สุภาพสมวัยแล้วหยิบผ้าคลุมไหล่สีเลือดหมูลงไปที่ห้องอาหาร..."วันนี้มีดนตรีสดด้วยหรือคะ"เธอเอ่ยกับพนักงานอย่างแปลกใจตอนที่พนักงานมารับออเดอร์"ใช่ค่ะ ทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ กับวันหยุดย