ตอนที่ 12 คำตอบ
ถ้าคนของธามไปช้าอีกนิดเดียว ในห้องที่ศักดิ์สยามพักรักษาตัวอยู่ตอนนั้นคงจะเกิดการนองเลือด เพราะไข่มุกกรีดร้องคลุ้มคลั่งพุ่งใส่ชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวว่ากำลังอยู่ในโรงพยาบาล ศักดิ์สยามยกมือปัดป้องเป็นพัลวันแต่กระนั้นเขาก็ได้รอยเล็บจนเลือดซิบมาหลายแผล ต้องใช้บุรุษพยาบาลกับลูกน้องของธามรวมเป็นสามคนจึงจะรวบมือเท้าแขนขาของไข่มุกเอาไว้ได้เพื่อจะให้พยาบาลใช้เข็มฉีดยาปักเข้าเส้นเลือด ให้เธอสงบและหลับไปภายในเวลาไม่ถึงนาที
เมื่อธามรีบตามมาถึง จึงพบว่าภรรยาของเขานอนหลับไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน มีผ้ารัดข้อมือของเธอติดไว้กับราวขอบเตียงทั้งสองข้าง
“เป็นยังไงบ้าง... ศักดิ์สยาม”
แปลกที่ชายหนุ่มกลับดูจะเป็นห่วงศักดิ์สยามมากกว่าภรรยาตัวเอง ดูเขาไม่ตกใจเลยที่ได้ยินเลขาฯ บอกว่าเมื่อชั่วโมงก่อนไข่มุกมีอาการเช่นไร...
ศักดิ์สยามเองเสียอีกที่ยังช็อกไม่หาย
“ผม...ผมไม่เป็นไรครับ”
“แต่ดูท่านายจะได้แผลเยอะเลยนี่”
ธามหมายถึงรอยแผลสดเลือดซิบที่ถูกทายาไปทั่วตัว นักบัญชีหนุ่มฝืนยิ้ม
“แค่แมวข่วนน่ะครับ ไกลหัวใจ... แต่ว่า... ผมไม่เคยเห็นคุณเพิร์ลเธอเป็นอย่างนี้เลย เธอคงจะโกรธผมมาก”
“เพิร์ลไม่เคยเป็นอย่างนี้กับนายเลยหรือ”
ธามเอ่ยถามเสียงเรียบ ศักดิ์สยามพยักหน้าเศร้า ๆ นึกอายขึ้นมาที่ต้องเผชิญหน้ากับสามีที่รู้แล้วว่าเขาคือชู้รัก
“ครับ ผมรู้ว่าคุณเพิร์ลเธอค่อนข้างเอาแต่ใจ แล้วก็...เอ่อ...อารมณ์รุนแรง แต่เมื่อครู่มันไม่ใช่แค่รุนแรง มันเกือบ ๆ จะบ้าคลั่ง เหมือนเธอเป็นคนละคน เหมือนมีใครหรือตัวอะไรสิงเธออยู่อย่างนั้นแหละ”
“แสดงว่านายยังโชคดีนะที่ไม่เคยเห็นร่างนี้ของเพิร์ล”
ศักดิ์สยามเงยหน้าสบตาชายหนุ่มที่ตัวสูงใหญ่กว่าทันที
“หมายความว่า คุณเพิร์ลเคยเป็นอย่างนี้ด้วยหรือครับ”
คนเป็นนายมองอดีตพนักงานของตัวเองด้วยแววตาบอกไม่ถูก แต่สุดท้ายธามก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เขาหันไปสั่งผู้ช่วยส่วนตัวให้ไปจัดการเรื่องโรงพยาบาลให้เรียบร้อย สั่งให้ศักดิ์สยามรอเขาอยู่กับผู้ช่วยของเขา ส่วนตัวเขาเองก็เดินออกไปด้านนอกเพราะเขาขอให้ศีตลาไปนั่งรอเขาที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล
ธามเลือกจะมาคุยกับศีตลาในที่ที่โล่งแจ้งและมีคนเดินไปมา เพื่อที่เด็กสาวจะได้ไม่ประหม่ามากนัก เขาคงคิดถูกเพราะอย่างน้อยศีตลาก็ยังมีกำลังใจส่งยิ้มจืด ๆ ให้เขา หลังจากเจอเรื่องอกสั่นขวัญแขวนมาเมื่อครู่
“ภรรยาของคุณน่ากลัวมาก เมื่อกี้ดิฉันกลัวจริง ๆ”
เด็กสาวเอ่ยออกมาเป็นประโยคแรก ธามหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้าม ยกขาไขว่ห้าง
“ฉันขอโทษแทนเพิร์ลด้วยที่เธอกับพี่ชายต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”
“คุณเขาดูโกรธดิฉันกับพี่ต้นมาก...มากจนแทบจะฆ่าได้”
“มันคงไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอก”
“คุณไม่ได้มาเห็นแววตาของเธอแบบที่ฉันเห็นนี่คะ ตอนนั้นน่ะฉันกลัวจนตัวแข็งทื่อไปเลย ก็คุณไข่มุกน่ะอย่างกับคนโดนผีเข้า”
ศีตลาพูดพลางลูบแขนไปมาอย่างคนขนลุก ธามเลิกคิ้ว
“เธอเคยเห็นคนโดนผีเข้าด้วยหรือ”
“เปล่าหรอกค่ะ” เด็กสาวหัวเราะแหะ “ตาลแค่เดาน่ะค่ะว่าคนโดนผีเข้าก็คงจะประมาณนี้”
มุมปากธามยกขึ้นนิด ๆ เขาชอบที่ศีตลาเผลอแทนตัวเองด้วยชื่อมากกว่าจะใช้คำว่าดิฉัน...
“เพิร์ลได้บอกไหมว่าเขามาที่นี่ทำไม”
ธามเอ่ยถามอย่างใจเย็น แม้ซองสีน้ำตาลที่เลขาฯ ของเขาเก็บไว้ได้ช่วงชุลมุนนั้นจะทำให้พอเดาได้
ศีตลาก็ตอบไปซื่อ ๆ
“ภรรยาคุณเอาเงินมาให้พี่ต้นค่ะ ห้าแสนบาท เพื่อให้พี่ต้นกับตาลย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ต้องกลับมากรุงเทพอีก”
“ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นนะ”
ธามพึมพำเหมือนไม่ต้องการคำตอบ แต่ศีตลาก็ตอบเขา
“เพราะภรรยาของคุณ เขากลัวว่าคุณจะมาจ้างตาลอุ้มท้อง...อุ้มบุญน่ะค่ะ เธอบอกว่าเธอหวงคุณ นี่คุณธามคะ ภรรยาของคุณยังบอกด้วยว่าถ้าใครอุ้มท้องลูกของคุณ เธอจะเอาให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก... นี่ตาลพูดจริง ๆ นะไม่ได้ใส่ความ ตาลคิดว่าคุณควรจะรู้ไว้ เผื่อว่าวันไหนข้างหน้าคุณจ้างคนอื่นมาอุ้มบุญให้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นอันตรายเพราะความหึงหวงของเมียของคุณก็ได้”
“พูดอย่างนี้แสดงว่าเธอคงปฏิเสธข้อเสนอของฉันสินะ”
ธามถามยิ้ม ๆ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้คาดหวังให้ศีตลาจะต้องตอบรับ มันเห็นแก่ตัวเกินไปที่จะบีบให้หญิงสาวคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 19 ปี ต้องมาตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญอย่างการให้กำเนิดคนคนหนึ่ง
แต่ศีตลาก็ทำให้เขาแปลกใจเมื่อเธอตอบว่า
“เปล่าค่ะ ตาลไม่ได้จะปฏิเสธ...”
“แปลว่าเธอจะตอบตกลงอย่างนั้นหรือ”
เด็กสาวพยักหน้าหนักแน่นอย่างคนที่ใคร่ครวญมาดีแล้ว
“แต่ฉันอยากจะขออะไรคุณแค่สองข้อ”
“เธอจะขออะไร”
“อยากให้คุณช่วยคุ้มครองดูแลพี่ชายฉัน ให้เขาได้มีงานใหม่ทำ และได้อยู่ให้ห่างจากคุณไข่มุก พี่ชายฉันทำกับคุณไข่มุกไปอย่างนั้น ฉันคิดว่าภรรยาคุณคงจะตามจองล้างจองผลาญพี่ ไม่ให้พี่มีโอกาสได้เริ่มต้นชีวิตใหม่แน่”
ธามคิดในใจเร็ว ๆ ก่อนจะพยักหน้า
“ได้ ข้อแรกฉันทำให้ได้ แล้วข้อที่สองค่ะ”
“ตาลอยากจะขอเรียนให้จบ ปวส. ก่อนได้ไหมคะ...”
ชายหนุ่มพยักหน้าอีก เพราะเงื่อนไขนี้ก็ตรงกับที่เขาคิดไว้เหมือนกัน อันที่จริงเขาจะให้เวลาเธอมากกว่านั้นด้วยซ้ำ
“ฉันจะรอเธอจนกว่าจะจบปริญญาตรี...แค่ ปวส. ฉันว่ามันน้อยเกินไป อย่างน้อยเธอควรได้เรียนต่อจนจบปริญญาเสียก่อน เพราะฉะนั้นข้อสอง...คำตอบคือโอเค ฉันรอได้”
แม้จะยังดูกระอักกระอ่วน แต่ศีตลาก็ฝืนยิ้มออกมาได้อีกนิด ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
“เดี๋ยวค่ะ ตาลจะขอร้องคุณอีกข้อ”
ธามเลิกคิ้วนิด ๆ เหมือนอยากจะดุว่าเธอเริ่มจะขอมากเกินไปแล้วนะ ศีตลาไม่รอให้เขาเอ่ย เพราะเธอรีบพูดต่อไปว่า
“ตาลขอให้เรื่องนี้อย่าให้พี่ต้นรู้ได้ไหมคะ พี่ต้นเขาเหมือนเป็นพ่อของฉัน...ของตาล พี่คงไม่มีทางรับได้แน่ถ้ารู้ว่าฉันตกลงจะทำอะไรให้คุณ...”
แต่แทนที่จะรับปาก ธามกลับเลือกจะถามกลับ
“ถ้าเธอคิดว่าพี่ชายเธอรับไม่ได้ แล้วตัวเธอเองล่ะสาวน้อย... เธอแน่ใจใช่ไหมว่าเธอจะรับได้”
“ฉันรับได้ค่ะ...ถ้าถึงเวลาที่ต้องรักษาสัญญา ฉันจะทำโดยไม่มีบิดพลิ้ว”
ธามจ้องตากลมสีน้ำตาลคู่นั้น และเธอก็จ้องตอบอย่างไม่มีความลังเลสงสัยหรือสะเทิ้นอายอย่างที่เขาคิดว่าจะเห็น... แปลกที่เป็นเขาเองที่เกือบจะบอกว่ายกเลิก เปลี่ยนใจ เขาจะไม่ทำลายอนาคตที่บริสุทธิ์ของเธอด้วยเงื่อนไขบ้า ๆ นี่
แต่ความคิดนั้นก็ถูกปิดผนึกเอาไว้ กลายเป็นความปรารถนาเร้นลึกบางอย่างที่ผลักดันให้เขาตอบเธอออกไป...
“ตกลง นี่คือสัญญาของเรา และจนกว่าจะถึงวันนั้น ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้กับใครที่ไหนอีกเลย...ฉันสัญญา”
จบตอนนี้แล้ว เรื่องจะเข้าสู่ภาคที่นางเอกเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วนะคะ ติดตามตอนต่อไปได้เลยค่าา
ตอนที่ 12 คำตอบถ้าคนของธามไปช้าอีกนิดเดียว ในห้องที่ศักดิ์สยามพักรักษาตัวอยู่ตอนนั้นคงจะเกิดการนองเลือด เพราะไข่มุกกรีดร้องคลุ้มคลั่งพุ่งใส่ชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวว่ากำลังอยู่ในโรงพยาบาล ศักดิ์สยามยกมือปัดป้องเป็นพัลวันแต่กระนั้นเขาก็ได้รอยเล็บจนเลือดซิบมาหลายแผล ต้องใช้บุรุษพยาบาลกับลูกน้องของธามรวมเป็นสามคนจึงจะรวบมือเท้าแขนขาของไข่มุกเอาไว้ได้เพื่อจะให้พยาบาลใช้เข็มฉีดยาปักเข้าเส้นเลือด ให้เธอสงบและหลับไปภายในเวลาไม่ถึงนาทีเมื่อธามรีบตามมาถึง จึงพบว่าภรรยาของเขานอนหลับไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน มีผ้ารัดข้อมือของเธอติดไว้กับราวขอบเตียงทั้งสองข้าง“เป็นยังไงบ้าง... ศักดิ์สยาม”แปลกที่ชายหนุ่มกลับดูจะเป็นห่วงศักดิ์สยามมากกว่าภรรยาตัวเอง ดูเขาไม่ตกใจเลยที่ได้ยินเลขาฯ บอกว่าเมื่อชั่วโมงก่อนไข่มุกมีอาการเช่นไร...ศักดิ์สยามเองเสียอีกที่ยังช็อกไม่หาย“ผม...ผมไม่เป็นไรครับ”“แต่ดูท่านายจะได้แผลเยอะเลยนี่”ธามหมายถึงรอยแผลสดเลือดซิบที่ถูกทายาไปทั่วตัว นักบัญชีหนุ่มฝืนยิ้ม“แค่แมวข่วนน่ะครับ ไกลหัวใจ... แต่ว่า... ผมไม่เคยเห็นคุณเพิร์ลเธอเป็นอย่างนี้เลย เธอคงจะโกรธผมมาก”“เพิร์ลไม่
“โดนตบไปแล้วครั้งนึงยังไม่เข็ดใช่ไหมอีนังเด็กนี่”“ก็ลองเข้ามาอีกทีสิ วันนี้ไม่มีผัวป้าคอยห้าม รับรองว่าฉันไม่ยอมให้โดนตบฟรีอีกแน่”ศักดิ์สยามที่ยังตกตะลึง มองหน้าน้องสาวกับอดีตชู้รักสลับไปมา ลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปทันที“เดี๋ยว! นี่อะไรกัน ตาลเคยเจอคุณเพิร์ลแล้วเหรอ”ศีตลาไม่ยอมตอบ อีกฝ่ายจึงตอบแทน“แกแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ นายต้น”“ผม...ผมต้องรู้เรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่น้องสาวแกคนนี้มันแร่ดเอาตัวไปเสนอให้ธามถึงบ้าน เพื่อแลกกับการยอมความ ให้แกไม่ต้องติดคุกไง”ศักดิ์สยามหันกลับมามองหน้าน้องสาว ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ผู้หญิงใจดำอย่างไข่มุกย่อมจะพูดอะไรก็ได้...แต่ศีตลากลับไม่ยอมสบตาเขา เธอเอาแต่มองไปทางอื่น...“ตาล ลูกตาล...”“จะอ้ำอึ้งทำไมนังเด็กแร่ด ยอมรับไปสิว่าแกจะขายตัวเพื่อแลกกับการยอมความจริง ๆ”“หนูเปล่าขายตัว อย่าพูดอะไรมั่ว ๆ นะป้า”“ขืนเรียกฉันว่าป้าอีกคำเดียว ฉันจะเอาแกหน้าแหกแน่”ไฮโซสาวลูกสาวนายพลลืมกิริยาผู้ดีไปสิ้น กางมือร่าเตรียมจะโผเข้าหาเด็กสาวที่ยืนตั้งรับอยู่อีกฟากของห้อง แต่ทนายกับผู้ช่วยสาวที่มาด้วยกันนั้นรีบสะกิดห้ามไว้เสียก่อน“เอ่อ คุณเพิร์ลครับ ผมว่
ศีตลาตื่นแต่เช้า แต่งตัวชุดนักศึกษาแล้วก็สะพายกระเป๋าออกจากหอ แต่สถานที่ที่จะไปยังไม่ใช่วิทยาลัย เด็กสาวพิมพ์ส่งข้อความไปบอกลลิตาทางแชตไลน์ - วันนี้จะไปสาย คาบแรกฝากลาอาจารย์ด้วย –ไม่ถึงสามวินาที ลลิตาก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมา เป็นตัวการ์ตูนชูนิ้วว่า - OK- นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ศีตลาคบหาเป็นเพื่อนกับลลิตาหรือลิลลี่ได้ยาวนานมาเกินเกือบสิบปี เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนชอบซักไซ้ซอกแซก นอกจากไม่ใช่คนชอบจับผิด ลลิตาก็ยังเป็นคนสดใส ใจกว้าง เธอจึงสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆศีตลาโดดเรียนวิชาแรกของเช้านี้ เพราะจะไปหาศักดิ์สยามที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง...ทนายความของธามโทรศัพท์มาบอกเธอตั้งแต่เมื่อวานว่าย้ายโรงพยาบาลให้พี่ชายของเธอ และเพื่อความปลอดภัยของเขา ก็ห้ามเธอไม่ให้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ โดยเฉพาะคุณไข่มุกถ้าไม่เพราะโดนฝ่ามือของนางปีศาจนั่นมาแล้วรอบนึง ศีตลาก็คงนึกไม่ออกเลยว่าผู้หญิงสวยสง่า ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไข่มุก เนื้อแท้จะเป็นคนโหดร้ายใจดำได้ขนาดไหน ก็คงไม่แปลกที่แม้แต่ทนายความฝั่งสามียังไม่อยากเปิดเผยที่อยู่ของศักดิ์สยามให้นางรู้ คงกลัวพี่ชายของเธอจะไม่ปลอดภัยเสียล่ะกระม
“เราคุยเรื่องนี้กันไม่รู้กี่รอบแล้วนะเพิร์ล ถ้าคุณยังไม่มีทางออกใหม่ ๆ มาให้เราสองคน ก็กลับไปเถอะ ที่นี่ที่ทำงาน ผมจะทำงาน...”“ฮึ ไล่ไปเถอะ ต่อให้คุณจะไล่หรือจะทำเย็นชาใส่ฉันยังไง คุณก็กำจัดฉันออกไปจากชีวิตคุณไม่ได้หรอกนะธาม จำเอาไว้ก็แล้วกัน”หญิงสาวประกาศก่อนจะหันหลังกลับออกจากห้อง โดยไม่ลืมเหวี่ยงกระเป๋าถือในมือใส่แจกันดอกไม้ที่ตั้งบนโต๊ะรับแขกกลางห้องจนแตกกระจาย สักพักใหญ่ ๆ เมื่อแน่ใจว่าไข่มุกกลับไปแน่แล้ว อังคณาเลขาฯ ของเขาจึงค่อยโทรเรียกแม่บ้านให้เข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดเศษแก้ว“วันนี้กลับบ้านได้เลยนะอังคณา ผมคงไม่มีธุระอะไรจะให้คุณทำแล้ววันนี้”ธามเอ่ยกับเลขา อังคณารับคำ เดาได้ว่าเจ้านายคงรู้สึกเหนื่อยใจจนไม่มีแก่ใจจะอยู่ที่ทำงานต่อแต่ธามก็ไม่ได้ไปปลดปล่อยอารมณ์ที่ไหนอย่างที่ใครคาดเดา เขาแค่ตรงดิ่งกลับบ้าน บ้านที่เงียบเหงาเพราะแม่ของเขาพาเด็กรับใช้อีกสองคนไปปฏิบัติธรรมกับท่านด้วยที่เชียงใหม่ อีกหลายวันกว่าจะกลับแต่อย่างน้อยก็ยังมีป้าละออง...คนเก่าแก่อีกคนที่รับใช้แม่ของเขามานาน เมื่อชายหนุ่มกลับถึงบ้าน ป้าละอองก็รีบยกน้ำหวานใส่น้ำแข็งมาเสิร์ฟเขาทันที“ขอบคุณครับป้า”ชายหนุ
'ไม่ใช่เพราะกลัวพี่จะส่งเรียนไม่ไหวหรอกหรือ'ศักดิ์สยามถามตรง ๆ ตั้งแต่แม่จากไป เขากลายเป็นคนไม่เกี่ยงงาน รับจ้างทำทุกอย่างที่ไม่ผิดกฎหมายเพื่อให้มีเงินมาจุนเจือชีวิตของสองพี่น้อง แล้ววันนี้เขาอยู่ในจุดที่ดีกว่าตอนเป็นวัยรุ่นด้วยซ้ำ มีหน้าที่การงานทำที่มั่นคง เรื่องจะส่งเสียน้องสาวที่เขาเลี้ยงเหมือนลูก ให้สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดเท่าที่ใจอยากเรียน เขาจึงมั่นใจว่าตัวเองก็จะต้องทำได้แต่สุดท้ายศีตลาก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจ เพราะเธอได้ตัดสินใจไปแล้ว'หนูรู้ว่าพี่ต้นส่งไหว แต่มันก็ถึงเวลาที่ตาลจะต้องช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ต้นด้วยแล้วเหมือนกัน อีกอย่างนะ ตาลก็อยากมีเงินของตัวเองเอาไปดูหนังกินไอติมกับลิลลี่บ้างสิ จะให้ขอพี่ต้นทุกวันก็เกรงใจแย่'เด็กสาวยืนยัน เอ่ยถึงลิลลี่ ศีตลาก็คล้ายจะได้ยินเสียงเพื่อนรักแว่วมาจากไหนไกล ๆ"ตาล ลูกตาล...ไอ้ลูกตาล!"ศีตลากระพริบตาถี่ งุนงงอยู่ครู่ก่อนจะรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังนอนบนเตียงพยาบาล ในห้องพยาบาลของวิทยาลัยเมื่อเห็นเพื่อนฟื้นตื่น ทั้งลลิตาและแก้วขวัญก็ยิ้มดีใจ โล่งอก"ใครพาฉันมาที่นี่น่ะ"คนนอนเตียงถามเสียงแหบแห้ง ลลิตารีบล้วงหยิบขวดน้ำมาเปิดตอนที่แก้วขวัญตอบคำ
"ก็ไม่ปกติหรอก เพราะปกติเพิร์ลเป็นคนรักษาภาพลักษณ์""อ้อ วันนี้ไม่ปกติสินะ"ศีตลาพึมพำ เริ่มนึกอยากให้คุณไข่มุกเสียงวิทยุแปดหลอดนั่นเดินกลับมา เพราะตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนแปลก ๆ ที่ต้องนั่งอยู่กับธามสองต่อสองหลังเพิ่งคุยกันเรื่องมีลูกทำลูกอะไรนั่นแต่เขาก็ไม่ทำให้เธออึดอัดใจนาน เพราะชายหนุ่มร่างสูงลุกขึ้นยืน สีหน้าของเขากลับมาเป็นการเป็นงานอีกครั้ง"ถึงคุณจะตอบตกลงทันทีแบบไม่เสียเวลาคิด แต่เรื่องนี้ก็ใหญ่โตเกินกว่าจะตัดสินใจปุบปับ ผมจึงจะขอให้คุณกลับไปคิดทบทวนอีกสักรอบ... หลาย ๆ รอบ ระหว่างนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องศักดิ์สยาม ผมจะให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลเขาเองรวมถึงเรื่องที่เขาต้องนอนโรงพยาบาลด้วย...""ขอบคุณนะคะ""ส่วนเรื่องอุ้มบุญ...ผมอยากให้คุณกลับไปคิดดูอีกสักหนึ่งสัปดาห์ ถ้าเวลาน้อยไปก็คิดต่อจนกว่าคุณจะได้คำตอบที่่ตัวเอวจะไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ผมไม่อยากใช้่เรื่องคดีของพี่ชายคุณมาบีบให้คุณทำเรื่องอะไรที่ยิ่งใหญ่และสำคัญแบบนั้น ตกลงนะครับ กลับไปคิดดูก่อน..."เด็กสาวสูดลมหายใจลึก ก่อนพยักหน้า"ค่ะ แล้วฉันจะกลับไปคิดดู"* * * * *"อะไรนะ! มีคนย้ายนายศักดิ์สยามไปอยู่ที่อื่น
“เงียบก่อนเถอะเพิร์ล คุณบอกเองนะว่าจะให้ผมจัดการเองเพราะคุณจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้""งั้นคุณจะทำอะไรล่ะ ก็รีบ ๆ พูดมาซะเลยสิ จะให้เงินมันไปเท่าไหร่ก็ว่ามา""ผมจะช่วยศักดิ์สยาม..."ธามเอ่ยเรียบ ๆ แต่ชัดเจนและหนักแน่น แววตาของศีตลาแจ่มใสขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยแน่ใจ แต่ก็เป็นไข่มุกอีกตามเคยที่ร้องไม่พอใจ..."โอ๊ย ถามจริงเถอะ คุณจะห่วงใยอะไรนักกับพนักงานที่ไม่ซื่อสัตย์แบบนั้น"ไข่มุกรู้ว่าพนักงานที่ไม่ซื่อสัตย์คนนั้น...ศักดิ์สยาม... เขาทำทุกอย่างเพราะตกเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้น สั่งซ้ายไปซ้าย สั่งขวาก็ขวา สั่งกระโดดหน้าผาก็โดด แต่เธอก็ใช้ประโยชน์จากศักดิ์สยามจนพอแก่ใจแล้ว เธอสลัดผู้ชายคนนั้นทิ้งก่อนเรื่องยักยอกเงินจะแดงขึ้นมาเสียอีกและตอนนี้เธอก็ไม่ต้องการกลับไปเกี่ยวข้องให้ต้องแปดเปื้อน ก็อย่างที่ธามพูดก็ถูกคือไข่มุกคิดจะลอยแพชายที่เคยเป็นชู้รัก อย่างเดียวที่ศักดิ์สยามมีให้ไข่มุกก็คือความซื่อสัตย์ภักดี แต่เขาไม่มีเสน่ห์ ไม่เร้าใจ เธอปั้นแต่งเรื่องว่าธามทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจเขาก็ยังโง่จะเชื่อ ผู้ชายแบบนี้สำหรับไข่มุกแล้วก็คือผู้ชายน่าเบื่อดี ๆ นี่เองธามเลิกสนใจไข่มุก หันมาพ
“ปล่อยฉันนะ เมียคุณตบหน้าฉัน ฉันจะเอาคืน”ธามไม่พูดอะไรแต่บีบข้อมือศีตลาไว้แน่นจนเด็กสาวร้อง“ปล่อย! คิดจะรังแกกันหรือไง เอาพี่ชายฉันเข้าคุกยังไม่พอ ยังจะทำร้ายร่างกายฉันอีก เรียกตำรวจเลยสิ วันนี้ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ต่อให้จะลากออกไปฉันก็ไม่ยอมออกจากบ้านพวกคุณแน่ ๆ”“เธอ ต้อง การ อะไร”ธามถามเสียงขรึม น้ำเสียงของเขาทำให้ศีตลาสงบลงได้เล็กน้อย มันมีอำนาจแต่เธอรู้สึกได้ว่าคนที่เอ่ยประโยคนี้ออกมาต้องไม่ใช่คนโหดร้าย...ถ้าคุยกับนังเมียของเขาไม่ได้ ก็คุยกับคุณธามคนนี้ก็แล้วกัน“ฉัน...ต้องการให้พวกคุณช่วยปล่อยพี่ชายของฉันค่ะ”"พี่ชายคุณคือใคร""พี่...ศักดิ์สยามค่ะ พี่ชายฉันชื่อศักดิ์สยาม เขาเป็น...""ผมรู้ เขาทำงานกับผม คุณเป็นน้องเขาหรือ""ค่ะ ฉันเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่ต้น...คุณศักดิ์สยามน่ะค่ะ"เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นลงมากแล้ว ธามจึงยอมปล่อยข้อมือของเธอเพราะแน่ใจว่าเธอคงไม่กระโดดเข้าใส่ไข่มุกอีก"ผมนึกว่าทีมกฎหมายของบริษัทไปประกันตัวเขาแล้วเสียอีก""ยังไม่มีใครแจ้งคุณหรือคะศีตลาเงยหน้ามองเขา ถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้สั่น แต่ท่าทางหวั่นไหวของเด็กสาวย่อมไม่พ้นไปจากสายตาของธาม
ปกติไข่มุกจะไม่ตื่นมากินอาหารเช้าจนกว่าจะเก้าโมง แต่ช่วงนี้หญิงสาวจงใจอยู่ให้ธามเห็นหน้าตลอดเวลาเพราะอยากก่อกวนทำสงครามประสาทกับเขา ธามรับประทานอาหารเช้าของเขาไปเงียบ ๆ อย่างไม่เร่งรีบเพราะเช้าวันเสาร์เขาไม่มีนัดที่ไหน ไข่มุกก็กรีดกรายใช้มีดตัดเนยทาบนขนมปังที่ตัวเองไม่เคยคิดจะกิน "รับกาแฟเพิ่มไหมคะธาม..."น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ นี่ก็อีกเหมือนกัน แต่งงานกันมาไข่มุกไม่เคยใ่ส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสามี แต่นี่เธอจงใจยวนเขา"ผมพอแล้ว ขอบคุณ"ธามตอบกลับอย่างสุภาพและห่างเหิน ไข่มุกขบริมฝีปากตัวเอง ข่มใจที่จะไม่หยิบแก้วน้ำส้มแล้วปาออกไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา...สามีผู้เพียบพร้อมที่เย็นชาจนเธอโมโห“คุณผู้หญิงคะมีคนมาขอพบค่ะ”ละออง แม่บ้านค่อนข้างสูงวัยเดินเข้ามาบอกอย่างนอบน้อม อารมณ์หงุดหงิดของหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่อื่น“ใคร! ใครที่ไหนบ้ามาหาแต่เช้า”“เอ่อ เขาบอกว่าชื่อสี...สีลาสีดาอะไรนี่ล่ะค่ะ เป็นน้องชายคนที่ชื่ออะไรสัก ๆ อะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ เอ...เมื่อกี้ป้าก็จำได้นะ แต่ตอนนี้กลับลืมไปเสียได้"ไข่มุกหันไปสบตาธามทันทีและก็เห็นว่าเขาก็มองเธออยู่เช่นกัน คิ้วเข้มยกข